http://www.manager.c...D=9570000006139
![blank.gif](http://www.manager.co.th/images/blank.gif)
![blank.gif](http://www.manager.co.th/images/blank.gif)
ระยะเวลาเกือบ 3 เดือนที่ราชดำเนิน นอกจากกลุ่มผู้สนใจการเมืองหน้าเดิมๆแล้ว ถนนแห่งประวัติศาสตร์เส้นนี้ ยังเต็มไปด้วยความคึกคักและสีสันจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งดารา นางแบบ รวมถึงลูกหลานนักการเมืองและนักธุรกิจใหญ่ ต่างพากันประกาศตัวแจ้งเกิดกันมากมาย แต่ที่น่าสนใจ ณ ตอนนี้ต้องยกให้ สาวนัยน์ตาคมผมยาวคนสวย “น้ำทิพย์ เทือกสุบรรณ” ลูกสาวคนเล็กของ กบฏสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่นอกจากจะสวยแล้วความคิดความสามารถเธอก็ไม่น้อยไปกว่าใคร
![blank.gif](http://www.manager.co.th/images/blank.gif)
น้ำทิพย์ เป็นลูกสาวคนสุดท้องของ สุเทพ เทือกสุบรรณ กับ จุฑาพร (เสียชีวิต) เธอเริ่มต้นเล่าเรื่องราวชีวิตการเป็นลูกสาวกำนันว่า หลังแม่เสียชีวิตไป ก็เติบโตมากับคุณย่าและคุณอา โดยไม่รู้สึกขาดหรือโหยหา เพราะถึงพ่อจะไม่มีเวลาให้ลูกๆ แต่พ่อให้ความอบอุ่นมาตลอด
“ช่วงคุณแม่ป่วยแม่คุยกับพ่อหลายอย่าง พ่อเป็นคนที่ไม่พูดแต่จะแสดงให้ลูกได้เห็น และพ่อก็ไม่เคยผิดสัญญาตรงนั้นเลยค่ะ วันที่คุณแม่เสียทิพย์ยังเด็กตอนนั้นประมาณ 6 ขวบ จำอะไรไม่ค่อยได้ รู้แต่พ่อไม่มีคำหวานมาปลอบใจ แต่พวกเราก็กอดกัน”
![blank.gif](http://www.manager.co.th/images/blank.gif)
ชีวิตที่เกิดมาเป็นลูกนักการเมืองนั้น ต้องท่องคำว่าอดทนและเดียวดาย เพราะทุกนาทีของนักการเมือง มีไว้ให้กับประชาชนที่เลือกเขาเข้ามาเป็นตัวแทนบริหารประเทศ เฉกเช่นเดียวกันครอบครัวเทือกสุบรรณ ที่กำนันสุเทพจะลงพื้นที่ตลอดเวลา
ในช่วงวัยเด็ก วันไหนที่สุเทพว่าง เขาจะให้เวลากับลูกๆ อย่างเต็มที่ แต่วันไหนมีงานเยอะต้องลงพื้นที่ หรือประชุมสภา ต้องกลับบ้านดึก พวกเธอก็จะใช้วิธีเขียนกระดาษแปะไว้เป็นการสื่อสาร “ดูเหมือนห่างนะคะ แต่ไม่ห่างเวลาลูกๆ มีปัญหาบอกพ่อก็จะสอนแนะนำทุกอย่าง แต่พอเริ่มโตพ่อจะเลี้ยงลูกแบบให้คิดเอง และแข็งแรงด้วยตัวเอง อย่างเรื่องเรียนนี่ เพื่อนบางคนก็จะปรึกษาพ่อกับแม่ แต่พวกเราพ่อไม่ช่วยคิด ให้ตัดสินใจเองว่าจะเรียนอะไร ต้องการอะไร ตอนนั้นก็มีบางมุมที่ทิพย์น้อยใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่เป็นแบบนี้ แต่พอโตมาก็เข้าใจแล้วว่า ทุกสิ่งที่พ่อให้เราตัดสินใจเอง เป็นเพราะสุดท้ายแล้วมันคือชีวิตเราเอง”
![blank.gif](http://www.manager.co.th/images/blank.gif)
สาวตาคมคนนี้ยังบอกอีกว่า แม้จะมีพ่อเป็นนักการเมือง แต่ไม่เคยคิดจะลงเล่นการเมือง น้ำทิพย์จบมัธยมต้นที่ มาแตร์เดอี ก่อนจะถูกส่งไปเรียนต่อที่ จีลอง แกรมมาร์ สคูล ประเทศออสเตรเลีย และจบปริญญาตรี คณะสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยแพรท อินซทิทยูท นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อจบก็ทำงานให้กับ บริษัท เอชเอส ทู อาคิเทคเจอร์ นาน 1 ปี ก่อนจะถูกพ่อกำนันเรียกตัวให้กลับเมืองไทย
“ตอนกลับมาก็สมัครทำงานที่ บริษัท เฟนน์ ดีไซน์ เรื่องการเมืองไม่เคยอยู่ในหัวเลยค่ะ และไม่คิดจะเล่นด้วย เพราะเห็นพ่อแล้วรู้ว่าเป็นงานที่เหนื่อย ต้องรับผิดชอบสูง ที่ทิพย์ออกมาในวันนี้ เพราะอย่างที่รู้ว่าบ้านเมืองวิกฤต ไปไม่ไหวแล้ว และอีกอย่างคือ เห็นพ่อทุ่มเท เห็นพี่น้องออกมาลำบากกับพ่อแล้วก็อยู่เฉยไม่ได้ ความจริงแล้วทิพย์ก็ไม่ได้ทำอะไรเลย แค่ออกมาแสดงพลังและใช้สิทธิ์ของตัวเองเท่านั้นค่ะ”
![blank.gif](http://www.manager.co.th/images/blank.gif)
สำหรับภารกิจทางการเมืองที่พ่อออกมานำมวลชนจนถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏนั้น น้ำทิพย์บอกว่า เธอรวมถึงแม่และทุกคนในครอบครัว ไม่หวาดกลัวหรือหวั่นแต่อย่างใด ตรงกันข้ามเธอกลับภูมิใจรักและศรัทธาในตัวพ่อกำนันมากยิ่งขึ้น
“วันที่มีประกาศออกมาว่าคุณพ่อเป็นกบฏ ทิพย์ยิ่งรู้สึกภูมิใจ วันที่พ่อจะออกมาสู้ตรงนี้ ก็มีการคุยกันทุกคนในครอบครัวก็โอเครับได้ แต่ที่กังวลคือไม่มีใครรู้เลยว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เพราะพ่อก็เป็นอย่างนี้ ไม่ใช่คนหล่อ พูดจาตรงๆ กังวลว่าจะมีคนเข้าใจไหมว่า พ่อออกมาทำเพื่อบ้านเมือง ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง สุดท้ายคือคนเข้าใจมาก แต่ที่ทิพย์ดีใจมากที่สุดเลยคือ ได้เห็นคนที่คิดต่าง คนที่ไม่ชอบพ่อก็เข้าใจและมาร่วมกับพ่อ มาหลอมรวมกันเพราะเรามีอุดมการณ์เดียวกัน ตรงนี้เป็นสิ่งที่ทิพย์ภูมิใจและดีใจมากที่สุด”
![blank.gif](http://www.manager.co.th/images/blank.gif)
ส่วนการต่อสู้ที่ยาวนาน และยังไม่รู้ว่าจะจบวันไหนนั้น นับเป็นภาระที่หนักอึ้งของผู้ชายที่ชื่อ สุเทพ เทือกสุบรรณ แต่ "น้ำทิพย์" ก็บอกว่า รู้สึกเบาใจและไม่กังวลอะไร “ต้องบอกว่าโชคดีที่วันนี้ มีแม่ (ศรีสกุล พร้อมพันธ์) มาช่วยดูแลพ่อ และอยู่เคียงข้างพ่อตลอด อีกอย่างคือพวกเราลูกๆ 6 คนเวลาใครมีปัญหาอะไรก็จะปรึกษาและช่วยกันเต็มที่ ไม่มีใครงอแง”
![blank.gif](http://www.manager.co.th/images/blank.gif)
น้ำทิพย์ เทือกสุบรรณ ในวัย 30 ปี คนนี้ยังกล่าวทิ้งท้ายก่อนออกไปทำหน้าที่ช่วยพ่อกำนันเดินเรียกแขก ถึงการออกมาต่อสู้บนท้องถนนของมวลมหาประชาชนในครั้งนี้ ทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้น ที่เห็นคนไทยตื่นตัว รู้จักและกล้าที่จะออกมาใช้สิทธิ์ของตัวเอง "ทิพย์เชื่อมั่นว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะต้องได้รับชัยชนะ และเมื่อมีการปฏิรูปประเทศไทยแล้ว สิ่งที่อยากเห็นคือนักการเมืองน้ำดี ที่มีความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์สุจริต อยู่ภายใต้กฎหมายอันศักดิ์สิทธิ์"