46 replies to this topic

[Moo3storey]

สมจิตต์ นวเครือสุนทร

โนโหวต คือ ไร้ค่า โหวตโน สู้ มีสิทธิลุ้นเลือกตั้งโมฆะ

มีเพื่อนสมาชิกสอบถามมามากเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างการไปโหวตโน หรือ โนโหวต ควรทำอย่างไหนที่จะเป็นประโยชน์

รัฐธรรมนูญกำหนดให้การเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของประชาชน

คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญให้การเลือกตั้งในปี 49 เป็นโมฆะ
นั้น มีเรื่องคะแนนโหวตโนและบัตรเสียเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะด้วย เพราะเมื่อรวมกันแล้วมากกว่าบัตรดี ดังนี้

บางส่วนจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญปี 49

เมื่อพิจารณาข้อมูลการใช้สิทธิเลือกตั้งที่ปรากฏจำนวนบัตรที่ไม่ประสงค์ลงคะแนนประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนบัตรที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นบัตรดี และหากรวมจำนวนบัตรที่ไม่ประสงค์ลงคะแนนเข้ากับบัตรเสียแล้วก็จะเกินครึ่งหนึ่งของจำนวนบัตรที่มีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งที่เป็นบัตรดี...

จะเห็นได้ว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่กล่าวถึงผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเลย สะท้อนว่าถ้าไม่ไปเลือกตั้งหรือโนโหวต ก็คือสูญเปล่า

ลิงค์ คำวินิจฉัย 9/2549

http://www.constitut...mid=210&lang=th


--------------------------

ผมเห็นด้วยกับคุณสมจิตต์เรื่องไปใช้สิทธิ์ แล้วโหวตโน คือถ้ามันเลื่อนไม่ได้จริงๆ ถ้าในกรณีที่มันสุดวิสัยมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแล้วจริงๆ ไม่ว่าจะชอบไม่ชอบ ไม่ว่าจะเรียกร้องให้ปฏิรูปก่อน แต่ในเมื่อการเลือกตั้งมันเกิดขึ้นไปแล้ว การไปใช้สิทธิ์ แล้วเลือกโหวตโนเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

อีกเรื่องที่ผมขอพูดเผื่อ คือเรื่องนักการเมือง และคนที่ยังจะลงเล่นการเมือง ก็ควรไปใช้สิทธิ์ซะ ผมเสียดายถ้าคุณแทนคุณ ,น้องตั๊น ,หมอวรงค์ ,คุณอรรถวิชช์ ,คุณกรณ์ จะต้องถูกตัดสิทธิ์ในการลงสมัครส.ส.ในครั้งต่อไป คนเป็นนักการเมืองทำตามความถูกต้องก็พอครับ อย่าไปตามใจมวลชนมาก เพราะบางทีมวลชนมันก็บ้าบอ

[Moo3storey]

สำหรับคนที่คิดว่า ถ้ามีคนที่ไม่ออกไปใช้สิทธิ์เยอะ แล้วรบ.จะอ้างความชอบธรรมไม่ได้ ขอบอกว่าท่านคิดผิดครับ แค่นั้นแหละ

1. ไม่ออกไปใช้สิทธิ์ ไม่ได้หมายความว่าแอนตี้การเลือกตั้ง แต่ภาพมันจะออกมาว่า หลายคนเบื่อการเมือง ไม่อยากเข้าข้างรบ. หรือกปปส. ก็เลยขอเป็นไทยเฉย

2. ไม่ว่ายังไงรบ.ก็อ้างความชอบธรรมจากการเลือกตั้งได้อยู่ดี ไม่เกี่ยวกับว่ามีคนนอนหลับทับสิทธิ์เยอะ

3. พวกพลังเงียบที่นอนหลับทับสิทธิ์มีเยอะอยู่แล้วครับ คิดว่าจะนอนหลับอยู่บ้านแล้วเอาพลังเงียบมาอ้างว่าเป็น กปปส. มันจะไม่หน้าด่านไปหน่อยเหรอครับ ? ใครเขาจะเชื่อ

4. ทางเดียวที่จะยืนยันได้ว่าการเลลือกตั้งครั้งนี้พลังเงียบมาเข้าข้างกปปส.ได้ มีอยู่วิธีเดียวคือทุกคนแห่ออกมาใช้สิทธิ์ แบบภถล่มทลาย และกาโหวตโนให้โลกเห็น

5. ถ้าคิดว่าไม่ออกไปใช้สิทธิ์แล้วรบ.จะเงิบ ก็โง่เต็มทนล่ะครับ แค่เลือกตั้งล่วงหน้ามันก็ยกโขยงกันมาสวมสิทธิ์เต็มพรึ่บไปหมดแล้ว ไม่ออกแล้วระวังจะเงิบนะครับ เสื้อขาวต่างด้าวมีจริงนะเออ

[อู๋ ฮานามิ]

วิธีการตบเกรียนนักการเมือง  แบบไม่ให้เสียสิทธิในการคัดค้านการเลือกตั้ง

[Mr.Best]

สรุปว่า จะเอาอย่างไรดี 

[amplepoor]

ง่ายๆ ครับ

 

ถ้ากำนันสละสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียง

ผมก็ตามกำนันไปตามนั้น

 

เรายอมรับเขาเป็นแกนนำแล้ว จะไม่ตามได้ยังงัย

[Moo3storey]

คุณสุเทพคงไม่ไปใช้สิทธิ์ แต่คนอื่นๆในพรรคที่ยังไม่ได้ลาออกจากพรรคควรไป ตรงนี้คือปัญหาโลกแตกของกปปส. และปชป. ที่จะทำอย่างไรให้มวลชนเข้าใจ เพราะวันที่ 26 ก็มีคนตายแล้ว มีการปิดล้อมหน่วยเลือกตั้งไปแล้ว ทั้งๆที่กปปส.มีมติแล้วว่าไม่ขัดขวางการเลือกตั้ง

เรื่องไปใช้สิทธิ์นี้แหละที่กปปส.ติดกับตัวเอง เพราะเงื่อนไขของกปปส.คือไม่ยอมรับการเลือกตั้งที่ไม่ชอบธรรม เป็นหมากที่ตัวเองผูกไว้ แล้วขยับไม่ได้ ประเด็นนี้ทางฝั่งรบ.ก็เอามาใช้ตีกินตั้งแต่ต้น โจมตีกปปส.มาตลอด โดยเฉพาะว่าใจจริงแล้วพท.ก็ไม่ได้อยากให้คนที่ไม่เห็นด้วยออกมาใช้สิทธิ์อยู่แล้ว และก็ไม่ต้องการให้ปชป.รักษาสิทธิ์ในการลงเลือกตั้งอยู่แล้ว พูดง่ายๆมันก็อยากให้ปชป.สูญพันธุ์อยู่แล้ว จะได้หมดเสี้ยนหนาม

Edited by Moo3storey, 29 January 2014 - 00:05.

[tonythebest]

ผมรอการสรุปเรื่องนี้มานาน

จนถึงป่านนี้ ยังไม่มีข้อสรุป

 

บางคน ถือว่าการโหวตโน คือการยอมรับให้มีการเลือกตั้ง

รวมถึงแม้โหวตโนจะชนะ แต่ก็ยังไม่จบ เพราะจะต้องมีการจัดเลือกตั้งใหม่

จนกว่าจะครบจำนวนครั้ง และตัดยอดให้ผู้สมัครนั้นได้คะแนนไปเลย

 

หลายคนจึงยึดเอาการโนโหวต

และลุ้นเอาว่า คะแนนโนโหวตจะเกิน 50%

 

ซึ่งถ้าเป็นตามรูปนี้ อาจต้องแยกย่อยกันเป็นเขตเลือกตั้งไป

เขตไหนลงกันหลายคน ก็โนโหวต เขตไหนลงคนเดียวก็โหวตโน

 

ผลที่ได้คือ เสียงแตก

 

ต้องหาข้อสรุปเสียทีแล้วครับ

[Mr.Best]

ผมรอการสรุปเรื่องนี้มานาน

จนถึงป่านนี้ ยังไม่มีข้อสรุป

 

บางคน ถือว่าการโหวตโน คือการยอมรับให้มีการเลือกตั้ง

รวมถึงแม้โหวตโนจะชนะ แต่ก็ยังไม่จบ เพราะจะต้องมีการจัดเลือกตั้งใหม่

จนกว่าจะครบจำนวนครั้ง และตัดยอดให้ผู้สมัครนั้นได้คะแนนไปเลย

 

หลายคนจึงยึดเอาการโนโหวต

และลุ้นเอาว่า คะแนนโนโหวตจะเกิน 50%

 

ซึ่งถ้าเป็นตามรูปนี้ อาจต้องแยกย่อยกันเป็นเขตเลือกตั้งไป

เขตไหนลงกันหลายคน ก็โนโหวต เขตไหนลงคนเดียวก็โหวตโน

 

ผลที่ได้คือ เสียงแตก

 

ต้องหาข้อสรุปเสียทีแล้วครับ

 

เห็นด้วยครับ

[คลำปม]

ผมแสดงจุดยืนของผมในกระทู้ก่อนๆแล้วนะครับว่าถ้าไม่ได้มติที่ชัดเจนผมจะไปโหวตโน

 

http://webboard.seri...เลือกตั้งเพื่อ/

ไปเลือกตั้งเพื่ออะไรมันแล้วแต่จะมองครับ

 

แต่ผมว่าต้องไป  จะไปฉีกบัตร  ไปทำบัตรเสีย   หรือกาโหวตโน  อันนี้รอให้ตกลงกันก่อน

 

ยังไงก็ต้องไปครับ 

 

ถ้าไม่ไปเสียสิทธิยื่นถอดถอนรัฐบาลหากเขาเบี้ยวการปฏิรูป

 

ซึ่งเขาเบี้ยวแน่  ถ้ามีคนไปใช้สิทธิแค่ 40%  แล้วเป็นแต่ฝ่ายที่เลือกเขาสัก 8-90%

(คนจะลงชื่อถอดถอนเขาก็ขาดสิทธิกันทั้งนั้น)

 

 

แล้วรัฐบาลเขาจะเอาตัวเลข 90% นี่แหละครับไปตีกินว่าเขาชอบธรรม 

 

อ้างว่าคนเลือกเขามากมายเป็นเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ

 

เสียงที่ไม่ออกไปใช้สิทธิจะนับยังไงครับ?

 

เผลอๆพวกโลกสวย พวกเสื้อขาวอนุมานเอาว่าเป็นเพราะคนเบื่อหน่ายการเมืองอะไรไปโน่น

 

 

 

ไม่รู้นะครับวันเลือกตั้ง  ถ้ามีผมไปแน่

 

รอปฏิบัติในแนวทางเดียวกันจากที่นี่ก่อน  หากไม่ได้มติผมไปกาโหวตโนครับ

Edited by คลำปม, 29 January 2014 - 00:25.

[Moo3storey]

เอาจริงๆ กปปส. ไม่เคยรณรงค์ให้ไม่ออกไปเลือกตั้งเลยนะครับ

[หนุ่มเกาหลีมีแฮงคัก]

 

จากเว็บไซต์กกตครับ น่าจะโอเคสำหรับประชาชนที่สุด ไม่เสียสิทธิ์ และไม่ต้องไปเลือกตั้ง ฝากไว้พิจารณาครับ ถ้าเห็นควรด้วย ก็ควรเริ่มรณรงค์กันตั้งแต่พรุ่งนี้ครับ

Edited by หนุ่มเกาหลีมีแฮงคัก, 29 January 2014 - 00:40.

[temp]

ขอรวมมาจากของเดิมครับ

 

จำแนกกรณี

กรณีไม่มีผู้สมัคร - ไม่ต้องทำอะไร รอให้ กกต เปิดรับสมัครใหม่หลังเลือกตั้งแล้วฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ เพราะถ้าหลังเลือกตั้งจะกลายเป็นการเลือกแทนตำแหน่งที่ว่าง แต่ตำแหน่งที่ว่างนี้มาจากการยุบสภา ไม่สามารถเลือกแทนตำแหน่งที่ว่างได้

 

กรณีผู้สมัครคนเดียว - โหวตโนเกิน 50% ถ่วงเวลาเลือกตั้งใหม่อีก 2 รอบ แต่ตอนเลือกตั้งใหม่ก็ทำให้ไม่มีผู้สมัครซะ ก็จะกลายเป็นไม่มีกฎหมายรองรับให้เปิดรับสมัครใหม่ได้ แต่ถ้าเลือกตั้งใหม่รอบสุดท้าย หากไม่มีผู้สมัครก็เปิดรับสมัครได้เรื่อย ๆ มีผู้สมัครคนเดียวได้คะแนนเพียง 1 ก็ได้รับเลือกตั้ง

 

กรณีผู้สมัครหลายคน - หน่วยเลือกตั้งลงคะแนนไม่ได้เกิน 50% ก็ประกาศผลไม่ได้แล้วล่ะครับ

 

กรณีปาร์ตี้ลิสต์ - หน่วยเลือกตั้งลงคะแนนหรือนับคะแนนไม่ได้เพียงหน่วยเดียวก็ประกาศผลไม่ได้แล้วล่ะครับ

 

 

โหวต(โน)นานๆ

จากกระทู้ http://webboard.seri...อกตั้งวันที่-2/

 

คนที่รณรงค์ให้ไม่ออกมาเลือกตั้งส่วนหนึ่งเป็นพวกเสื้อแดงนะครับ
สำหรับผมใครจะว่าไงก็ช่าง ผมคงไปโหวตโน (เว้นแต่กปปส.จะมีมติออกมา แต่ล่าสุดก็มีมติออกมาว่าจะไม่ขวางการเลือกตั้งแล้วนี่ครับ เหอๆๆ)
ไม่ต้องพูดเรื่องโดนสวมสิทธิ์ บัตรผี บัตรเลือกตั้งที่พิมพ์เกิน บลๆๆ ที่ถ้าตอนนับคะแนนแล้วคะแนนมันเกินจำนวนผู้มีสิทธิ์เว้ยเฮ้ย เพราะทุกคนดันออกไปใช้สิทธิ์ ไอ้แผนบัตรผีเลยความแตก แต่ถ้าไม่ออกไปกันเยอะๆก็เข้าแผนมัน
เอาง่ายๆแบบนี้ดีกว่าครับ "ไม่ไปใช้สิทธิ์" นับไม่ได้ กลายเป็นแค่คนเบื่อการเมืองเลยไม่ออกไปใช้สิทธิ์ ตปท.มองว่าถึงคนจะออกไปใช้สิทธิ์น้อย แต่ก็ถือว่ารบ.ปูแม้วสอบผ่าน แต่ถ้าไป "โหวตโน" มันนับได้นะครับ ว่าคนไม่พอใจการเลือกตั้งครั้งนี้เยอะเป็นประวัติศาสตร์ ถึงมันจะไม่มีผล ไม่ต่างจากนอนเกาตูดอยู่บ้านก็ตาม

ตรงนี้แหละ ที่ทำให้ผมยังยืนว่าจะไปใช้สิทธิก่อน ส่วนจะโหวตโน หรือเขียนชื่นชมโคตsเหง้าชินวัตรดี ... ค่อยรอดูอีกที

 

ถ้าเป็นไปตามที่คำนวณกระทู้นี้

ทำได้ครับ คนละ 10 นาที หนึ่งชั่วโมงลงคะแนนได้ 6 คน

แปดโมงเช้าถึงสี่โมงเย็น ได้แค่คูหาละ 48 คน

แต่จะหาคนมีสิทธิลงคะแนนได้เท่าที่ต้องการหรือเปล่า

เท่าที่ดู ไกล้กับข้อนี้ที่สุด แต่ก็ไม่ตรง

http://www2.ect.go.t...SiteMenuID=6053

การขัดขวาง ไม่ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไป ณ หน่วยเลือกตั้ง หรือลงคะแนนเลือกตั้ง
          เป็นความผิดมีโทษจำคุก ๑ ปี - ๕ ปี หรือปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท – ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ๕ ปี (มาตรา ๗๖ ประกอบมาตรา ๑๕๒ วรรคหนึ่ง)

พอลองนึกๆดู

ถ้าหน่วยไหนถูกยึดครองเวลาได้ ผีมันก็จะไม่มีเวลาให้เกิดนะครับ

ratio จำนวน : เวลา มันจะฟ้องในตัวเอง ว่ามีการจับยัดผีลงหีบ ถ้าจะยัดเท่าที่ratioดูไม่ผิดปกติ ก็ได้ผีแค่น้อยตัวเหลือเกิ๊น 

 

 

โหวตนกหวีด (ผมนึกเอาเองอย่างไร้ความรู้)

อ.ชูชาติและหลายท่าน ว่า โหวตโน

อ.สมเกียรติและบางท่าน ว่า ไม่ไปเลือกตั้ง-แสดงเจตนาปฏิรูป

ลุงกำนัน ว่า ไปรณรงค์กันที่หน้าหน่วย

อีก2แนวคือ โหวตนาน กับ ฉีกบัตร ยังไม่ค่อยมีแนวร่วม

จนถึงตอนนี้ สรุป ก็ยังเสียงแตกอยู่ดี

 

==========

ผมเพิ่งนึกออก เล่นๆ ได้มันหมด3ข้อเลย 

-ก่อนออกจากบ้าน ตัดกระดาษแข็งหรือพลาสติกบางๆเป็นรูปนกหวีด พกไปด้วย

-ไปรณรงค์กันหน้าหน่วย

-กาโหวตโน ไม่ทำบัตรเสีย ไม่ขีดเขียนเล่น

-แสดงเจตนา โดยใส่นกหวีดแนบไปกับบัตรเลือกตั้ง พับให้เรียบร้อยอย่าให้หลุดออกมา (ใส่ไม่ดี ทำหล่นมาต่อหน้าจนท.ก็ตัวใครตัวมันนะครับ )

-จับลงหีบ

-ออกมาเข้าขบวนรณรงค์ต่อ

==========

 

http://www2.ect.go.t...SiteMenuID=8008

ขอถามเป็นความรู้ ว่า ใส่สิ่งแปลกปลอมลงหีบ ผิดกฎหมายมั๊ยครับ?

ที่ดูจะเข้าเค้าก็ข้อเนี้ย

"การใช้บัตรอื่นที่มิใช่บัตรเลือกตั้งที่กฎหมายกำหนดหรือการใช้บัตรเลือกตั้งที่มิใช่บัตรเลือกตั้งที่ตนได้รับมา จากการแสดงตน เพื่อลงคะแนนเลือกตั้ง เป็นความผิดมีโทษจำคุก 1 - 10 ปี และปรับ 20,000 - 200,000 บาท และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี"

 

 

แต่เท่าที่ฟังเมื่อหัวค่ำ ยังกับได้ยินว่า "จะจัดการไม่ให้มีการเลือก" รึเปล่าครับ

Edited by temp, 29 January 2014 - 01:14.

[หงส์แดง]

เลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีความชอบธรรมตั้งแต่เริ่ม ผมไม่ไปครับ และบอกทุกคนรอบตัวไม่สนับสนุนการเลือกตั้งครั้งนี้

[prisonbreak]

กำนันแก กะไม่เล่นการเมืองแระไง เลยไม่ลงเลือกตั้ง

 

แต่ที่น่าหนักใจ ก็ พรรค ปชป. นี่แหละ

ถ้าทำให้การเลือกตั้งนี้โมฆะไม่ได้ พรรค ปชป. ก็ซวยเอา

 

เพื่อไทย กะใช้ไพ่ตายใบนี้วัดดวงเอา ถ้าเลือกตั้งผ่านฉลุย ตัวหลักๆ ของพรรคคงหมดสิทธิ์

 

เพราะ กปปส. จะคัดค้านการเลือกตั้ง(หรือขัดขวางการเลือกตั้งในทางพฤตินัย)

ถ้าเกิดมีคนของ พรรค ปชป.ไปใช้สิทธิ์ ก็เข้าทางแดง คือ ขวางคนอื่น แต่พวกตัวเองไปใช้สิทธิ์

(ขนาดไม่มีคนใช้สิทธิ์ แดงมันยังบิดเบือนเลย)

 

ปชป. จะแก้เกมไงหว่า..???

[Stargate-1]

ทีแรกคิดว่าจะไม่ไปเลือกตั้ง แต่เห็นกระทู้นี้แล้ว อยากไปหน่วยเลือกตั้ง

 

ไปปิดหน่วยเลือกตั้ง          

[-3-]

ปชป คงไปเลือกตั้งครับ เพื่อไม่ให้เสียสิทธิในการลงสมัคร สส ในการเลือกตั้งซ่อมที่จะมีแน่ๆ

 

และอย่าลืมว่าถ้าไม่ส่ง สส ลงเลือกตั้งสองครั้งติดกัน โดนยุบพรรคนะครับ 

 

ส่วนผม จะไปเลือกตั้งครับ เพื่อไม่ให้ใครมาสวมสิทธิ์ และจะเอาสิทธิไว้ยื่นถอดถอนนักการเมืองด้วย 

[robbo]

ผมคิดว่าต้องตกผลึกก่อน  ว่าเป้าหมายหลักคือ ไม่เอาการเลือกตั้ง  หรือไม่เอาพรรคเพื่อไทย(ซึงมาแน่นอนหากมีการเลือกตั้งเกิดขี้น)

 

ถ้าไม่เอาการเลือกตั้ง ก็ต้องไม่ไปลงคะแนนครับ.. จบ

 

กรณีไม่เอาเพื่อไทย  ถ้าดูจากคำตัดสินศาล เขาจะพิจารณาผลเลือกตั้งเฉพาะจากกลุ่มโหวตโนบวกกับบัตรเสียเทียบกับบัตรดีเท่านั้น ไม่พูดถึงกลุ่มผู้ไม่มาใช้สิทธิเลย

 

กปปส น่าจะบอกให้ชัดไปเลย ตัวอย่างเช่น ขอให้ไปคัดค้าน หรือคนที่ไม่ได้ออกไปคัดค้านก็ขออย่าไปใช้สิทธิ 

แนวร่วมจะได้ตัดสินใจได้ถูก

[HiddenMan]

 ผมจะไม่อิงเรื่องเก่า... เพราะผมกำลังจะทำเรื่องใหม่ๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ปฏิเสธการเลือกตั้งก่อนการปฏิรูปครับ สำหรับผมคือ ทำเสมือนกับว่าไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น

[จีรนุช]

ไม่ไปเลือกตั้ง  ถูกตัดสิทธิทางกฎหมาย  อันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย  

[zutto]

หากคิดกันตามแนวทางที่ออกมาเป็นกบฏ

 

เอาแต่ความตั้งใจเดิม คือเรา ต้องการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง

 

เพราะงั้น เราไม่ไปเลือกตั้งครั้งนี้

 

อย่างอื่น Let it be...

[เรื่อยๆเอื่อยๆ]

ไปลงชื่อ แต่ไม่รับบัตรเลือกตั้งได้มั้ยครับ ไม่น่ามีระบุไว้ในกฏหมาย จำนวนบัตรในหีบจะได้ไม่เทารายชื่อคนมาใช้สิทธิ์

[อาตี๋]

จะโนโหวต หรือโหวตโน ในทางวิชาการในประเทศไทยถือว่าทิ้งเปล่าเหมือนกัน (ไม่มีใครสนใจที่จะศึกษา) เพราะสุดท้ายก็สนใจแต่คะแนนที่เลือกพรรคใดสักพรรค

 

ผมไปเจอบทความหนึ่งพูดถึงการไม่ไปเลือกตั้งของคนอังกฤษ แล้วน่าสนใจดี แถมมีการวิจัยและศึกษาถึงสาเหตุ และแก้ไขปัญหาด้วย

 

เบื่อเลือกตั้ง? เบื่อนักการเมือง?
Mon, 2011-06-13 20:49

ศ.ดร.สุภางค์ จันทวานิช
ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี

 

บรรยากาศเลือกตั้งเริ่มขึ้นแล้ว พลเมืองไทยที่มีสิทธิเลือกตั้งส่วนหนึ่งอาจกำลังงงๆ งงว่าเราควรใช้สิทธิ์เลือกผู้สมัคร สส. ที่อาจไม่ชนะการเลือกตั้ง หรือเราควรใช้สิทธิเลือกผู้สมัครที่หลังชนะเลือกตั้งแล้วเขาก็ไม่เห็นหัวเราอีกเลย หรือว่าควรโหวตโน อย่างที่มีการรณรงค์ สภาพงงๆ เช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในสังคมไทย ในสังคมต้นแบบประชาธิปไตย เช่น อังกฤษ พลเมืองอังกฤษก็เคยตกอยู่สภาพงงๆ เช่นนี้มาก่อนเหมือนกัน ถึงแม้อาจมีผู้คิดว่าคุณภาพของผู้สมัคร สส. ของเขาอาจดีกว่าของเรา(??) แต่ฝ่ายผู้มีสิทธิออกเสียงก็มีความไม่แน่ใจว่าตนควรทำหรืออยากทำอะไรที่เกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบเลือกผู้แทนประชาชนเข้าไปเป็นปากเสียงให้ตนอยู่ดี เราอาจลองดูว่า ประชาธิปไตยอังกฤษที่ผ่านการเลือกตั้งมีลักษณะอะไรบ้างที่คล้ายบ้านเรา? คนอังกฤษผ่านร้อนผ่านหนาวกันมาอย่างไร? เควิน เจฟฟรีส์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยพลีมัธ ระบุว่าคนอังกฤษก็เบื่อการมาเลือกตั้งเหมือนกัน เมื่อปี 2004 มีผู้มาใช้สิทธิแค่สี่ในสิบคน ที่มาน้อยก็เพราะเบื่อนักการเมือง ของบ้านเราเมื่อปี 2006 มีคนไม่มาเลือกตั้งถึง 12 ล้านคน จากผู้มีสิทธิออกเสียง 47 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนได้ว่ามีผู้มาใช้สิทธิเจ็ดในสิบคน ยังถือว่ามากกว่าของอังกฤษ ทำไมคนอังกฤษจึงเบื่อนักการเมืองและเบื่อการเลือกตั้ง? ที่เบื่อเป็นเพราะผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งส่วนหนึ่งไม่แน่ใจว่าพรรคการเมืองที่เสนอตัวเข้ามานั้นไว้ใจได้หรือไม่? รัฐบาลทำเพื่อใคร? เมื่อมีการสุ่มความเห็นโดยถามว่า รัฐบาลทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศหรือของพรรคการเมือง? (โพลเมืองไทยน่าจะถามแบบนี้บ้าง) ยี่สิบห้าปีก่อนมีชาวอังกฤษที่ตอบว่า รัฐบาลทำเพื่อประเทศมากกว่าถึง 39% ปัจจุบันเหลือเพียง 16% ที่คิดเช่นนั้น แปลว่ามีคนเพียงหนึ่งในหกที่เชื่อว่ารัฐบาลทำเพื่อส่วนรวมและประเทศชาติ สำหรับบ้านเราการสุ่มความเห็นอาจต้องถามถึงสองระดับว่า รัฐบาลทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศหรือของพรรคการเมือง? และนักการเมืองทำเพื่อรักษาผลประโยชน์ของพรรคการเมืองหรือของตนเอง? สื่อกับการเมือง นักการเมืองอังกฤษบ่นว่าสื่อทำให้พวกเขากลายเป็นคนขี้โกหกคนขี้โกงในสายตาของประชาชน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ การที่คนมาเลือกตั้งน้อยจึงเป็นผลมาจากการนำเสนอข้อมูลด้านลบของสื่อนี่เอง (ตามความเห็นของนักการเมือง) สื่อแฉโพยข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับพฤติกรรมนักการเมืองและรัฐบาล เช่นเรื่องการผันเงินอย่างหนักหน่วง ความล้มเหลวทางการข่าว การขึ้นค่าเล่าเรียนในโรงเรียนและมหาวิทยาลัย การยอมตามอเมริกาในสงครามอิรัก ทั้งหมดนี้ทำให้ประชาชนที่รับรู้ข้อมูลเกิดความรู้สึกว่านักการเมืองหมดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศ แล้วเกิดความไม่แยแสต่อการเลือกตั้ง ไม่อยากแม้แต่จะเดินออกจากบ้านมาสักสิบเมตรให้ถึงคูหาเลือกตั้งแล้วหยิบดินสอมากาบัตรเมื่อสิบปีที่แล้ว ร้อนถึงสื่อต้องออกมาพิจารณาบทบาทของตัวเอง สถานีบีบีซีวิเคราะห์รายการวิพากษ์การเมืองของสถานีและพบว่าคนไม่ค่อยสนใจชมโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ชอบดูรายการโชว์มากกว่ารายการการเมือง ไม่น่าจะเป็นความผิดของสื่อที่ขุดคุ้ยข้อมูลของนักการเมืองจนประชาชนไม่มาออกเสียงเลือกตั้ง แม้สื่อจะให้ภาพลบเกี่ยวกับการเมือง แต่ก็ทำให้ผู้บริโภคสื่อมีข้อมูลทางการเมืองมากขึ้นด้วยในระยะยาว อย่างไรก็ตาม นักวิชาการบางกลุ่มก็วิพากษ์ว่า สื่อโดยเฉพาะโทรทัศน์ในอังกฤษมีแนวโน้มจะทำให้การเมืองเป็นเรื่องตื่นเต้น หวือหวา เป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยไร้สาระ หรือเป็นเรื่องไม่มีความหมาย จำนวนช่องที่เพิ่มมากขึ้นทำให้การโต้ตอบทางความคิดเห็นระหว่างกลุ่มที่เกี่ยวข้องและแตกต่างกันบนพื้นที่สาธารณะกลับลดลง การเมืองกลายเป็นเกม ไม่ใช่เรื่องซีเรียส ผู้ชมโทรทัศน์บางคนก็งง บางคนก็เบื่อ หรือกลายเป็นเย้ยหยันไปเลยก็มี ผู้ชมจำนวนไม่น้อยคิดว่านักการเมืองไร้น้ำยาหรือโกงกิน หรือทั้งสองอย่าง จากการวิเคราะห์สื่ออังกฤษ นักวิจัยสรุปว่า ต้องแยกระหว่างสื่อแบบแทบลอยด์กับสื่อน้ำดี ประชาชนกลุ่มต่างกันก็บริโภคสื่อต่างกันตามความต้องการของเขา ผู้อ่านสื่อน้ำดี (ซึ่งมีประมาณหนึ่งในสิบของผู้ใหญ่) ได้รู้ข้อมูลทางการเมืองมากกว่าผู้อ่านสื่อประโคมข่าว แต่คนอ่านสื่อประโคมข่าวมีมากถึงห้าในสิบคน อย่างไรก็ตามคนอ่านสื่อประโคมข่าวซึ่งไม่ได้รับความรู้ทางการเมืองก็ไม่ได้เป็นผู้ที่เบื่อหน่ายทางการเมืองเช่นกัน ผู้ชมรายการโทรทัศน์ เป็นอีกกลุ่มที่น่าสนใจ การวิจัยพบว่าผู้ชมรายการที่ดูโทรทัศน์มาก ไม่ได้ทำให้เกิดความเข้าใจทางการเมืองสูงขึ้น จำนวนช่องโทรทัศน์ที่ผุดเป็นดอกเห็ดและมีแฟนคลับติดตามกันอย่างเหนียวแน่นของไทยก็อาจเข้าข่ายเดียวกันนี้ กล่าวคือ ถึงดูมากก็ไม่ได้ทำให้ระดับความเข้าใจทางการเมืองสูงขึ้น อาจเป็นเพราะรับรู้ข้อมูลข้างเดียวและข้อมูลที่ได้เป็นความตอกย้ำความเข้าใจเดิม (ที่อาจผิด) ให้ผลิตซ้ำต่อไปโดยไม่มีการยกระดับความเข้าใจก็ได้ ที่ประเทศอังกฤษหลังภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ในเหตุการณ์ที่เรียกว่า Black Wednesday 1997 ประชาชนตั้งคำถามว่า นักการเมืองและสื่อพูดความจริงหรือเปล่า ได้มีการสอบถามความเห็นคนทั่วๆ ไปว่า คนกลุ่มไหนพูดความจริง ในระหว่าง หมอ ครูบาอาจารย์ ผู้พิพากษา ตำรวจ ข้าราชการ สื่อ นักการเมือง และรัฐมนตรี ผลการสอบถามคนอังกฤษคิดว่า หมอกับครู พูดความจริงมากที่สุด (86-89%) ที่เหลือลดหลั่นลงมา นักการเมืองได้ต่ำสุด (17 %) สื่อได้ (18%) และรัฐมนตรีได้ (20%) ความเห็นนี้สะท้อนความคิดที่คนมีต่อนักการเมือง สื่อ และรัฐมนตรีได้แจ่มแจ้งดี รัฐบาลพยายามกระตุ้นให้คนมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหานอนหลับทับสิทธิ เช่น ให้โหวตทางอินเตอร์เน็ทและทางไปรษณีย์ได้ แต่ก็ไม่ได้ผลอย่างที่ต้องการ สื่อ เช่น หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน จึงวิพากษ์รัฐบาลว่า ทำให้การโหวตง่ายขึ้นแต่ไม่ได้ทำให้การโหวตมีคุณค่ามากขึ้น การไม่มาออกเสียงของคนจำนวนมากนั่นแหละคือการตัดสินของเขา บทวิพากษ์นี้ฟังดูคล้ายๆ โนโหวตของพันธมิตรอยู่เหมือนกันนะ วิธีที่พรรคการเมืองอังกฤษใช้เพื่อโจมตีพรรคฝ่ายตรงกันข้ามดูจะน่ารักกว่าของเมืองไทย ตอนที่ โทนี่ แบลร์ หาเสียงเลือกตั้ง พรรคอนุรักษ์นิยมที่เป็นคู่ต่อสู้จ้างชายร่างสูงใหญ่มาใส่ชุดไก่ยักษ์ แล้วให้วิ่งกระพือปีกอยู่ข้างหลังแบลร์ ฝ่ายหนังสือพิมพ์เดลี่มิเรอร์ ซึ่งน่าจะเป็นฝ่ายหนุนพรรคแรงงานของแบลร์ก็ไปจ้างชายอีกคนมาใส่ชุดสุนัขจิ้กจอกวิ่งไล่กัดไก่อีกทอดหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุผลใดไม่ปรากฏ ก็ได้มีคนแต่งตัวเป็นแรดสองตัวออกมาร่วมวงกับไก่และสุนัขจิ้งจอก ไม่มีใครอ้างตัวว่าเป็นเจ้าของแรด สัตว์ที่ใช้เป็นสัญลักษณ์ในการเมืองอังกฤษดูจะดุร้ายน้อยกว่าและสุภาพกว่าสัตว์ที่ใช้เป็นสัญลักษณ์ในการเมืองไทย อย่างน้อยก็เห็นนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามเป็นคนเหมือนกัน ในเรื่องนี้การเมืองไทยมีความรุนแรงมากกว่าทั้งโดยวาจาและโดยสัญลักษณ์ รวมทั้งโดยการกระทำด้วย ถ้าไม่เห็นฝ่ายตรงข้ามเป็นคนแล้วจะยังอยู่ในระบอบประชาธิปไตยด้วยกันไหวไหมเนี่ย คุณโตมร ศุขปรีชา ก็ได้ตั้งคำถามนี้ไว้ในบทความเนชั่นสุดสัปดาห์เมื่อเร็วๆ นี้ ใครที่หาเสียงแบบรุนแรง น่าจะฉุกคิดว่าเมื่อสาดโคลนกันจนเน่าถึงที่สุดแล้ว ประชาชนอาจเบือนหน้าหนีด้วยความสะอิดสะเอียนแล้วไม่เลือกใครทั้งนั้น เจฟฟรีส์ระบุว่า ความเบื่อนักการเมืองและการเลือกตั้ง เกิดขึ้นกับพรรคการเมืองใหญ่ทั้งสองค่าย คือพรรคแรงงานและพรรคอนุรักษ์นิยม ในอดีตผู้มีสิทธิออกเสียงในช่วงทศวรรษ 1960 เคยคิดว่าสองพรรคนี้ต่างกันมาก (48%) แต่พอถึงปี 2001 ประชาชนกับเห็นว่าสองพรรคนี้ไม่มีอะไรแตกต่างกันมาก (44%) พูดได้ว่าไม่มีใครดีกว่ากัน คนรุ่นใหม่เป็นความสนใจของการเมืองในทุกประเทศ อังกฤษพยายามเรียกร้องความสนใจทางการเมืองจากคนกลุ่มนี้ แต่ได้รับผลกลับมาเป็นความไม่แยแสต่อการเมือง สมาชิกพรรคการเมืองลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่งในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมา คนรุ่นใหม่ไม่สมัครเป็นสมาชิก กระทรวงศึกษาอังกฤษต้องลุกขึ้นบรรจุวิชาหน้าที่พลเมืองเข้าไปในหลักสูตรระดับมัธยม เพื่อสอนหน้าที่พลเมืองและประชาธิปไตยในโรงเรียน ให้เยาวชนมีความตื่นตัวในความรับผิดชอบต่อโรงเรียนและชุมชนตลอดจนส่วนรวม พลเมืองวิพากษ์ ใครๆ ก็อยากได้พลเมืองที่มีวิจารณญาณ รู้จักวิพากษ์ เท่าทันนักการเมือง ใช้สิทธิของตนอย่างเต็มภาคภูมิ พลเมืองวิพากษ์น่าจะเป็นคนที่รู้จักมองย้อนกลับไปในอดีต และมีความเข้าใจทางการเมืองว่า ใครเคยทำอะไรไว้บ้าง ได้เคยเกิดอะไรขึ้นบ้าง พลเมืองที่เรียนรู้ที่จะคิดว่าเราควรป้องกันไม่ให้ข้อผิดพลาดในอดีตเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า นอกจากนั้นยังรู้วิธีที่จะตรวจสอบนักการเมือง เข้ามีส่วนร่วมในกิจกรรมการเมืองภาคประชาชนด้วยความสมัครใจด้วยตนเอง ไม่ใช่มวลชนจัดตั้ง ไม่รับลดแลกแจกแถมหรือของฟรี ไม่พอใจนโยบายประชานิยมหรือประชาภิวัฒน์อย่างง่ายๆ แต่ตั้งคำถามกลับไปว่า “แล้วเราต้องสูญเสียอะไรบ้าง?” นายกหญิงดีไหม? เมื่อ มาร์กาเร็ต แท็ตเชอร์ จากพรรคอนุรักษ์นิยมเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในทศวรรษ 1970 อังกฤษกำลังสะบักสะบอมจากระบบสวัสดิการของพรรคแรงงานที่ถูกเศรษฐกิจโลกบีบคั้นจน “ไปต่อไม่ได้” คนอังกฤษจึงหันไปเทคะแนนให้พรรคการเมืองที่ประกาศว่าจะยกเลิกรัฐสวัสดิการ แท็ตเชอร์เสนอนโยบายเสรีนิยมใหม่ ซึ่งก็คือการกลับมาของทุนนิยมในรูปแบบของการเปิดเสรีทางเศรษฐกิจและความสำคัญของภาคเอกชน แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ลดสวัสดิการด้านบำนาญ ลดอำนาจสถานภาพแรงงาน รื้อฟื้นค่านิยมจักรวรรดิอังกฤษ ประกาศต่อต้านแรงงานต่างชาติ ทั้งหลายทั้งปวงที่เป็นอนุรักษ์นิยม หลังจากการบริหารประเทศอยู่ถึงสิบเอ็ดปี คนอังกฤษก็ได้บทเรียนว่า รัฐเสรีนิยมใหม่ทำให้เขาต้องปากกัดตีนถีบเพียงใด คนที่ไม่ชอบนายกหญิงคนนี้ยืนยันว่า เธอทำให้คนอังกฤษแตกแยกกัน ภาวะว่างงานสูงอย่างไม่น่าเชื่อ เศรษฐกิจบูมแบบจอมปลอมโดยอาศัยการให้สินเชื่อและการปล่อยกู้ สิทธิแรงงานถูกทำลาย การเรียกเก็บภาษีชุมชน จนผู้คนทนกันไม่ได้พากันออกมาประท้วง ช่องว่างคนรวย-คนจนขยายกว้างขึ้นกว่าเดิม คนไร้บ้านเพิ่มขึ้น ความยึดเหนี่ยวในสังคมถูกทำลายลงด้วยผลประโยชน์ส่วนตัว ฝ่ายคนที่ชอบก็บอกว่า แท็ตเชอร์ช่วยกอบกู้อังกฤษมาจากความตกต่ำ เศรษฐกิจดีขึ้นทำให้มาตรฐานการครองชีพสูงขึ้น จัดการปัญหาการประท้วงของกรรมกรเหมืองแร่และสหภาพแรงงานได้เด็ดขาด พัฒนาอุตสาหกรรมให้ทันสมัยโดยการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ จัดการกับกลุ่มอิทธิพลท้องถิ่น จะเห็นได้ว่ามีทั้งคนที่พอใจและไม่พอใจในนายกรัฐมนตรีหญิงคนนี้ มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า เธอเป็นนายกฯหญิงที่มีนโยบายเหมือนผู้ชาย (ในการตัดสินใจและการกระทำ) เช่นการทำสงครามโฟล์คแลนด์กับอาเจนติน่า จึงมีคนขนานนามเธอว่าเป็น หญิงเหล็ก คู่หูของเธอที่อเมริกาชื่อ โรนัลด์ รีแกน ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมานายกหญิงไม่ได้มีแต่ที่อังกฤษ ในเอเชียเองเราก็มีทั้งประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีหญิง ที่อินโดนีเซีย ศรีลังกา อินเดีย ฟิลิปปินส์ ถ้าดูตัวอย่างจากผู้นำเหล่านี้รวมทั้งของอังกฤษ เธอเหล่านี้ไม่ได้ถูกเลือกมาเพียงเพราะเป็นผู้หญิง แต่เป็นเพราะความสามารถและความเป็นหญิงเหล็กไม่มากก็น้อย การจะขายความเป็นผู้หญิงเพื่อให้ได้รับเลือกตั้งคงไม่เพียงพอ ดูแต่ฮิลลารี่ คลินตัน ผู้หญิงเหล็กอีกคนหนึ่งยังต้องเปิดทางให้ผู้ชายผิวสีชื่อ โอบามา ในยุคสมัยที่พหุวัฒนธรรมสำคัญกว่าเพศภาวะ

http://prachatai.com...l/2011/06/35434
 

Edited by อาตี๋, 29 January 2014 - 10:59.

[หมอต้นไม้]

เรามีสิทธิ์ไปเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเมื่อวันที่ 26 มค.ที่ผ่านมา แต่เรา "ไม่ไปเลือกตั้งหรือ No vote"

 

แล้วค่อยส่งเอกสารแจ้งเหตุที่ไม่ไปใช้สิทธิ์ ก่อนวันที่ 9 กพ. นี้

 

ส่วนใครจะ "No vote" หรือ "Vote no" ก็ตามใจ แต่เอาสถิติเมื่อการเลือกตั้งมาให้พิจารณาประกอบการ

ตัดสินใจคือ 

 

ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด     = 46,939,549 คน

มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด = 35,220,208 คน (75.03%)

 

ดังนั้นคนที่ไม่มาใช้สิทธิ์หรือ No vote = 11,719,341 คน (24.97%)

ในจำนวน 35,220,208 คน มึคนไม่ประสงค์ลงคะแนนหรือ Vote no = 958,213 คน

 

รายละเอียดทั้งหมดตาม link นี้ 

http://www.ect.go.th...13/10/mp_54.pdf

 

ส่วนเรื่องการเสียสิทธิ์นั้นไม่ถือว่าร้ายแรงมาก ถ้ามีจดหมายแจ้งเหตุไม่ไปใช้สิทธิ์ก็โอเคแล้ว

หรือพอมีการเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นระดับใด เช่นเลือกอบต. เราก็ไม่ใช้สิทธิ์ ก็เป็นอันใช้ได้แล้ว

[ชายน้ำ]

เราควรหาความเกี่ยวพันระหว่างต่างชาติชุดขาวกับอดีตสส.เพื่อไทยที่ไปปรากฏตัวที่สน.

 

หรือถ้ามีใครทำแล้วช่วยตั้งกระทู้แบ่งปันกันด้วยครับ

[RED MORON]

กปปส. คงไม่มีกำลังพอที่จะไปขัดขวางทุกหน่วย ถ้าหน่วยไหนเลือกตั้งได้ ผมว่าควรไปโหวตโน

[MIRO]

ผมไม่ทำในสิ่งที่ผมปฏิเสธ

ผมปฏิเสธการเลือกตั้งก่อนปฏิรูป

ผมสนับสนุนการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง

 

ชัดเจน..เสียสิทธิ์อะไรผมไม่แคร์นะ

หากมีการปฏิรูปแล้วเลือกตั้ง ถึงเวลานั้นผมเสียสิทธิ์

จะได้พรรคอะไรมาเป็นรัฐบาล ก็ว่ากันไปตามกติกา..

[kairyuramon]

อันนี้คิดเล่น ๆ นะครับ ดูจากสภาพแล้วยังไงก็น่าจะได้เลือกตั้งอีกในเร็ว ๆ นี้ (ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไรก่อนวันที่ 2) ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่น่าจะกลัวเสียสิทธิ์อะไร

 

หรือเอาแบบที่ด้านบนว่าก็ได้ ทำหนังสือชี้แจงว่าทำไมถึงไม่ไปเลือกตั้ง

[Rinloy Guru]

ยังไงเลือกตั้งครั้งนี้ก็เป็นโมฆะฟันธง

[บุคคลทั่วไป]

ไปแล้วเขียนคำว่า"ควาย"หรือคำอื่นๆใส่ช่องเบอร์15ถือว่าเป็นบัตรเสียไหมครับ

[มาหยารัศมี]

 

สรุปว่า จะเอาอย่างไรดี

สรุปก็ควรไปค่ะ เพื่อรัก๋ษาสิทธิ์ของเรา
อย่าให้ใครมาสวมสิทธิ เพราะมีข่าวมาก่อนหน้านั้นแล้ว
ว่ามีการนำคนเขมรเข้ามากาบัตร มีคนที่ตาย
ไปนานแล้วโผล่ในทะเบียนบ้าน ที่เทศบาลส่งมาหาเรา
ฉะนั้นต้องตรวดูให้ดี

[กุหลาบดำ]

สรุปว่าไม่ไปค่ะ.. เพราะไม่มีการเลือกตั้ง

[Alone]

สองจิตสองใจอยู่ ใจนึงก็อยากโนโหวตเพราะไม่ยอมรับ "การเลือดตั้ง" ครั้งนี้

แต่อีกใจนึงก็กลัวว่าเกิดถูลู่ถูกังจนมีการเลือดตั้งนี่ขึ้นมาได้ถ้าไม่ไปใช้สิทธิ์

ตอนมันทำระยำตำบอนจะไม่มีสิทธิถอดถอนหรือร้องเรียนอะไรรึเปล่า

 

ส่วนตัวเอนเอียงไปทางโนโหวตมากกว่าโหวตโนแต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ

ถ้าเราไม่ไปจะมี "ผี" ไปใช้สิทธิแทนเราหรือไม่?

 

ผมคิดว่าถ้าจะโนโหวต ก็ควรจะมีหลักประกันว่าจะไม่มีใครไปสวมสิทธิแทนเรา

หรือสามารถเอาจำนวนเสียงที่โนโหวตไปตีขลุมว่าเป็นพวก "เบื่อการเมือง"

"ไทยเฉย" "ขี้เกียจ" ฯลฯ คือเป็นได้ทุกพวกยกเว้นกปปส. หรือคนต่อต้านรัฐบวย

จะเป็นไปได้หรือไม่ที่คนที่ต่อต้านรัฐบวยและการเลือดตั้งจะเข้าชื่อกันทำหนังสือ

คัดค้านการเลือดตั้งและระบุไปเลยว่าผู้ที่มีชื่อในนี้จะไม่ไปใช้สิทธิเป็นการอารยะขัดขืน

เพื่อป้องกันไม่ให้ใครเอา "ผี" มาสวมสิทธิแทนได้

 

ผมไม่ค่อยรู้เรื่องกฏหมายเท่าไรจึงไม่รู้ว่าวิธีเช่นนี้ทำได้จริงหรือไม่

หากใครมีความคิดเห็นหรือแนวทางที่สามารถทำให้การโนโหวต

มีประสิทธิภาพสูงสุดได้ช่วยกันเสนอคคห. น่าจะดีนะครับ

เผื่อทางกปปส. จะได้นำไปต่อยอดแล้วประกาศใช้เป็นแนวทางเดียวให้ตรงกันหมด

[พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน]

ตอนนี้กลัวที่สุดคือการโดนสวนสิทธิครับ 

[cham]

ผมไม่ไปแน่นอน ไม่กลัวเสียสิทธิ์ อีก2เดือนเลือกสว ก็ได้ืคืนมาแล้ว

[แดงประจำเดือน]

จริงๆเห็นว่ามันมีวิธีรักษาสิทโดยไม่ไปเลือกตั้งด้วยนะคะ โฮะๆๆๆ อุบไว้ไม่บอกพวกแมลงวาปดีกว่า

[butadad]

ไม่ไป ไม่ไป ไม่ไป

[Deeplnside]

ผมตามคุณลุง  แต่ไปมันก็โกง ไม่ไปมันก็โกง..  จะทำยังไงกะมันดี

[ไทยไม่ทน]

 ผมจะไม่อิงเรื่องเก่า... เพราะผมกำลังจะทำเรื่องใหม่ๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ปฏิเสธการเลือกตั้งก่อนการปฏิรูปครับ สำหรับผมคือ ทำเสมือนกับว่าไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น

 

วันธรรมดา'ปลอม'สินะครับ

 

 

Edited by ไทยไม่ทน, 30 January 2014 - 01:28.

[Moo3storey]

ถ้ามติออกมาว่าไม่ให้ไป ก็คือไม่ไปครับ เพราะมันต้องมีเอกภาพ

สำหรับผม ผมก็รับได้ครับ คิดว่าท่านอื่นๆที่รณรงค์ให้โหวตโนก็น่าจะรับได้ เพราะจริงๆทั้งสองแนวทางนี้มันก็ไม่ได้แตกต่างกันสุดขั้วอะไร

คือถ้ามีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ถ้ามันเลี่ยงไม่ได้ (จะเห็นด้วย จะชอบไม่ชอบก็ตาม) ก็ควรออกไปใช้สิทธิ์

แต่ถ้าจะไม่ใช้สิทธิ์ ก็ควรที่จะล้มการเลือกตั้งให้ได้ ต้องขัดขวางไม่ให้มีการเลือกตั้ง แค่นั้นแหละครับ

[temp]

จริงๆเห็นว่ามันมีวิธีรักษาสิทโดยไม่ไปเลือกตั้งด้วยนะคะ โฮะๆๆๆ อุบไว้ไม่บอกพวกแมลงวาปดีกว่า

บอกหน่อยจิ ผมพวกสีขาวครับ ยืนยันตามavatar   

[แดงประจำเดือน]

 

จริงๆเห็นว่ามันมีวิธีรักษาสิทโดยไม่ไปเลือกตั้งด้วยนะคะ โฮะๆๆๆ อุบไว้ไม่บอกพวกแมลงวาปดีกว่า

บอกหน่อยจิ ผมพวกสีขาวครับ ยืนยันตามavatar 

 

 

 

โฮะๆๆๆ เห็นว่าเป็นคนเสื้อแดงผู้รักประชาธิปไตยเหมือนกันจะบอกให้ก็ได้นะคะ จริงๆแล้วตอนนี้ไอ้พวกสลิ่มมันกำลังหัวปั่นว่าเอาVote noตำรับควายเหหลือง หรือนอนหลับทักบสิทธิ์ดีใช่ไหมคะ ถ้าทำบัตรเสียก็เท่ห์ไปอีกแบบ แน่นอนว่าอีพวกดักดานพวกนี้มันรู้ว่าโหวตโน มันๆด้ผลเฉพาะในเขตที่มีผู้สมัครเดียว   อต่ถึงอย่างงั้นพวกมันก็ไม่กล้าที่จะไม่ไปเลือกตั้งเพราะมันกลัวในอนาคตจะเสียสิทธิบางอย่างทางกฏหมายเพื่อจะโค่นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ก็เพื่อที่มันจะสมัคร สส เพื่อเข้ามาโกงกินประชาชนไงคะ 

 

พวกมันก็เลยคิดได้อยู่แค่นั้น เถียงกันหูดับตับไหม้  แต่เอาจริงๆมันมีช่องที่ต่อให้ไม่ไปก็รักษาสิทธิ์ได้ นั่นถือการร้องเรียนไปยัง กกต ในเวลา7วันหลังเลือกตั้งยังไงล่ะคะ จะอ้างว่า ไปธุระกลับมาเลือกตั้งไม่ทันเพราะ เจ็บป่วย ปวดท้องขี้ พ่องตาย ตายเกิด จิ๋มป้ามันระเบิดตุ้งแช่ๆๆ  พี่ตู่เองก็เคยใช้ข้ออ้างว่าเพราะถูกกลั่นอกล้งติดคุกจึงมาลงไม่ได้ อีพวก กกต มันยังให้เลยนะคะ โฮะๆๆๆ  แล้วคิดเหรอว่าคนทั่วไปจะคิดข้ออ้างอะไรไม่ได้เลยล่ะคะ   อ้อที่สำคัญห้ามเกิน7วันหลังเลือกตั้งนะคะ

 

 

 

  วีรบุรุษประชาธิปไตย แม้กายอยู่ในคุก ยังยอมเสียสละจิตวิญญาณเพื่อสร้างบรรทัดฐานให้การเมืองไทย พร้อมใจเพื่อเป็นตัวแทนราษฤร 

Edited by แดงประจำเดือน, 30 January 2014 - 02:31.

[temp]

 

 

จริงๆเห็นว่ามันมีวิธีรักษาสิทโดยไม่ไปเลือกตั้งด้วยนะคะ โฮะๆๆๆ อุบไว้ไม่บอกพวกแมลงวาปดีกว่า

บอกหน่อยจิ ผมพวกสีขาวครับ ยืนยันตามavatar 

 

 

 

โฮะๆๆๆ เห็นว่าเป็นคนเสื้อแดงผู้รักประชาธิปไตยเหมือนกันจะบอกให้ก็ได้นะคะ จริงๆแล้วตอนนี้ไอ้พวกสลิ่มมันกำลังหัวปั่นว่าเอาVote noตำรับควายเหหลือง หรือนอนหลับทักบสิทธิ์ดีใช่ไหมคะ ถ้าทำบัตรเสียก็เท่ห์ไปอีกแบบ แน่นอนว่าอีพวกดักดานพวกนี้มันรู้ว่าโหวตโน มันๆด้ผลเฉพาะในเขตที่มีผู้สมัครเดียว   อต่ถึงอย่างงั้นพวกมันก็ไม่กล้าที่จะไม่ไปเลือกตั้งเพราะมันกลัวในอนาคตจะเสียสิทธิบางอย่างทางกฏหมายเพื่อจะโค่นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ไม่ก็เพื่อที่มันจะสมัคร สส เพื่อเข้ามาโกงกินประชาชนไงคะ 

 

พวกมันก็เลยคิดได้อยู่แค่นั้น เถียงกันหูดับตับไหม้  แต่เอาจริงๆมันมีช่องที่ต่อให้ไม่ไปก็รักษาสิทธิ์ได้ นั่นถือการร้องเรียนไปยัง กกต ในเวลา7วันหลังเลือกตั้งยังไงล่ะคะ จะอ้างว่า ไปธุระกลับมาเลือกตั้งไม่ทันเพราะ เจ็บป่วย ปวดท้องขี้ พ่องตาย ตายเกิด จิ๋มป้ามันระเบิดตุ้งแช่ๆๆ  พี่ตู่เองก็เคยใช้ข้ออ้างว่าเพราะถูกกลั่นอกล้งติดคุกจึงมาลงไม่ได้ อีพวก กกต มันยังให้เลยนะคะ โฮะๆๆๆ  แล้วคิดเหรอว่าคนทั่วไปจะคิดข้ออ้างอะไรไม่ได้เลยล่ะคะ   อ้อที่สำคัญห้ามเกิน7วันหลังเลือกตั้งนะคะ

 

 

 

  วีรบุรุษประชาธิปไตย แม้กายอยู่ในคุก ยังยอมเสียสละจิตวิญญาณเพื่อสร้างบรรทัดฐานให้การเมืองไทย พร้อมใจเพื่อเป็นตัวแทนราษฤร 

 

อ่า...ขอบคุณครับ

ไหงดันนึกไม่ออกนะ สงสัยติดเชื้อสลิ่มเข้า สมงสมองไปหมดแระ 

[GuoJia]

ชุมนุมกันหลายเดือน เดินขบวนกันหลายเที่ยว เพื่อปฏิรูปประเทศไทยก่อนเลือกตั้ง

ปฏิเสธการเลือกตั้งที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม ซื้อสิทธิ์ขายเสียง กกต.ประจำหน่วยช่วยกาบัตรแทน เปลี่ยนหีบ สารพัดกลโกง

แล้วพอรัฐบาลที่เราขับไล่และเชื่อว่า ไม่มีความชอบธรรม เป็นรัฐบาลเทียม ประกาศวันเลือกตั้ง

พอถึงกำหนด เราก็เดินเข้าคูหาทำอะไรก็แล้ว Vote No, เขียนด่า, ทากาว, คิดนาน ถือเป็นการยอมรับรัฐบาล ยอมรับการเลือกตั้ง

ที่ทำมา ชุมนุม เดินขบวน โดนแก๊ซน้ำตา โดนระเบิด โดนลอบยิง เสียชีวิตหลายราย ถือว่าสูญเปล่า

เจตนารมณ์ถูกแปรเปลี่ยน เป็นพ่ายแพ้ทางอุดมการณ์ เหมือนพวกเสื้อแดงแต่เปลี่ยนไปใส่สีอื่นยังไงยังงั้น

[IFai]

    ผมไม่ไปครับ

    การเสียสิทธิ์ ไม่กลัวครับ ...เสียสิทธิ์5ปี ???

    1. เชื่อว่าการเลืกตั้งคราวนี้ล้มเหลว โมฆะ ... เมื่อเป็นโมฆะ การไม่ไปใช้สิทธิ์ ก็ไม่น่าทำให้หมดสิทธิ์ เลือกตั้งคราวหน้า ...คิดเอาเอง

    2. ถ้าตั้งรบ.ไม่ได้ ก็จะมีการปฏิรูปการเมือง อีก3-4ปี ...ถึงจัดการเลือกตั้งคราวนั้นถึงแม้จะยังไม่มีสิทธิ์เลือกตั้ง ก็คิดว่าระบบจะคัดกรองคนดีๆเข้ามา ....จึงไม่ห่วง

 

    3. ถ้าพท. ชนะ อยู่ครบ4ปี เลือกตั้งคราวต่อไป ผมจะได้สิทธิ์ หรือไม่ ...พท. ก็จะชนะท่วมท้นอยู่ดี

 

    จึงขอแสดงการต่อต้าน การเลือกตั้ง(คราวนี้) ที่จัดก่อนปฏิรูปฯ ...ด้วยการไม่ไปใช้สิทธิ์

[Cylonn]

ไม่เลือกตั้งครับ ไปให้สุดทาง ไม่กลัวการเสียสิทธิ์ใดๆ

[Moo3storey]

เสียสิทธิ์คือสิทธิ์เข้าชื่อถอดถอน กับสมัครลงเล่นการเมืองครับ ไม่ใช่สิทธิ์ในการเลือกตั้ง สิทธิ์ในการเลือกตั้งยังมีอยู่ และสิทธิ์ในการลงชื่อถอดถอนจะกลับมาเมื่อไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งครั้งต่อไป เลือกอบต. ,เลือกนายกเทศมนตรี ฯลฯ

[MuuSang]

ไม่ไปเลือกครับ ขอบาย
ถ้าปฏิรูปแล้ว ไป