23 replies to this topic

[หนุ่มเกาหลีมีแฮงคัก]

ในขณะที่วงการครูที่เจ็บปวดจากระบบทักษินไม่แพ้กันจากการได้รับโหลดงานมากขึ้นแต่ความมั่นคงกับลดลง แต่ก็ไม่ได้ออกมาต้านระบอบทักษินอย่างเป็นรูปธรรม

 

ในขณะที่สถานศึกษาอย่างสถาบันที่ใกล้ชิดชุมชนอย่างมหาวิทยาลัยราชภัฏที่่ใกล้ชิดชุมชนและเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้ชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยของในหลวงกลับนิ่งเฉยเสียจนน่าตกใจ

 

สายงานมหาดไทยยิ่งแทบไม่ต้องพูดถึง ทุกคนเกียร์ว่างกันหมด เพียงแต่รอนายใหม่กันเท่านั้น

 

ทำไม บุคลากรในวงการสาธารณสุข จึงออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องการต่อต้านระบอบทักษินอย่างมีเอกภาพ และทรงพลังอย่างยิ่ง

 

เพราะอะไรถึงเป็นเช่นนั้น ผมคิดว่า ถ้าเราไขปริศนานี้ได้ ภาพของการปฏิรูปประเทศไทยจะเด่นชัดขึ้นครับ

[คลำปม]

เอากันชัดๆก็ต้องรอคุณหมอมาตอบเองนะครับ

 

แต่เท่าที่ผมสัมผัสมา (พี่ชายกับพี่สะใภ้ผมเป็นหมอทั้งคู่)

 

นโยบาย 30 บาท ที่นักการเมืองหาเสียงว่าเป็นความสำเร็จ

 

เบื้องหลังความสำเร็จบรรดาหมอๆเหนื่อยกันเลือดตากระเด็นครับ

 

 

คือถ้าหมอทั้งหลายไม่ร่วมแรงร่วมใจกัน  นโยบายนี้ก็เจ๊งแน่

 

ทว่าพอนโยบายเดินต่อไปได้   เห็นผลเป็นรูปธรรม

 

ทักษิณกลับเอาหน้าคนเดียว  ไม่เคยให้เครดิตหมอเลย

 

 

รายหัวก็บีบ  ทว่าความรับผิดชอบก็มากขึ้นเรื่อยๆ

 

ถ้า รพ.บริหารจัดการไม่ดีนี่ไปไม่รอดหรอกครับ

 

ทว่าคนเราได้ร่ำเรียนเป็นหมอ  เขาก็มีสติปัญญาดีกันทั้งนั้น

 

เรื่องยากมันก็เลยพอทำได้

 

 

และแล้วรัฐก็มาริเริ่มระบบให้คะแนน  ระบบที่ต้องแข่งกันทำแต้มกับผู้ป่วย

 

ตรงนี้หมอดีๆเขารับไม่ได้กันครับ

 

หมอดีๆเขาให้เวลากับคนไข้  เขาไม่ต้องการมาแข่งกันเก็บสกอร์

 

 

อีกทั้งหมอเขาก็รู้สึกนะครับว่า  เขาบริหารจัดการงบกันแทบตาย

 

แต่นโยบายประชานิยมอย่าง  จำนำข้าว กลับใช้เงินกันอีลุ่ยฉุยแฉก

 

โกงกันสะบัด  แต่คนที่เหนื่อยกลับเหนื่อยหนักเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้คนขี้โกง

 

เรื่องน่ารังเกียจแบบนี้  สังคมที่มีประสิทธิภาพจะตื่นรู้ก่อนครับ

 

แพทย์ทั้งหลายเขาก็เลยค่อนข้างพร้อมเพรียงกัน

 

 

แต่ส่วนสังคมอื่นๆเขายังไม่รู้สึกตัวกันเท่าไหร่

 

เป็นเรื่องปรกติครับ  โลกนี้มีคนโง่มากกว่าคนฉลาดเสมอ

[aiaiss2]

ขอพูดอะๆรหน่อยนะครับ เกี่ยวหับองกรณ์นี้ พอดีผมเกี่ยวกับองกรณ์นี้เป็นอย่างดี

พูดตรงๆคือ เหล่าผู้บริหาร มีความคิดในแนวเดียวกับ กปปส แต่ แต่ครับ ขอเน้น คำว่าแต่นี้เลย
แต่ลูกน้อง กับหัวหน้ามีความเห็นไม่ค่อยตรงกับ หัวหน้าเท่าไร แต่ก็ทำอะไรไม่ไ้ด้ นอกจาก เอ่อ ออ ไปกับหัวหน้า เพราะเคยมีกรณีที่ แตกหักกันมาแล้ว
แล้วไง รู้หรือเปล่า ลูกน้องยังไงก็ลูกน้อง ขอพูดแค่นี้
ส่วนหนึ่งจึงต้องปรับตัวตามหัวหน้า

บอกได้เลย ว่ามี รพ แห่งหนึ่ง ในภาคเหนือ ที่ ผอ รพ บังคับ เปิก บลูสกาย ทั้ง รพ
จะบอกว่ามันเหมือนยัดเยียด ความคิดของ หัวหน้า ให้กับ ลูกน้อง และ ผู้ป่วย

มีหลายคนล่ะ ที่มาเล่าว่าทำไมต้องเปิด บลูสกาย ทั้งวันทั้งคืน


ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็ลองไปหาดูเอาเอง
นักล่าไซเบอร์ คงหาเองได้ไม่ยากว่า รพ ไหน

ขอบอกอีกนิด
ใครที่บอกว่าหัวหน้า ทำถูกแล้วที่ยัดความคิดนี้มาให้
ผมว่าคุณก็เหมือน คน ไม่มีสมองเลย ถ้ามีคน คนนึ่ง มายัดความคิด บางอย่างให้คุณ โดยที่คุณ ไม่ได้ไตร่ตองอะไรเลย มันยิ่งกว่าคนโง่อีกครับ

[ลาดพร้าว 101]

เอากันชัดๆก็ต้องรอคุณหมอมาตอบเองนะครับ

 

แต่เท่าที่ผมสัมผัสมา (พี่ชายกับพี่สะใภ้ผมเป็นหมอทั้งคู่)

 

นโยบาย 30 บาท ที่นักการเมืองหาเสียงว่าเป็นความสำเร็จ

 

เบื้องหลังความสำเร็จบรรดาหมอๆเหนื่อยกันเลือดตากระเด็นครับ

 

 

คือถ้าหมอทั้งหลายไม่ร่วมแรงร่วมใจกัน  นโยบายนี้ก็เจ๊งแน่

 

ทว่าพอนโยบายเดินต่อไปได้   เห็นผลเป็นรูปธรรม

 

ทักษิณกลับเอาหน้าคนเดียว  ไม่เคยให้เครดิตหมอเลย

 

 

รายหัวก็บีบ  ทว่าความรับผิดชอบก็มากขึ้นเรื่อยๆ

 

ถ้า รพ.บริหารจัดการไม่ดีนี่ไปไม่รอดหรอกครับ

 

ทว่าคนเราได้ร่ำเรียนเป็นหมอ  เขาก็มีสติปัญญาดีกันทั้งนั้น

 

เรื่องยากมันก็เลยพอทำได้

 

 

และแล้วรัฐก็มาริเริ่มระบบให้คะแนน  ระบบที่ต้องแข่งกันทำแต้มกับผู้ป่วย

 

ตรงนี้หมอดีๆเขารับไม่ได้กันครับ

 

หมอดีๆเขาให้เวลากับคนไข้  เขาไม่ต้องการมาแข่งกันเก็บสกอร์

 

 

อีกทั้งหมอเขาก็รู้สึกนะครับว่า  เขาบริหารจัดการงบกันแทบตาย

 

แต่นโยบายประชานิยมอย่าง  จำนำข้าว กลับใช้เงินกันอีลุ่ยฉุยแฉก

 

โกงกันสะบัด  แต่คนที่เหนื่อยกลับเหนื่อยหนักเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้คนขี้โกง

 

เรื่องน่ารังเกียจแบบนี้  สังคมที่มีประสิทธิภาพจะตื่นรู้ก่อนครับ

 

แพทย์ทั้งหลายเขาก็เลยค่อนข้างพร้อมเพรียงกัน

 

 

แต่ส่วนสังคมอื่นๆเขายังไม่รู้สึกตัวกันเท่าไหร่

 

เป็นเรื่องปรกติครับ  โลกนี้มีคนโง่มากกว่าคนฉลาดเสมอ

 

ขออนุญาตสนับสนุนความคิดของพี่คลำปมครับ แฟนผมเป็นหมอก็เล่าให้ฟังคล้ายกับที่พี่ชายของคุณคลำปมเล่าให้ฟังครับ

[aiaiss2]

เอากันชัดๆก็ต้องรอคุณหมอมาตอบเองนะครับ
 
แต่เท่าที่ผมสัมผัสมา (พี่ชายกับพี่สะใภ้ผมเป็นหมอทั้งคู่)
 
นโยบาย 30 บาท ที่นักการเมืองหาเสียงว่าเป็นความสำเร็จ
 
เบื้องหลังความสำเร็จบรรดาหมอๆเหนื่อยกันเลือดตากระเด็นครับ
 
 
คือถ้าหมอทั้งหลายไม่ร่วมแรงร่วมใจกัน  นโยบายนี้ก็เจ๊งแน่
 
ทว่าพอนโยบายเดินต่อไปได้   เห็นผลเป็นรูปธรรม
 
ทักษิณกลับเอาหน้าคนเดียว  ไม่เคยให้เครดิตหมอเลย
 
 
รายหัวก็บีบ  ทว่าความรับผิดชอบก็มากขึ้นเรื่อยๆ
 
ถ้า รพ.บริหารจัดการไม่ดีนี่ไปไม่รอดหรอกครับ
 
ทว่าคนเราได้ร่ำเรียนเป็นหมอ  เขาก็มีสติปัญญาดีกันทั้งนั้น
 
เรื่องยากมันก็เลยพอทำได้
 
 
และแล้วรัฐก็มาริเริ่มระบบให้คะแนน  ระบบที่ต้องแข่งกันทำแต้มกับผู้ป่วย
 
ตรงนี้หมอดีๆเขารับไม่ได้กันครับ
 
หมอดีๆเขาให้เวลากับคนไข้  เขาไม่ต้องการมาแข่งกันเก็บสกอร์
 
 
อีกทั้งหมอเขาก็รู้สึกนะครับว่า  เขาบริหารจัดการงบกันแทบตาย
 
แต่นโยบายประชานิยมอย่าง  จำนำข้าว กลับใช้เงินกันอีลุ่ยฉุยแฉก
 
โกงกันสะบัด  แต่คนที่เหนื่อยกลับเหนื่อยหนักเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้คนขี้โกง
 
เรื่องน่ารังเกียจแบบนี้  สังคมที่มีประสิทธิภาพจะตื่นรู้ก่อนครับ
 
แพทย์ทั้งหลายเขาก็เลยค่อนข้างพร้อมเพรียงกัน
 
 
แต่ส่วนสังคมอื่นๆเขายังไม่รู้สึกตัวกันเท่าไหร่
 
เป็นเรื่องปรกติครับ  โลกนี้มีคนโง่มากกว่าคนฉลาดเสมอ

ขอโทษครับ
ผมว่าผมมีความเห็นแย้งนิดหน่อยครับ

ผมไม่เถียงเลยว่าหมอ เก่ง หมอดี

ผมสามารถบอกได้เลยว่า ก่อนยุค ทักสิน กับหลังยุคทักสิน
หมอเป็นอย่างไร

แน่นอนครับ ผมสามารถพูดได้เต็มปาก ว่า ญาติๆ คุณที่เป็นหมอ หลังจากยุคทักสินเป็นยังไง

แต่ ก่อนยุคทักสิน เป็นยังไง คุณพอจะรู้ไหมครับ?

ผมสามารถพูดได้เลยว่า หมอ ยุคปัจจุบัน ทำงานยาก! สำหรับยุดปัจจุบันหลังทักสิน
ผมก็ไม่ได้จะดูถูกหมอหรอกครับ (ซึ่งผมดูถูกไม่ได้แน่ๆ)
แต่ นิสัยคนไทยบูชาหมอ อันนี้ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก (หมอก็ทำอะไรเองไม่ได้หรอกคับ เพียงแต่อาชีพเขา ทำงานเกี่ยวกับชีวิตคนเท่านั้นเอง ผมเองก็เคยลองภูมิ กับหมอมาแล้ว จะบอกว่าแพ้ก็แต่ ความรู้ทางวิชาการเท่านั้น นอ
นั้นหมอก็ คน... คนหนึ่ง)

ที่ผมพล่ามมา ไม่มีอะไรรหรอกครับ นอกจาก
"ความคิดหมอ เพียงแค่ไม่กี่คน อย่าเอามาอ้างเลยว่าเป็นนมติของหมอๆ ทั้งประเทศ"

[DoctorK]

ขอพูดอะๆรหน่อยนะครับ เกี่ยวหับองกรณ์นี้ พอดีผมเกี่ยวกับองกรณ์นี้เป็นอย่างดี

พูดตรงๆคือ เหล่าผู้บริหาร มีความคิดในแนวเดียวกับ กปปส แต่ แต่ครับ ขอเน้น คำว่าแต่นี้เลย
แต่ลูกน้อง กับหัวหน้ามีความเห็นไม่ค่อยตรงกับ หัวหน้าเท่าไร แต่ก็ทำอะไรไม่ไ้ด้ นอกจาก เอ่อ ออ ไปกับหัวหน้า เพราะเคยมีกรณีที่ แตกหักกันมาแล้ว
แล้วไง รู้หรือเปล่า ลูกน้องยังไงก็ลูกน้อง ขอพูดแค่นี้
ส่วนหนึ่งจึงต้องปรับตัวตามหัวหน้า

บอกได้เลย ว่ามี รพ แห่งหนึ่ง ในภาคเหนือ ที่ ผอ รพ บังคับ เปิก บลูสกาย ทั้ง รพ
จะบอกว่ามันเหมือนยัดเยียด ความคิดของ หัวหน้า ให้กับ ลูกน้อง และ ผู้ป่วย

มีหลายคนล่ะ ที่มาเล่าว่าทำไมต้องเปิด บลูสกาย ทั้งวันทั้งคืน


ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็ลองไปหาดูเอาเอง
นักล่าไซเบอร์ คงหาเองได้ไม่ยากว่า รพ ไหน

ขอบอกอีกนิด
ใครที่บอกว่าหัวหน้า ทำถูกแล้วที่ยัดความคิดนี้มาให้
ผมว่าคุณก็เหมือน คน ไม่มีสมองเลย ถ้ามีคน คนนึ่ง มายัดความคิด บางอย่างให้คุณ โดยที่คุณ ไม่ได้ไตร่ตองอะไรเลย มันยิ่งกว่าคนโง่อีกครับ

คุณกำลังจะสื่อว่าอะไรเหรอครับ คุณหมอAIS

คุณกำลังจะสื่อว่าหมอส่วนใหญ่ไม่ได้เห็นด้วยกับ กปปส. สินะ

 

ผมขอบอกได้คำเดียวครับว่า

คุณไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับวงการนี้เลย

 

 

 

ส่วนเรื่องโรงพยาบาลที่คุณว่านั้น

ผมยอมรับครับว่าไอ้คนบ้าการเมืองแบบที่คุณว่ามันต้องมีบ้างแหละ

แล้วผมก็ไม่ชอบคนแบบนี้ด้วยไม่ว่าจะฝ่ายไหนก็เถอะ

แต่คุณจะบอกว่า ผอ. ทั้งหมดเป็นแบบนั้นมันก็ไม่ใช่หรอกนะ

 

หรือคุณว่าไม่จริง

 

 

ว่าแต่ถามคุณนิดนึงสิครับ

ไม่ต้องถึงขั้นบอกชื่อ รพ. หรอกนะ

แต่รพ.ที่คุณว่า เป็น รพช. รพม. หรือ รพร. ครับ

   

Edited by DoctorK, 1 March 2014 - 23:05.

[น้องจุบุจุบุ]

เพราะ p4p และ ปลัดเป็นคนนำเอง

คนที่อัดอั้นกันอยู่ก็เอาด้วยเป็นมีปลัดเป็นแกนนำ

[HiddenMan]

 

เอากันชัดๆก็ต้องรอคุณหมอมาตอบเองนะครับ
 
แต่เท่าที่ผมสัมผัสมา (พี่ชายกับพี่สะใภ้ผมเป็นหมอทั้งคู่)
 
นโยบาย 30 บาท ที่นักการเมืองหาเสียงว่าเป็นความสำเร็จ
 
เบื้องหลังความสำเร็จบรรดาหมอๆเหนื่อยกันเลือดตากระเด็นครับ
 
 
คือถ้าหมอทั้งหลายไม่ร่วมแรงร่วมใจกัน  นโยบายนี้ก็เจ๊งแน่
 
ทว่าพอนโยบายเดินต่อไปได้   เห็นผลเป็นรูปธรรม
 
ทักษิณกลับเอาหน้าคนเดียว  ไม่เคยให้เครดิตหมอเลย
 
 
รายหัวก็บีบ  ทว่าความรับผิดชอบก็มากขึ้นเรื่อยๆ
 
ถ้า รพ.บริหารจัดการไม่ดีนี่ไปไม่รอดหรอกครับ
 
ทว่าคนเราได้ร่ำเรียนเป็นหมอ  เขาก็มีสติปัญญาดีกันทั้งนั้น
 
เรื่องยากมันก็เลยพอทำได้
 
 
และแล้วรัฐก็มาริเริ่มระบบให้คะแนน  ระบบที่ต้องแข่งกันทำแต้มกับผู้ป่วย
 
ตรงนี้หมอดีๆเขารับไม่ได้กันครับ
 
หมอดีๆเขาให้เวลากับคนไข้  เขาไม่ต้องการมาแข่งกันเก็บสกอร์
 
 
อีกทั้งหมอเขาก็รู้สึกนะครับว่า  เขาบริหารจัดการงบกันแทบตาย
 
แต่นโยบายประชานิยมอย่าง  จำนำข้าว กลับใช้เงินกันอีลุ่ยฉุยแฉก
 
โกงกันสะบัด  แต่คนที่เหนื่อยกลับเหนื่อยหนักเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้คนขี้โกง
 
เรื่องน่ารังเกียจแบบนี้  สังคมที่มีประสิทธิภาพจะตื่นรู้ก่อนครับ
 
แพทย์ทั้งหลายเขาก็เลยค่อนข้างพร้อมเพรียงกัน
 
 
แต่ส่วนสังคมอื่นๆเขายังไม่รู้สึกตัวกันเท่าไหร่
 
เป็นเรื่องปรกติครับ  โลกนี้มีคนโง่มากกว่าคนฉลาดเสมอ

ขอโทษครับ
ผมว่าผมมีความเห็นแย้งนิดหน่อยครับ

ผมไม่เถียงเลยว่าหมอ เก่ง หมอดี

ผมสามารถบอกได้เลยว่า ก่อนยุค ทักสิน กับหลังยุคทักสิน
หมอเป็นอย่างไร

แน่นอนครับ ผมสามารถพูดได้เต็มปาก ว่า ญาติๆ คุณที่เป็นหมอ หลังจากยุคทักสินเป็นยังไง

แต่ ก่อนยุคทักสิน เป็นยังไง คุณพอจะรู้ไหมครับ?

ผมสามารถพูดได้เลยว่า หมอ ยุคปัจจุบัน ทำงานยาก! สำหรับยุดปัจจุบันหลังทักสิน
ผมก็ไม่ได้จะดูถูกหมอหรอกครับ (ซึ่งผมดูถูกไม่ได้แน่ๆ)
แต่ นิสัยคนไทยบูชาหมอ อันนี้ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก (หมอก็ทำอะไรเองไม่ได้หรอกคับ เพียงแต่อาชีพเขา ทำงานเกี่ยวกับชีวิตคนเท่านั้นเอง ผมเองก็เคยลองภูมิ กับหมอมาแล้ว จะบอกว่าแพ้ก็แต่ ความรู้ทางวิชาการเท่านั้น นอ
นั้นหมอก็ คน... คนหนึ่ง)

ที่ผมพล่ามมา ไม่มีอะไรรหรอกครับ นอกจาก
"ความคิดหมอ เพียงแค่ไม่กี่คน อย่าเอามาอ้างเลยว่าเป็นนมติของหมอๆ ทั้งประเทศ"

 

 

 จริงหรือครับ...

[ไทยไม่ทน]

 

 

เอากันชัดๆก็ต้องรอคุณหมอมาตอบเองนะครับ
 
แต่เท่าที่ผมสัมผัสมา (พี่ชายกับพี่สะใภ้ผมเป็นหมอทั้งคู่)
 
นโยบาย 30 บาท ที่นักการเมืองหาเสียงว่าเป็นความสำเร็จ
 
เบื้องหลังความสำเร็จบรรดาหมอๆเหนื่อยกันเลือดตากระเด็นครับ
 
 
คือถ้าหมอทั้งหลายไม่ร่วมแรงร่วมใจกัน  นโยบายนี้ก็เจ๊งแน่
 
ทว่าพอนโยบายเดินต่อไปได้   เห็นผลเป็นรูปธรรม
 
ทักษิณกลับเอาหน้าคนเดียว  ไม่เคยให้เครดิตหมอเลย
 
 
รายหัวก็บีบ  ทว่าความรับผิดชอบก็มากขึ้นเรื่อยๆ
 
ถ้า รพ.บริหารจัดการไม่ดีนี่ไปไม่รอดหรอกครับ
 
ทว่าคนเราได้ร่ำเรียนเป็นหมอ  เขาก็มีสติปัญญาดีกันทั้งนั้น
 
เรื่องยากมันก็เลยพอทำได้
 
 
และแล้วรัฐก็มาริเริ่มระบบให้คะแนน  ระบบที่ต้องแข่งกันทำแต้มกับผู้ป่วย
 
ตรงนี้หมอดีๆเขารับไม่ได้กันครับ
 
หมอดีๆเขาให้เวลากับคนไข้  เขาไม่ต้องการมาแข่งกันเก็บสกอร์
 
 
อีกทั้งหมอเขาก็รู้สึกนะครับว่า  เขาบริหารจัดการงบกันแทบตาย
 
แต่นโยบายประชานิยมอย่าง  จำนำข้าว กลับใช้เงินกันอีลุ่ยฉุยแฉก
 
โกงกันสะบัด  แต่คนที่เหนื่อยกลับเหนื่อยหนักเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้คนขี้โกง
 
เรื่องน่ารังเกียจแบบนี้  สังคมที่มีประสิทธิภาพจะตื่นรู้ก่อนครับ
 
แพทย์ทั้งหลายเขาก็เลยค่อนข้างพร้อมเพรียงกัน
 
 
แต่ส่วนสังคมอื่นๆเขายังไม่รู้สึกตัวกันเท่าไหร่
 
เป็นเรื่องปรกติครับ  โลกนี้มีคนโง่มากกว่าคนฉลาดเสมอ

ขอโทษครับ
ผมว่าผมมีความเห็นแย้งนิดหน่อยครับ

ผมไม่เถียงเลยว่าหมอ เก่ง หมอดี

ผมสามารถบอกได้เลยว่า ก่อนยุค ทักสิน กับหลังยุคทักสิน
หมอเป็นอย่างไร

แน่นอนครับ ผมสามารถพูดได้เต็มปาก ว่า ญาติๆ คุณที่เป็นหมอ หลังจากยุคทักสินเป็นยังไง

แต่ ก่อนยุคทักสิน เป็นยังไง คุณพอจะรู้ไหมครับ?

ผมสามารถพูดได้เลยว่า หมอ ยุคปัจจุบัน ทำงานยาก! สำหรับยุดปัจจุบันหลังทักสิน
ผมก็ไม่ได้จะดูถูกหมอหรอกครับ (ซึ่งผมดูถูกไม่ได้แน่ๆ)
แต่ นิสัยคนไทยบูชาหมอ อันนี้ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก (หมอก็ทำอะไรเองไม่ได้หรอกคับ เพียงแต่อาชีพเขา ทำงานเกี่ยวกับชีวิตคนเท่านั้นเอง ผมเองก็เคยลองภูมิ กับหมอมาแล้ว จะบอกว่าแพ้ก็แต่ ความรู้ทางวิชาการเท่านั้น นอ
นั้นหมอก็ คน... คนหนึ่ง)

ที่ผมพล่ามมา ไม่มีอะไรรหรอกครับ นอกจาก
"ความคิดหมอ เพียงแค่ไม่กี่คน อย่าเอามาอ้างเลยว่าเป็นนมติของหมอๆ ทั้งประเทศ"

 

 

 จริงหรือครับ...

 

 

จริงสิครับ   

[หนุ่มเกาหลีมีแฮงคัก]

 

คลำปม, on 01 Mar 2014 - 22:43, said:

เอากันชัดๆก็ต้องรอคุณหมอมาตอบเองนะครับ

 

แต่เท่าที่ผมสัมผัสมา (พี่ชายกับพี่สะใภ้ผมเป็นหมอทั้งคู่)

 

นโยบาย 30 บาท ที่นักการเมืองหาเสียงว่าเป็นความสำเร็จ

 

เบื้องหลังความสำเร็จบรรดาหมอๆเหนื่อยกันเลือดตากระเด็นครับ

 

 

คือถ้าหมอทั้งหลายไม่ร่วมแรงร่วมใจกัน  นโยบายนี้ก็เจ๊งแน่

 

ทว่าพอนโยบายเดินต่อไปได้   เห็นผลเป็นรูปธรรม

 

ทักษิณกลับเอาหน้าคนเดียว  ไม่เคยให้เครดิตหมอเลย

 

 

รายหัวก็บีบ  ทว่าความรับผิดชอบก็มากขึ้นเรื่อยๆ

 

ถ้า รพ.บริหารจัดการไม่ดีนี่ไปไม่รอดหรอกครับ

 

ทว่าคนเราได้ร่ำเรียนเป็นหมอ  เขาก็มีสติปัญญาดีกันทั้งนั้น

 

เรื่องยากมันก็เลยพอทำได้

 

 

และแล้วรัฐก็มาริเริ่มระบบให้คะแนน  ระบบที่ต้องแข่งกันทำแต้มกับผู้ป่วย

 

ตรงนี้หมอดีๆเขารับไม่ได้กันครับ

 

หมอดีๆเขาให้เวลากับคนไข้  เขาไม่ต้องการมาแข่งกันเก็บสกอร์

 

 

อีกทั้งหมอเขาก็รู้สึกนะครับว่า  เขาบริหารจัดการงบกันแทบตาย

 

แต่นโยบายประชานิยมอย่าง  จำนำข้าว กลับใช้เงินกันอีลุ่ยฉุยแฉก

 

โกงกันสะบัด  แต่คนที่เหนื่อยกลับเหนื่อยหนักเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้คนขี้โกง

 

เรื่องน่ารังเกียจแบบนี้  สังคมที่มีประสิทธิภาพจะตื่นรู้ก่อนครับ

 

แพทย์ทั้งหลายเขาก็เลยค่อนข้างพร้อมเพรียงกัน

 

 

แต่ส่วนสังคมอื่นๆเขายังไม่รู้สึกตัวกันเท่าไหร่

 

เป็นเรื่องปรกติครับ  โลกนี้มีคนโง่มากกว่าคนฉลาดเสมอ

ครับ รับรู้มาตลอดว่า วงการแพทย์เป็นองค์การแรกๆที่โดนระบอบทักษินเล่นงานก่อนเพื่อน แล้วอาชีพนี้ ค่อนข้างจะ หัวกระทิในแทบทุกระดับ และเป็นเด็กเก่งแบบ "เก่งตามแบบ" ขยัน มีวินัย ต่างกับพวกวิศวะที่แบบ ขีเกียจแต่ฉลาดบ้าง อะไรทำนองนี้  เด็กเก่งๆตามแบบไปสายสาธารณสุขหมดแหละครับ เก่งมากก็ไปหมอ เก่งน้อยหน่อยก็ไปเภสัชไม่ก็พยาบาล แต่โดยหลักๆก็จะเป็นหัวกระทิของห้องเรียนทั้งนั้น แต่วงการครูนี่สิครับ ครูน้อยโดนผูบริหารสั่งทำอะไรบ้าๆบอๆตั้งมากมาย แต่ก็ยังนิ่งเฉย ผมไม่เข้าใจจริงๆ




ไม่อยากปลดแอกกันหรืออย่างไร

[น้องจุบุจุบุ]

อย่าว่าแต่หมอเลยครับ แฟนผมเป็นทันตแพทย์อยู่กลางกรุงเนี่ย

โรงบาลยังบังคับให้ตรวจไม่เกิน 30 นาทีต่อคนเท่านั้นบางทีลูกค้า vip โผล่มา

แทรกคิวอีก ทั้งที่แฟนผมเป็นหมอรักษารากและใส่ฟันนะไม่ใช่หมอฟันทั่วไปสักหน่อย

[คลำปม]

 

เอากันชัดๆก็ต้องรอคุณหมอมาตอบเองนะครับ
 
แต่เท่าที่ผมสัมผัสมา (พี่ชายกับพี่สะใภ้ผมเป็นหมอทั้งคู่)
 
นโยบาย 30 บาท ที่นักการเมืองหาเสียงว่าเป็นความสำเร็จ
 
เบื้องหลังความสำเร็จบรรดาหมอๆเหนื่อยกันเลือดตากระเด็นครับ
 
 
คือถ้าหมอทั้งหลายไม่ร่วมแรงร่วมใจกัน  นโยบายนี้ก็เจ๊งแน่
 
ทว่าพอนโยบายเดินต่อไปได้   เห็นผลเป็นรูปธรรม
 
ทักษิณกลับเอาหน้าคนเดียว  ไม่เคยให้เครดิตหมอเลย
 
 
รายหัวก็บีบ  ทว่าความรับผิดชอบก็มากขึ้นเรื่อยๆ
 
..................

ขอโทษครับ
ผมว่าผมมีความเห็นแย้งนิดหน่อยครับ

ผมไม่เถียงเลยว่าหมอ เก่ง หมอดี

ผมสามารถบอกได้เลยว่า ก่อนยุค ทักสิน กับหลังยุคทักสิน
หมอเป็นอย่างไร

แน่นอนครับ ผมสามารถพูดได้เต็มปาก ว่า ญาติๆ คุณที่เป็นหมอ หลังจากยุคทักสินเป็นยังไง

แต่ ก่อนยุคทักสิน เป็นยังไง คุณพอจะรู้ไหมครับ?

ผมสามารถพูดได้เลยว่า หมอ ยุคปัจจุบัน ทำงานยาก! สำหรับยุดปัจจุบันหลังทักสิน
ผมก็ไม่ได้จะดูถูกหมอหรอกครับ (ซึ่งผมดูถูกไม่ได้แน่ๆ)
แต่ นิสัยคนไทยบูชาหมอ อันนี้ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก (หมอก็ทำอะไรเองไม่ได้หรอกคับ เพียงแต่อาชีพเขา ทำงานเกี่ยวกับชีวิตคนเท่านั้นเอง ผมเองก็เคยลองภูมิ กับหมอมาแล้ว จะบอกว่าแพ้ก็แต่ ความรู้ทางวิชาการเท่านั้น นอ
นั้นหมอก็ คน... คนหนึ่ง)

ที่ผมพล่ามมา ไม่มีอะไรรหรอกครับ นอกจาก
"ความคิดหมอ เพียงแค่ไม่กี่คน อย่าเอามาอ้างเลยว่าเป็นนมติของหมอๆ ทั้งประเทศ"

 

 

หมอก่อนยุคทักษิณทำงานสบายกว่ายุคทักษิณสิครับ  อันนี้ใครๆก็รู้

 

แต่ทำงานสบายกว่า  คนไข้ก็ได้รับการเอาใจใส่ดีกว่า

 

หมอนะครับไม่ใช่จับกัง  ไม่ใช่ต้องเหงื่อโทรมกายแล้วถึงจะมีผลงาน

 

 

ผมไม่ได้รังเกียจอะไรกับโครงการ 30 บาทหรอกนะครับ

 

แต่ทักษิณต้องให้เครดิตหมอด้วย  ไม่ใช่จะอ้างเอาแต่ว่าเป็นผลงานตัวเอง

 

เพราะคนทำเขาเหนื่อยครับ  ตรงนี้คุณน่าจะเข้าใจ

 

 

ผมรู้จักหมอคนนึงที่มาเล่นการเมือง

 

แกใช้ธรรมะร่วมกับการรักษาคนไข้ระยะสุดท้าย  คนไข้ตายในมือแกด้วยความสงบไม่รู้เท่าไหร่

 

พอมาเจอระบบ 30 บาท+ญาติผู้ป่วยฟ้องแพทย์ได้  แกก็ต้องลาออกจากโรงพยาบาลมาลงสนามการเมือง

 

ระบบมันไม่เอื้อให้แพทย์บางสไตล์ทำงานได้ครับ 

 

 

ส่วนเรื่องบูชาหมอผมอยากแก้ว่าเป็นการให้เกียรติมากกว่า

 

เราใช้คำว่า "หมอ" กันหลากหลาย

 

บีบคลายเส้นให้หายปวดเมื่อย  เราก็เรียก หมอนวด

 

ทำนายโชคชะตาให้เรา ก็เรียก หมอดู

 

คนไทยเราให้เกียรติคนที่มาทำอะไรให้เราทั้งนั้นแหละครับ 

 

แล้วก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องไปลองภูมิอะไรเขา 

 

เพราะคนเราย่อมมีความรู้ความชำนาญต่างกัน  ใครแยกแยะตรงนี้ไม่ได้ผมว่าคงโลกแคบเอาการ

 

 

ส่วนที่ว่าการแสดงออกทางการเมืองเป็นความคิดของแพทย์ไม่กี่คน

 

อย่าเอามาอ้าง 

 

ผมก็คิดว่าถ้าแพทย์จำนวนมากรู้สึกว่าถูกอ้าง  เขาน่าจะรวมตัวกันประกาศไม่ยอมรับการเคลื่อนไหวครั้งนี้สิครับ

 

เหมือนที่คนไม่กี่คนป่าวร้องเรื่องการแบ่งแยกประเทศ

 

แล้วสังคมออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกันอย่างกว้างขวางเลยไงครับ

[HiddenMan]

 

 

 

เอากันชัดๆก็ต้องรอคุณหมอมาตอบเองนะครับ
 
แต่เท่าที่ผมสัมผัสมา (พี่ชายกับพี่สะใภ้ผมเป็นหมอทั้งคู่)
 
นโยบาย 30 บาท ที่นักการเมืองหาเสียงว่าเป็นความสำเร็จ
 
เบื้องหลังความสำเร็จบรรดาหมอๆเหนื่อยกันเลือดตากระเด็นครับ
 
 
คือถ้าหมอทั้งหลายไม่ร่วมแรงร่วมใจกัน  นโยบายนี้ก็เจ๊งแน่
 
ทว่าพอนโยบายเดินต่อไปได้   เห็นผลเป็นรูปธรรม
 
ทักษิณกลับเอาหน้าคนเดียว  ไม่เคยให้เครดิตหมอเลย
 
 
รายหัวก็บีบ  ทว่าความรับผิดชอบก็มากขึ้นเรื่อยๆ
 
ถ้า รพ.บริหารจัดการไม่ดีนี่ไปไม่รอดหรอกครับ
 
ทว่าคนเราได้ร่ำเรียนเป็นหมอ  เขาก็มีสติปัญญาดีกันทั้งนั้น
 
เรื่องยากมันก็เลยพอทำได้
 
 
และแล้วรัฐก็มาริเริ่มระบบให้คะแนน  ระบบที่ต้องแข่งกันทำแต้มกับผู้ป่วย
 
ตรงนี้หมอดีๆเขารับไม่ได้กันครับ
 
หมอดีๆเขาให้เวลากับคนไข้  เขาไม่ต้องการมาแข่งกันเก็บสกอร์
 
 
อีกทั้งหมอเขาก็รู้สึกนะครับว่า  เขาบริหารจัดการงบกันแทบตาย
 
แต่นโยบายประชานิยมอย่าง  จำนำข้าว กลับใช้เงินกันอีลุ่ยฉุยแฉก
 
โกงกันสะบัด  แต่คนที่เหนื่อยกลับเหนื่อยหนักเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้คนขี้โกง
 
เรื่องน่ารังเกียจแบบนี้  สังคมที่มีประสิทธิภาพจะตื่นรู้ก่อนครับ
 
แพทย์ทั้งหลายเขาก็เลยค่อนข้างพร้อมเพรียงกัน
 
 
แต่ส่วนสังคมอื่นๆเขายังไม่รู้สึกตัวกันเท่าไหร่
 
เป็นเรื่องปรกติครับ  โลกนี้มีคนโง่มากกว่าคนฉลาดเสมอ

ขอโทษครับ
ผมว่าผมมีความเห็นแย้งนิดหน่อยครับ

ผมไม่เถียงเลยว่าหมอ เก่ง หมอดี

ผมสามารถบอกได้เลยว่า ก่อนยุค ทักสิน กับหลังยุคทักสิน
หมอเป็นอย่างไร

แน่นอนครับ ผมสามารถพูดได้เต็มปาก ว่า ญาติๆ คุณที่เป็นหมอ หลังจากยุคทักสินเป็นยังไง

แต่ ก่อนยุคทักสิน เป็นยังไง คุณพอจะรู้ไหมครับ?

ผมสามารถพูดได้เลยว่า หมอ ยุคปัจจุบัน ทำงานยาก! สำหรับยุดปัจจุบันหลังทักสิน
ผมก็ไม่ได้จะดูถูกหมอหรอกครับ (ซึ่งผมดูถูกไม่ได้แน่ๆ)
แต่ นิสัยคนไทยบูชาหมอ อันนี้ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก (หมอก็ทำอะไรเองไม่ได้หรอกคับ เพียงแต่อาชีพเขา ทำงานเกี่ยวกับชีวิตคนเท่านั้นเอง ผมเองก็เคยลองภูมิ กับหมอมาแล้ว จะบอกว่าแพ้ก็แต่ ความรู้ทางวิชาการเท่านั้น นอ
นั้นหมอก็ คน... คนหนึ่ง)

ที่ผมพล่ามมา ไม่มีอะไรรหรอกครับ นอกจาก
"ความคิดหมอ เพียงแค่ไม่กี่คน อย่าเอามาอ้างเลยว่าเป็นนมติของหมอๆ ทั้งประเทศ"

 

 

 จริงหรือครับ...

 

 

จริงสิครับ   

 

 

  เหวงจริงๆ... แปะเฉยๆ ข่าวหมอส่วนน้อย

 

http://www.dailynews...ไม่เอารัฐบาลโกง

 

"ปลัด สธ." นำเครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์ บุกวุฒิสภา ยื่น 1.2 แสนรายชื่อ พร้อมจม.เปิดผนึก ไม่เอารัฐบาลโกง ประณามใช้ความรุนแรง ด้านตัวแทน อสม.กรุงเทพฯ ยื่น หนุนรัฐบาลเลือกตั้ง

 

[Ixora]

เคยคุยกับเพื่อนที่เป็นหมอ ระดับ ผอ. รพ.
สรุปได้ความง่ายๆ ว่า เขาจงให้ รพ. รัฐ เป็นโรงฆ่าสัตว์

ให้คนหันไปพึ่งเอกชนที่เขามีหุ้นส่วน มีรายได้

ให้สั่งยาเฉพาะในเครือข่ายที่ได้ผลประโยชน์
ลดคุณภาพการตรวจรักษา และเครื่องมือต่างๆ

คนเป็นหมอ ถึงจะทำงานเพื่อต้องการรายได้

แต่จรรยาบรรณเขาก็ยังมีนะ  อาจอย่างนี้ เขาถึงออกมา...

[wisary]

ขอพูดอะๆรหน่อยนะครับ เกี่ยวหับองกรณ์นี้ พอดีผมเกี่ยวกับองกรณ์นี้เป็นอย่างดี

พูดตรงๆคือ เหล่าผู้บริหาร มีความคิดในแนวเดียวกับ กปปส แต่ แต่ครับ ขอเน้น คำว่าแต่นี้เลย
แต่ลูกน้อง กับหัวหน้ามีความเห็นไม่ค่อยตรงกับ หัวหน้าเท่าไร แต่ก็ทำอะไรไม่ไ้ด้ นอกจาก เอ่อ ออ ไปกับหัวหน้า เพราะเคยมีกรณีที่ แตกหักกันมาแล้ว
แล้วไง รู้หรือเปล่า ลูกน้องยังไงก็ลูกน้อง ขอพูดแค่นี้
ส่วนหนึ่งจึงต้องปรับตัวตามหัวหน้า

บอกได้เลย ว่ามี รพ แห่งหนึ่ง ในภาคเหนือ ที่ ผอ รพ บังคับ เปิก บลูสกาย ทั้ง รพ
จะบอกว่ามันเหมือนยัดเยียด ความคิดของ หัวหน้า ให้กับ ลูกน้อง และ ผู้ป่วย

มีหลายคนล่ะ ที่มาเล่าว่าทำไมต้องเปิด บลูสกาย ทั้งวันทั้งคืน


ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็ลองไปหาดูเอาเอง
นักล่าไซเบอร์ คงหาเองได้ไม่ยากว่า รพ ไหน

ขอบอกอีกนิด
ใครที่บอกว่าหัวหน้า ทำถูกแล้วที่ยัดความคิดนี้มาให้
ผมว่าคุณก็เหมือน คน ไม่มีสมองเลย ถ้ามีคน คนนึ่ง มายัดความคิด บางอย่างให้คุณ โดยที่คุณ ไม่ได้ไตร่ตองอะไรเลย มันยิ่งกว่าคนโง่อีกครับ

ลองไปดูโรงพยาบาบลทางใต้บ้างสิครับ อย่าดูแต่ภาคเหนือ

 

[KatsuraKotarou]

 

 

เอากันชัดๆก็ต้องรอคุณหมอมาตอบเองนะครับ
 
แต่เท่าที่ผมสัมผัสมา (พี่ชายกับพี่สะใภ้ผมเป็นหมอทั้งคู่)
 
นโยบาย 30 บาท ที่นักการเมืองหาเสียงว่าเป็นความสำเร็จ
 
เบื้องหลังความสำเร็จบรรดาหมอๆเหนื่อยกันเลือดตากระเด็นครับ
 
 
คือถ้าหมอทั้งหลายไม่ร่วมแรงร่วมใจกัน  นโยบายนี้ก็เจ๊งแน่
 
ทว่าพอนโยบายเดินต่อไปได้   เห็นผลเป็นรูปธรรม
 
ทักษิณกลับเอาหน้าคนเดียว  ไม่เคยให้เครดิตหมอเลย
 
 
รายหัวก็บีบ  ทว่าความรับผิดชอบก็มากขึ้นเรื่อยๆ
 
ถ้า รพ.บริหารจัดการไม่ดีนี่ไปไม่รอดหรอกครับ
 
ทว่าคนเราได้ร่ำเรียนเป็นหมอ  เขาก็มีสติปัญญาดีกันทั้งนั้น
 
เรื่องยากมันก็เลยพอทำได้
 
 
และแล้วรัฐก็มาริเริ่มระบบให้คะแนน  ระบบที่ต้องแข่งกันทำแต้มกับผู้ป่วย
 
ตรงนี้หมอดีๆเขารับไม่ได้กันครับ
 
หมอดีๆเขาให้เวลากับคนไข้  เขาไม่ต้องการมาแข่งกันเก็บสกอร์
 
 
อีกทั้งหมอเขาก็รู้สึกนะครับว่า  เขาบริหารจัดการงบกันแทบตาย
 
แต่นโยบายประชานิยมอย่าง  จำนำข้าว กลับใช้เงินกันอีลุ่ยฉุยแฉก
 
โกงกันสะบัด  แต่คนที่เหนื่อยกลับเหนื่อยหนักเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้คนขี้โกง
 
เรื่องน่ารังเกียจแบบนี้  สังคมที่มีประสิทธิภาพจะตื่นรู้ก่อนครับ
 
แพทย์ทั้งหลายเขาก็เลยค่อนข้างพร้อมเพรียงกัน
 
 
แต่ส่วนสังคมอื่นๆเขายังไม่รู้สึกตัวกันเท่าไหร่
 
เป็นเรื่องปรกติครับ  โลกนี้มีคนโง่มากกว่าคนฉลาดเสมอ

ขอโทษครับ
ผมว่าผมมีความเห็นแย้งนิดหน่อยครับ

ผมไม่เถียงเลยว่าหมอ เก่ง หมอดี

ผมสามารถบอกได้เลยว่า ก่อนยุค ทักสิน กับหลังยุคทักสิน
หมอเป็นอย่างไร

แน่นอนครับ ผมสามารถพูดได้เต็มปาก ว่า ญาติๆ คุณที่เป็นหมอ หลังจากยุคทักสินเป็นยังไง

แต่ ก่อนยุคทักสิน เป็นยังไง คุณพอจะรู้ไหมครับ?

ผมสามารถพูดได้เลยว่า หมอ ยุคปัจจุบัน ทำงานยาก! สำหรับยุดปัจจุบันหลังทักสิน
ผมก็ไม่ได้จะดูถูกหมอหรอกครับ (ซึ่งผมดูถูกไม่ได้แน่ๆ)
แต่ นิสัยคนไทยบูชาหมอ อันนี้ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก (หมอก็ทำอะไรเองไม่ได้หรอกคับ เพียงแต่อาชีพเขา ทำงานเกี่ยวกับชีวิตคนเท่านั้นเอง ผมเองก็เคยลองภูมิ กับหมอมาแล้ว จะบอกว่าแพ้ก็แต่ ความรู้ทางวิชาการเท่านั้น นอ
นั้นหมอก็ คน... คนหนึ่ง)

ที่ผมพล่ามมา ไม่มีอะไรรหรอกครับ นอกจาก
"ความคิดหมอ เพียงแค่ไม่กี่คน อย่าเอามาอ้างเลยว่าเป็นนมติของหมอๆ ทั้งประเทศ"

 

 

 จริงหรือครับ...

 

ถ้าดูในโรงพยาบาลที่ผมอยู่ เป็นโรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่งใน กทม  อาจารย์หมอมากกว่า 90% สนับสนุน กปปส ครับ

[Ricebeanoil]

 

ขอพูดอะๆรหน่อยนะครับ เกี่ยวหับองกรณ์นี้ พอดีผมเกี่ยวกับองกรณ์นี้เป็นอย่างดี

พูดตรงๆคือ เหล่าผู้บริหาร มีความคิดในแนวเดียวกับ กปปส แต่ แต่ครับ ขอเน้น คำว่าแต่นี้เลย
แต่ลูกน้อง กับหัวหน้ามีความเห็นไม่ค่อยตรงกับ หัวหน้าเท่าไร แต่ก็ทำอะไรไม่ไ้ด้ นอกจาก เอ่อ ออ ไปกับหัวหน้า เพราะเคยมีกรณีที่ แตกหักกันมาแล้ว
แล้วไง รู้หรือเปล่า ลูกน้องยังไงก็ลูกน้อง ขอพูดแค่นี้
ส่วนหนึ่งจึงต้องปรับตัวตามหัวหน้า

บอกได้เลย ว่ามี รพ แห่งหนึ่ง ในภาคเหนือ ที่ ผอ รพ บังคับ เปิก บลูสกาย ทั้ง รพ
จะบอกว่ามันเหมือนยัดเยียด ความคิดของ หัวหน้า ให้กับ ลูกน้อง และ ผู้ป่วย

มีหลายคนล่ะ ที่มาเล่าว่าทำไมต้องเปิด บลูสกาย ทั้งวันทั้งคืน


ถ้าคุณไม่เชื่อ ก็ลองไปหาดูเอาเอง
นักล่าไซเบอร์ คงหาเองได้ไม่ยากว่า รพ ไหน

ขอบอกอีกนิด
ใครที่บอกว่าหัวหน้า ทำถูกแล้วที่ยัดความคิดนี้มาให้
ผมว่าคุณก็เหมือน คน ไม่มีสมองเลย ถ้ามีคน คนนึ่ง มายัดความคิด บางอย่างให้คุณ โดยที่คุณ ไม่ได้ไตร่ตองอะไรเลย มันยิ่งกว่าคนโง่อีกครับ

ลองไปดูโรงพยาบาบลทางใต้บ้างสิครับ อย่าดูแต่ภาคเหนือ

1912490_677566992279279_941525094_n.jpg

 

 

รูปนี้รุ่นน้องผมครับ เป็นลูกของอาจารย์แพทย์ที่มหาวิทยาลัยผม

[Ricebeanoil]

 

 

 

เอากันชัดๆก็ต้องรอคุณหมอมาตอบเองนะครับ
 
แต่เท่าที่ผมสัมผัสมา (พี่ชายกับพี่สะใภ้ผมเป็นหมอทั้งคู่)
 
นโยบาย 30 บาท ที่นักการเมืองหาเสียงว่าเป็นความสำเร็จ
 
เบื้องหลังความสำเร็จบรรดาหมอๆเหนื่อยกันเลือดตากระเด็นครับ
 
 
คือถ้าหมอทั้งหลายไม่ร่วมแรงร่วมใจกัน  นโยบายนี้ก็เจ๊งแน่
 
ทว่าพอนโยบายเดินต่อไปได้   เห็นผลเป็นรูปธรรม
 
ทักษิณกลับเอาหน้าคนเดียว  ไม่เคยให้เครดิตหมอเลย
 
 
รายหัวก็บีบ  ทว่าความรับผิดชอบก็มากขึ้นเรื่อยๆ
 
ถ้า รพ.บริหารจัดการไม่ดีนี่ไปไม่รอดหรอกครับ
 
ทว่าคนเราได้ร่ำเรียนเป็นหมอ  เขาก็มีสติปัญญาดีกันทั้งนั้น
 
เรื่องยากมันก็เลยพอทำได้
 
 
และแล้วรัฐก็มาริเริ่มระบบให้คะแนน  ระบบที่ต้องแข่งกันทำแต้มกับผู้ป่วย
 
ตรงนี้หมอดีๆเขารับไม่ได้กันครับ
 
หมอดีๆเขาให้เวลากับคนไข้  เขาไม่ต้องการมาแข่งกันเก็บสกอร์
 
 
อีกทั้งหมอเขาก็รู้สึกนะครับว่า  เขาบริหารจัดการงบกันแทบตาย
 
แต่นโยบายประชานิยมอย่าง  จำนำข้าว กลับใช้เงินกันอีลุ่ยฉุยแฉก
 
โกงกันสะบัด  แต่คนที่เหนื่อยกลับเหนื่อยหนักเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้คนขี้โกง
 
เรื่องน่ารังเกียจแบบนี้  สังคมที่มีประสิทธิภาพจะตื่นรู้ก่อนครับ
 
แพทย์ทั้งหลายเขาก็เลยค่อนข้างพร้อมเพรียงกัน
 
 
แต่ส่วนสังคมอื่นๆเขายังไม่รู้สึกตัวกันเท่าไหร่
 
เป็นเรื่องปรกติครับ  โลกนี้มีคนโง่มากกว่าคนฉลาดเสมอ

ขอโทษครับ
ผมว่าผมมีความเห็นแย้งนิดหน่อยครับ

ผมไม่เถียงเลยว่าหมอ เก่ง หมอดี

ผมสามารถบอกได้เลยว่า ก่อนยุค ทักสิน กับหลังยุคทักสิน
หมอเป็นอย่างไร

แน่นอนครับ ผมสามารถพูดได้เต็มปาก ว่า ญาติๆ คุณที่เป็นหมอ หลังจากยุคทักสินเป็นยังไง

แต่ ก่อนยุคทักสิน เป็นยังไง คุณพอจะรู้ไหมครับ?

ผมสามารถพูดได้เลยว่า หมอ ยุคปัจจุบัน ทำงานยาก! สำหรับยุดปัจจุบันหลังทักสิน
ผมก็ไม่ได้จะดูถูกหมอหรอกครับ (ซึ่งผมดูถูกไม่ได้แน่ๆ)
แต่ นิสัยคนไทยบูชาหมอ อันนี้ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก (หมอก็ทำอะไรเองไม่ได้หรอกคับ เพียงแต่อาชีพเขา ทำงานเกี่ยวกับชีวิตคนเท่านั้นเอง ผมเองก็เคยลองภูมิ กับหมอมาแล้ว จะบอกว่าแพ้ก็แต่ ความรู้ทางวิชาการเท่านั้น นอ
นั้นหมอก็ คน... คนหนึ่ง)

ที่ผมพล่ามมา ไม่มีอะไรรหรอกครับ นอกจาก
"ความคิดหมอ เพียงแค่ไม่กี่คน อย่าเอามาอ้างเลยว่าเป็นนมติของหมอๆ ทั้งประเทศ"

 

 

 จริงหรือครับ...

 

ถ้าดูในโรงพยาบาลที่ผมอยู่ เป็นโรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่งใน กทม  อาจารย์หมอมากกว่า 90% สนับสนุน กปปส ครับ

 

 

โรงพยาบาลที่ผมเรียนและทำงานอยู่ ก็เป็นอัตราส่วนแบบนี้ละครับ 

อาจารย์บางท่านขณะกำลังสอนอยู่ ก็พูดขึ้นมาลอยๆ อยากไปม๊อบตอนนี้ซะงั้น

ผมเลยคิดในใจอยู่เลยว่า สอนผมให้จบก่อนแล้วค่อยไปดีไหมครับอาจารย์

ปล. อยู่ใน กทม. นะ

[whiskypeak]

ผมว่าความอึดอัด ที่ได้รู้ ได้เห็นสิ่งที่ระบอบทักษิณกระทำต่อวงการแพทย์ หรือแม้แต่ความชั่วช้าที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยก็ส่วนนึงครับ..

แต่ถ้าพูดถึงความ"กล้า" ที่จะออกมา"ท้าชน" กับระบอบทักษิณอย่างที่ จขกท ถาม..ผมว่า น่าจะเกิดจากความพร้อมครับ

คือ พร้อมทั้งปัญญา พร้อมทั้งปัจจัยในการดำรงชีพ และที่สำคัญ ผมว่า อาจเพราะ การเจริญเติบโตทางหน้าที่การงานของหมอ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากฝีมือ ไม่ใช่จากน้ำลาย และการเป็นขี้ข้ารับใช้ครับ..

เพราะหมอเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตาย ถ้าไม่เก่งจริง ก็คงเติบโตได้ยากนะ

ส่วนกระทรวง ทบวง กรมอื่นๆ ที่ยังไม่กล้าออกมากันมาก สังเกตดูระดับใหญ่ๆ หลายๆตำแหน่ง สามารถเป็นได้ อย่างมีวันนี้เพราะพี่ให้ ได้ดีเพราะเป็นขี้ข้าก็มีเยอะแยะ

ก็อย่างที่ไอ้คุณ aiaiss2 บอกนะแหละ แม้หัวอาจโตมาได้เพราะรับใช้นาย แต่ถ้าไม่ใช่คนเก่ง คนดีจริง ลูกน้องมันก็ต้องมีอึดอัดกันลับหลังบ้าง แต่ก็คงทำอะไรไม่ได้มาก 

เหตุเพราะด้วยปัจจัยดำรงชีพอย่างที่ว่า ที่หมอมี แต่คนเหล่านี้อาจยังไม่พร้อม ถ้าหากโดนกลั่นแกล้ง ตำแหน่งหน้าที่การงานมันก็คำ้คออยู่ละครับ

แต่ถ้าแก้เรื่องของระบบราชการ ให้เป็นอิสระจากระบบการเมืองได้ คนสามารถเติบโตได้ด้วยความสามารถจริงๆ เมื่อนั้น..ผมเชื่อว่า การต่อสู้ กับ ทรราช กับการทุจริต ก็น่าจะสมน้ำสมเนื้อ และทำได้ดีกว่านี้ครับ..

[หนุ่มเกาหลีมีแฮงคัก]

อาจเพราะ การเจริญเติบโตทางหน้าที่การงานของหมอ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากฝีมือ ไม่ใช่จากน้ำลาย และการเป็นขี้ข้ารับใช้ครับ..

 

ชัดเจนครับ

[Bayonet]

ขอพูดอะๆรหน่อยนะครับ เกี่ยวหับองกรณ์นี้ พอดีผมเกี่ยวกับองกรณ์นี้เป็นอย่างดี
---ที่เหลือไร้สาระ----

 

สงสัยว่าเป็นตัวเดียวกับ ไอ้เวลล เข็นศพ  จากเวปบอร์ดแห่งหนึ่ง .... ที่กระสันอยากจะเป็นลูกเขย อาแกว  ... ใช่มั๊ยเนี่ย  

 

พฤติกรรมชอบกางสัด ๆ เหมือนกัน  

Edited by Bayonet, 2 March 2014 - 09:54.

[annykun]

หมอเค้ามีความรู้สึกว่า  ระบอบทักษิณมองว่า  หมอดีๆทำงานเพื่อคนไข้  กลายเป็นไอ้หน้าโง่  ที่มีไว้ใช้งานและส่งส่วยผลประโยชน์เพื่อนักการเมืองเท่านั้น

ไม่ใช่แค่หมอหรอก  เค้ามอง  "คนดี  คือไอ้หน้าโง่  มีไว้ให้หลอกใช้งาน  มีไว้หาผลประโยชน์ "  ทั้งหมดทุกวงการนั่นล่ะ  พวกเค้าสำคัญตนผิดว่าตัวเอง

คือผู้ทำเพื่อประชาชน  ดังนั้น  หมอที่ดี  ก็ต้องทำเพื่อเค้า(เพราะเค้าทำเพื่อประชาชน)  ดังนั้นเค้าจะใช้งานหมอแบบไหนก็ได้  วางกฎเกณฑ์แบบไหนก็ได้

หมอจะเหนื่อย  จะทุกข์ยากลำเค็ญอย่างไร  จะไม่พอใจยังไง  ก็ห้ามบ่น  ห้ามโวยวาย  มิฉะนั้น  แสดงว่าเป็นหมอไม่ดี  ไม่จำเป็นต้องแคร์

 

ปรากฎว่า  ว่าหมอแม่งเหรี้ย  (เนื่องจากต่อต้านระบอบทักษิณ) ทุกโรงบาลเลย  เหรี้ยกันเกินกว่า  90% อีก  อาชีพนี้แมร่งอำมาตย์สุดๆ

Edited by annykun, 2 March 2014 - 18:30.

[Quezonla]

คุณหมอมีเกียรติในฐานะผู้ช่วยชีวิตมนุษย์  เป็นฐานะที่ใครก็มาช่วงชิง หรือทำให้ตกต่ำลงไปไม่ได้ นอกจากเจ้าตัวจะไม่เห็นค่าความเป็นหมอของตัวเอง

ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหนอย่างไร ก็สามารถคงความเป็นหมออยู่วันยังค่ำ ด้วยฐานะอันนี้ทำให้คุณหมอไม่เกรงกลัวอำนาจทางการเมือง ในขณะที่คุณครูทั้งหลาย

มีเกียรติก็จริง แต่คนที่จะเกรงใจก็มีเพียงลูกศิษย์ที่เคยสอนกันมาเท่านั้น อาชีพครูถ้าต้องตกงาน หรือถูกกลั่นแกล้ง จนไม่มีการสอน ไม่มีลูกศิษย์ ความเป็นครูก็ไม่อาจคงอยู่

ยิ่งสายงานมหาดไทยนี่ ยิ่งขึ้นอยู่กับการเมืองใหญ่ ถ้าออกจากราชการ ชีวิตก็ต้องไปเผชิญความยากลำบากกว่าเดิม เพราะพื้นฐานไม่ได้ถูกฝึกฝนมาในด้านธุรกิจการงานอื่น

นี่แหละ ทำให้การแสดงออกของแต่ละอาชีพแตกต่างกันไป

[wanakon]

พี่สาวเป็นหมอฟันใน รพ.ทางเหนือ กลางดงแด๊งแดง แต่หมอๆ เกลียดทักษิณสุดๆ มีนกหวีด ธงชาติ เกือบทุกคน อยู่ไกลไปม็อบไม่ได้ก็ฝากเงินฝากของไปแทน