Jump to content


Photo
- - - - -

สนใจแนวคิดคุณTypeYourMind ที่บอกว่า"ถ้ากุลีมีสิทธิเท่าบัณฑิต .. บัณฑิตจะลงทุนเรียนกันไปทำไม??? "


  • Please log in to reply
94 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 เจ้าพระยาหน้าตาดี

เจ้าพระยาหน้าตาดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,127 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 13:33

ลายเซ็นแนวคิดของคุณที่เขียนไว้

 

.. ถ้ากุลีมีสิทธิเท่าบัณฑิต .. บัณฑิตจะลงทุนเรียนกันไปทำไม???

.. ประชาธิปไตยมันว่าด้วยเรื่องเสียงข้างมาก .. ฉะนั้น ประเทศไหนที่เสียงข้างมากไม่มีการศึกษา ประเทศก็ล่ม

.. เพราะกุ๊ยซื้อกุ๊ย และกุ๊ยเลือกกุ๊ยแน่นอนครับ

 

คือผมสนใจแนวคิด แนวแบบนี้มากครับ อยากจะได้รับการชี้แนะ

ผมเคยพบเห็นแนวคิดนี้บ่อยๆ จากหลายคนที่มีชื่อเสียง

 

 แต่ไม่มีโอกาสได้ศึกษาหาความรู้จากคนที่มีแนวคิดแบบนี้เสียที

พอดีประจวบเหมาะที่คุณเป็นสมาชิกของที่นี้ เราคงได้พูดคุยกัน

 

ยังไงช่วยอธิบายได้ไหม นึกว่าเขียนเผยแพร่เสนอแนวคิดคุณออกสู่สังคม  เอาประเด็นแรกเลยนะครับ

.....ตรงไหนที่คุณคิดว่า

กุลีไม่น่าจะมีสิทธิเท่าบัณฑิต สิทธิที่ว่าของคุณมันเป็นสิทธิในเรื่องอะไรบ้างครับ??

 

หวังว่าคงได้รับการกรุณาชี้แนะ ด้วยความเคารพ


จะด่าใคร  “โง่” กรุณาโชว์ความ    “ชาญฉลาด”  วิพากษ์วิจารณ์อย่างน้อย 3 บรรทัด

 

 

 

 

 


#2 kairyuramon

kairyuramon

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 336 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:05

ผมไม่เห็นด้วยนะ ผมมองว่าทุกคนเขาก็มีการลงทุนทั้งนั้น บางคนลงทุนด้วยการศึกษา บางคนลงทุนด้วยการทำงาน ดังนั้นผมคิดว่าระบบหนึ่งคนหนึ่งเสียงอะดีแล้ว

 

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้แก้มาก ๆ คือ อยากให้ระบบมันโปร่งใสหน่อย รวมทั้งอาจจะมีระบบการรับผิดชอบร่วมกัน คนจะได้สนใจในตัวแทนที่เราเลือกไปมากขึ้น

 

สมมติว่าส.ส.ที่คนในพื้นที่เลือกไปทำผิด นอกจากส.ส.จะโดนลงโทษแล้ว คนในพื้นที่ก็ต้องโดนลงโทษด้วย (แต่ส.ส.โดนลงโทษหนักที่สุด) จะลดเงินสนับสนุนหรืออะไรก็ว่าไป

 

เพื่อที่ประชาชนจะได้ใส่ใจในนักการเมืองที่ตัวเองเลือกไป ไม่ปล่อยให้ทำงานอย่างสะดวกเกินไป มีการตรวจสอบมากขึ้น



#3 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:08

*
POPULAR

1 คน 1 เสียง ไอ้หนุ่ย ฆาตกรฆ่าเด็ก มีสิทธิ์เท่า ดร. กฤษณา ไกรสินธุ์ ?? ผมว่า กุ๊ยเืลือกกุ๊ย ประเทศก็บรรลัยจริงๆ นะ 


Edited by Bookmarks, 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:09.


#4 สมชัย พิชัย

สมชัย พิชัย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 256 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:11

*
POPULAR

มีอีกคำนึงด้วยครับ  "เราห้ามคนโง่เลือกคนเลวไม่ได้ เพราะคนโง่ มันโง่จนไม่รู้ว่าอะไรดีอะไรเลว"



#5 G.Maniac

G.Maniac

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,440 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:16

*
POPULAR

คุณป่วยหนัก ด้วยโรคที่ไม่ค่อยได้พบ หมอเจ้าของไข้ตัดสินใจจัดประชุมขอความเห็น 

 

ชีวิตคุณ อนาคตของคนในครอบครัวคุณ ขึ้นกับการตัดสินใจลงมติครั้งนี้

 

คุณอยากให้เฉพาะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญใช่หรือไม่ ที่มีสิทธิประชุมและตัดสินใจ?

 

ถ้าอยากให้หลากหลายก็ได้นะ...

 

ตามมาทั้งโรงพยาบาลเลย ลงมติตามหลักประชาธิปไตย

 

แต่พอดีว่า เวรเปล ซึ่งการศึกษาเฉลี่ยระดับ ม.ปลาย แต่มีคนเยอะกว่าหน่วยอื่น ซึ่งพวกเค้าคุยกันมาก่อน แล้วเห็นตรงกันว่า 

 

ควรผ่าร่างคุณออกเป็นสองส่วน แล้วค่อยๆคุ้ยๆๆ หาจุดที่บกพร่อง ถ้าไม่หาย ก็เอาไปเป็นอาจารย์ใหญ่เลย

 

คุณจะเอาแบบนั้นไหมครับ?


Edited by G.Maniac, 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:35.


#6 Somebody

Somebody

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,938 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:18

*
POPULAR

ดูอีโง่เป็นตัวอย่างสิครับ
สะท้อนคนที่เลือกเข้ามา :D

#7 สมชัย พิชัย

สมชัย พิชัย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 256 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:20

มีอีกคำนึงด้วยครับ  "เราห้ามคนโง่เลือกคนเลวไม่ได้ เพราะคนโง่ มันโง่จนไม่รู้ว่าอะไรดีอะไรเลว"

 

พอดีคำพูดที่ จขกท ยกมา เค้าตัดสินคนโง่ จากการศึกษาเท่านั้นเอง



#8 เจ้าพระยาหน้าตาดี

เจ้าพระยาหน้าตาดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,127 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:27

หลายท่านเข้ามาแสดงความคิดเห็นแทนคุณTypeYourMind

 

ผมว่าอย่าคิดแทนเขาเลย ปล่อยเขาให้ได้แสดงความคิด เสนอความด้วยตัวเขาเองดีกว่า

 

ทำอย่างนี้มันเหมือนกับการดูถูกคุณTypeYourMindมากเลยครับ มันเหมือน  .....ให้คนอื่นคิดให้ อาศัยจมูกคนอื่นหายใจ.....


จะด่าใคร  “โง่” กรุณาโชว์ความ    “ชาญฉลาด”  วิพากษ์วิจารณ์อย่างน้อย 3 บรรทัด

 

 

 

 

 


#9 TypeYourMind

TypeYourMind

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,162 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:32

*
POPULAR

ไม่ต้องมายกย่องผมขนาดว่าเป็นแนวคิดผม

 

โค้ดนี้ ผมได้มาจากพี่ซูโม่ตู้ ในงานทอล์กโชว์ของพี่เขา ซึ่งผมชอบความคิดแบบตรงไปตรงมา บางคนอาจจะว่าแรงจนรับไม่ได้

 

ผมขี้เกียจจะมาบรรยายสิทธิืเป็นข้อ ๆ เพราะผมไม่ได้สนใจรายละเอียดของคำว่า "สิทธิ"

 

ผมสนใจตรงที่ประชาธิปไตยของไทย ถูกจำกัดความหมายแค่การเข้าไปเลือกตั้งแบบ 1 บัตรประชาชน 1 เสียง (บางทีแม่งมีปลอม มีโกงบัตรกันอีก)

 

ดูเผินๆ มันโคตรแฟร์เลยที่ให้สิทธิทุกคนเท่ากันหมด   .... แต่ความจริง ผมมีเงินจ้างวินมอไซด์ ผมจ้างเด็กแว๊น หรือคนที่มันเป็นเงินสำคัญกว่าทุกสิ่ง ให้เลือกผมเป็นผู้แทน

 

ผมก็สามารถเข้าอยู่ในสภาเหมือนพวก สส.ขี้ข้า สภาทาส เข้าไปโกงกินใช้เงินหว่าน จ้างคนประเภทนี้อีก ผมก็ได้เป็นอีก

 

..... เข้าใจในโค้ดลายเซ็นต์ผมหรือยัง อย่ามองแค่คำว่า "สิทธิ" ครับ


.. ถ้ากุลีมีสิทธิเท่าบัณฑิต .. บัณฑิตจะลงทุนเรียนกันไปทำไม??? .. ประชาธิปไตยมันว่าด้วยเรื่องเสียงข้างมาก .. ฉะนั้น ประเทศไหนที่เสียงข้างมากไม่มีการศึกษา ประเทศก็ล่ม .. เพราะกุ๊ยซื้อกุ๊ย และกุ๊ยเลือกกุ๊ยแน่นอนครับ

#10 webster

webster

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 372 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:33

ระบบ 1 คน 1 สิทธิ์ มันทำงานได้ดีในประเทศพัฒนาแล้ว และประเทศกำลังพัฒนาบางประเทศเช่น อินเดีย

 

แต่เป็นความซวยของประเทศไทย ที่มีไอ้อัปรีย์แม้วและโคตรเหง้าสักหลาดของมัน ที่ใช้ช่องว่างและจุดอ่อนของระบบนี้มาหากินอย่างเป็นระบบ



#11 TypeYourMind

TypeYourMind

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,162 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:34

 

มีอีกคำนึงด้วยครับ  "เราห้ามคนโง่เลือกคนเลวไม่ได้ เพราะคนโง่ มันโง่จนไม่รู้ว่าอะไรดีอะไรเลว"

 

พอดีคำพูดที่ จขกท ยกมา เค้าตัดสินคนโง่ จากการศึกษาเท่านั้นเอง

 

 

จขกท. มักจะยก หรือหาข่าวที่ รบ.ขายชาติ และบรรดาขี้ข้า ได้ประโยชน์

และข่าวหรือข้อมูล ที่อีกฝ่ายเสียประโยชน์มาลงแค่นั้นครับ


.. ถ้ากุลีมีสิทธิเท่าบัณฑิต .. บัณฑิตจะลงทุนเรียนกันไปทำไม??? .. ประชาธิปไตยมันว่าด้วยเรื่องเสียงข้างมาก .. ฉะนั้น ประเทศไหนที่เสียงข้างมากไม่มีการศึกษา ประเทศก็ล่ม .. เพราะกุ๊ยซื้อกุ๊ย และกุ๊ยเลือกกุ๊ยแน่นอนครับ

#12 ชามู

ชามู

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,296 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:38

*
POPULAR

อย่าไปเสียเวลาถกกับไอ้ห่านนี่เลยครับ

 

มันไม่ได้จริงใจที่จะถกด้วยหรอก


ชามู ปลาวาฬตัวใหญ่ ใจดี

#13 คนทุกที่

คนทุกที่

    ชนชั้นกลาง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,480 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:39

 

 

มีอีกคำนึงด้วยครับ  "เราห้ามคนโง่เลือกคนเลวไม่ได้ เพราะคนโง่ มันโง่จนไม่รู้ว่าอะไรดีอะไรเลว"

 

พอดีคำพูดที่ จขกท ยกมา เค้าตัดสินคนโง่ จากการศึกษาเท่านั้นเอง

 

 

จขกท. มักจะยก หรือหาข่าวที่ รบ.ขายชาติ และบรรดาขี้ข้า ได้ประโยชน์

และข่าวหรือข้อมูล ที่อีกฝ่ายเสียประโยชน์มาลงแค่นั้นครับ

 

ผึ้งว่า จขกทก็ไม่เข้าใจ เลยเอามาขยายแบบมั่วๆ



#14 TypeYourMind

TypeYourMind

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,162 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:43

หลาย ๆ กระทู้ของ เจ้าพระยาอาบอบนวด

 

ผมก็จะมองข้ามไม่ให้ราคา แต่ในเมื่อให้เกียรติผมในชื่อหัวข้อกระทู้เลยเข้ามาตอบซะหน่อย

 

ผมสงสาร เข้าใจว่าปีใหม่ เจ้าพระยาอาบอบนวด คงใช้เงินหมด เลยเข้ามาปั่นกระทู้หาเงิน เลยสงเคราะห์เขาสักหน่อย


.. ถ้ากุลีมีสิทธิเท่าบัณฑิต .. บัณฑิตจะลงทุนเรียนกันไปทำไม??? .. ประชาธิปไตยมันว่าด้วยเรื่องเสียงข้างมาก .. ฉะนั้น ประเทศไหนที่เสียงข้างมากไม่มีการศึกษา ประเทศก็ล่ม .. เพราะกุ๊ยซื้อกุ๊ย และกุ๊ยเลือกกุ๊ยแน่นอนครับ

#15 แสงธูป

แสงธูป

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 753 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:47

*
POPULAR

ผมคิดว่าถ้าเป็นสิทธิในการเลือกตั้งมันย่อมเท่าเทียมกัน แต่ถ้าเป็นอาชีพการงานย่อมไม่เท่ากันเพราะกุลีไม่สามารถไปทำงานของบัณฑิตได้แต่บัณฑิตสามารถทำงานของกุลีได้(ขึ้นอยู่ว่าเขาจะทำมั้ย) กุลีทำได้แค่ไปเลือกคนให้เข้าไปทำงานแทนแต่บัณฑิตสามารถเป็นทั้งคนเลือกและคนไว้ให้เขาเลือกเข้าไปทำงานแทน ค่าตอบแทนของอาชีพจึงต่างกันแต่ถ้าเรารู้จักพอเพียงและวางแผนชีวิตไว้ให้ดีเราจะมีความสุขได้ไม่ว่าอาชีพไหน ที่นี้ถ้ากุลีขาดความเข้าใจเรื่องการเลือกคนเข้าไปเป็นปากเป็นเสียงแทนตนเอง เขาก็จะเลือกแต่คนที่ถูกใจ โดยไม่สนใจว่าคนนั้นเป็นคนดีหรือคนไม่ดี บัณฑิตที่ดีจึงมีหน้าที่ให้ความรู้ทั้งด้านจริยธรรมและการดำเนินชีวิต ผมจึงเลือกแนวทางปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ผมไม่เคยคิดว่ากุลีโง่แต่ผมคิดว่าเขาขาดความเข้าใจที่ถูกต้อง ไม่ว่าการปฏิรูปจะเกิดหรือไม่จะสำเร็จหรือไม่ผมก็ดีใจที่ได้ร่วมในการคิดที่จะปฏิรูป ผมไม่ใช่บัณฑิตแต่เป็นกุลีที่มีโอกาสได้บวชเรียน

#16 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:52

*
POPULAR

ไม่ได้อยากริดรอนสิทธิ์ใคร แต่สิทธิ์ที่ได้รับ มันต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ เมื่อเลือกผู้แทนเข้ามาแล้ว เมื่อผู้แทนของเขาโกง หรือทำความเสียหายให้กับชาติ คนที่ใช้สิทธิ์ในการเลือกเขาเข้ามา ต้องรับผิดชอบในส่วนที่โกง หรือความเสียหายนั้น เพื่อเวลาจะเลือกผู้แทน จะได้ใช้สติปัญญาในการเลือกบ้าง ไม่ใช่โกงแล้วก็ยังเลือก เพราะมันแบ่งส่วนหนึ่งจากการโกงของมันมาให้ แต่เงินส่วนที่มันแบ่งให้มัน มันเอามาจากคนที่เสียภาษีของคนในชาติทั้งหมด 



#17 สมชัย พิชัย

สมชัย พิชัย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 256 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:56

ไม่ได้อยากริดรอนสิทธิ์ใคร แต่สิทธิ์ที่ได้รับ มันต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ เมื่อเลือกผู้แทนเข้ามาแล้ว เมื่อผู้แทนของเขาโกง หรือทำความเสียหายให้กับชาติ คนที่ใช้สิทธิ์ในการเลือกเขาเข้ามา ต้องรับผิดชอบในส่วนที่โกง หรือความเสียหายนั้น เพื่อเวลาจะเลือกผู้แทน จะได้ใช้สติปัญญาในการเลือกบ้าง ไม่ใช่โกงแล้วก็ยังเลือก เพราะมันแบ่งส่วนหนึ่งจากการโกงของมันมาให้ แต่เงินส่วนที่มันแบ่งให้มัน มันเอามาจากคนที่เสียภาษีของคนในชาติทั้งหมด 

 

เลยสนับสนุนให้แยกเป็น จังหวัดปกครองตนเองครับ จังหวัดไหนกุลีที่แยกผิดถูกไม่เป็นเยอะ ก็รับผลกันไป  

 

ดีกว่ากุลีเลือกมา แล้วมาเฉลี่ยให้กับบัณฑิต รับผิดชอบด้วยกัน


Edited by สมชัย พิชัย, 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:57.


#18 G.Maniac

G.Maniac

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,440 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:58

ไม่ได้อยากริดรอนสิทธิ์ใคร แต่สิทธิ์ที่ได้รับ มันต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ เมื่อเลือกผู้แทนเข้ามาแล้ว เมื่อผู้แทนของเขาโกง หรือทำความเสียหายให้กับชาติ คนที่ใช้สิทธิ์ในการเลือกเขาเข้ามา ต้องรับผิดชอบในส่วนที่โกง หรือความเสียหายนั้น เพื่อเวลาจะเลือกผู้แทน จะได้ใช้สติปัญญาในการเลือกบ้าง ไม่ใช่โกงแล้วก็ยังเลือก เพราะมันแบ่งส่วนหนึ่งจากการโกงของมันมาให้ แต่เงินส่วนที่มันแบ่งให้มัน มันเอามาจากคนที่เสียภาษีของคนในชาติทั้งหมด 

 

ชอบครับพี่ แต่อยากเสริมไปว่า

 

"สิทธิ์ที่ได้รับ มันต้อง สัมพันธ์กับสติปัญญาความรู้ที่แต่ละคนมี และมาพร้อมความรับผิดชอบ"



#19 อย่าหลอกตัวเอง

อย่าหลอกตัวเอง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,850 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:58

1 คน 1 เสียง ไอ้หนุ่ย ฆาตกรฆ่าเด็ก มีสิทธิ์เท่า ดร. กฤษณา ไกรสินธุ์ ?? ผมว่า กุ๊ยเืลือกกุ๊ย ประเทศก็บรรลัยจริงๆ นะ 

 

 

ชัดเจนครับ


แดงกลายพันธุ์  แดงลอยคอกลางทะเล  กำลังดิ้นเฮือกสุดท้าย  อาการจะเป็นอย่างไร  รอดูกันไปครับ


#20 Maratiraj_

Maratiraj_

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 826 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 14:59

ผมเคยได้ยินพวกนั้นมันแย้งมาว่า

 

1 คน 1 เสียงยุติธรรมแล้ว

 

ถ้า Elite อยากเป็นเสียงส่วนใหญ่ ก็ใช่ความรู้ความสามารถศักยภาพของตนเอง ที่คิดว่าเหนือกว่าชนชั้นอื่นๆ สร้างฐานมวลชนขึ้นมาเอาชนะเลือกตั่งให้ได้สิ
 


Edited by Maratiraj_, 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 15:00.


#21 สมชัย พิชัย

สมชัย พิชัย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 256 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 15:01

ผมเคยได้ยินพวกนั้นมันแย้งมาว่า

 

1 คน 1 เสียงยุติธรรมแล้ว

 

ถ้า Elite อยากเป็นเสียงส่วนใหญ่ ก็ใช่ความรู้ความสามารถศักยภาพของตนเอง ที่คิดว่าเหนือกว่าชนชั้นอื่นๆ สร้างฐานมวลชนขึ้นมาเอาชนะเลือกตั่งให้ได้สิ
 

 

ถ้ามวลชนกุลี ชอบประชานิยมที่ Elite ไม่ได้ประโยชน์ ก็ต้องเอาประชานิยมกว่ามาสู้เหรอ ยังงี้ประเทศชาติโดยรวมก็เสียหายสิ



#22 TypeYourMind

TypeYourMind

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,162 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 15:10

หลายท่านเข้ามาแสดงความคิดเห็นแทนคุณTypeYourMind

 

ผมว่าอย่าคิดแทนเขาเลย ปล่อยเขาให้ได้แสดงความคิด เสนอความด้วยตัวเขาเองดีกว่า

 

ทำอย่างนี้มันเหมือนกับการดูถูกคุณTypeYourMindมากเลยครับ มันเหมือน  .....ให้คนอื่นคิดให้ อาศัยจมูกคนอื่นหายใจ.....

 

สมาชิกทุกท่านในเสรีไทย มีสิทธิ์ ในการเสนอความคิดเห็นในทุกกระทู้ ด้วยกฎกติกาของสังคมในนี้

 

การที่ จขกท. ตั้งกระทู้มาเลือกถาม เลือกตอบ

 

ผมว่า จขกท. ไปสิงในปลัก ที่ห้องรากดำนาเถอะ .... เสียดายที่อุตสาห์อ่านหนังสือออก


.. ถ้ากุลีมีสิทธิเท่าบัณฑิต .. บัณฑิตจะลงทุนเรียนกันไปทำไม??? .. ประชาธิปไตยมันว่าด้วยเรื่องเสียงข้างมาก .. ฉะนั้น ประเทศไหนที่เสียงข้างมากไม่มีการศึกษา ประเทศก็ล่ม .. เพราะกุ๊ยซื้อกุ๊ย และกุ๊ยเลือกกุ๊ยแน่นอนครับ

#23 ม่านน้ำ

ม่านน้ำ

    ผมเพิ่งมาครับ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,373 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 15:11

ep011.jpg

 

นี่อีกมุมนึงที่น่าคิด


Posted Image


#24 G.Maniac

G.Maniac

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,440 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 15:13

ep011.jpg

 

นี่อีกมุมนึงที่น่าคิด

 

 

เห็นการ์ตูนชุดนี้มาสักพัก ชอบมากครับ และ "มันเกิดขึ้นแล้ว" ครับ



#25 tonythebest

tonythebest

    สมาชิกขั้นสูง 178 เซนติเมตร

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,595 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 15:36

*
POPULAR

หลายท่านเข้ามาแสดงความคิดเห็นแทนคุณTypeYourMind

 

ผมว่าอย่าคิดแทนเขาเลย ปล่อยเขาให้ได้แสดงความคิด เสนอความด้วยตัวเขาเองดีกว่า

 

ทำอย่างนี้มันเหมือนกับการดูถูกคุณTypeYourMindมากเลยครับ มันเหมือน  .....ให้คนอื่นคิดให้ อาศัยจมูกคนอื่นหายใจ.....

 

 

 

เคยสงสัยมั๊ย ที่ใครๆ เค้าว่าเอ็งไม่ฉลาด

 

เอ็งมาตั้งกระทู้ในบอร์ดสนทนา

พอคนอื่นมาตอบ เอ็งจะเพ่งเล็งจะเอาเฉพาะคนตอบ

เหมือนที่เองจะรอให้คนตอบตามใจเอ็ง ถ้าไม่ตรง ก็หาว่าเค้าแถบ้างล่ะ

 

ทำไมไม่ PM ส่วนตัวไปถามเค้าล่ะ


ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ

 

 

 

เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน

จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน


#26 น้องจุบุจุบุ

น้องจุบุจุบุ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,006 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 15:39

ถ้าเลือกตั้งสิทธิมันต้องเท่าเทียมกันเพราะกฏหมายไม่ได้บังคับเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มนึง

แต่ถ้าเรื่องอื่นกุลีเท่าบันฑิตเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่ประเทศแก้ปัญหาความเชื่อบางอย่างไม่ได้หรือยากอยู่แล้ว เมื่อความรู้ต่างกัน

ทัศนคติต่างกันเราต้องแก้ที่กฏเท่านั้นเพื่อให้คนที่คิดต่าง ความเชื่อต่างๆ สังคมที่อยู่ต่างกัน

สามารถอยู่ได้โดยใช้ความคิดเดิมๆไม่ต้องไปแก้ไขความเชื่อแต่เวลาจะทำอะไรก็จะเป็นมาตรฐานเท่ากับคนกลุ่มอื่นต่างหาก

เช่นเลือกตั้ง เราไม่สามารถแก้ความเชื่อได้ง่ายๆอยู่แล้วเพราะฉะนั้นเราปล่อยใหเขาเชื่อต่อไปแต่เราก็ไปแก้ที่กฏการเลือกตั้ง

เพิ่มการตรวจสอบการโกง เพิ่มโทษถ้าจับได้ โดยยึดถือมาตราฐานว่ากฏต้องทำให้กุลีหรือบันฑิตใช้กฏนี้แล้วการเลือกตั้งจะออกมาเป็นมาตรฐาน

จากทัศนคติของทุกฝ่ายได้อย่างเป็นมาตรฐานที่ดีที่สุดนั้นละคือการแก้ปัญหาที่แท้จริง

 

แนวคิดโง่ๆแบบนี้ผมได้ยินจากไอพวกนี้นะ ชอบเอาศักดินา ชอบเอาความรู้มาวัดคุณค่าคน 

หรือไม่ก็พวกนักวิชาเกินจากท่าพระจันทร์เนี่ยละ ( ตกใจมากกลางหน้าfacebookใหญ่สุดๆไม่รุ้จ่ายไปเท่าไร)

eSFnQc.jpg


Edited by น้องจุบุจุบุ, 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 15:43.


#27 transformer

transformer

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 93 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 15:41

สิทธิขั้นพื้นฐาน เราเป็นมนุษย์ มีสิทธิเท่าเทียมกันฮะ

สิทธิในการเลือกตั้ง 1 สิทธิ 1 เสียง แต่อายุไม่ถึงเกณฑ์ก็ไม่มีสิทธิฮะ

สิทธิด้านหน้าที่การงาน ก็ต้องบทบาท หน้าที่ วุฒิการศึกษา ระดับการบังคับบัญชาด้วยฮะ



#28 50satang

50satang

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 32 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 15:57

นี่เป็นอีกแนวความคิดนึง ที่เราขอต่อต้านเป็นอย่างมาก และยังมีหลายคำพูด หลายถ้อยคำ หลายประโยค ที่อาจส่งผลให้ประเทศล่มจม

- คำพูดแบบนี้ล่ะ ที่ส่อให้ประเทศไม่มีวันเจริญ คำพูดที่ดูแคลนคนด้อยกว่า อาจจะเรื่องการศึกษา ฐานะ หรือเรื่องอื่นๆอีกมาก บัณฑิตที่ร่ำเรียนมาที่เรียกว่าบัณฑิตย่อมหมายถึงผู้รู้ แล้วท่านเป็นผู้รู้แบบไหนกันที่ดูถูกคนอื่น แม้เราจะไม่ชอบทักษิณ เบื่อหน่ายกับการเมืองยังไง เราก็ไม่เห็นด้วยกับวาทะกรรมเหล่านี้

- คำพูดเหล่านี้เป็นไปในลักษณะแบ่งแยกคน ยิ่งทุกวันนี้ต่างสีเสื้อต่างพยายามแบ่งแยกคน บางสีสร้างวาทะกรรม รากหญ้า ไพร่ หาคนเข้าพวกด้วยแล้ว คำพูดเหล่านี้ล่ะ ที่่ช่วยให้คนเหล่านั้นเชื่อเรื่องชนชั้น และหันหน้าเป็นอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว

- หากท่านรู้จริง ท่านย่อมรู้ว่า ประเทศไทยนี้ อัตราส่วนคนจนมากกว่าคนรวยหลายเท่าตัวนัก แล้วท่านจะทำยังไงกับความแตกต่างเหล่านี้ ท่านทำได้เพียงช่วยแบ่งแยกคนงั้นหรือ

- บัณฑิตผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้รู้ที่ดี ย่อมต้องบอกต้องชี้ทางให้ผู้ไม่รู้ หรือรู้น้อยกว่า รู้ตาม ไม่ใช่ใช้คำพูด ใช้วาทะกรรม ดูแคลนอย่างนั้น หากท่านไม่ชักนำ ไม่ชี้ชวน ใช้คำพูดเหล่านี้แล้ว ใครจะเชื่อตามท่านกันล่ะ

- บัณฑิตผู้รู้ ท่านย่อมต้องรู้ว่า ประเทศนี้ ไม่มีวันเป็นประเทศได้ หากขาดคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไป ไม่ว่าจะบัณฑิต ชาวนา ชาวไร่ คนเก็บขยะ คนกวาดถนน ทุกคน ทุกกลุ่มต่างหาก ที่ทำให้ประเทศกลายเป็นประเทศได้

- หากท่านผู้รู้ ไม่ยอมชี้นำผู้อื่นไปในทางที่ดี ท่านก็อย่าใช้วาทะกรรมเหล่านี้ มาแบ่งแยกคนเลย เพราะเรากำลังมองว่า " ท่านต่างหากคือผู้ที่โง่เขลาที่สุด"


ใจร่มๆ


#29 DoctorK

DoctorK

    ช่างท.บ.กิ๊กก๊อก

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,046 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 16:01

หลายท่านเข้ามาแสดงความคิดเห็นแทนคุณTypeYourMind

 

ผมว่าอย่าคิดแทนเขาเลย ปล่อยเขาให้ได้แสดงความคิด เสนอความด้วยตัวเขาเองดีกว่า

 

ทำอย่างนี้มันเหมือนกับการดูถูกคุณTypeYourMindมากเลยครับ มันเหมือน  .....ให้คนอื่นคิดให้ อาศัยจมูกคนอื่นหายใจ.....

รบกวน MOD ลบกระทู้นี้ไปเลยครับ

เพราะจขกท.ไม่ต้องการความเห็นของสมาชิกท่านอื่น

แค่อยากคุยกับสมาชิกตัวต่อตัว

 

ฉะนั้น คุณ ควรไป pm สนทนากับสมาชิกท่านนั้นเองครับ

ระบบ pm ก็มีไม่ใช้ ผมไม่อยากด่าว่าโง่นะครับ


รักที่สุดคือพ่อหลวง ห่วงที่สุดคือคนที่รักประชาธิปไตยจนเสียสติ

 

หากโพสไหนไม่เหมาะสม MODลบได้เลยนะครับ


#30 พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,450 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 16:03


หลายท่านเข้ามาแสดงความคิดเห็นแทนคุณTypeYourMind

ผมว่าอย่าคิดแทนเขาเลย ปล่อยเขาให้ได้แสดงความคิด เสนอความด้วยตัวเขาเองดีกว่า

ทำอย่างนี้มันเหมือนกับการดูถูกคุณTypeYourMindมากเลยครับ มันเหมือน .....ให้คนอื่นคิดให้ อาศัยจมูกคนอื่นหายใจ.....

รบกวน MOD ลบกระทู้นี้ไปเลยครับ
เพราะจขกท.ไม่ต้องการความเห็นของสมาชิกท่านอื่น
แค่อยากคุยกับสมาชิกตัวต่อตัว

ฉะนั้น คุณ ควรไป pm สนทนากับสมาชิกท่านนั้นเองครับ
ระบบ pm ก็มีไม่ใช้ ผมไม่อยากด่าว่าโง่นะครับ

จขกท.ไม่ได้โง่ครับ ... แค่ฉลาดน้อยกว่าท่านปู -_-
อยากรู้ว่าประชาธิปไตยไทยเป็นแบบไหน ให้ดูการใช้รถใช้ถนนรู้จักกันแต่สิทธิ แต่ไม่เคยรู้จักหน้าที่ ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่วางไว้

#31 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 16:09

ไม่ว่าจะเรียนจบจากที่ไหน วุฒิสูงแค่ไหน แต่ความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวมสำคัญที่สุด

 

ว่าแต่ ประชาชนมีแค่ 1 คน 1 เสียง แล้วทำไมผู้แทนปวงชนชาวไทย 1 คน ถึงมีหลายเสียงได้ล่ะ มัน 2 มาตรฐานชัดๆ  -_-


ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#32 SoloWingBank

SoloWingBank

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 213 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 16:13

นี่เป็นอีกแนวความคิดนึง ที่เราขอต่อต้านเป็นอย่างมาก และยังมีหลายคำพูด หลายถ้อยคำ หลายประโยค ที่อาจส่งผลให้ประเทศล่มจม

- คำพูดแบบนี้ล่ะ ที่ส่อให้ประเทศไม่มีวันเจริญ คำพูดที่ดูแคลนคนด้อยกว่า อาจจะเรื่องการศึกษา ฐานะ หรือเรื่องอื่นๆอีกมาก บัณฑิตที่ร่ำเรียนมาที่เรียกว่าบัณฑิตย่อมหมายถึงผู้รู้ แล้วท่านเป็นผู้รู้แบบไหนกันที่ดูถูกคนอื่น แม้เราจะไม่ชอบทักษิณ เบื่อหน่ายกับการเมืองยังไง เราก็ไม่เห็นด้วยกับวาทะกรรมเหล่านี้

- คำพูดเหล่านี้เป็นไปในลักษณะแบ่งแยกคน ยิ่งทุกวันนี้ต่างสีเสื้อต่างพยายามแบ่งแยกคน บางสีสร้างวาทะกรรม รากหญ้า ไพร่ หาคนเข้าพวกด้วยแล้ว คำพูดเหล่านี้ล่ะ ที่่ช่วยให้คนเหล่านั้นเชื่อเรื่องชนชั้น และหันหน้าเป็นอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว

- หากท่านรู้จริง ท่านย่อมรู้ว่า ประเทศไทยนี้ อัตราส่วนคนจนมากกว่าคนรวยหลายเท่าตัวนัก แล้วท่านจะทำยังไงกับความแตกต่างเหล่านี้ ท่านทำได้เพียงช่วยแบ่งแยกคนงั้นหรือ

- บัณฑิตผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้รู้ที่ดี ย่อมต้องบอกต้องชี้ทางให้ผู้ไม่รู้ หรือรู้น้อยกว่า รู้ตาม ไม่ใช่ใช้คำพูด ใช้วาทะกรรม ดูแคลนอย่างนั้น หากท่านไม่ชักนำ ไม่ชี้ชวน ใช้คำพูดเหล่านี้แล้ว ใครจะเชื่อตามท่านกันล่ะ

- บัณฑิตผู้รู้ ท่านย่อมต้องรู้ว่า ประเทศนี้ ไม่มีวันเป็นประเทศได้ หากขาดคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไป ไม่ว่าจะบัณฑิต ชาวนา ชาวไร่ คนเก็บขยะ คนกวาดถนน ทุกคน ทุกกลุ่มต่างหาก ที่ทำให้ประเทศกลายเป็นประเทศได้

- หากท่านผู้รู้ ไม่ยอมชี้นำผู้อื่นไปในทางที่ดี ท่านก็อย่าใช้วาทะกรรมเหล่านี้ มาแบ่งแยกคนเลย เพราะเรากำลังมองว่า " ท่านต่างหากคือผู้ที่โง่เขลาที่สุด"

 

ถ้าไม่แบ่งแยกกลุ่มคนออกไปแล้วจะรู้ได้ไงหรอครับว่าเราต้องช่วยกลุ่มไหน จะให้หว่านแห พอคนรวยได้ มันก็เอาไปต่อยอด+กับของที่มันมีก็ว่าเอาเปรียบอีก

 

การแบ่งแยกกลุ่มคือการกระทำที่ถูกครับ เพราะมันจะช่วยให้เราเข้าไปช่วยกลุ่มที่มีปัญาได้จริงๆ ได้



#33 ToraKun

ToraKun

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 14 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 16:14

หลาย ๆ กระทู้ของ เจ้าพระยาอาบอบนวด

 

ผมก็จะมองข้ามไม่ให้ราคา แต่ในเมื่อให้เกียรติผมในชื่อหัวข้อกระทู้เลยเข้ามาตอบซะหน่อย

 

ผมสงสาร เข้าใจว่าปีใหม่ เจ้าพระยาอาบอบนวด คงใช้เงินหมด เลยเข้ามาปั่นกระทู้หาเงิน เลยสงเคราะห์เขาสักหน่อย

คนคอนหวันป่าวครับเนี่ย รูปจักที่เที่ยวในตำนานของคอนหวันด้วย หุหุ



#34 50satang

50satang

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 32 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 16:24

 

นี่เป็นอีกแนวความคิดนึง ที่เราขอต่อต้านเป็นอย่างมาก และยังมีหลายคำพูด หลายถ้อยคำ หลายประโยค ที่อาจส่งผลให้ประเทศล่มจม

- คำพูดแบบนี้ล่ะ ที่ส่อให้ประเทศไม่มีวันเจริญ คำพูดที่ดูแคลนคนด้อยกว่า อาจจะเรื่องการศึกษา ฐานะ หรือเรื่องอื่นๆอีกมาก บัณฑิตที่ร่ำเรียนมาที่เรียกว่าบัณฑิตย่อมหมายถึงผู้รู้ แล้วท่านเป็นผู้รู้แบบไหนกันที่ดูถูกคนอื่น แม้เราจะไม่ชอบทักษิณ เบื่อหน่ายกับการเมืองยังไง เราก็ไม่เห็นด้วยกับวาทะกรรมเหล่านี้

- คำพูดเหล่านี้เป็นไปในลักษณะแบ่งแยกคน ยิ่งทุกวันนี้ต่างสีเสื้อต่างพยายามแบ่งแยกคน บางสีสร้างวาทะกรรม รากหญ้า ไพร่ หาคนเข้าพวกด้วยแล้ว คำพูดเหล่านี้ล่ะ ที่่ช่วยให้คนเหล่านั้นเชื่อเรื่องชนชั้น และหันหน้าเป็นอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว

- หากท่านรู้จริง ท่านย่อมรู้ว่า ประเทศไทยนี้ อัตราส่วนคนจนมากกว่าคนรวยหลายเท่าตัวนัก แล้วท่านจะทำยังไงกับความแตกต่างเหล่านี้ ท่านทำได้เพียงช่วยแบ่งแยกคนงั้นหรือ

- บัณฑิตผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้รู้ที่ดี ย่อมต้องบอกต้องชี้ทางให้ผู้ไม่รู้ หรือรู้น้อยกว่า รู้ตาม ไม่ใช่ใช้คำพูด ใช้วาทะกรรม ดูแคลนอย่างนั้น หากท่านไม่ชักนำ ไม่ชี้ชวน ใช้คำพูดเหล่านี้แล้ว ใครจะเชื่อตามท่านกันล่ะ

- บัณฑิตผู้รู้ ท่านย่อมต้องรู้ว่า ประเทศนี้ ไม่มีวันเป็นประเทศได้ หากขาดคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไป ไม่ว่าจะบัณฑิต ชาวนา ชาวไร่ คนเก็บขยะ คนกวาดถนน ทุกคน ทุกกลุ่มต่างหาก ที่ทำให้ประเทศกลายเป็นประเทศได้

- หากท่านผู้รู้ ไม่ยอมชี้นำผู้อื่นไปในทางที่ดี ท่านก็อย่าใช้วาทะกรรมเหล่านี้ มาแบ่งแยกคนเลย เพราะเรากำลังมองว่า " ท่านต่างหากคือผู้ที่โง่เขลาที่สุด"

 

ถ้าไม่แบ่งแยกกลุ่มคนออกไปแล้วจะรู้ได้ไงหรอครับว่าเราต้องช่วยกลุ่มไหน จะให้หว่านแห พอคนรวยได้ มันก็เอาไปต่อยอด+กับของที่มันมีก็ว่าเอาเปรียบอีก

 

การแบ่งแยกกลุ่มคือการกระทำที่ถูกครับ เพราะมันจะช่วยให้เราเข้าไปช่วยกลุ่มที่มีปัญาได้จริงๆ ได้

 

 

การแบ่งแยกคนน่ะทำได้ท่าน แต่ให้แบ่งแยก " ถูก หรือ ผิด "  " ชั่ว หรือ ดี "

มิใช่การยกตัวเป็น " บัณฑิต หรือ ผู้ที่ด้วยกว่า " " รากหญ้า กับ ชนชั้นกลาง " เพราะนี่คือการแบ่งแยกที่ผิด

 

ท่านไม่ตะขิดตะขวงใจเลยหรือกับคำพูดเหล่านี้ 

" คนเก็บขยะ คนกวาดถนน คนทำนา ทำสวน จบ ป.4 ป.6 หรือไม่ได้เรียนเลย " คนเหล่านี้จะช่วยไล่ระบอบทักษิณอย่างสนิทใจได้อย่างไร

 

สิ่งที่แบ่งแยกคน ไม่ใช่การศึกษา ฐานะทางสังคม แต่เป็นความรู้ ผิดชอบ ชั่วดี ต่างหาก


Edited by 50satang, 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 16:40.

ใจร่มๆ


#35 templar

templar

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,180 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 16:25

มันไม่เกี่ยวกับวุฒิการศึกษา  แต่สิ่งที่จำเป็นสำหรับประชาชนทุกคนคือ  

 

ความรู้ความเข้าใจด้านการเมืองที่ถูกต้อง  

 

 

 

ผมมีเพื่อนอยู่คนนึงมันเรียนพยาบาล  มันบอกว่าการเมืองน่าเบื่อ  ทำมาหากินไปดีกว่า

 

กับคุณลุงอีกคนหนึ่งแกถีบซาเล้งเก็บของเก่า  แต่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่ตลอด

 

ถ้าในความคิดผมผมว่าลุงแกควรจะได้มากกว่าหนึ่งเสียงนะ  เพื่อนผมมันน่าจะได้ครึ่งเสียง

 

แต่ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นไปได้ยาก  เพราะมันไม่มีเครื่องวัดความรู้ด้านการเมืองก่อน

 

การเลือกตั้ง  

 

 

 

ปัญหาคือ  เราจะทำอย่างไรให้คนที่พร้อมและมีความเข้าใจด้านการเมืองที่ถูกต้อง  ให้คนกลุ่มนี้

 

มีสิทธิมีเสียงมากกว่า  คนที่ไม่รับไม่รู้ด้านการเมืองอะไรเลย  ยกตัวอย่างการเลือกตั้ง  

 

เราตัดสิทธิ์คนที่ไม่ไปเลือกตั้ง  ไม่สามารถสมัครรับเลือกตั้ง  หรือลงชื่อถอดถอนหรือเสนอร่างกฎหมายได้

 

เช่นเีดียวกัน  

 

 

สรุป

 

คนที่ไม่สนใจทางการเมือง  เอาแต่ดูว่านโยบายประชานิยมไหนถูกใจ  

หรือใครให้เงินเพื่อซื้อเสียงแล้วก็กาเลือกพรรคนั้น

"ไม่ควรมีสิทธิ์มีเสียง"  

เท่ากับคนที่เลือกตั้งอย่างเข้าใจ  รู้ว่าเงินภาษีเป็นของประชาชนทุกคน  

ไม่ใช่ของนักการเมือง


Edited by templar, 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 16:30.

อย่ามาเห่าว่ากรูมาจากการเลือกตั้ง  เพราะการเลือกตั้งไม่ใช่ทุกอย่างของประชาธิปไตย

การตรวจสอบบ้านเมืองอย่างเข้มข้น  ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและตุลาการ  จำเป็นสำหรับประเทศไทย

 

สิ่งที่บ่งบอกว่าประเทศไหนพัฒนาแล้วไม่ได้ดูที่  มีตึกสูงมากเท่าไร  มีห้างเยอะไหม  มีจีดีพีสูงแค่ไหน

แต่ดูที่การศึกษา  และ คุณภาพของบุคลากรภายในประเทศ


#36 idolation

idolation

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,996 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 16:26

ถ้า 1 คนมีสิทธิ์เท่ากันจริง ทำไมผมไม่เคยเห็นไอ้แม้วเข้าคิวฝากเงินที่ธนาคารเลย


รักในหลวง ห่วงลูกหลาน ร่วมกันต้าน ตระกูลชินวัตร

#37 kairyuramon

kairyuramon

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 336 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 16:26

นี่เป็นอีกแนวความคิดนึง ที่เราขอต่อต้านเป็นอย่างมาก และยังมีหลายคำพูด หลายถ้อยคำ หลายประโยค ที่อาจส่งผลให้ประเทศล่มจม

- คำพูดแบบนี้ล่ะ ที่ส่อให้ประเทศไม่มีวันเจริญ คำพูดที่ดูแคลนคนด้อยกว่า อาจจะเรื่องการศึกษา ฐานะ หรือเรื่องอื่นๆอีกมาก บัณฑิตที่ร่ำเรียนมาที่เรียกว่าบัณฑิตย่อมหมายถึงผู้รู้ แล้วท่านเป็นผู้รู้แบบไหนกันที่ดูถูกคนอื่น แม้เราจะไม่ชอบทักษิณ เบื่อหน่ายกับการเมืองยังไง เราก็ไม่เห็นด้วยกับวาทะกรรมเหล่านี้

- คำพูดเหล่านี้เป็นไปในลักษณะแบ่งแยกคน ยิ่งทุกวันนี้ต่างสีเสื้อต่างพยายามแบ่งแยกคน บางสีสร้างวาทะกรรม รากหญ้า ไพร่ หาคนเข้าพวกด้วยแล้ว คำพูดเหล่านี้ล่ะ ที่่ช่วยให้คนเหล่านั้นเชื่อเรื่องชนชั้น และหันหน้าเป็นอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว

- หากท่านรู้จริง ท่านย่อมรู้ว่า ประเทศไทยนี้ อัตราส่วนคนจนมากกว่าคนรวยหลายเท่าตัวนัก แล้วท่านจะทำยังไงกับความแตกต่างเหล่านี้ ท่านทำได้เพียงช่วยแบ่งแยกคนงั้นหรือ

- บัณฑิตผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้รู้ที่ดี ย่อมต้องบอกต้องชี้ทางให้ผู้ไม่รู้ หรือรู้น้อยกว่า รู้ตาม ไม่ใช่ใช้คำพูด ใช้วาทะกรรม ดูแคลนอย่างนั้น หากท่านไม่ชักนำ ไม่ชี้ชวน ใช้คำพูดเหล่านี้แล้ว ใครจะเชื่อตามท่านกันล่ะ

- บัณฑิตผู้รู้ ท่านย่อมต้องรู้ว่า ประเทศนี้ ไม่มีวันเป็นประเทศได้ หากขาดคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไป ไม่ว่าจะบัณฑิต ชาวนา ชาวไร่ คนเก็บขยะ คนกวาดถนน ทุกคน ทุกกลุ่มต่างหาก ที่ทำให้ประเทศกลายเป็นประเทศได้

- หากท่านผู้รู้ ไม่ยอมชี้นำผู้อื่นไปในทางที่ดี ท่านก็อย่าใช้วาทะกรรมเหล่านี้ มาแบ่งแยกคนเลย เพราะเรากำลังมองว่า " ท่านต่างหากคือผู้ที่โง่เขลาที่สุด"

 

เห็นด้วยครับ ตอนนี้ประเทศแตกแยกกันมากพอแล้ว ถ้ารู้ว่าฝ่ายแกนนำเสื้อแดงเขาพยายามพูดแบ่งแยกชนชั้น แล้วจะเอามาพูดซ้ำทำไม

 

ผมก็เคยคลุกคลีกับคนชนชทมาบ้าง คุณพ่อผมท่านก็มีที่ดินอยู่ในพื้นที่ที่ชาวบ้านสนับสนุนรัฐบาล เวลาผมเขาไปพูดคุยกับพวกเขา ผมก็เห็นว่าเขาก็มีดีในแต่ละคน

 

อย่างพ่อผมก็ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่นี่ตั้งหลายอย่าง ถ้าไปดูถูกเขาตามแนวคิดแบบนี้คงจะอยู่ร่วมกันไม่ได้

 

ถ้าคิดว่าเขามีปัญหาอะไรก็ต้องหาทางช่วยเหลือครับ ไม่ใช่มาดูถูกกันแบบนี้



#38 idolation

idolation

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,996 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 16:30

 

 

นี่เป็นอีกแนวความคิดนึง ที่เราขอต่อต้านเป็นอย่างมาก และยังมีหลายคำพูด หลายถ้อยคำ หลายประโยค ที่อาจส่งผลให้ประเทศล่มจม

- คำพูดแบบนี้ล่ะ ที่ส่อให้ประเทศไม่มีวันเจริญ คำพูดที่ดูแคลนคนด้อยกว่า อาจจะเรื่องการศึกษา ฐานะ หรือเรื่องอื่นๆอีกมาก บัณฑิตที่ร่ำเรียนมาที่เรียกว่าบัณฑิตย่อมหมายถึงผู้รู้ แล้วท่านเป็นผู้รู้แบบไหนกันที่ดูถูกคนอื่น แม้เราจะไม่ชอบทักษิณ เบื่อหน่ายกับการเมืองยังไง เราก็ไม่เห็นด้วยกับวาทะกรรมเหล่านี้

- คำพูดเหล่านี้เป็นไปในลักษณะแบ่งแยกคน ยิ่งทุกวันนี้ต่างสีเสื้อต่างพยายามแบ่งแยกคน บางสีสร้างวาทะกรรม รากหญ้า ไพร่ หาคนเข้าพวกด้วยแล้ว คำพูดเหล่านี้ล่ะ ที่่ช่วยให้คนเหล่านั้นเชื่อเรื่องชนชั้น และหันหน้าเป็นอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว

- หากท่านรู้จริง ท่านย่อมรู้ว่า ประเทศไทยนี้ อัตราส่วนคนจนมากกว่าคนรวยหลายเท่าตัวนัก แล้วท่านจะทำยังไงกับความแตกต่างเหล่านี้ ท่านทำได้เพียงช่วยแบ่งแยกคนงั้นหรือ

- บัณฑิตผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้รู้ที่ดี ย่อมต้องบอกต้องชี้ทางให้ผู้ไม่รู้ หรือรู้น้อยกว่า รู้ตาม ไม่ใช่ใช้คำพูด ใช้วาทะกรรม ดูแคลนอย่างนั้น หากท่านไม่ชักนำ ไม่ชี้ชวน ใช้คำพูดเหล่านี้แล้ว ใครจะเชื่อตามท่านกันล่ะ

- บัณฑิตผู้รู้ ท่านย่อมต้องรู้ว่า ประเทศนี้ ไม่มีวันเป็นประเทศได้ หากขาดคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไป ไม่ว่าจะบัณฑิต ชาวนา ชาวไร่ คนเก็บขยะ คนกวาดถนน ทุกคน ทุกกลุ่มต่างหาก ที่ทำให้ประเทศกลายเป็นประเทศได้

- หากท่านผู้รู้ ไม่ยอมชี้นำผู้อื่นไปในทางที่ดี ท่านก็อย่าใช้วาทะกรรมเหล่านี้ มาแบ่งแยกคนเลย เพราะเรากำลังมองว่า " ท่านต่างหากคือผู้ที่โง่เขลาที่สุด"

 

ถ้าไม่แบ่งแยกกลุ่มคนออกไปแล้วจะรู้ได้ไงหรอครับว่าเราต้องช่วยกลุ่มไหน จะให้หว่านแห พอคนรวยได้ มันก็เอาไปต่อยอด+กับของที่มันมีก็ว่าเอาเปรียบอีก

 

การแบ่งแยกกลุ่มคือการกระทำที่ถูกครับ เพราะมันจะช่วยให้เราเข้าไปช่วยกลุ่มที่มีปัญาได้จริงๆ ได้

 

 

การแบ่งแยกคนน่ะทำได้ท่าน แต่ให้แบ่งแยก " ถูก หรือ ผิด "  " ชั่ว หรือ ดี "

มิใช่การยกตัวเป็น " บัณฑิต หรือ ผู้ที่ด้วยกว่า " " รากหญ้า กับ ชนชั้นกลาง " เพราะนี่คือการแบ่งแยกที่ผิด

 

ท่านไม่ตะขิดตะขวงใจเลยหรือกับคำพูดเหล่านี้ 

" คนเก็บขยะ คนกวาดถนน คนทำนา ทำสวน จบ ป.4 ป.6 หรือไม่ได้เรียนเลย " คนเหล่านี้จะช่วยไล่ระบอบทักษิณอย่างสนิทใจได้อย่างไร

 

สิ่งที่แบ่งแยกคน ไม่ใช่การศึกษา ฐานะทางสังคน แต่เป็นความรู้ ผิดชอบ ชั่วดี ต่างหาก

 

 

งั้นโจร  9 เสียงกับพระ 1 เสียงล่ะ จะโหวตให้ชนะได้ยังไง เทศน์จนกว่าโจรจะกลับใจเหรอ พระพุทธเจ้ายังทำไม่ได้เลย


รักในหลวง ห่วงลูกหลาน ร่วมกันต้าน ตระกูลชินวัตร

#39 TypeYourMind

TypeYourMind

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,162 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 16:31

 

หลาย ๆ กระทู้ของ เจ้าพระยาอาบอบนวด

 

ผมก็จะมองข้ามไม่ให้ราคา แต่ในเมื่อให้เกียรติผมในชื่อหัวข้อกระทู้เลยเข้ามาตอบซะหน่อย

 

ผมสงสาร เข้าใจว่าปีใหม่ เจ้าพระยาอาบอบนวด คงใช้เงินหมด เลยเข้ามาปั่นกระทู้หาเงิน เลยสงเคราะห์เขาสักหน่อย

คนคอนหวันป่าวครับเนี่ย รูปจักที่เที่ยวในตำนานของคอนหวันด้วย หุหุ

 

 

ไม่ใช่ครับ ผมคนกทม. แต่เมื่อก่อนทำงานต้องนั่งรถผ่าน สถานที่นี่ตรงถนนศรีอยุธยาครับ

 

 

นี่เป็นอีกแนวความคิดนึง ที่เราขอต่อต้านเป็นอย่างมาก และยังมีหลายคำพูด หลายถ้อยคำ หลายประโยค ที่อาจส่งผลให้ประเทศล่มจม

- คำพูดแบบนี้ล่ะ ที่ส่อให้ประเทศไม่มีวันเจริญ คำพูดที่ดูแคลนคนด้อยกว่า อาจจะเรื่องการศึกษา ฐานะ หรือเรื่องอื่นๆอีกมาก บัณฑิตที่ร่ำเรียนมาที่เรียกว่าบัณฑิตย่อมหมายถึงผู้รู้ แล้วท่านเป็นผู้รู้แบบไหนกันที่ดูถูกคนอื่น แม้เราจะไม่ชอบทักษิณ เบื่อหน่ายกับการเมืองยังไง เราก็ไม่เห็นด้วยกับวาทะกรรมเหล่านี้

- คำพูดเหล่านี้เป็นไปในลักษณะแบ่งแยกคน ยิ่งทุกวันนี้ต่างสีเสื้อต่างพยายามแบ่งแยกคน บางสีสร้างวาทะกรรม รากหญ้า ไพร่ หาคนเข้าพวกด้วยแล้ว คำพูดเหล่านี้ล่ะ ที่่ช่วยให้คนเหล่านั้นเชื่อเรื่องชนชั้น และหันหน้าเป็นอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว

- หากท่านรู้จริง ท่านย่อมรู้ว่า ประเทศไทยนี้ อัตราส่วนคนจนมากกว่าคนรวยหลายเท่าตัวนัก แล้วท่านจะทำยังไงกับความแตกต่างเหล่านี้ ท่านทำได้เพียงช่วยแบ่งแยกคนงั้นหรือ

- บัณฑิตผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้รู้ที่ดี ย่อมต้องบอกต้องชี้ทางให้ผู้ไม่รู้ หรือรู้น้อยกว่า รู้ตาม ไม่ใช่ใช้คำพูด ใช้วาทะกรรม ดูแคลนอย่างนั้น หากท่านไม่ชักนำ ไม่ชี้ชวน ใช้คำพูดเหล่านี้แล้ว ใครจะเชื่อตามท่านกันล่ะ

- บัณฑิตผู้รู้ ท่านย่อมต้องรู้ว่า ประเทศนี้ ไม่มีวันเป็นประเทศได้ หากขาดคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไป ไม่ว่าจะบัณฑิต ชาวนา ชาวไร่ คนเก็บขยะ คนกวาดถนน ทุกคน ทุกกลุ่มต่างหาก ที่ทำให้ประเทศกลายเป็นประเทศได้

- หากท่านผู้รู้ ไม่ยอมชี้นำผู้อื่นไปในทางที่ดี ท่านก็อย่าใช้วาทะกรรมเหล่านี้ มาแบ่งแยกคนเลย เพราะเรากำลังมองว่า " ท่านต่างหากคือผู้ที่โง่เขลาที่สุด"

 

ใจเย็น ๆ ครับท่าน อ่านโค้ดลายเซ็นต์ผมดี ๆ ครับ อย่างที่ตอบในข้างต้น ความหมายผมไม่ได้ดูถูก หรือแบ่งชนชั้นครับ


.. ถ้ากุลีมีสิทธิเท่าบัณฑิต .. บัณฑิตจะลงทุนเรียนกันไปทำไม??? .. ประชาธิปไตยมันว่าด้วยเรื่องเสียงข้างมาก .. ฉะนั้น ประเทศไหนที่เสียงข้างมากไม่มีการศึกษา ประเทศก็ล่ม .. เพราะกุ๊ยซื้อกุ๊ย และกุ๊ยเลือกกุ๊ยแน่นอนครับ

#40 webster

webster

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 372 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 16:39

คนเรามีความคิดเห็นทางการเมืองต่างกันได้ ....ซึ่งมันควรจะเป็นอย่างนั้น

 

แต่ไม่ควรจะมีความเห็นต่างกัน ว่าอะไรคือความดีความชั่ว

 

ถ้าเอามาปนกัน แยกไม่ออก อะไรความดีความชั่ว อะไรเป็นความคิดเห็นทางการเมือง

 

ความชั่วก็ครองโลกละครับ  มันทำง่ายและถูกกว่ากันเยอะ



#41 50satang

50satang

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 32 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 16:42

 

 

หลาย ๆ กระทู้ของ เจ้าพระยาอาบอบนวด

 

ผมก็จะมองข้ามไม่ให้ราคา แต่ในเมื่อให้เกียรติผมในชื่อหัวข้อกระทู้เลยเข้ามาตอบซะหน่อย

 

ผมสงสาร เข้าใจว่าปีใหม่ เจ้าพระยาอาบอบนวด คงใช้เงินหมด เลยเข้ามาปั่นกระทู้หาเงิน เลยสงเคราะห์เขาสักหน่อย

คนคอนหวันป่าวครับเนี่ย รูปจักที่เที่ยวในตำนานของคอนหวันด้วย หุหุ

 

 

ไม่ใช่ครับ ผมคนกทม. แต่เมื่อก่อนทำงานต้องนั่งรถผ่าน สถานที่นี่ตรงถนนศรีอยุธยาครับ

 

 

นี่เป็นอีกแนวความคิดนึง ที่เราขอต่อต้านเป็นอย่างมาก และยังมีหลายคำพูด หลายถ้อยคำ หลายประโยค ที่อาจส่งผลให้ประเทศล่มจม

- คำพูดแบบนี้ล่ะ ที่ส่อให้ประเทศไม่มีวันเจริญ คำพูดที่ดูแคลนคนด้อยกว่า อาจจะเรื่องการศึกษา ฐานะ หรือเรื่องอื่นๆอีกมาก บัณฑิตที่ร่ำเรียนมาที่เรียกว่าบัณฑิตย่อมหมายถึงผู้รู้ แล้วท่านเป็นผู้รู้แบบไหนกันที่ดูถูกคนอื่น แม้เราจะไม่ชอบทักษิณ เบื่อหน่ายกับการเมืองยังไง เราก็ไม่เห็นด้วยกับวาทะกรรมเหล่านี้

- คำพูดเหล่านี้เป็นไปในลักษณะแบ่งแยกคน ยิ่งทุกวันนี้ต่างสีเสื้อต่างพยายามแบ่งแยกคน บางสีสร้างวาทะกรรม รากหญ้า ไพร่ หาคนเข้าพวกด้วยแล้ว คำพูดเหล่านี้ล่ะ ที่่ช่วยให้คนเหล่านั้นเชื่อเรื่องชนชั้น และหันหน้าเป็นอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว

- หากท่านรู้จริง ท่านย่อมรู้ว่า ประเทศไทยนี้ อัตราส่วนคนจนมากกว่าคนรวยหลายเท่าตัวนัก แล้วท่านจะทำยังไงกับความแตกต่างเหล่านี้ ท่านทำได้เพียงช่วยแบ่งแยกคนงั้นหรือ

- บัณฑิตผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้รู้ที่ดี ย่อมต้องบอกต้องชี้ทางให้ผู้ไม่รู้ หรือรู้น้อยกว่า รู้ตาม ไม่ใช่ใช้คำพูด ใช้วาทะกรรม ดูแคลนอย่างนั้น หากท่านไม่ชักนำ ไม่ชี้ชวน ใช้คำพูดเหล่านี้แล้ว ใครจะเชื่อตามท่านกันล่ะ

- บัณฑิตผู้รู้ ท่านย่อมต้องรู้ว่า ประเทศนี้ ไม่มีวันเป็นประเทศได้ หากขาดคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไป ไม่ว่าจะบัณฑิต ชาวนา ชาวไร่ คนเก็บขยะ คนกวาดถนน ทุกคน ทุกกลุ่มต่างหาก ที่ทำให้ประเทศกลายเป็นประเทศได้

- หากท่านผู้รู้ ไม่ยอมชี้นำผู้อื่นไปในทางที่ดี ท่านก็อย่าใช้วาทะกรรมเหล่านี้ มาแบ่งแยกคนเลย เพราะเรากำลังมองว่า " ท่านต่างหากคือผู้ที่โง่เขลาที่สุด"

 

ใจเย็น ๆ ครับท่าน อ่านโค้ดลายเซ็นต์ผมดี ๆ ครับ อย่างที่ตอบในข้างต้น ความหมายผมไม่ได้ดูถูก หรือแบ่งชนชั้นครับ

 

โทดทีๆๆๆ มีอารมณ์ร่วมเยอะไปหน่อย


ใจร่มๆ


#42 50satang

50satang

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 32 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 16:46

 

 

 

นี่เป็นอีกแนวความคิดนึง ที่เราขอต่อต้านเป็นอย่างมาก และยังมีหลายคำพูด หลายถ้อยคำ หลายประโยค ที่อาจส่งผลให้ประเทศล่มจม

- คำพูดแบบนี้ล่ะ ที่ส่อให้ประเทศไม่มีวันเจริญ คำพูดที่ดูแคลนคนด้อยกว่า อาจจะเรื่องการศึกษา ฐานะ หรือเรื่องอื่นๆอีกมาก บัณฑิตที่ร่ำเรียนมาที่เรียกว่าบัณฑิตย่อมหมายถึงผู้รู้ แล้วท่านเป็นผู้รู้แบบไหนกันที่ดูถูกคนอื่น แม้เราจะไม่ชอบทักษิณ เบื่อหน่ายกับการเมืองยังไง เราก็ไม่เห็นด้วยกับวาทะกรรมเหล่านี้

- คำพูดเหล่านี้เป็นไปในลักษณะแบ่งแยกคน ยิ่งทุกวันนี้ต่างสีเสื้อต่างพยายามแบ่งแยกคน บางสีสร้างวาทะกรรม รากหญ้า ไพร่ หาคนเข้าพวกด้วยแล้ว คำพูดเหล่านี้ล่ะ ที่่ช่วยให้คนเหล่านั้นเชื่อเรื่องชนชั้น และหันหน้าเป็นอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว

- หากท่านรู้จริง ท่านย่อมรู้ว่า ประเทศไทยนี้ อัตราส่วนคนจนมากกว่าคนรวยหลายเท่าตัวนัก แล้วท่านจะทำยังไงกับความแตกต่างเหล่านี้ ท่านทำได้เพียงช่วยแบ่งแยกคนงั้นหรือ

- บัณฑิตผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้รู้ที่ดี ย่อมต้องบอกต้องชี้ทางให้ผู้ไม่รู้ หรือรู้น้อยกว่า รู้ตาม ไม่ใช่ใช้คำพูด ใช้วาทะกรรม ดูแคลนอย่างนั้น หากท่านไม่ชักนำ ไม่ชี้ชวน ใช้คำพูดเหล่านี้แล้ว ใครจะเชื่อตามท่านกันล่ะ

- บัณฑิตผู้รู้ ท่านย่อมต้องรู้ว่า ประเทศนี้ ไม่มีวันเป็นประเทศได้ หากขาดคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไป ไม่ว่าจะบัณฑิต ชาวนา ชาวไร่ คนเก็บขยะ คนกวาดถนน ทุกคน ทุกกลุ่มต่างหาก ที่ทำให้ประเทศกลายเป็นประเทศได้

- หากท่านผู้รู้ ไม่ยอมชี้นำผู้อื่นไปในทางที่ดี ท่านก็อย่าใช้วาทะกรรมเหล่านี้ มาแบ่งแยกคนเลย เพราะเรากำลังมองว่า " ท่านต่างหากคือผู้ที่โง่เขลาที่สุด"

 

ถ้าไม่แบ่งแยกกลุ่มคนออกไปแล้วจะรู้ได้ไงหรอครับว่าเราต้องช่วยกลุ่มไหน จะให้หว่านแห พอคนรวยได้ มันก็เอาไปต่อยอด+กับของที่มันมีก็ว่าเอาเปรียบอีก

 

การแบ่งแยกกลุ่มคือการกระทำที่ถูกครับ เพราะมันจะช่วยให้เราเข้าไปช่วยกลุ่มที่มีปัญาได้จริงๆ ได้

 

 

การแบ่งแยกคนน่ะทำได้ท่าน แต่ให้แบ่งแยก " ถูก หรือ ผิด "  " ชั่ว หรือ ดี "

มิใช่การยกตัวเป็น " บัณฑิต หรือ ผู้ที่ด้วยกว่า " " รากหญ้า กับ ชนชั้นกลาง " เพราะนี่คือการแบ่งแยกที่ผิด

 

ท่านไม่ตะขิดตะขวงใจเลยหรือกับคำพูดเหล่านี้ 

" คนเก็บขยะ คนกวาดถนน คนทำนา ทำสวน จบ ป.4 ป.6 หรือไม่ได้เรียนเลย " คนเหล่านี้จะช่วยไล่ระบอบทักษิณอย่างสนิทใจได้อย่างไร

 

สิ่งที่แบ่งแยกคน ไม่ใช่การศึกษา ฐานะทางสังคน แต่เป็นความรู้ ผิดชอบ ชั่วดี ต่างหาก

 

 

งั้นโจร  9 เสียงกับพระ 1 เสียงล่ะ จะโหวตให้ชนะได้ยังไง เทศน์จนกว่าโจรจะกลับใจเหรอ พระพุทธเจ้ายังทำไม่ได้เลย

 

 

ใจร่มๆ ท่าน โจร ก็คือโจร คือคนที่เห็นผิด ทำความผิด " โจรไม่จำเป็นต้องเป็นคนจน กุ๊ย หรือ บัณฑิต " บัณฑิตเป็นโจรก็เยอะแยะไป ไม่เกี่ยวกับการศึกษา

พระ ก็คือ พระ หากพระดีก็ดีไป พระชั่วก็มีถมไป " แฟนคลับเณรคำ "

 

นี่ล่ะคือความแตกต่างที่อยากให้เปรียบเทียบ " เปรียบที่การกระทำ ไม่ใช่เปรียบการศึกษา ชนชั้น "


ใจร่มๆ


#43 50satang

50satang

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 32 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 16:52

มันไม่เกี่ยวกับวุฒิการศึกษา  แต่สิ่งที่จำเป็นสำหรับประชาชนทุกคนคือ  

 

ความรู้ความเข้าใจด้านการเมืองที่ถูกต้อง  

 

 

 

ผมมีเพื่อนอยู่คนนึงมันเรียนพยาบาล  มันบอกว่าการเมืองน่าเบื่อ  ทำมาหากินไปดีกว่า

 

กับคุณลุงอีกคนหนึ่งแกถีบซาเล้งเก็บของเก่า  แต่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่ตลอด

 

ถ้าในความคิดผมผมว่าลุงแกควรจะได้มากกว่าหนึ่งเสียงนะ  เพื่อนผมมันน่าจะได้ครึ่งเสียง

 

แต่ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นไปได้ยาก  เพราะมันไม่มีเครื่องวัดความรู้ด้านการเมืองก่อน

 

การเลือกตั้ง  

 

 

 

ปัญหาคือ  เราจะทำอย่างไรให้คนที่พร้อมและมีความเข้าใจด้านการเมืองที่ถูกต้อง  ให้คนกลุ่มนี้

 

มีสิทธิมีเสียงมากกว่า  คนที่ไม่รับไม่รู้ด้านการเมืองอะไรเลย  ยกตัวอย่างการเลือกตั้ง  

 

เราตัดสิทธิ์คนที่ไม่ไปเลือกตั้ง  ไม่สามารถสมัครรับเลือกตั้ง  หรือลงชื่อถอดถอนหรือเสนอร่างกฎหมายได้

 

เช่นเีดียวกัน  

 

 

สรุป

 

คนที่ไม่สนใจทางการเมือง  เอาแต่ดูว่านโยบายประชานิยมไหนถูกใจ  

หรือใครให้เงินเพื่อซื้อเสียงแล้วก็กาเลือกพรรคนั้น

"ไม่ควรมีสิทธิ์มีเสียง"  

เท่ากับคนที่เลือกตั้งอย่างเข้าใจ  รู้ว่าเงินภาษีเป็นของประชาชนทุกคน  

ไม่ใช่ของนักการเมือง

 

ปัญหามันอยู่ที่นักการเมืองนี่ล่ะท่าน  ถามหน่อยมันมีสักคนมั้ยที่ดีน่ะ

คือมองดูเหมือนมันเลวกันหมด

คนบางกลุ่ม " บังเอิญว่าเยอะ" ก็เลยหันไปเลือก " นักการเมืองที่ซื้อใจ แบ่งผลประโยชน์ให้ "

 

อาจจะหมายถึงวาทะกรรมที่ว่า " โกงแล้วแบ่ง "

 

เพราะนักการเมืองที่บอกว่าตัวเองขาวสะอาด โจมตีนักการเมืองที่โกง

 

นักการเมืองกลุ่มนั้นยังทำตัวไม่ให้เห็นความแตกต่างจาก " นักการเมืองที่โกงเลยแม้แต่น้อย "

 

หากมีนักการเมืองสักพรรค สักกลุ่ม ที่ทำตัวขาวสะอาดจริง คงมีคนเลือกเยอะไม่น้อย


ใจร่มๆ


#44 สมชัย พิชัย

สมชัย พิชัย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 256 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 17:06

 

มันไม่เกี่ยวกับวุฒิการศึกษา  แต่สิ่งที่จำเป็นสำหรับประชาชนทุกคนคือ  

 

ความรู้ความเข้าใจด้านการเมืองที่ถูกต้อง  

 

 

 

ผมมีเพื่อนอยู่คนนึงมันเรียนพยาบาล  มันบอกว่าการเมืองน่าเบื่อ  ทำมาหากินไปดีกว่า

 

กับคุณลุงอีกคนหนึ่งแกถีบซาเล้งเก็บของเก่า  แต่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่ตลอด

 

ถ้าในความคิดผมผมว่าลุงแกควรจะได้มากกว่าหนึ่งเสียงนะ  เพื่อนผมมันน่าจะได้ครึ่งเสียง

 

แต่ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นไปได้ยาก  เพราะมันไม่มีเครื่องวัดความรู้ด้านการเมืองก่อน

 

การเลือกตั้ง  

 

 

 

ปัญหาคือ  เราจะทำอย่างไรให้คนที่พร้อมและมีความเข้าใจด้านการเมืองที่ถูกต้อง  ให้คนกลุ่มนี้

 

มีสิทธิมีเสียงมากกว่า  คนที่ไม่รับไม่รู้ด้านการเมืองอะไรเลย  ยกตัวอย่างการเลือกตั้ง  

 

เราตัดสิทธิ์คนที่ไม่ไปเลือกตั้ง  ไม่สามารถสมัครรับเลือกตั้ง  หรือลงชื่อถอดถอนหรือเสนอร่างกฎหมายได้

 

เช่นเีดียวกัน  

 

 

สรุป

 

คนที่ไม่สนใจทางการเมือง  เอาแต่ดูว่านโยบายประชานิยมไหนถูกใจ  

หรือใครให้เงินเพื่อซื้อเสียงแล้วก็กาเลือกพรรคนั้น

"ไม่ควรมีสิทธิ์มีเสียง"  

เท่ากับคนที่เลือกตั้งอย่างเข้าใจ  รู้ว่าเงินภาษีเป็นของประชาชนทุกคน  

ไม่ใช่ของนักการเมือง

 

ปัญหามันอยู่ที่นักการเมืองนี่ล่ะท่าน  ถามหน่อยมันมีสักคนมั้ยที่ดีน่ะ

คือมองดูเหมือนมันเลวกันหมด

คนบางกลุ่ม " บังเอิญว่าเยอะ" ก็เลยหันไปเลือก " นักการเมืองที่ซื้อใจ แบ่งผลประโยชน์ให้ "

 

อาจจะหมายถึงวาทะกรรมที่ว่า " โกงแล้วแบ่ง "

 

เพราะนักการเมืองที่บอกว่าตัวเองขาวสะอาด โจมตีนักการเมืองที่โกง

 

นักการเมืองกลุ่มนั้นยังทำตัวไม่ให้เห็นความแตกต่างจาก " นักการเมืองที่โกงเลยแม้แต่น้อย "

 

หากมีนักการเมืองสักพรรค สักกลุ่ม ที่ทำตัวขาวสะอาดจริง คงมีคนเลือกเยอะไม่น้อย

 

 

ถ้าคนส่วนใหญ่มันเลือกคนดี คนเลวๆมันจะได้เข้ามาเป็นนักการเมืองหรือเปล่า



#45 annykun

annykun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,567 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 17:30

ด้านมืดของประชาธิปไตยล่ะครับ  ฝรั่งหัวทองก็บ่นๆ กันบ่อยไป  เพียงแต่เอาเข้าจริงๆ  ในทางปฎิบัติ ถ้าไม่ 1 สิทธิ 1 เสียง  เท่าเทียมตามระบอบประชาธิปไตย  ปัญหาที่ตามมาจะเยอะและรุนแรงมาก  ดังนั้น 1 สิทธิ 1 เสียงตามระบอบประชาธิปไตยนั่นล่ะ  ดีสุด  เพราะแม้เลือกผิด  ประชาธิปไตยมีการเรียนรู้เพื่อให้มันดีกว่าเดิมได้ (แต่ในไทย  ผลการเลือกผิดอาจมีล่มจมกันไปข้าง  มันเลยดราม่าสุดๆไง)

 

แม้สลิ่มฮาร์ดคอร์จะบ่นกันเยอะ  แต่เอาเข้าจริงไม่มีใครทำหรอกครับ  โดยเฉพาะกลุ่มผู้นำ  เขารู้ดีว่าไม่ควร หากยังคิดจะยึดโยงกับประชาธิปไตยต่อไป  ไม่งั้นต้องเปลี่ยนระบอบเป็นแบบคอมมิวนิสต์จีนไปเลย  ถึงจะ OK  แต่เค้าไม่ทำหรอก  มันยากเกินไป


Edited by annykun, 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 17:33.

คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม  คือ   ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง

คุณธรรมที่พร้ำสอน  ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา   ส่วน  ประชาธิปไตยน่ะรึ  เอาเข้าจริงๆ  สำคัญอันใด?? 

 


#46 ไทยไม่ทน

ไทยไม่ทน

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,381 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 17:33

 

ไม่ได้อยากริดรอนสิทธิ์ใคร แต่สิทธิ์ที่ได้รับ มันต้องมาพร้อมความรับผิดชอบ เมื่อเลือกผู้แทนเข้ามาแล้ว เมื่อผู้แทนของเขาโกง หรือทำความเสียหายให้กับชาติ คนที่ใช้สิทธิ์ในการเลือกเขาเข้ามา ต้องรับผิดชอบในส่วนที่โกง หรือความเสียหายนั้น เพื่อเวลาจะเลือกผู้แทน จะได้ใช้สติปัญญาในการเลือกบ้าง ไม่ใช่โกงแล้วก็ยังเลือก เพราะมันแบ่งส่วนหนึ่งจากการโกงของมันมาให้ แต่เงินส่วนที่มันแบ่งให้มัน มันเอามาจากคนที่เสียภาษีของคนในชาติทั้งหมด 

 

ชอบครับพี่ แต่อยากเสริมไปว่า

 

"สิทธิ์ที่ได้รับ มันต้อง สัมพันธ์กับสติปัญญาความรู้ที่แต่ละคนมี และมาพร้อมความรับผิดชอบ"

 

 

อิอิ

 

ต้องเข้าใจต่ออีกก้าวด้วยครับ

ว่าบางครั้ง "ความจริง" บางอย่างก็ยากเกินจะยอมรับได้

 

B)


llllllllllllllllllllllllllllll

llllllllllllllllllllllllllllll

llllllllllllllllllllllllllllll

 


#47 50satang

50satang

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 32 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 17:38

 

 

มันไม่เกี่ยวกับวุฒิการศึกษา  แต่สิ่งที่จำเป็นสำหรับประชาชนทุกคนคือ  

 

ความรู้ความเข้าใจด้านการเมืองที่ถูกต้อง  

 

 

 

ผมมีเพื่อนอยู่คนนึงมันเรียนพยาบาล  มันบอกว่าการเมืองน่าเบื่อ  ทำมาหากินไปดีกว่า

 

กับคุณลุงอีกคนหนึ่งแกถีบซาเล้งเก็บของเก่า  แต่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่ตลอด

 

ถ้าในความคิดผมผมว่าลุงแกควรจะได้มากกว่าหนึ่งเสียงนะ  เพื่อนผมมันน่าจะได้ครึ่งเสียง

 

แต่ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นไปได้ยาก  เพราะมันไม่มีเครื่องวัดความรู้ด้านการเมืองก่อน

 

การเลือกตั้ง  

 

 

 

ปัญหาคือ  เราจะทำอย่างไรให้คนที่พร้อมและมีความเข้าใจด้านการเมืองที่ถูกต้อง  ให้คนกลุ่มนี้

 

มีสิทธิมีเสียงมากกว่า  คนที่ไม่รับไม่รู้ด้านการเมืองอะไรเลย  ยกตัวอย่างการเลือกตั้ง  

 

เราตัดสิทธิ์คนที่ไม่ไปเลือกตั้ง  ไม่สามารถสมัครรับเลือกตั้ง  หรือลงชื่อถอดถอนหรือเสนอร่างกฎหมายได้

 

เช่นเีดียวกัน  

 

 

สรุป

 

คนที่ไม่สนใจทางการเมือง  เอาแต่ดูว่านโยบายประชานิยมไหนถูกใจ  

หรือใครให้เงินเพื่อซื้อเสียงแล้วก็กาเลือกพรรคนั้น

"ไม่ควรมีสิทธิ์มีเสียง"  

เท่ากับคนที่เลือกตั้งอย่างเข้าใจ  รู้ว่าเงินภาษีเป็นของประชาชนทุกคน  

ไม่ใช่ของนักการเมือง

 

ปัญหามันอยู่ที่นักการเมืองนี่ล่ะท่าน  ถามหน่อยมันมีสักคนมั้ยที่ดีน่ะ

คือมองดูเหมือนมันเลวกันหมด

คนบางกลุ่ม " บังเอิญว่าเยอะ" ก็เลยหันไปเลือก " นักการเมืองที่ซื้อใจ แบ่งผลประโยชน์ให้ "

 

อาจจะหมายถึงวาทะกรรมที่ว่า " โกงแล้วแบ่ง "

 

เพราะนักการเมืองที่บอกว่าตัวเองขาวสะอาด โจมตีนักการเมืองที่โกง

 

นักการเมืองกลุ่มนั้นยังทำตัวไม่ให้เห็นความแตกต่างจาก " นักการเมืองที่โกงเลยแม้แต่น้อย "

 

หากมีนักการเมืองสักพรรค สักกลุ่ม ที่ทำตัวขาวสะอาดจริง คงมีคนเลือกเยอะไม่น้อย

 

 

ถ้าคนส่วนใหญ่มันเลือกคนดี คนเลวๆมันจะได้เข้ามาเป็นนักการเมืองหรือเปล่า

 

 

ปัญหามันอยู่ตรงนี้ล่ะท่าน  " คนดี " มันมีให้เลือกหรือเปล่า หรือมันไม่ดีพอๆกัน  หากมีคนดีจริง เค้าก็เลือกกันแล้วล่ะ

 

ทุกวันนี้มีสองพรรคใหญ่แข่งกันทุกคนรู้อยู่แล้ว

 

คำถามคือ " พรรคประชาธิปัตย์ กับ พรรคเพื่อไทย " พรรคไหนดีกว่ากัน เป็นคำถามที่ให้คนในประเทศเลือก

 

หากวันใดที่พรรคประชาธิปัตย์ " แสดงตัวให้เห็นว่าดีกว่าพรรคเพื่อไทย " เมื่อนั้นคนย่อมเลือก

 

แต่ที่คนไม่เลือกเพราะอะไร " เพราะประชาธิปัตย์ยังแสดงตัวไม่ให้เห็นว่าดีกว่าพรรคการเมืองอื่นอย่างไรหรือเปล่า"

 

ความจริง ประชาธิปัตย์ ไม่ได้แพ้เพราะการซื้อเสียง

 

แต่พรรคประชาธิปัตย์แพ้ " เพราะซื้อใจคนไม่ได้ต่างหาก"


ใจร่มๆ


#48 istyle

istyle

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,393 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 17:48

มันไม่เกี่ยวกับวุฒิการศึกษา  แต่สิ่งที่จำเป็นสำหรับประชาชนทุกคนคือ  
 
ความรู้ความเข้าใจด้านการเมืองที่ถูกต้อง  
 
 
 
ผมมีเพื่อนอยู่คนนึงมันเรียนพยาบาล  มันบอกว่าการเมืองน่าเบื่อ  ทำมาหากินไปดีกว่า
 
กับคุณลุงอีกคนหนึ่งแกถีบซาเล้งเก็บของเก่า  แต่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่ตลอด
 
ถ้าในความคิดผมผมว่าลุงแกควรจะได้มากกว่าหนึ่งเสียงนะ  เพื่อนผมมันน่าจะได้ครึ่งเสียง
 
แต่ในความเป็นจริงแล้วมันเป็นไปได้ยาก  เพราะมันไม่มีเครื่องวัดความรู้ด้านการเมืองก่อน
 
การเลือกตั้ง  
 
 
 
ปัญหาคือ  เราจะทำอย่างไรให้คนที่พร้อมและมีความเข้าใจด้านการเมืองที่ถูกต้อง  ให้คนกลุ่มนี้
 
มีสิทธิมีเสียงมากกว่า  คนที่ไม่รับไม่รู้ด้านการเมืองอะไรเลย  ยกตัวอย่างการเลือกตั้ง  
 
เราตัดสิทธิ์คนที่ไม่ไปเลือกตั้ง  ไม่สามารถสมัครรับเลือกตั้ง  หรือลงชื่อถอดถอนหรือเสนอร่างกฎหมายได้
 
เช่นเีดียวกัน  
 
 
สรุป
 
คนที่ไม่สนใจทางการเมือง  เอาแต่ดูว่านโยบายประชานิยมไหนถูกใจ  
หรือใครให้เงินเพื่อซื้อเสียงแล้วก็กาเลือกพรรคนั้น
"ไม่ควรมีสิทธิ์มีเสียง"  
เท่ากับคนที่เลือกตั้งอย่างเข้าใจ  รู้ว่าเงินภาษีเป็นของประชาชนทุกคน  
ไม่ใช่ของนักการเมือง

 
ปัญหามันอยู่ที่นักการเมืองนี่ล่ะท่าน  ถามหน่อยมันมีสักคนมั้ยที่ดีน่ะ
คือมองดูเหมือนมันเลวกันหมด
คนบางกลุ่ม " บังเอิญว่าเยอะ" ก็เลยหันไปเลือก " นักการเมืองที่ซื้อใจ แบ่งผลประโยชน์ให้ "
 
อาจจะหมายถึงวาทะกรรมที่ว่า " โกงแล้วแบ่ง "
 
เพราะนักการเมืองที่บอกว่าตัวเองขาวสะอาด โจมตีนักการเมืองที่โกง
 
นักการเมืองกลุ่มนั้นยังทำตัวไม่ให้เห็นความแตกต่างจาก " นักการเมืองที่โกงเลยแม้แต่น้อย "
 
หากมีนักการเมืองสักพรรค สักกลุ่ม ที่ทำตัวขาวสะอาดจริง คงมีคนเลือกเยอะไม่น้อย
 
ถ้าคนส่วนใหญ่มันเลือกคนดี คนเลวๆมันจะได้เข้ามาเป็นนักการเมืองหรือเปล่า
 
ปัญหามันอยู่ตรงนี้ล่ะท่าน  " คนดี " มันมีให้เลือกหรือเปล่า หรือมันไม่ดีพอๆกัน  หากมีคนดีจริง เค้าก็เลือกกันแล้วล่ะ
 
ทุกวันนี้มีสองพรรคใหญ่แข่งกันทุกคนรู้อยู่แล้ว
 
คำถามคือ " พรรคประชาธิปัตย์ กับ พรรคเพื่อไทย " พรรคไหนดีกว่ากัน เป็นคำถามที่ให้คนในประเทศเลือก
 
หากวันใดที่พรรคประชาธิปัตย์ " แสดงตัวให้เห็นว่าดีกว่าพรรคเพื่อไทย " เมื่อนั้นคนย่อมเลือก
 
แต่ที่คนไม่เลือกเพราะอะไร " เพราะประชาธิปัตย์ยังแสดงตัวไม่ให้เห็นว่าดีกว่าพรรคการเมืองอื่นอย่างไรหรือเปล่า"
 
ความจริง ประชาธิปัตย์ ไม่ได้แพ้เพราะการซื้อเสียง
 
แต่พรรคประชาธิปัตย์แพ้ " เพราะซื้อใจคนไม่ได้ต่างหาก"

ซื้อใจคนโดยการบอกว่า

ไม่เลือกไม่ได้เงินจำนำข้าว??

ไม่เลือกไม่ได้ค่าแรง 300??

#49 Bourne

Bourne

    สายลับ ๆ ล่อ ๆ หัดเกรียน

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,471 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 18:06

ตราบใดที่คนประเทศยัง ขูดต้นไม้ขอหวย ไหว้หมูหกขา ลอดใต้สะพานลอยข้ามถนน และใช้วิธีเผาบ้าน-เผาเมืองเพื่อไล่นักการเมืองที่ตัวเองไม่ชอบ

1 คน 1 สิทธิ์ คงไม่เหมาะด้วยประการทั้งปวง


ภาระกิจหลักของผมบนบอร์ดเสรีไทย คือ ด่าควายครับ เรื่องคิดต่างผมรับได้ แต่เรื่องคิดชั่วผมรับไม่ไหวครัช

#50 Bayonet

Bayonet

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,235 posts

ตอบ 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 18:10

ถ้าเลือกตั้งสิทธิมันต้องเท่าเทียมกันเพราะกฏหมายไม่ได้บังคับเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มนึง

แต่ถ้าเรื่องอื่นกุลีเท่าบันฑิตเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่ประเทศแก้ปัญหาความเชื่อบางอย่างไม่ได้หรือยากอยู่แล้ว เมื่อความรู้ต่างกัน

ทัศนคติต่างกันเราต้องแก้ที่กฏเท่านั้นเพื่อให้คนที่คิดต่าง ความเชื่อต่างๆ สังคมที่อยู่ต่างกัน

สามารถอยู่ได้โดยใช้ความคิดเดิมๆไม่ต้องไปแก้ไขความเชื่อแต่เวลาจะทำอะไรก็จะเป็นมาตรฐานเท่ากับคนกลุ่มอื่นต่างหาก

เช่นเลือกตั้ง เราไม่สามารถแก้ความเชื่อได้ง่ายๆอยู่แล้วเพราะฉะนั้นเราปล่อยใหเขาเชื่อต่อไปแต่เราก็ไปแก้ที่กฏการเลือกตั้ง

เพิ่มการตรวจสอบการโกง เพิ่มโทษถ้าจับได้ โดยยึดถือมาตราฐานว่ากฏต้องทำให้กุลีหรือบันฑิตใช้กฏนี้แล้วการเลือกตั้งจะออกมาเป็นมาตรฐาน

จากทัศนคติของทุกฝ่ายได้อย่างเป็นมาตรฐานที่ดีที่สุดนั้นละคือการแก้ปัญหาที่แท้จริง

 

แนวคิดโง่ๆแบบนี้ผมได้ยินจากไอพวกนี้นะ ชอบเอาศักดินา ชอบเอาความรู้มาวัดคุณค่าคน 

หรือไม่ก็พวกนักวิชาเกินจากท่าพระจันทร์เนี่ยละ ( ตกใจมากกลางหน้าfacebookใหญ่สุดๆไม่รุ้จ่ายไปเท่าไร)

 

ผมเห็นด้วยตามที่เน้นครับ   ในระบอบประชาธิปไตยคงไปจำกัดสิทธิใครให้ด้อยหรือต่ำกว่าอีกคนไม่ได้

 

เราสามารถสร้างกฏเกณฑ์ กฏเหล็ก เพื่อกีดกัน+คัดตัวเลือกที่ไม่ดีออกไป   ปัจจุบันเรามีกฏว่าผู้สมัคร สส. ต้องไม่เคยเป็นผู้ที่ศาลสั่งจับคุกในคดีทุจริตคอรัปชั่น หรือคดีอาญาใด ๆ

 

แต่ดูท่าทางกฏปัจจุบันไม่สามารถสกัด บรรดา สส.ศรีธนญชัย เขี้ยวลากดิน ได้

 

นี่จึงเป็นที่มาของกระแส  "ปฏิรูปประเทศ"

 

 

แต่ผมว่าที่พวกเรากำลังโพสแนวความคิดทั้งหลายเนี่ย  น่าจะเกินระดับสติปัญญาของนาย เกลื้อนทายาหน้าตาทราม  ไปแล้วนะครับ  สมองเค้าถึงรับไม่ได้
 


Edited by Bayonet, 3 มกราคม พ.ศ. 2557 - 18:34.





ผู้ใช้ 2 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 2 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน