ถ้าผมเป็นชาวนา........ผมจะฟ้อง
1 พรรคเพื่อไทย เจ้าของนโยบาย
2 ยิ่งลัก หัวหน้ารัฐบาล ที่ใช้นโยบายนี้
3 รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ที่ปฎิบัติตามนโยบาย
ตอบ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 10:54
ตามลำดับครับ
1. ก็คือฟ้องรัฐบาล ในฐานนะผู้ที่กำหนดนโยบาย
2. คณะกรรมการนโยบายข้าวครับ << ก็ทั้ง นายก ทั้ง รมต ต่างๆที่เกี่ยวข้อง
ตอบ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 11:17
ฟ้องรัฐ แล้วไล่เบี้ยจาก พรรคเพื่อควาย นางยก และรอมอตวย ตามลำดับครับ
ตอบ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 11:22
ผมว่าคนที่เกี่ยวข้องกับนโยบายนี้ควรฟ้องทั้งหมด
ทั้งตัวต้นคิด ทั้งคนที่นำมาปฏิบัติ
อาจจะต้องไล่จากหัวปูว์ลงมาขาปูว์
แต่ใจจริงอยากให้ให้สาวถึงไอ้ตัวที่ชักใยอยู่รอบๆ
ทั้งไอ้แม้ว เจ๊ดอ
งานนี้น่าจะล้างให้หมด
ตอบ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 11:34
เงินโกงที่พวกมันโอนไปเก็บไว้ต่างประเทศสามารถตามยึดคืนได้มั้ย
ส่วนใหญ่พวกเนี้ย มันจะไม่เอาไปไว้ในที่ๆ มีสนธิสัญญากับไทย ฮ่ะ
มันจะเอาไปไว้ที่ ไม่มีข้อตกลงร่วมกัน ทำให้ ตามอายัติ ยาก
แต่ประเด็นคือ มัน ทำยังไงถึงเอาออกนอกประเทศไทย เนี้ยคือวิธีการที่จะตัดปัญหาจากต้นตอ
ตอบ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 11:37
ใครรับจำนำข้าว ผมก็ฟ้องคนนั้นแหละ เพราะมันเอาข้าวเราไป(ตามหลักฐาน)
ตอบ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 12:27
ตามลำดับครับ
1. ก็คือฟ้องรัฐบาล ในฐานนะผู้ที่กำหนดนโยบาย
2. คณะกรรมการนโยบายข้าวครับ << ก็ทั้ง นายก ทั้ง รมต ต่างๆที่เกี่ยวข้อง
มิได้ครับ
นี่เป็นนโยบาย ซึ่งไม่ใช่ความรับผิดชอบของรัฐ
พรรคการเมืองเจ้าของนโยบายต่างหาก
ที่ต้องรับผิดชอบ
เมื่อนโยบายสร้างความเสียหาย พรรคการเมืองต้องชดใช้
ตอบ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 12:30
เงินโกงที่พวกมันโอนไปเก็บไว้ต่างประเทศสามารถตามยึดคืนได้มั้ย
รายการนี้ มีสองสเต็ป
สเต็ปแรก เป็นนโยบายที่สร้างความเสียหาย พรรคการเมืองต้องชดใช้
สเต็ปต่อมา ถ้ามีการโกง ผู้รับผิดชอบนโยบาย ต้องชดใช้ด้วย
แล้วแถมท้าย สาวได้ว่าใครโกง ก็ฟันหมด
งานนี้พระเจ้าประทานโอกาสแล้ว
ถ้าปชป. ยังซื่อบื้อเหมือนเดิม ก็ตัวใครตัวมัน
ตอบ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 14:35
ตามลำดับครับ
1. ก็คือฟ้องรัฐบาล ในฐานนะผู้ที่กำหนดนโยบาย
2. คณะกรรมการนโยบายข้าวครับ << ก็ทั้ง นายก ทั้ง รมต ต่างๆที่เกี่ยวข้อง
มิได้ครับ
นี่เป็นนโยบาย ซึ่งไม่ใช่ความรับผิดชอบของรัฐ
พรรคการเมืองเจ้าของนโยบายต่างหาก
ที่ต้องรับผิดชอบ
เมื่อนโยบายสร้างความเสียหาย พรรคการเมืองต้องชดใช้
ถ้าเป็นเพราะนโยบาย เนี้ย เอาเรื่องพรรค ได้หรอ นโยบายในการหาเสียง
หากเมื่อ ได้รับตำแหน่งแล้วเข้ามาปฎิบัติหน้าที่ ก็คือ "รัฐบาล"
เหมือนกับคดี ที่ DSI เล่นสุเทพ กับ อภิสิทธิ์ นั้นล่ะ
สั่งฆ่า โดยเล่งเห็นผล แต่ดันดำเนินคดี เป็น บุคคล
เงื่อนไขมันก็คือ
ถ้าเป็นบุคคล -> ไม่มีอำนาจสั่งการ -> ไม่สมเหตุสมผล ว่าจะสั่งได้
ถ้าเป็นตำแหน่ง นายก + ผอ ศอฉ -> มีอำนาจตามกฏหมาย -> มีกฏหมายคุ้มครอง -> สั่งการได้
เหมือนกันถ้าเป็น เรื่องจำนำข้าว
ถ้าเป็นพรรคการเมือง -> ไม่มีอำนาจ -> ไม่สามารถเบิกงบประมาณ
ถ้าเป็นตำแหน่ง -> มีอำนาจ -> สั่งการได้ เบิกงบประมาณได้
ตอบ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 14:45
ผู้ปฏิบัติคือพนักงาน เจ้าหน้าที่ของรัฐ มันก็รัฐรับไปเต็มๆแหละ แล้วถ้ารัฐจะไปฟ้องใครอีกทอดก็ว่ากันไป เช่นพวกโรงสี โรงสีโยนให้นักการเมือง(บุคคล)
เหมือนลูกจ้างบริษัทถูกฟ้องอ่ะ ...ผมคิดว่านะ ก็ไม่รู้เรื่องกฎหมายหรอก
ตอบ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 14:47
ตอบ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 16:05
คงเป็นคดีประวัติศาสตร์ละคับ สำหรับการดำเนินคดีทุจริตเชิงนโยบาย ในความคิดส่วนตัวผมว่า คงต้องฟ้องทั้งหมดละคับเพื่อให้ศาลวินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐานว่าคดีดังกล่าวต้องฟ้องใครเป็นจำเลย แต่ทั้งนี้ คำฟ้องต้องรัดกุมมากๆ อะคับต้องระบุเหตุทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยคนนั้นๆได้กระทำผิดในส่วนนี้ ส่วนจำเลยอีกส่วนหนึ่งได้กระทำความผิดต่อเนื่องอีกส่วนหนึ่ง เป็นกระบวนการร่วมกันกระทำ รึแยกกันกระทำ ดังนั้นหลักฐานต้องแน่นมากๆอะคับ ในส่วนนี้หากได้ข้าราชการน้ำดีที่เกี่ยวข้องมาช่วยในการแสวงหาหลักฐานจะช่วยได้มากอะคับ
ประเด็นอยู่ตรงตัวแดงนี่ละครับ
ที่จริงมีคดีที่พอจะเทียบเคียงใด้ก็คือ กรณีเริงชัยสู้ค่าเงินบาท
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ชดใช้ ศาลอุธรณ์ให้ยกฟ้อง ตอนนี้รอฎีกา
นี่คือตัวอย่างของการฟ้องข้าราชการในฐานะบุคคล รับผิดชอบต่อผลงานตนเอง
แต่กรณีที่เป็นนักการเมือง พฤติกรรมผิดออกไป
อยู่ที่จะหาช่องฟ้องได้หรือเปล่า
ตอบ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 17:09
หาช่องที่จะฟ้องนั้น (ตอนนี้ผมมึนๆง่วงๆถ้าตอบไรผิดพลาดไปขออภัยใน ณ ที่นี้ด้วยนะคับ อยู่ลุ้นลิเวอพูลซะตาค้างเร้ยคับ)ประเด็นอยู่ตรงตัวแดงนี่ละครับ
คงเป็นคดีประวัติศาสตร์ละคับ สำหรับการดำเนินคดีทุจริตเชิงนโยบาย ในความคิดส่วนตัวผมว่า คงต้องฟ้องทั้งหมดละคับเพื่อให้ศาลวินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐานว่าคดีดังกล่าวต้องฟ้องใครเป็นจำเลย แต่ทั้งนี้ คำฟ้องต้องรัดกุมมากๆ อะคับต้องระบุเหตุทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยคนนั้นๆได้กระทำผิดในส่วนนี้ ส่วนจำเลยอีกส่วนหนึ่งได้กระทำความผิดต่อเนื่องอีกส่วนหนึ่ง เป็นกระบวนการร่วมกันกระทำ รึแยกกันกระทำ ดังนั้นหลักฐานต้องแน่นมากๆอะคับ ในส่วนนี้หากได้ข้าราชการน้ำดีที่เกี่ยวข้องมาช่วยในการแสวงหาหลักฐานจะช่วยได้มากอะคับ
ที่จริงมีคดีที่พอจะเทียบเคียงใด้ก็คือ กรณีเริงชัยสู้ค่าเงินบาท
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ชดใช้ ศาลอุธรณ์ให้ยกฟ้อง ตอนนี้รอฎีกา
นี่คือตัวอย่างของการฟ้องข้าราชการในฐานะบุคคล รับผิดชอบต่อผลงานตนเอง
แต่กรณีที่เป็นนักการเมือง พฤติกรรมผิดออกไป
อยู่ที่จะหาช่องฟ้องได้หรือเปล่า
Edited by jayjj, 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 - 17:12.
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน