เสื้อแดงอ้างพระบรมฯ เป็นหลักล้มการปกครองโรมันโมเดล
ตั้งแต่ปี 2551 ผมได้เคยเขียนบทความเรื่องขบวนการล้มเจ้า เคยเปิดเผยหลักยุทธการต่างๆในการล้มล้างเปลี่ยนแปลงการปกครอง ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ หลายยุทธวิธีเป็นตัวอย่างที่ถูกนำมาใช้ในประเทศไทย ในช่วงนี้มีคนกลับมาถามคำถามเดิมกับผมว่า ทำไมเสื้อแดงจึงอ้างสมเด็จพระบรมฯทั้งที่พวกนี้มีเจตนาจะล้มเจ้า
เรียนว่ายุทธวิธีดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นการปล่อยข่าวการแย่งชิงราชบัลลังค์ กันเองในราชวงศ์ ตัดต่อภาพ วิดีโอของพระบรมวงศานุวงค์ ที่เคยถูกเผยแพร่ในหลายปีก่อนนั้น คือการเจตนาตัดต่อสร้างภาพ เพื่อให้ประชาชนเสื่อมความศรัทธากับสถาบันกษัตริย์ ซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานในการล้มการปกครอง ที่เริ่มต้นยุทธวิธีลักษณะนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยโรมัน ในยุคนั้นใช้วิธีปล่อยข่าวลือสารพัด เพื่อลดความน่าเชื่อถือ ยุให้ราชวงศ์สังหารกันเองจากนั้นถึงขั้นเข้ายึดครองอำนาจ ล่าสุดเกิดขึ้นในเนปาลปล่อยข่าวว่าน้าหลานขัดแย้งกันเอง แต่มีการล่อมาฆ่าทั้งราชวงศ์ สุดท้ายทหารเข้ายึดครองอำนาจเปลี่ยนการปกครองจนถึงปัจจุบัน
ยุทธวิธีนี้ตามหลักยุทธศาสตร์การเมือง การปกครอง ใช้กันแพร่หลายตามหลักคอมมิวนิสต์ หลังจากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ 1 ใน 3 ของโลกเปลี่ยนการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์ ต่อมาต้องพัฒนาเป็นสังคมนิยม เพราะการโฆษณาชวนเชื่อ ทัดเทียม เสมอภาค ยุติธรรม อ้างประชาธิปไตย เมื่อได้อำนาจเปลี่ยนการปกครองมา ก็กระทำจริงมิได้ เพราะยังไงประเทศก็ต้องมีผู้ปกครอง คอมมิวนิสต์จึงต้องล่มสลายไปกลายเป็นสังคมนิยมในปัจจุบัน
เหตุการณ์ที่ขึ้นในเมืองไทยที่มีการอ้างสมเด็จพระบรมฯว่า"เรารักพระบรมฯ" ปล่อยข่าวว่ามีการแย่งชิงอำนาจกันในราชวงศ์ และปลุกกระแสความแตกแยกกันในวงการทหาร แยกเป็น ทหารบ้านนอก ทหารเจ้า ทหารในเมือง ทหารปืนใหญ่ และทหารไม่จบนายร้อย ตั้งชื่อต่างๆนาๆเช่น วงศ์เทวัญเป็นต้น อันเป็นยุทธศาสตร์แบ่งแยกศัตรู อันเป็นหลักพื้นฐานในตำราพิชัยสงครามในยุค450ปีก่อนคริสตกาล ของ"ซุนวู" มาโด่งดังสมัย 3ก๊กฮกเกี้ยน ยุคของ"ขงเบ้ง"เมื่อ 2500ปีก่อนถูกนำมาเขียนเป็นนวนิยายสงครามจีนให้คนได้ศึกษา
คนที่สามารถนำหลักคิดยุทธศาสตร์ ยุทธการ ยุทธวิธีเหล่านี้มาใช้ได้ จะมีนักประวัติศาสตร์ นักรัฐศาสตร์ ที่นำมาพัฒนา ปรับปรุง ใช้กับสถานการณ์ในปัจจุบัน แต่ผมมั่นใจเป็นอย่างมากว่ายุทธวิธีดังกล่าวไม่สามารถนำมาใช้ในประเทศไทยได้สำเร็จ เพราะคนไทย ราชวงศ์ไทย ตื่นรู้ในสิ่งเหล่านี้มานานแล้ว ไม่ชะล่าใจเหมือนเหตุการณ์ปฏิวัติสยาม เมื่อ 24 มิถุนายน 2475 จนถูกคณะราษฎร์ ที่มี พล.อ.พระยาพหล พลพยุหเสนา เป็นหัวหน้า มี อำมาตย์ตรี ศ.ดร.ปรีดี พนมยงค์ เป็นกุนซือ จับกุมตัวไปควบคุมไว้ที่พระที่นั่งอนันตสมาคม บังคับให้รัชกาลที่ 7 เปลี่ยนแปลงการปกครอง เปลี่ยนเพลงชาติ ธงชาติ สร้างอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตยกลางกรุงเทพฯ ปักหลักหมุดยังพระบรมรูปทรงม้า ยึดทรัพย์ ยึดพระราชวังเป็นสถานที่ราชการฯลฯ อันเป็นสัญลักษณ์เปลี่ยนการปกครอง คงเกิดไม่ได้อีกต่อไปกระมัง..
"ชีวิตอุทิศเพื่อชาติ เราต้องสู้เพื่อชาติทั้งหลาย ชาติเสือเราต้องไว้ลาย ชาติชายเราต้องต่อกร สิ้นชาติ สิ้นแผ่นดิน สิ้นกษัตริย์ เห็นสุดจะยืนหยัดอยู่ได้ จะเป็นตายร้ายดีก็เป็นไป จะป้องกันเอาไว้จนสุดฤทธิ์ "
เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
2 กุมภาพันธ์ 2557
(วันเลือกตั้งโมฆะของไทย)