เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก
ข่าวสด
นิสิต ม.เกษตรฯ จุดเทียนแห่งเสรีภาพ รณรงค์หยุดความรุนแรง ร่วมกับประชาชนที่มางาน พร้อมตะโกน เลือกตั้งไม่เอาเทือกตั้ง โดยเผยว่า แม้จะเห็นด้วยกับการปฏิรูปประเทศ แต่ขอให้ยึดหลักกฎหมายและระบอบประชาธิปไตย
เมื่อวานนี้ (9 มกราคม 2557) ที่ลานหน้าหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กลุ่มนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดกิจกรรม
"จุดเทียนแห่งเสรีภาพ หยุดสร้างเงื่อนไขไปสู่ความรุนแรง" โดยมีนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และประชาชนทั่วไปทยอย
เข้าร่วมมากกว่า 300 คน ซึ่งส่วนใหญ่แต่งกายด้วยเสื้อสีขาว
นอกจากนี้ ยังมีประชาชนกลุ่มหนึ่งที่เข้าร่วมชูป้ายระบุข้อความต่าง ๆ อาทิ Respect my vote, Election & Peace, คัดค้านกบฏสุเทพยึดกรุงเทพ เป็นต้น พร้อมตะโกนว่า ไม่เอาเทือกตั้ง ต่อมามีประชาชนอีกกลุ่มเดินขบวนเข้ามาพร้อมถือป้ายข้อความระบุว่า รักกรุงเทพ รักประเทศไทย หยุดความรุนแรง 2 กุมภาพันธ์ 2557 ไปเลือกตั้ง โดยมีชื่อกลุ่มเขียนไว้ที่ด้านล่างของป้ายว่า ประชาคมคนบางเขน
จากนั้นได้มีการแจกเทียนและกระดาษแผ่นเล็กให้เขียนแสดงความคิดเห็น เพื่อแปะไว้บริเวณทางเข้าหอประชุมใหญ่ อาทิ 1 คน = 1 เสียง, ต่อต้านรัฐประหาร คัดค้านกบฏ, เราจะยอมรับสันติวิธีโดยแท้จริง ไม่ใช่การปลุกปั่นยุงยงให้ใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ, ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพ แต่ไม่ควรละเมิดหรือสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น และต้องการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ เป็นต้น
ต่อมาได้มีการเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ โดยส่วนใหญ่ต่อต้านการปิดกรุงเทพฯ เพราะได้รับความเดือดร้อนในการเดินทางไปประกอบอาชีพ และนักเรียนนักศึกษาไม่สามารถไปเรียนหนังสือได้ จึงมีการเรียกร้องประชาธิปไตยและขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมเคารพสิทธิ์ของประชาชน พร้อมสนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง
จากนั้นในเวลา 18.15 น. ทุกคนร่วมกันจุดเทียนโดยหันหน้าไปทางหอประชุมใหญ่พร้อมอ่านแถลงการณ์มีความว่า... ด้วยเจตจำนงเสรีอันบริสุทธิ์ เราในฐานะประชาชน ผู้ซึ่งรักและเชื่อมั่นในสันติภาพ และประชาธิปไตย ขอใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ในด้านการรวมกลุ่มและแสดงออก และขอกล่าวถ้อยแถลงข้อเรียกร้องร่วมกันดังนี้
เราประชาชนเชื่อว่าหนทางที่ดีที่สุดในการจัดการความขัดแย้ง คือการพูดคุย เจรจาอย่างสันติ หาใช่การหยิบจับอาวุธ อารมณ์ อคติ และสร้างวาทกรรมความเกลียดชังออกมาเพื่อฟาดฟันกัน ซึ่งยังผลให้มีแต่ความสูญเสียอย่างสูญเปล่า ตลอดช่วงเวลาของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ดังนั้นเราจะทำทุกวิถีทาง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ และป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรง
เราประชาชนผู้เชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตย เรายอมรับความแตกต่าง แต่เราจะไม่ยินดีที่จะเห็นความแตกแยก เราเคารพในหลักความเสมอภาค เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เราสนับสนุนการแสดงออกทางการเมืองของคนทุกคน ตราบเท่าที่การแสดงออกนั้นอยู่ภายใต้กรอบแห่งกฎหมาย ตราบเท่าที่การแสดงออกนั้นไม่เป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น
เราประชาชนขอคัดค้านการแสดงออกทางการเมืองที่เป็นการละเมิดกฎหมาย และละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น เราต่างเข้าใจตรงกันว่า ประเทศไทยของเราในตอนนี้มีปัญหาต่าง ๆ มากมาย ที่จำเป็นจะต้องได้รับการแก้ไข จำเป็นต้องได้รับการปฏิรูป แต่เราก็เชื่ออีกว่า ปัญหาทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น
เราเชื่อว่ามนุษย์ทุกคน มีคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน เราเชื่อว่ามนุษย์ทุกคน ต้องมีสิทธิและเสรีภาพเท่าเทียมกัน ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นไปได้ เนื่องด้วยเราต่างก็อยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน
ท้ายที่สุด เราในฐานะมนุษย์และประชาชน ผู้ซึ่งรักและเชื่อมั่นในสันติภาพ และประชาธิปไตย ขอประกาศว่าจะยืนหยัดอยู่ข้างหลังการที่เรายึดถือ เราจะยืนยันด้วยใจที่มั่นคง ต่อความซื่อตรงที่เราต่างบูชา เราออกมายืนตรงให้โลกได้เห็น ด้วยความภาคภูมิใจในศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน และเราจะยืนยันอยู่ที่จุดยืนนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นผู้เข้าร่วมงานทั้งหมดต่างพร้อมใจกันตะโกนว่า เลือกตั้งไม่เอาเทือกตั้ง และประชาชนจงเจริญ โดย นายณภัทธ์ นรังศิยา นิสิตชั้นปีที่ 4 ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตัวแทนกลุ่มที่จัดกิจกรรม เผยว่า กิจกรรมนี้เกิดขึ้นจากการรวมตัวของนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งเห็นว่าสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบันสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรง ประกอบกับขณะนี้มีกลุ่มต่าง ๆ ออกมาทำกิจกรรมจุดเทียนรณรงค์ยึดหลักสันติภาพ จึงร่วมกับเพื่อนช่วยกันจัดกิจกรรมขึ้นมา
นายณภัทธ์ กล่าวต่อว่า เราเห็นว่าการเลือกตั้งเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการจัดการความขัดแย้ง และสามารถวัดเสียงของประชาชนในประเทศได้มากที่สุด
สิ่งที่เราต้องการเรียกร้องคือสันติภาพ ไม่ต้องการความรุนแรง ต้องการความเป็นประชาธิปไตย เคารพสิทธิ์คนอื่น และรณรงค์ให้ไปเลือกตั้ง
สำหรับคนที่เห็นต่าง ตนมองว่าเป็นเรื่องปกติ การที่พวกเราออกมาไม่ได้หมายความว่า เราทำถูกแล้วเขาผิด แต่ทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพที่จะแสดงออกได้ตามรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ ตนเห็นด้วยกับข้อเสนอการปฏิรูปของกลุ่ม กปปส. แต่เราจะแก้ไขโดยยึดหลักกฎหมายและระบอบประชาธิปไตย