'ดีล(ไม่)ลับ'เหตุใดต้องเป็น'วิษณุ เครืองาม'
โดย : หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ
ไขปริศนา "ดีล(ไม่)ลับ" เหตุใดต้องเป็น "วิษณุ เครืองาม"
ใน ขณะที่แกนนำทุกขั้ว-ทุกข้างพูดถึง “การเจรจา” เพื่อนำพาประเทศออกจากวิกฤต หลังสถานการณ์การเมืองเข้าสู่ภาวะต่างฝ่ายต่างยืนและยันกันอยู่ ระหว่างคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตย ที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) ภายใต้การนำของ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” กับรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” รักษาการนายกรัฐมนตรี
เริ่มมีการปล่อยชื่อ “คนใน-คนนอก-คนกลาง” แม้กระทั่ง “คนที่เคยลอยตัวเหนือความขัดแย้ง” ออกมาตามหน้าสื่อ ว่าพวกเขาพยายามจัดวง “เจรจาลับ” เพื่อหาทางสงบศึกระหว่าง “กปปส.-รัฐบาล”
ล่าสุดเป็นคิวของ “ วิษณุ เครืองาม” อดีตรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล “พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร” ซึ่ง “บรรหาร ศิลปอาชา” ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นผู้ส่งชื่อเข้าประกวดผ่านสื่อ ด้วยคุณสมบัติ “ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง-เข้าได้กับทุกขั้ว” หลังก่อนหน้านี้ “วิษณุ” ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อวันเสาร์ที่ 8 ก.พ. ว่าเป็นห่วงสถานการณ์บ้านเมือง พร้อมระบุว่า “ปัจจุบันนี้มีกระบวนการที่ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายคือรัฐบาลและกปปส. เจรจากัน ซึ่งผมก็อยู่ในกระบวนนั้น ไม่ว่าจะเป็นเวทีไหน ผมก็จะไป”
ว่ากันว่า “วิษณุ” ได้รับเทียบเชิญให้ร่วมวงเจรจาลับกับ “บุคคลระดับสูง” มาแล้วหลายหนแบบต่างกรรมต่างวาระ เคยพบปะตัวแทน 3 ฝ่าย ประกอบด้วย “ชนชั้นนำ-แกนนำพรรคเพื่อไทย-ผู้ใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ที่คุยกับ “สุเทพ” ได้
“แกนนำพรรคเพื่อไทยติดต่อให้อาจารย์ วิษณุรับเป็นคนกลางประสานงานกับ 2 ฝ่ายจริง เนื่องจากประเทศชาติเสียหายมากแล้ว ไม่เฉพาะวิกฤตการเมือง แต่จะลามไปสร้างวิกฤตทางเศรษฐกิจในเวลาไม่เกิน 3-4 เดือนหลังจากนี้ จึงอยากให้อาจารย์วิษณุมาช่วยเป็นตัวกลาง” แหล่งข่าวกล่าว
ก่อนขยายความต่อว่า “วิษณุ” เป็นผู้มีคุณสมบัติโดดเด่น 4 ประการคือ 1. มีศิลปะในการเจรจา 2. เป็นที่ไว้วางใจของกลุ่มชนชั้นนำ 3. มีความสัมพันธ์อันดีกับทั้งผู้นำทางการเมืองและนักธุรกิจขาใหญ่ เนื่องจากเคยทำหน้าที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ 7 นายกรัฐมนตรี 10 รัฐบาล (ตั้งแต่สมัย “ชวน หลีกภัย” ถึง “พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร”) และ 4. เป็นนักกฎหมายระดับ “พญาครุฑ” คือเป็น “เนติบริกรแบบสุดยอด” สามารถบอกได้ว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้ ซึ่งกรณีที่ทำไม่ได้ ถ้าจะทำให้ได้ต้องทำอย่างไร
“วันนี้ปัญหาใหญ่คือการตีความทางกฎหมาย ไม่ตรงกัน จำเป็นต้องได้คนหลักแข็งมาช่วยอธิบายและโน้มน้าว ซึ่งอาจารย์วิษณุเองก็อยู่ในคณะกรรมการกฤษฎีกาชุดใหญ่ที่มี “มีชัย ฤชุพันธุ์” อดีตประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นประธาน ซึ่งสามารถให้คำแนะนำรัฐบาลได้ และเป็นคำแนะนำที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของรัฐบาลด้วย” แหล่งข่าวกล่าว
ในช่วงต้น “เนติบริกร” แอ่นอกรับบริการ-ยินดีปฏิบัติภารกิจช่วยชาติ แต่ต่อมาเมื่อ “ชื่อผู้ร่วมวงเจรจาลับ” ที่ควรอยู่ในที่ลับ กลับถูกแพร่งพรายออกสู่ที่แจ้ง ทำให้หลายฝ่ายร่วมถึง “วิษณุ” เองคิดว่ายากจะไปต่อ
และกลายเป็นเหตุผลที่ทำให้ชื่อ “วิษณุ” ถูกแขวนเอาไว้ชั่วคราว!
อย่างไรก็ตาม “บรรหาร” ได้เอาชื่อของ “วิษณุ” มายัดใส่มือสื่อหลัง “ดีลนี้ถูกเว้นวรรค” ซึ่งผู้สันทัดกรณีตีเจตนาของ “มังกรการเมือง” ว่ามีความเป็นไปได้ 2 ส่วนคือ 1. อาจต้องการช่วยรัฐบาลทดสอบกระแสสังคมว่ายังยี้ชื่อ “เนติบริกร” อยู่หรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดกระแสต้าน หาก “วิษณุ” ต้องรับทำงานงานใหญ่ หรือ 2. อาจต้องการเพิ่มมูลค่าให้พรรค-พวกตัวเอง ส่งสัญญาณให้พรรคแกนนำเห็นหัวพรรคนร่วมรัฐบาลบ้าง จึงออกมาบอกใบ้ว่า “ข้ารู้อินไซด์” เรื่องนี้นะ
ถึงวันนี้ “หัวขบวนพรรคเพื่อไทย” ยังไม่ลด-ละ-เลิกความพยายามเปิดดีลกับ “หัวหน้าม็อบ” แต่การกลับมาครั้งใหม่จำเป็นต้องเปลี่ยน “หัวหน้าคณะเจรจา” จากเดิมมีชื่อคนสนิท “พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร” นาม “วัฒนา เมืองสุข” รับบท “มือดีล”ในช่วงแรกๆ ที่กปปส. เปิดปฏิบัติการ “ปิดเมืองหลวง” นับจากวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยฝ่ายเพื่อไทยพยายามทำทุกทางให้พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กลับมาลงสมัครรับเลือกตั้ง แม้กระทั่งรับพิจารณาข้อเสนอเลื่อนวันเลือกตั้งจากวันที่ 2 ก.พ. แต่ถูก “ศัตรูในพรรค” เตะสกัดเอง และกระหน่ำซ้ำด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ไม่ยอมออกแรงกล่อมปชป. จน “ดีลล่ม” ไปในที่สุด
อย่างไรก็ตามมรดกชิ้นสำคัญที่ได้จาก “ดีลแรก” ว่ากันว่ามี 2 ส่วน
หนึ่งคือ ตัวแทนที่จะเปิดอกคุยกับ “สุเทพ” ได้แบบไม่ถูกตราหน้าว่าเป็น “พวกโลกสวย” นั่นคือ “นิพนธ์ พร้อมพันธุ์” อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ซึ่งมีศักดิ์เป็น “พี่เขย” ของ “ลุงกำนัน” ด้วย
สองคือ วงปฏิรูปประเทศไทย ซึ่งทุกฝ่ายเห็นดีเห็นงามกับ “เครือข่ายเดินหน้าปฏิรูป” ของ “กิตติพงษ์ กิตยารักษ์” ปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งมีการเปิดตัวต่อสาธารณะ และประชุมอย่างเป็นทางการไป 2 รอบ หลังมีการประชุมลับมาหลายหน
"แม้ว่ารัฐบาลกับกปปส. จะแสดงจุดยืนต่างกันสุดขั้ว แต่จุดร่วมที่ตรงกันคือการปฏิรูป นี่เป็นประเด็นที่จะดึงทั้ง 2 ฝ่ายกลับมาขึ้นโต๊ะเจรจากันได้" แหล่งข่าวกล่าว
นั่นหมายความว่าหาก “ดีลใหม่” กับ “ตัวกลางใหม่” บรรลุ ทั้งรัฐบาล-กปปส. มีโอกาสปรากฏตัวในวงนี้!!!
http://www.bangkokbi...ุ-เครืองาม.html
ผมเริ่มเป็นห่วงกำนันสุเทพและ กปปส.....
หากให้ 'ปลาไหล-บรรหาร' ''เนติบริกร' 'วัฒนา' 'กิตติพงษ์' เกี่ยวข้อง เป็น 'คนกลาง'' เจรจา.....!
ความตั้งใจ หยาดเหงื่อ แรงกาย กำลังทรัพย์เพื่อปฏิรูปการเมือง จะสูญเปล่าอีกครั้งหนึ่ง......!
ใครก็ตามที่มีส่วน'จัดการ'ให้คนพวกนี้มีส่วนร่วม เป็นคนกลางเจรจา....
ผมถือว่าพวกเขาเป็นคนเลวทราม ต่ำช้า ทำลายประเทศไทยอีกครั้้ง....!
พวกเขาอาจจะเป็น "ผู้ใหญ่" "คนระดับสูง" "คนดัง" แค่ไหนก็ตาม....!
ผมว่าพวกเขา แค่คนที่ไม่รู้จักแยกแยะคนดีและคนเลวออกจากกัน เพียงเห็นแก่ได้ เห็นแก่พวกเขาจะได้ประโยชน์ หน้าตา สำหรับพวกเขาเท่านั้น.....
มวลมหาประชาชน กปปส. คนไทยที่อยากให้ปฏิรูปการเมืองไทย ปฏิรูปสังคมไทย จะเป็นอะไร เสียชีวิต บาดเจ็บไปเท่าใด ก็ไม่สนใจ.....
พวกเขาเห็นแก่ตัว อำมหิต โหด ไม่ด้อยกว่าทักษิณ ยิ่งลักษณ์ และ ขี้ข้าฯที่มีอำนาจทางการเมืองในขณะนี้.....อ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
Edited by ปุถุชน, 14 February 2014 - 13:44.