แต่ปัญหาก็คือว่า จะเป็นการแย่งโควต้ากับเอกชนหรือเปล่า ????
จี้ถามสถานทูตหวั่นรัฐแย่งโควตา
นายเจริญ กล่าวว่า ปริมาณการค้าข้าวกับจีนที่ได้ทำการตกลงซื้อขายข้าวจากรัฐบาลไทยแล้ว 1 ล้านตัน ว่า จะถือเป็นโควตาก้อนเดียวกับที่ COFCO ได้เคยให้ไว้กับสมาคมฯ ว่าเอกชนไทยจะได้โควตาพิเศษปีละ 2 แสนตัน นาน 5 ปี เพื่อส่งออกข้าวไทยจีนภายใต้อัตราภาษี 0% หรือไม่ เบื้องต้นสมาคมได้ทำหนังสือสอบถามความคืบหน้าการดำเนินการ เพื่อประกาศมอบโควตาให้เอกชนไทยและสอบถามข้อสงสัยดังกล่าวไปยังสถานทูตจีนประจำประเทศไทยแล้ว หากเป็นการใช้โควตาในก้อนเดียวกัน ก็จะทำให้การส่งออกข้าวจากเอกชนนอกโควตา ต้องเสียภาษีในอัตราสูงกว่า 60% ตามที่จีนได้ตกลงไว้กับองค์การการค้าโลก (WTO)
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อจีนเข้าเป็นสมาชิก WTO ในปี 2001 ได้มอบหมายให้คอฟโกเป็นผู้นำเข้าโดยเปิดโควตานำเข้าปีละไม่เกิน 5.25 ล้านตันเป็นข้าวเมล็ดยาว 50% ข้าวเมล็ดสั้น 50% หากนำเข้าในโควตาเสียภาษี 1% หากเกินโควตาเสียภาษี 65% ในทางปฏิบัติภาคเอกชนจีน หรือโดยภาครัฐมีการนำเข้าสำหรับข้าวเมล็ดยาวไม่เกิน 1.33 ล้านตัน เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษี 65% จากตัวเลขการนำเข้าข้าวของจีนในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยจีนนำเข้าข้าวจากไทยประมาณ 2-3 แสนตัน โดยจีนนำเข้าข้าวทั้งหมดในปี 2012 ประมาณ 2.6 ล้านตันเท่านั้น
เชื่อจีนซื้อราคาตลาดไม่สูงมาก
ส่วนราคาในการตกลงซื้อขายครั้งนี้ ประเมินว่าน่าจะเป็นราคาตลาดเพราะไม่มีเหตุผลที่จีนจะซื้อข้าวจากไทยในราคาแพง เนื่องจากขณะนี้มีปริมาณข้าวในตลาดอยู่มาก ทั้งเวียดนามซึ่งผลผลิตกำลังออกสู่ตลาด และอินเดีย ซึ่งประเมินว่ามีข้าวในสต็อกอยู่ถึง 30 ล้านตัน
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงขายข้าวในครั้งนี้ ไม่ส่งผลต่อราคาตลาด แม้ในภาพรวมจะเป็นการขายข้าวปริมาณมากถึง 1 ล้านตัน แต่เป็นการทยอยส่งมอบ เฉลี่ยเดือนละ 1 แสนตันเท่านั้น ซึ่งสวนทางกับท่าทีของรัฐบาลไทยที่แสดงออกชัดเจนว่าต้องการขายข้าวให้ได้เดือนละ 1 ล้านตัน ผ่านวิธีต่างๆ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ราคาตลาดขณะนี้มีแนวโน้มลดลง
http://www.bangkokbi...ÒÃѰªԧâ¤ǵҨչ.html