ผมไม่แน่ใจว่า เมื่อเปิดสภาไม่ได้ เลือกนายกไม่ได้ และครบ 60 วัน แล้ว รัฐบาลรักษาการณ์จะหมดสภาพจริงหรือเปล่า และหากต้องการคำยืนยันว่าหมดสภาพเราควรจะให้ใครเป็นคนชี้ขาดว่ารัฐบาลรักษาการณ์หมดสภาพ ใช่ศาล รธน. หรือไม่?
แล้วหาก ศาล รธน. ชี้ขาดว่า รัฐบาลรักษาการณ์หมดสภาพ แต่นางยิ่งลักษณ์บอกไม่ยอมรับคำตัดสิน จะเกิดอะไรขึ้น?
นอกจากนี้ยังมีคำถาม เกิดขึ้นว่า ในเมื่อทุกคน แม้แต่ลุงกำนัน จะต้องรอกระบวนการตามกฎหมาย เพื่อเขี่ยรัฐบาลชั่วนี้ออกไปเพื่อทำให้เกิดภาวะสุญญากาศ การชุนนุมที่ต้องให้คนเสียเงินเสียทอง หรือ ต้องปิดถนน ปิดสถานที่ราชการ จะมีประโยชน์อะไร? นอกไปจากการให้คนที่มาชุนนุมนั้นเป็นโล่ห์มนุษย์เพื่อปกป้องแกนนำจากการจับกุมเท่านั้น?
ผมจึงมีข้อเสนอไปยังลุงกำนัน ในฐานะร่างทรงของมวลมหาประชาชนดังนี้ครับ
1) การยุบเวที เปิดการจราจร นั้น ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่ดี ลดผลกระทบกับคน กทม. แต่ผมคิดว่า เราต้องยุบอีกให้เหลือแค่ 3 เวทีคือ ปทุมวัน-ราชประสงค์ ซึ่งคือเวทีคู่ขนาน และ สวนลุมพินีจะเป็นเวทืและสถานที่ของคนที่มาปักหลักพักค้าง ทั้งหมดเป็นไปเพื่อประหยัดงบประมาณ และ เตรียมการอยู่ยาวอีก 60 วัน และการดูแลประชาชนที่มาชุนนุมให้ปลอดภัย
2) เปิดสถานที่ราชการให้มากขึ้น แต่ปิดเฉพาะ สตช. กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ ทำเนียบ สำนักนายกรัฐมนตรี และ DSI เท่านั้น
3) ลดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงกับผู้ชุนนุม
4) ปรับถนนหน้าสยาม ระหว่างเวทีปทุมวันและราชประสงค์ เป้นถนนแห่งการปฏิรูป มีกิจกรรมให้ความรู้จากมหาวิทยาลัย การออกร้านของพ่อค้าแม่ขาย ของกินรสเด็ดเจ้าดังๆ เป็นต้น เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว และ แหล่งให้ความรู้
5) จัดให้มีกิจกรรมชุนนุมใหญ่ของทั้งสามเวที ทุกวันอาทิตย์
ไม่มีทางที่คนอยากปฏิรูปจะลดลง มีแต่จะเพิ่มขึ้น เรียกเมื่อไหร่ก็ออกมา
แต่การจัดชุนนุมต้องมี ทางสายกลาง ไม่ตึง หรือ ไม่หย่อนเกินไป
เพื่อรักษาความชอบธรรมให้นานที่สุด