458 replies to this topic

[amplepoor]

Thank you ka Khun Am as always, for a very informative topic.

 

 

คุณวันศุกร์ หายไปนาน เอ หรือผมเอง ที่เป็นฝ่ายหายหว่า.....

กระทู้นี้ยาวเหลือเชื่อเลย มาอ่านทีหลังคงจะเหนื่อยหน่อย

 

แต่เพื่อนสมาชิกก็ช่วยกันเติมข้อมูลเสียแน่นหนา

ก็เลยยิ่งอ่านเหนื่อยเข้าไปอีก

[วันศุกร์]

haha, you were missing, not me. I'm always here, just read mostly.

 

Glad to have you back, please stick around longer this time

[amplepoor]

haha, you were missing, not me. I'm always here, just read mostly.

 

Glad to have you back, please stick around longer this time

 

หึหึ เหมือนกัลครับ ช่วงหลังผมก็หนักไปทางอ่าน

กระทู้สนุกๆ ไม่ค่อยมี ส่วนมากจะเป็นเรื่องเฉพาะกิจ

 

แต่ว่าจำนวนสมาชิกมากขึ้น ก็คึกคักไปอีกแบบ

[Toys]

http://www.siamintel...is-last-us500m/

บทความสเตรทไทมส์ : ทรัพย์ทักษิณฮวบเหลือ 500 ล้านเหรียญ




หนังสือพิมพ์เสตรทไทมส์ของสิงคโปร์ รายงานข่าวโดยอ้างอิง บทความของ The Nation ในชื่อเดียวกัน “Down to his last $500 million” ว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เหลือมูลค่าทรัพย์สินไม่เกิน 500 ล้านเหรียญ (1.75 หมื่นล้านบาท) จากที่เคยมีอยู่ราว 5,000 ล้านเหรียญ (1.75 แสนล้านบาท) หรือลดลงราว 10 เท่า ทั้งนี้เนื่องมาจากปัญหาหลอมละลายของตลาดการเงินโลก และการลดราคาลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทั่วโลก นี่ยังไม่นับรวมการที่รัฐบาลอังกฤษอายัดทรัพย์สินมูลค่า 4.2 พันล้านเหรียญ (1.47 แสนล้านบาท) ในช่วงที่มีการเพิกถอนวีซ่าของ พ.ต.ท. ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน อดีตภริยา ในช่วงเดือนพฤศจิกายนอีกด้วย

“สถานการณ์ปัจจุบันเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับทักษิณ เพราะทรัพย์สินส่วนที่ถูกอายัดนั้นอยู่ในชื่อของนอมินี ซึ่งเขาใช้บริษัทต่างแดนราว 20 – 25 บริษัทในการทำธุรกรรมทางการเงิน รวมทั้งธนาคารหลักสองธนาคารในสวิส และอีกสามธนาคารเอกชนในเจนีวา” นักการเงินที่ให้ความสนใจติดตามดีลของสโมสรแมนเชสเตอร์ซีตี้ กล่าว
ทรัพย์สินที่ใช้ในการลงทุนเหล่านี้มาจาก เงินเกินบัญชีของธนาคารสวิส ซึ่งในขณะนี้กำลังมีปัญหาข้อกฎหมายที่จะทำการเรียกเงินคืน ส่วนทรัพย์สินอื่นได้มีการลงทุนในน้ำมัน, ข้าว, และตราสารอนุพันธ์ทองคำ ตลอดจนโครงการก่อสร้างคอนโดมีเนียมในอาบูดาบี และรวมถึงการลงทุนในพอร์ตฟอลิโออื่นๆ สัญญาในน้ำมันข้าว ตราสารอนุพันธ์ทองคำ มีมูลค่ามากกว่า 450 ล้านเหรียญตามหน้าบัญชี และขณะนี้มีความเสี่ยงที่จะถูกบังคับขาย เนื่องจากขณะนี้ตลาดตกอยู่ในสภาพเลวร้าย
“ผมได้รับการบอกเล่าจากคนของ อัดนัน คาช็อกกี้ในดูไบ และอาบูดาบีว่า เงินลงทุนจำนวนมโหฬารในโครงการก่อสร้างคอนโดมีเนียมในตะวันออกกลาง ก็มีความเสี่ยงที่จะถูกลบออกไป ทั้งนี้เนื่องจากเงินลงทุนส่วนใหญ่มาจากโครงสร้างหนี้ของธนาคาร มูลค่าหนี้อาจจะมากกว่า 1.2 พันล้านเหรียญ การขาดทุนดังกล่าวอาจจะมากถึง 240 – 300 ล้านเหรียญ”
ส่วนการลงทุนพอร์ตฟอลิโอมูลค่า 550 ล้านเหรียญที่ถูกบริหารโดยสองธนาคารหลักในสวิส และสองธนาคารเอกชนในเจนีวา ก็ประสบปัญหามากด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เนื่องจากไม่มีการป้องกันความเสี่ยงอย่างเพียงพอ ทำให้มูลค่าของพอร์ตฟอลิโอลดลงอย่างมาก
“ผมเชื่อว่าทักษิณมีเงินเหลือเพียง 500 ล้านเหรียญ ดังนั้นทรัพย์สินในไทย (มูลค่า 7.6 หมื่นล้านบาท) จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดกับเขา คุณหญิงพจมานเดินทางกลับไทยโดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องทรัพย์สินแหล่งสุดท้ายนี้ของพวกเขา ทักษิณมีแนวโน้มจะกลับมาเมืองไทยเพื่อประกาศความเป็นเจ้าของเหนือทรัพย์สินดังกล่าวด้วย”
ในรายงานข่าว ยังได้ระบุด้วยว่านักธุรกิจไทยชื่อ “ไพโรจน์ พ.” เป็นบุคคลซึ่งทักษิณได้ใช้ให้ทำธรุกรรมทางการเงิน และมีการโอนผ่านทรัพย์สินเข้าไปยังอังกฤษ
ที่มา – The Nation, Straits Times

 

กัมมุนา วตตีโลโก - สัตว์โลกทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม

 

ไม่มีใครชนะกรรม และ เวลาได้

 

คนโกงย่อมทำอะไรไม่เจริญยั่งยืน แม้มีเวลาตลอดชั่วกาลนานก็เถอะ

[temp]

แหม่ กำลังขึ้นหม้อเลยครับ เห็นแชร์กันหลาย เครดิตแกดีขิงๆ

 

 

ตัวอย่างกองเชียร์

 

==========

- ม๊อบค้าง ผิดคิว ไม่ยอมปฏิวัติซะที -

คลิปการสัมภาษณ์ของ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร กับมุมมองการเมืองหลังเลือกตั้ง ที่คนไทยควรนั่งฟัง ก่อนจะถกกันว่าเห็นด้วยไม่เห็นด้วยยังไง ...

แต่ผมน่ะตั้งข้อสงสัยทำนองเดียวกับท่านมาตั้งแต่แรกๆ แล้วว่า เกมส์แย่งชิงอำนาจนี้ มันใช้แผนเดิมๆ ในการปลุกปั่นประชาชนให้เกลียดชังรัฐบาล (ใดก็ตาม) จนเกินเหตุ แล้วใช้การกระทำอะไรก็ได้ที่จะยกระดับความรุนแรงของสังคม จนทหารต้องออกมา "ช่วย" ปฏิวัติเพื่อความเรียบร้อยของสังคม หึๆๆๆ

แต่การที่ครั้งนี้ มีภาคประชาชนรู้ทัน ออกมาป่วนเกมส์กันเยอะ ออกมาหาทางต่อต้านคัดค้านอย่างสงบ ไม่ว่าจะเรื่องจุดเทียน เรื่องรณรงค์เลือกตั้ง มันน่าจะช่วยทำให้กองทัพชะงักไปเยอะที่จะออกมาทำตามคำขอให้ออกมาปฏิวัติ

อ้อ... แถมว่า ผมชอบประโยคที่อาจารย์โกร่ง ตอบนักข่าวว่า "ใครๆ เค้าก็รู้กัน เพียงแต่ไม่กล้าพูด แต่ฝรั่งมันพูดกันทั้งโลกแล้ว" .... โดนใจจริงๆ ครับ

==========

 

 

==========

"""ถ้าอาจารย์คิดว่า การออกมาของเสื้อขาว ช่วยลดความรุนแรง. ตัวนี้ไม่มีข้อพิสูจน์ได้เลยครับ
_ปาระเบิดที่พระรามสี่และอนุสาวรีย์
_หลักสี่
_เมื่อวานนี้M79
เพราะ เสื้อขาวไม่สามารถและไม่เคยกดดัน เสื้อแดงแต่อย่างไร

เสื้อขาว คือ ความตั้งใจดี และที่ยืนของกลุ่มคนไม่เลือกฝ่าย เท่านั้น
ไม่แตกต่างไปจาก ความตั้งใจพับนกกระสาเป็นกำลังใจให้เด็กหญิงที่ฮิโนชิม่า
ที่นั่นยังชัดเจนว่า เอ้อ ขอส่งกำลังใจไปช่วย
แต่ เสื้อขาวที่อาจารย์นำเสนอ ไม่นับว่ากลายเป็นเสื้อขาวลายพรางให้ฝ่ายเสื้อแดงหัวรุนแรง กลับเป็นฝ่ายออกมากดดันกลุ่มคนที่ต่อสู้กับ "รัฐบาลเลว" ไปซะฉิบ"""

 

ตามใจคุณครับ ถ้าจะคิดเช่นนั้น ผมและเพื่อนๆ ที่ทำกลุ่มขั้วที่ 3 เรารู้ว่าอะไรเป็นอะไรครับ เราคิดว่าเราตาสว่างพอที่จะมองเกมส์ทั้งหมดออก ...

==========

 

 

==========

 

ม๊อบไม่ได้ต้องการไงครับ แต่หัวหน้าม๊อบน่ะต้องการ

ถ้าคุณฟังกำนันเถลงการณ์หลาย ๆ ครั้งนี่ คือจะปฏิวัติตลอด ต้องการดึงทหารเข้ามาช่วยเสมอ ไม่ว่าจะปฏิวัติเงียบ ๆ แบบ 2549 หรือ หา trigger แรง ๆ เหมือนก่อนหน้านั้นก็ด้วย

==========

 

 

==========

แถมด้วยคลิป "รัฐบุคคล" เหล่าขิงแก่รวมตัวกันวางแผนโหด ให้คนตายเยอะๆ ดีมั้ย กองทัพจะได้ออกมายึดอำนาจอีกครั้ง https://www.youtube.com/watch?v=NXAZ3tnL40M คลิปฉบับเต็มที่ช่วยยืนยันได้ว่า อ.โกร่ง ท่านรู้จริง

==========

Edited by temp, 9 February 2014 - 10:54.

[amplepoor]

แหม่ กำลังขึ้นหม้อเลยครับ เห็นแชร์กันหลาย เครดิตแกดีขิงๆ

 

ในสัมภาษณ์นี้ โกร่งตอแหล 2 เรื่อง
1 ปชป. ร่วมมือกับทหารล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และ
2 คนกรุงเทพถูกหลอกง่าย

ประเด็นแรกก่อน ว่าตามโคทในรูปเลยนะครับ ที่อ้างสมัยรัฐบาลชาติชาย
น้าชาติโดนล้มเพราะสุจินดา อันนี้ไม่ต้องมาเถียง ถามว่าสุจินดาร่วมมือกับปชป.หรือเปล่า ก็ดูง่ายๆ เลย คือดูจากครม. ที่เกิดตามมา

สุจินดาปฎิวัติแล้วไม่กล้าเป็นนายก ต้องไปหาพลเรือนมาเป็นแทน พลเรือนคนนั้นชื่ออานันท์
อานันท์ก็ต้องเอาพรรคพวกมาร่วมงาน พรรคพวกนี้ก็มาจากสองแหล่ง คือจากวงในของอานันท์ กับจากวงในของทหาร เรามาดูว่าในนั้นมีปชป. หรือเปล่า....ดูไปดูมา อ้าว นี่ใครน่ะ
รัฐมนตรีช่วยคลัง(อย่าผวนนะ) นายวีรพงษ์ รามางกูร
ดำรงตำแหน่ง 6 มีนาคม พ.ศ. 2534 - 22 มีนาคม พ.ศ. 2535

เอ....ถ้ามีนายคนนี้ จะมีปชป. หรือเปล่า คงจะตอบได้ทันทีนะครับ ว่ายากสสสส์
สรุปก็คือ นายเชี่ยรัยเนี่ยะ เป็นรัฐมนตรีจากมดลูกทหาร....ชัดใหมครับ

ส่วนรมต. อื่นๆ มีอยู่คน ชื่ออรรถสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องมีคนร้องว่า นี่งัยพ่อนายมาร์ค
ก็ต้องบอกนายคนนั้นต่อว่า วันนั้น นายมาร์คอายุ 27 ยังไม่ได้เล่นการเมือง ยังสอนหนังสืออยู่ที่ธรรมศาสตร์ และเคยออกความเห็นคัดค้านที่พ่อไปรับใช้รัฐบาลมดลูกทหาร

แล้วก็ต้องบอกต่อไปด้วยว่า ตอนที่สุจินดากลับคำ ยอมเป็นนายกในรัฐบาลหลังการเลือกตั้งใหญ่ 2535 จนเกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬน่ะ ฝ่ายประท้วง ซึ่งแปลว่าไม่เอารัฐบาลมดลูกทหาร ไม่ได้นำโดยวีระพงษ์นะครับ นำโดยนักการเมืองจากพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกับพรรคความหวังใหม่และพรรคพลังธรรม

ส่วนมวลชนนั้น ส่วนใหญ่เป็นคนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะพวกทำงานบริษัท ทำให้เกิดปรากฏการณ์ชุมนุมหลังเลิกงาน และ "ม็อบมือถือ" เป็นครั้งแรก การประท้วงนี้ ทำให้เกิดรัฐธรรมนูญฉบับโกร่งได้ดี 2540 ในที่สุด

อันนี้ก็ตอบประเด็นที่สองเรื่องคนกรุงเทพถูกหลอกง่ายได้แล้วกระมัง

เรื่องชัดเจนขนาดนี้ โกร่งยังกล้าตอแหล

แล้วเรื่องลึกกว่านี้ จะมีความจริงอยู่ในนั้นบ้างหรือเปล่า

[amplepoor]

ตอบได้ทันทีว่า เปล่า

รัฐบาลน้าชาติ มีการประท้วงอย่างเป็นขบวนการเพื่อเรียกแขก คือเรียกทหารมาปฎิวัติจริงครับ ก็ขนาดสุจินดาออกมาบอกว่า รอไปรษณีย์บัตร 1 ล้านฉบับงัย (เป็นใบอนุญาตให้ยึดอำนาจ) คงจะจำกันได้
ใครประท้วงล่ะ น้าชาติแกมาจากการเลือกตั้งนะครับ.....ฮา

การประท้วงก่อหวอดที่รามคำแหง ด้วยข้อหาว่ารัฐบาลนี้คอรัปชั่นมโหฬาร ลุกลามถึงขนาดที่มีคนเผาตัวตาย เป็นนักศึกษาชื่อ ธนาวุฒิ คลิ้งเชื้อ
ก็ต้องไปถามวีระ เผ่าพันธถ์หนู กับคางคกจตุพรว่า รู้จักกับธนาวุฒิหรือเปล่า.....คนนึงเป็นที่ปรึกษาเด็กราม อีกคนเป็นเด็กรามที่ออกมาประท้วง

อ้าว ตกลงวีระกับจตุพรนี่ ออกมาไล่รัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้งหรือฟะเนี่ย
และก็ประท้วงเพื่อเปิดทางให้รถถังอีกต่างหาก


ปล
หลังธนาวุฒิตาย น้าชาติใช้เงิน 1 ล้านตั้งมูลนิธินายธนาวุฒิ คลิ้งเชื้อ เลขทะเบียน 4903
http://115.31.184.19...dationId=801885
 

[amplepoor]

เรื่องเด็กรามนี่ ยังจบง่ายๆ ไม่ได้ เพราะมีโกร่งอยู่ในนั้นอย่างลับๆ

 

ปลายเดือนเมษา 2530 มีการประชุมกันครั้งใหญ่ที่โรงแรมเอเชีย ตั้งชื่อว่า "สภาปฏิวัติแห่งชาติ" แต่หนังสือพิมพ์ชอบใช้ว่าสภาโจ๊กมากกว่า การประชุมนี้ มีผู้นำชื่อ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร

 

คนเดี๋ยวนี้อาจจะไม่รู้จัก แต่คนรุ่นนั้นรู้ดีว่าประเสริฐเคยเป็นระดับนำของพรรคคอมมิวนิสต์ แล้วแยกตัวออกมาตั้งสำนักเองมีลูกศิษย์มากมาย หนึ่งในนั้นชื่อชวลิต อึ่งอ่างขี้ลืมคนนั้นงัย

 

จากชวลิต เราก็โยงเส้นสายความสัมพันธ์ได้ละ

วีระ ไข่มุกดำ

โกร่ง จอมผลาญชาติ

จตุพร คางคกระยำ....พวกนี้ล้วนแต่เชื่อมโยงกันดี

 

น้อนกลับไปสภาโจ๊ก

หลังจากเปิดตัวแป้ก จู่ๆ วันที่ 31 พฤษภาคม 2532 ประเสริฐก็ประกาศคำสั่งสภาปฏิวัติแห่งชาติที่ 1/2532 เรื่องการโอนอำนาจจากรัฐสภามาสู่สภาปฏิวัติแห่งชาติและแถลงการณ์สภาปฏิวัติแห่งชาติ

 

เพื่อให้มันกลายเป็นตลกระดับชาติ

แต่นักศึกษารามกลุ่มหนึ่ง ไม่ตลกด้วยอะดิ พวกนี้เข้าร่วมเป็นสาวกจานเสิรฐ ...ซึ่งแน่นอน อึ่งอ่่างจิ๋วเป็นสปอนเซอร์ แล้วก็เริ่มการประท้วงรัฐบาลน้าชาติจนกลายเป็นโศกนาฎกรรมเผาตัวเอง

 

เด็กรามกลุ่มนั้น มีอยู่คนชื่อ ไชยยงค์ รัตนวัน ต่อมาเป็นผู้สมัครสส. พรรคความหวังใหม่ และผู้เขียนหนังสือ แนวทางประเทศไทย ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีการต่อสู้เอาชนะภัยความมั่นคงของชาติ"..ซึ่งจิ๋วอ้างถึงตอนที่ออกมาเสนอทฤษฎี ล้มปืน-ทุน-เจ้า

 

เห็นใหมครับว่าตัวละครเลวๆ มักจะอยู่ก๊วนเดียวกันเสมอ

[amplepoor]

ข้อมูลพวกนี้ มีให้อ่านง่ายๆ เหมือนกัน

 

     สำหรับปูมหลังของ ไชยยงค์ นั้น เคยเป็นคนในกลุ่มสภาปฏิวัติภายใต้แนวคิดของ ประเสริฐ ทรัพย์สุนทร ร่วมกับ นายธนาวุฒิ คลิ้งเชื้อ, นายเชื้อ แซ่ฮั่น (ฮั่นจินดา) นายสมเกียรติ ลิ้มประสิทธิวงศ์ (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล และเป็นแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 ที่ออกปฏิบัติการต้านรัฐประหาร คมช.)

     อีกทั้ง ไชยยงค์เคยเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส. ศรีสระเกษ เขต1 พรรคความหวังใหม่  โดยอาชีพส่วนตัวของ นาย ไชยยงค์ นั้นเดิมทีเป็นหัวหน้าสำนักงานกฎหมายประสิทธิภาพประเทืองธรรม เคยเข้าแจ้งความกล่าวหา ร.ศ. ใจ อึ้งภากรณ์ กับ พ.ต.ท. สมปอง สำราญใจ รอง ผกก. สส. สน. ดุสิต ในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2549

     ไชยยงค์  กลับเป็นข่าวอีกครั้งเมื่อ พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ ออกมาพูดถึงขบวนการล้มปืน-ทุน-เจ้า เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2551 โดยกล่าวว่า มีขบวนการบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติที่เรียกว่า "ขบวน การสาธารณรัฐ" ซึ่งมีความมุ่งหมายดำเนินการโดยยุทธวิธีแนวร่วมเพื่อล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า

     พร้อมกันนั้นก็ได้แนะนำหนังสือ "แนวทางประเทศไทย ยุทธศาสตร์ ยุทธวิถี การต่อสู้เอาชนะภัยความมั่นคงของชาติ" เขียนและเรียบเรียงโดยนายไชยยงค์ รัตนวัน เนื้อหาเล่าถึงระบบการปกครองของไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงข้อมูลที่เคยออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับกลุ่มที่จะล้มระบบทุน ปืน และเจ้า อีกด้วย

 

http://webcache.goog...lient=firefox-a

 

นี่อีกข่าว

http://webcache.goog...lient=firefox-a

เช้าวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2553 (ขออำไพ เพิ่งเห็นว่าพ.ศ. ผิด ที่ถูกคือ 2532)กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแห่งราว 10 คน ในนาม “ศูนย์เฉพาะกิจนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย” ได้สร้างเวทีขนาดเล็กบริเวณประตูทางเข้ามหาวิทยาลัย ผลัดเปลี่ยนกันกล่าวปราศรัยโจมตี-เรียกร้องให้ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาของชาติได้ ประชาชนยังยากจน การปกครองล้มเหลว มีการมุ่งประโยชน์ให้กับคนกลุ่มหนึ่งที่เป็นพ่อค้า นักธุรกิจต่างชาติ ไม่ใช่ประโยชน์ส่วนรวม

ถ้าไม่ได้ผลตามข้อเรียกร้อง จะใช้วิธีอหิงสาเผาตัวประท้วงเพื่อแสดงให้เห็นเจตนาของนักศึกษาทั่วประเทศ

แกนนำที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นเวทีกล่าวโจมตีรัฐบาลในขณะนั้น ประกอบด้วย นายสุนทร คงชู หัวหน้าศูนย์เฉพาะกิจกอบกู้ศักดิ์ศรีนักศึกษารามคำแหง นายเอกสิทธิ์ อารีลาภรักษา และนายธนาวุฒิ คลิ้งเชื้อ

 

สรุปให้สั้นก็คือ

พวกของโกร่งต่างหาก ที่พยายามลัมรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แล้วเปิดทางให้ทหารยึดอำนาจ

 

ชัดใหม

 

 

แก้พ.ศ.ที่ผิด

อ้างอิง

Edited by amplepoor, 9 February 2014 - 16:21.