การที่ทักษิณวิ่งเต้นเพื่อให้ UN เข้ามาแทรกแซงในไทย ถือเป็นการขายชาติ ขายแผ่นดิน เพียงถือหวังให้ตัวเองอยู่ในอำนาจต่อไป
แม้ที่ผ่านมา ทักษิณพยายามยกแผ่นดินไทยให้ประเทศเพื่อนบ้านทำสำเร็จแล้วบางส่วน แต่ก็ยังติดปัญหาอยู่เล็กน้อย มันทำให้เห็นธาตุแท้ของทักษิณ ที่ยอมทุกอย่างได้หากตัวเองและครอบครัวได้รับผลประโยชน์ ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่รับไม่ได้จนเกิดข้อเรียกร้องให้ปฏิรูปการเมืองขึ้น แต่นั้นไม่ได้ทำให้ทักษิณคิดเลยแม้แต่น้อย
วันนี้สิ่งที่ทักษิณต้องการมากที่สุดคือทำให้เกิดสงครามกลางเมือง เพื่อเป็นเหตุให้ UN เข้ามาแทรกแซง ทุกอย่างจึงจัดฉากไว้เรียบร้อยแล้ว กองกำลังพร้อม เงินทุนพร้อม จึงเหลือเพียงการจุดกระแสให้ลามไปทั่วประเทศ มีการปลุกปั้นคนเสื้อแดงในภาคอีสานและเหนือ โดยใช้แนวคิดในการแบ่งแยกประเทศออกเป็นเหนือและใต้ เพื่อให้คนไทยฆ่ากันเอง หลังจากนั้นก็จะให้ UN เข้ามาจัดการเหมือนบางประเทศที่ UN ทำสำเร็จมาแล้ว
คำถามจึงมีว่า คนไทย ยอมรับกับสิ่งนี้ได้หรือไม่
แผนของทักษิณตอนนี้ใกล้สำเร็จแล้ว เมื่อ UN โดยการชี้นำของสหรัฐ รับลูกเต็มที่ รอเพียงให้การสงครามกลางเมืองขึ้นเท่านั้น
งานนี้ก็คงต้องรอดูกันไปว่า ทักษิณจะทำงานนี้สำเร็จหรือไม่ เพราะทักษิณคิดอย่างเดียวว่า แม้แพ้ก็ไม่มีอะไรเสีย แต่ชนะทักษิณจะได้ทุกอย่างกลับคืนมาทั้งหมด แม้จะต้องอยู่เป็นทาสสหรัฐก็ตาม ก็คงไม่ต้องถามว่าแล้วทักษิณคิดอย่างไรกับคนไทยทั้ง 65 ล้านคน คงไม่ต้องพูดหลายคนก็คงรู้คำตอบดีว่าทักษิณไม่เคยคิดถึงใครนอกจากตัวเอง
แต่สำหรับผมกลับคิดว่างานนี้สงครามกลางเมืองคงไม่ได้เกิดง่ายๆ เพราะหากดูจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 51 - 53 ที่ตอนนั้นทักษิณดูเหมือนมีความพร้อมมากกว่าปัจจุบัน ทักษิณได้กระแสจากคนรากหญ้า คนชั้นกลางบางส่วน มีแกนนำที่มีฝีปากกล้า แถมด้วยมีกองกำลังติดอาวุธ มีกองกำลังจากตำรวจ มีนักการเมืองในสภา มีภาคธุรกิจเอกชนบางส่วนก็ตาม แต่ทักษิณก็ยังทำให้เกิดขึ้นไม่ได้ ผิดกับตอนนี้ที่ดูเหมือนสิ่งเหล่านี้มันเริ่มไม่ทำงานกันบางแล้ว
ก็คงต้องดูกันต่อไปว่า ถ้าสำเร็จคนไทยทั้งประเทศไม่ว่าคนเสื้อเหลือง เสื้อแดง หรือเสื้อสีอะไร รับผลกระทบทั้งหมด ไม่เชื่อลองศึกษาบางประเทศที่ UN เข้าไปแทรกแซงได้สำเร็จว่าประเทศนั้นเขาอยู่กันอย่างไร ที่เห็นได้ชัดคือ ตีมอ ที่พอ UN เข้าไปจัดการสิ่งแรกที่รัฐบาลทำคือ การขายทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ทั้งหมดให้กับต่างชาติ แล้วคนในชาติเป็นทาสใช้แรงงานประชาชนถูกกดขี่ ไม่มีใครมีสิทธิเรียกร้องอะไรจากรัฐบาล โดยอ้างว่าเพื่อตอบแทนบุญคุณกับต่างชาติเหล่านั้น นี่ก็คือผลตอบแทนที่ประชาชนรบล่าฆ่าฟันกัน ก็เพื่อให้กับต่างชาติที่เข้ายึดครองทั้งหมด ติมอจึงไม่ต่างเป็นเมืองขึ้นที่ต้องส่งเครื่องบัณณาการทั้งหมดให้ไป คนในชาติไม่มีสิทธิ ไม่มีเสียง ใดๆ ที่จะออกมาเรียกร้องหาประชาธิไตยหรือแม้แต่เรียกร้องขออาหารกินประทังชีวิตด้วยซ้ำไป
หรือแม้แต่ในอีรัก ที่ก็ยังเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ UN ได้เข้าไปจัดการแล้วก็ตาม ประชาชนยังคงล้มตายกันแทบทุกวันจากระเบิดของแต่ละฝ่าย UN ก็ดูเหมือนไม่ได้ทำอะไร เพราะหน้าที่หลักคือการคุ้มครองแหล่งน้ำมันให้กับสหรัฐ คำถามเมื่อมีตัวอย่างอย่างนี้แล้วคนไทยจะเอาอย่างนั้นหรือ
แต่สำหรับผมคงคิดในทางดีว่า คนไทยทุกคนย่อมรู้และตระหนักดีว่าเมื่อมีคนชักศึกเข้าบ้าน เมื่อนั้นเราจะร่วมกันต่อต้านเหมือนกับอดีตที่ผ่านมา คนไทยไม่เคยยอมตกเป็นทาสใคร คนไทยมีความเป็นไทยได้ถึงทุกวันนี้เพราะความรักความสามัคคีของคนในชาติ แม้ผมจะคิดว่า สงครามกลางเมืองจะไม่มีความเกิดขึ้นในไทย เพียงเพราะคนๆ เดียวที่คอยปั่นหัวคนไทยอยู่ เพราะไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยคุ้มครองคุ้มภัยอันตรายแล้ว ยังมีข้าราชการหลายนายที่ไม่ยอมให้เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้น โดยเฉพาะทหาร ที่พร้อมจะป้องกันเหตุ และยังมีคนไทยส่วนใหญ่ที่ยังยืนหยัดต่อต้านอยู่
ดังนั้นเพื่อเป็นการแสดงเจตรมณ์อันแรงกล้าของคนไทยที่จะต่อต้านสงครามกลางเมือง จึงอยากให้ทุกคนแสดงพลังต่อต้านระบบทักษิณที่กำลังจะนำประเทศไปสู้หายนะโดยเร็ว ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ผมคงไม่ต้องบอกว่าวันนี้จะทำอะไร เพียงแต่ถ้าเรารวมกันมากๆ จนทำให้โลกหรือ UN ได้รู้ว่า ความต้องการของคนไทยที่แท้จริงคืออะไร ระหว่างระบบทักษิณกับประเทศชาติ
เพียงแต่วันนี้สิ่งที่กลัวเล็กๆ คือ วันจันทร์หากการแสดงพลังมันดูน้อย ไม่พอที่จะข่มขวัญระบบทักษิณได้ วันนั้นคงอันตรายสำหรับคนไทยทั้งประเทศ ที่ทักษิณจะเริ่มแผนชั่วขึ้นมาทันที แต่หากเรามีพลังที่มากพอ ได้ส่งไปให้ UN ย่อมส่งผลดีในหลายๆ ด้าน ด้านหนึ่งคือ ต่างชาติจะทำอะไรไม่ได้มาก และอาจเปลี่ยนใจได้ในที่สุด และอีกด้านคือจะมีการช่วยกันระวังภัยในกันและกัน ทุกคนที่มารวมกันจะเป็นหูเป็นตาให้กับและกัน คนที่จะเข้ามาก่อกวนหรือป่วนย่อมไม่กล้าทำอะไรแน่นอน วันนี้มันจึงเป็นการตัดสินใจของคนไทยทุกคนว่าจะเลือกให้ประเทศไปทางไหน ระหว่างความเป็นไทกับการเป็นทาส