ออกตัวก่อนว่า ผมไม่ใช่สมาชิกใหม่ ไม่แดง และไม่แอ๊บกลาง แน่นอน เพียงแต่ปกติจะติดตามอ่านอย่างเดียว ไม่โพสอะไร เพียงแต่ครั้งนี้เก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ได้
เลยอยากมาถาม พี่ ๆ ในนี้ วิเคราะห์กันเล่น ๆ ก่อนถึงวันที่ 2 ก.พ. นี้
ถ้าเป็นสถานการณ์ซักเมื่อ 3-4 เดือนก่อน แน่นอนว่า นังยก ถือว่าได้เปรียบมาก ถ้ามีเลือกตั้ง ก็น่าจะกลับมานั่งโชว์โง่ ให้คนด่าเล่น ในตำแหน่งนางยก ได้เหมือนเดิม ไม่ยากเย็น
เพราะกระสุนก็พร้อม, สส. ก็พร้อม ทั้งจากบ้าน 111 กับ 109 แต่สถานการณ์วันนี้ มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเอาไว้แล้ว เพราะ
1. เลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. นี้ เสี่ยงที่จะเป็นโมฆะ ด้วยเหตุหลายอย่าง และคนในพรรคก็รู้ เพราะมีการสั่งการจากแดนไกล ตัดงบสนับสนุน หาเสียงลง แม้แต่ตัว สส. เองก็ยังแทบไม่ออกไปหาเสียง ป้ายหาเสียงก็แทบไม่มี
2. ต่อให้เลือกตั้งผ่านไปได้ อย่างทุลักทุเล ก็เปิดสภาไม่ได้อยู่ดี เพราะต้องมีเลือกตั้งซ่อมอีกหลายเขต ปาร์ตี้ลิสต์ ก็ยังนับคะแนนไม่ได้ด้วย
อย่างน้อยก็ต้องกินเวลาไปหลายเดือนกว่าจะเปิดสภาได้ (ตรงนี้จะขัด รธน. หรือเปล่ายังไม่ชัวร์ เพราะจำได้ลาง ๆ ว่า มีกำหนดไว้ว่า ต้องเปิดสภาภายในไม่เกินกี่วัน นับจากวันเลือกตั้ง)
3. ตัวนังยก ยังรอโดน คดีจำนำข้าว และขี้ข้าอีก 300 กว่าคน ก็ไม่แน่ว่าจะโดน ปปช. สอยเมื่อไหร่ แถมเคยฟังวิเคราะห์ในข่าวว่า ถ้าขี้ข้าทั้ง 300 กว่าตัว โดนชี้มูล และโดนยื่นถอดถอน ก็มีสิทธิโดนสอยร่วงแน่ เพราะเหลือแต่ สว. สรรหาอยู่ใน วุฒิสภา ตอนนี้
4. ยังหาเงินมา จ่ายค่าข้าวชาวนา ที่เป็นฐานเสียงสำคัญไม่ได้ ฐานเสียงหดหายไปเยอะ คะแนนเสียงที่จะได้ ก็ไม่น่าจะถล่มทลาย อะไรเหมือนคราวที่แล้ว
5. ถ้าจะหวังกลับมาเพื่อรองาบ 2.2 ล้านล้าน ก็ยังไม่แน่ไม่นอน เพราะศาล ยังไม่ตัดสิน เผลอ ๆ อดงาบก็เป็นได้
มอง ๆ จากที่ผมว่ามาข้างต้น ดูยังไง ก็ใช่ว่า การดันเลือกตั้งคราวนี้ จะทำให้ได้เปรียบอะไรซักเท่าไหร่ แต่ทำไม นังยก กับไอ้เหลี่ยม ถึงยังดึงดันจะเลือกตั้งให้ได้ ทั้ง ๆ ที่หากมองอีกแง่นึงคือ ถ้ายืดเวลาเลือกตั้งไปก่อน
แล้วหาช่องทางวิ่งเต้น (ตามที่พวกมันถนัด) เพื่อให้ สส. กับ นังยก พ้นจากคดีในมือ ปปช. และดิ้นรนหาเงินมาจ่ายชาวนา เรียกฐานเสียงกลับมาก่อน แล้วเลือกตั้งตอนนั้น น่าจะได้เปรียบกว่าตอนนี้เยอะเลย
ชวนพี่ ๆ กูรู มาวิเคราะห์ กันดูครับ