Jump to content


Photo
- - - - -

วันนี้มีเปิดตัว "เครือข่ายผู้รับใช้การปฏิรูปประเทศโดยสันติของประชาชนไทย"


  • Please log in to reply
2 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 นำ้ใบบัวบก

นำ้ใบบัวบก

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 260 posts

ตอบ 28 มกราคม พ.ศ. 2557 - 18:39

ผมพลาดไปได้ไงข่าวนี้ รู้สึก อ.ธีรยุทธ นี่รัฐบวมมไม่ปลื้มอยู่แล้วนิครัฟฟ

 

ที่มา http://www.manager.c...D=9570000010815

 

557000001121101.JPEG

 

"ธีรยุทธ" เปิดตัว "เครือข่ายผู้รับใช้การปฏิรูปประเทศโดยสันติของประชาชนไทย" รวม 217 ราย แถลง “Restart ประเทศไทย” 5 ข้อ ปรับปรุงโครงสร้างระบบและกม.,การเมืองและลดเหลื่อมล้ำรายได้,กระบวนการยุติธรรม,สร้างธรรมาภิบาลศก. และเสริมพลังพลเมือง นัดเครือข่ายคุย 31 ม.ค. จวกนักการเมืองโลภใช้อำนาจตามใจ ชี้ "แม้ว" ยอดสุดของปัญหาทำชาติพัง ชู คปท.สู้เริ่มแรกคือความหวัง ระบุขัดแย้งเลื่อนโหวตหรือไม่ก็ไม่ควรสูญเสีย ยันเห็นด้วยทุกกลุ่มรวมพวกจุดเทียน แต่ไม่เอาระบอบทักษิณ
       
       วันนี้ (28 ม.ค.) ที่โรงแรมสุโกศล เครือข่ายผู้รับใช้การปฏิรูปประเทศโดยสันติของประชาชนไทย ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มบุคคล ที่มีชื่อเสียงทางสังคม ทั้งจากภาคธุรกิจ วิชาการ ประชาสังคม จำนวน 217 คน นำโดยนายธีรยุทธ บุญมี ผู้อำนวยการสถาบันสัญญาธรรมศักดิ์ ม.ธรรมศาสตร์ นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีต ส.ว. กทม. นายสมเกียรติ อ่อนวิมล อดีต ส.ว.สุพรรณบุรี ได้จัดแถลงข่าว “Restart ประเทศไทย” เพื่อสะท้อนความเห็นว่าประเทศไทยอยู่ในภาวะวิกฤติรอบด้าน ทั้ง การเมืองการปกครอง ความเหลื่อมล้ำของสังคม ระบบการศึกษาที่อ่อนแอ องค์การสื่อใช้เสรีภาพโดยขาดความรับผิดชอบต่อสังคม จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ภาคประชาชนต้องร่วมกันปฏิรูป
       
       โดยเฉพาะประเด็นสำคัญ 5 ข้อ ประกอบด้วย 1.การปฏิรูปปรับปรุงโครงสร้าง ระบบและกฎหมายที่จำเป็น เพื่อขจัดการคอร์รัปชั่น โกงกินบ้านเมือง 2.ปฏิรูปโครงสร้างการเมือง การปกครองและระบบบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ 3.ปฏิรูปโครงสร้างและกระบวนการยุติธรรม 4.ปฏิรูปโครงสร้างเพื่อป้องกันการผูกขาด สร้างธรรมาภิบาลเศรษฐกิจ และ 5. ปฏิรูปสังคมเพื่อเสริมสร้างพลังพลเมืองที่เข้มเข็ง โดยมีวัตถุประสงค์ เชื่อมโยงกลุ่มบุคคลที่มีจุดยืนในการปฏิรูปเข้าด้วยกัน และประคับประคองประเทศในระยะเปลี่ยนผ่านให้เป็นไปด้วยสันติ และเป็นเพียงผู้รับใช้การปฏิรูปประเทศ และสร้างเสริมเครือข่ายให้มากขึ้นตามภูมิภาคต่างๆ โดยไม่รอว่าต้องเลือกตั้งก่อนหรือไม่ โดยในวันที่ 31 ม.ค. จะมีการประชุมเครือข่ายจาก 77 จังหวัด เพื่อหารือถึงการจัดเวทีการพูดคุย ที่ จ.นครราชสีมา เชียงใหม่ หาดใหญ่ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
       
       โดนนายสมเกียรติ กล่าวถึงการ Restart ประเทศไทยในมุมมองของสื่อมวลชนว่า สื่อมวลชนถือเป็นตัวแปรสำคัญในการปฏิรูปประเทศ และสื่อต้องรักษาอิสรภาพเสรีภาพในการค้นหาความจริง และทำงานควบคู่ไปกับกลุ่มเครือข่ายปฏิรูปประเทศ โดยยึดมั่นหลักวิชาชีพ อิสระและเสรีภาพของสื่อมวลชน นำเสนอรายงานข้อเท็จจริง เน้นการรับใช้ประชาชนเป็นสิ่งสำคัญและต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างเปิดกว้างเพื่อสะท้อน ความต้องการของประชาชนออกมา
       
       นางวรวรรณ ธาราภูมิ ตัวแทนภาคธุรกิจ กล่าวว่า สังคมไทยมีความเหลื่อมล้ำ คนที่รวยที่สุดในสังคมเป็นกลุ่มชนชั้นที่บั่นทอนระบอบประชาธิปไตย ซึ่งสามารถผลักดันและชี้นำรัฐบาลให้ออกกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มของตนได้ และกีดกัน ชนชั้นอื่นๆออกไปจากเส้นทางผลประโยชน์ และหากกระทำผิดก็จะไม่ถูกดำเนินคดี และมีการกระซิบให้หนีออกนอกประเทศ และภาคธุรกิจส่วนใหญ่ จะไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเมืองเพราะมีข้อบังคับไว้อยู่ แต่ตอนนี้รู้สึกว่าคิดผิด เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้การเมืองเอื้อให้กับนายทุน และมีความเกี่ยวข้องกันอย่างชัดเจน หากจะเริ่มต้นต้องเริ่มจากการปฏิรูปตัวเอง และเชิญชวนให้ภาคธุรกิจเข้ามามีส่วนร่วมเนื่องจากภาคการเมืองอ่อนแอ จากแต่ก็จะไม่โทษมีส่วนชี้นำและบั่นทรระบอบประชาธิปไตย โดยสามารถผลักดันให้ในนามภาคธุรกิจ เมื่อภาคก่อนเมืองอ่อนแอเนื่องจากมีเถ้าแก่ในแต่ละพรรคดังนั้นภาคประชาชนต้องช่วยกันในการปฏิรูปประเทศ
       
       ด้าน นายโสภณ สุภาพงศ์ อดีต ส.ว.กทม. กล่าวว่า นักการเมืองมีการเอาเปรียบคนจน โกงกินบ้านเมือง โดยจะเห็นได้จากดัชนีที่ต่างชาติประเมินประเทศไทยที่เลวร้ายไปเรื่อยๆ ทั้งการคอร์รัปชั่น การไม่ไว้วางใจการทำงานของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจ และปัจจุบันนักการเมืองก็มีการคดโกง ดังนั้นกฎหมายต้องมีการปฏิรูป และสังคมก็ต้องช่วยกันปกป้องข้าราชการที่ทำดี
       
       ขณะที่ นายปราโมทย์ ไม้กลัด กล่าวว่า ระบบข้าราชการของประเทศไทยถูกแทรกแซงโดยนักการเมืองเป็นอย่างมาก ทำให้ข้าราชการไม่กล้าใช้ความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ และก่อนหน้านี้ มีการปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานราชการแต่ก็ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาอย่างถูกจุด และส่วนตัวในฐานะที่เป็นข้าราชการเก่า การแก้ปัญหาโครงสร้างราชการนั้น ต้องป้องกันการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองให้ได้
       
       จากนั้น นายธีรยุทธ ได้กล่าวว่า นักการเมืองไทยมีความโลภ และใช้อำนาจตามอำเภอใจอย่างไม่มีขีดจำกัด ซึ่งจะทำให้ประเทศพังพินาศ และจากการสังเกตการเมือง ตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาสู่อำนาจ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่ทั้งหมดของปัญหา แต่เป็นยอดสุดของปัญหา มีส่วนสำคัญในการทำให้โครงสร้างต่างๆ มีการพังทลายลงไป เช่น โครงสร้างระบบพรรคการเมือง โครงสร้างของอำนาจ 3 ฝ่าย รวมไปถึงระบบตรวจสอบของสื่อเสียศูนย์ไปมาก เพราะสมัย 14 ต.ค. สื่อมวลชนมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากที่ทำให้การต่อสู้ของนักศึกษาประสบความสำเร็จ แต่ตอนนี้จิตวิญญาณการตรวจสอบพังทลายไป รวมถึงโครงสร้างข้าราชการ กลุ่มธุรกิจ ก็ได้พังทลายลงไป และสุดท้ายคือโครงสร้างคุณธรรมจริยธรรม ที่มองว่ามีความเสียหายไปแล้วกว่าครึ่ง โดยจะเห็นได้จากการขู่อาฆาตกันโดยปราศจากความรู้สึก ทั้งนี้ส่วนตัวมองว่า การที่ กปปส. ระบุว่าต่อสู่กับการโกงกินของนักการเมือง เพื่อลูกหลาน ถือว่าฟังขึ้น
       
       นายธีรยุทธ กล่าวด้วยว่า ตนได้เห็นการต่อสู้ของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ตั้งแต่สมัยที่อยู่แยกอุรุพงษ์ มองว่าเป็นการต่อสู้เพื่อปฏิรูปประเทศที่มั่นคง ซึ่งถือเป็นความหวังและเป็นประเด็นที่ถูกต้องคล้ายกับเมื่อปี 2540 ถือเป็นความหวังของคนกรุงเทพฯทุกสาขาอาชีพจนมีการสนับสนุนผ่านการบริจาคอย่างมากมาย สะท้อนให้เห็นถึงอาการทนไม่ไหวกับการทุจริตคอร์รัปชั่นที่ไม่มีขีดจำกัด ตกผลึกเป็นความคิดในการปฏิรูปประเทศของภาคประชาชนที่ชัดเจนขึ้น เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกจุด และปัจจุบันคนไทยเกาะกลุ่มกันเป็นกลุ่มย่อยแสวงหาผลประโยชน์ให้กับกลุ่มตัวเอง ทำให้เห็นว่าโครงสร้างของประเทศมีปัญหา จึงเป็นสิ่งที่เราต้องช่วยกัน และปรากฏการการออกมาชุมนุมของ กปปส. ไม่ใช้กระแสที่ฉาบฉวย เพราะในบางพื้นที่ที่ประชาชนอยู่อย่างกินดีมีสุข ก็ออกมาสนับสนุนการเดินขบวนของ กปปส. หากใครที่เห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของตนก็ขอให้ออกมาแสดงความกล้าเพราะอาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่ทำให้บ้านเมืองกับมาดีได้
       
       นายธีรยุทธ กล่าวอีกว่า การรับฟังข่าวสารอย่างรอบด้าน ทบทวนข้อมูลและสร้างความเข้าใจที่ดีให้กับประชาชนในสังคม จะช่วยลดความขัดแย้งที่รุนแรงให้กับกลุ่ม ผู้ที่มีความเห็นแตกต่างทางการเมืองได้ ซึ่งในการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ ส่วนตัวมองว่า เป็นความต่างทางความคิดในระดับประชาชน คือ กลุ่มคนที่ต้องการรักษาสิทธิการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง กับกลุ่มคนที่ต้องการปฏิรูปการเมืองก่อนเลือกตั้ง โดยมุ่งการแก้ไขปัญหาคอรัปชั่น เนื่องจากจากปัญหากระทบต่อสิทธิและการดำเนินชีวิต
       
       นายธีรยุทธ กล่าวต่อว่า ความขัดแย้งเรื่องการเลือกตั้งว่าจำเป็นต้องเลื่อนออกไปหรือไม่นั้น เป็นความขัดแย้งทางความคิดที่ไม่ควรต้องสูญเสียเลือดเนื้อ เพราะกลุ่มหนึ่งต้องการเรียกร้องใช้สิทธิของตัวเอง แต่อีกกลุ่มเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น ซึ่งต่างมีสิทธิของตัวเองทั้งคู่ ทั้งนี้ตนเคารพทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งพวกจุดเทียนตนก็ชอบ ที่แสดงความรักในประชาธิปไตย ส่วนผู้ที่ออกมาชุมนุมให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งก็เห็นใจเพราะต่อสู้มานาน ทั้งนี้ตนเห็นด้วยกับทุกกลุ่ม แต่ไม่เห็นด้วยกับระบอบทักษิณ “ถ้าเจอหน้ากันตนก็พร้อมทำผิดกฎหมายแรงๆ กับพ.ต.ท.ทักษิณ” และการดูหมิ่นดูแคลนระหว่างคนจนคนรวย และคนที่ต่างภูมิภาคกันนั้น ก็ไม่ควรเกิดขึ้น ขอเรียกร้องไม่ให้นำประเด็นดังกล่าวไปขยายความ และประเทศของเราเกิดกระแสการปฏิรูปมาหลายครั้ง แต่ก็ถูกมองข้ามไปเพราะหลายคนคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องง่าย แต่ที่จริงแล้วทุกคนในสังคมต้องช่วยกัน ก่อนหน้านี้ เคยใช้คำว่า “สังคมเข้มเข็ง” นั้นตอนนี้ขอเปลี่ยนเป็น “สังคมเอาจริง” เพื่อช่วยกันปฏิรูปประเทศ ตรวจสอบการคอร์รัปชั่น กดดันนักการเมืองที่โกงกินในรูปแบบต่าง แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ

 



#2 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 29 มกราคม พ.ศ. 2557 - 00:15

ธีรยุทธนี่คู่กัดทักษิณเลย


ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#3 คลำปม

คลำปม

    สลิ่มเต็มขั้นจ้า

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,657 posts

ตอบ 29 มกราคม พ.ศ. 2557 - 00:46

เห็นด้วยทุกกลุ่มรวมพวกจุดเทียน  แต่ไม่เอาระบอบทักษิณ

 

 

แค่ประโยคนี้พวกจุดเทียนก็จะผลักออกมาเป็นพวก กปปส.ทันทีครับ

 

เพราะพวกจุดเทียนร้อยทั้งร้อยเลือกทักษิณกันทั้งนั้น

 

ขนาดกำลังจุดเทียนเรียกร้องสันติ  ต่อต้านความรุนแรงอยู่ 

 

มีผู้หญิงชูป้ายถ้าทักษิณคอรัปชั่นก็ต้องไปโหวตไล่แต่เป็นภาษาอังกฤษ  ยังโดนเสือกไสไล่ส่งเลย 55


วิธีการยุติระบอบทักษิณ

ก็แค่เพียงทำให้คนไทยส่วนใหญ่ "ฉลาด"





ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน