ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักข่าวสายทหาร วาสนา นาน่วม โพสต์เฟชบุ๊ค Wassana Nanuam กรณี "โกตี๋" ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Spring News โดยอ้างว่า "พล.อ.ประยุทธ์ " สั่งให้ยิงตนเอง ตอนนี้ต้องหนีไปเขมร โดยมีข้อความทั้งหมดดังนี้
แฉ ออกอากาศ Spring News อ้างโดน "พล.อ.ประยุทธ์ "สั่งเก็บ ต้องหนีไปเขมร แบบไม่มีเงินติดตัวเลย รอทางบ้านส่งเงินมา เพราะมาเอง เผย ผบทบ.สั่งตาย ก่อนเลือกตั้ง 2 กพ. แต่รอดมาได้ ยืนยัน ไม่เกี่ยวข้องเหตุปะทะหลักสี่ โยนแกนนำแดงวันนั้น คือลุงนวย และจ่าเปี๊ยก ยอมรับ แวะมาหลักสี่ เพราะ มาให้สัมภาษณ์ นักข่าว อัลจาซีร่า และมาบอกมวลชน ว่า ตนเองอยู่ร่วมไม่ได้ เพราะ ติดให้ปากคำตำรวจ แฉ มีคนไปดักรอ ที่ สถานีวิทยุ เรดการ์ด ยันโดนสั่งฆ่า เพราะหวั่นวุ่นวายกว่า นี้ ร้องขอความเป็นธรรม
"โกตี๋" นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ แกนนำคนเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์ในรายการ อินไซด์ไทยแลนด์ ทางสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ถึงเหตุปะทะที่หลักสี่ โดยปฎิเสธอยู่เบื้องหลังเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่าคืนก่อน 1 กพ. คือเมื่อ31มค.ชาวบ้านย่านหลักสี่30 คน ไปขอความช่วยเหลือ ว่า อยากจะเลือกตั้ง และขอให้โกตี๋ พาขึ้นออกรายการวิทยุ เรดการ์ด เพื่อพูดเชิญชวนขอให้ทุกคนไปยึดคืนพื้นที่เขตหลักสี่ที่ถูกยึดจาก กปปส. และให้โกตี๋ ออกหน้า และนำกำลังไปขอคืนสถานที่ด้วย
"จึงอนุญาตให้นำรถโมบายที่มีเครื่องเสียงไป แต่ตนเองไม่ได้เดินทางร่วมไปด้วย เพราะติดการสอบปากคำเพิ่มเติม กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีเหตุการณ์คลอง 5 อยู่ภายในสถานีตำรวจนครบาลดอนเมืองตั้งแต่เที่ยง แต่ได้ขออนุญาต ตำรวจออกไปพบกับมวลชนที่วัดหลักสี่ จริง แต่ไปเพื่อพูดคุยกับมวลชน ว่า ตนเองติดภารกิจ และไม่สามารถอยู่ร่วมในการเดินขบวนของกลุ่มได้ เพราะต้องกลับไปสอบปากคำต่อ ก่อนจะเดินทางกลับมาที่สน.ดอนเมือง และ เมื่อสอบปากคำเสร็จก็เดินทางออกจาก สน. ดอนเมือง ซึ่ง แกนนำมวลชนที่ออกไปปะทะกับกลุ่ม กปปส . มีชื่อดาบเปี๊ยก กับ ลุงนวย
โกตี๋ ยืนยันว่า ตอนไปถึงเวทีตรงหน้าอนุสรณ์สถาน ตอนเวลาประมาณ 17.00 น และมีผู้สื่อข่าวไทยรัฐเป็นพยาน แต่บังเอิญพบว่าในระหว่างที่อยู่ เวที ตรงหน้าอนุสรณ์สถานตอนเย็น
"รับทราบข่าวจากผู้ใหญ่ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จัทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก สั่งฆ่าผมในคืนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ซึ่งระหว่างนั้นผมอยู่ระหว่างการปราศรัยบนเวที และผู้ใหญ่ได้โทรมาสั่งให้ลงจากเวทีด่วน เพราะผบ.ทบ. สั่งทหารไล่ล่า ผมจึงลงเวทีและนั่งรถหนีในคืนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ทันที จนถึงวันนี้ก็ยังอยู่นอกพื้นที่ และยืนยันว่าถูกทหารไล่ฆ่า" โกตี๋ ระบุ
เมื่อถามว่าใครเป็นคนบอกว่า ทหารจัดชุดไล่ล่า โกตี๋ ตอบว่า คนของตนเองที่สถานี ที่รู้เพราะมีการมาดักที่สถานี วิทยุเรดการ์ด ของตนเอง พร้อมทั้งโยนปะทัดยักษ์ ใส่ 2 ลูก
เมื่อถามว่าทำไมทหารถึงต้องสั่งไล่ฆ่า นายโกตี๋ ตอบว่า เพราะทหารคิดว่าตนเองนำกำลังคนไปปะทะตรงบริเวณแยกหลักสี่ ทั้งๆ ที่ผมไม่รู้เรื่องไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ที่กลับไปวัดหลักสี่ในช่วงเย็นวันที่ 1 ก็เพราะนักข่าวอัลจาซิร่า ขอนัดสัมภาษณ์ตนเองไว้ที่หลักสี่ด้วย
โกตี๋ เล่าว่า ก่อนการปะทะ ดาบเปี๊ยก และ ลุงนวย ได้ประกาศบนเวที ว่าหากเกิดการปะทะ ทั้งสองคนนี้ได้ประกาศแล้วว่า จะขอรับผิดชอบเอง เหตุใด ทุกคนไม่ไปสอบถามทั้งสองคนว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร
โกตี๋ ระบุว่า หากตนเองนำมวลชนในวันที่ 1 กพ. คงไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
เมื่อถามว่า ในวันดังกล่าวมี พันเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์อยู่ในพื้นที่ แล้วไม่ได้รายงานให้ผู้บัญชาการทหารบกทราบหรือว่า โกตี๋ไม่ได้เกี่ยวข้อง นายโกตี๋ ตอบว่า ทหารเขาน่าจะรายงานว่า ตนเองเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปะทะ เพราะในวันเกิดเหตุ มีมวลชนหลายคนใส่เสื้อที่ ตนเองเคยแจกให้ เกือบ 1 พันตัว ซึ่งมีข้อความว่า เรารักประชาธิปไตย ไปในวันเกิดเหตุด้วย
โกตี๋ กล่าวว่า ผมต้องการขอความเป็นธรรม เพราะตอนนี้ผมหนีหัวซุกหัวซุน
ส่วนการที่ มัลลิกา บุญมีตระกูล บอกว่า ผมหนี ไปกัมพูชา ผมยืนยันว่า ผมหนีมาเอง และผมนั่งรถทัวร์มา เงินก็ไม่มี และตอนนี้รอคนที่บ้าน เอาเงินมาให้ เพราะไม่มีอะไรติดตัวมา แม้แต่บัตรATM
" ผมถูกไล่ฆ่า ไล่ยิงจริงๆ และมีการออกคำสั่งโดยผู้บัญชาการเหล่าทัพ โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ ออกคำสั่งว่า ต้องยิงโกตี๋ ให้ได้ ในวันที่ 1 กพ. เพราะหากถึงวันที่ 2 กพ. จะวุ่นวายกว่านี้อีก เพราะตอนนี้ผมพยายามพลางตัว และยังเอาตัวไม่รอด" โกตี๋ กล่าว
credit ข่าวจาก
-http://news.sanook.c...-ต้องหนีไปเขมร/
-http://www.naewna.com/politic/88788