ในมิติแห่งความซับซ้อน คนไทยแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย เพราะการแย่งชิงอำนาจกันของ นักการเมือง โดยมีนายทุน และข้าราชการทั้งพลเรือน และทหารหนุนหลัง นักวิชาการและคนทั่วๆ ไป เป็นแนวร่วม
ในสภาพความเป็นจริง เมื่อมาเจาะลึกแล้ว พบว่า คนไทยไม่ได้แบ่งเป็นเพียง 2 กลุ่ม คือ เอา กับ ไม่เอา รัฐบาล
สงครามแห่งอำนาจ 10 ปีในยุคดิจิตอลเบ่งบาน ได้เกิดปรากฏการณ์ “ตาสว่าง” ของ คนไทยจำนวนมาก และลุกขึ้นมามีส่วนร่วมมากขึ้น ทั้งต่อฝ่ายนักการเมืองที่โกงกิน และเข้าใจประวัติศาสตร์การเมือง และศูนย์อำนาจ
คนไทยในขณะนี้แบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ที่ชัดเจนคือ
- กลุ่มผู้เสียผลประโยชน์จากทักษิณทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น พรรคการเมืองฝั่งตรงข้าม อำนาจเก่า ทุนโบราณ ข้าราชการสายอนุรักษ์นิยม พ่อค้าน้ำมันเถื่อน พ่อค้ายาบ้า คิวรถตู้ วินมอเตอร์ไซค์เถื่อน เจ้ามือใหญ่ หวยใต้ดิน ฯลฯ คือพวกที่เป็นแกนนำของม็อบกบฏตอนนี้
- กลุ่มคนทั่วไปที่ไม่เอาตระกูลชิน และแนวร่วมแบบสุดขั้ว เพราะมองว่าการโกงชาติส่งผลกระทบกว่าการโกงของ นักการเมืองทุกชุด ทุกรุ่น ที่ผ่านมา และจะสร้างความหายนะให้มากมหาศาล กลุ่มนี้รวมถึงพวกที่อาฆาตแดงแบบเหมารวมว่าต้องการล้มล้างราชบัลลังค์
- กลุ่มคนทั่วไปที่ไม่เอาตระกูลชิน แต่เข้าใจความเป็นจริงและมีเหตุ มีผล เข้าใจว่า ทักษิณมีกลไกในการโกงแบบบูรณาการอย่างไร ในขณะเดียวกันก็เข้าใจว่า ทำไมคนที่นิยมในตัวเขาเป็นอย่างไร และเข้าใจอีกว่า คนเห็นต่างเพราะอะไร และอธิบายด้วยเหตุผล ไม่เอาแต่ผลักคนเห็นต่างไปเป็นปฏิปักษ์
- กลุ่มได้รับผลประโยชน์จากทักษิณโดยตรง ส่วนใหญ่เป็นแกนนำเสื้อแดง และแนวร่วมฮาร์คอทั้งหมด ในกลุ่มนี้ยังมีส่วนหนึ่งที่มีการกระทำที่ออกไปในแนวทางล้มเจ้า
- กลุ่มคนรากหญ้าที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายประชานิยม ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ และเลือก พรรคเพื่อไทยเข้ามา เพราะนิยมในนโยบายที่ทำให้พวกเขาลืมตาอ้าปากได้ และเป็นกลุ่มที่พวกม็อบตีราคาว่า เป็นพวกที่ไม่ควรมี 1 เสียงเท่ากันในการเลือกตั้ง
- กลุ่มคนรักทักษิณ เพราะชอบความเป็นผู้นำที่สร้างความเจริญให้กับประเทศชาติอย่างรวดเร็ว เป็นคนเก่ง มีวิสัยทัศน์ เฉียบขาด ทำให้ประเทศไทยผงาดได้ในเวทีโลก เอาใจช่วยเสมอมา แม้จะรู้ว่า ทักษิณไม่ขาว โดยมองว่าการโกงใครๆ ก็โกง โกงหมื่นล้าน แต่ประเทศเจริญ ดีกว่า พวกโกงพันล้าน แล้วประเทศไม่ได้อะไรเลย
- กลุ่มคนกลางๆ ที่ รู้ทั้งสองฝ่ายว่าอะไรเป็นอะไร และรู้ว่าเป็นเกมการเมือง แต่รักความถูกต้องยุติธรรม ตัดสินไปตามเหตุและปัจจัยที่เกิดขึ้นในขณะนั้นๆ เป็นหลัก ไม่เอนเอียงไปตามกระแส และการโน้มน้าว ทางสื่อ ยึดหลักประชาธิปไตยเป็นหลัก และเชื่อมั่นว่าเมื่อเวลาผ่านไป ประชาธิปไตยจะปรับองคาพยพเข้าสู่สมดุลย์ได้เอง เมื่อคนมีการศึกษามากขึ้น
- กลุ่มคนที่เบื่อการเมือง หรือไม่สนใจการเมืองเลย จัดให้อยู่พวกนี้ เอาใครก็ได้มาบริหารประเทศ ทำงานไปวันๆ