เอ็มดีแบงก์กสิกร อย่าไปยุยงให้คนแห่ถอนเงินฝาก หวั่นความเชื่อมั่นกระทบวงกว้างเป็นไฟลามทุ่งท่ามกลางการเมืองร้อน อาจเกิดปัญหาซ้ำรอยวิกฤตต้มยำกุ้ง ชี้ถ้าเกิดพังกันขึ้นมาจริงๆ ก็จะพังกันทั้งหมด แล้วคนที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็อาจจะเป็นคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ที่อยู่ใกล้ๆ กับตัวคุณนั่นเอง
นายธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Teeranun Srihong โดยระบุว่า “จะโกรธเกลียดใครอย่างไร ก็อย่าไปยุยงให้คนมารุมถอนเงินจากธนาคาร”
ตอนนี้อุณหภูมิในความรู้สึกคนค่อนข้างจะร้อนแรง มีความหวาดระแวงกันไปทั่ว แต่วิญญูชนอย่างเราต้องใช้สติพิจารณาปัญหาต่างๆ ให้ครบถ้วน หาข้อมูลให้ชัดเจนรอบคอบ และที่สำคัญต้องเข้าใจว่าการกระทำของเรานั้นมันจะส่งผลต่อสังคมในวงกว้างหรือไม่ อย่างไร
ตอนนี้ ธนาคารที่เพื่อนของผมอยู่บางแห่งกำลังถูกโจมตีด้วยกระแสข่าว ผมจึงขออนุญาตออกมาเตือนสติบางท่านว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เราจะเอามาพูดกันเล่นๆ ท่านอาจจะยังไม่ทราบว่า การยุยงให้เพื่อนๆ ออกไป “รุมถอนเงิน” ธนาคารแม้เพียงแห่งเดียวนั้นมันสามารถเป็นอันตรายต่อชีวิตความเป็นอยู่ของทุกๆ คน (ย้ำ! เราทุกๆ คน!) ในที่สุด
ระบบธนาคารนั้นเปรียบเสมือนกับหัวใจของระบบเศรษฐกิจ ผู้ฝากเงินแต่ละคนมีสิทธิอย่างสมบูรณ์ที่จะถอนเงิน หรือโยกย้ายเงินฝากของตนไปอยู่ในที่ๆ ตนพอใจ แต่การสร้างกระแสข่าวและความรู้สึกให้คนอื่นมาเห็นร่วมว่าควรจะไป “รุมถอนเงิน” ออกจากธนาคารใดธนาคารหนึ่งนั้น เปรียบเสมือนกับการยุยงให้คนเอามีดกรีดเส้นเลือดเลี้ยงหัวใจสักเส้นหนึ่งให้บาดเจ็บจนเลือดไหลซ้ำๆ แต่ทราบหรือไม่ว่า การกระทำที่เหมือนเพียงน้ำผึ้งหยดเดียวแบบนี้คือ การตั้งใจทำลายหัวใจทั้งอัน แล้วคนคนนั้น (หรืออีกนัยหนึ่งคือ ประเทศชาติ) ก็อาจจะต้องตายไปเองในที่สุด
ระบบธนาคาร หรือการเงินของประเทศนั้น มีความเชื่อมโยงต่อเนื่องกันเหมือนกับกล้ามเนื้อหัวใจซึ่งกล้ามเนื้อแต่ละชิ้นต้องทำงานอาศัยซึ่งกันและกัน การรุมถอนเงินธนาคารใดก็ตามหากมีปริมาณที่มากพอก็จะทำให้เกิดความตื่นตระหนก รุมถอนเงินกันเป็นลูกโซ่ ธนาคารนั้นก็จะทำงานตามปกติของตัวเองต่อไม่ได้ เสมือนกับเส้นเลือด และกล้ามเนื้อหัวใจบางส่วนหยุดทำงาน
แต่ธนาคารทุกธนาคารนั้นมีธุรกรรมเชื่อมโยงกับลูกค้า และสถาบันการเงินอื่นๆ อยู่มากมาย คนที่กำลังรอรับเงินจากธนาคารนั้นก็จะไม่ได้เงิน คนที่อยากจะจ่ายเงินให้ก็ทำไม่ได้ และเกิดการลามต่อเนื่องไปยังธนาคารอื่นๆ อย่างมากมาย และทันทีแบบไฟลามทุ่ง
สถานการณ์นี้หากแก้ช้าไม่ทันการก็จะทำให้เส้นเลือด และกล้ามเนื้อชิ้นอื่น (คือธนาคารอื่นๆ) ตายตามไปด้วยอย่างรวดเร็ว แม้ตอนเริ่มต้นจะไม่ได้เป็นเป้าหมายของการถูกทำร้ายก็ตาม ในที่สุด ก็จะเกิดความเสียหาย และเสี่ยงต่อการพังทั้งระบบได้โดยง่ายเหมือนกับการเกิดหัวใจวายอย่างเฉียบพลัน ซึ่งก็เคยเกิดขึ้นกับพวกเรามาแล้วในช่วงวิกฤตปี 2540
ดังนั้น จะโกรธเกลียดใครอย่างไร ก็อย่าไปยุยงให้คนมารุมถอนเงินจากธนาคารแห่งใดแห่งหนึ่งเลยนะครับ เพราะถ้าเกิดพังกันขึ้นมาจริงๆ มันจะพังกันทั้งหมด แล้วคนที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็อาจจะเป็นคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ที่อยู่ใกล้ๆ กับตัวคุณนั่นเอง
http://www.manager.c...D=9570000013540
ที่พูดนะเข้าใจ รู้อยู่ แต่ประโยคสุดท้ายดูจะใส่ความกันเกินไปหน่อยนะ(หมายถึงใส่ความผู้ฝากเงิน และติดตามข่าว) เหมือนเลือกข้างแล้ว ประกาศมาเลยซิว่าจะไม่ข้องเกี่ยว หรือยุ่งกับโครงการนี้อย่างแน่นอน เงินไม่ใช่น้อยๆหากขาดทุนมา มันก็ล้มทั้งยวงเหมือนกัน