โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 กุมภาพันธ์ 2557 00:07 น.
"ปานเทพ" ชี้ศึกต่อไป กปปส. ต้องขวางเลือกตั้ง ส.ว. 30 มี.ค. เพื่อหยุดยั้งคนระบอบทักษิณขึ้นนั่งประธานวุฒิฯ เนื่องจากเป็นผู้ทำหน้าที่เสนอชื่อนายกฯคนกลางขึ้นทูลเกล้าฯ ระบุหากทำไม่สำเร็จ ก็จะไม่สามารถเกิดสุญญากาศทางการเมืองในระบบได้
วันนี้ (3 ก.พ.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกและแกนนำรุ่น 2 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวในรายการ "เกาะติดชัตดาวน์กรุงเทพฯ" ทางเอเอสทีวี ตอนหนึ่งว่า จำนวนคนใช้สิทธิ์เลือกตั้ง สะท้อนว่า กปปส. ประสบความสำเร็จ เพราะสามารถทำให้โนโหวตครั้งนี้ มากกว่าเสียงประชาธิปัตย์บวกโหวตโนและผู้ไม่ไปใช้สิทธิเดิม นี่ยังไม่รวมภาคใต้ที่ไม่สามารถเปิดหน่วยเลือกตั้งได้ ไม่เช่นนั้นจะยิ่งลดลงอีก ซึ่งรัฐบาลจะลำบากในเวทีสากล เพราะประชาชนไปใช้สิทธิแค่ 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ และไม่รู้ด้วยว่ารัฐบาลได้คะแนนเท่าไหร่ ฉะนั้นจะเอาไปพูดไม่ได้ว่าคนส่วนใหญ่เอารัฐบาล
นายปานเทพ กล่าวต่อว่า สองวันนี้ นายสุเทพ ดูอารมณ์ดี คงไม่ใช่เฉพาะเรื่องคะแนนเลือกตั้ง แต่จากคำปราศรัย ตนคิดว่าน่าจะเป็นเพราะเหตุการณ์ที่หลักสี่และลาดพร้าว ที่มีกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งคอยช่วยคุ้มครองประชาชน
ส่วนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอำนาจรัฐได้อย่างไร ขั้นแรกผ่านไปแล้วคือไม่สามารถเลือกตั้งกลับมามีอำนาจใหม่ได้ ขั้นตอนที่สอง ต้องมีเหตุการณ์ทำให้วุฒิสภาไม่เป็นคนในระบอบทักษิณ เนื่องจาก นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภาคนปัจจุบัน เป็นคนของ นายทักษิณ หากเกิดสุญญากาศขึ้น ประธานวุฒิสภาจะต้องทำหน้าที่เสนอความกราบบังคมทูลขอพระราชทานนายกรัฐมนตรีคนกลางตามมาตรา 7 ฉะนั้นเลยทำให้ นายนิคม ยื้อเวลาการรับทราบข้อกล่าวหาจากปปช.ให้นานที่สุด เพราะถ้าหลุดจากตำแหน่งไป แล้วเกิดสุญญากาศทางการเมืองระหว่างนี้ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาต้องทำหน้าที่แทน ซึ่งเป็นส.ว.สรรหา ไม่ใช่มาจากระบอบทักษิณ
โดยวันที่ 2 มี.ค. 57 ส.ว.เลือกตั้งจะหมดวาระลง และกกต.คาดว่าจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 30 มี.ค.57 ถ้าเลือกตั้งสำเร็จเชื่อว่า ส.ว.ชุดใหม่ต้องเป็นคนของทักษิณแน่นอน ฉะนั้นสุญญากาศที่หวังให้เกิดขึ้นก็จะไม่มีแล้ว
นายปานเทพ ก่าวอีกว่า ระหว่างรอ ปปช. ชี้มูลสมาชิกวุฒิสภาจากกรณีแก้ที่มาส.ว. ต้องทำให้การเลือกตั้งส.ว.ที่จะมีขึ้นไม่สำเร็จ ซึ่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 111 ระบุว่าสมาชิกวุฒิสภาต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ของจำนวนสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมดถึงจะเปิดประชุมได้ สมาชิกวุฒิสภาประกอบด้วย 150 คน ฉะนั้นทำให้ไม่สามารถมีส.ว.ได้ 8 เขตขึ้นไปก็ไม่สามารถประชุมวุฒิสภาได้
ขั้นตอนทำให้เกิดสุญญากาศต้องเรียงลำดับตามนี้ 1. สมัคร ส.ว. ไม่สำเร็จ 2. รอปปช.ชี้มูลประธานวุฒิสภา 3.รัฐบาลพ้นจากตำแหน่ง หากไม่เรียงลำดับตามนี้ ก็แปลว่าภารกิจของตุลาการภิวัฒน์จะสิ้นสุดลง ไม่สามารถทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองในระบบได้
ส่วนช่องทางทำให้รัฐบาลพ้นจากตำแหน่งนั้น ต่อให้ปปช.ชี้มูลครม.ทั้งคณะเรื่องจำนำข้าว ก็ยังมีรองนายกฯบางท่านที่ไม่ได้อยู่ในครม. เดิม จะขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่แทนได้ ก็ไม่เกิดสุญญากาศอีก แต่ยังพอมีช่องทางอยู่ อย่างกรณีเรื่องการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่กกต.ท้วงติงว่าผู้ประกาศใช้มีส่วนได้ส่วนเสียกับการเลือกตั้ง ที่สำคัญขั้นตอนถูกต้องหรือเปล่า และผู้สั่งการมีบางท่านเป็นกรรมการบริหารพรรค หากขัดรัฐธรรมนูญอาจไปทั้งคณะรัฐมนตรีหรือพรรคเพื่อไทยถูกยุบได้ด้วย อันนี้ก็มีโอกาศเป็นไปได้ และถ้าไม่มีใครขวางการเลือกตั้งส.ว. การชุมนุมจะยาวมาก อาจทำลายสถิติ 193 วัน
นายปานเทพ ยังกล่าวด้วยว่า ถ้าหยุดเลือกตั้งส.ว.ไม่สำเร็จ สถานการณ์จะเปลี่ยนไปมาก ถือเป็นการปิดประตูตุลาการภิวัฒน์ได้แล้ว เหลือแต่การปฏิวัติประชาชนเท่านั้น ซึ่งก็ต้องมีทหารคอยคุ้มครอง จนไปถึงขั้นควบคุมตัวคนในรัฐบาล โดยที่กองทัพก็ต้องมั่นใจว่าสามารถลดสงครามระหว่างประชาชน 2 ขั้ว ให้เล็กที่สุด หมายความว่า กปปส. ต้องครองใจคนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ให้ได้ การปฏิรูปประเทศต้องเป็นธงหลักไม่ใช่เน้นด่ารัฐบาล แล้วหนึ่งในหัวข้อนั้นที่จะขาดไม่ได้คือการปฏิรูปพลังงาน ถึงจะทำให้มีโอกาสเข้ากระบวนการปฏิวัติประชาชนได้จริง
http://www.manager.c...D=9570000013410
ก็พิจารณา กันครับถ้าอยากชนะเร็วถ้าอยากได้นายกคนกลางที่เราพึ่งได้จริงๆ มันต้องทําครับ เมื่อนิคมหมดวาระ แต่ถ้า สว ส่วนใหญ่ที่เลือกมาไอ้แม้ว ยังครอบงําได้ก็จะได้ประธาน สว ขี้ข้าแม้ว แต่ถ้ายอมกลืนเลือดขวางเลือกตั้ง สว เพื่อให้ รอง ประธานได้อํานาจยาวๆจนไปถึงรัฐบาลพ้นไปแล้วสามารถตั้ง นายก เฉพาะกาล ที่เราคาดหวังได้ขอให้ลุงกําันัน พิจารณาเอาและพูดเรื่องปฏิรุปพลังงานทวงปตทได้แล้ว และควรจะพูดถี่ทุกวันเหมือนที่สุเทพพูดเรื่องปฏิรุปอะไรต่างๆ