ผมว่าสรุปและตั้งคำถามบทสุดท้ายได้ดีครับ
กับบทความนี้...
วิธีมัดใจชาวบ้านของ ทักษิณ ชินวัตร ก่อนแจกเงินในชื่อโครงการต่าง ๆ ตามภายหลัง !
25 มกราคม 2014
ภาณุมาศ ทักษณา
ผมเชื่อว่าคอการเมืองคงเคยได้ยินคำอ้างอิงของบรรดาผู้บริหารพรรคเพื่อไทยมาแล้วนะครับ ว่าพรรคนี้ได้รับเลือกมาจากชาวบ้านถึง 15 ล้านเสียง
หากใครคิดจะขับไล่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยขอให้เกรงใจทุก ๆ คะแนนเสียงที่เลือกพรรคเพื่อไทยบ้าง ซึ่งหลายคนก็คงแปลกใจว่าพรรคนี้ตั้งมาไม่นาน ทำไมจึงมีคนลงคะแนนให้ขนาดนั้นผมเองก็เคยสงสัยเช่นกันครับ และก็คงจะงงต่อไป หากไม่ได้อ่านหนังสือชื่อ “ลื่นไม่เท่า ไล่ไม่ทัน ทักษิณ” เขียนโดย นงนุช สิงหเดชะ อดีต บ.ก.ข่าวหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์มติชน รายวัน
หนังสือเล่มนี้พิมพ์โดย สำนักพิมพ์มติชน เมื่อปี 2548 เป็นช่วงที่ทักษิณกำลังดังสุดขีด ทุกเรื่องจึงเป็นการพูดถึง ทักษิณ ชินวัตร ในแง่มุมต่าง ๆ ที่หลายคนไม่เคยทราบมาก่อน
เช่นเดียวกับเรื่องที่ผมจะขออนุญาตนำมาเผยแพร่ในที่นี่….
คงจำกันได้นะครับว่า ตอนนั้นพรรคของทักษิณคือไทยรักไทย ยังไม่ได้ใช้ชื่อเพื่อไทยเหมือนตอนนี้ แต่ใช้วิธีบริหารพรรคโดยการใช้ “การตลาดนำการเมือง” เหมือนกัน
นั่นคือใช้วิธีการทำวิจัยเพื่อให้รู้ว่าชาวบ้านต้องการอะไร ก็เอามาจัดทำเป็นนโยบายให้ถูกใจชาวบ้าน เช่น ชาวบ้านชอบอะไรที่ฟรี ก็จัดให้อย่างรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี รักษาพยาบาลเกือบฟรี(เสียแค่ 30 บาท)เป็นต้น
แต่ที่น่าสนใจอย่างยิ่งก็คือ นโยบายการทำสงครามกับผู้ค้ายาเสพติด จนมีการฆ่าคนตายไปเป็นพัน ๆ คน รวมถึงการทำสงครามต่อสู้กับความยากจนที่ชาวบ้านชอบมาก
นงนุช สิงหเดชะ เขียนถึงนโยบายนี้ในเรื่อง “แก้ยากจน : บทเรียนจากสหรัฐ” เล่าถึงการที่รัฐบาลทักษิณเปิดโอกาสให้ชาวบ้านที่คิดว่าตัวเองยากจนไปลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ
โครงการนี้เริ่มในปี 2547 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของการเป็นรัฐบาลครั้งแรกของทักษิณ โดยทักษิณเตรียมงบไว้แก้ปัญหานี้ประมาณ 4 แสนล้านบาทผลปรากฏว่าเมื่อปิดโครงการ มีผู้ร่วมลงชื่อ 7.5 ล้านคนหรือ 12 % ของประชากรทั้งประเทศ มียอดหนี้สิ้นที่มีผู้มาแจ้งรวมกัน 1.2 แสนล้านบาท
นงนุช สิงหเดชะ เขียนว่า “นโยบายนี้ นับเป็นความชาญฉลาดทางการเมือง” เพราะเหมือนกับการล็อกคนจำนวน 7.5 ล้านเสียงไม่ให้ไปเลือกพรรคอื่นเพราะว่าถ้าไม่เลือกไทยรักไทย สิ่งที่มาลงทะเบียนไว้ก็อาจจะไม่ได้รับการสานต่อหากพรรคอื่นได้เป็นรัฐบาล ถ้าประเมินคร่าว ๆ ก็เท่ากับว่าตอนนี้ไทยรักไทยมี 7.5 ล้านคะแนนเสียงตุนไว้ในกระเป๋า”
เห็นหรือยังครับ วิธี “มัดใจชาวบ้าน” ของทักษิณ ชินวัตร คล้าย ๆ กับที่พรรคไทยรักไทย “มัดใจชาวนา” จะประกันราคาข้าวเกวียนละ 15,000 บาทนั่นแหละครับเพราะถ้าชาวนาไม่เลือกพรรคเพื่อไทยในคราวที่แล้ว ชาวนาก็จะไม่สามารถจำนำซึ่งก็คือขายข้าวให้รัฐบาลในราคาเกวียนละ 15,000 บาทนั่นเอง
และที่เหนือกว่าเดิมคือพอเป็นรัฐบาลเพื่อไทยจัดโครงการแจกเงินชาวบ้านในชนบทเป็นล้าน ๆ ตามมาอีกหลายโครงการแล้วอย่างนี้จะไม่ให้พรรคเพื่อไทย คุยว่ามีผู้มาลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้ถึง 15 ล้านเสียงได้อย่างไร
นี่ถ้าวันที่ 2 ก.พ.นี้ไม่มีการเลื่อนการเลือกตั้ง เพราะพรรคเพื่อไทยโฆษณาชนิดปูพรมไว้ทั่วประเทศแล้ว เราอาจเห็นชาวบ้านบวกกับชาวนาไปเลือกเพื่อไทยเพิ่มอีกเท่าตัวก็ได้จะยอมให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.ไหมครับพี่น้องงงงง !
http://chaoprayanews...ชาวบ้านของ-ทัก/
เพื่อนๆคิดเห็นกันเช่นไร เชิญครับ...