Jump to content


Photo
* * * - - 2 votes

ใครกันแน่ ที่ทำเพื่อคนไทยอย่างแท้จริง


  • Please log in to reply
24 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 ctpk05

ctpk05

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 967 posts

ตอบ 1 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 22:31

*
POPULAR

จากการที่ผมอาศัยอยู่ที่เชียงใหม่ ได้ฟังคนเสื้อแดงนักต่อนักกล่าวยกย่องคนที่ชื่อทักษิณ ว่าดีอย่างนั้น อย่างนี้ และตบท้ายว่า "ท่านทำเพื่อคนไทยอย่างแท้จริง"

 

กลับมานั่งคิดก็รู้สึกเศร้าใจ ใครกันแน่ที่ทำเพื่อคนไทยอย่างแท้จริง ไม่ใช่พระเจ้าแผ่นดินที่พวกเขา

จาบจ้วง ใส่ความอยู่ทุกวันหรอกหรือ น่าเสียดายที่กลุ่มคนพวกนี้มีโอกาสได้เห็นพระองค์ท่านออกปฏิบัติพระราชกรณียกิจในถิ่นทุรกันดาร แต่พวกเขากลับมองเห็นเศษเงินที่คนๆนั้นโปรยให้ มากกว่าสิ่งที่พระองค์ท่านทรงสอนให้ พระองค์ท่านตรากตรำพระวรกายก็เพื่อใคร ไม่ใช่เพราะพวกเราคุณๆท่านๆหรอกหรือ แต่เมื่อท่านอ่อนแรงลง พวกเขากลับมองว่าท่านหมดประโยชน์ และยิ่งบูชาเศษเงินของคนๆนั้นหนักเข้าไปอีก และกลับมองว่าโครงการต่างๆที่พระองค์ท่านคิดนั้นไร้ประโยชน์ ใช้ไม่ได้จริง ยิ่งนึกก็ยิ่งเศร้าใจ

พวกเขากล่าวว่านักการเมืองที่เขาเทิดทูนถวายหัวนั้น เข้าถึงประชาชน ไม่แบ่งชนชั้น แต่เขาจะรู้ไหม ว่าลับหลังแล้ว นักการเมืองเหล่านั้นพูดถึงพวกเขาว่าอย่างไร แต่กลับกัน จะมีพระเจ้าแผ่นดินที่ไหนในโลก ที่สัมผัสและเข้าถึงประชาชนโดยไม่ถือพระองค์ ไม่มีชนชั้นวรรณะ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง

 

อยากให้เขาได้คิดดู ว่าใครกันแน่ ที่ทำเพื่อคนไทยอย่างแท้จริง

 

599374_10151032374707922_1254489094_n.jpg

 

486418_10151051785307922_690510549_n.jpg

 

75089_20_5.jpg

 

1136474036.jpg


Edited by ctpk05, 1 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 22:33.

"ข้าพระพุทธเจ้า จักยอมตาย เพื่อดำรงไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า"


#2 CrazyDaimon

CrazyDaimon

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 879 posts

ตอบ 1 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 22:51

*
POPULAR

เคยคิดเล่นๆ นะครับว่าถ้า เรายังคงระบบสมบูรนายา จนถึง ปัจจุบัน

ไพร่ฟ้าประชาชนจะมีความอยู่ดีกินดีกว่านี้ขนาดไหน

ผมไม่ได้หมายถึง รวยหรือจน นะครับ

#3 galaxy2

galaxy2

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,063 posts

ตอบ 1 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 23:21

สังคมมนุษย์เสื่อมลงตามกาลเวลา...พวกท่านเท่านั้นที่พยายามยับยั้งให้เสื่อมลงได้อย่างช้าๆ..แต่คงจะเปลี่ยนใจที่มืดบอดของคนอื่นๆได้ยาก...



#4 ธีรเดชน้อย

ธีรเดชน้อย

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,659 posts

ตอบ 1 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 23:25

เคยคิดเล่นๆ นะครับว่าถ้า เรายังคงระบบสมบูรนายา จนถึง ปัจจุบัน

ไพร่ฟ้าประชาชนจะมีความอยู่ดีกินดีกว่านี้ขนาดไหน

ผมไม่ได้หมายถึง รวยหรือจน นะครับ

 

ผมก็คิดอย่างนั้นนะครับ  :)


" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ   "

 

 


#5 CrazyDaimon

CrazyDaimon

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 879 posts

ตอบ 1 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 23:26

เราถลำเข้าสู่ทุนนิยม คนนิยมทุน มิใช่ศีลธรรมความดีงาม

เราไม่ได้กล่าวลอยๆ แต่เราสัมผัสมันได้ทุกวันรอบๆตัวเรา

#6 A Better Tomorrow

A Better Tomorrow

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 333 posts

ตอบ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:16

พวกเสื้อแแดง มันไม่รู้สำนึกหรอกครับ

 

ไม่รู้ว่ามันโง่ หรือมันโลภ ขี้เกียจ หรือไม่ทันคน ก็ไม่รู้



#7 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:24

นักการเมืองยื่นปลา พระราชายื่นเบ็ด 

 

รัฐบาลมาแล้วก็ไป แต่พระเจ้าแผ่นดินจะอยู่นาน 

พระเจ้าแผ่นดินไม่ได้ทำงานแข่งกับรัฐบาลเพื่อชื่อเสียงและมวลชน

แต่ทำเพราะพระเมตตาเพื่อประชาชนทุกคน ทุกภาค ทุกศาสนา  


Edited by อู๋ ฮานามิ, 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:24.

ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#8 Saaai

Saaai

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 7 posts

ตอบ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:39

สุเทพ แล้วเหล่ามวลมหาประชาชนครับ พวกเราทำเพื่อชาติจริงๆ กรั้กๆ

#9 oneclick999

oneclick999

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,783 posts

ตอบ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:56

พวกควายแดงหน้าโง่มันคิดไม่ถึงและคิดไม่ออกหรอกว่า ทักษิณกับบริวาร ญาติพี่น้องลูกเมียของมัน ยังไม่เคยไปเหยียบในจุดที่กันดารที่สุดของภาคเหนือ แต่ในหลวงไปมาทุกที่แล้ว



#10 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 12:32

สุเทพ แล้วเหล่ามวลมหาประชาชนครับ พวกเราทำเพื่อชาติจริงๆ กรั้กๆ

ไอ่แม้วทำเพืื่อชาติจริงๆ จ้างขี้ข้าหมารับใช้ ยังต้องเอาเงินภาษีชาวบ้านมาจ้างเลย 



#11 Rxxxx

Rxxxx

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,486 posts

ตอบ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 12:42

                                           ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน 

 

                          เสด็จเชียงใหม่ครั้งแรก 4 ถึง 19 มีนาคม พ.ศ. 2501
                                      Royal Chiang Mai First Visit march 4-10,1958

                                                

                                       

 

 

                      ในหลวงเสด็จเยี่ยมพสกนิกรทางภาคใต้ครั้งแรกในระหว่างวันที่ 6 - 26 มีนาคม พ.ศ.2502

 

                    วันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2502 ระหว่างพระองค์ท่านเสด็จน้ำตกป่าตอง จังหวัดภูเก็ตเป็นการส่วนพระองค์

 

                    หลังจากที่เสด็จลงจากน้ำตกป่าตอง ได้มีราษฎรนำน้ำหวานที่ผลิตขึ้นเองในจังหวัดภูเก็ตมาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย

 

                    ซึ่งพระองค์ท่านทรงรับมาเสวย และตรัสขอบใจผู้ที่นำมาทูลเกล้าถวายทุกๆคน

 

                         คลิปนี้นาทีที่ 16 :19 ครับ

                        

 

 

                               พระองค์ทรงใกล้ชิดพสกนิกรมาตลอด  ไม่ได้ทรงถือพระองค์เลย

 

            1393832296-a1-o.jpg

 

 

               1393825094-a-o.jpg

         

 

               1393824514-d-o.jpg

 

 

              1393824465-e-o.jpg

 

                                                        2328-72.jpg

                                     

                                 ราษฎรชาวป่าตองถวายน้ำอัดลม"น้ำสปิริต" ที่ผลิตในจังหวัด แด่พระองค์ท่าน

                                  http://www.phuket232...ctivity129.html

 

 

                                   2328-74.jpg   2328-75.jpg

 

                  มีผู้หญิงชาวบ้านคนหนึ่ง ชื่อ นางข้อย จำนงรักษ์ จำได้ว่าทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ที่เสด็จไปประทับยืนทอดพระเนตรชาวบ้านซักผ้าอยู่ด้วยความสนพระทัย จึงได้นำน้ำหวาน ที่ผลิตจากโรงงานพื้นเมืองในจังหวัดภูเก็ต มาทูลเกล้าถวายหนึ่งแก้ว พระองค์ทรงรับ แล้วมีพระราชดำรัสถามว่า “น้ำอะไร” ชาวบ้านไม่สามารถกราบทูล เป็นคำราชาศัพท์ได้ จึงกราบทูลว่า “น้ำมินิด เจ้าค่ะ” ซึ่งเป็นศัพท์พื้นเมืองของภูเก็ต ที่ใช้เรียกน้ำอัดลม “เลม็อนเนด” ในขณะนั้น พระองค์ทรงรับมา และเสวยโดยไม่ได้ถือพระองค์แต่อย่างใด ยังความปลื้มปีติแก่บรรดาชาวบ้าน ที่มีโอกาสได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท โดยใกล้ชิดในวันนั้น อย่างหาที่สุดมิได้

                                    http://123.242.171.1...takeprivate.htm

 

 ชีวิตนักข่าว...ในหลวงเสด็จส่วนพระองค์ที่ป่าตอง

    ณรงค์ ชื่นนิรันดร์
    6 มีนาคม 2553
ชีวิตนักข่าวของผม สิ่งที่ฝังอยู่ในจิตใจก็คือความอยากรู้อยากเห็นในเรื่องที่น่าสนใจ และยากที่คนอื่นจะหาพบ วันนี้ผมมีโอกาสได้เข้ามากรุงเทพ ผมก็ได้ตระเวนไปที่ย่านสะพานควาย ที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักมากนัก เพื่อหาหนังสือเก่ามาอ่าน เพราะผมมีความเชื่อว่า หนังสือยิ่งเก่ายิ่งทรงคุณค่ามาก ถ้าท่านไปย่านสะพานควายช่วงวันเสาร์และวันอาทิตย์ ก็จะมีพ่อค้าแม่ค้า นำของเก่ามา วางขายเรียงรายริมถนนพหลโยธิน ตั้งเป็นโต๊ะเรื่อยไปจนถึงตลาดนัดสวนจตุจักร และผมก็พบหนังสือเล่มหนึ่งค่อนข้างเก่า ชื่อ หนังสือวารสารสมาคมเพื่อการรักษาสมบัติวัฒนธรรม ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2512 ในหน้าที่ 43 คอลัมน์ ชื่อเรื่องของดีเมืองภูเก็ต เขียนโดย แสวง ศรีเพ็ญ ซึ่งเป็นหนังสือเก่าอายุ 41 ปี แต่เมื่อผมยืนอ่าน ปรากฏว่า เนื้อสาระเป็นเรื่องการเสด็จพระราชดำเนินส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ป่าตอง จ.ภูเก็ต เมื่อปี พ.ศ. 2502 และผมขอคัดลอกเพื่อนำมาเสนอท่านให้ทราบว่า เป็นประวัติศาสตร์ช่วงหนึ่งของภูเก็ต                                                                                          

                                                                                   h253.jpg

 

                                                                                                       ของดีเมืองภูเก็ต

โดย...แสวง ศรีเพ็ญ
วารสารสมาคมเพื่อการรักษาสมบัติวัฒนธรรม ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2512
         
  สิ่งที่ประทับใจและน่าภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ชาวตำบลป่าตองของจังหวัดภูเก็ต จะต้องจารึกและจดจำไว้ในดวงใจตราบชั่วชีวิตของชนรุ่นนี้ ตลอดจนถึงชน รุ่นหลังสืบต่อกันไปอีกชั่วลูกชั่วหลาน สิ่งนั้นก็คือเรื่องราวและความเป็นมาของราชปาทานุสรณ์ ที่กำลังจะเสนอทานดังต่อไปนี้
เมื่อวันนั้น ซึ่งหมายถึงเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2502 ที่บันไดหน้าบ้านเลขที่ 16 หมู่ที่ 2 ที่ตั้งสงบเงียบอยู่ท่ามกลางดงมะพร้าวและสวนยางอันร่มครื้มตามสภาพบรรยากาศ ในชนบททางตอนใต้ของประเทศไทย และอยู่ตรงข้ามกับวัดสุวรรณคีรีวงศ์ ซึ่งเป็น บ้านของนางลมุล ภิรมฤทธิ์ ขณะนั้นเวลาประมาณ 12.05 น. นางลมุนกำลังรับประทานอาหารอยู่ในบ้าน บังเอิญสายตาเหลือบไปเห็นบุรุษสองคน กำลังเดินตรงมาที่บ้าน ในตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก คงก้มหน้ารับประทาน อาหารต่อไปอีก ด้วยเข้าใจว่าคงเป็นเพื่อนบ้าน ธรรมดาสามัญชนที่เคยผ่านไปมา
แต่ ก็คล้ายกับมีอะไรบางอย่างสะกิดใจให้นึกถึงพระบรมฉายาลักษณ์ ที่ติดบูชาไว้บน หิ้งข้างฝาเหนือหัวนอน จึงหันกลับไปมองดูอย่างพิจารณาอีกครั้ง การหันกลับไป มองดูใหม่ในครั้งหลังนี้ทำให้นางลมุนตกใจแทบหมดสติ จนเผลอตัวร้องออกมาด้วย ความตกใจว่า “โอ้ ยจ้าว” และพร้อม ๆ กันนั้นก็พรวดพราดลุกขึ้นทันทีในลักษณะของคนตกใจสุดขีด ด้วยไม่เคยคาดคิดมา ก่อนว่าจะเป็นไปได้ เพราะผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าบันไดบ้านนั้นคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน ได้มาเสด็จประทับยืนอยู่อย่างเงียบ ๆ มีหม่อมทวีวงศ์ถวัลย์ศักดิ์ เป็นผู้โดยเสด็จมาด้วยในขณะนั้น
 นางลมุลแต่งกายธรรมดาชนิดอยู่กับบ้านและตามแบบฉบับที่นิยมกันทั่ว ๆ ไปของชาวบ้านเป็นส่วนมากในตำบลที่ห่างไกลออกไปของจังหวัดภูเก็ต คือการนุ่งผ้าโสร่งกระโจมอก ความตกใจยังไม่หมดไปแต่ก็ยังดีที่อุตส่าห์ครองสติอยู่ ได้ นางลมุนรีบจัดแจงคว้าเสื้อมาสวมอย่างรุกรี้รุกรน พระองค์มีพระราชดำรัสว่า “ไม่เป็นไรตามสบายอย่างนั้นก็ได้” แล้วมีพระราชดำรัสถามถึงทุกข์สุขและความเป็นอยู่ การทำมาหากินของนางลมุนว่าเป็นอย่างไร ตลอดทั้งเพื่อนบ้านข้างเคียงอีกด้วย และในโอกาสเดียวกันนั้นก็ทรงบันทึกภาพต่าง ๆ ไว้ ด้วยเสียงร้องอย่างตกอกตกใจ “โอ้ยจ้าว” ของนางลมุน ได้ยินไปถึงเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างเคียงและเสียงรถยนต์ของเจ้า หน้าที่ผู้ติดตามอีกหลายคันแล่นเป็นขบวนเข้ามาในหมู่บ้านป่าตองอย่างรีบเร่ง เนื่องด้วยเจ้าหน้าที่เหล่านั้นต่างก็ยังไม่ทราบว่าขณะนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะประทับอยู่ที่ใด เพราะพระองค์ท่านได้ทรงแยกขบวนออกมา โดยไม่มีใครทราบล่วงหน้ามาก่อน 
  และด้วยการบอกเล่ากันต่อๆไปจากปากสู่ปากของชาวบ้าน ฉะนั้น เพียงชั่วไม่กี่นาที ข่าวการเสด็จมาเยี่ยมเยียนประชาราษฎรชาวป่าตองของล้นเกล้าล้นกระหม่อมก็แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว รอบ ๆ บริเวณที่พระองค์ประทับอยู่นั้นจึงเนื่องแน่นไปด้วยฝูงชนชาวป่าตอง รวมทั้ง พระภิกษุสามเณรอีกมากมายที่พากันออกมาเพื่อเฝ้ารับเสด็จด้วยความจงรักภักดี และเพื่อชื่นชมบารมี เพราะทุกคนตั้งแต่เกิดมาพึ่งจะวันนี้แหล่ะ ที่จะได้เห็นพระองค์ท่านด้วยสายตาอย่างชัดแจ้งและแท้จริง ไม่ใช่นึกฝัน เหมือนสวรรค์บันดาลและไม่มีใครคิดมาก่อน ในขณะนั้นถนนหนทางที่เข้ามาสู่บ้านนั้นก็แสนจะลำบาก ต้องเลียบไปตามไหล่เขาที่บางแห่งก็สูงชันและคดเคี้ยวไป มา เพื่อหลบหลีกชะง่อนหินและต้นยางใหญ่ที่สูงละลิ่วเสียดยอดขึ้นไปชนิดแหงน ดูคอตั้งบ่า จากถนนใหญ่เข้าสู่หมู่บ้านก็อยู่ห่างกันตั้งหลายกิโลนาน ๆ จะมีรถบรรทุกคันใหญ่ ๆ ขนสินค้าเข้าไปส่งบ้างเป็นครั้งคราว แล้วผู้ขับขี่ต้องมีความชำนาญและมือแน่จริง ๆ จึงจะกล้าขับเข้าไป ในวันนั้นชาวบ้านบอกว่าพระองค์ทรงขับรถจิ๊ปเข้าไปเอง ยิ่งทำให้เป็นสิ่งประทับใจของชาวบ้านแห่งนี้เพิ่มขึ้นอีกเป็นทวีคูณ
เมื่อ มีประชาชนออกมาเฝ้ารับเสด็จมากมายเช่นนั้น พระองค์จึงเสด็จออกไปประทับยืนที่ริมทางตรงกันข้ามกับประตูของวัดสุวรรณคีรีวงศ์ ภายใต้ร่มไม้ใหญ่ ซึ่งมีบริเวณกว้างขวางพอที่ราษฎรชาวบ้านนี้จะเฝ้ารับเสด็จได้สะดวก พระองค์ได้พระราชทานกระแสพระราชดำรัสอย่างเป็นกันเองกับชาวบ้าน เกี่ยวกับความทุกข์สุขการทำมาหากินและอื่น ๆ อีก ต่อจากนั้นยังเสด็จพระราชดำเนินร่วมกับชาวบ้านไปยัง “น้ำตกวังขี้อ้อน” เพื่อทอดพระเนตรความงามของธรรมชาติและทรงพักผ่อนอิริยาบถอยู่ที่นั้นเป็น เวลานานพอสมควร แล้วจึงเสด็จกลับเส้นทางเดิม ทิ้งความอาลัยอาวรณ์และความจง รักภักดีอย่างสุดซึ้งในน้ำพระทัยของพระองค์ไว้กับชาวบ้านป่าตอง
ล้น เกล้าล้นกระหม่อมทรงจากไปแล้ว แต่ยังมีบางสิ่งที่พระองค์ทรงทิ้งเอาไว้อย่าง ไม่ยอมจากไปง่าย ๆ สิ่งนั้นคือรอยพระบาทของพระองค์ ที่เหลือรอยทิ้งไว้ให้เป็นสักขีพยาน เป็นสิ่งประทับใจและเพื่อเป็นอนุสรณ์แทนพระองค์สืบไปอีกชั่วกาลนาน
ในขณะที่ทุกคนกำลังตกอยู่ในสภาพที่ตื่นเต้นและตื้นตันใจ รวมทั้งความดีใจและ อะไร ๆ อีกร้อยแปดอย่าง บอกไม่ถูกต่อเหตุการณ์การเสด็จมาครั้งนี้ แต่มีอยู่คนเดียวเท่านั้นที่เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่ด้วยความเต็มตื้นสงบนิ่งด้วยจิตมั่นคงแน่ว แน่และกำลังใช้สมองอันเฉียบแหลม คิดจะดำเนินการอะไรสักอย่างให้เป็นอนุสรณ์ เกี่ยวกับการเสด็จมาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในครั้งนี้ เพื่อให้เกิด ประโยชน์ต่อสาธารณชนและต่อหมู่บ้านนี้สืบไป ท่านผู้นี้คือ พระครูพิสิษฐ์ กรณีย์ เจ้าอาวาสวัดสุวรรณคีรีวงศ์ 
ทันใดที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเคลื่อนออกจากที่ประทับยืนอยู่เมื่อครู่นี้ เป็นระยะห่างพอสมควรแล้ว ท่านเจ้าอาวาสก็รีบคว้าไม้หลักที่หมายตาไว้ไปปักลงตรงรอยพระบาทที่ได้ ประทับยืนอยู่อย่างแน่นหนา เพื่อเป็นเครื่องหมาย แล้วคิดกำหนดโครงการไว้ต่อ ไปอีกว่า เมื่อถึงเวลาและมีกำลังพอก็จะหาทางร่วมกับชาวบ้านชาวป่าตอง สร้าง จำลองเป็นรอยพระบาทของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตรงหลักที่ปักไว้เป็นเครื่องหมายอย่างถาวรเพื่อให้เป็นศักดิ์ศรีคู่บ้านคู่เมืองและเป็นสิ่งที่เคารพ สักการะแทนพระองค์ และให้เป็นที่ประจักษ์สืบต่อไป อีกชั่วนิรันดร์
ครั้นแล้วต่อมาอีกไม่นานนักด้วยความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวอันมีต่อชาวบ้านป่าตองอย่างล้นเกล้า ทำให้ชาวบ้านป่าตองทุกคน เห็นความสำคัญ เห็นคุณค่ามหาศาล ในอนาคตและเห็นดีเห็นงาม ตามความคิดกับความตั้งใจ อย่างแน่วแน่ของพระครูพิสิษฐกรณีย์ เจ้าอาวาสวัดสุวรรณคีรีวงศ์ ทุกคนจึง พร้อมใจกันเสียสละ ทั้งกำลังกายและกำลังทรัพย์ตามความสามารถ จัดสร้างอนุสรณ์สถานขึ้นตามแบบแปลนแผนผังที่ช่วยกันคิดขึ้น คือทำเป็นรอยพระบาทจำลองของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยคอนกรีต มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส สูงประมาณ 2 เมตร มีหลังคาสำหรับกันแดดกันฝนและเพื่อความสวยงาม สูงจากพื้นที่ประมาณ 3 เมตรเศษ ลักษณะคล้ายมณฑป และมีอักษรจารึกไว้ที่แผ่นคอนกรีตซึ่งทำขึ้นคล้ายกับหลักศิลาจารึกมีข้อความว่า
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกที่เสด็จเยี่ยมราษฎรในตำบลป่าตองโดยมิได้ทูลเชิญเสด็จฯ เสด็จลงจากรถยนต์พระที่นั่ง ทรงเหยียบสถานที่นี้เป็นปฐมฤกษ์เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2502 เวลา 12.03 น. ตรงกับวัน 4 ฯ 4 ปีกุน”
เมื่อ การก่อสร้างทุกอย่างเกี่ยวกับอนุสรณ์สำเร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านพระครูและชาว บ้านทั้งหลายต่างก็ปราบปลื้มชื่นชมโสมนัสกันเป็นที่สุด เจ้าอาวาสได้ตั้ง ชื่อให้ว่า “ราช ปาทานุสรณ์” มีงานสมโภชกันทั้งวันทั้งคืน ประชาชนทั้งในตำบลนี้และใกล้เคียงตลอดทั้งจาก จังหวัดภูเก็ต ก็มาร่มการสมโภชกันอย่างมากมายเป็นที่สนุกสนานและเป็นเกียรติ ประวัติ แล้วต่อจากนั้นมาคณะกรรมการจัดงานของตำบลนี้ยังจัดให้เป็นงาน ประจำปีตลอดมาทุกๆปีอีกด้วย เจ้าอาวาสและชาวป่าตองพยายามเป็นอย่างยิ่งที่จะรักษาสมบัติอันล้ำค่านี้ไว้ ตลอดทั้งที่โครงการที่จะก่อสร้างเพิ่มเติมอนุสรณ์สถานให้สวยงาม ยิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ เพื่อให้สมกับพระเกียรติและศักดิ์ศรีของ สิ่งคู่บ้านคู่เมือง
ได้ พยายามอยู่ทุกวิถีทางที่จะดำเนินการต่อไปอีกจนถึงที่สุด และชาวป่าตองทุกคน ก็ยังมั่นอยู่ในบุญญาบารมีอภินิหารจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสิ่ง นี้คือ “ราชปาทานุสรณ์” ว่าคงจะช่วยดลบันดาลให้กุศลเจตนาอันดีมีประโยชน์ ทั้งในพลังทางใจและตลอดทั้งมีประโยชน์อย่างมหาศาล ในทางประวัติศาสตร์ของชาว ป่าตองรวมทั้งท่านเจ้าอาวาสซึ่งเป็นผู้ริเริ่มมาด้วยดี ได้สำเร็จลงสมความ ปรารถนาทุกประการ พร้อมกันนี้ ก็ยังหวังในความกรุณาของท่านผู้มีเมตตาจิต คิดจะช่วยเหลือในกิจการนี้อีก ด้วย
สิ่ง ที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะเป็นไปได้ในบ้านป่าเมืองดอน เช่นบ้านป่าตองนี้เสมือน ฟ้ามาโปรดและประดุจเทพเจ้าแห่งความปรานี มาช่วยสร้างความร่มเย็นชุ่มฉ่ำให้ หรือจะเป็นด้วยดวงชะตาของหมู่บ้านแห่งนี้ อันกำลังรุ่งโรจน์ก็ไม่ทราบได้ หลังจากวันนั้นคือวันที่ล้นเกล้าล้นกระหม่อม อันเป็นที่เคารพรักสักการะ ยิ่งของชาวไทยได้เสด็จมาเยี่ยมและเสด็จกลับไปแล้ว ครั้งต่อมาอีกเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2510 เวลาประมาณ 14.40 น. พระราชชนนีก็ได้เสด็จมาที่บ้านป่าตองนี้อีก เพื่อเยี่ยมเยียนราษฎรและชมราช ปาทานุสรณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ชาวป่าตองได้ช่วยกันสร้างขึ้น ด้วยพลังใจแห่งความศรัทธาอย่างสูงสุดขึ้นไว้ พระราชชนนีได้ทรงจารึกพระนาม “ศรีสังวาลย์” ไว้ที่ด้านหลังของหลักศิลาจารึกราชปาทานุสรณ์ เพื่อเป็นอนุสรณ์คู่กันสืบต่อ ไปอีกด้วย ช่างเป็นมหาโชคอะไรเช่นนี้ ชาวป่าตองควรภูมิใจไว้เถิดว่านิมิตดี ได้บังเกิดขึ้นแล้ว และกำลังทอแสงเรืองรองขึ้นด้วยดี ขอให้พวกเราชาวบ้านป่า เมืองดอนแห่งนี้จงช่วยกันรักษาสมบัติล้ำค่านี้ไว้เพียงชีวิต และช่วยกัน บำรุงรักษาให้ภิญโญยิ่งขึ้นเถิด ผู้เขียนมั่นใจเหลือเกินว่าสักวันหนึ่งข้าง หน้านี้ แสงที่กำลังทอเรืองรองอยู่นี้จะสว่างไสวรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น จงช่วยกันรักษาไว้เป็นพิเศษประดุจเพชรน้ำเอกที่มีคุณค่ามหาศาล และสุดจะหาสิ่งใดมาเปรียบปานได้
๙๙๙๙๙๙

Edited by Rxxxx, 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 20:38.


#12 Shariff

Shariff

    สมาชิกหน้าตาดี

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,802 posts

ตอบ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 12:49

พวกลิเบอร่าน ฝันไฝ่หาประชาธิปไตย(ประชาชน)ทุกลมหายใจเข้าออก

 

มันเคยตั้งคำถามใหมว่า

 

มนุษย์โลกที่อาศัยอยู่ก่อนยุคประชาธิปไตย

 

มีชีวิตรอดมาถึงตอนนี้ได้อย่างไรโดยไม่มีประชาธิปไตย


"การปลดปล่อยตัวเองออกจากความเป็นทาสทางความคิดมิใช่ใครอื่น, มีแต่เราเท่านั้นที่จะต้องกระทำ "จากเพลง Redemption song.

#13 สีนวล...สีนิล

สีนวล...สีนิล

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 387 posts

ตอบ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 12:57

พระบรมราโชวาทในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี 11 ธันวาคม 2512

 

"ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุข เรียบร้อยจึงมิใช้การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมความดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้ "

 

 ถึงแม้ว่าพระองค์ท่านจะกล่าวไว้มาไม่ต่ำกว่า 45 ปี แต่มันยังคงทันสมัย สามารถที่ใช้ได้ถึงวันนี้เลยครับ

 

เราคงจะให้ เหวง-นกแสก-ตู่-เต้น หรือพวกชั่วๆ จะเป็นคนดี ที่คิดดีทำดี นั้นคงเป็นไปไม่ได้แน่

 

แต่เป็นการที่ให้คนดี (ไม่รู้ว่าใคร) มาคุมพวกเลวๆไว้ ไม่ให้มีอำนาจ บ้านเมืองนี้น่าจะเป็นสุขสงบได้แน่ๆเลยครับ

 

ผมหวังให้มีคนดี-คนกล้า มาควบคุมพวกเลวๆนี้ให้ได้

 

 

ปล. แก้ไขคำผิดครับ


Edited by สีนวล...สีนิล, 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 13:05.


#14 Rxxxx

Rxxxx

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,486 posts

ตอบ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 12:59

                                   

 

                                              

       พระราชพิธีอภิเษกสมรส พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชพิธีทรงผนวช(เวลาในคลิปเริ่มที่ 1:13:09)
                                            
       ทรงเสด็จประพาสภาคเหนือ 2501(เวลาในคลิปเริ่มที่ 1:55:10) และ ภาคใต้ 2502 (เวลาในคลิปเริ่มที่ 2:42:05)
 
       พระองค์ทรงเสวยน้ำหวานที่ชาวบ้านภูเก็ตนำมาถวายหลังจากเสด็จฯน้ำตกป่าตอง(นาทีที่ 3:15:39) ทรงพระเจริญๆ
 
                                    
                                 
                                     

                                         ในหลวงเสด็จเยี่ยมราษฎรจังหวัดขอนแก่น
                                  5  พฤศจิกายน 2498

                              

Edited by Rxxxx, 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 13:21.


#15 สัตยวาที

สัตยวาที

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 870 posts

ตอบ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 13:04

เกิดมาไม่เคยสงสัยเลยว่า  ใครทำเพื่อคนไทย

 

เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหน  ไปเที่ยว  ไปธุระ  ก็จะพบคำว่า

"โครงการในพระราชดำริ"  "ถวายพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาศ..."  "พระราชทาน..."

และอีกหลายๆคำ  ที่มีความหมายสื่อว่า  "ในหลวง  ทรงเป็นผู้มอบให้ประชาชน" ทั้งนั้น

 

ลองสังเกตุดูเถิด  พระมหากรุณาธิคุณรายล้อมอยู่รอบตัวคนไทยทุกคนเสมอ    :) 


  ขอสาบแช่งคนเลวร้ายทำลายชาติ ให้ไร้สุข มีแต่ทุกข์ ไร้คนรักดูแล อุดมด้วยคนเกลียดชังรังแก

เจ็บป่วย ทรมาน งานการไม่ก้าวหน้า ทำสิ่งใดให้ฉิบหาย วอดวาย อย่าได้พบความสุขใดในทุกชาติภพ


#16 Rxxxx

Rxxxx

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,486 posts

ตอบ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 13:17

                                    เสด็จเยี่ยมราษฎรจังหวัดนครราชสีมา

                            และอีก 14 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
                                  วันที่ 2  พฤศจิกายน 2498

 

                                   

 

 

                                   ในหลวง งานไหลเรือไฟ นครพนม

                           วันที่ 12-14 พฤศจิกายน พ.ศ.2498

 

 

                                    



#17 กล้ากันเกรา

กล้ากันเกรา

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 70 posts

ตอบ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 13:17

พระบรมราโชวาทในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี 11 ธันวาคม 2512
 
"ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุข เรียบร้อยจึงมิใช้การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมความดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้ "
 
 ถึงแม้ว่าพระองค์ท่านจะกล่าวไว้มาไม่ต่ำกว่า 45 ปี แต่มันยังคงทันสมัย สามารถที่ใช้ได้ถึงวันนี้เลยครับ
 
เราคงจะให้ เหวง-นกแสก-ตู่-เต้น หรือพวกชั่วๆ จะเป็นคนดี ที่คิดดีทำดี นั้นคงเป็นไปไม่ได้แน่
 
แต่เป็นการที่ให้คนดี (ไม่รู้ว่าใคร) มาคุมพวกเลวๆไว้ ไม่ให้มีอำนาจ บ้านเมืองนี้น่าจะเป็นสุขสงบได้แน่ๆเลยครับ
 
ผมหวังให้มีคนดี-คนกล้า มาควบคุมพวกเลวๆนี้ให้ได้
 
 
ปล. แก้ไขคำผิดครับ


เดี๋ยวนักประชาธิปไตยจะว่าได้ว่า คนดีกับคนเลวต้องมีสิทธิ์เท่ากัน (คน=เท่ากัน) บ้างทีผมก็เกลียดไอ้ระบอบดัดจริตนี้จริงๆ

#18 jimmydna95

jimmydna95

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 332 posts

ตอบ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 13:31

เห็นพระองค์ท่านแล้ว น้ำตาจะไหล

#19 Rxxxx

Rxxxx

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,486 posts

ตอบ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 13:32

                                  ในหลวงเสด็จเยี่ยมราษฎรเมืองศรีสะเกษ วันที่ 19 พฤษจิกายน พ.ศ. 2498

 

                                               

 

                                           ในหลวงเสด็จเยี่ยมราษฎรเมืองสุรินทร์ วันที่ 19 พฤษจิกายน พ.ศ. 2498

 

                                                


Edited by Rxxxx, 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 13:32.


#20 Rxxxx

Rxxxx

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,486 posts

ตอบ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 13:48

                                  ในหลวงเสด็จพิษณุโลก วันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2501

                                                

                                           

                                                             

 

                                  ในหลวงเสด็จสุโขทัย วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2501

 

                                             


Edited by Rxxxx, 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 13:49.


#21 Rxxxx

Rxxxx

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,486 posts

ตอบ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 14:04

                                        ในหลวงเสด็จจังหวัดนครศรีธรรมราช วันศุกร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ.2502

 

                                                       

 

                                   1393830516-o.jpg

                                                  

                                              Nakhon Si Thammarat - จังหวัดนครศรีธรรมราช: ในหลวงเสด็จฯเมืองนคร,นครศรีธรรมราช

                                               http://nakhonkup999....-post_7960.html

 

 

                                           ในหลวงเสด็จจังหวัดสงขลา 2502 วันอังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2502

 

                                                      


Edited by Rxxxx, 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 14:10.


#22 สีนวล...สีนิล

สีนวล...สีนิล

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 387 posts

ตอบ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 14:10

 

พระบรมราโชวาทในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี 11 ธันวาคม 2512
 
"ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุข เรียบร้อยจึงมิใช้การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมความดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้ "
 
 ถึงแม้ว่าพระองค์ท่านจะกล่าวไว้มาไม่ต่ำกว่า 45 ปี แต่มันยังคงทันสมัย สามารถที่ใช้ได้ถึงวันนี้เลยครับ
 
เราคงจะให้ เหวง-นกแสก-ตู่-เต้น หรือพวกชั่วๆ จะเป็นคนดี ที่คิดดีทำดี นั้นคงเป็นไปไม่ได้แน่
 
แต่เป็นการที่ให้คนดี (ไม่รู้ว่าใคร) มาคุมพวกเลวๆไว้ ไม่ให้มีอำนาจ บ้านเมืองนี้น่าจะเป็นสุขสงบได้แน่ๆเลยครับ
 
ผมหวังให้มีคนดี-คนกล้า มาควบคุมพวกเลวๆนี้ให้ได้
 
 
ปล. แก้ไขคำผิดครับ


เดี๋ยวนักประชาธิปไตยจะว่าได้ว่า คนดีกับคนเลวต้องมีสิทธิ์เท่ากัน (คน=เท่ากัน) บ้างทีผมก็เกลียดไอ้ระบอบดัดจริตนี้จริงๆ

 

ที่จริงต้องบอกว่า คน=เท่ากัน นั้นมันน่าจะมาจาก

 

คนดี-คิดดี มีสิทธิเท่ากันทุกคน

 

แต่การที่จะมาอ้างว่า คนดีกับคนเลวต้องมีสิทธิเท่ากันนั้น เป็นตรรกะที่บ้าบอสิ้นดี

 

คนดีกับคนเลวมันจะสิทธิเท่ากันได้อย่างไร คนดีจะต้องมีสิทธิที่มากกว่าและดีกว่าคนเลวๆอยู่แล้ว

 

 

ผมว่าไอ้คนที่พูด ที่คิด มันต้องมีปัญหากับมโนธรรมในใจตัวเองแน่ๆเลย ครับ



#23 กล้ากันเกรา

กล้ากันเกรา

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 70 posts

ตอบ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 19:46

พระบรมราโชวาทในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี 11 ธันวาคม 2512
 "ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุข เรียบร้อยจึงมิใช้การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมความดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้ "
 
 ถึงแม้ว่าพระองค์ท่านจะกล่าวไว้มาไม่ต่ำกว่า 45 ปี แต่มันยังคงทันสมัย สามารถที่ใช้ได้ถึงวันนี้เลยครับ
 
เราคงจะให้ เหวง-นกแสก-ตู่-เต้น หรือพวกชั่วๆ จะเป็นคนดี ที่คิดดีทำดี นั้นคงเป็นไปไม่ได้แน่
 
แต่เป็นการที่ให้คนดี (ไม่รู้ว่าใคร) มาคุมพวกเลวๆไว้ ไม่ให้มีอำนาจ บ้านเมืองนี้น่าจะเป็นสุขสงบได้แน่ๆเลยครับ
 
ผมหวังให้มีคนดี-คนกล้า มาควบคุมพวกเลวๆนี้ให้ได้
 
 
ปล. แก้ไขคำผิดครับ


เดี๋ยวนักประชาธิปไตยจะว่าได้ว่า คนดีกับคนเลวต้องมีสิทธิ์เท่ากัน (คน=เท่ากัน) บ้างทีผมก็เกลียดไอ้ระบอบดัดจริตนี้จริงๆ
ที่จริงต้องบอกว่า คน=เท่ากัน นั้นมันน่าจะมาจาก
 
คนดี-คิดดี มีสิทธิเท่ากันทุกคน
 
แต่การที่จะมาอ้างว่า คนดีกับคนเลวต้องมีสิทธิเท่ากันนั้น เป็นตรรกะที่บ้าบอสิ้นดี
 
คนดีกับคนเลวมันจะสิทธิเท่ากันได้อย่างไร คนดีจะต้องมีสิทธิที่มากกว่าและดีกว่าคนเลวๆอยู่แล้ว
 
 
ผมว่าไอ้คนที่พูด ที่คิด มันต้องมีปัญหากับมโนธรรมในใจตัวเองแน่ๆเลย ครับ
ถึงแม้จะน่าเศร้าแต่มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ที่ระบอบประชาธิปไตยให้สิทธิ์ทั้ง คนชั่ว คนดี คนฉลาด คนโง่ เท่ากัน

และยุคนี้คนไม่ได้สนับสนุนคนดีให้มีอำนาจมากไปกว่าคนที่เป็นพวกพ้องของตัวเอง

และคนสมัยใหม่เขาไม่ได้ยึดคนว่าดีหรือไม่ดี แต่เขายึดระบบมากกว่าเพราะมันอธิบายได้ง่ายและดูมีกฎเกณฆ์มากกว่าคำว่า คนดี เพราะการศึกษาของเราสอนให้เป็นอย่างนั้น

แล้วจะทำอย่างไรกับคำว่า"คนดี"ที่สมัยนี้ มีความหมายไปในทางเหน็บแนมมากกว่าเป็นคนชื่นชม จนกระทั่งในสมัยนี้ยังมีคนตั้งคำถามเลยว่า คนดีคืออะไร

#24 แฮงค์แมน ศิษย์หุบเขาปิศาจ

แฮงค์แมน ศิษย์หุบเขาปิศาจ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 220 posts

ตอบ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 20:38

เพราะประชาธิปไตยแบบทุนนิยม หรือธนาธิปไตย  มุ่งแข่งขันเพื่อผลกำไร

ไม่สนคุณธรรมและจริยธรรมเท่าไหร่หรือแทบจะไม่สนเลย สนใจแต่ตลาดและการแข่งขันแสวงหากำไร

ผลที่ได้คือพัฒนาแต่วัตถุ แต่จิตใจคนต่ำทรามลง ระบบคุณธรรม เจอระบบคุณหน้าเงินเข้าไป ก็เป็นอย่างที่เห็น

ทุกวันนี้ไงครับ เละเทะอย่างที่เห็น ถ้าทุกคนในประเทศไทยสนใจสิ่งที่พระองค์พระราชทานให้ คือ ความพอเพียง หรือ

แนวคิดทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง แล้วปฏิบัติด้วยตนเองได้อย่างถูกต้อง การสอนแบบที่พระองค์พระราชทานให้ก็คือ มัชฌิมาปฏิปทา

ของศาสนาพุทธเรานี่ เองก็คือทางสายกลางไม่ตึงไปหย่อนไปไงครับ



#25 คนไทย916

คนไทย916

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,396 posts

ตอบ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 20:43

สุเทพ แล้วเหล่ามวลมหาประชาชนครับ พวกเราทำเพื่อชาติจริงๆ กรั้กๆ

ผมไม่รู้นะแต่ผมเห็น พวกควาย มันไล่ปลด ป้ายต้านคนโกง  ท่าทางคุณจะอยู่ฝั่งนั้น เพราะอะไรหรือ ครับ 

โกง=ประชาธิปไตย 

ขุ่มขู่=ประชาธิปไตย 

คุกคาม=ประชาธิปไตย 

เผด็จการ ยังหนาว  


Edited by คนไทย916, 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 20:44.

เราตระกูลชินจัง ขอยก ฐานะ เสื้อแดง จาก ไพร่ เป็น ควายแดง ณ.บัดนี้  

    ถึงแม้ พ่อแม่ เองจะให้ฐานะความเป็น คน มาแต่กำเนิดก็ตาม 





ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน