ขอความร่วมมือหน่อยครับ
อยากให้ทุกคนร่วมกันหาบทความ ที่สนับสนุการจำนำข้าว และชื่อนักวิชาการที่เขียน จะไปเล่นมันเวลามีงานวิชาการ
#1
Posted 7 February 2014 - 10:15
#2
Posted 7 February 2014 - 10:31
คุ้นๆก็น่าจะเป็นทฤษฎี 2 สูงของเจ้าสัวซีพี ?...
แต่มีผู้วิแคะแกะเกาไว้แล้วว่า...
"เป็นนโยบายหลอกลวง"
ทฤษฎี 2 สูง นโยบาบหลอกลวงของเจ้าสัวธนินท์
5 สิงหาคม 2556
http://kaeloveake.bl.../2013/08/2.html
Edited by Suraphan07, 7 February 2014 - 10:32.
#3
Posted 7 February 2014 - 10:33
เมื่อก่อนตอนเป็นรบ. ใหม่ๆ ผมเปิดช่อง 11 เจอนักวิชาการมาอวยเรื่องจำนำข้าว แต่เสียดายจำชื่อไม่ได้
#6
Posted 7 February 2014 - 10:40
เอ เดี๋ยวนะ ผมไม่เคยอ่านวิชาการที่สนับสนุนจำนำข้าว แต่ผมว่าประเด็นมันไม่น่าจะเกี่ยวกับผลงานวิชาการเรื่องนี้ จำนำข้าวมันล่มเพราะรัฐทุจริตมากกว่ามั้ย ถ้ารัฐไม่ทุจริตปัญหามันก็ไม่เกิด ไม่น่าจะเกี่ยวกับนักวิชาการอะไร
#7
Posted 7 February 2014 - 13:19
ทฤษฎี 2 สูง มันไม่สมบูรณ์ครับ ต้องมีอีกสูงคือ "คุณภาพสูง" ซึ่งประเทศไทยตอนนี้ ไม่มีทางทำได้ ถึงทำได้ก็ต้องให้สัมพันธ์กับรายได้ และ ราคาที่สูงขึ้นด้วย พอไม่มีสูงที่ 3 ก็ไม่สัมพันธ์กับอีก 2 สูง ก็ขัดกับหลักทฤษฎีความพอเพียง กลายเป็นเกินตัว สุดท้ายก็เจ๊ง
ถามว่าเจ้าสัวรู้มั๊ย? เชื่อว่ารู้ แต่จงใจกั๊ก เพราะ "ม่ายว่ายางงาย อั๊วก็รวย ยิ่งกั๊กไว้จนมันพังอั๊วก็ยิ่งรวย ช่วยม่ายล่าย รัฐบาล + เสียงส่วงใหญ่ มานโง่เอง"
นักวิชาการแดง ไม่ว่าจะไอ้นิธิ ไอ้หงอก ไอ้เจต ที่เสนอหน้ากลุ่มนิติราษฎ์ สปป. ทั้งหมดนั่นล่ะ ส่วนใหญ่เป็นนักกฎหมาย นักประวัติศาสตร์ ศิลปศาสตร์ รัฐศาสตร์ฯลฯ ไม่มีใครเป็นนัก เศรษฐศาสตร์ ซักคน แต่เจือกออกมาแสดงความรู้เรื่อง เศรษฐศาสตร์ เอาแค่สาขาวิชา ที่พวกมันน่าจะเชี่ยวชาญที่สุด แม่งก็ไปไม่รอดกันแล้ว เสรือกมาวิจารณ์เรื่อง ที่ตัวเองไม่ถนัดอีก
ตามประสบการณ์นะครับ พวกอาจารย์มหาลัยเนี่ย หากไม่ใช่เรื่องที่ตัวเองถนัดหรือ เชี่ยวชาญแล้ว ก็คนธรรมดาๆ ดีๆ นี่เอง บางคนโง่กว่าเด็กมัธยมอีกครับ ไม่ต้องไปเชื่อพวกมันมากนักก็ได้
ที่จำได้แม่นอีกคนเลยก็ ธงชัย นิวิธจะกูล กล่าวอ้างหลักเศรษฐศาสตร์พื้นฐาน มาอวยรัฐบาลปูแบบมั่วๆ โจมตี "อำมาตย์???"
ไงล่ะ " การปกครองที่ไม่เข้ากับระบบเศรษฐกิจของประเทศ จะก่อให้เกิดปัญหาแก่รัฐ " เข้าตัวอีปู เต็มๆแล้วไหมล่ะ สัส
Edited by annykun, 7 February 2014 - 13:20.
คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม คือ ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง
คุณธรรมที่พร้ำสอน ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา ส่วน ประชาธิปไตยน่ะรึ เอาเข้าจริงๆ สำคัญอันใด??
#8
Posted 7 February 2014 - 13:32
นโยบายจำนำข้าวมันเป็นประชานิยมหลอก dak ชาวนาครับ ชาวนาเขาไม่มีข้อมูลอะไรมากหรอก เขารู้ว่ามันดีหากรัฐบาลมารับจำนำข้าวในราคาสูงๆ แต่พวกรัฐบาลและพวกนักเศรษฐศาสตร์ที่ชูนโยบายนี้ควรจะรู้แต่แรกแล้วว่ามันไม่สามารถทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกราคาสูงได้
เท่าที่ทราบคือพวกที่สนับสนุนนโยบายจะชูว่าประเทศไทยส่งข้าวเป็นอันดับหนึ่งของโลก ดังนั้นจึงควรที่จะคุมราคาข้าวในตลาดโลกได้โดยการตุนข้าวไว้เพื่อรอขายในราคาสูงๆ ดังนั้นจึงตั้งราคารับจำนำสูงเอาไว้เพราะคิดว่าจะได้กำไรในอนาคต แต่พวกนี้มันไม่ได้คิดว่าข้าวนั้นไม่ใช่สินค้าโภคภัณฑ์อย่างน้ำมันที่ตุนได้เป็นระยะเวลานาน และในตลาดโลกประเทศต่างๆ ก็ไม่ได้ต้องการกินข้าวกันทุกประเทศ อีกทั้งการปลูกข้าวนั้นวงจรสั้น ไม่กี่เดือนก็สามารถปลูกมาทดแทนกันได้
หนทางที่รัฐบาลจะได้กำไรจากการรับจำนำข้าวมีความเป็นไปได้ในกรณีที่ประเทศอื่นๆ ที่ส่งออกข้าวนั้นมีปัญหาไม่สามารถปลูกข้าวได้ และเกิดภัยธรรมชาติที่ทำให้มีความต้องการข้าวสูง ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดบ่อยๆ คนคิดนโยบายที่มีสติไม่ควรคิดถึงเรื่องโชคช่วยให้ราคาข้าวสูงได้ในตลาดโลกแบบนี้
โดยสรุปแล้วนโยบายนี้มันอยู่ด้วยตัวมันเองไม่ได้นอกจากจะใช้งบประมาณแผ่นดินมาหนุน ส่วนพวกนักเศรษฐศาสตร์หรือกระยาสารทที่สนับสนุนโครงการนี้ก็ขี้เท่อไม่แพ้กัน
#10
Posted 7 February 2014 - 13:46
ปัญหามันต้องเกิดอยู่แล้วจำนำมาแพงกว่าราคาตลาดยังไงขายก็ขาดทุนทุกปีแล้วรัฐบาลไม่มีเงินเยอะขนาดจะ
ไปอุ้มได้ทุกปีหรอก จะต้องกู้ทุกปีเพื่อจำนำข้าว คนเสียภาษีส่วนหนึ่งก็คงไม่อยากให้เอาภาษีเขาไปทำแบบนั้นหรอกครับ
มันไม่สอดคล้องกับตลาด (ดินพอกหางไปเรื่อยจนพังทั้งประเทศ) โดยที่ไม่มีทุจริตมันก็ขาดทุนด้วยตัวของมันเองครับ เด็ก
มัธยมปกติที่ไหนก็เข้าใจ............ยกเว้นโง่, บางครั้งก็ต้องมาดูว่านโยบายบางตัวเข้าข่ายซื้อเสียงทางอ้อมหรือเปล่า อาจจะ
ต้องทำให้เป็นเรื่องผิดกฏหมายและทำอีกไม่ได้อีกต่อไป
มาแก้ที่ราคาขั้นตำ่ที่โรงสีรับซื้อต้องไม่ต่ำกว่าราคา (ต้นทุน+กำไรส่วนหนึ่งของชาวนา) โดยกำหนดราคา (ต้นทุน+กำไรพื้นฐาน)
เป็นราคากลางที่เป็นธรรมสำหรับชาวนาแล้วห้ามนำเข้าข้าวจากประเทศอื่นโดยเด็ดขาด + ราคาขายจากโรงสี + กำไรผู้แพคถุงขาย
+ กำไรร้านขายปลีก = ราคาซื้อของผู้บริโภค แบบนี้ซื้อข้าวกินแพงขึ้นมาอีก 30-50 บาทต่อ ถุง 5 กิโลกรัมผมก็ยินดีจ่ายครับเพื่อให้
ชาวนาอยู่ได้ กลัวแต่ไอ้คนกลางเอากำไรเกินควรนั่นแหละครับ
เร่งและสอนให้ชาวนาที่ไม่เก่งผลิตด้วยเทคโนโลยี่ให้ได้คุณภาพและปริมาณให้ได้มาตรฐาน ราคาก็จะมาเอง
ถ้าทำได้ก็ไม่เห็นต้องมีวิธีพิสดารไรมาอุ้มชาวนาเลย ถ้ายังทำไม่ได้อีกคงต้องให้รัฐบาลเป็นพ่อค้าข้าวเอง 100 % คนซื้อปลายทางต้องแพงขึ้นบ้าง
แต่ไม่ต้องไปกู้เงินมาทำ ทุกคนซื้อข้าวแพงขึ้นเหมือนๆกัน ทีน้ำมันเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันไม่ว่ารวยหรือจนทุกคนยังซื้อแพงได้เลย
พอข้าวชาวนาจะซื้อราคาเดิมได้ไงมันก็ต้องเป็นธรรมต่อชาวนาด้วยแต่ต้องไม่ทำให้รัฐขาดทุนครับ
- 3x3eyes likes this
#11
Posted 7 February 2014 - 14:25
ถ้ารัฐเล่นมายากล ตะแบงจากคำว่ารับซื้อข้าวและผูกขาดข้าวเอง เป็นคำว่ารับจำนำข้าวได้(จำนำบ้านพ่องมัน ราคาสูงลิ่วใครจะไถ่ถอนวะ)รัฐน่าจะเล่นมายากล ควบคุมราคาตลาดค้าข้าวจะดีกว่า
1.ราคาข้าวสารตามกลไลตลาดโลก ตลาดภายใน
2.ราคารับซื้อข้าวเปลือกต้อง เป็นสัดส่วน ต่อราคาข้าวสาร ห้ามพ่อค้าคนกลางได้ส่วนต่างเกินเปอร์เซนต์ที่กำหนด เช่น ข้าวสาร 100 บาท ต้องรับซื้อข้าวเปลือก 70 บาท ขึ้นไปเท่านั้น (ร้อยละ 70)
3.ราคาปุ๋ยและยาฆ่ายา ก็อยู่ในสัดส่วน ด้วย ห้ามเกิน เป็นสินค้าควบคุม
ทำได้ไหมล่ะเล่นกลแบบนี้.........หรือไม่ได้.เพราะพวกนายทุนขายข้าว พวกโรงสี และ พวกค้าปุ๋ยยาฆ่าแมลง ก็คือพวกมรึงนั่นแหละ สัสเอ้ย.แล้วบอกให้ชาวนาเถอะคร้าาาาา..อีปลวก
Edited by galaxy2, 7 February 2014 - 14:28.
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users