20 ความเห็นในกระทู้นี้

[wat]

คัลดูน คาลิฟา อัล มูบารัค ซีอีโอของสโมสรฟุตบอล “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งควบตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มมูบาดาลา

 

“มูบาดาลา ปิโตรเลียม” ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานในเครือ “มูบาดาลา กรุ๊ป” ที่เป็นหนึ่งในแขนขาด้านการลงทุนของรัฐอาบู ดาบี ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ยืนยันในวันอังคาร (14) ว่าบริษัทของตนได้รับไฟเขียวให้เข้าทำสัญญาพัฒนาแหล่งน้ำมัน “นงเยาว์” ที่ตั้งอยู่ในอ่าวไทย
       
       คำแถลงของมูบาดาลา ปิโตรเลียม ซึ่งมีรัฐบาลอาบู ดาบีเป็นเจ้าของระบุว่า บริษัทของตนพร้อมด้วยบริษัทพลังงาน “คริสเอ็นเนอร์จี” ซึ่งจดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ มีแผนเข้าพัฒนาแหล่งน้ำมันนงเยาว์ที่อยู่กลางอ่าวไทย โดยคาดว่าแหล่งน้ำมันดังกล่าวมีศักยภาพรองรับการผลิตน้ำมันได้มากถึง 15,000 บาร์เรลต่อวัน
       
       ด้านคัลดูน คาลิฟา อัล มูบารัค ซีอีโอของสโมสรฟุตบอล “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งควบตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มมูบาดาลาด้วย ออกมายอมรับว่า การผลิตน้ำมันในเชิงพาณิชย์จากแหล่งนงเยาว์กลางอ่าวไทยนี้ คาดว่าจะสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2015 หรือไม่เกินครึ่งปีแรกของปีดังกล่าวเป็นต้นไป
       
       อย่างไรก็ดี ซีอีโอของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้รายนี้ ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับมูลค่าของสัญญาสัมปทาน ที่ทางมูบาดาลาได้รับในการเข้าพัฒนาแหล่งน้ำมันดังกล่าวในไทย
       
       รายงานข่าวระบุว่า บริษัทมูบาดาลาแห่งยูเออีจะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ในสัดส่วนที่สูงถึง “ 75 เปอร์เซ็นต์” จากสัญญาสัมปทานการพัฒนาแหล่งน้ำมันนงเยาว์ในอ่าวไทย ขณะที่บริษัทคริส เอ็นเนอร์จีจากสิงคโปร์ที่เข้ามาเป็นหุ้นส่วนจะได้รับผลประโยชน์ 25 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ
       
       ทั้งนี้ บริษัทมูบาดาลา ปิโตรเลียมซึ่งมีการลงทุนใน 12 ประเทศได้เข้ามาดำเนินธุรกิจด้านพลังงานในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2004 ถือเป็นผู้ได้รับสัมปทานปิโตรเลียม “รายใหญ่อันดับที่ 3” ในประเทศไทย

 

คัลดูน คาลิฟา อัล มูบารัค รับมอบเสื้อทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย และอดีตประธานสโมสร

 

ภาพจากสำนักข่าวเอเอฟพีเผยให้เห็นพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรหยอกล้ออย่างเป็นกันเองกับ คัลดูน อัล มูบารัค

 

 

http://www.manager.c...d=9570000005299

 

 ดีใจด้วยนะพวกควาย นายเมิงรับเละอีกแล้ว...

[แดงประจำเดือน]

 คุณทักษิรที่โดนกล่าวหาว่ามีคดี ทุกวันนี้ก็ยังพยายามลุงทุนทำแหล่งพลังงานเพื่อคนไทย

[Bookmarks]

ให้สัมปทานแบบนี้ ไม่ต้องเข้าสภา ไม่ต้องมีผู้เสนอแข่งสัมปทาน ตู งง 

[ขุนสำราญ]

แมร่ม ราคาถึงได้ขึ้นเอ๊า ขึ้นเอา

ขึ้นจนชี้โด่เด่และ

[Stargate-1]

อนุมัติแหล่งปิโตรเลียม “นงเยาว์” สร้างรายได้เข้ารัฐกว่า 8 พันล้านบาท

คณะกรรมการปิโตรเลียมอนุมัติแหล่งปิโตรเลียมใหม่ “นงเยาว์” ของบริษัทเพิร์ล ออย บางกอก คาดมีปริมาณสำรองน้ำมันดิบ 12.3 ล้านบาร์เรล เริ่มผลิตปี 2557 รัฐได้รับผลประโยชน์ 8,463 ล้านบาท
           นายทรงภพ พลจันทร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยการประชุมคณะกรรมการปิโตรเลียม ที่มีนายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555 ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติพื้นที่ผลิตปิโตรเลียมแหล่งนงเยาว์ตามข้อเสนอของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ซึ่งแหล่งนงเยาว์เป็นของบริษัท เพิร์ล ออย บางกอก จำกัด อยู่ในแปลงสำรวจ G11/48 ในอ่าวไทย พื้นที่ผลิตปิโตรเลียมรวม 23.18 ตารางกิโลเมตร
          ทั้งนี้ คาดว่ามีปริมาณสำรองน้ำมันดิบประมาณ 12.3 ล้านบาร์เรล เริ่มผลิตในปี 2557 โดยมีอัตราผลิตน้ำมันดิบสูงสุดประมาณ 6,400 บาร์เรลต่อวัน บริษัทมีการลงทุนเป็นเงินประมาณ 18,370 ล้านบาท รัฐได้รับผลประโยชน์ประมาณ 8,463 ล้านบาท บริษัทจะได้รับผลตอบแทนหลังหักเงินลงทุนประมาณ 5,673 ล้านบาท
        นอกจากนี้ ยังได้มีการสรุปสถานการณ์การจัดหาและพัฒนาปิโตรเลียมในช่วงเดือนกันยายน 2555 ว่าประเทศไทยมีอัตราการผลิตปิโตรเลียมเทียบเท่าน้ำมันดิบทั้งสิ้น 813,186 บาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็นประมาณ 42% ของความต้องการใช้ในประเทศ โดยเป็นก๊าซธรรมชาติ 3,330 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ก๊าซธรรมชาติเหลว 94,533 บาร์เรลต่อวัน น้ำมันดิบ 145,517 บาร์เรลต่อวัน โดยในช่วงเดือนมกราคม-ตุลาคม 2555 กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน สามารถจัดเก็บค่าภาคหลวงรวมเป็นเงิน 58,644 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าในช่วงเดียวกันของปี 2554 ถึง 22%

แหล่งนงเยาว์ ของบริษัท เพิร์ล ออยล์ บางกอก จำกัด อยู่ในแปลงสำรวจ G11/48 ตามวงกลมสีแดง (ภาพจากเว็บไซต์ mubadalapetroleum.com)

 

G11/48 คงหมายถึง แปลงสัมปทานปี 2548

Edited by Stargate-1, 15 มกราคม พ.ศ. 2557 - 21:37.

[Stargate-1]

จ.สงขลา ร่วมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 ในโครงการพัฒนาและผลิตปิโตรเลียมในทะเลอ่าวไทย แหล่งผลิตปิโตรเลียมนงเยาว์ แปลงสัมปทาน จี 11/48
ขอบคุณข่าวจาก : http://songkhlatoday...6#ixzz2qTByg3Xw

 

• 
• 
• 

เมื่อวันที่ (13 ม.ค. 55) ที่โรงแรมบีพี สมิหลา บีช อ.เมืองสงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานการประชุมการมีส่วนร่วมของประชาชน ครั้งที่ 2 ของ "โครงการพัฒนาและผลิตปิโตรเลียมในทะเลของ บริษัท เพิร์ล ออย บางกอก จำกัด แหล่งผลิตปิโตรเลียมนงเยาว์( Nong Yao) แปลงสัมปทานปิโตรเลียมในทะเลอ่าวไทย หมายเลข จี 11/48" เพื่อนำเสนอผลการสึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและรับฟังความคิดเห็นต่อร่างมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และร่างมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ โดยมีหน่วยงานส่วนราชการในจังหวัดสงขลาที่เกี่ยวข้อง สถาบันการศึกษา หน่วยงานเอกชน องค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม และสื่อมวลชน กว่า 50 คน

    บริษัท เพิร์ล ออย บางกอก จำกัด และบริษัท อีอาร์เอ็ม-สยาม จำกัด (บริษัทที่ปรึกษา) สำหรับครั้งนี้ บริษัทได้นำเสนอ องค์ประกอบในทะเลของโครงการฯ ประกอบด้วย แท่นผลิต 4 แท่น เรือกักเก็บปิโตรเลียม 1 ลำ และระบบท่อขนส่งใต้ทะเล ซึ่งจะอยู่มในตพื้นที่แหล่งผลิตนงเยาว์ แปลงสัมปทานปิโตรเลียมหมายเลข จี 11/48 ซึ่งอยู่ห่างจากฝั่งอำเภอระโนด จังหวัดสงขลาไปทางทิศทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 162 กิโลเมตร และมีแผนที่จะเริ่มการติดตั้งองค์ประกอบต่าง ไ ข้างต้น และดำเนินการเจาะหลุมผลิตในปี พ.ศ. 2556 โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตน้ำมันดิบได้ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2556 และต่อเนื่องไปตลอดระยะเวลาตามสัญญาสัมปทานปิโตรเลียม นอกจากนี้ โครงการฯ ได้กำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม สังคม และสุขภาพ และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมโดยมีประเด็นที่สำคัญ ได้แก่

1.มาตรการที่เกี่ยวข้องกับการจัดเศษหินและโคลนที่ใช้ในการเจาะ รวมถึงการจัดการของเสีย

2.มาตรการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสิ่งปฏิกูล น้ำเสียจากการอุปโภคบริโภค น้ำที่อาจปนเปื้อนน้ำมันและน้ำจากกระบวนการผลิต

3.มาตรการที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อการทำประมง และการคมนาคมขนส่งทางทะเล

4.มาตรการที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและการลดโอกาสการเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดต่าง ๆ

5.มาตรการที่เกี่ยวกับการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดในระยะหลังการเจาะหลุมผิตและระยะผลิตปิโตรเลียม

     โดยภาคใต้โฟกัส
ขอบคุณข่าวจาก : http://songkhlatoday...6#ixzz2qTCIhzDG

[googee]

อ่านข่าวจากลิงค์สำนักข่าวไทยเรื่องรายได้ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่ารัฐได้มากกว่า แต่ ไม่รู้มีคนอ่านหรือเปล่า....

 

... เริ่มผลิตในปี  2557 โดยมีอัตราผลิตน้ำมันดิบสูงสุดประมาณ  6,400 บาร์เรลต่อวัน บริษัทมีการลงทุนเป็นเงินประมาณ 18,370 ล้านบาท รัฐได้รับผลประโยชน์ประมาณ 8,463 ล้านบาท บริษัทจะได้รับผลตอบแทนหลังหักเงินลงทุนประมาณ 5,673 ล้านบาท.- สำนักข่าวไทย

 

ทำไมคุณรสนา จงใจบิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับพลังงานขนาดนี้ครับ

http://pantip.com/topic/31518892

[wat]

 ถ้า มล.กรณ์, รสนาและคณะทำงานเรื่องนี้บิดเบือน... พ่องก็สาหร่ายสไปรูรีน่าแล้วล่ะขอรับ...

 

... มีปัญญาไปตั้งกระทู้เองมั่งมั้ย หรือแค่ควายเสพสื่อที่กากเหมือนปัญญาตัวเอง แล้วก็ก๊อปแปะ... ถรุ๊ย... ขยะแขยง

[Stargate-1]

 

อ่านข่าวจากลิงค์สำนักข่าวไทยเรื่องรายได้ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่ารัฐได้มากกว่า แต่ ไม่รู้มีคนอ่านหรือเปล่า....

 

... เริ่มผลิตในปี  2557 โดยมีอัตราผลิตน้ำมันดิบสูงสุดประมาณ  6,400 บาร์เรลต่อวัน บริษัทมีการลงทุนเป็นเงินประมาณ 18,370 ล้านบาท รัฐได้รับผลประโยชน์ประมาณ 8,463 ล้านบาท บริษัทจะได้รับผลตอบแทนหลังหักเงินลงทุนประมาณ 5,673 ล้านบาท.- สำนักข่าวไทย

 

ทำไมคุณรสนา จงใจบิดเบือนข้อมูลเกี่ยวกับพลังงานขนาดนี้ครับ

http://pantip.com/topic/31518892

 

 

 

รัฐได้มากกว่า ได้อะไรกัน เวลาเปรียบเทียบ เขาเปรียบที่ผลตอบแทนตามตาราง ส่วนที่ยกเอามาจากพันทิบ เป็นเรื่องราคาน้ำมัน คุณรสนาก็พูดถูกต้องแล้ว ถ้ารัฐบาลยกเลิกกองทุนน้ำมันไปเสีย ก็จะทำให้ราคาลดลงทันที 10 บาท แล้วถามว่าทำได้อย่างไร ก็เคยเสนอไปหลายครั้งแล้วตามลิงค์นี้

http://webboard.seri...่เ/#entry855139

 

การยกเลิกกองทุนน้ำมันทำได้ไหม  ตามนโยบายรัฐบาลที่ได้หาเสียงไว้

 

หากอยากจะรู้เรื่องนำมันจริงๆ ก็ไปดูได้ที่กระทู้ตามลิงค์นี้ --> รวมกระทู้พลังงาน

[Stargate-1]

Edited by Stargate-1, 15 มกราคม พ.ศ. 2557 - 21:16.

[Stargate-1]

แหล่งน้ำมันของไทยแหล่งบัวบานและสงขลา หรือรวมเรียกว่าแหล่งสงขลาในรายงานของกรมเชื้อเพลิง

 

 


แหล่งน้ำมันที่สงขลาอีกแห่งที่ ขุดน้ำมันได้  20,000 บาร์เรล/วัน

Edited by Stargate-1, 15 มกราคม พ.ศ. 2557 - 21:18.

[Stargate-1]

ถ้าคนใต้เอาเรือประมง ไปปิดแท่นเจาะ/ถังเก็บนี้ ซัก 2-3 วัน จะเสียหาย วันละเท่าไหร่

[Stargate-1]

ถ้าคนใต้เอาเรือประมง ไปปิดแท่นเจาะ/ถังเก็บนี้ ซัก 2-3 วัน จะเสียหาย วันละเท่าไหร่

 

 

กล่องดวงใจของไอ้แม้ว

[Stargate-1]

 

 

Paisal Puechmongkol

 

ใครที่เคยฟังคลิปถั่งเช้า ก็ย่้อมรู้ว่าผู้บัญชาการทหารเรือปัจจุบันไม่ใช่คนที่ถั่งเช้าต้องการ แต่ได้เป็นเพราะมืออาชีพ เป็นแล้วก็ทำให้กองทัพเรือเป็นกองทัพของประชาชน และได้เป็นหน่วยหลักในการถวายอารักขาที่หัวหิน และต่อมาก็มีข่าวว่าทหารสามารถเข้าร่วมชุมนุมได้นอกเวลาราชการ เหตุนี้จึงเป็นเป้าที่จะถูกปลดย้าย และมีข่าวไอ้โม่งแอบหารือกับ กกต บางคนว่าถ้าประกดาศฉุกเฉิน นักการเมืองจะปลดย้เายได้ไหม แต่ผลคือระหว่างยุบสภาปลดย้ายไม่ได้ ข่าวนี้สะเทือนไปถุึงนายทหารใหญ่หลายคนด้วย

 

ดัีงนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมจึงมีข่าวการบิดเบือนคดีขว้างระเบิดที่บันทัดทองและอนุสาวรีย์ชัย โดยใสทหารเรือ และยังมีจับทหารเรือที่ปฏิบัติการยาเสพติดทั้งๆที่มีคำสั่งปฏิบัติการยืนยันอยู่ และยังมีข่าวเตรียมยัดคดีฆ่าตำรวจที่สนามกีฬาไทยญี่ปุ่นให้ทหารเรือด้วย เป้าหมายแท้จริงคือย้ายผู้บัญชาการทหารเรือ ส่วนเป้าหลักจะเป็นนายทหารใหญ่คนไหนอีก ข้อยมองไม่ออกจริงๆ
จะล๊อก กกต ให้อนุมัติปลดย้ายนายทหารใหญ่มันไม่ง่้ายดอกนะจ๊ะโยมจ๋า จะดันเลือกตั้งให้เสร็จจะได้ปลดย้ายสะดวกก็คงปิดฉากแน่นอนแล้วเพราะเป็นโมฆะแต่น้น

 

 

แท่นน้ำมันแถวสงขลา.JPG

 

ทหารเรือดูแล แท่นเจาะน้ำมัน และ แท็งค์เกอร์ให้ใครอยู่ แค่ยึดแท็งค์เกอร์ ก็ยึดอำนาจรัฐได้แล้ว

 

 

ต่อด้วยผู้จัดการออนไลน์กำลังขุดเรื่อง แหล่งพลังงาน "นงเยาว์"  ค่ะ

 

http://manager.co.th...D=9570000006963

 

คนดูไบคงกำลังกระอักเลือดกองโต 555

 

 

 

เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์-ใครคือ "คริสเอเนอร์ยี่" ? เครือ “มูบาดาลา กรุ๊ป” เปิดทางให้แขนขาด้านการลงทุนของแห่งอาบู ดาบี ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ได้รับไฟเขียวให้เข้าทำสัญญาพัฒนาแหล่งน้ำมัน “นงเยาว์” ที่ตั้งอยู่ในอ่าวไทย ส่วนกรมชื้อเพลิงธรรมชาติ อ้างดีล “มูบาดาลา”ซื้อต่อบ.เพิร์ลออยล์ไม่เกี่ยวกับ”ทักษิณ”
       
       ภายหลัง ASTVผู้จัดการ นำเสนอข่าว“มูบาดาลา ปิโตรเลียม” ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานในเครือ “มูบาดาลา กรุ๊ป” ที่เป็นหนึ่งในแขนขาด้านการลงทุนของแห่งอาบู ดาบี ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ได้รับไฟเขียวให้เข้าทำสัญญาพัฒนาแหล่งน้ำมัน “นงเยาว์” ที่ตั้งอยู่ในอ่าวไทยไปแล้วนั้น
       
       นายสรรเสริญ สะมะลาภา อดีต ส.ส.กทม. ประชาธิปัตย์ ผู้ที่ร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ใรเรื่องนี้ ได้โพตส์ข้อความที่เฟซบุ๊คส่วนตัวว่า “ ผมขอแสดงความสัมพันธ์ทางธุรกิจของ "มูบาดาลา" กับ "ทักษิณ"
       
       รูปบน(แผนภูมิ) แสดงว่าบริษัทเพิร์ลออย (บริษัทลูกของเพิร์ลเอนเนอร์ยี่) มีประวัติยาวนาน แต่เมื่อเพิร์ลเอนเนอร์ยี่ถูกมูบาดาลาซื้อ พล.อ.เตีย บัน ก็ให้สัมภาษณ์ว่าทักษิณจะลงทุนในธุรกิจพลังงาน และบริษัทเพิร์ลออยก็ย้ายสำนักงานมาที่อาคารชินวัตร 3
       
       รูปล่าง(แผนภูมิ) แสดงว่าประธานมูบาดาลา (ชีค โมฮัมหมัด) เป็นพี่ชายของคนที่ซื้อสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากทักษิณ (ชีค มานซูร์) และทั้งคู่เป็นคณะมนตรีพลังงานของอาบูดาบี การซื้อสโมสรฟุตบอลนั้นไม่ใช่ซื้อแบบธรรมดา เพราะทักษิณซื้อมา 5,000 ล้าน แต่ขายให้ชีค มานซูร์ 10,000 ล้าน ทั้งๆ ที่บริหารมาประมาณ 1 ปี ขาดทุนเพิ่ม 1,700 ล้าน และมีหนี้เพิ่ม 3,900 ล้าน
       อย่างนี้ไม่เรียกว่าต่างตอบแทนแล้ว จะเรียกว่าอะไร
       
       ต่อมานายสรรเสริญ โพตส์อีกว่า ใครคือ "คริสเอเนอร์ยี่" ? ต่อเนื่องจากเรื่อง "เพื่อนแม้วฮุบพลังงานอ่าวไทย" ที่แสดงความสัมพันธ์ทางธุรกิจของ "มูบาดาลา" กับ "ทักษิณ" การให้สัมปทานพลังงาน แหล่งนงเยาว์ แปลงจี 11/48 แก่ มูบาดาลาปิโตรเลียม ที่ถือผลประโยชน์ 75% และอีก 25% เป็นของบริษัทในเครือของ คริสเอเนอร์ยี่ ซึ่งแถลงข่าวเมื่อวันที่ 15 มค. ว่า การพัฒนาแหล่งนงเยาว์นี้เป็นโครงการ 1 ใน 6 โครงการของบริษัท เมื่อเข้าไปในเว็บไซต์ของบริษัทก็พบว่า ยังมีแปลงบี 8/32 และ บี 9 เอ ที่อยู่ในขั้นเดียวกัน บริษัทยังมีอีก 3 แปลงในอ่าวไทยที่จัดอยู่ในขั้นรอการพัฒนาประกอบด้วย บล็อกเอ แปลงจี 6/48 และแปลง จี11/48
       
       คำถามคือ คริสเอเนอร์ยี่ เป็นใคร ? ปรากฏว่าผู้ก่อตั้งทั้ง 3 คน คือผู้ก่อตั้ง เพิร์ลเอนเนอร์ยี่ (บริษัทลูกของ มูบาดาลา ที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับ ทักษิณ) นอกจากนี้ทีมบริหาร 12 คนจากทั้งหมด 14 คนก็เคยทำงานที่ เพิร์ลเอนเนอร์ยี่ มาก่อน สรุปคือเป็นพวกเดียวกันหมดใช่ไหมที่จะฮุบพลังงานไทยอ่าว !?
       
       ** แถ”มูบาดาลา”ซื้อต่อบ.เพิร์ลออยล์ไม่เกี่ยวกับ”ทักษิณ”
       
       ด้าน นายทรงภพ พลจันทร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า กรณี “มูบาดาลา ปิโตรเลียม” ได้เข้าพัฒนาแหล่งน้ำมัน “นงเยาว์” ที่ตั้งอยู่ในอ่าวไทยนั้นเป็นการซื้อกิจการผ่านตลาดหลักทรัพย์ของสิงคโปร์ต่อจากบริษัทเพิร์ล ออยล์ ประเทศไทย จำกัดโดยเพริ์ล ออยล์เดิมชื่อบ.เพิร์ล เอ็นเนอร์ยี่ ซึ่งซื้อกิจการต่อจากแฮร์รอดส์ เอ็นเนอร์ยี่และบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(ปตท.สผ.)ที่ได้รับสัมปทานตั้งแต่ปี 2541 ซึ่งเมื่อมีการสำรวจแล้วก็พบว่าขาดทุนเนื่องจากไม่พบแหล่งปิโตรเลียมจึงขายให้กับเพิร์ลเอ็นเนอร์ยี่ที่ภายหลังเป็นชื่อเป็นเพิร์ล ออยล์(ประเทศไทย)
       
       “เพิรล์ออยล์ได้เข้ามาสำรวจและขุดเจาะต่อจากแฮร์รอดส์ฯ และปตท.สผ.และต่อมาก็ขายให้กับมูบาดาลา ปิโตรเลียมฯซึ่งไม่ได้เป็นการยกสัมปทานให้โดยตรงแต่อย่างใด โดยทั้งหมดเป็นการซื้อกิจการต่อๆกันที่เป็นเรื่องปกติในบริษัทฯที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯเช่นเดียวกับกรณีที่ปตท.สผ.ของไทยก็ไปซื้อกิจการแหล่งปิโตรเลียมในต่างประเทศ และยืนยันว่าการอนุมัติสัมปทานมีคณะกรรมการปิโตรเลียมพิจารณาตามขั้นตอนไม่ได้เกี่ยวกับทักษิณ ชินวัตร แต่อย่างใด”นายทรงภพกล่าว
       
       ขณะที่นายนภดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณ ก็ออกมาโพตส์มุขเดิม ๆ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เกี่ยวกับสัมปทานพลังงาน และยังท้าทายว่า ใครมีหลักฐานะจะให้เงินหลักล้านบาท
       
       **กปปส.ให้ข้อมูลพลังงาน-ชัตดาวน์เพ้ง
       
       รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า กลุ่ม กปปส. ในนามของเครือข่ายปฏิรูปพลังงานไทย และกลุ่มกองทัพประชาชนโค้นระบอบทักษิณ ที่ได้เข้าไปชัตดาวน์พื้นที่หน้ากระทรวงพลังงาน และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริเวณ ถ.วิภาวดีรังสิต ก็ได้หยิบยกเรื่องพลังงาน มาปราศรัยให้กับผู้ชุมนุมรับทราบ รวมถึงมีการดาวกระจายไปยังสถานที่ที่เกี่ยวกับพลังงาน และบ้านพักของนายพงษ์ศักดิ์ รัตพงษ์ไพศาล รักษาการรมว.พลังงานด้วย

[Bookmarks]

อ่านในลากดำนา ตอนนี้ออกมาแก้ตัวให้ไอ้แม้วแล้วครับว่า สัมปทานได้อนุมัติในรัฐบาลสุรยุทธ

http://pantip.com/topic/31544550

 

แต่อย่างไรก็ตาม ก็กลายเป็นเรื่อง “โอละพ่อ” ขึ้นมาหลังจากทีมงานได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับแหล่งน้ำมัน “นงเยาว์” ที่บริษัทกลุ่มมูบาดาลา ได้รับสิทธิการผลิตเมื่อปีที่แล้ว มีที่มาที่ไปอย่างไร ตามข้อมูลของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ปรากฎว่า แหล่งน้ำมัน “นงเยาว์” ของบริษัท มูบาดาลา นั้นอยู่ในแปลง G11/48 ซึ่งเป็นแปลงสัมปทานที่ออกเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2550 ในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 16 มกราคม 2550 โดยมี ดร.ปิยะสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นั่นเอง และแปลงนี้อยู่ในน่านน้ำประเทศไทยทั้งหมด (4) (5) (6) นั่นหมายความว่า “ทักษิณ” ย่อมไม่มีอำนาจใดๆเลยที่จะกำหนดให้ใครได้เป็นผู้รับสัมปทานในรัฐบาลที่เกิดหลังจากการรัฐประหารรัฐบาลของทักษิณเอง ดังนั้นประเด็นนี้จึงตกไปอย่างสิ้นเชิง

[temp]

อ่านในลากดำนา ตอนนี้ออกมาแก้ตัวให้ไอ้แม้วแล้วครับว่า สัมปทานได้อนุมัติในรัฐบาลสุรยุทธ

http://pantip.com/topic/31544550

 

แต่อย่างไรก็ตาม ก็กลายเป็นเรื่อง “โอละพ่อ” ขึ้นมาหลังจากทีมงานได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับแหล่งน้ำมัน “นงเยาว์” ที่บริษัทกลุ่มมูบาดาลา ได้รับสิทธิการผลิตเมื่อปีที่แล้ว มีที่มาที่ไปอย่างไร ตามข้อมูลของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ปรากฎว่า แหล่งน้ำมัน “นงเยาว์” ของบริษัท มูบาดาลา นั้นอยู่ในแปลง G11/48 ซึ่งเป็นแปลงสัมปทานที่ออกเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2550 ในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 16 มกราคม 2550 โดยมี ดร.ปิยะสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นั่นเอง และแปลงนี้อยู่ในน่านน้ำประเทศไทยทั้งหมด (4) (5) (6) นั่นหมายความว่า “ทักษิณ” ย่อมไม่มีอำนาจใดๆเลยที่จะกำหนดให้ใครได้เป็นผู้รับสัมปทานในรัฐบาลที่เกิดหลังจากการรัฐประหารรัฐบาลของทักษิณเอง ดังนั้นประเด็นนี้จึงตกไปอย่างสิ้นเชิง

 

ผมตั้งข้อสังเกตไว้กระทู้นู้นครับ

ขอเพิ่มข้อมูล/โต้ 2อันครับ

http://pantip.com/topic/31544550
http://manager.co.th...D=9570000006963
 

        หนึ่ง เดิมทีเดียว แหล่งปิโตรเลียมที่เป็นข่าวได้ถูกสัมปทานให้กับ บริษัท เพิร์ล ออย (ประเทศไทย) จำกัด โดยมีบริษัทในเครือจำนวน 12 บริษัท โดยที่ทุกบริษัทเคยมีสำนักงานอยู่ที่อาคาร SCB Park Plaza แต่ทั้งหมดได้ย้ายสำนักงานอยู่ที่อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ซึ่งผมได้ตัดมาจากรายงาน ในกล่องข้อความข้างล่าง

557000000726001.jpg

- [pantip] เนื่องจาก ทาง SCB ไม่ต่อสัญญาเช่าเพราะต้องการให้บริษัทในเครือมาอยุ่แทน พอดีกับ ปตท.บางส่วนซึ่งเช่าตึกชิน3 อยู่ สร้าง Energy Complex เสร็จพอดีเลยย้ายออกจากชินวัตร3 ทางมูบาดาลา เลยเข้าไปขอเช่าพื้นที่ต่อเท่านั้นเอง และต้องอยู่บริเวณนี้เพราะต้องติดต่อกับกระทรวงพลังงานมันใกล้ๆกัน 

 

        ห้า ถ้าดูรายละเอียดจากแผนที่ในข้อสาม กับรายการในข้อสี่ พบว่าบริษัท เพิร์ล ออย จำกัด ได้ขายสัมปทานของตนไปทั้งหมด ยกเว้นแหล่ง G2/50 ดังนั้น เราน่าจะสรุปได้ว่าเป็นแค่บริษัทนายหน้าเท่านั้นเอง

- [manager] อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ .................... แฮร์รอดส์ เอ็นเนอร์ยี่ และ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) ที่ได้รับสัมปทานตั้งแต่ปี 2541 ซึ่งเมื่อมีการสำรวจแล้วก็พบว่าขาดทุนเนื่องจากไม่พบแหล่งปิโตรเลียมจึงขายให้กับเพิร์ลเอ็นเนอร์ยี่ที่ภายหลังเป็นชื่อเป็นเพิร์ล ออยล์ (ประเทศไทย)

 

 

 

         สี่ บริษัท เพิร์ล ออย (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับสัมปทานครั้งแรกในปี 2532 (เลขที่สัมปทานในแหล่ง B5/27 บนพื้นที่ 75.89 ตารางกิโลเมตร แต่มีพื้นที่สงวนไว้อีกประมาณ 1,855 ตารางกิโลเมตร จากนั้นก็ได้รับสัมปทานเพิ่มอีก 2 แหล่งในปี 2549 และต่อมาอีก 7 แหล่งในปี 2550-2551 ดังตารางการให้สัมปทานในแต่ละปีตรงกับรัฐบาลใดก็คิดเอาเองนะครับ

557000000726003.jpg

        หก แหล่งปิโตรเลียมที่ตกเป็นข่าวคือ “นงเยาว์” และ “มโนราห์” ซึ่งอยู่ในแปลงสัมปทาน G11/48 (แหล่งล่างสุดในแผนที่ข้อสาม) อยู่ห่างจากชายฝั่ง 165 กิโลเมตร บริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลียม ลงทุน 75% ที่เหลืออีก 25% เป็นบริษัท Kris Energy ซึ่งจดทะเบียนในสิงคโปร์       

        จากรายงานของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติระบุว่า แหล่ง G11/48 ได้ให้สัมปทานในปี 2549 แต่เว็บไซต์ของบริษัทมูบาดาลาระบุว่า “แหล่งนงเยาว์ถูกค้นพบในปี 2552 แต่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการให้พัฒนาในเดือนสิงหาคม 2556 มีทั้งหมด 23 หลุม คาดว่าจะสามารถเริ่มผลิตได้ในครึ่งปีแรกของ 2558 โดยมีอัตราการผลิตสูงสุด 10,000 บาร์เรลต่อวัน” นอกจากน้ำมันดิบแล้วยังมี “30,000 barrels of fluids per day” ซึ่งผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ามันคืออะไร คอนเดนเสท?       
        คาดว่าแหล่งนี้จะมีน้ำมันดิบสำรอง 12.4 ล้านบาร์เรล โดยจะสิ้นสุดโครงการในเจ็ดปี       
        สำหรับแหล่ง “มโนราห์” นั้น “ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการให้พัฒนาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2555 คาดว่าจะผลิตได้ในกลางปี 2557 ในอัตราสูงสุด 15,000 บาร์เรลต่อวัน”       
        โดยสรุป แหล่งปิโตรเลียมที่เป็นข่าวดังกล่าว เป็นแหล่งสัมปทานเก่าที่ถูกซื้อขายเปลี่ยนมือกันมา จนมาอยู่ในมือของบริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลียม แต่ได้รับการอนุมัติให้ผลิตอย่างเป็นทางการในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

- [pantip] แปลง G11/48 ซึ่งเป็นแปลงสัมปทานที่ออกเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2550 ในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 16 มกราคม 2550 โดยมี ดร.ปิยะสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นั่นเอง และแปลงนี้อยู่ในน่านน้ำประเทศไทยทั้งหมด ..................... ซึ่งแน่นอนว่า “ทักษิณ” ไม่มีเอี่ยวอะไรแน่นอนในการอนุมัติสัมปทานในรัฐบาลที่เกิดหลังจากการรัฐประหารรัฐบาลทักษิณเอง และ การได้รับสิทธิผลิตในปี 2556 ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้น ก็เป็นการอนุมัติพื้นที่ผลิตให้บริษัทมูบาดาลา ตามขั้นตอน 

- [คหสต.] ขอตั้งข้อสังเกตว่า 

     - ปีพ.ศ. ที่ระบุในเลขที่สัมปทาน เป็นตามวันที่ยื่นคำขอหรือวันที่เซ็น ครับ? ผมไม่มีความรู้ วันขอ-วันเซ็นคงไม่ใกล้กันนักหรอกมั๊งครับ?

     - ครม.คิดเอง อนุมัติเอง หรือตัดสินตามเงื่อนไขของคณะกรรมการปิโตรเลียมหรือคณะอื่นที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง 

     - และไอ้คำว่า"ตามขั้นตอน"เนี่ย เป็นตลอดเส้นทางเลยรึเปล่า คือ ก่อนเข้าครม. ขณะเข้าครม. หลังเข้าครม.(ถึงวันอนุมัติผลิต)

 

 

โดย ประสาท มีแต้ม

http://www.manager.c...D=9570000006998

 

 

ปล. [manager] นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ออกมาโพสต์มุกเดิมๆ คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เกี่ยวกับสัมปทานพลังงาน และยังท้าทายว่า ใครมีหลักฐานะจะให้เงินหลักล้านบาท >>>ช่วยๆกันนะครับ

 

เพิ่มเติมอีกที: [pantip] มีคห.21มาเพิ่มครับ ยกตัวอย่างเชฟรอน

"รวมระยะเวลายื่นขอสัมปทานปิโตรเลียมจนกระทั่งได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้สัมปทานจะใช้เวลาประมาณ 4-6 เดือน"

[ผมไม่ได้เปิดไฟล์pdfที่เขาอ้างนะครับ ช่วงนี้คอมผมเพี้ยนๆกับpdf]

Edited by temp, 22 มกราคม พ.ศ. 2557 - 03:35.

[Suleesav]

ไอ้พวกที่หูหนา ตาบอด ใจมืดบอดที่จนป่านนี้ ยังคงอวยว่า "พ่อของมัน" ทำเพื่อคนไทย สาธุ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลายในสากลโลก จงดลบันดาลให้พวกมันใสซื่อแบบนี้ในทุกภพ ทุกชาติ ตามที่พวกมันแสดงเพราะต้องการเป็นเช่นนี้นจริงๆ ด้วยเทอญ สาธุ นโมพุทธายะ

[Bookmarks]

จากที่ดูแล้ว เจ้าของเพิร์ลออย กับ มูบาดาลา กรรมการผู้มีอำนาจกลุ่มเดียวกัน 

 

สำหรับกรณีข่าว บริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลียม ที่ทำธุรกิจด้านพลังงานของรัฐอาบูดาบี ในสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ได้ออกคำแถลงผ่านสื่อต่างประเทศว่าพวกเขาได้รับสัมปทานเข้าไปพัฒนาแหล่งพลังงานในอ่าวไทย ที่เรียกว่า “แหล่งนงเยาว์” โดยจะเริ่มดำเนินการพัฒนาในเชิงพาณิชย์ภายในปีหน้า (2558) เป็นต้นไป 

 

ขณะที่ ซีอีโอ ของบริษัทแห่งนี้ ก็มิใช่ใครอื่น แต่เป็น “คัลดูน คาลิฟา อัล มูบารัค ซึ่งควบตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสโมสรฟุตบอล “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี ในศึกพรีเมียร์ลีกในอังกฤษ ที่ซื้อกิจการต่อมาจาก พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 

 

ล่าสุด “ผู้จัดการออนไลน์” ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า ที่ผ่านมาบริษัทพลังงานของรัฐอาบูดาบีดังกล่าว ได้มีการจัดตั้งบริษัทลูกเพื่อดำเนินธุรกิจในประเทศไทยในชื่อ “เพิร์ล ออยส์ (ประเทศไทย) จำกัด” มีสำนักงานอยู่ที่ “ตึกชินวัตร 3” 

 

พร้อมระบุว่า “ บริษัทเพิร์ลออยส์ฯ ถูกมองว่ามีส่วนเกี่ยวข้องทางด้านธุรกิจพลังงานกับ ทักษิณ ชินวัตร ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะในด้านการทำธุรกิจด้านพลังงานในอ่าวไทย ทั้งที่อยู่ในเขตไทย และในเขตที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างสิทธิ โดยมีการดึงเอาบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียมหรือ ปตท.สผ.เข้ามาเป็นหุ้นส่วนมาก่อนหน้านี้แล้ว” 

 

ก่อนจะให้ข้อมูลว่า บริษัท มูบาดาลาฯ จะได้รับประโยชน์จากสัญญาสัมปทานพลังงานแปลง “นงเยาว์” ในอ่าวไทยในสัดส่วนราวร้อยละ 75 และมีบริษัทพลังงานในชื่อ คริส เอ็นเนอร์จี จากสิงคโปร์ที่จะเข้ามาเป็นหุ้นส่วนได้รับส่วนแบ่งที่เหลืออีกร้อยละ 25

 

ที่น่าสนใจก็คือ แหล่งน้ำมันแห่งนี้มีศักยภาพในการผลิตน้ำมันรองรับได้ถึงวันละ 15,000 บาร์เรล

 

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลในเว็บไซต์กรมเชื่อเพลิงพลังงานธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน พบว่า มีการระบุชื่อ บริษัท เพิร์ล ออย (ประเทศไทย) จำกัด อยู่ในกลุ่มรายชื่อผู้ถือสัมปทาน ขุดเจาะน้ำมันเชื้อเพลิง รวมกับบริษัทที่ใช้ชื่อต้น ว่า เพิร์ล ออย หลายแห่ง

 

ได้แก่ บริษัท เพิร์ล ออย ออฟชอร์ จำกัด ,บริษัท เพิร์ล ออย บางกอก จำกัด ,บริษัท เพิร์ล ออย (อมตะ) จำกัด

บริษัท เพิร์ล ออย (อ่าวไทย) จำกัด, บริษัท เพิร์ล ออย (ปิโตรเลียม) จำกัด , บริษัท เพิร์ล ออย (รีซอสเซส) จำกัด, 

บริษัท เพิร์ล ออย ออนชอร์ จำกัด

 

เบื้องต้น บริษัททั้งหมด ระบุสถานที่ตั้งแห่งเดียวกัน คือ เลขที่ 1010 ชั้น 31 อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ

 

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ปัจจุบันมีบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศ ซึ่งใช้ชื่อว่า “เพิร์ล ออย” และแจ้งสถานที่ตั้งสำนักงาน บนตึก ชินวัตร 3” อยู่จำนวน 2 บริษัท 

 

ประกอบไปด้วย 

 

1. บริษัท เพิร์ล ออย (จี2-จี10) จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2548 ปัจจุบันมีทุน 100,000,000 บาท แจ้งที่ตั้ง 1010 อาคารชินวัตร 3 ชั้น 29-31 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบกิจการเป็นผู้รับสัมปทานในการสำรวจ ขุดเจาะและผลิตปิโตรเลียม น้ำมันดิบก๊าซธรรมชาติ ก๊าซธรรมชาติเหลว ผลิตผลและสารพลอยได้อื่นๆ - ผู้ผลิต

 

ปรากฏชื่อ นาย วิลเลี่ยม จอห์น อาร์มสตรอง นาย เดวิด แอนโทนี่ จอห์นสัน และนาย เครก สตีเฟ่น เฮส์ชุค เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ 

 

รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 29 เมษายน 2556 มีจำนวน 3 ราย คือ มูบาดาลา ปิโตรเลียม (ไทยแลนด์) โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด ถือหุ้นใหญ่สุด จำนวน 99,994 หุ้นๆ 1,000 บาท แจ้งที่ตั้งหมู่เกาะเวอร์จิน (อังกฤษ) (เกาะบริติช เวอร์จิน)

 

ส่วนนายเดวิด แอนโทนี่ จอห์นสัน (อังกฤษ) และนาย วิลเลี่ยม จอห์น อาร์มสตรอง (แคนนาดา) ถืออยู่คนละ 3 หุ้น 

 

2.บริษัท เพิร์ล ออย (จี11) จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2549 ปัจจุบันมีทุน 100,000,000 บาท แจ้งที่ตั้ง 1010 อาคารชินวัตร 3 ชั้น 29-31 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบกิจการเป็นผู้รับสัมปทาน ในการสำรวจ ขุดเจาะและผลิตปิโตรเลียม น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ ก๊าซธรรมชาติเหลว ผลิตผลและสารพลอยได้อื่นๆ

 

ปรากฏชื่อ นาย วิลเลี่ยม จอห์น อาร์มสตรอง นาย เดวิด แอนโทนี่ จอห์นสัน และนาย เครก สตีเฟ่น เฮส์ชุค เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ เช่นกัน 

 

ส่วนรายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 29 เมษายน 2556 จำนวน 3 ราย คือ มูบาดาลา ปิโตรเลียม (ไทยแลนด์) โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด ถือหุ้นใหญ่สุด จำนวน 99,994 หุ้นๆ 1,000 บาท แจ้งที่ตั้งหมู่เกาะเวอร์จิน (อังกฤษ)  ส่วนนายเดวิด แอนโทนี่ จอห์นสัน (อังกฤษ) และนาย วิลเลี่ยม จอห์น อาร์มสตรอง (แคนนาดา) ถืออยู่คนละ 3 หุ้น เช่นกัน 

 

จากการตรวจสอบยังพบว่า ที่อยู่เลขที่ 1010 อาคารชินวัตร 3 ชั้น 29-31 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ยังถูกใช้เป็นที่ตั้งของบริษัทประกอบกิจการให้บริการด้านการบริหารหรือด้านเทคนิค และให้คำปรึกษาแนะนำในการประกอบธุรกิจ การสำรวจ การพัฒนา การผลิต และการจำหน่ายปิโตรเลี่ยม – ผู้ผลิต อีกหลายแห่ง

 

ได้แก่ บริษัท มูบาดาลา ปิโตรเลียม (ประเทศไทย) จำกัด ,บริษัท เอ็มพี จี10 (ประเทศไทย) จำกัด , บริษัท เอ็มพี จี11 (ประเทศไทย) จำกัด , บริษัท เอ็มพี จี1 (ประเทศไทย) จำกัด , บริษัท เอ็มพี จี2 (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอ็มพี จี3 (ประเทศไทย) จำกัด , บริษัท เอ็มพี จี6 (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอ็มพี บี5 (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอ็มพี แอล21 (ประเทศไทย) จำกัด 

 

จากการตรวจสอบพบว่า บริษัทฯ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ปรากฏชื่อ นาย วิลเลี่ยม จอห์น อาร์มสตรอง นาย เดวิด แอนโทนี่ จอห์นสัน และนาย เครก สตีเฟ่น เฮส์ชุค เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ

 

ขณะที่มูบาดาลา ปิโตรเลียม (ไทยแลนด์) โฮลดิ้งส์ ลิมิเต็ด ซึ่งแจ้งที่ตั้งหมู่เกาะเวอร์จิน (อังกฤษ) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เช่นกัน 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อไปยัง บริษัท เพิร์ล ออย (จี2-จี10) จำกัด และ บริษัท เพิร์ล ออย (จี11) จำกัด ตามเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้งไว้ ในขั้นตอนการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ไม่สามารถติดต่อได้  

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกาะบริติช เวอร์จิน เคยถูกระบุเป็นสถานที่ตั้งของบริษัทต่างชาติหลายแห่งที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการซื้อหุ้นชินคอร์ป ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคนในครอบครัว อาทิ บริษัท Ample Rich Investments Limited ,และบริษัท Win Mark Limited เป็นต้น 

 

http://www.isranews....pany_26630.html

[templar]

กรรมที่หนักที่สุดในแผ่นดิน  

คือ  กรรมที่ทำต่อแผ่นดินของตัวเอง

[ท้อป]

เปรียบเทียบค่าสัมปทาน.JPG

 

รัฐได้มากกว่า ได้อะไรกัน เวลาเปรียบเทียบ เขาเปรียบที่ผลตอบแทนตามตาราง ส่วนที่ยกเอามาจากพันทิบ เป็นเรื่องราคาน้ำมัน คุณรสนาก็พูดถูกต้องแล้ว ถ้ารัฐบาลยกเลิกกองทุนน้ำมันไปเสีย ก็จะทำให้ราคาลดลงทันที 10 บาท แล้วถามว่าทำได้อย่างไร ก็เคยเสนอไปหลายครั้งแล้วตามลิงค์นี้

http://webboard.seri...่เ/#entry855139

 

การยกเลิกกองทุนน้ำมันทำได้ไหม  ตามนโยบายรัฐบาลที่ได้หาเสียงไว้

 

หากอยากจะรู้เรื่องนำมันจริงๆ ก็ไปดูได้ที่กระทู้ตามลิงค์นี้ --> รวมกระทู้พลังงาน

 

มีข้อมูลเรื่องจำนวนเงินสัมปทานที่จ่าย จำนวน oil reserve ประเมินค่าลงทุนใช้จ่าย/รายได้กำไร สำหรับของสามประเทศที่มาเปลี่ยบเทียบมั้ยครับ?

[Stargate-1]

 

เปรียบเทียบค่าสัมปทาน.JPG

 

รัฐได้มากกว่า ได้อะไรกัน เวลาเปรียบเทียบ เขาเปรียบที่ผลตอบแทนตามตาราง ส่วนที่ยกเอามาจากพันทิบ เป็นเรื่องราคาน้ำมัน คุณรสนาก็พูดถูกต้องแล้ว ถ้ารัฐบาลยกเลิกกองทุนน้ำมันไปเสีย ก็จะทำให้ราคาลดลงทันที 10 บาท แล้วถามว่าทำได้อย่างไร ก็เคยเสนอไปหลายครั้งแล้วตามลิงค์นี้

http://webboard.seri...่เ/#entry855139

 

การยกเลิกกองทุนน้ำมันทำได้ไหม  ตามนโยบายรัฐบาลที่ได้หาเสียงไว้

 

หากอยากจะรู้เรื่องนำมันจริงๆ ก็ไปดูได้ที่กระทู้ตามลิงค์นี้ --> รวมกระทู้พลังงาน (คลิก)

 

มีข้อมูลเรื่องจำนวนเงินสัมปทานที่จ่าย จำนวน oil reserve ประเมินค่าลงทุนใช้จ่าย/รายได้กำไร สำหรับของสามประเทศที่มาเปลี่ยบเทียบมั้ยครับ?

 

 

เอาไว้ให้ยกเลิกพ.ร.บ.ปิโตรเลี่ยมฉบับที่อเมริกาทำไว้ให้ไทยเสียก่อน เขาถึงยอมเปิดเผย

การบ้านของหนู คือ ไปค้นดูว่าพ.ร.บ.ปิโตรเลี่ยมของไทย กับ ของต่างชาติ ต่างกันอย่างไร

เปรียบเทียบระหว่างไทย-เขมร ที่มีพื้นที่ในอ่าวไทยติดกัน ดูก็ได้ว่าได้ผลประโยชน์เหมือนกันไหม

Edited by Stargate-1, 22 มกราคม พ.ศ. 2557 - 06:46.