เสื้อเหลืองมีมือตบ ม็อบทักษิณก๊อปทำเป็นตีนตบ
หน้ากากขาวมีหน้ากาก Vม็อบทักษิณก๊อปแล้วดัดแปลงเป็นหน้ากากแดง
ม็อบลุงกำนันเป่านกหวีด ม็อบทักษิณเป่าแตร
ม็อบคปท.+ลุงกำนันถือธงชาติ ม็อบทักษิณทำธงรัฐไทยใหม่
โง่ คิดริเริ่มอะไรเองไม่เป็น ลอกคนอื่นเขาลูกเดียว
พอผมได้อ่านบทความนี้ถึงกับยกมือทาบอก
เอาอีกแล้วขี้ข้าทักษิณ แดงแอ๊บขาว ก๊อปอีกแล้วครับท่าน
http://www.manager.c...D=9570000004526
ว่าด้วย Respect My Vote โดย บัณรส บัวคลี่Respect My Vote ได้กลายเป็นสโลแกนรณรงค์หลักในแคมแปญชาวเสื้อขาวไม่เอาความรุนแรง+รักการเลือกตั้งไปแล้ว
คำๆ นี้คนชุดขาว (เอ๊ะ ที่จริงควรเรียกว่าแดงเปลี่ยนชุดได้ไหม) ไม่ได้คิดเอง ก็อปปี้มาจากเขาอีกทอดแล้วก็มาปรับใช้แบบไทยๆ หมายความทำนองว่าพวกเราอยากเลือกตั้งเคารพพวกเราหน่อย คนเสื้อขาวบางคนที่ไปไล่โห่สาวที่ถือป้ายภาษาอังกฤษว่ามาผิดงาน...งานนี้คนชุดขาวรักทักษิณอาจจะแปลความหมายของ Respect My Vote ไปถึงขั้นว่าให้เคารพเสียงของตัวเองที่เลือกรัฐบาลเพื่อไทยมาพวกม็อบไปไล่เขาทำไม
ซึ่งทั้งหมดล้วนต่างไปจากที่มา ความหมายเดิม
สโลแกนนี้มีที่มาจากสหรัฐอเมริกาเป็นแคมเปญรณรงค์ขององค์กรไม่แสวงกำไร Hiphop caucus เพื่อส่งเสริมสิทธิของเยาวชนผิวสี เขามีความคิดจากผลการศึกษาที่ว่าหากผลักดันหรือทำให้คนออกไปเลือกตั้งติดต่อกัน 3 ครั้งจะมีผลต่อพฤติกรรมการเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเลือกตั้งและการเมืองในระยะยาว ในทางกลับกันมีการศึกษาว่าหากบุคคลไม่ได้ไปร่วมกับกิจกรรมเลือกตั้งประมาณว่าใครจะเลือกไปกูไม่สนติดต่อกันสามครั้งคนๆ นั้นจะนอนหลับทับสิทธิ์ยาวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายสังคมกลไกประชาคมใดอีกเลย
จึงรณรงค์ให้วัยรุ่นผิวสีออกไปใช้สิทธิ์รณรงค์เลือกตั้งกันให้มากๆ เพราะหากมากเพียงพอสังคมทั้งสังคมก็จะมองเห็นพลังของชนกลุ่มนี้ที่ถูกเรียกว่า “ชนกลุ่มน้อย” มายาวนานจะมีผลดีต่อทั้งการให้น้ำหนักการเป็นที่ยอมรับการมีพลังต่อรองและการเป็นส่วนหนึ่งของประชาสังคม เขาได้ทำตอนเลือกตั้งใหญ่ประธานาธิบดีปี 2008 จากนั้นก็ทำต่อเนื่องมาจนปีล่าสุด 2012
แท้จริงแล้วเนื้อหารากเหง้าการรณรงค์ของ Hiphop caucus นั้นก็คือการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและความเท่าเทียมของคนผิวสีอันเป็นชนกลุ่มน้อยในสังคมอเมริกันที่ดำเนินมาต่อเนื่องยาวนานนับจากยุคเลิกทาส สงครามกลางเมือง ยุคเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียม มาร์ตินลูเธอร์ คิง ต่อเนื่องสืบมาจนปัจจุบันที่แม้ว่าคนผิวสีจะได้เป็นประธานาธิบดีก็ตาม
เนื้อหาที่แท้จริงของแคมเปญนี้ก็คือส่งเสริมสิทธิของเสียงส่วนน้อย The Minority Rights นั่นเอง
ตรงนี้ต่างหากที่ผมพบว่ามันมีความขื่นขันอันหัวร่อไม่ออกในปรากฏการณ์ชูป้าย Respect My Vote… เอ้า จริงๆ นะ !
เพราะใครๆ ก็รู้ว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าของผลงานการสร้างขบวนการคนชุดขาวขึ้นมาดังปรากฏหลักฐานภาพถ่ายเซเล็บแดงเอย ชาวเฟซแดงเอย รวมทั้งครอบครัวตำรวจถูกเกณฑ์เปลี่ยนชุดขาวไปจุดเทียนเป็นทิวแถว นั่นเพราะว่าสถานการณ์ตอนนี้พลังสีแดงเอาไม่อยู่แล้ว มีแต่ต้องเชิญชวนคนกลางๆ ที่เขาอึดอัดกับแนวคิดวิธีการของกำนันสุเทพออกมาส่งเสียง ครั้นจะชูธงแดงเชิญคนกลางๆ มาร่วมเขาก็ไม่มาเพราะภาพลักษณ์ของสีแดงมันหนักไปทางบู๊ดุเดือดไล่ฟาดฟันเขา
ใครจะปฏิเสธว่างานนี้เป็นเรื่องของคนกลางๆ เสื้อขาวแท้ๆ แดงไม่เกี่ยวยังไงก็ว่าเถิดก็แหม ธิดา ถาวรเศรษฐยังประกาศชัดเจนด้วยซ้ำว่าให้ชาวเสื้อแดงไปสวมเสื้อขาวสนับสนุนการจุดเทียนเรียกร้องเลือกตั้ง
สิทธิพื้นฐานหนึ่งคนหนึ่งเสียงและประชาธิปไตยต้องมีเลือกตั้งกันน่ะผมไม่เถียง สนับสนุนหลักการนี้วันยังค่ำปัญหาก็คือในโลกของความเป็นจริงต่อให้มีเลือกตั้ง 2 ก.พ.เรื่องก็ไม่จบ เชื่อเหอะไม่มีทางตั้งสภาผู้แทนตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติเอาไว้ได้แน่นอนเพราะขาดผลคะแนนแค่หน่วยเลือกตั้งเดียวปาร์ตี้ลิสต์ก็ประกาศไม่ได้อยู่ดี การชูป้ายเรียกร้องไปก็แค่การแสดงท่าทีเจตนาของกลุ่มตนเท่านั้นแต่ยังไงก็โอเคนะดีกว่ายกพวกตีกัน
แต่ที่มันขื่นขันแอบส่ายหน้าอยู่คนเดียวน่ะมันเป็นเรื่องที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยหยิบสโลแกนของชนกลุ่มน้อยชาวผิวสี Respect My Vote ขึ้นมาใช้นี่รู้หรือไม่ว่ามันลากโยงประหวัดตอกย้ำให้นึกขึ้นได้ว่าปัญหาที่พรรคเพื่อไทยยิ่งลักษณ์ประสบอยู่นี่มาจากการไม่เคารพสิทธิของเสียงส่วนน้อย Minority Rights นั่นแท้ๆ
ไม่อายเลยหรือเอาสโลแกนที่ส่งเสริมสิทธิของเสียงส่วนน้อย Minority Rights มาใช้โดยที่ตัวเองน่ะใช้บาตรใหญ่ละเมิดเสียงส่วนน้อยมาไม่รู้มากมายจนคนทนไม่ได้
ตอนที่มาร์ตินลูเธอร์ คิง จูเนียร์ นำคนผิวสีและชาวอเมริกันผิวขาวที่เห็นด้วยออกมาประท้วงใหญ่ประกาศ I have a dream ที่อนุสาวรีย์ลินคอล์นวอชิงตันดีซี. เมื่อ 1963 มีคนมาร่วมเต็มลานตรงนั้นประมาณ 250,000 คน ประวัติศาสตร์การเมืองยุคใหม่บันทึกว่ามันเป็นจำนวนคนมหาศาลแล้วต้องให้ความเคารพต้องการแสดงออกนั้น ต่อมาก็ปรับปรุงกฎหมายให้สิทธิเสรีภาพต่อชนผิวสีให้เท่าเทียมกับคนผิวขาวมากมาย
นี่แหละคือรูปธรรมของสิทธิเสียงส่วนน้อย ไม่มีอเมริกันชนคนไหนบอกว่าแค่ 2.5 แสนไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ของประเทศ เขาวัดกันที่การแสดงออกและเหตุผลความชอบธรรม เพราะต่อให้ไปเลือกตั้งยังไงชนผิวสีซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 15% ของประชากรก็สู้เสียงส่วนใหญ่ไม่ได้ แต่ที่เขาเรียกร้องคือ “ให้สิทธิเสรีภาพพื้นฐาน” ที่เสียงส่วนใหญ่มาละเมิดไม่ได้ต่างหาก
พรรคเพื่อไทย รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ส.ส.เพื่อไทย ตลอดถึงผู้สนับสนุนจำนวนหนึ่งไม่เข้าใจเรื่องนี้ ในอเมริกาคนออกมา 2.5 แสนเป็นเรื่องใหญ่ต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์มีการเปลี่ยนกฎเกณฑ์ใหม่รับรองสิทธิ์ของชนส่วนน้อย ในไทยออกมา 2.5 ล้านพวกก็ยังเฉยบอกว่าไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่
หลักประชาธิปไตยให้เคารพในสิทธิของส่วนน้อย ต่อให้มีเสียงมากกว่าก็มาละเมิดไม่ได้เช่นให้สิทธิในการตั้งกระทู้ ขอแปรญัตติ ขออภิปราย ต่อให้ยกมือไม่ชนะแต่ก็ได้สิทธิในการพูดแสดงความเห็น นี่เป็นเรื่องพื้นฐานในหลักการพื้นฐานที่สุด แต่พรรคเพื่อไทย ส.ส.เพื่อไทย รัฐบาลยิ่งลักษณ์ คนเสื้อแดงบางกลุ่มไม่เข้าใจ
มาวันนี้ชาวเพื่อไทยเดาะเอาสโลแกนเท่ๆ Respect My Vote ของชาวกลุ่มน้อยมาใช้รณรงค์ ชูป้ายกันไป...ก็ตามสบายเถอะครับ ว่างๆ ก็ช่วยค้นคว้าดูที่มาดูรากเหง้าเนื้อหาที่ลึกลงไปมากกว่าเปลือกด้วยต่อไปจะได้เข้าใจสิทธิและเสียงของฝ่ายข้างน้อยได้ชัดเจนขึ้น
ถ้าจะให้ชัดกว่านั้นประชาชนมีสิทธิ์มีเสียงที่จะโหวตเลือกผู้แทนไปทำหน้าที่ ดังนั้นผู้แทนปวงชนต้องเป็นผู้แทนของประชาชนจริงๆ ไม่ใช่เข้าไปแล้วไปรับคำสั่งเจ้านายใหญ่เพียงคนเดียว อันนั้นก็ไม่ใช่การ Respect My Vote เช่นกัน
ชูป้ายต้องดูดีๆ ป้ายบางป้ายมันเท่ แต่พอดูเนื้อหาที่มาปรัชญาที่แท้จริงกลายเป็นป้ายประจานตัวเองไปก็มี...อันนี้ขอเตือน.