Jump to content


Photo
- - - - -

"ลุงสุเทพ" นำทีมกองทัพเสื้อกาวน์ขับไล่รัฐบาล


  • Please log in to reply
22 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 ดอกปีบ

ดอกปีบ

    ^-^นางสิงห์สีฟ้า^-^

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,681 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2557 - 19:19

        แพทย์ พยาบาล บุคลากรวิชาชีพสุขภาพรวมตัวเป็นกองทัพเสื้อกาวน์ เดินหน้าจากสยามไปยังเวทีอโศก ต่อต้านรัฐบาลคอร์รัปชัน หนุนปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ด้าน "สุเทพ" ร่วมเดินให้กำลังใจด้วย ศิริราชยันไม่เลือกข้าง แต่ออกมาแสดงพลังเพื่อความถูกต้อง
  557000000770408.JPEG blank.gif         วันนี้ (20 ม.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น.เครือข่ายอาสาสมัครทางการแพทย์ ชมรมแพทย์ชรบท บุคลากรทางการแพทย์ 9 สถาบัน ประกอบด้วยแพทย์ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ พยาบาล เภสัชกร เทคนิคการแพทย์ และบุคลากรวิชาชีพสุขภาพจำนวนมากสถาบันทางการแพทย์และโรงพยาบาลต่างๆ อาทิ รพ.ศิริราช รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยมหิดล ม.ธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลจากขอนแก่น บุรีรัมย์ นครราชสีมา เป็นต้น รวมไปถึงประชาคมสาธารณสุข ได้รวมตัวกันที่บริเวณหน้าสยามดิษคัฟเวอรี จากนั้นจึงเดินขบวนผ่านหัวถนนอังรีดูนังต์ ไปตามถนนสุขุมวิท เพื่อไปสมทบยังเวทีที่แยกอโศก ทั้งนี้ เพื่อรณรงค์ให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง โดยการเดินขบวนในครั้งนี้ ไม่ได้มีการเดินคล้องแขนเหมือนการเดินขบวนตามปกติ แต่มีการถือธงสีขาวติดสัญลักษณ์กาชาดสีแดง อันเป็นสัญลักษณ์ทางการแพทย์ด้วย พร้อมกันนี้ชูป้ายสนับสนุนการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง รวมไปถึงป้ายขับไล่รัฐบาลต่างๆ โดยระบุว่า ไม่ได้ต้องการไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ต้องการไล่รัฐบาลที่เข้ามาโกง และป้ายต่อต้านการคอร์รัปชัน รวมถึงไม่เอารัฐบาลทรราช
       
        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และแกนนำ กปปส. ได้มาร่วมเดินขบวนกับเครือข่ายอาสาสมัครทางการแพทย์ฯด้วย โดยมีการเป่านกหวีด และตะโกนขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลตลอดทาง ขณะที่ประชาชนตามสองข้างทางต่างออกมายืนเป่านกหวีดและโบกมือให้กำลังใจกันอย่างเนืองแน่น พร้อมสมทบเงินบริจาค นอกจากนี้ยังตะโกนลุงกำนันสู้ๆ ให้กำลังใจด้วย
       
        ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงกรณีมีการนัดรวมพลคนใส่เสื้อกาวน์ บริเวณหน้าสยามดิสคัฟเวอรี่ เพื่อรวมกันเดินสมทบมวลมหาประชาชนบริเวณแยกอโศก ว่า เป็นการรวมตัวของแพทย์ และบุคลากรสาธารณสุขทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่โรงเรียนแพทย์ หรือศิริราช แต่เป็นในนามบุคลาการทางการแพทย์ทั้งหมด รวมทั้งประชาคมสาธารณสุขด้วย ซึ่งเป็นการแสดงพลังร่วมกันในการขอให้ยุติความรุนแรง ขอให้มีการเจรจา เพราะมองว่าการเลือกตั้ง ณ ขณะนี้อาจไม่ใช่จุดสิ้นสุด ควรหันมาเจรจา ปฏิรูปให้ได้ก่อนแล้วค่อยเลือกตั้ง
       
        ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ว่าจะออกมาในภาพศิริราชพยาบาลเลือกข้าง ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวเลือกข้าง เพราะไม่ได้เลือก แค่ต้องการแสดงพลังว่าขอให้เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว และสถาบันแพทย์ก็เป็นสถาบันที่คนเชื่อถือ ก็ควรออกมาทำในสิ่งที่ถูกต้อง
       
        ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายในขบวนมี นพ.นิทัศน์ รายยวา ผู้ตรวจราชการ สธ. ตุ๊ก ชนกวนันท์ รักชีพ ดารานางแบบ ร่วมเดินด้วย
       
       ด้าน ตัวแทนกลุ่มทันตแพทย์ จุฬาฯ รุ่น 35 กล่าวว่า การออกมารวมตัวกันในครั้งนี้ เพราะมีการนัดหมายกันในโซเชียลมีเดีย ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ที่ออกมาร่วมเดินนั้นตนเชื่อว่า 90% อยากออกอยู่แล้ว ซึ่งแต่ละกลุ่มต่างก็ทำป้ายของตัวเองมา เพื่อแสดงจุดยืนว่าต้องปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ขอยืนยันว่าที่ออกมาไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ว่าเป็นพรรคเพื่อไทย หรือพรรคประชาธิปัตย์ แต่ออกมาเพื่อแสดงความถูกต้อง เพราะสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่นั้นไม่ถูกต้อง กลุ่มแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ที่ยึดเรื่องจรรยาบรรณเป็นสิ่งสำคัญ จึงต้องออกมาแสดงความถูกต้อง
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. นายสุเทพ ได้เดินขบวนพร้อมกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์มาถึงบริเวณบีทีเอส สถานีอโศก ขณะที่กลุ่มเครือข่ายฯได้ขึ้นเวทีที่แยกอโศกแล้วร้องเพลงชาติร่วมกัน
  557000000770402.JPEG blank.gif        
  557000000770403.JPEG blank.gif        
  557000000770404.JPEG blank.gif        
  557000000770405.JPEG blank.gif        
  557000000770406.JPEG blank.gif        
  557000000770407.JPEG blank.gif        
  557000000770409.JPEG blank.gif        

http://www.manager.c...D=9570000007428


ดอกไม้งามมีหนามแหลม ใช่บานแย้มให้คนชม บานไว้เพื่อสะสม ความอุดมแห่งผืนดิน...


#2 googee

googee

    น้องเก่า

  • Banned
  • PipPip
  • 133 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2557 - 19:21

มันก็พวกเดิมๆนั่นแหละ วนลูปจนไม่มีราคาแล้ว



#3 notcomeng

notcomeng

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,963 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2557 - 19:22

มันก็พวกเดิมๆนั่นแหละ วนลูปจนไม่มีราคาแล้ว

เหมือนไอ้พวก วนลูปล็อกอินใช่ป่ะน้อง  :lol:  :lol:  :lol:



#4 HiddenMan

HiddenMan

    Long Live The King

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,023 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2557 - 19:22

มันก็พวกเดิมๆนั่นแหละ วนลูปจนไม่มีราคาแล้ว

 

:D หรอ...


“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.”  - Mahatma Gandhi

 

สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด

https://www.facebook...denman.serithai


#5 ดอกปีบ

ดอกปีบ

    ^-^นางสิงห์สีฟ้า^-^

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,681 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2557 - 19:23

คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ 8 สถาบัน ร่วมกันออกแถลงการณ์จี้รัฐบาลลาออก ชี้สถานการณ์บ้านเมืองแตกแยก มากขึ้น หากมีการเลือกตั้ง 2 ก.พ. จะนำมาซึ่งความขัดแย้ง ความสูญเสียและปัญหาต่อเนื่องระยะยาว
  blank.gifblank.gif

1536707_509247572521186_519619448_n2.jpg       


Edited by ดอกปีบ, 21 มกราคม พ.ศ. 2557 - 12:18.

ดอกไม้งามมีหนามแหลม ใช่บานแย้มให้คนชม บานไว้เพื่อสะสม ความอุดมแห่งผืนดิน...


#6 ดอกปีบ

ดอกปีบ

    ^-^นางสิงห์สีฟ้า^-^

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,681 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2557 - 19:25

มันก็พวกเดิมๆนั่นแหละ วนลูปจนไม่มีราคาแล้ว

 

เดิมๆ ที่ไหน แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ออกมาเกือบทั้งประเทศ

 

คนไม่มีราคา คือคุณต่างหาก :angry:


ดอกไม้งามมีหนามแหลม ใช่บานแย้มให้คนชม บานไว้เพื่อสะสม ความอุดมแห่งผืนดิน...


#7 ไทยไม่ทน

ไทยไม่ทน

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,381 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2557 - 19:26

มันก็พวกเดิมๆนั่นแหละ วนลูปจนไม่มีราคาแล้ว

 

ด่าพวกเสื้อขาวเหรอครับ

 

1524609_794246463925335_1392405575_n.png


llllllllllllllllllllllllllllll

llllllllllllllllllllllllllllll

llllllllllllllllllllllllllllll

 


#8 ตอม คูโบต้า

ตอม คูโบต้า

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 491 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2557 - 19:42

        แพทย์ พยาบาล บุคลากรวิชาชีพสุขภาพรวมตัวเป็นกองทัพเสื้อกาวน์ เดินหน้าจากสยามไปยังเวทีอโศก ต่อต้านรัฐบาลคอร์รัปชัน หนุนปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ด้าน "สุเทพ" ร่วมเดินให้กำลังใจด้วย ศิริราชยันไม่เลือกข้าง แต่ออกมาแสดงพลังเพื่อความถูกต้อง
  557000000770408.JPEGblank.gif         วันนี้ (20 ม.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น.เครือข่ายอาสาสมัครทางการแพทย์ ชมรมแพทย์ชรบท บุคลากรทางการแพทย์ 9 สถาบัน ประกอบด้วยแพทย์ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ พยาบาล เภสัชกร เทคนิคการแพทย์ และบุคลากรวิชาชีพสุขภาพจำนวนมากสถาบันทางการแพทย์และโรงพยาบาลต่างๆ อาทิ รพ.ศิริราช รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยมหิดล ม.ธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลจากขอนแก่น บุรีรัมย์ นครราชสีมา เป็นต้น รวมไปถึงประชาคมสาธารณสุข ได้รวมตัวกันที่บริเวณหน้าสยามดิษคัฟเวอรี จากนั้นจึงเดินขบวนผ่านหัวถนนอังรีดูนังต์ ไปตามถนนสุขุมวิท เพื่อไปสมทบยังเวทีที่แยกอโศก ทั้งนี้ เพื่อรณรงค์ให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง โดยการเดินขบวนในครั้งนี้ ไม่ได้มีการเดินคล้องแขนเหมือนการเดินขบวนตามปกติ แต่มีการถือธงสีขาวติดสัญลักษณ์กาชาดสีแดง อันเป็นสัญลักษณ์ทางการแพทย์ด้วย พร้อมกันนี้ชูป้ายสนับสนุนการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง รวมไปถึงป้ายขับไล่รัฐบาลต่างๆ โดยระบุว่า ไม่ได้ต้องการไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ต้องการไล่รัฐบาลที่เข้ามาโกง และป้ายต่อต้านการคอร์รัปชัน รวมถึงไม่เอารัฐบาลทรราช
       
        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และแกนนำ กปปส. ได้มาร่วมเดินขบวนกับเครือข่ายอาสาสมัครทางการแพทย์ฯด้วย โดยมีการเป่านกหวีด และตะโกนขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลตลอดทาง ขณะที่ประชาชนตามสองข้างทางต่างออกมายืนเป่านกหวีดและโบกมือให้กำลังใจกันอย่างเนืองแน่น พร้อมสมทบเงินบริจาค นอกจากนี้ยังตะโกนลุงกำนันสู้ๆ ให้กำลังใจด้วย
       
        ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงกรณีมีการนัดรวมพลคนใส่เสื้อกาวน์ บริเวณหน้าสยามดิสคัฟเวอรี่ เพื่อรวมกันเดินสมทบมวลมหาประชาชนบริเวณแยกอโศก ว่า เป็นการรวมตัวของแพทย์ และบุคลากรสาธารณสุขทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่โรงเรียนแพทย์ หรือศิริราช แต่เป็นในนามบุคลาการทางการแพทย์ทั้งหมด รวมทั้งประชาคมสาธารณสุขด้วย ซึ่งเป็นการแสดงพลังร่วมกันในการขอให้ยุติความรุนแรง ขอให้มีการเจรจา เพราะมองว่าการเลือกตั้ง ณ ขณะนี้อาจไม่ใช่จุดสิ้นสุด ควรหันมาเจรจา ปฏิรูปให้ได้ก่อนแล้วค่อยเลือกตั้ง
       
        ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ว่าจะออกมาในภาพศิริราชพยาบาลเลือกข้าง ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวเลือกข้าง เพราะไม่ได้เลือก แค่ต้องการแสดงพลังว่าขอให้เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว และสถาบันแพทย์ก็เป็นสถาบันที่คนเชื่อถือ ก็ควรออกมาทำในสิ่งที่ถูกต้อง
       
        ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายในขบวนมี นพ.นิทัศน์ รายยวา ผู้ตรวจราชการ สธ. ตุ๊ก ชนกวนันท์ รักชีพ ดารานางแบบ ร่วมเดินด้วย
       
       ด้าน ตัวแทนกลุ่มทันตแพทย์ จุฬาฯ รุ่น 35 กล่าวว่า การออกมารวมตัวกันในครั้งนี้ เพราะมีการนัดหมายกันในโซเชียลมีเดีย ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ที่ออกมาร่วมเดินนั้นตนเชื่อว่า 90% อยากออกอยู่แล้ว ซึ่งแต่ละกลุ่มต่างก็ทำป้ายของตัวเองมา เพื่อแสดงจุดยืนว่าต้องปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ขอยืนยันว่าที่ออกมาไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ว่าเป็นพรรคเพื่อไทย หรือพรรคประชาธิปัตย์ แต่ออกมาเพื่อแสดงความถูกต้อง เพราะสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่นั้นไม่ถูกต้อง กลุ่มแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ที่ยึดเรื่องจรรยาบรรณเป็นสิ่งสำคัญ จึงต้องออกมาแสดงความถูกต้อง
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. นายสุเทพ ได้เดินขบวนพร้อมกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์มาถึงบริเวณบีทีเอส สถานีอโศก ขณะที่กลุ่มเครือข่ายฯได้ขึ้นเวทีที่แยกอโศกแล้วร้องเพลงชาติร่วมกัน
  557000000770402.JPEGblank.gif        
  557000000770403.JPEGblank.gif        
  557000000770404.JPEGblank.gif        
  557000000770405.JPEGblank.gif        
  557000000770406.JPEGblank.gif        
  557000000770407.JPEGblank.gif        
  557000000770409.JPEGblank.gif        

http://www.manager.c...D=9570000007428

 

พวกลูกอีช่างอ้างหน่วยงานหรือ วิชาชีพ คนอาชีพเดียวกันเขาไม่เห็นด้วยกับพวกเอ็งเยอะแยะ  สาดๆๆๆ



#9 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2557 - 19:54

blank.gif        
http://www.manager.c...D=9570000007428

พวกลูกอีช่างอ้างหน่วยงานหรือ วิชาชีพ คนอาชีพเดียวกันเขาไม่เห็นด้วยกับพวกเอ็งเยอะแยะ  สาดๆๆๆ

 


 

ข่าวฟรีทีวีตายแล้ว

ยอดมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกก แร้วงี้ เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ จะว่าประการใด ?

-_- -_-


เรียนแอดมินครับ

ขอบคุณมากครับที่ช่วยสร้างเพจดีๆ ผมมีเรื่องรบกวนฝากประชาสัมพันธ์ครับ


ในวันพรุ่งนี้ นอกจากจะมีข้าราชการสาธารณสุขแล้ว พวกเราเหล่านักวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นข้าราชการและพนักงานของรัฐกลุ่มหนึ่ง ได้รวมตัวกันเพื่อแสดงพลังว่าอยู่เคียงข้างมวลมหาประชาชนครับ

ขอความกรุณาอย่าลงชื่อนะครับ

ขอบคุณมากครับ


282939_395777670558464_1912723766_n.jpg

เด๋วอตอม คูโบต้า ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ต้องออกมากรี๊ดรับไม่ได้แน่ๆ หึ หึ :D

 


:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:


Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#10 เส้นใหญ่ไม่งอก

เส้นใหญ่ไม่งอก

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,033 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2557 - 20:02

มันก็พวกเดิมๆนั่นแหละ วนลูปจนไม่มีราคาแล้ว

 

หย่าาา เจ็บจิ๊ด เจ็บจิ๊ด  ทำไมหมอกับพยาบาลต้องไปเดินกับเทพหน้าดำด้วยฟระ

 

พอทีพวกเสื้อแดงของกุชุมนุม แมร่งไม่โผล่มาร่วมเลย ฮือๆๆๆๆๆๆ :wacko:



#11 Bayonet

Bayonet

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,235 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2557 - 20:03

มันก็พวกเดิมๆนั่นแหละ วนลูปจนไม่มีราคาแล้ว

 

ถ้ากลุ่มคนระดับ  อาจารย์หมอ  ไม่มีราคา

 

เวลา googee และญาติป่วย ก็ไม่ต้องไปรักษา

 

อัพเกตไปเป็น  อาจารย์ใหญ่  กันทั้งครอบครัวเลย  รับรองราคาพุ่งปี๊ดดดด :lol:


Edited by Bayonet, 20 มกราคม พ.ศ. 2557 - 20:05.


#12 ดอกปีบ

ดอกปีบ

    ^-^นางสิงห์สีฟ้า^-^

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,681 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2557 - 20:04

45078_415971908536849_61987645_n.jpg

3(727).jpg

2(839).jpg

71998.jpg

 

72000.jpg

 

 

Edited by ดอกปีบ, 20 มกราคม พ.ศ. 2557 - 20:06.

ดอกไม้งามมีหนามแหลม ใช่บานแย้มให้คนชม บานไว้เพื่อสะสม ความอุดมแห่งผืนดิน...


#13 ดอกปีบ

ดอกปีบ

    ^-^นางสิงห์สีฟ้า^-^

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,681 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2557 - 22:27

5570000007704271.jpg

 

5570000007704331.jpg


ดอกไม้งามมีหนามแหลม ใช่บานแย้มให้คนชม บานไว้เพื่อสะสม ความอุดมแห่งผืนดิน...


#14 aiwen^mei

aiwen^mei

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,150 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2557 - 22:29

รัฐบาลโจรนี่ เรียกแขกเก่งจริงๆ

 

:D  :D  :D



#15 aiwen^mei

aiwen^mei

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,150 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2557 - 22:34

WiseKnow Thailand
 

DrSant บทความสุขภาพ นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์ (chaiyodsilp@gmail.com)

18 มกราคม 2557

ขอเขียนถึงการเมืองหนึ่งครั้ง และครั้งเดียว

บล็อกของผมพูดถึงแต่เรื่องสุขภาพการเจ็บป่วย จะนอกเรื่องบ้างก็เป็นเรื่องสนุกสนานเฮฮาคลายเครียด เรื่องอื่นๆที่เป็นสาระแต่ไม่เกี่ยวกับสุขภาพไม่ว่าจะเป็นศาสนา หรือการเมือง ผมไม่เคยพูดถึงเลย ที่ผมไม่พูดถึงการเมืองนั้นมีเหตุผลสองอย่าง อย่างหนึ่งก็เพราะคนไข้ของผมมีทั้งสีเหลืองสีแดง ที่เป็น ส.ส. ก็มี ที่เป็นรัฐมนตรีก็มี มีทั้งฝ่ายเพื่อไทยและฝ่ายประชาธิปัตย์ แม้แต่ท่านผู้อ่านบล็อกนี้ก็มีทั้งเหลืองทั้งแดง ถ้าผมพูดเรื่องการเมืองไป ไม่ว่าจะพูดออกเหลืองหรือออกแดง ก็ต้องทะเลาะกับคนไข้ของผมเสียราวครึ่งหนึ่ง ดังนั้นผมเงียบเสียดีกว่า


แต่ว่ามาถึงวันนี้บ้านเมืองของเราได้เฉียดเข้าใกล้จวนแจจะตกขอบเหวของความหายนะ ผมจึงคิดว่าเป็นเวลาที่ผมควรแหกประเพณีของบล็อก ขอเขียนเรื่องการเมืองสักหนึ่งครั้ง ครั้งเดียว แล้วจะไม่เขียนถึงอีกเลย

อีกเหตุผลที่ผมไม่เคยเขียนเรื่องการเมืองมาก่อนก็คือผมเองเคยตั้งใจว่าจะทำงานเป็นหมออาชีพมุ่งใช้ชีวิตดูแลคนเจ็บไข้โดยจะไม่ยุ่งอะไรกับการเมืองอีกเลย ตั้งแต่หลังเหตุการณ์ตุลาคม 2519 เป็นต้นมา เหตุผลเรื่องนี้มันยาว แต่ผมเล่าคร่าวๆให้ท่านผู้อ่านได้ เพื่อจะได้เข้าใจเรื่องที่ผมจะเขียนวันนี้ คือหลังเหตุการณ์ที่นักศึกษาเดินขบวนขับไล่รัฐบาลทหารเมื่อ 14 ตุลาคม 2516 ผมก็เหมือนนักศึกษาในสมัยนั้นคนอื่นๆที่ฝักใฝ่การเมืองจนการเมืองเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตัวผมเองเป็นรองนายกองค์การนักศึกษาของมหา’ลัย ซึ่งมีงานหลักคือประสานงานม็อบต่างๆนอกมหา’ลัยมากกว่างานเรียนหนังสือ วาระหลักของขบวนการนักศึกษาสมัยนั้นมีเรื่องเดียว คือทำอย่างไรจะลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนลงได้ หรือที่เรียกว่า wealth distribution วิธีการที่พวกเราตกลงกันได้เป็นเอกฉันท์มีประเด็นเดียว คือต้องต่อต้านการคืนชีพของรัฐบาลเผด็จการทหารทุกรูปแบบ แต่การจะเดินหน้าไปอย่างไรโดยไม่มีเผด็จการทหารนั้น นักศึกษาเองก็แบ่งเป็นสองแนว แนวหนึ่งนิยมระบบประชาธิปไตยที่มีการเลือกตั้ง อีกแนวหนึ่งเชื่อว่าระบบเลือกตั้งไม่เวอร์ค เพราะเปิดช่องให้พวกนายทุนขุนศึกศักดินาตามเข่นฆ่าทำลายผู้นำคนจน จำต้องก่อการปฏิวัติลุกฮือของชนชั้นกรรมาชีพ แล้วตั้งรัฐบาลเผด็จการของชนชั้นกรรมาชีพขึ้น เรียกง่ายๆว่าแนวทางคอมมิวนิสต์ พวกนิยมแนวทางหลังนี้บางคนก็ได้ไปติดต่อสื่อสัมพันธ์กับ พคท.(พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองนอกกฎหมายและทำงานอยู่ในป่า ตัวผมนั้นเป็นพวกไม่ชอบความรุนแรงและนิยมระบบเลือกตั้ง แม้ว่าอีกใจหนึ่งยังออกจะเห็นด้วยว่าท่ามันจะไม่เวอร์ค เพราะขณะที่พวกเราพยายามยึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตยอยู่นั้น ก็ได้เห็นผู้นำชาวนา ผู้นำกรรมกร ที่ลุกขึ้นมานำเรียกร้องเพื่อปากท้อง ได้ทะยอยถูก “เก็บ” หรือฆ่าตายอย่างทารุณไปหลายราย

แล้วทหารก็ทำรัฐประหารโหดเมื่อ 6 ตุลาคม 2519 นักศึกษาจำนวนหนึ่งถูกฆ่าตาย บางคนถูกจับแขวนคอ อีกจำนวนมากหนีหัวซุกหัวซุน รวมทั้งผมด้วย ส่วนหนึ่งหนีเข้าป่าไปสมทบกับ พคท. แต่ผมหนีไปตั้งหลักไม่ไกล พอเห็นปลอดภัยก็กลับเข้าหอเรียนหนังสือต่อ ประสบการณ์ที่เหล่าผู้นำนักศึกษาได้รับจากการกระทำของขุนศึกในสมัยนั้น ผมบรรยายได้คำเดียวว่า.. “ยากที่จะลืม”

ผมเองนั้นเป็นคนขี้ขลาด เมื่อเจอเข้าก็บอกตัวเองได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่วิธีที่ผมจะใช้ชีวิตที่ทอดยาวรอผมอยู่ข้างหน้าอีกหลายสิบปี จึงสาปส่งการยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมืองตั้งแต่นั้น ช่วงประมาณปีพ.ศ. 2524 เมื่อเรียนจบไปเป็นหมอชนบท มีชาวบ้านนิยมนับถือมาก ก็มีคนมายุว่าคุณหมอน่าจะสมัครผู้แทน ผมได้แต่หัวเราะหึ..หึ ในช่วงเวลานั้น เมื่อไปกลับเยี่ยมบ้านเกิด เพื่อนๆมัธยมรุ่นเดียวกันซึ่งกระจายเป็นครูใหญ่ครูน้อยอยู่ทั่วเขตเลือกตั้งก็รุมชวนให้สมัครผู้แทนโดยอาสาว่าจะช่วย ผมก็ได้แต่หัวเราะหึ..หึ เพราะในใจผมต่อเรื่องการเมืองนั้นมีคำตอบชัดอยู่แล้ว

ช่วงตั้งแต่ปีพ.ศ. 2519 เป็นต้นมา เป็นช่วงที่เมืองไทยใกล้จวนแจจะเกิดสงครามกลางเมือง (civil war) หมายความว่าสงครามที่ชาวบ้านรบกับชาวบ้านด้วยกันเอง

ฝ่ายหนึ่งก็คือฝ่ายที่พวกเราเรียกว่า “นายทุน-ขุนศึก-ศักดินา” ซึ่งมีกำลังพลหลักเป็นชาวบ้านที่ถูกปลุกปั่นให้เกลียดชังพวกคอมมิวนิสต์ที่จะมาล้มเจ้า โดยพวกขุนศึกศักดินาได้ลงไปจัดตั้งมวลชนชาวบ้านขึ้นเป็นกลุ่มลูกเสือชาวบ้านทั่วประเทศ เอาไว้เป็นทัพหนุนของทัพหน้า ตัวทัพหน้าเองก็เป็นชาวบ้านที่พวกขุนศึกลงไปติดอาวุธให้โดยตรง เรียกว่า “ทหารพราน”

ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งคือ พคท. ซึ่งมุ่งโค่นล้มนายทุน-ขุนศึก-ศักดินา และมุ่งสถาปนารัฐบาลเผด็จการโดยชนชั้นกรรมาชีพขึ้น ฝ่ายนี้มีกองกำลังเป็นชาวบ้านเช่นกัน แต่เป็นชาวบ้านที่ พคท. ได้ปลุกระดมให้สำเหนียกถึงความเหลื่อมล้ำในสังคมและให้เจ็บแค้นต่อการถูกกดขี่ขูดรีด ส่วนที่เป็นมวลชนนั้นไม่ได้ติดอาวุธ แต่ส่วนที่เป็นแนวร่วม, เป้า ส. (หมายถึงคนที่จ่อคิวจะได้เป็นสมาชิกพรรค) และคนที่เป็นสมาชิกพรรคนั้น พคท.ได้ติดอาวุธให้ด้วย โดยที่ประมาณครึ่งหนึ่งของเพื่อนนักศึกษาที่ผมรู้จักและทำกิจกรรมด้วยกัน ได้มาอยู่กับฝ่าย พคท. 

ตรงกลางระหว่างสองฝ่ายนี้ก็คือพวกที่หวังอาศัยเวทีประชาธิปไตยแบบเลือกตั้งในการแก้ปัญหา ซึ่งก็มีทั้งนายทุน ปัญญาชน คนชั้นกลางทั่วไป และนักการเมืองสายไม่รุนแรงซึ่งมีเพื่อนเก่าของผมอยู่ด้วยอีกจำนวนหนึ่ง

แต่เหตุการณ์ก็ผ่านมาได้อีกหลายปีโดยไม่มีสงครามกลางเมืองขนาดใหญ่จริงๆเกิดขึ้นนอกจากยุทธการป่าล้อมเมืองระดับไม่รุนแรง เพื่อนที่อยู่กับ พคท. ได้เล่าให้ผมฟังว่า พคท. เองมีโครงสร้างภายในที่ล้าหลังพัฒนาไม่ขึ้น ไม่มีศักยภาพพอที่จะก่อการปฏิวัติยึดอำนาจรัฐมาตั้งเป็นรัฐบาลเผด็จการของชนชั้นกรรมาชีพขึ้นได้ ท้ายที่สุด พคท. ก็ล่มสลายไป ขณะเดียวกันรัฐบาลป๋าเปรมได้เปิดอ้าแขนรับพวกเราที่เคยเข้าป่าไปอยู่กับ พคท. ให้กลับบ้าน พวกเราเกือบทั้งหมดก็กลับมา เพื่อนรุ่นพี่บางคนกลับมาเป็นหมอฝึกหัดอยู่ภายใต้ความดูแลของผมซึ่งตอนนั้นผมเป็นแพทย์ประจำบ้านแล้ว พวกเราที่กลับมา ได้รับการกระซิบจากฝ่ายขุนศึกว่าให้อยู่แต่ในกรุงเทพฯ คนที่เป็นหมอก็ให้เป็นหมอในกรุงเทพฯ ห้ามออกไปอยู่ชนบท คนที่ยอมเชื่อฟังก็ได้รอดชีวิตมา ซึ่งบางคนกลายมาเป็นผู้นำฮาร์ดคอร์ของมวลชนเสื้อแดงอยู่ในวันนี้ เพื่อนสนิทของผมคนหนึ่งกลับมา เขาไม่ยอมอยู่ในกรุงเทพ แต่ไปทำร้านอาหารอยู่ริมน้ำโขงที่เชียงราย แล้ววันหนึ่งเขาก็ถูกตาม “เก็บ” ตายคาร้านของเขาอย่างโหดเหี้ยมทารุณ

พวกเพื่อนๆที่ยังมีหัวคอมมิวนิสต์ได้เคยเปรยให้ผมฟังว่า เมื่อหมดสิ้น พคท. สำหรับคนชั้นกรรมาชีพ การจะยึดอำนาจรัฐมองไม่เห็นทางอื่น มีทางเหลืออยู่ทางเดียวคือต้องสามัคคีกับนายทุน ซึ่งเขาใช้คำว่า “นายทุนชาติ” เพื่อชิงอำนาจรัฐมาให้ได้ก่อน เมื่อได้แล้วก็ค่อยใช้อำนาจนั้นมากระจายรายได้หรือสร้าง wealth distribution ภายหลัง นั่นหมายความว่าการปฏิวัติต้องทำเป็นสองก๊อก ก๊อกแรก กรรมาชนสามัคคีกับนายทุนชาติโค่นล้มขุนศึกศักดินา ก๊อกสองกรรมาชนค่อยมาโซ้ยกับนายทุนชาติซะเองต่อเพื่อบังคับเฉลี่ยความรวยมาให้คนจน 

ต่อมา ประมาณปี 2544 ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ได้มี “นายทุนใหญ่ใจถึง” เข้ามาเล่นการเมืองด้วยวิธีใช้เงินจำนวนมากซื้อสส.เข้าคอก เพื่อนผมที่เป็นนักสังคมนิยมแนวทางรุนแรงหลายคนได้เข้าไปซุกปีกนี้ พรรคของ “นายทุนใหญ่ใจถึง” ชนะเลือกตั้งอย่างง่ายดาย เรียกว่าวิธีซื้อแบบนี้ทำให้ได้อำนาจรัฐมาง่ายๆโดยแทบไม่ต้องเปลืองเลือดเนื้อเลย เพื่อนผมหลายคนแฮปปี้ ได้เป็นรัฐมนตรี และได้ผลักดันนโยบายที่หากจะเรียกจากมุมของพวกสังคมนิยมก็เรียกได้ว่าเป็นนโยบายกระจายรายได้ แต่พวกนายธนาคารเรียกว่านโยบายประชานิยม ในบรรดานโยบายเหล่านี้ ผมเห็นมีอยู่สองเรื่องที่มีผลดีต่อคนชั้นกรรมาชีพอย่างเป็นรูปธรรม คือนโยบายสามสิบบาทรักษาทุกโรค กับนโยบายกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งหากไม่มี "นายทุนใหญ่ใจถึง" ให้อาศัยใบบุญ สิ่งนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น

แต่ฮันนิมูนระหว่างนักสังคมนิยมหัวรุนแรงกับ “นายทุนใหญ่ใจถึง” มีอยู่ได้ไม่กี่ปี
ปัญหาที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เพราะมิชชั่นที่แท้จริงของ “นายทุนใหญ่ใจถึง” คือการสร้างอำนาจผูกขาดถาวรด้วยการกอบโกยกักตุนทุนทรัพย์ไว้สร้างอำนาจให้ตัวเองและครอบครัวต่อๆกันไปไม่สิ้นสุด มิชชั่นนี้ก่อความไม่พอใจในหมู่นายทุนอื่นที่ถูกกีดกันไม่ให้ได้เอี่ยวในผลประโยชน์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนายทุนที่อิงอยู่กับขุนศึกศักดินา พวกอื่นที่ไม่พอใจก็มีนักการเมืองที่อยู่คนละพวก (ซึ่งก็มีเพื่อนของผมอีกจำนวนหนึ่ง) และปัญญาชนคนชั้นกลางที่ต้องการให้ใช้หลักผิดชอบชั่วดีในการดูแลบ้านเมือง ทั้งสามพวกนี้ได้สามัคคีกับพวกขุนศึกศักดินาโค่นล้ม “นายทุนใหญ่ใจถึง” ซึ่ง “นายทุนใหญ่ใจถึง” ก็ทราบดี จึงด้านหนึ่งได้ใช้ยุทธการปลุกระดมและจัดตั้งมวลชนคนยากจนในชนบทไว้เป็นเกราะกันชนปกป้องตัวเองจากพวกขุนศึก อีกด้านหนึ่งได้ลงมือ “ซื้อ” ขุนศึกส่วนหนึ่งมาเป็นพวกของตน ในวันที่ถูกทหารทำรัฐประหารล้มรัฐบาลของตัวเองเมื่อปีพ.ศ. 2549 ตอนนั้นตัว “นายทุนใหญ่ใจถึง” อยู่ที่สหรัฐอเมริกา เพื่อนคนหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ชิดกับเขาเล่าให้ผมฟังว่านาทีแรกที่ได้รับรายงานข่าวรัฐประหาร นายทุนใหญ่ใจถึงเอ่ยปากถามว่า

“ใครทำ.. พวกเราหรือเปล่า?”

นั่นหมายความว่าย้อนหลังไปไกลถึงแต่สมัยนั้น (2549) การซื้อขุนศึกไว้เป็นพวกของตนก็ได้ดำเนินไปจนถึงจุดที่หากจะใช้ก่อรัฐประหารก็ทำได้แล้ว เพียงแต่ว่ากลุ่มขุนศึกที่ชิงลงมือในวันนั้นเป็นอีกพวกหนึ่ง การแพ้เกมกันในชั่วเวลาสั้นๆที่นับกันเป็นชั่วโมงนี้ทำให้ “นายทุนใหญ่ใจถึง” ต้องระเห็จไปอยู่ต่างประเทศและยังไม่ได้กลับเมืองไทยจนทุกวันนี้

การรัฐประหารโค่นล้ม “นายทุนใหญ่ใจถึง” ได้สำเร็จในปี 2549 ทำให้ฝ่ายต่อต้าน “นายทุนใหญ่ใจถึง” กล้าแข็งขึ้น ฝ่าย “นายทุนใหญ่ใจถึง” เองกลับต้องสาละวนตกเป็นฝ่ายตั้งรับ จนชีวิตของเพื่อนๆนักสังคมนิยมที่ไปซุกอยู่ในปีกของ ” นายทุนใหญ่ใจถึง” ทุกวันนี้ไม่มีเวลามาคิดเรื่อง wealth distribution อีกต่อไปแล้ว เพราะต้องมัวแต่ยุ่งอยู่กับการต่อสู้เพื่อธำรงรักษาอำนาจรัฐผ่านการใช้เงินและลูกเล่นทุกรูปแบบโดยเลิกคำนึงถึงหลักผิดชอบชั่วดีไปเลย ขอเพียงยืดเวลายึดกุมอำนาจรัฐออกไปให้ได้อย่างเดียว
นโยบายประชานิยมซึ่งเดิมเป็นส่วนหนึ่งของการกระจายรายได้ที่เคยได้ผล ได้แปลงรูปมาเป็นวิธีหาเสียงแบบสุกเอาเผากินและก่อปัญหามากกว่าแก้ปัญหา เพื่อนๆของผมทุกคนดูเหมือนจะลืมพันธะกิจหลักที่จะ distribute wealth ไปหมดสิ้น ปัญหาพื้นฐานของคนจน ถ้าไม่นับเรื่องการรักษาพยาบาลซึ่งทำได้ดีเสียเรื่องหนึ่งแล้ว เรื่องอื่นยังไม่ได้รับการแก้ไขเลยแม้เวลาจะผ่านไปแล้วเกือบสิบปี ปัญหาคนจนไร้ที่ดินทำกินซึ่งเป็นที่มาของ “ม็อบปากมูล” ที่หนังสือพิมพ์เคยขนานนามว่าม็อบตลอดกาล เคยมีอยู่อย่างไร ก็ยังมีอยู่อย่างนั้น ไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะปฏิรูปที่ดิน ปัญหาชาวนามีต้นทุนการผลิตสูงและผลผลิตคุณภาพต่ำก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหาการกระจายอำนาจและงบประมาณไปชนบทที่รัฐธรรมนูญบังคับไว้ นอกจากจะไม่ได้ทำแล้วยังถูกระงับอีกต่างหาก ส่วนใหญ่เพื่อนๆเผลอลืมเพราะเผลอไปยึดติดเงินและอำนาจซึ่งเป็นเพียงเครื่องมือที่จะบรรลุเป้าหมายแทนการมุ่งมั่นที่ตัวเป้าหมายเองเสียฉิบ กิจกรรมปกป้องอำนาจนี้ทำกันโดยทิ้งหลักผิดถูกชั่วดีไปหมด มุ่งเอาแต่ชนะและยึดกุมอำนาจรัฐให้ได้ ทำกันอยู่นานตลอดเกือบสิบปีที่ผ่านมา จนทำให้รากวัฒนธรรมของสังคมไทยสั่นคลอนเหมือนต้นไม้ที่ถูกดึงให้รากบางส่วนขาด สังคมไทยทุกวันนี้ไม่มีใครสนใจแยกแยะความชั่วความดีออกจากกันอีกต่อไปแล้ว คนระดับนำของสังคมและอาจารย์มหา'ลัยพูดออกโทรทัศน์ว่าชั่วหมายความว่าดีได้อย่างหน้าตาย และคนไทยทุกคนก็มีส่วนร่วมกันปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้น อย่างน้อยก็ด้วยการทำตัวเป็น “ไทยเฉย” ดังนั้นการที่ประเทศชาติของเราเดินมาจนถึงจุดนี้ได้ จึงเป็น “กรรมหมู่” ที่คนไทยทุกๆคนร่วมกันก่อ จะโทษกันและกันไปก็ไร้ประโยชน์

หลังการรัฐประหารและโดนกลศึก "ตุลาการภิวัฒน์" จนต้องหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ “นายทุนใหญ่ใจถึง” ได้ใช้ความพยายามผ่านรัฐบาลหุ่นของตนเพื่อกลับมามีอำนาจเต็มอีกครั้งให้ได้ โดยทำการอย่างไม่คำนึงถึงหลักผิดชอบชั่วดีใดๆ การกระทำดังกล่าวได้ก่อให้เกิดพลังต่อต้านขึ้นใหม่ในสังคม คือกลุ่มคนชั้นกลางที่ยังเชื่อมั่นเรื่องผิดชอบชั่วดี กลุ่มนี้ได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากพันเป็นหมื่น จากหมื่นเป็นแสน จากแสนเป็นล้าน จากล้านเป็นหลายล้าน และขยายข้ามชั่วอายุจากคนรุ่นเก่าลงไปถึงคนรุ่นใหม่ เรียกว่าเป็นการฮึดสู้ของ “ไทยเฉย” ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และคนกลุ่มนี้ได้แสดงเจตนาที่จะเข้ามาสร้างระบบการเมืองที่มีพื้นฐานอยู่บนสำนึกผิดชอบชั่วดีขึ้นมาใหม่

สังคมไทยได้เดินมาถึงปากเหวที่อาจเกิดสงครามกลางเมืองอีกครั้ง ซึ่งดูจะเป็นปากเหวที่ลึกและอันตรายกว่าครั้งก่อน หากสังคมไทยถลำเข้าสู่สงครามกลางเมืองคราวนี้ มันจะยืดเยื้อเรื้อรังไม่มีวันจบและประเทศชาติจะทรุดโทรมราวกับร่างกายของคนป่วยเป็นมะเร็งระยะแพร่กระจายนั่นเทียว เพราะกำลังพลแต่ละฝ่ายนั้นมหึมามหาศาลก้ำกึ่งกัน ชนิดที่ว่าหากทั้งสองฝ่ายฆ่าฝ่ายตรงข้ามตายได้หมด ประเทศไทยก็แทบไม่เหลือคนเดินถนนเลย

ฝ่ายหนึ่งก็คือมวลชนคนยากคนจนในชนบท ซึ่งโดยการปลุกปั่นของพวกเพื่อนๆนักสังคมนิยมแนวเผด็จการ พวกเขาถูกปั่นจนมีความเชื่อว่าชีวิตจะดีขึ้นถ้าปกป้อง “นายทุนใหญ่ใจถึง” ไว้เป็นพวกตน และทำลายล้างพวกขุนศึกศักดินาหรืออำมาตย์ให้สิ้นซากไปเสีย พวกตนก็จะได้ธำรงรักษาอำนาจรัฐที่พวกตนสามารถมีส่วนร่วมไว้ได้ และอนาคตก็จะแก้ปัญหาการปันส่วนผลผลิตที่ไม่เป็นธรรมที่เป็นเหมือนหัวอกกลัดหนองคนจนมาตลอดได้

อีกฝ่ายหนึ่งคือ ไทยเฉยฮึดสู้ ซึ่งประกอบขึ้นจากนายทุนน้อย นักการเมืองที่สู้สนามเลือกตั้งที่ใช้เงินไม่ได้ ปัญญาชน-คนชั้นกลางที่ทนสังคมแบบไร้ความผิดถูกชั่วดีอีกต่อไปไม่ไหว ฝ่ายนี้นอกจากจะถูกปลุกจิตสำนึกให้ลุกขึ้นมา "กู้ชาติ" แล้ว ยังถูกทำให้เชื่อว่าการจะนำประเทศกลับมาเป็นสังคมที่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีใหม่ได้อีกครั้งนั้น ไม่มีวิธีอื่นนอกจากต้องกำจัด “นายทุนใหญ่ใจถึง” และบริวารให้สิ้นซากไปเสียก่อน

ในท่ามกลางกำลังรบอันเปรียบเสมือนฝูงจิ้งหรีดข้างละฝูงนี้ ตรงกลางก็คือนักปั่นจิ้งหรีด ซึ่งนั่งกันอยู่สองมุม มุมหนึ่งคือ “นายทุนใหญ่ใจถึง” อีกมุมหนึ่งคือขุนศึกที่นายทุนใหญ่ยังซื้อไม่สำเร็จ ซึ่งผมขอเรียกง่ายๆว่า "ขุนศึกศักดินา" ก็แล้วกัน ดูจากเรคคอร์ดของนักปั่นจิ้งหรีดที่นั่งประจำที่ทั้งสองมุมแล้ว งานนี้คงหลีกเลี่ยงการฆ่ากันตายเป็นเบือได้ยาก เพราะนายทุนใหญ่นั้นมีเรคคอร์ดที่ชัดเจนจากทั้งกรณี “ยิงทิ้ง” ขี้ยาสองพันกว่าศพ กรณีกรือเซะ กรณีตากใบ กรณีเผาราชประสงค์ ส่วนเรคคอร์ดของฝ่ายขุนศึกศักดินานั้นก็ใช่ย่อย ผมเองเคยเห็นกับตามาแล้วสมัยเป็นนักศึกษา รวมทั้งการถูกฆ่าตายของเพื่อนสนิทของผมเองที่ริมฝั่งโขง ซึ่งผมขออนุญาตไม่ฟื้นฝอยหาตะเข็บนะครับ

ไปภายหน้าเมื่อเล่าขานให้ลูกหลานฟัง มันจะกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่เหลือเชื่อ ที่มวลชนจำนวนมหาศาลสองฝ่ายมารบกัน ต่างฝ่ายต่างก็มีวาระของตัวเองอยู่ในมือ แต่เมื่อเปิดโผออกมา วาระของแต่ละฝ่ายนั้นกลับเป็นคนละเรื่อง และไม่ได้ขัดแย้งอะไรกันเลย แบบนิทานชาวนาสามคน คนหนึ่งอุ้มไก่ อีกคนอุ้มห่าน แล้วต้องมาตบตีกันเพราะชาวนาคนที่สามบอกว่าไก่กับห่านของทั้งสองคนจะจิกตีกันจนทำให้สัตว์เลี้ยงของฝ่ายตรงข้ามตาย ทั้งๆที่ในชีวิตจริง ไก่บ้าที่ไหนจะมาจิกตีกับห่าน


วันจันทร์นี้ผมจะไปเดินถนนร่วมกับพี่ๆน้องๆหมอๆและพยาบาล ตามนัด ด้านหนึ่งไปเดินเพื่อให้น้องๆเกิดความรู้สึกอบอุ่นว่าขณะที่พวกเขาออกมาช่วยประชาชนคนเจ็บไข้ในสนาม ผมซึ่งเป็นรุ่นพี่ที่แก่แล้วได้ให้ความชื่นชมและสนับสนุนการธำรงเกียรติของวิชาชีพที่พวกเขาได้ทำ อีกด้านหนึ่งก็เพื่อร่วมเป็น “ไทยเฉยฮึดสู้” อีกคนหนึ่ง ที่อยากแสดงออกถึงความอยากเห็นสังคมไทยกลับมาเป็นสังคมที่เปี่ยมสำนึกผิดถูกชั่วดีดังเดิม ทั้งนี้โดยไม่ได้ให้ราคาอะไรกับพวกนักปั่นจิ้งหรีดที่อยู่เบื้องหลังไม่ว่าข้างไหนแม้แต่น้อย

ทุกครั้งที่ผมไปเดินก่อนหน้านี้ ผมพยายามมองหาทางออกของสังคมไทยที่เป็นรูปธรรมแต่ก็ยังมองไม่เห็น ผมไม่อาจคาดเดาได้ว่าผลสุดท้ายของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร บนนาทีที่ใกล้ถึงจุดหักล้างกันนี้ ผมยังมองไม่เห็นว่าจะมีโอกาสที่ฝ่ายหนึ่งซึ่งก็คือคนจนในชนบทที่ต้องการการกระจายรายได้ที่เป็นธรรม กับอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งก็คือไทยเฉยฮึดสู้ที่ต้องการฟื้นฟูสังคมที่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีกลับขึ้นมาใหม่ จะได้มีโอกาสจูนความต้องการของกันและกัน และสร้างสรรค์สังคมใหม่ร่วมกันโดยไม่ถูกปั่นให้ฆ่าฟันกันได้อย่างไร เพราะ

ตราบใดที่ยังมีนักปั่นจิ้งหรีดหน้าเดิมนั่งประจำที่ทั้งสองมุมอยู่ โอกาสที่จะไม่ฆ่าฟันกันนั้นผมคิดว่า...ไม่มีเลย


นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

...................................

19 มค. 57
จดหมายจากท่านผู้อ่าน

จิ้งหรีดคือใครคะ มองไม่เห็นว่าเป็นใคร

..................................

ตอบครับ

เกมปั่นจิ้งหรีดให้กัดกันเป็นเกมของเด็กในชนบทในสมัยก่อน วิธีเล่นคือต้องมีผู้เล่นสองฝ่าย แต่ละฝ่ายไปเฟ้นหาจิ้งหรีดที่แข็งแรงมาฝ่ายละตัว แล้วทั้งสองฝ่ายต่างก็เอาเส้นผมทำเป็นบ่วงคล้องคอจิ้งหรีดของตัวเองแล้วแกว่งจิ้งหรีดให้หัวมันหมุนรอบหางของมันเป็นวงกลมแบบหมุนติ้วจนมันมึนได้ที่ แล้วหย่อนจิ้งหรีดที่กำลังเมาจนบ้านหมุนทั้งคู่ลงไปในกล่องกระดาษเล็กๆ จิ้งหรีดเมื่อหนวดสัมผัสอีกฝ่ายหนึ่งขณะที่ยังมึนตั้งสติไม่ได้ก็จะหมายเอาว่าอีกฝ่ายหนึ่งเป็นศัตรูไว้ก่อนและก็จะกัดกันจนตายไปข้างหนึ่ง เจ้าของจิ้งหรีดตัวที่เหลืออยู่ก็เป็นฝ่ายชนะ


จิ้งหรีดตัวที่หนึ่ง คือ "คนจนในชนบท" จำนวนหลายล้านที่มีเจตนาปกป้อง "นายทุนใหญ่ใจถึง" สุดลิ่ม เพราะถูกทำให้เชื่อว่า "นายทุนใหญ่ใจถึง" จะเป็นผู้นำพวกตนโค่นล้มหรือกวาดล้างขุนศึกศักดินาสำเร็จ จะได้สถาปนารัฐบาลของคนจนขึ้นมาได้เสียที

จิ้งหรีดตัวที่สอง คือ "ไทยเฉยฮีดสู้" จำนวนหลายล้านคนเช่นกัน ที่มีเจตนาจะเปลี่ยนแปลงการทำการเมืองแบบไร้สำนึกผิดชอบชั่วดีให้เป็นการเมืองที่ชี้นำด้วยสำนึกผิดชอบชั่วดี ทั้งนี้โดยมีความพยายามให้ข้อมูลจิ้งหรีดตัวนี้ว่าการจะล้างการเมืองแบบไร้จิตสำนึกให้สะอาดได้ ต้องกวาดล้าง "นายใหญ่ใจถึง" และบริวารให้หมดเกลี้ยงไปก่อน

นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์


#ThaiUprising


#16 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 21 มกราคม พ.ศ. 2557 - 04:01

^

^

ได้อ่านข้อเขียนที่ดีมากอีกแล้วครับ

2 บทความใน 1 ชม.เลย

รู้สึกสมองเปิดโล่ง และเติบโตขึ้นกว่าเดิม 

ชอบมากเลยครับ :)


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#17 คนอีสาน

คนอีสาน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 658 posts

ตอบ 21 มกราคม พ.ศ. 2557 - 04:18

มันก็พวกเดิมๆนั่นแหละ วนลูปจนไม่มีราคาแล้ว

โดนน้ำร้อนลวกหรอครับคุณ rooqee



#18 DoctorK

DoctorK

    ช่างท.บ.กิ๊กก๊อก

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,046 posts

ตอบ 21 มกราคม พ.ศ. 2557 - 07:08

มันก็พวกเดิมๆนั่นแหละ วนลูปจนไม่มีราคาแล้ว

ใช่เลย เสื้อกาวน์อย่างนี้
คนธรรมดาก็หาซื้อมาใส่เนียนได้

เชิญสะกดจิตตัวเองต่อไปนะครับ ถุย

Edited by DoctorK, 21 มกราคม พ.ศ. 2557 - 07:08.

รักที่สุดคือพ่อหลวง ห่วงที่สุดคือคนที่รักประชาธิปไตยจนเสียสติ

 

หากโพสไหนไม่เหมาะสม MODลบได้เลยนะครับ


#19 jimmydna95

jimmydna95

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 332 posts

ตอบ 21 มกราคม พ.ศ. 2557 - 08:08

มันก็พวกเดิมๆนั่นแหละ วนลูปจนไม่มีราคาแล้ว


อิจฉาละดิ

#20 Rinloy Guru

Rinloy Guru

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 57 posts

ตอบ 21 มกราคม พ.ศ. 2557 - 08:20

มันก็พวกเดิมๆนั่นแหละ วนลูปจนไม่มีราคาแล้ว

เหมือนเสื้อขาวจุดเทียนป่ะ 5555 ควายแท้เหลา


Edited by Rinloy Guru, 21 มกราคม พ.ศ. 2557 - 08:21.


#21 iba

iba

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 281 posts

ตอบ 21 มกราคม พ.ศ. 2557 - 08:54

 

        แพทย์ พยาบาล บุคลากรวิชาชีพสุขภาพรวมตัวเป็นกองทัพเสื้อกาวน์ เดินหน้าจากสยามไปยังเวทีอโศก ต่อต้านรัฐบาลคอร์รัปชัน หนุนปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ด้าน "สุเทพ" ร่วมเดินให้กำลังใจด้วย ศิริราชยันไม่เลือกข้าง แต่ออกมาแสดงพลังเพื่อความถูกต้อง
  557000000770408.JPEGblank.gif         วันนี้ (20 ม.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น.เครือข่ายอาสาสมัครทางการแพทย์ ชมรมแพทย์ชรบท บุคลากรทางการแพทย์ 9 สถาบัน ประกอบด้วยแพทย์ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ พยาบาล เภสัชกร เทคนิคการแพทย์ และบุคลากรวิชาชีพสุขภาพจำนวนมากสถาบันทางการแพทย์และโรงพยาบาลต่างๆ อาทิ รพ.ศิริราช รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยมหิดล ม.ธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลจากขอนแก่น บุรีรัมย์ นครราชสีมา เป็นต้น รวมไปถึงประชาคมสาธารณสุข ได้รวมตัวกันที่บริเวณหน้าสยามดิษคัฟเวอรี จากนั้นจึงเดินขบวนผ่านหัวถนนอังรีดูนังต์ ไปตามถนนสุขุมวิท เพื่อไปสมทบยังเวทีที่แยกอโศก ทั้งนี้ เพื่อรณรงค์ให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง โดยการเดินขบวนในครั้งนี้ ไม่ได้มีการเดินคล้องแขนเหมือนการเดินขบวนตามปกติ แต่มีการถือธงสีขาวติดสัญลักษณ์กาชาดสีแดง อันเป็นสัญลักษณ์ทางการแพทย์ด้วย พร้อมกันนี้ชูป้ายสนับสนุนการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง รวมไปถึงป้ายขับไล่รัฐบาลต่างๆ โดยระบุว่า ไม่ได้ต้องการไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ต้องการไล่รัฐบาลที่เข้ามาโกง และป้ายต่อต้านการคอร์รัปชัน รวมถึงไม่เอารัฐบาลทรราช
       
        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และแกนนำ กปปส. ได้มาร่วมเดินขบวนกับเครือข่ายอาสาสมัครทางการแพทย์ฯด้วย โดยมีการเป่านกหวีด และตะโกนขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลตลอดทาง ขณะที่ประชาชนตามสองข้างทางต่างออกมายืนเป่านกหวีดและโบกมือให้กำลังใจกันอย่างเนืองแน่น พร้อมสมทบเงินบริจาค นอกจากนี้ยังตะโกนลุงกำนันสู้ๆ ให้กำลังใจด้วย
       
        ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงกรณีมีการนัดรวมพลคนใส่เสื้อกาวน์ บริเวณหน้าสยามดิสคัฟเวอรี่ เพื่อรวมกันเดินสมทบมวลมหาประชาชนบริเวณแยกอโศก ว่า เป็นการรวมตัวของแพทย์ และบุคลากรสาธารณสุขทั่วประเทศ ไม่ใช่แค่โรงเรียนแพทย์ หรือศิริราช แต่เป็นในนามบุคลาการทางการแพทย์ทั้งหมด รวมทั้งประชาคมสาธารณสุขด้วย ซึ่งเป็นการแสดงพลังร่วมกันในการขอให้ยุติความรุนแรง ขอให้มีการเจรจา เพราะมองว่าการเลือกตั้ง ณ ขณะนี้อาจไม่ใช่จุดสิ้นสุด ควรหันมาเจรจา ปฏิรูปให้ได้ก่อนแล้วค่อยเลือกตั้ง
       
        ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลหรือไม่ว่าจะออกมาในภาพศิริราชพยาบาลเลือกข้าง ศ.คลินิก นพ.อุดม กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวเลือกข้าง เพราะไม่ได้เลือก แค่ต้องการแสดงพลังว่าขอให้เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว และสถาบันแพทย์ก็เป็นสถาบันที่คนเชื่อถือ ก็ควรออกมาทำในสิ่งที่ถูกต้อง
       
        ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายในขบวนมี นพ.นิทัศน์ รายยวา ผู้ตรวจราชการ สธ. ตุ๊ก ชนกวนันท์ รักชีพ ดารานางแบบ ร่วมเดินด้วย
       
       ด้าน ตัวแทนกลุ่มทันตแพทย์ จุฬาฯ รุ่น 35 กล่าวว่า การออกมารวมตัวกันในครั้งนี้ เพราะมีการนัดหมายกันในโซเชียลมีเดีย ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ที่ออกมาร่วมเดินนั้นตนเชื่อว่า 90% อยากออกอยู่แล้ว ซึ่งแต่ละกลุ่มต่างก็ทำป้ายของตัวเองมา เพื่อแสดงจุดยืนว่าต้องปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ขอยืนยันว่าที่ออกมาไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง ว่าเป็นพรรคเพื่อไทย หรือพรรคประชาธิปัตย์ แต่ออกมาเพื่อแสดงความถูกต้อง เพราะสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่นั้นไม่ถูกต้อง กลุ่มแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ที่ยึดเรื่องจรรยาบรรณเป็นสิ่งสำคัญ จึงต้องออกมาแสดงความถูกต้อง
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. นายสุเทพ ได้เดินขบวนพร้อมกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์มาถึงบริเวณบีทีเอส สถานีอโศก ขณะที่กลุ่มเครือข่ายฯได้ขึ้นเวทีที่แยกอโศกแล้วร้องเพลงชาติร่วมกัน
  557000000770402.JPEGblank.gif        
  557000000770403.JPEGblank.gif        
  557000000770404.JPEGblank.gif        
  557000000770405.JPEGblank.gif        
  557000000770406.JPEGblank.gif        
  557000000770407.JPEGblank.gif        
  557000000770409.JPEGblank.gif        

http://www.manager.c...D=9570000007428

 

พวกลูกอีช่างอ้างหน่วยงานหรือ วิชาชีพ คนอาชีพเดียวกันเขาไม่เห็นด้วยกับพวกเอ็งเยอะแยะ  สาดๆๆๆ

 

ตอม อย่าดีแต่กล่าวลอยๆ  เอารูปมาโชว์ซิ  แต่อย่าตัดต่อนะ เอามาเป็นกลุ่มๆแบบนี้นะ  คนเดียวไม่อยากเห็น  หึหึ



#22 Shariff

Shariff

    สมาชิกหน้าตาดี

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,802 posts

ตอบ 21 มกราคม พ.ศ. 2557 - 09:02

 

       .

พวกลูกอีช่างอ้างหน่วยงานหรือ วิชาชีพ คนอาชีพเดียวกันเขาไม่เห็นด้วยกับพวกเอ็งเยอะแยะ  สาดๆๆๆ

 

 

 

ขอดูรูปหมอ พยาบาลคนไม่ด้วยที่ว่าเยอะๆหน่อย


"การปลดปล่อยตัวเองออกจากความเป็นทาสทางความคิดมิใช่ใครอื่น, มีแต่เราเท่านั้นที่จะต้องกระทำ "จากเพลง Redemption song.

#23 ดอกปีบ

ดอกปีบ

    ^-^นางสิงห์สีฟ้า^-^

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,681 posts

ตอบ 21 มกราคม พ.ศ. 2557 - 09:06

1493412_674012519311626_560194957_o1.jpg

 


Edited by ดอกปีบ, 21 มกราคม พ.ศ. 2557 - 12:20.

ดอกไม้งามมีหนามแหลม ใช่บานแย้มให้คนชม บานไว้เพื่อสะสม ความอุดมแห่งผืนดิน...





ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน