ตามล่าตัวแม่มมาเหมาด่วนเลยขอรับ... สั๊ส!!!
Posted 24 January 2014 - 18:49
POPULAR
Posted 24 January 2014 - 18:55
สื่อมวลชนไทย ผู้มีหน้าที่เสนอข่าวตามความเป็นจริง ควรจะเสนอข่าวนี้นะ
" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ "
Posted 24 January 2014 - 18:55
เฮ้ย! แล้วใครจะซื้อข้าวเขมรล่ะ แล้วก็ซวยอีก ทีนี่ ใครจะซื้อข้าวผัดกระเพราะกล่อง ที่ 7-11 มาฝาก จะกล้ากินกันหรือ ยิ่งใกล้ๆตรุษจีนอยู่ด้วย ข้าวถุงจะมีคนซื้อหรือ ฉิกหายล่ะ
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
Posted 24 January 2014 - 18:58
แน่จริง เจ้าสัว กล้าซื้อข้าว แทน รบ ไหมละ
ถ้าเจ้าสัวเอาจริง ซื้อเลย จะกี่หมืนกี่พันตัน ซื้อเลย
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
Posted 24 January 2014 - 19:02
Posted 24 January 2014 - 19:12
เจอตัวรับรองได้มันต้องว่า รับเหมาซื้อตันละ 1500 แต่รัดบานไม่ขายเองขอรับ...
Posted 24 January 2014 - 19:15
ตัดต่อปะครับ เขาจะง่าวอย่างนั้นเลยหรือ
http://www.isranews....ีพีรับเอง”.html
เชิญทัศนาตามวิจารณจักกายานขอรับ...
Posted 24 January 2014 - 19:18
ตัดต่อปะครับ เขาจะง่าวอย่างนั้นเลยหรือ
http://www.isranews....ีพีรับเอง”.html
เชิญทัศนาตามวิจารณจักกายานขอรับ...
Posted 24 January 2014 - 19:35
Posted 24 January 2014 - 19:38
คลิบตัดต่อเสียงครับ
Posted 24 January 2014 - 20:45
Posted 24 January 2014 - 20:49
รู้ว่าเฮียเอาอยู่แล้ว
ของมันถูกหยั่งกะขี้
Posted 24 January 2014 - 21:22
6 ตุลาคม 2011
นโยบายรับจำนำข้าวที่กำลังจะ “เปิดโครงการ” ในวันที่ 7 ต.ค. นี้ กำลังถูกจับตามองว่ารัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” จะสามารถขจัดข้อครหาเกี่ยวกับปัญหาทุจริตที่เกิดขึ้นซ้ำซาก ปัญหาการบริหารจัดการสต็อกข้าว ปัญหาขีดความสามารถแข่งขัน ปัญหาราคาข้าวในประเทศแพง และที่สำคัญชาวนาจะได้ประโยชน์มากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะในสถานการณ์น้ำท่วม นาล่ม ไม่มีข้าวไปจำนำ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานการขึ้นทะเบียนเกษตรผู้ปลูกข้าวนาปี ฤดูกาล 2554/55 (ไม่รวมภาคใต้) เพื่อเข้าโครงการรับจำนำข้าวที่เริ่มในวันที่ 7 ตุลาคม 2554 – 29 กุมภาพันธ์ 2555 พบว่า มีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนแล้ว 3,260,685 ครัวเรือน พื้นที่ประมาณ 59.78 ล้านไร่
แต่ขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ ดำเนินการผ่านขั้นตอนการประชาคมแล้ว 1,628,357 ครัวเรือน หรือคิดเป็น 50% พื้นที่ 33.39 ล้านไร่ และได้ออกใบรับรองแล้ว 459,401 ครัวเรือน พื้นที่ 9.6 ล้านไร่ ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯได้ประมาณการผลผลิตข้าวจากการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ฤดูกาล 2554/55 มีจำนวนทั้งสิ้น 25.8 ล้านตัน โดยจำนวนปริมาณข้าวที่คาดว่าจะเสียหายจากปัญหาอุทกภัยจะมีอยู่ประมาณ 3.07 ล้านตัน ดังนั้น ปริมาณข้าวนาปี 2554/55 คาดว่ามีคงเหลือประมาณ 22.73 ล้านตัน
จากผลกระทบน้ำท่วมค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า ปริมาณข้าวที่จะเข้าโครงการรับจำนำคงไม่ถึง 25 ล้านตัน ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่ตัวเลขจริงแล้วเป็นเท่าไรยังไม่นิ่ง โดยทางกระทรวงพาณิชย์คาดว่าไม่น่าจะเกิน 15 ล้านตัน ดังนั้น เม็ดเงินที่ใช้ในโครงการรับจำนำข้าวรอบนี้อาจไม่สูงอย่างที่หลายฝ่ายเป็นกังวล
ทั้งนี้มติคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติค่าใช้จ่ายการดำเนินการของหน่วยปฏิบัติหลัก อาทิ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) องค์การคลังสินค้า(อคส.) ฯลฯ รวม 435,547 ล้านบาท แยกเป็นวงเงินจ่ายขาด 25,547 ล้านบาท และ 410,000 ล้านบาท สำหรับวงเงินหมุนเวียนที่ใช้ในการรับจำนำข้าวที่คาดว่าจะมีเข้าโครงการ 25 ล้านตัน
เงินหมุนเวียน 410,000 ล้านบาท ทาง ธ.ก.ส. ออกมาระบุว่า มีเงินทุน ธ.ก.ส. ที่พร้อมสนับสนุนตามโครงการนี้มีไม่เกิน 90,000 ล้านบาท ส่วนที่ขาด 32,000 ล้านบาท เป็นการกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งยังอยู่ระหว่างเจรจาจะกู้จากธนาคารพาณิชย์รายใด แต่มีการประเมินแล้วว่าจะมีภาระดอกเบี้ยจากวงเงินหมุนเวียนทั้งก้อนประมาณ 10,611 ล้านบาท
วงเงินที่ใช้ดำเนินการรับจำนำข้าว หลายฝ่ายมองว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก และโอกาสขาดทุนก็มีสูงเช่นกัน ทำให้นักวิชาการ และผู้ที่เกาะติดนโยบายจำนำข้าวค่อนข้างกังวลว่า ท้ายที่สุดอาจกลายเป็นภาระงบประมาณในอนาคต โดยอดีตรัฐมนตรีคลัง ม.ร.ว. ปรีดิยาธร เทวากุล ซึ่งเคยกำกับดูแล ธ.ก.ส. ได้ออกมาแสดงความเป็นห่วงว่าการรับจำนำรอบนี้อาจขาดทุนรวมภาระดอกเบี้ยจ่ายถึง 250,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ผู้รับผิดชอบโครงการรับจำนำข้าวได้ออกมายืนยันอย่างมั่นใจว่า เงินที่ใช้ในโครงการรับจำนำจะน้อยกว่าโครงการประกันรายได้เกษตรของพรรคประชาธิปัตย์
ขณะเดียวกันได้ท้าทายว่า “ถ้ารัฐบาลทำโครงการรับจำนำข้าวแล้ว ทำให้รัฐเสียหายมากกว่า 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นงบที่รัฐบาลชุดก่อนใช้ชดเชยในระบบประกันรายได้เกษตรกร รัฐบาลพรรคเพื่อไทยคงอยู่ไม่ได้ ไม่ต้องตั้งคำถามเลยว่า ในฐานะรองนายกฯเศรษฐกิจจะรับผิดชอบอย่างไร แต่ถ้าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาล2554/2555 ที่จะเริ่มรับจำนำวันที่ 7 ต.ค. รัฐบาลสามารถรับจำนำแล้วขาดทุนน้อยกว่า 60,000 ล้านบาทและยังทำให้เกษตรกรขายข้าวเปลือกเจ้าได้ราคาตันละ 15,000 บาท ข้าวหอมมะลิตันละ 20,000 บาท ต้องถือว่ารัฐบาลสอบผ่าน”
อย่างไรตาม สถานการณ์น้ำท่วมที่อาจทำให้มีข้าวเข้าโครงการจำนำไม่มาก การใช้เงินก็คงไม่สูง แต่ที่สุดแล้วโครงการรับจำนำจะขาดทุนหรือไม่ขาดทุน ต้องรอดูส่วนต่างราคารับจำนำกับราคาตลาดตอนที่รัฐบาลจะขายข้าว ที่สำคัญกว่านั้นคือ การบริหารจัดการสต็อก หรือ การระบายข้าว ซึ่งถือเป็น “หัวใจ” สำคัญของโครงการนี้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร รัฐบาลบอกเพียงว่า จะมีการตกลงซื้อขายระหว่างรัฐต่อรัฐ และจะเปิดประมูลขายให้เอกชนอย่างโปร่งใส
นอกจากนี้ ปัญหาการทุจริตเป็นอีกประเด็นร้อนท้าทายรัฐบาล เพราะในอดีตไม่เคยมีรัฐบาลใดแก้ปัญหาการทุจริตได้เลย แม้รัฐบาลจะออกมาตรการมาดูแลมากมาย และครั้งนี้ก็เช่นกันที่กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทีมเฉพาะกิจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าตรวจสอบโรงสีอย่างเข้มงวด จัดตั้งคณะกรรมการหลายชุดเพื่อกำกับดูแลกระบวนการจำนำข้าวให้โปรงใส สกัดการทุจริต
จากผลการสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ที่ทำงานอยู่ในหน่วยงานด้านการวิเคราะห์ วิจัยเศรษฐกิจระดับชั้นนำของประเทศ 31 แห่ง จำนวน 67 คน เรื่อง “อนาคตโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี : ใครกำไร ใครขาดทุน? “ของศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ หรือกรุงเทพโพลล์ ซึ่งเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 26 กันยายน – 3 ตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา พบว่าประเด็นปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นในโครงการรับจำนำข้าวเปลือก มีนักเศรษฐศาสตร์มากถึง 82.1 % เชื่อว่าจะมีการทุจริต มีเพียงส่วนน้อย 4.5 % ที่เชื่อว่าจะไม่มีการทุจริตคอร์รัปชั่น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2554 หลังการชี้แจ้งกระบวนการเปิดรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาลผลิตปี 2554/2555 ให้กับโรงสีและตลาดกลาง ที่เข้าร่วมโครงการกับรัฐบาล มีโรงสีสมัครเข้าร่วมโครงการ 667 แห่ง นายกิตติรัตน์ยืนยันว่ามีความพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ในการเปิดรับจำนำในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ แม้ยังมีความเข้าใจที่ไม่ตรงกันในบางส่วนในการปฏิบัติตามขั้นตอนการรับจำนำ อาทิ การหักความชื้น การระบาย การสีแปรสภาพข้าว แต่จะพยายามทำความเข้าใจต่อไป
อย่างไรก็ตามการตั้งรับโครงการรับจำนำข้าวรอบนี้ แม้รัฐบาลจะประกาศความพร้อม แต่เรื่องหลักเกณฑ์การระบายข้าว คุณสมบัติผู้ตรวจสอบข้าว (เซอร์เวเยอร์) และการจัดทำข้าวถุงธงฟ้าของรัฐบาล เป็นต้น ยังไม่มีความไม่ชัดเจน มีการคาดการณ์กันว่าน่าจะมีการวิ่งกันฝุ่นตลบเพื่อหาผลประโยชน์จากโครงการนี้ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
นี่คือความท้าทายที่มีเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์เป็นเดิมพัน
http://thaipublica.o...10/rice-policy/
Posted 24 January 2014 - 21:27
วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 19:00:02 น.
ผมไม่มีความเห็นอะไรเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวด้วยราคาสูงของรัฐบาลมานาน เพราะยอมรับว่ายังไม่สู้เข้าใจผลกระทบถ่องแท้นัก จึงได้สดับตรับฟังและตามอ่านความเห็นของคนอื่นตลอดมา บัดนี้ ผมคิดว่าผมพอจะบรรลุความเห็นอย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว
ผู้ที่คัดค้านเห็นว่าโครงการนี้มีปัญหามาก และปัญหาเหล่านั้นก็เริ่มปรากฏให้เห็นบ้างแล้ว ผมขอแบ่งปัญหาที่กล่าวถึงออกเป็นสองอย่าง คือปัญหาเชิงหลักการกับปัญหาเชิงปฏิบัติ ในด้านหลักการ ราคาที่รับจำนำนั้นเห็นว่าสูงเกินความเป็นจริง หรือเกินขีดความสามารถของรัฐบาลไทย (ทุกชุด) จะจัดการได้ เริ่มตั้งแต่ไม่มีทางระบายข้าวออกไปได้ เพราะราคาที่รับซื้อสูงเกินราคาตลาดโลกมาก นอกจากยอมระบายออกในราคาที่ขาดทุน เป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณ ยิ่งกว่านี้บางคนยังบอกว่า มีส่วนดึงราคาข้าวภายในประเทศให้สูงขึ้นด้วย ซึ่งจะทำความเดือดร้อนแก่คนชั้นกลางระดับล่างในเขตเมือง แต่จนถึงทุกวันนี้ ผลกระทบด้านนี้ยังไม่ปรากฏให้เห็น ค่าครองชีพที่สูงขึ้นนั้นมีส่วนจากราคาข้าวน้อยมาก
ผลกระทบต่อไปก็คือ ชาวนาย่อมจะลงทุนปลูกข้าวมากขึ้น ซึ่งจะทำให้จำนวนข้าวที่ไหลเข้าสู่โครงการเพิ่มขึ้นด้วย การขยายการปลูกข้าวเพราะแรงกระตุ้นของโครงการ จะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เช่น ราคาปุ๋ยและยาฆ่าแมลง ตลอดจนราคาเช่าที่ดิน ค่าขนส่ง, แรงงาน ฯลฯ บางส่วนของต้นทุนการผลิตก็มีราคาสูงขึ้นจริงในฤดูการผลิตใหม่นี้ เช่น ปุ๋ยและยาฆ่าแมลง และค่าเช่าที่ดิน เป็นต้น แต่ก็น่าจะเป็นการขึ้นราคาชั่วคราว ในช่วงที่อุปสงค์และอุปทานไม่สมดุลกันเท่านั้น
ดังนั้น ผู้คัดค้านโครงการจึงเสนอว่า สิ่งที่รัฐบาลน่าจะทำในการช่วยชาวนามากกว่า คือการพัฒนาการเกษตรในเชิงโครงสร้าง ไม่ใช่รับจำนำผลผลิตด้วยราคาสูง เช่น ปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ ฯลฯ เป็นต้น
ปัญหาในด้านเชิงปฏิบัติ ผู้คัดค้านเห็นว่าโครงการนี้ผู้ที่ได้รับประโยชน์คือชาวนากลางขึ้นไป กับโรงสี ส่วนชาวนาเล็กที่ "ยากจน" (คำนี้มีปัญหาในตัวของมันเองมากนะครับ) เงินไม่ตกถึงมือ เท่าที่ผมทราบ ความเห็นนี้ไม่ได้มาจากการวิจัย แต่เป็นการประมาณเท่านั้น เพราะในขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับในตัวเลขว่าทั้งมอเตอร์ไซค์, รถปิกอัพ และวัสดุก่อสร้างขายดีขึ้นในเขตชนบท ซึ่งตลาดของชาวนากลางอย่างเดียวไม่เพียงพอจะอธิบายได้ อีกทั้งความกระตือรือร้นของชาวนาที่จะขยายการเพาะปลูก ก็แสดงให้เห็นอยู่แล้วว่า ชาวนาจำนวนมาก (ทั้งกลางและเล็ก) ตอบสนองต่อโครงการด้วยความยินดี
ในส่วนโรงสีได้กำไรนั้น ผมยังมองไม่เห็นว่าจะได้อย่างไร นอกจากยอมรับซื้อข้าวในราคาสูงขึ้น ทั้งนี้ไม่พูดถึงการทุจริตเช่นสวมสิทธิจำนำข้าวและอื่นๆ นะครับ ที่พอจะมองเห็นกำไรแน่ๆ ก็คือรับสีข้าวที่รัฐบาลรับจำนำไว้ตันละ 500 บาท ซึ่งก็ไม่ใช่ราคาที่สูงกว่าปกติ แต่มีข้อได้เปรียบคือมีข้าวป้อนให้สีได้มั่นคงขึ้น โดยตัวเองไม่ต้องเสี่ยงทางธุรกิจคือรับซื้อเท่านั้น
อีกข้อหนึ่งที่พูดกันมากคือการทุจริตทั้งของชาวนาเอง (ขายส่วนต่างของสิทธิการจำนำข้าว), นายทุนผู้รับซื้อส่วนต่างนี้, ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ทั้งขององค์กรของรัฐและบริษัทเซอร์เวย์เยอร์ เรื่องนี้จริงแน่นอนโดยไม่ต้องทำวิจัยเลยก็ได้ โครงการใช้เงินเป็นแสนล้านโดยไม่มีการโกงเลย จะเกิดขึ้นได้ที่ไหนในโลกล่ะครับ แต่ที่น่าสนใจกว่าก็คือ โกงมากกว่าโครงการจำนำข้าวที่ผ่านมาหรือโครงการประกันราคามากน้อยแค่ไหน และโกงได้อย่างไรหรือมีช่องโหว่ตรงไหนบ้าง และควรอุดอย่างไร น่าเสียดายที่ไม่มีงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ในการคัดค้าน ยังมีเสียงคัดค้านเชิงอุดมการณ์จากจุดยืนจารีตนิยม ที่รังเกียจรัฐสวัสดิการทุกรูปแบบ เพราะเชื่อว่าจะทำให้คนขี้เกียจไม่รับผิดชอบและไม่ทำหน้าที่ของตนเอง คอยแต่จะแบมือรับความช่วยเหลือจากรัฐตลอดไป ข้อนี้ผมจะไม่พูดถึงล่ะครับ เพราะน่าสงสารเกินไป แม้เสียงคัดค้านเหล่านี้มีส่วนจริงหรือมีส่วนเป็นไปได้บางเรื่อง แต่เป็นการมองโครงการในแง่ความเป็นไปได้ทางการตลาดเท่านั้น ผมคิดว่ารัฐบาลต้องชัด (กว่านี้) ว่าโครงการรับจำนำข้าวด้วยราคาสูงคือการปฏิรูปสังคม ไม่ใช่โครงการรับจำนำข้าวอย่างที่ผ่านมา ซึ่งมีเป้าหมายเพียงช่วยพยุงราคาข้าวของชาวนาให้ใกล้เคียงกับราคาตลาดโลกมากขึ้น และต้องไม่ขาดทุน
ตรงกันข้ามเลยครับ รัฐบาลตั้งใจจะขาดทุนมาแต่ต้น และด้วยเหตุดังนั้น จึงต้องวางแผนการระบายข้าวให้ดีโดยไม่ต้องนั่งรอราคาสูงสุดอย่างเดียว แต่จะระบายไปตามจังหวะเพื่อรักษาตลาดข้าวของไทยด้วยและเพื่อให้การระบายข้าวทั้งหมดที่รับจำนำมานั้นขาดทุนน้อยที่สุด ในขณะเดียวกันก็ลงทุนเพิ่มมูลค่า เช่น การแพคเกจจิ้ง ไปจนถึงผ่านกระบวนการรักษาคุณภาพให้คงทน เป็นต้น เท่ากับโครงการรับจำนำช่วยเปิดตลาดข้าวระดับสูงไปพร้อมกัน (แน่นอนโดยร่วมมือกับผู้ส่งออกเอกชน)
จะขาดทุนบักโกรกแค่ไหน ผมไม่ทราบ แต่มีนักเศรษฐศาสตร์ท่านหนึ่งประมาณว่าไม่น่าจะเกิน 50,000 ล้านบาท ซึ่งยังน้อยกว่าเงินที่รัฐบาลต้องจ่ายออกไปในการประกันราคา (ซึ่งรั่วไหลมากกว่าเสียอีก)... แต่ตัวเลขนี้จะเชื่อได้แค่ไหนผมไม่ทราบ
สมมุติว่านักเศรษฐศาสตร์ประเมินต่ำไป 100% ก็ขาดทุนแค่ 100,000 ล้านบาท เงิน 100,000 ล้านจากงบประมาณแผ่นดินหลายล้านล้านบาท เพื่อช่วยชาวนาซึ่งมีจำนวนประมาณ 40% ของประเทศ จะเป็นไรไปเล่าครับ ปัญหามาอยู่ที่ว่าช่วยแล้วได้ผลอะไรและอย่างไรต่างหาก เช่น หากชาวนามั่นใจว่ารายได้ของตนจะสูงขึ้น เขาเอาไปลงทุนในอะไรอีกบ้างที่จะให้ผลดีแก่เขาในระยะยาว ส่วนการที่จำนวนหนึ่งนำไปซื้อมอเตอร์ไซค์และปิกอัพหรือต่อเติมบ้านเรือนนั้น อย่าได้คิดว่าเขาเอาเงินที่ได้มาไปใช้ในทางฟุ่มเฟือยเป็นอันขาด เพราะทั้งสามอย่างนี้เป็นการลงทุนทางธุรกิจไปพร้อมกับการเลื่อนสถานภาพทางสังคม เรื่องนี้ต้องเข้าใจชีวิตของชาวนาไทยให้ดี
"ชาวนา" ที่ทำนาขนาดเล็กด้วยกำลังครอบ ครัวของตนเพื่อยังชีพนั้น ปัจจุบันแทบจะไม่มีเหลืออยู่แล้ว ส่วนใหญ่ของรายได้ของครอบครัวชาวนามาจากงานนอกภาคการเกษตร และเป็นเช่นนี้มาหลายสิบปีแล้วด้วย ฉะนั้นรายได้ของครอบครัวชาวนาจึงสูงขึ้น แต่ไม่ใช่จากการทำนาหากมาจากการรับจ้างหลากหลายประเภท แม้กระนั้นการทำนาก็ยังเป็นแหล่งรายได้สำคัญแก่คนอีกมาก ในขณะที่หลุดออกไปจากภาคเกษตรโดยสิ้นเชิงก็มีจำนวนไม่น้อยเหมือนกัน ฉะนั้นถ้าถือเส้นความยากจนตามที่สำนักงานสถิติใช้ในการหาข้อมูล ชาวนาส่วนใหญ่ไม่ใช่คนจน การที่ชาวนาหลุดออกไปเป็นแรงงานประเภทต่างๆ นั้น เป็นปรากฏการณ์ปกติที่เกิดขึ้นในการพัฒนาของทุกประเทศ แต่ไทยมีปัญหาเฉพาะก็คือ อัตราการเปลี่ยนอาชีพของชาวนาไทยเกิดขึ้นช้ามาก จนถึงทุกวันนี้ ก็ยังมีคนที่ทำนา (หรือเกษตรอย่างอื่น) ตกค้างอยู่ถึงเกือบ 40% ของประชากร แม้ว่ารายได้ส่วนใหญ่ของเขาไม่ได้มาจากภาคเกษตรก็ตาม
รถปิกอัพ, บ้านเรือน และมอเตอร์ไซค์ มีส่วนในการทำให้รายได้นอกภาคเกษตรของเขาเพิ่มขึ้น (เช่น มีมอเตอร์ไซค์ก็ทำให้หางานจ้างได้กว้างขึ้นกว่าจักรยานหรือเดินเท้า) การไปซื้อสินค้าเหล่านี้เมื่อมั่นใจว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคต จึงเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง เป็นไปได้หรือไม่ว่า หากเขามีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืนในระยะยาวแล้ว ชาวนาจะหันไปทำอาชีพอื่นๆ มากกว่าทำนา เพราะราคาจำนำ 15,000 บาทต่อข้าวหนึ่งตันนั้น ใช่ว่าจะทำให้รายได้เพิ่มสูงขึ้นมากนัก หากเปรียบกับการมีงานจ้างประจำทั้งปี หรือมีโอกาสค้าขายอย่างเป็นกอบเป็นกำมากขึ้น โครงการรับจำนำข้าวจึงอาจเป็นปัจจัยส่วนหนึ่งที่จะทำให้ชาวนาจำนวนหนึ่งหันไปสู่อาชีพอื่น ในขณะที่ผู้ยังอยู่ในอาชีพทำนา ก็จะมีโอกาสพัฒนาผลิตภาพของตนเพื่อให้ได้กำไรมากขึ้น
ในกระบวนการนี้ เขาจะลงทุนกับการศึกษาของลูกหลานเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ หลังจากจบ ม.3 ซึ่งทำให้หางานโรงงานทำได้นั้น เขาจะส่งลูกหลานเรียนต่อไปหรือไม่ อันนี้ผมเดาไม่ถูก แต่ก็เชื่อว่าอย่างน้อยจำนวนหนึ่งก็น่าจะลงทุนด้านการศึกษาต่อไป เพราะไม่มีแรงบีบให้ต้องเอาลูกออกไปทำงานโรงงาน และถ้าเป็นอย่างนั้นในจำนวนคนส่วนใหญ่ที่เป็นชาวนาในเวลานี้ ย่อมหมายความว่า โครงการรับจำนำนี้ช่วยเปิดช่องทางที่ชาวนาจะได้รับผลพวงของการพัฒนาเต็มเม็ดเต็มหน่วยขึ้น อันที่จริง การที่รัฐบาลประเทศพัฒนาแล้ว ทุ่มงบประมาณลงไปสนับสนุน หรือออกกฎหมายปกป้องคนในอาชีพเกษตรนั้นเกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ในสหรัฐ, ยุโรป, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น แต่ประชาชนส่วนใหญ่ซึ่งไม่ใช่ชาวนาไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไร กลับสนับสนุนนโยบายเช่นนี้ด้วยซ้ำ เหตุใดนโยบายทำนองเดียวกันจึงถูกคนชั้นกลางและชนชั้นนำไทยคัดค้านอย่างหนัก
ส่วนหนึ่งของคำตอบก็คือ ในประเทศพัฒนาแล้ว ชาวนาหรือเกษตรกรมีจำนวนน้อยมาก เฉลี่ยประมาณ 4-8% ของประชากร คนทั่วไปจึงไม่รู้สึกถึงผลกระทบของนโยบาย แต่คนถึง 40% ที่คอยความช่วยเหลือในเมืองไทย มีจำนวนมากกว่ากันมาก ความช่วยเหลือใดๆ ที่จะบังเกิดผลแก่เขาจริง ต้องมีสัดส่วนพอสมควรในทรัพย์สาธารณะเป็นธรรมดา คนไทยชั้นกลางขึ้นไปจึงอ่อนไหวต่อการช่วยชาวนามากเป็นพิเศษ มองนโยบายเหล่านี้ด้วยความระแวง
แต่เหตุผลที่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือการเมือง
ส่วนหนึ่งของชนชั้นนำไทยต้องการเก็บชาวนาไว้ภายใต้อุปถัมภ์ของตนตลอดไป แยกชาวนาออกเป็นปัจเจกบุคคลตัวเล็กๆ ภายใต้การนำของ "ปราชญ์ชาวบ้าน" ที่สยบยอมต่อระบบ ส่วนที่เหลือมองไม่เห็นประโยชน์ของชาวนามากกว่าแรงงานราคาถูก เพราะถึงอย่างไรสินค้าที่พวกเขาผลิตก็มุ่งไปที่ตลาดต่างประเทศอยู่แล้ว
ในทางตรงกันข้าม ชาวนาไทยไม่มีประสบการณ์ในการรวมกลุ่มเพื่อต่อรองทางการเมืองมากนัก (เมื่อเปรียบเทียบกับเกษตรกรในประเทศพัฒนาแล้วทั่วไป) อันที่จริงชาวนาไทยถูก "ปราบปราม" อย่าง***มโหดและเด็ดขาดเสียยิ่งกว่าความเคลื่อนไหวของกรรมกรเสียอีก หากเขาพยายามรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องผลประโยชน์ของเขาในนโยบายสาธารณะ
จะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม โครงการรับจำนำข้าวในราคาสูงของรัฐบาล ย่อมมีส่วนช่วยสร้างความเข้มแข็งทางการเมืองให้แก่ชาวนาด้วย หากทำต่อเนื่องไปอีกสักสองสามปี จะไม่มีรัฐบาลใดกล้าเลิกโครงการนี้เป็นอันขาด
แม้ว่ารัฐบาลเดินมาถูกทางแล้ว (ตามทรรศนะของผม) แต่รัฐบาลต้องยินดีและน้อมรับฟังคำวิจารณ์ของทุกฝ่าย ส่วนหนึ่งของคำวิจารณ์นั้นอาจมาจากแรงจูงใจที่ไม่ดีทางการเมือง แต่รัฐบาลอย่าไปสนใจแรงจูงใจดีกว่า หากควรฟังและทบทวนโครงการอยู่ตลอดเวลา แก้ไขปรับเปลี่ยนอย่าให้เกิดรูรั่ว แต่ก็ต้องชัดเจนในด้านเป้าหมายของโครงการ ทั้งแก่ตนเองและประชาชน เพราะรัฐบาลกำลังทำอะไรที่มีความสำคัญสุดยอดในการเปลี่ยนประเทศไทย หนทางย่อมไม่ราบรื่นเป็นธรรมดา
http://www.matichon....2&subcatid=1200
Posted 24 January 2014 - 21:36
ด่วน..ลับเฉพาะ !!! ข่าวจากวงใน CP แผนพลิก รัฐ***กำลังจะตายห่า กะจะ ร่วมมือกับ เวียดนาม ปล่อยข้าว รอบนี้ เทข้าวขายยกล็อต ที่ ค้างอยู่มหาศาล กะจะเอาเงิน ที่ได้มา (แบบขาดทุน) เอามาจ่ายพี่น้องชาวนาก่อน ปรากฎว่า..สวรรค์มีตา อินเดีย ทำเซอร์ไพรซ์ เทข้าวออกสู่ ตลาดโลก 8 ล้านตัน มากที่สุด เท่าที่อินเดียเคยเทข้าวออกมาขาย แถมราคาถูกกว่าทั้งของ ไทยและเวียดนาม ทำให้ตลาด ข้าว โลก หันไปเทซื้อข้าวจาก อินเดียจนหมดล็อต.. ข้าวไทย ขายไม่ได้ ไม่มีคนซื้อ เพราะ ราคาแพงกว่าเยอะ..เสร็จล่ะมรึง..เวรกรรมที่มรึงทำไว้กับชาวนาทั้งหลอก ทั้งโกง ตามมาเล่น มรึงแล้ว ข้าวเป็นล้านๆตัน ยัง อยู่ ขายก็ไม่ออก ระบายไม่ได้ หนี้ก็จม เงินไม่มีจ่าย กู้ก็ไม่ได้ ตายคาตรีนชาวนาสถานเดียว ครับท่าน..ไม่ต้องรบกับกปปส. หรอกน่ะ เอาแค่จัดการชาวนา 5 ล้านคนที่จะเข้ากทม. ให้ได้ ก่อน ดีกว่ามั้ย ไอ้ทรราชย์ !!!
หมี CNN รายงาน..
Posted 25 January 2014 - 01:31
ผมจำได้ว่ามันพูดแบบนั้น
ต้องให้สื่อกระทุ้งมันให้หนักๆ
ว่าแต่ มันจะตัดโฆษณาเค้ามั้ยเนี่ย
Posted 25 January 2014 - 09:30
..... ระวัง อย่างเดียว พวกมันจะไปหา ฉกเงิน.จากแหล่ง
ไหนในประเทศ เท่านั้น. เพราะ ข่าวว่ามี หลายแห่งที่พวก
มันไป เขาไม่ให้..เขาไม่เชื่อ น้ำหน้ามัน...ไอ้โต้ง ขี้โม้....
ญาติมันยัง ระอา เลย. แต่พวกมัน...หน้าด้าน...
..... ถ้าเป็น นักการเมือง จะไม่ด้านขนาดนี้......
Posted 25 January 2014 - 09:54
อย่าเอาข้าวเน่ามาแปรรูปขายเป็น product ตัวอื่นขายก็แล้วกัน ดูไม่ออกกินเข้าไปไม่รู้จะเป็นไงบ้าง
แดงกลายพันธุ์ แดงลอยคอกลางทะเล กำลังดิ้นเฮือกสุดท้าย อาการจะเป็นอย่างไร รอดูกันไปครับ
Posted 25 January 2014 - 09:59
Posted 25 January 2014 - 10:46
เห้ตัวพ่อ ถ้าไม่จำเป็น ไม่เคยซื้อสินค้า จากค่ายนี้เลย
พูดไปแล้ว มันยิ่งกว่าตระกูลชินฯทั้งตระกูลรวมกันอีกขอรับ... แดรกผูกขาด ครบวงจร ฝังลึก ***มโหดคู่สังคมไทยมานานแสนนาน...
Posted 25 January 2014 - 17:56
เห้ตัวพ่อ ถ้าไม่จำเป็น ไม่เคยซื้อสินค้า จากค่ายนี้เลย
ผมซื้อเซเว่นแค่ 2 ตัวนี้
น้ำผึ้งหลอดจิตรลดา กับนมอัดเม็ดจิตรลดา ครับ
เพราะมีแต่เซเว่นที่มีขาย
นอกนั้นอย่าได้แอ้มเงินจากผมเลย
Posted 25 January 2014 - 19:35
9380_10202383196075629_1877175171_n.jpg
ด่วน..ลับเฉพาะ !!! ข่าวจากวงใน CP แผนพลิก รัฐ***กำลังจะตายห่า กะจะ ร่วมมือกับ เวียดนาม ปล่อยข้าว รอบนี้ เทข้าวขายยกล็อต ที่ ค้างอยู่มหาศาล กะจะเอาเงิน ที่ได้มา (แบบขาดทุน) เอามาจ่ายพี่น้องชาวนาก่อน ปรากฎว่า..สวรรค์มีตา อินเดีย ทำเซอร์ไพรซ์ เทข้าวออกสู่ ตลาดโลก 8 ล้านตัน มากที่สุด เท่าที่อินเดียเคยเทข้าวออกมาขาย แถมราคาถูกกว่าทั้งของ ไทยและเวียดนาม ทำให้ตลาด ข้าว โลก หันไปเทซื้อข้าวจาก อินเดียจนหมดล็อต.. ข้าวไทย ขายไม่ได้ ไม่มีคนซื้อ เพราะ ราคาแพงกว่าเยอะ..เสร็จล่ะมรึง..เวรกรรมที่มรึงทำไว้กับชาวนาทั้งหลอก ทั้งโกง ตามมาเล่น มรึงแล้ว ข้าวเป็นล้านๆตัน ยัง อยู่ ขายก็ไม่ออก ระบายไม่ได้ หนี้ก็จม เงินไม่มีจ่าย กู้ก็ไม่ได้ ตายคาตรีนชาวนาสถานเดียว ครับท่าน..ไม่ต้องรบกับกปปส. หรอกน่ะ เอาแค่จัดการชาวนา 5 ล้านคนที่จะเข้ากทม. ให้ได้ ก่อน ดีกว่ามั้ย ไอ้ทรราชย์ !!!
หมี CNN รายงาน..
เรื่องนี้ผมได้แชร์เหมือนกัน แต่หาข่าว อินเดียเทขายข้าวไม่มีเลย ยังสงสัยอยู่ครับ ??
" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ "
Posted 25 January 2014 - 21:15
เรื่องนี้ผมได้แชร์เหมือนกัน แต่หาข่าว อินเดียเทขายข้าวไม่มีเลย ยังสงสัยอยู่ครับ ??
ถ้ามีข่าวออกมาสิแปลกขอรับ... กำลังหาข้อมูลอยู่เหมือนกันขอรับ แต่ที่โพสไปเพื่อให้เห็นความเป็นมาเป็นไปขอรับ...
Posted 25 January 2014 - 21:16
เรื่องนี้ผมได้แชร์เหมือนกัน แต่หาข่าว อินเดียเทขายข้าวไม่มีเลย ยังสงสัยอยู่ครับ ??
ถ้ามีข่าวออกมาสิแปลกขอรับ... กำลังหาข้อมูลอยู่เหมือนกันขอรับ แต่ที่โพสไปเพื่อให้เห็นความเป็นมาเป็นไปขอรับ...
ก็จริงครับ
" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ "
Posted 25 January 2014 - 21:42
เรื่องนี้ผมได้แชร์เหมือนกัน แต่หาข่าว อินเดียเทขายข้าวไม่มีเลย ยังสงสัยอยู่ครับ ??
ถ้ามีข่าวออกมาสิแปลกขอรับ... กำลังหาข้อมูลอยู่เหมือนกันขอรับ แต่ที่โพสไปเพื่อให้เห็นความเป็นมาเป็นไปขอรับ...
ก็จริงครับ
![]()
เรื่องใหญ่ขนาดนี้ไม่มีข่าว เป็นไปไม่ได้หรอก ต้องหาแหล่งข่าว
Posted 26 January 2014 - 09:44
..... เจ้าสัว เตี้ย สุพรรณฯด้วย...ธุรกิจการเมือง ตัวพ่อ...
Posted 26 January 2014 - 10:43
" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ "
Posted 27 January 2014 - 00:37
คนชั่วขริงๆไม่ใช่รัฐบาลแต่เป็นไอ้เจ้าสัวจอมละโมบนี่ตะหสกค่ะ ที่หลอกให้คุณอาปูดำเนินนโยบายผิดพลาด
Posted 27 January 2014 - 10:48
คนชั่วขริงๆไม่ใช่รัฐบาลแต่เป็นไอ้เจ้าสัวจอมละโมบนี่ตะหสกค่ะ ที่หลอกให้คุณอาปูดำเนินนโยบายผิดพลาด
รัฐบาลท่านปูน่าจะประกาศออกสื่อเลยนะครับ พี่น้องชาวนาต้องเชื่อและเลิกด่ารัฐบาลแน่นอน
Posted 27 January 2014 - 11:46
คนชั่วขริงๆไม่ใช่รัฐบาลแต่เป็นไอ้เจ้าสัวจอมละโมบนี่ตะหสกค่ะ ที่หลอกให้คุณอาปูดำเนินนโยบายผิดพลาด
รัฐบาลท่านปูน่าจะประกาศออกสื่อเลยนะครับ
พี่น้องชาวนาต้องเชื่อและเลิกด่ารัฐบาลแน่นอน
ดิชั้นคิดว่าคุณอาปูควรตั้งโต๊ะแถลงข่าวไปเลยค่ะ ทวงสัญญาประชาคมจากไอ้คนเห็นแก่ได้นี้ รับรองว่าชาวนาจะได้ไปปิดล้อมบริษัทของมัน
Posted 27 January 2014 - 11:51
ตัวมันเองตอนนี้ยังเอาตัวไม่รอดเลย
Posted 27 January 2014 - 11:53
ทำไมเสี่ยตัน ไม่รับซื้อข้าวสักแสนสองแสนตัน ไปหมักน้ำชาเขียวเนี่ย ...ยอดกระฉูดแน่ๆ
ตัวมันเองตอนนี้ยังเอาตัวไม่รอดเลย
ทรูมันง่อนแง่นเต็มกลืนแล้ว หนี้บาน เท่าที่ทราบมานะ
Edited by kritz, 27 January 2014 - 11:54.
Posted 27 January 2014 - 11:57
เจ้าสัวบอกว่า
5555 ช่วยม่ายล่าย ลื้ออยากมาเชื่อ "ทิกซาลี ส็องสุง (ทฤษฎีสองสูง)" ของอั๊วทามมาย
0 members, 0 guests, 0 anonymous users