http://www.thaipost....ws/291213/84063
บทบรรณาธิการไทยโพสต์
2556 อัปยศตำรวจไทย!
ปี พ.ศ.2556 เรียกไว้ว่าเป็นปีวิกฤติศรัทธาต่อสถาบันตำรวจไทยอย่างขีดสุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา หากไล่เลียงชื่อกระฉ่อนในทางที่ไม่ดี ตกเป็นเป้าโจมตีรายวันบนหน้ากระแสสื่อหรือโลกออนไลน์ในสังคมไทย คงต้องให้เครดิตความอัปยศแด่วงการตำรวจเต็มรูปแบบ
เพราะนับตั้งแต่กระแสได้ดิบได้ดีเพราะพี่ให้ ได้สร้างแรงกระเพื่อมความเสื่อมเสียให้วงการตำรวจไม่เว้นวัน เมื่อถูกตั้งคำถามจากสังคม ถึงเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ของตำรวจไทย ที่มุ่งเข็มเปลี่ยนทิศจากการรับใช้ประชาชน ดูแลทุกข์สุขประชาชน เป็นทำหน้าที่สนองผลประโยชน์ รับใช้ให้คนเพียงคนเดียว คือ ทักษิน ชินวัตร นักโทษหนีคดี
ขณะเดียวกัน ภายใต้สถานการณ์การเมืองปั่นป่วนภายหลังการเกิดการลุกขึ้นประท้วงขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ของกลุ่ม กปปส. และกลุ่ม คปท. ยิ่งฉายภาพชัดเจนของรัฐตำรวจที่ทำงานภายใต้คำสั่งของนักการเมือง
อย่างไม่รู้จัก ผิด ชอบ ชั่วดี และไร้สำนึกต่อประชาชน รับอาสาในการทำหน้าที่กวาดล้างประชาชนที่มีความคิดต่อต้านรัฐบาลอย่างลุแก่อำนาจและบ้าระห่ำ โดยเฉพาะภาพการทุบรถ รุมตีประชาชนสองมือเปล่า จนทำให้คนเกือบค่อนประเทศนึกว่า เป็นกองโจร หาใช่กองกำลังตำรวจที่มีหน้าที่ดูแลประชาชน
และยิ่งนับวันความโกรธแค้น เกลียดชัง ของประชาชนที่มีต่อตำรวจก็ยิ่งทวีมากขึ้น โดยเฉพาะตำรวจระดับชั้นผู้ใหญ่ที่เป็นฝ่ายคุมคำสั่งบังคับบัญชา ปั่นหัว ให้ข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อย หรือผู้ใต้บังคับบัญชา ใช้ความเกลียดชังเข้าห้ำหั่น ให้เห็นประชาชนเป็นศัตรู หล่อเลี้ยงสำนึกด้วยความเกลียดชังนำหน้า
วันนี้ประเทศไทยกำลังพัฒนาไปสู่สงครามระหว่างรัฐตำรวจกับประชาชนเต็มรูปแบบ และนี่คือความจริงภายใต้สถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานของประเทศ ขณะเดียวกันตำรวจที่ไม่รู้จักหน้าที่ ไร้สำนึกต่อประชาชน ก็ต้องนับเวลาถอยหลังชะตากรรมเช่นเดียวกัน ถ้าหากยังดันทุรัง ห้ำหั่น เหิมเกริม ใช้อำนาจเบียดเบียนประชาชน หรืออาศัยสื่อของรัฐกล่าวโจมตี บิดเบือนรายวัน ยิ่งปิดตายความศรัทธาของประชาชนต่อพวกท่าน
โดยเฉพาะล่าสุด การกระทำที่ไร้ยางอาย เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.เวลา 12.00 น. กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจในนาม "กลุ่มปกป้องวิชาชีพตำรวจ" ซึ่งเป็นตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล 88 สถานี และหน่วยอื่นๆ ประมาณ 500 นาย ได้รวมตัวที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อแสดงพลังปกป้องวิชาชีพตำรวจและเรียกร้องผู้บังคับบัญชาให้ติดตามจับกุมคนร้ายที่ทำร้ายตำรวจจากเหตุปะทะที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น
น่าอนาถใจ และขอแสดงความไว้อาลัยในเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ในวิชาชีพของตำรวจไทย ที่ขุดหลุมฝังศพให้ตัวเองเบ็ดเสร็จ ที่เดินสู่เส้นทางอัปยศแบบสุดซอยแล้วในยุคสมัยนี้ ที่ลุกขึ้นมากระทำการเรียกร้องดังกล่าวอย่างไม่ละอายใจ และแสดงนัยยะที่สำคัญคือการเป็นปฏิปักษ์กับประชาชน
อย่างไรก็ตาม นับถอยหลังไปอีกไม่กี่ชั่วโมง จะเข้าสู่วาระปีใหม่ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้าราชการตำรวจจะกลับตัวกลับใจ หันกลับมาตอบแทนและรู้สำนึก ด้วยการทำหน้าที่ดูแลทุกข์สุขประชาชน ให้สมกับที่ประชาชนเสียภาษีให้ข้าวให้น้ำ
ในขณะเดียวกัน เรายังเชื่อมั่นในวิถีของตำรวจที่ยึดมั่นในหลักคุณธรรม ในการทำหน้าที่เป็นที่พึ่งของประชาชน ว่ายังมีอยู่ไม่น้อยเช่นกันในสังคมไทย และขอให้พลังของตำรวจดีเหล่านี้แผ่กระจายกว้าง ให้ตำรวจชั่ว ลุอำนาจ ห้ำหั่น ทำร้ายประชาชน ไม่มีที่ยืนในแผ่นดิน.