๑ เฉลิม-อดุลย์-วรพงษ์-ธาริต-คำรณวิทย์ หายเงียบหลัีงจัดรายการคืนความสุขแก่ประชาชนแล้วทำให้คนตาย ๕ คน เจ็บ ๖๐ คน ลือว่อนว่าเตรียมเผ่นบ้าง ถูกสะกดบ้าง แตกกันเละบ้าง ไม่นานคงโผล่หรือเผ่น คอยติดตามครับ เอาเป็นว่ามอบศพ ๖ ศพและคนเจ็บ ๖๐ คนแล้ว จะนับศพประชาชนกันอีกนานรท่าใด
๒ การแอบอ้างทวงคืนสถานที่ว่าเพื่อเอาจัดงานกาชาดก็ดี เพื่อเปิดเส้นทางเสด็จก็ดี ถูกปฏิเสธจากผู้เกี่ยวข้องว่าไม่เป็นความจริงและมีคนจี้ให้รับผิดชอบ และถูกสังคมตราหน้าว่าบังอาจและจอมลวงโลก
๓ มีข่าวสะพัดว่าตำรวจหน่วยควบคุมฝูงชนโวย ศรส ว่าไม่รับผิดชอบ ทอดทิ้งเหมือนหมูเหมือนหมา และหลายพื้นที่เดินทางกลับเพราะรู้แล้วว่าขืนค้ำบัลลังค์นักการเมืองมีแต่ เดือดร้อนหรือตาย ที่สำคัญได้มาเห็นสภาพผู้ชุมนุมล้วนแต่เป็นคนดี สวดมนต์ให้ฟังตลอด
๔ พล ตต วิชัย สังข์ประไพ อดีตรอง ผบ.ชน และเพื่อนพ้องน้องพี่ตำรวจทนเห็นตำรวจถูกหลอกให้เกลียดประชาชน และประชาชนเกลียดตำรวจต่อไปไม่ไหว เตรียมยกคณะตำรวจขึ้นเวทีประกาศเป็น กปปส ตำรวจ เพื่อประสานใจ ประสานความรักสามัคคีระหว่างตำรวจกับประชาชนเพื่อความสงบสุขเร็ววันนี้ ติดตามดูจังหวะก้าวนี้ให้ดี
"ตำรวจ"ควบคุมฝูงชน"เดือด"ออกแถลงการณ์"ตำหนิศรส."เอาตัวรอด"ส่ง"ผู้ปฏิบัติชั้นผู้น้อย"เผชิญความตาย" ขออาวุธครบมือ-เลิ http://bit.ly/1gfVNhP
"ตำรวจ"ควบคุมฝูงชน"เดือด"ออกแถลงการณ์"ตำหนิศรส."เอาตัว รอด"ส่ง"ผู้ปฏิบัติชั้นผู้น้อย"เผชิญความตาย" ขออาวุธครบมือ-เลิกเจรจา บอกเหนื่อยมามาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากปรากฎภาพ"ตำรวจเตะ ระเบิด"แพร่หลายในโซเชียลมีเดียประชาชนต่างเข้ามากดไลค์แสดงความชื่นชมและ ยกย่อง ส.ต.อ.อดุลย์ เกตุกัปตัน อายุ 28 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ป. สังกัดสภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ที่ทำหน้าที่ขอคืนพื้นที่จุด ปฏิบัติสะพานผ่านฟ้าเป็น"วีรบุรุษผู้กล้า"และขนานนามว่า"วีรบุรุษ SIDE-KICK"ตัดสินใจลุกขึ้นจากแนวโล่กำบังออกมาเตะ"ลูกระเบิด"ปริศนาที่ลอย มากระทบโล่ตำรวจตกลงที่พื้นด้านหน้าเพื่อนตำรวจด้วยกันนับสิบนาย
ล่าสุดพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจตึก มงคลกาญจนาชั้น 14 ห้อง 1414อาการบาดเจ็บของส.ต.อ.อดุลย์ ยังสาหัสถูกสะเก็ดระเบิดมีแผลขนาดใหญ่ที่ขาซ้ายและขาขวาแพทย์ระบุ กระดูกขาซ้ายหักแบบเปิด การรักษาจะต้องเอกซเรย์ เจาะเลือดและให้น้ำเกลือโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกจะเตรียมการผ่าตัดใน บ่ายวันนี้ ขณะเดียวกันเพื่อนข้าราชการตำรวจต่างตบเท้าเข้าเยี่ยมและโพสต์ข้อความแสดงความยินดีที่ขาไม่ขาดพร้อมตัดพ้อนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่ไม่มีการวางแผนรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ปฏิบัติ โดบยมีการไลน์และเปสบุ๊คส์ต่อๆกันว่า
"ขอ ให้หายไวๆนะผู้กล้าหาญจากพัทยา ฝากถามนาย กล้าพอหรือยัง ที่จะยุติ หรือจะต้องสูญเสียอีกกี่ชีวิต มีการแจ้งวิทยุ ตรวจสอบอาคารสูงการบินไทย พบชายชุดดำ ก่อน จนท ตร โดนถล่ม ไร้คำตอบ อรินทราช นเรศวร อยู่ไหน พวกผมได้ยินวิทยุชัดเจน ไร้การตรวจสอบ พวกผมโดน ฝากบอกนาย ไม่มีคำพูดครับ ข่าวกรอง การคุ้มกัน การวางแผนไร้คุณภาพครับ ชีวิตลูกน้องเจ็บ ตาย เพืออะไรครับ "เป็นข้อความที่ตำรวจกองร้อยควบคุมฝูงชนส่งต่อกันในไลน์และเฟสบุ๊คส์
ล่าสุดเช้าวันนี้มีการออกแถลงการณ์จากชุดควบคุมฝูงชนสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั่วประเทศแชร์กันในระบบไลน์ระบุว่า
"เป็นที่ทราบกันโดยชัดแจ้งแล้วว่า ผู้ชุมนุมที่ใช้นามว่า กปปส.และเครือข่ายต่างๆที่ร่วมกันนั้นมีอาวุธปืนและอาวุธสงครามร้ายแรง ทำให้การปฏิบัติหน้าที่ในหลายครั้งที่ผ่านมา ตำรวจต้องเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยที่ชุดควบคุมฝูงชนมีเพียงโล่และกระบองและอาจมีบางครั้งที่ใช้แก๊สน้ำตาและกระสุนยางทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีหนทางที่จะต่อสู้กับผู้ชุมนุมได้การปฏิบัติแต่ละครั้งก็มีแต่ความสูญเสีย ชุดควบคุมฝูงชนจึงขอเรียกร้องดังนี้
1 การปฏิบัติหน้าที่คราวต่อไปต้องมีการประกอบกำลังอาวุธเต็มรูปแบบ ทั้งอาวุธปืนพกส่วนตัวและอาวุธปืนยาวที่ใช้ประจำหน่วย ประกอบด้วย ลูกซอง และ M 79
2 ไม่ควรมีการเจรจากับผู้ชุมนุมอีกต่อไป เพราะที่ผ่านมาการเจรจาไม่ได้ผล
3 ให้ ศรส.รับผิดชอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ต้องแถลงข่าวว่า ไม่ใช้ความรุนแรงไม่มีการสลายการชุมนุมเพราะคำพูดดังกล่าวเป็นการเอาตัวรอดของ ผู้มีอำนาจใน ศรส. เท่านั้น หากเกิดความรุนแรง ตำรวจผู้ปฏิบัติก็จะต้องรับผิดชอบทางอาญาตามลำพัง และที่ผ่านมาที่มีตำรวจและประชาชนเสียชีวิตไม่รู้ว่าตำรวจผู้ปฏิบัติจะต้องรับผิดชอบหรือไม่หากเกิดมีการดำเนินคดี เพราะ ศรส. สามารถอ้างได้ตลอดเวลาว่า ศรส. ไม่มีนโยบายใช้ความรุนแรง และไม่มีนโยบายสลายการชุมนุม
4.ตำรวจทั้งประเทศเหนื่อยมามากแล้ว ในการปฏิบัติหน้าที่ หน่วยกำลังที่อยู่ในความปกครอง ของรัฐบาลก็มิได้มีเฉพาะตำรวจเท่านั้นหน้าที่หลักของตำรวจคือรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนให้ปลอดภัยจากโจรผู้ร้ายทั่วไปและให้บริการประชาชนด้านการจราจรและงานด้านต่างๆตำรวจได้ทำหน้าที่ต่ออายุของรัฐบาลนี้มานานพอสมควรแล้วให้ใช้หน่วยงานอื่นบ้าง มิใช่ว่าเมื่อตำรวจมาเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุมแต่กลับมีหน่วยงานที่ถืออาวุธอยู่ในฝั่งผู้ชุมนุมทั้งซ่อนเร้นและเปิดเผย. รัฐบาลใช้งานตำรวจเกินกว่าเงินเดือนและมีบางส่วนเสียชีวิตและบาดเจ็บ
ในขณะที่ตำรวจทำ งานมากกว่าปกติมีราชการบางส่วนเห็นดีเห็นชอบในการหยุดงานในกรณีที่ผู้ชุมนุม ปิดล้อมสถานที่ราชการโดยไม่มีการต่อต้านหรือรวมตัวกันเรียกร้องสถานที่ ราชการคืน จึงอยากให้ผู้มีอำนาจในรัฐบาล และ ศรส .พิจารณาพวกเรามีวินัยแต่เหลืออดแล้วจากชุดควบคมฝูงชนทั่งประเทศ "
ข้อความต่างๆที่มีการออกแถลงการณ์จากชุดควบคุมฝูงชนสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั่วประเทศระบายความอัดอั้นตันใจและแชร์กันในระบบไลน์ผ่านระบบโซเชียลมีเดีย