Jump to content


Photo
- - - - -

"ประชานิยม" ต้นเหตุความขัดแย้งในสังคมไทย


  • Please log in to reply
3 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 DaNGeR

DaNGeR

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 33 posts

ตอบ 10 มกราคม พ.ศ. 2557 - 15:39

สิ่งที่เราเป็นอยู่ทุกวันนี้ ที่ขัดแย้งกันอยู่ทุกวันนี้ ต้นเหตุเกิดจาก "นโยบายประชานิยม" ทั้งหลายแหล่ที่ทางฝั่งทักษิณคิดและทำขึ้นมา ถ้าจะปฎิรูปการเลือกตั้งในไทย ต้องกำหนดว่าการหาเสียงต้องไม่เน้นนโยบายประชานิยม หรือไม่มีนโยบายประชานิยมเลย

 

เสื้อแดงเห็นต่างแสดงความเห็นได้นะครับ

 

นโยบายประชานิยม ชื่อก็บอกในตัวอยู่แล้ว คือประชาชนนิยม แต่ประเทศชาติไม่นิยม ดีต่อคนกลุ่มหนึ่ง แต่ทำความเสียหายต่อประเทศชาติ และกลุ่มคนโดยรวม และเรื่องนโยบายประชานิยม พลพรรคของทักษิณจะเก่งเรื่องนี้ที่สุด ที่จะคิดค้นนโยบายประชานิยมออกมา ทุกวันนี้คนเสื้อแดง ลิ่วล้อ พลพรรคต่างๆ เค้าไม่ได้ถูกซื้อสิทธิ์ขายเสียงกันหรอกครับ แต่เค้าถูกซื้อใจกันด้วย นโยบายประชานิยม นี่แหละ ลองวิเคราะห์ตามกันดีๆครับ

 

ฝั่งที่ไม่เอาทักษิณมักจะหลอกตัวเองเสมอๆ ด้วยคำว่า ซื้อเสียง ขายเสียง แต่ปัจจุบัน มันมีบทวิเคราะห์ วิจัยออกมานับไม่ถ้วน ว่าการซื้อเสียง แทบไม่มีผลต่อการเลือกตั้งเลย มันมีแค่ไม่ถึง 5% จากคนที่ถูกซื้อเสียงทั้งหมดที่จะเลือกเพราะถูกการซื้อเสียงจริงๆเท่านั้น นอกนั้นเค้ารับเงินก็ไม่ได้ขายเสียง แต่สิ่งที่ซื้อเค้าได้ คือ นโยบายประชานิยม นโยบายเหล่านี้เป็นตัวบ่อนทำลายประเทศชาติ และชนชั้นกลาง-สูง เนื่องจากประเทศไทยนั้น โครงสร้างประชากรของคนจนยังมีอยู่เยอะมากกว่าคนรวย หรือคนชั้นกลางในสังคมไทย คนจนไม่ได้โง่ เค้าเลือกเพราะเค้าได้รับประโยชน์ เค้าเลือกเพราะเค้าเห็นว่าพัฒนาเค้าเองและครอบครัวได้ แต่เค้าไม่รู้หรอกว่านโยบายเหล่านี้สร้างความเสียหายให้กับส่วนรวมและประเทศชาติอย่างไรบ้าง หยุดนโยบายประชานิยมเสียตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้ประเทศก้าวสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริงและเป็นประโยชน์ของประเทศชาติอย่างแท้จริง ... ปฎิรูปก่อนการเลือกตั้ง

 

วิเคราะห์ตามเหตุตามผล นโยบายประชานิยม เป็นอย่างไร ดีและเสียอย่างไร ตัวอย่างเช่น นโยบาย รถคันแรก, ค่าแรงขั้นต่ำ 300, หรือหมื่นห้า/เดือน, นโยบายจำนำข้าว, นโยบาย 2000 บาทของ ปชป.ก็เป็นนโยบายประชานิยม

 

วิเคราะห์ง่ายๆนโยบายประชานิยม จะไม่ใช่นโยบายที่สาธารณชนได้ประโยชน์ จะไม่มีทรัพย์สินออกสู่สาธารณชน และคนจำนวนหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่งเท่านั้นที่ได้ประโยชน์ แต่ในระยะยาวแล้วประเทศไม่ได้อะไรเลย เช่น รถคันแรก ใครได้ประโยชน์? ตอบคือคนที่ออกรถคันแรกทั้งหลายแหล่พากันได้คนละแสน แล้วประเทศได้อะไร ผลลัพธ์คือคนรากหญ้า หรือคนที่ออกรถคันแรกมีรถใช้งานกันถ้วนหน้า ทำให้คนพากันเข้าสู่ยุควัตถุนิยมมากขึ้น เห็นวัตถุนิยมมาก่อนประโยชน์ของสาธารณะ คนเหล่านี้ที่ได้ผลประโยชน์ส่วนใหญ่เป็นคนพื้นฐานไม่สามารถที่จะมีรถได้ คนที่รวยแล้วจะไม่เห็นประโยชน์ต่อนโยบายนี้ ดังนั้นผลเสียที่ตามมามีใหญ่หลวงคือ ธุรกิจรถมือสองตกต่ำ, ประเทศเข้าสู่ยุควัตถุนิยม, ประเทศสูญเสียภาษีแทนที่จะนำไปพัฒนานโยบายสาธารณะกลับต้องไปจ่ายให้คนที่ออกรถคันแรกไปหลายแสนล้าน, เกิดปัญหารถติด, ถนนไม่พอใช้ ตามมา และปัญหาต่างๆอีกมากมาย ถามว่าประเทศได้อะไรกลับมาบ้างที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะชน ไม่มีครับ มีแต่ของใช้ส่วนตัวที่เป็นรถหนึ่งคันที่แต่ละบ้านที่ออกรถคันแรกเค้ามีใช้งานก็แค่นั้น แล้วจะให้ประเทศพัฒนาได้อย่างไร ในเมื่อคนยังเห็นว่านโยบายเหล่านี้ดีอยู่ ผมไม่เถียงนะนโยบายเหล่านี้ทำให้ผู้คนพากันเลือกเพื่อไทยขึ้นมาเป็นรัฐบาลเพราะอยากได้ผลประโยชน์นี้ ไม่ใช่เลือกมาจากการขายเสียง แต่เคยคิดถึงผลเสียของนโยบายเหล่านี้ต่อประเทศหรือไม่ ผมถึงกล้าพูดว่าสิ่งที่ทำให้เพื่อไทยและฝั่งทักษิณได้เป็นรัฐบาลไม่ใช่การซื้อเสียง แต่เป็นการซื้อใจ จากนโยบายประชานิยมเหล่านี้มากกว่า

 

วิเคราะห์ต่อ นโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท/วัน หรือ 15000 บาทต่อเดือนสำหรับ ป.ตรี นโยบายนี้ใครได้ประโยชน์ ตอบคือคนกลุ่มหนึ่งที่จบ ป.ตรีและค่าแรงไม่ถึง 15000 บาท และคนกลุ่มชนชั้นแรงงานที่ค่าแรงไม่ถึง 300 บาทต่อวัน แล้วใครเสียประโยชน์ คือกลุ่มนายจ้าง ที่ต้องแบกรับภาระการจ้างงานให้มากขึ้น ซึ่งคุณภาพของงานและผลงานไม่ได้มากตามไปด้วยเลย สิ่งที่ตามมาคือกลุ่มนายจ้างบางรายรับภาระไม่ไหว ต้องประกาศปิดบ้าง ไม่จ่ายโบนัสบ้าง ออกมาประท้วงบ้าง แล้วถามกลับว่าคนกลุ่มไหนมีมากกว่ากัน ถ้าเรายังใช้คำว่าประชาธิปไตย แน่นอนกลุ่มลูกจ้างมีมากกว่า แต่ละคนมี 1 สิทธิ์ 1 เสียงเท่ากัน เลือกพรรคนี้เข้ามาให้นโยบายนี้แก่เขา กลุ่มนายจ้างไม่ได้มีจำนวนมากเท่ากลุ่มลูกจ้าง ย่อมเสียสิทธิ์ทั้งๆที่เขาเป็นคนเสียผลประโยชน์เหล่านั้น ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างชนชั้นนายจ้างกับลูกจ้างเกิดขึ้น เกิดเป็นปัญหาสังคมวงกว้างไปทุกๆหน่วยงานที่ได้รับผลกระทบ

 

นโยบายจำนำข้าว เหตุใดจึงเกิดปัญหาและเกิดความเสียหายหลายแสนล้านให้กับประเทศ เพราะเค้าต้องการเอาใจชาวนา ชาวนาในไทยตามที่เราทราบกันดีว่าเป็นอาชีพหลักของไทย ต่างได้รับผลประโยชน์ ผมไม่แปลกใจเลยที่ชาวนาจะเลือกเพื่อไทยเข้ามาบริหาร เพราะลุงผมเองก็ได้อานิสงค์จากนโยบายนี้ไปสองแสน ทำไมจะไม่มีใครชอบ แต่ถามกลับว่าประเทศได้อะไรจากนโยบายนี้ อุ้มคนในประเทศได้จริงแต่ประเทศเสียหายหลายแสนล้าน เพราะราคาข้าวของตลาดโลกมันไม่ถึงราคาที่รัฐจำนำไว้ ประเทศต้องใช้เงินภาษีจากประชาชนไปอุ้มชาวนา เพื่อให้ราคาข้าวตามนโยบายที่รัฐออก ซึ่งมีมูลค่าหลายแสนล้านมากกว่ารถคันแรก แทนที่จะนำเงินส่วนนี้ไปพัฒนาด้านอื่นๆที่สร้างความเจริญให้กับประเทศอย่างแท้จริง เช่นนโยบายสาธารณะต่างๆ ความจริงผมมีข้อมูลแต่ในบทความนี้ผมขอเน้นไปทางการวิเคราะห์มากกว่าการนำเสนอข้อมูล แล้วอยากให้ทุกท่านคิดถึงผลเสียที่ตามมาอย่างแท้จริง ผมเห็นด้วยนะครับกับนโยบายสาธารณะอย่างเช่นโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง และถนนรางคู่ ฯลฯ ต่างๆที่เป็นนโยบายสาธารณะจริงๆ ไม่ใช่เพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้ประโยชน์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องมีความเหมาะสมของตัวเงินและที่มาที่ไปของโครงการชัดเจน ผมว่าทุกๆคนยอมรับได้และพร้อมจะให้มันมีเกิดขึ้น ไม่มีใครอยากให้ประเทศล้าหลังหรอกครับ แต่ที่เรากำลังเถียงกันอยู่คือประเด็นที่ว่า เราต้องปฎิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง ไม่งั้นการเลือกตั้งก็ไม่พ้นนำนโยบายประชานิยมเหล่านี้พาให้พรรคพวกตัวเองกลับมาเป็นรัฐบาลอีก

 

ผมยอมรับการเลือกตั้ง ถ้าจะมาจากประชาธิปไตยอย่างแท้จริงปลอดจากนโยบายประชานิยม หรือมีนโยบายประชานิยมน้อยที่สุดในการหาเสียง สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะพื้นที่ฝั่งอีสาน/เหนือ นั้นพรรคเพื่อไทยได้ใช้นโยบายประชานิยมหล่อเลี้ยงมาเนิ่นนานจนพรรคอื่นๆไม่สามารถแข่งได้ด้วยนโยบายประชานิยมต่างๆได้แล้ว เนื่องจากเหมือนคนของพื้นที่คนในจังหวัดก็เลือก ผมเปรียบได้กับท่านบรรหารเป็นคนสุพรรณ ลงเลือกตั้งกี่ครั้งคนสุพรรณก็เลือกท่าน เนื่องจากท่านเป็นคนในพื้นที่และทำประชานิยมภายในพื้นที่ของท่านไว้นานแล้ว ยากที่คนอื่นจะมาแข่งขันด้วย

 

ประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องไม่ผูกอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในพรรคเดียว จะต้องมีฝ่ายค้านเสมอครับ แต่สิ่งที่เพื่อไทยทำ รวมเอาฝ่ายค้านต่างๆเข้าหาตัวเองหมด ทิ้ง ปชป. ไว้อยู่พรรคเดียวแล้วมาบอกว่า ปชป.เลือกตั้งกี่ครั้งก็แพ้ แล้วพรรคเพื่อไทยเป็นประชาธิปไตยตรงไหน มีการโหวตให้ใครเป็นหัวหน้าพรรค หรือมีส่วนได้เสียอื่นนอกจากตระกูลชินวัตรหรือไม่ ตราบใดที่คนเสื้อแดงอ้างว่ารักประชาธิปไตย แต่ยังผูกขาดการเลือกตั้งไว้ที่พรรคที่เน้นประชานิยมอย่างพรรคเพื่อไทยหรือทักษิณ ประเทศชาติก็ไม่มีวันเจริญขึ้นหรอกครับ นอกจากท่านจะเห็นว่า ประชาธิปไตย ไม่ผูกอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และเห็นว่าต้องมีฝ่ายค้านเป็นธรรมชาติของคำว่าประชาธิปไตย และท่านต้องให้โอกาสให้ฝ่ายที่ท่านไม่เลือกเดินเข้าไปหาเสียงในพื้นที่ของท่านได้อย่างสง่างาม ไม่มีการโห่ร้องขับไล่ ท่านทำได้ไหม นี่แหละคือประชาธิปไตยที่แท้จริง


Edited by DaNGeR, 10 มกราคม พ.ศ. 2557 - 15:42.


#2 MuuSang

MuuSang

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,604 posts

ตอบ 10 มกราคม พ.ศ. 2557 - 16:56

ประชานิยม = ยาเสพติด


แม้นใครรัก รักมั่ง ชัง ชังตอบ

#3 เสือยิ้มยาก

เสือยิ้มยาก

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,695 posts

ตอบ 10 มกราคม พ.ศ. 2557 - 16:58

ถูก.... แต่ประชานิยม ไม่ใช่ทั้งหมดของความขัดแย้ง

 

ความขัดแย้งทั้งหมด มาจาก ทักษิณ ชินวัตร :D 


        shotgun.gif       d444.gif        cheesy.gif

 


#4 ริวมะคุง

ริวมะคุง

    ห้ามให้อาหารสัตว์

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,577 posts

ตอบ 10 มกราคม พ.ศ. 2557 - 17:05

ก็ได้แต่สอนคนรุ่นใหม่ว่าอย่าให้เงินมาซื้ออนาคตของชาติบ้านเมือง

 

พวกรุ่นเก่ายากที่จะแก้แล้วรอให้แห้งตายอย่างเดียว


Posted Image




ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน