ไม่มีคำว่าสายต่อการวิพากษ์แนวทางลุงกำนันพวกท่านทำได้เต็มที่
( ถือว่าเป็นความเห็นจากกัลยาณมิตรซึ่งปรกติไม่ค่อยเห็นด้วยกับการยกระดับของม็อบแล้วกันนะคะ )
เอาสั้นๆ ..หลักการเคลื่อนไหวทางการเมืองต้อง "มีเหตุผล มีประโยชน์ รู้ประมาณ"
ม็อบกปปส. สเต็ปที่หนึ่ง ไม่เอาพรบ.นิรโทษกรรม
จังหวะก้าวนี้คนเห็นด้วยมากที่สุด เพราะเพื่อไทยดิสเครดิตศาลไม่เป็นผล
สเต็ปต่อมา ยึดราชดำเนิน ไปยึดศูนย์ราชการ
คนไม่เห็นด้วยส่วนหนึ่ง และถอยไปจากม็อบ ส่งเสียงว่ายุติการชุมนุมเหอะ
กระทั่งดร.สมเกียรติ อ่อนวิมลก็อยู่ในกลุ่มนี้ และโพสเฟซไม่เห็นด้วย ..
นอกจากดร.สมเกียรติ ..คนจำนวนหนุี่งหลุดออกไป ..แต่การเคลื่อนไหวก็ไปต่อได้
และศาลรัฐธรรมนูญคุ้มครองการเคลื่อนไหวที่ราชดำเนินว่าเป็นไปตามม.63 จนกระทั่ง
สเต็ปที่สาม ..ยึดกรุงเทพฯกระทำการชัทดาวน์ 13 มค. 57
มาวันนี้ ม็อบทำให้เห็นว่าแนวทางใหญ๋ของการเคลื่อนไหว..ยกระดับโดยการยึดกุม "สงบ สันติ ปราศจากอาวุธ" ได้มั่น
มันก็ขึ้นกับการนำของแม่ทัพย่อยที่ไปยึดกุมที่ต่างๆที่ไม่ให้เกิดความเสียหาย
ในภาพใหญ่จะให้เนี้ยบทุกจุดมันก็จะต้องมีรั่วมากบ้างน้อยบ้างเช่นที่ปะเหลียน ตรังซึ่งกระทบชุมชนมุสลิม
แต่ปัญหาก็ถูกคลี่คลายมาได้ตลอด ความไม่พอใจและความเกรงกลัวต่ออำนาจเก่าจะมีจำนวนนึง
และการตอบโต้กับฝ่ายรัฐ(ที่ขาดความชอบธรรม) ก็จะต้องถูกตอบโต้จากฝ่ายกฎหมายของกปปส.
โดยการยื่นคำร้องฟ้องร้องต่อศาลทั้งศาลแพ่ง ศาลอาญา และศาลรัฐธรรมนูญเพื่อย้อนศรรัฐบาลเถื่อน
อยากให้มิตรสหายที่ตะขิดตะขวงใจต่อ civil disobedience ในสเต็ปต่างๆได้เข้าใจว่า
ถ้าสเต็ปเหล่านั้นรบกวนความยึดถือต่อกฏหมายสังคมซึ่งท่านเป็นเด็กดีน้อมรับมาตลอดชีวิต
ให้พวกท่านลองย้อนดูว่าสเต็ปเหล่านั้นผิดไปจากแนวทาง "สงบ สันติ ปราศจากอาวุธ" หรือไม่
ท่านอาจไม่เห็นด้วยกับยุทธวิธีที่ฝ่าฝืนอารมณ์เหล่านั้น ขอให้เป็นผู้นั่งดูไปพลางๆแล้วเปลี่ยนมาเข้าร่วมใหม่
ในวันที่พวกท่านทำความเข้าใจจนเห็นว่าอารยะขัดขืนเหล่านั้นไม่ได้ผิดแนวทางใหญ่ที่นักต่อสู้เพื่อมวลชนทั่วโลก
ซึ่งพวกเขาได้ใช้เข็มมุ่งเดียวกันเช่นนี้ต่อสู้เพื่อประเทศชาติ และมวลมหาประชาชนของประเทศของท่านจนสำเร็จมาแล้ว
เจ้าหน้าที่จากเขต ? จับไม้จับมือกับ กปปส.ที่ชุมนุมอยู่ภายนอก หลังปิดหน่วยลต.แล้ว (ผู้ชุมนุม กปปส.มีแต่สองมือเปล่า)
Edited by หนูอ้อย, 26 January 2014 - 14:24.