“ปลอดประสพ” แนะ 3 ข้อ “รัฐบาล” ควรเร่งดำเนินการ ชี้ “ชาวบ้าน” หวั่น เพราะยังไม่ได้รับทราบข้อมูล ยอมรับ “กทม.” จมน้ำคาดน้ำขังไม่ต่ำกว่า 1 เดือน แขวะ “กทม.” กลัวเกินเหตุ หลังระบายน้ำเพียง 50% เชื่อภายในอาทิตย์นี้ “กทม.” เผชิญวิกฤติหนักสุด
วันที่ 23 ต.ค.54 ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยแห่งชาติ (ศปภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ตนในฐานะหัวหน้าศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติเห็นว่า สิ่งที่รัฐบาลควรทำในวันนี้และตนคิดว่ายังไม่สายเกินไปคือ
1.ให้ความจริงกับประชาชน 100 % ไม่ต้องกลัวว่า เขาจะหวาดกลัว
2. เตือนก่อนล่วงหน้าให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
3. มีจุดยืนและให้หาที่ปลอดภัยให้กับประชาชน
4.สถานที่ปลอดภัยดังกล่าวที่ให้ประชาชนอยู่ต้องให้ใกล้เคียงกับชีวิตปกติของ เขาให้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ซึ่งคำว่าใกล้เคียง ณ วันนี้ยกตัวอย่างเช่น ถนนหนทางที่ไหนน้ำท่วม น้ำไม่ท่วมก็ต้องบอกกับประชาชน ตรงไหนไปได้ ไปไม่ได้ก็ต้องบอกกับประชาชน ทุก 15 นาที
ส่วนให้ทำอย่างไรนั้น 1.หันกล้องของการจรจรทั้งหมดที่มีอยู่ซึ่งจากเดิมมีไว้สำหรับการจราจรก็เปลี่ยนมุมกล้องไปสู่มุมน้ำท่วม 2.วิทยุสื่อสารที่ใช้ในการจราจรก็ควรสื่อสารมาบอกว่าตรงไหนท่วมไม่ท่วม นำสองอย่างนี้มาผนวกกันซึ่งจะทำให้ประชาชนรับรู้ว่าที่ใดควรไปไม่ควรไป 3.ต้องบอกประชาชนว่าน้ำจะท่วมไปทิศทางใด อย่างเช่นทิศตะวันตก ต้องบอกไปเลยว่าน้ำมาจากบางบัวทอง ต่อไปก็บางใหญ่ และก็บางกรวย ในเวลาประมาณเท่าไหร่ นั่นคือสิ่งที่คนเขาอยากรู้
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวคิดนี้ได้เสนอต่อรัฐบาลหรือยัง นายปลอดประสพ กล่าวว่า เขาก็คงค่อยๆปรับไปเรื่อยๆ วันนี้ตนพูดในฐานะคนที่เคยมีประสบการณ์ ในฐานะที่เคยทำเรื่องเตือนภัยมาก่อนใครทั้งสิ้นในประเทศไทย ถามว่า การที่บอกว่าต้องบอกความจริงต่อประชาชน 100% แสดงว่าที่ผ่านมารัฐบาลยังบอกไม่หมด 100% นายปลอดประสพกล่าว ว่า ตนไม่ทราบ แต่สำหรับตนได้บอกเกือบหมด คนอื่นตนไม่รู้ และตนไม่บังอาจไปพูดถึงใคร ซึ่งวันนี้ประชาชนที่รู้สึกกลัวก็มาจากสาเหตุที่เขาไม่รับทราบข้อมูล เพราะถ้าหากเขารู้ ความกลัวก็จะค่อยคลายลงไป และจะกลายเป็นความพยายามดิ้นรนต่อสู้ เพราะฉะนั้นวันนี้ต้องให้เขารู้ ซึ่งทั้งหมดที่ตนกล่าวมาก็คือ หลักวิธีคิด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินสถานการณ์เลวร้ายที่สุดอย่างไร รมว.วิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า คงท่วมทั้งหมดและน้ำจะขังอีกพอสมควร ซึ่งตนได้ประเมินไว้ประมาณ 1 เดือน ถึง 1 เดือนครึ่ง เพราะน้ำมีจำนวนมาก ลองดูที่ จ.อยุธยา ต้องถามว่าน้ำท่วมตั้งแต่ วันที่เท่าไหร่ และวันนี้น้ำหมดหรือยังและอย่าลืมว่ากรุงเทพฯต่ำกว่าอยุธยา ซึ่งกรุงเทพฯยังจะโดนอิทธิพลน้ำทะเลหนุนอีก แต่อยุธยาไม่โดนอิทธิพลน้ำทะเลหนุน
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ต้องปรับการให้ข่าวหรือไม่ นายปลอดประสพ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ไม่กล้าให้คำแนะนำ ตนพูดไปหมดแล้วว่าข่าวควรจะไปในทิศทางใด แต่ ณ วันนี้ตนต้องของคุณ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษาสบ.10และโฆษกศปภ.ที่ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลตามประตูระบายน้ำ และรายงานมาว่าประตูไหนเปิดไม่เปิด หรือเปิดกี่เปอร์เซ็นต์
เมื่อถามว่า ประตูระบายน้ำ 214 ประตู จริงๆแล้วเปิดกี่ประตู รมว.วิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ในขณะนี้นอกกรุงเทพเปิดแล้วเป็นส่วนใหญ่ เท่าที่ทราบดีขึ้นในช่วง 2-3 วันนี้เพราะก่อนหน้านี้ได้เปิดๆปิดๆ ซึ่งคำอธิบายก็บอกว่าชาวบ้านไม่เข้าใจและขัดขวาง แต่วันนี้ชาวบ้านอาจจะเข้าใจก็ได้ทำให้เปิดเป็นส่วนใหญ่
“ส่วนในของกรุงเทพฯเปิดประมาณ 50% ซึ่งก็มีคำอธิบายว่า ต้องการควบคุมน้ำเพราะไม่อย่างนั้นน้ำจะท่วมในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งตนก็เข้าใจ แต่ในความคิดของตนนั้น คิดว่ายังกลัวเกินไป ยังสามารถเปิดได้มากกว่านี้เพราะถ้าผู้สั่งการมีความรู้ด้านนี้จริง ๆ และส่งนักวิชาการไปเฝ้าติดตามที่ประตูน้ำ เฝ้ามอนิเตอร์ เพราะประตูระบายน้ำสั่งการด้วยสวิตช์ปิดเปิด เมื่อน้ำล้นออกมาท่วมถนนมาประมาณ 2 เซนติเมตร ก็ค่อยปิด ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องของความระเอียดและความพยายาม” นายปลอดประสพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงช่วงที่กรุงเทพฯจะเผชิญสถานการณ์วิกฤติที่สุด นายปลอดประสพ กล่าวว่า คิดว่าภายในช่วงอาทิตย์นี้ และถ้าผ่านช่วงเดือนนี้ไปได้ความอันตรายก็จะลดลง อันตรายก็คือ น้ำจะท่วมสูงมาก และก็จะพบกับความลำบากต่อไป เพราะน้ำจะท่วมขังนานพอสมควร
http://www.komchadlu...ามจริงปชช..html
แปตอหลูจะกล้าพูดความจริง จะกล้าพูดเรื่องจริงหรือไม่ หลังจากท่านปลอดประสบการณ์ซึ่งเริ่มมีประสบการณ์มาบ้างแล้ว.....แนะนำ
![:P](http://webboard.serithai.net/public/style_emoticons/default/tongue.png)