มันคงเล่นตลกในสภาโจ๊กจนติดเป็นสัน ดราน
เลยคิดว่ากำลังเล่นตลกอยู่ม๊างเนี่ยะ ...
"เปิดผอบพบโมรา...เปิดโกดังข้าว...?"
"หมื่นห้า...ขอให้ชาวนาเขาไปเถอะค่ะ"!
แล้วไง...ยิ่งลักษณ์...?
หมื่นห้าที่ "ขอให้ชาวนาเถอะค่ะ" นั้นน่ะ วานนี้ (๑๐ ก.พ.๕๗) ชาวนาเจ้าของเงินเขาบุกมาทวงถึงสำนักงานปลัด กห.ที่ซุกหัว
แล้วไปแอบมุดอยู่ตรงไหนล่ะ ทำไมไม่ออกมาเผชิญหน้าเจ้าหนี้เหมือนตอนตะแล้ดแต๊ดแต๋ไปหลอกเอาข้าวเขาถึงกลางทุ่ง-กลางท่า
ตอแหลว่าช่วยชาวนา ด้วยโครงการรับจำนำทุกเมล็ด ตันละหมื่นห้า
ครั้นได้ข้าวมา ก็...โกงชาวนา
.........ทุกเมล็ด!
ดันหลังนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมว.พาณิชย์ นายวราเทพ รัตนากร รมต.สำนักนายกฯ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หน้าเป็นซอนทีนออกไปพบชาวนา
ก็ไม่ผิดตัวหรอก แต่ถ้าจะให้ถูกทั้งตัว-ทั้งหัว น่าให้นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ มาร่วมพบด้วยเมื่อวานนี้ เพราะเรื่องข้าว นางเป็นเลิศในธรณี
ไม่เชื่อก็ลองถามสโนไวต์ดูก็ได้!
การแก้ปัญหาไม่มีเงินจ่ายค่าข้าวชาวนา ๑.๓ แสนล้านนี้ เห็นรัฐบาลใช้วิธีหลอกล่อชาวนา จะให้โรงสีรับจำนำ "ใบประทวน" ให้คนละประมาณ ๕๐%
ก็...หลอกให้ชาวนาดมตดไปงั้น!
เป็นรัฐมนตรี แต่คิดคำลวงมาพูดได้โง่กว่าควาย โรงสีไม่ใช่สถาบันการเงินจะได้ปล่อยกู้ได้ และอีกอย่าง โรงสีมีเงินสดเป็นแสนล้าน คงต้องให้พ่อธาริตไปอายัดบัญชี ตรวจสอบที่มา-ที่ไป...ด่วน
เอาแน่ๆ ไปเอาเศษๆ เงิน ทักษิณ หญิงอ้อ ยิ่งลักษณ์ นางซาลาเปา นั่นแหละ เอามาซัก ๒ แสนล้านให้รัฐบาลยืมไปจ่ายชาวนาก่อน
แค่นั้น ขนไม่ร่วงหรอก พอได้เป็นรัฐบาลต่อ ขี้เกียจจะถอนทุนคืนได้เป็นร้อยเท่า!
ฟังที่ชาวนาไปเจรจากับรัฐบาลเมื่อวาน ผมว่านายระวี รุ่งเรือง แกนนำชาวนาตะวันตก มีความคิดเป็นเหตุ-เป็นผล เป็นผู้-เป็นคนกว่านายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้เป็น รมช.พาณิชย์ ในทุกขุม
รัฐบาลเอาข้าวชาวนาไป ให้ใบประทวนแทนเงินค่าข้าวไว้ ครั้น ๖ เดือนผ่านไป ชาวนามาทวงเงินที่รัฐบาลติดค้าง แล้วนายณัฐวุฒิบอกชาวนาว่าไง รู้มั้ย....
บอกว่า "เป็นเพราะธนาคารไม่ยอมปล่อยเงินให้รัฐบาลกู้"!
ดูสันดานมัน "โยนบาป" ให้ธนาคารแบบหน้าด้านๆ ตาเหลือกๆ ธนาคารเขาไปเกี่ยวอะไรด้วยกับการรับจำนำและการโกงค่าข้าวชาวนา
ปลิ้นปล้อนพูดให้ชาวนาไปเป็นศัตรูกับแบงก์ ผลักแบงก์เป็นคู่กรณีกับชาวนาแทนรัฐบาล แล้วหลอกใช้ชาวนาด้วยเล่ห์ว่า
"ให้ชาวนาไปขอร้องให้แบงก์ปล่อยกู้!"
ดีว่านายระวีทันเล่ห์ เลยตอกหน้าณัฐวุฒิหงาย...แล้วมันกงการอะไรที่ชาวนาจะต้องเป็นเครื่องมือรัฐบาลไปบีบแบงก์?
รัฐบาลเป็นหนี้ชาวนา (นะโว้ย)
ไม่ใช่แบงก์เป็นหนี้ชาวนา!
เคยเห็นแต่นักการเมือง นักการทูต วอล์กเอาต์ แต่เมื่อวาน มีบุญได้เห็นชาวนาไทยวอล์กเอาต์จากวงเจรจานักการเมืองพันธุ์ไพร่สถุล
บอก..."จะไปเปิดโกดัง เอาข้าวออกขายเอง"!
นายประสิทธิ์ บุญเฉย ผู้เป็นนายกสมาคมชาวนาไทยให้รัฐบาลเปิดสต็อกข้าวที่มีอยู่ประมาณ ๑๘ ล้านตัน คัดแยกข้าวเสียออก
แล้วเปิดขายให้โรงสีและผู้ค้าข้าวทั่วประเทศตามกลไกตลาด นำเงินที่ได้โอนเข้า ธ.ก.ส.นำไปจ่ายค่าจำนำข้าวกับชาวนา
ย้ำด้วยว่า วิธีนี้จะช่วยระบายสต็อกข้าวได้เร็ว แล้วยังจะได้เงินประมาณ ๑ แสนล้าน พอจ่ายค่าจำนำข้าวที่ค้างอยู่เวลานี้ได้!
ฟังแล้ว "เสียวสันหลัง" วาบ!
เปล่า...ไม่ใช่สันหลังผม แต่เป็นสันหลังยิ่งลักษณ์ สันหลังนิวัฒน์ธำรง สันหลังวราเทพ พวกเผ่าพันธุ์ไพร่เผาเมืองทั้งหลายแหล่
ขืนชาวนาไปเปิดโกดังข้าวจริงๆ.....แล้วสมมุติ พบว่าข้าวเหลืออยู่ไม่ครบตามจำนวนล่ะ...
ฉิบหายยกโคตรกันละ...ตานี้!
เอาล่ะ...ในโกดังมีข้าวครบตามจำนวนหรือไม่ และเพราะเหตุใด เงินร่วม ๘ แสนล้านซื้อข้าว แล้วมันหายไปทางไหน ไม่เหลือจ่ายค่าข้าวจนต้องชักดาบชาวนา
ผมไม่ตอบเอง จะนำที่ "นายวิชัย ศรีประเสริฐ" นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ให้สัมภาษณ์กรุงเทพธุรกิจไว้วานซืน มาเป็นคำตอบที่..."ถูกต้องแล้วคร้าบบบ"
ขอจับความตรงที่ว่า.....
รัฐบาลใช้เงินไปกับการจำนำข้าว 7.8 แสนล้าน จ่ายเงินคืนจากการขายข้าวให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) วงเงิน 1.4 แสนล้าน หมายความว่าเงินทุก 100 บาทที่รัฐบาลจ่ายไปนั้น ได้รับเงินกลับคืนมา 18 บาท
เม็ดเงินที่หายไปเกิดจาก
1.การคอร์รัปชัน
2.ไปตั้งราคาสูงกว่าตลาดเกิน 50%
ทั้ง 2 ประเด็นทำให้รัฐบาลเงินหายไปประมาณ 2 ใน 3
"ผมคำนวณดูต้นทุนการจำนำข้าว ต้นทุนต่อกิโลกรัมใกล้ๆ 30 บาทหรือ 29 บาทเศษ พ่อค้าส่งออกขายไปต่างประเทศราคาตลาดเฉลี่ย 20-21 บาทต่อกิโลกรัม แต่รัฐบาลกลับนำข้าวออกขายให้กับบริษัทนายหน้าหรือหน้าม้าของตัวเองเฉลี่ย 10-11 บาทต่อกิโลกรัม เกิดส่วนต่างที่ไปเข้ากระเป๋ากระบวนการพวกนี้กว่าแสนล้านบาท
เมื่อคิดรวมๆ ทั้งหมดจากวิธีการเช่นนี้ ตัวเลขกลมๆ ทุนกิโลกรัมละ 30 ได้เงินคืนมากิโลกรัมละ 10 บาท
ทั้งหมดแล้ว เงินที่เสียหายเฉียด 5 แสนล้าน จากเงินเกือบ 8 แสนล้านที่จ่ายไป"
2 ปีที่ผ่านมาส่งออกได้ปีละ 7 ล้านตัน แต่ปีที่ผ่านมาส่งออกได้ประมาณ 6.6 ล้านตัน ดังนั้น ข้าวที่เหลือในสต็อกอีก 20 ล้านตัน ไม่รู้ต้องใช้เวลาอีกกี่ปี หากส่งได้ปีละ 7 ล้านตัน คงต้องใช้เวลา 3 ปี ถึงจะขายหมด
"ผมว่ามันรุนแรงมาก ทำกันจนกระทั่งเงินเข้าประเทศที่จะเอามาคืนโครงการรับจำนำก็คืนไม่ได้ เอาเงินไป 7-8 แสนล้าน คืนมาได้แค่ 1.4 แสนล้านบาทช่วง 2 ปีนี้
นั่นหมายถึงทุกๆ 100 บาท เอามาคืนได้แค่ 18 บาท ถ้า Cash flow เป็นแบบนี้ มันทำต่อไม่ได้แน่นอน ชาวนาก็รอเงินค่าข้าวใบประทวนมาแล้ว แต่ไม่ได้เงิน"
ปัญหาใหญ่ของวงจรจำนำข้าว มี 2 ประเด็น
1.ตั้งราคาผิด
2.มีการคดโกง
เพราะรัฐบาลหลังจากหมอวรงค์ (นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม) ออกมาเปิดเผยในสภาฯ และนอกสภาฯ ทำให้เห็นภาพชัดเจนว่า มีหน้าม้า ขบวนการซื้อข้าวจากรัฐบาลได้ราคาถูก และถูกกว่าตลาดมาก
เป็นขบวนการที่เมื่อก่อนคิดไม่ออก จนกระทั่งหมอวรงค์มาเปิดเผยว่า เสี่ยเปี๋ยง...เป็นใคร โจ...เป็นใคร?
ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการขายข้าวแบบจีทูจี ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ของจริง เป็นของปลอม แต่อ้างให้ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลขายข้าว แต่ไม่รู้ว่าขายไปราคาเท่าไหร่? ส่วนผมรู้ว่าราคาเท่าไหร่ เพราะผมคำนวณได้อยู่ที่กิโลกรัมละ 10 บาท!
"ผมเลยจับ 2 เรื่องมาชนกัน เรื่องที่คุณหมอวรงค์นำมาเปิดเผย ว่ามันมีหน้าม้า ชื่อนั้นชื่อนี้ จีทูจี ใครตัวแทน ใครคือผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ก็โยงใยอยู่เป็นกลุ่มเดียวกัน แล้วก็มาซื้อข้าวจากรัฐบาลได้ 10 ล้านตัน
รัฐบาลขายข้าวทั้งหมดประมาณ 13 ล้านตันข้าวสาร ได้เงินคืน ธ.ก.ส ประมาณ 1.4 แสนล้านบาท เฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 11 บาท
แล้วพวกหน้าม้าเอามาขายต่อให้ผู้ส่งออกที่ต้องกราบกรานซื้อในราคา 20 บาท/กก.!
ทำภายใต้ 2 เรื่อง คือจีทูจี 10 ล้านตัน ทำข้าวถุงอีกไม่รู้เท่าไหร่ ขายกิโลกรัมละ 8 บาทกว่า บางกรณีข้าวกิโลละ 5 บาทกว่า
มันไม่มีข้าวในตลาดที่ถูกแบบนี้ จะด้วยวิธีอะไร แต่มีหน้าม้า มาซื้อได้ ราคาถูก เงินก็รั่วไหล น่าจะเป็นแสนกว่าล้าน เฉพาะที่ขายแล้ว ที่เรายังไม่รู้อีก ก็ยังคำนวณไม่ได้ "
อย่างไรก็ตาม หากนำสต็อกทั้งหมดประมาณ 26-27 ล้านตัน ถ้า 1 ตันหายไป 10 บาท เท่ากับ 2.7 แสนล้านบาท ที่หายไป
มันเรื่องใหญ่มากที่ได้กำไรง่ายๆ พวกเราก็ไม่มีข้าวจะส่งออก ต้องวิ่งไปกราบไหว้คนที่มีข้าวคือหน้าม้า
เขาตั้งราคามา อยากได้กิโลกรัมเท่าไหร่ก็ต้องเอา เลยทำให้ยอดส่งออกลดลงเกือบ 40% เพราะราคาที่เขามาบังคับให้เราซื้อ แพงเกินไป เลยเป็นปัญหา!
ครับ...ทั้งหมดนี้ เป็นข้อมูลที่คุณวิชัยให้ปากคำกับ ป.ป.ช.ที่กำลังรวบรวมหลักฐานก่อนเชือดยิ่งลักษณ์ด้วย ฉะนั้น ชาวนาต้องการเปิดโกดังเอาข้าวออกขายเองก็โปรดทำใจ
ข้าวดีของชาวนา หน้าม้าสมคบหน้าหมา ขนไปขาย สบายไอ้แม้ว ไอ้เปี๋ยง ไอ้โจ นัง ป. อี ด. เรียบไปแล้ว!.
http://www.thaipost....ws/110214/85871
ผมว่า ช่วงนี้อากาศแห้ง ลมแรง
แถมสายไฟฟ้า ตามยุ้งข่้าว โกดัง โรงสี ฯลฯ
ส่วนใหญ่ก็เก่าแล้ว ควรให้ชาวบ้าน ชาวนา
ช่วยๆกันไปสอดส่องดูแลฟืนไฟกันบ้าง ก็ดีน่ะครับ...
ยังไง เหล่าบริษัทที่รับทำประกันภัย ก็ควรร่วมด้วยช่วยกันเช่นเดียวกัน...
Edited by Suraphan07, 11 February 2014 - 13:15.