Jump to content


Photo

คลายจิตใจอันเศร้าหมอง


  • Please log in to reply
12 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 ทองดี

ทองดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 618 posts

ตอบ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 18:34

คลายจิตใจอันเศร้าหมอง ซึ่งปกคลุมด้วย กิเลส และโทสะ

เมื่อมองดูใจตนแล้ว ช่างเศร้าหมองนัก   ปัญญา ปัญญา ปัญญา จงบังเกิดขึ้นด้วยเถิด

 

ปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร

 

พระสูตรว่าด้วยปัญญาอันเป็นหัวใจพาไปถึงฝั่งพระนิพพาน

 

อริยาวโลกิเตศวาโร โพธิสัตตโว คัมภีรํ ปรัชญาปารมิตา จารยํ จารมโน วยาวโลกยาติ สมา ปัญจะ สกันธัส (ขันธะ) ตัมส จะ สว ภว ศุนยํ


พระอวโลติเกศวรโพธิสัตว์ เมื่อปฏิบัติซึ้งในปรัชญาปารามิตาเพ่งเห็นขันธ์ 5 เป็นความว่างเปล่า จึงข้ามพ้นทุกข์


ปัศยาติ สมา อิหา ศารีปุตระ รูปํ ศุนยตา วะ รูปํ รูปํ นะ ปฤถัก
ศุนยตา ศุนยตายะ นะ ปฤทัก รูปํ ยัท รูปํ สะ ศุนยตา ยะ ศูนยตายะ สะ รูปํ
เอวัม เอวะ เวทนท สังชญา (สัญญา) สังสการา (สังขาร) วิชญานัม (วิญญาณ)


-รูปคือความว่างเปล่า ความว่างเปล่าคือรูป รูปไม่อื่นไปจากความว่างเปล่า
ความว่างเปล่าไม่อื่นไปจากรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณก็ว่างเปล่า

อิหา ศารีปุตระ สารวะ ธารมะ ศุนยตา ลักษณะ อนุตปัณณะ อนิรุทธะ
อวิมาละ อนูนะ อปาฤปูฤณะ ตัสมา ศารีปุตร ศุนยตายํ


-โอ สารีบุตร ธรรมทั้งปวงว่างเปล่า ไม่มีรูป ไม่เกิด ไม่ดับ ไม่มัวหมอง ไม่ผ่องแผ้ว
ไม่เพิ่ม ไม่ลด ในความว่างเปล่าไม่มีรูป

นะ รูปํ นะ เวทานา นะ สังชญา นะ สังสการ นะ วิญญาณ
นะ จักษุ โสรตัม นะ ฆราน ชิว กาย มน
นะ รูป ศัพท คันธ รส ศปิสตาวยา ธารมา
นะ จักษุ ธาตุ ยะ วัน นะ มโน วิชญาณัม ธาตุ


-ไม่มีเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่มีรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ธรรมารมณ์ ไม่มีจักษุธาตุ ไม่มีมโนธาตุ


นะ วิทยา นะ วิทยา กศโย
ยะ วัน ชรามรณัม นะ ชรามรณัม กศโย
นะ ทุกข สมุทย นิโรธ มฤคาชณ
นะ ชญานัม นะ ปราปติ นะ ภิศมายะ ตัสมา นะ ปราปติ


-ไม่มีทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไม่มีฌาน ไม่มีการบรรลุ เพราะไม่มีอะไรให้บรรลุ


ตวัท โพธิสัตตวะ ปรัชญาปารมิตา อศฤตยา วิหาระ ตยา จิตตา วรโน
นะ สิทธิตวัท อตรัสโต วิปา ฤยส ติ กรานโต
นิ สถา นิรวานะ ตยา ธยา วยาว สถิตา
สาระ พุทธา ปรัชญาปารมิตัม อศฤตยา
อนุตตรํ สัมยักสัมโพธิง อภิสัมพุทธา


-พระ โพธิสัตว์ ด้วยเหตุดำเนินตาม “ปรัชญาปารามิตา” จิตย่อมไม่สับสนมืดมัว เพราะจิตไม่สับสนมืดมัว จึงไม่มีความกลัว อยู่เหนือความ หลอกลวง มีพระนิพพานเป็นที่สุด พระพุทธเจ้าทั้ง 3 กาลด้วยเหตุดำเนินตาม ปรัชญาปารามิตา จึงได้บรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาน


ตา สมา ชญตา วยัม ปรัชญาปารมิตา มหามันตรัม มหาวิทยามันตรัม
อนุตตรมันตรัม อสมสมา มันตรัม
สารว ทุกขา ปรสามานัม สัตยํ อมิตยัทวัท
ปรัชญาปารมิตายัม อุทโท มันตรา ตัทยาถา

-จึง ทราบว่า “ปรัชญาปารามิตา”เป็นมหาศักดาธารณี เป็นมหาวิทยาธารณี เป็นอนุตรธารณี เป็นอสมธารณี สามารถดับสรรพทุกข์ สัจจะธรรมไม่ผิดพลาด ฉะนั้นจึงประกาศ “ปรัชญาปารามิตาธารณี”ดังนี้


คะเต คะเต ปาระคะเต ปาระสังคะเต โพธิ สวาหา


-ไป ไป ไปสู่ฝั่งโน้น ฝั่งแห่งพุทธะ สวาหา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สาธุ สาธุ สาธุ


Edited by ทองดี, 18 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 16:15.


#2 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

ตอบ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 20:33

ในคลิปนี้บทสวดเป็นภาษาจีนใช่ไหมคะ ตอนแรกฟังแล้วนึกว่าร้องตามคำสวดที่พิมพ์  เลยค่อยๆฟัง อ้าว ไม่ใชคนละภาษา ฟังแล้วดีค่ะ ในแง่จิตใจ คือฟังแล้วได้ผ่อนคลายค่ะ ถึงจะแปลไม่ออก แหะ แหะ  :P

ขอบคุณนะคะที่เอามาลงให้ได้ฟัง 



#3 ทองดี

ทองดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 618 posts

ตอบ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 20:38

ในคลิปนี้บทสวดเป็นภาษาจีนใช่ไหมคะ ตอนแรกฟังแล้วนึกว่าร้องตามคำสวดที่พิมพ์  เลยค่อยๆฟัง อ้าว ไม่ใชคนละภาษา ฟังแล้วดีค่ะ ในแง่จิตใจ คือฟังแล้วได้ผ่อนคลายค่ะ ถึงจะแปลไม่ออก แหะ แหะ  :P

ขอบคุณนะคะที่เอามาลงให้ได้ฟัง 

 

เป็นภาษาสันสกฤต ครับ :) :) :)

 

ภาษาเขียน บาลี ครับ copy มาครับ


Edited by ทองดี, 11 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 21:18.


#4 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

ตอบ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 20:52

ภาษาสันสกฤต ตามที่คุณพิมพ์มาป่าวคะ แต่ท่วงทำนองของดนตรีฟังเหมือนของจีน หรือเป็นดนตรีอื่นอีก คือแม่มะนาวก็ไม่ค่อยสันทัดเท่าไร คือฟังก็ชอบ เพราะฟังแล้วสบาย เคยไปเที่ยวภูเก็ต ที่พักจะใกล้สุเหร่า

ฟังเขาสวดแบบอิสลาม ทุกวัน แต่ก็เพราะเหมือนกัน คือใจมันเยือกเย็นสงบดี  ขอบคุณค่ะ



#5 ทองดี

ทองดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 618 posts

ตอบ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 21:10

ฟังแล้วใจเข้มแข็งครับ แต่ไม่รู้ความหมาย



#6 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

ตอบ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 21:27

ความหมายคือ หมายให้คนฟังใจเป็นสุข  ^_^



#7 ทองดี

ทองดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 618 posts

ตอบ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 21:33

The heart-mantra of medicine master Buddha



#8 ทองดี

ทองดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 618 posts

ตอบ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 21:52

เพราะมากเสียงเณรน้อย

 

มหากรุณาธารณียสูตร

 

คำ ส ว ด ม ห า ก รุ ณ า ธ า ร ณี สู ต ร

นำ มอ ฮอ ลา ตัน นอ ตอ ลา เหย่ เย • นำ มอ ออ ลี เย •
ผ่อ ลู กิด ตี ซอ ปอ ลา เย • ผู่ ที สัต ตอ พอ เย
• หม่อ ฮอ สัต ตอ พอ เย • หม่อ ฮอ เกีย ลู นี เกีย เย
• งัน • สัต พัน ลา ฮัว อี • ซู ตัน นอ ตัน เซ
• นำ มอ สิด กิด ลี ตอ อี หม่ง ออ ลี เย
• ผ่อ ลู กิด ตี สิด ฮู ลา เลง ถ่อ พอ • นำ มอ นอ ลา กิน ซี
• ซี ลี หม่อ ฮอ พัน ตอ ซา เม • สะ พอ ออ ทอ เตา ซี พง
• ออ ซี เย็น • สะ พอ สะ ตอ นอ มอ พอ สะ ตอ นะ มอ พอ เค
• มอ ฮัว เตอ เตา • ตัน จิต ทอ • งัน ออ พอ ลู ซี • ลู เกีย ตี
• เกีย ลอ ตี • อี ซี ลี • หม่อ ฮอ ผู่ ที สัต ตอ • สัต พอ สัต พอ
• มอ ลา มอ ลา • มอ ซี มอ ซี ลี ทอ ยิน • กี ลู กี ลู กิด มง
• ตู ลู ตู ลู ฟา เซ เย ตี • หม่อ ฮอ ฮัว เซ เย ตี • ทอ ลา ทอ ลา
• ตี ลี นี • สิด ฮู ลา เย • เจ ลา เจ ลา • มอ มอ ฮัว มอ ลา
• หมก ตี ลี • อี ซี อี ซี • สิด นอ สิด นอ • ออ ลา ซัน ฮู ลา เซ ลี
• ฮัว ซอ ฮัว ซัน • ฮู ลา เซ เย • ฮู ลู ฮู ลู มอ ลา • ฮู ลู ฮู ลู ซี ลี
• ซอ ลา ซอ ลา • สิด ลี สิด ลี • ซู ลู ซู ลู • ผู่ ถี่ เย ผู่ ถี่ เย
• ผู่ ถ่อ เย ผู่ ถ่อ เย • มี ตี ลี เย • นอ ลา กิน ซี • ตี ลี สิด นี นอ
• ผ่อ เย มอ นอ • ซอ ผ่อ ฮอ • สิด ถ่อ เย •ซอ ผ่อ ฮอ • หม่อ ฮอ สิด ถ่อ เย •ซอ ผ่อ ฮอ
• ซอ ผ่อ ฮอ • สิด ทอ ยี อี • สิด พัน ลา เย • ซอ ผ่อ ฮอ
• นอ ลา กิน ซี • ซอ ผ่อ ฮอ • มอ ลา นอ ลา • ซอ ผ่อ ฮอ
• สิด ลา เซง ออ หมก เค เย • ซอ ผ่อ ฮอ • ซอ ผ่อ หม่อ ฮอ ออ สิด ถ่อ เย
• ซอ ผ่อ ฮอ • เจ กิด ลา ออ สิด ถ่อ เย • ซอ ผ่อ ฮอ • ปอ ทอ มอ กิด สิด ถ่อ เย
• ซอ ผ่อ ฮอ • นอ ลา กิน ซี พัน เค ลา เย • ซอ ผ่อ ฮอ • มอ พอ ลี เซง กิด ลา เย
• ซอ ผ่อ ฮอ • นำ มอ ห่อ ลา ตัน นอ ตอ ลา เย เย • นำ มอ ออ ลี เย • ผ่อ ลู กิต ตี
• ชอ พัน ลา เย • ซอ ผ่อ ฮอ • งัน สิด ติน ตู • มัน ตอ ลา • ปัด ถ่อ เย • ซอ ผ่อ ฮอ

....................................................................................................

มนต์บทนี้ผูกเป็นคาถา 84 ประโยค มีคำแปลดังนี้

๑. นำ มอ ฮอ ลา ตัน นอ ตอ ลา เหย่ เย
นำ มอ - ความนอบน้อม
ฮอ ลา ตันนอ - ความเป็นรัตนะ
ตอ ลา เหย่ - 3
เย - นมัสการ
ขอนอบน้อมนมัสการพระไตรรัตน์ทั้งสาม
หมายถึง..การน้อมเอาพระไตรสรณคมน์, พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งที่ระลึก
ผู้ต้องการปฏิบัติให้ถึงพระองค์จะต้องสาธยายมนตราด้วยความมีเมตตากรุณา และเปี่ยมด้วยศรัทธา
ไม่ควรสวดด้วยเสียงอันดัง เกรี้ยวกราด และเร่งร้อน

๒. นำ มอ ออ ลี เย
นำ มอ - ความนอบน้อม
ออ ลี - องค์อริยะ
เย - นมัสการ
ขอนอบน้อมนมัสการแด่องค์พระอริยะ ผู้ห่างไกลจากบาปอกุศล
วัตถุประสงค์แห่งบทนี้... พระโพธิสัตว์ทรงสั่งสอนชาวโลกให้ปฏิบัติทางจิตเป็นมูลฐาน พระสัทธรรมทั้งหลายล้วนกำเนิดมาแต่จิต
เหตุนี้ผู้ปฏิบัติจะต้องมีความชัดแจ้งแห่งจิต และมองเห็นสภาวะแห่งตน จึงจะสามารถบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ
เมื่อไม่แจ้งชัดในจิตก็ไม่สามารถเห็นสภาวะแห่งตน หากแต่จิตเป็นอจล มีความมั่นคง ก็สามารถเดินทางสู่พระนฤพานได้

๓. ผ่อ ลู กิด ตี ซอ ปอ ลา เย
ผ่อ ลู กิด ตี - การเพ่ง พิจารณา อีกนัยหนึ่งคือความสว่าง
ซอ ปอ ลา - เสียงของโลกอันเป็นอิสระ
เย - นอบน้อมนมัสการ
ขอนอบน้อมคารวะแด่องค์พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ผู้เพ่งเสียงแห่งสรรพสัตว์ผู้ยาก
พระโพธิสัตว์ผู้สงสารชีวิตแห่งสรรพสัตว์ผู้ตกอยู่ในกองทุกข์
เขาเหล่านั้นล้วนมีความทุกข์อันเกิดจากการหลงลืมสภาวะเดิมของตน
จำต้องเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏ พระองค์พิจารณาตามนี้ จึงเกิดเมตตาจิตที่จะโปรดสัตว์

๔. ผู่ ที สัต ตอ พอ เย
ผู่ ที (โพธิ) - ตรัสรู้
สัต ตอ (สัตว์) - การมีชีวิต อารมณ์
พอเย - น้อมคารวะ
ขอนอบน้อมคารวะต่อผู้ให้ความตรัสรู้แก่ทุกชีวิต
หากตั้งใจในธรรม นอบน้อมต่อความแจ้งในสภาวะเดิม ก็จะถึงความหลุดพ้น...

๕. หม่อ ฮอ สัต ตอ พอ เย
หม่อ ฮอ - ใหญ่มาก
สัต ตอ - สัตว์โลก หรืออีกนัยหนึ่งหมายถึง ผู้กล้าหาญ
พอ เย - น้อมคารวะ
เมื่อน้อมคารวะผู้กล้าหาญก็มีโอกาสที่จะหลุดพ้น มวลสรรพสัตว์ในโลกอันไพศาล
ถ้ารู้สึกตัวแล้วลงมือปฏิบัติ ล้วนถึงความหลุดพ้นได้

๖. หม่อ ฮอ เกีย ลู นี เกีย เย
หม่อ ฮอ -ใหญ่มาก
เกีย ลู - กรุณา
นี เกีย - จิต
เย - คารวะ
ขอนอบน้อมคารวะต่อผู้มีมหากรุณาจิต

๗. งัน
งัน (โอม) - นอบน้อม
ขอนอบน้อม บูชาถวาย
พระโพธิสัตว์เป็นผู้มีความเมตตากรุณาไม่มีประมาณ นำสัทธรรมอันเป็นความดับสูญโดยแท้จริง
ปลุกให้มนุษย์ฟื้นคืนสภาวะเดิมที่มีอยู่ เข้าถึงสัทธรรมอันบริสุทธิ์

๘. สัต พัน ลา ฮัว อี
สัต พัน ลา - อิสระ
ฮัว อี - อริยะ
องค์อริยะผู้อิสระ ผู้มีกายใจอันบริสุทธิ์สะอาด
กาย ใจ จะบริสุทธิ์ได้ ต้องตั้งอยู่ในสัจธรรม ปฏิบัติตนอยู่ในศีล

๙. ซู ตัน นอ ตัน เซ
การปฏิบัติธรรมต้องถือความสัจเป็นพื้นฐาน ใช้ความเพียรเป็นเครื่องมือเพื่อบรรลุสู่อริยสัจ
หากการปฏิบัติธรรมไม่ประกอบด้วยความสัจ ก็จะไม่พบหนทางสู่ความสำเร็จ
เนื่องจากความสัจนั้นเป็นธรรมที่ปราศจากการหลอกลวง จิตจึงรวมเป็นหนึ่งได้
เมื่อมีความสัจ ก็จะมีความเข้าใจ เมื่อเข้าใจก็จะมองเห็นความปลอดโปร่ง
เมื่อปลอดโปร่งก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลง และกลับกลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น

๑๐. นำ มอ สิด กิด ลี ตอ อี หม่ง ออ ลี เย
นำ มอ - นอบน้อม
สิด กิด ลี ตอ อี หม่ง - ผู้ปฏิบัติธรรมย่อมได้รับความคุ้มครองจากพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์
ออ ลี เย - การปฏิบัติธรรมจะรีบร้อนให้ได้ผลในทันทีย่อมเป็นไปไม่ได้
ผู้ที่จะน้อบน้อมเข้าถึงองค์อริยะ จำต้องปฏิบัติธรรมโดยมานะพากเพียร มีจิตใจมั่นคงเป็นหนึ่ง
จะกระทำโดยเร่งรีบไม่ได้ ต้องทำใจให้ว่างเข้าถึงองค์แห่งพระธรรมคัมภีร์
หมั่นในการปฏิบัติตามหลักธรรม มีความคิดดำริมั่นที่จะก้าวข้ามห้วงแห่งโอฆ
จะคิดจะกระทำประโยชน์แก่สรรพชีวิต

๑๑. ผ่อ ลู กิด ตี สิด ฮู ลา เลง ถ่อ พอ
ผ่อ ลู กิด ตี - จิตต้องกับธรรม
สิด ฮู ลา - ท่องเที่ยวไปอย่างอิสระ
เลง ถ่อ พอ - เนื่องด้วยสำเร็จในมรรคผล
ผู้ปฏิบัติต้องจงใจมุ่งไปข้างหน้า ฝึกฝนให้กายและจิตรวมเป็นหนึ่ง (เอกัคคตา)

๑๒. นำ มอ นอ ลา กิน ซี
นำ มอ - นอบน้อม
นอ ลา กิน ซี - การคุ้มครองคนดี นักปราชญ์ นักปฏิบัติ
ด้วยความเมตตากรุณาของพระโพธิสัตว์ ทรงย้ำเตือนให้ยึดถือพระไตรสรณาคมน์
ต้องปฏิบัติตนอยู่ในมนุษยธรรม ทำตนเป็นตัวอย่างเพื่อให้สาธุชนรุ่นหลังได้รับรู้เป็นแบบอย่างและเจริญรอยตาม
สาธุชนผู้ปฏิบัติตามพระพุทธองค์และพระธรรมยิ่งต้องมีความเมตตากรุณาจิตและโพธิจิตเพื่อโปรดสัตว์
รักษาพระธรรมยิ่งกว่าชีวิตและเผื่อแผ่ทั่วไปไม่มีประมาณ

๑๓. ซี ลี หม่อ ฮอ พัน ตอ ซา เม
ซี ลี หม่อ ฮอ - ความเมตตากรุณาอันไพศาล สามารถบำบัดทุกข์บำรุงสุขได้
พัน ตอ ซา เม - ผู้มีบุญวาสนาจะได้รับการคุ้มครองจากเทพเจ้า มารทั้งหลายไม่สามารถมารบกวนได้
...พระโพธิสัตว์เล็งเห็นว่าชาวโลกถือเอาความรวย, มีชื่อเสียง,
ศักดินา เป็นที่นิยมศรัทธา อันเป็นการเพิ่มพูนความทุกข์
พระองค์จึงเตือนจิตให้มนุษย์ จงผ่อนใจในทางโลก โน้มน้าวจิตใจมาในทางมรรคผล
เมื่อจิตว่างแล้ว พระสัทธรรมอันพิสุทธิ์ก็จะเจริญขึ้น

๑๔. สะ พอ ออ ทอ เตา ซี พง
สะ - การได้เห็น
พอ - เสมอภาค
ออ - พระสัทธรรมอันบริสุทธิ์
ทอ เตา ซี พง - ธรรมไม่มีขอบเขต
ทุกคนที่ปฏิบัติสามารถรู้ได้เห็นได้ และบรรลุสู่พระพุทธภูมิได้โดยเสมอกัน

๑๕. ออ ซี เย็น
ผู้ที่ทำความดีย่อมได้รับการชมเชย ผู้ทำบาปจะต้องสำนึกและขอขมาโทษ

๑๖. สะ พอ สะ ตอ นอ มอ พอ สะ ตอ นะ มอ พอ เค
สะ พอ สะ ตอ - พุทธธรรมอันไม่มีขอบเขตสิ้นสุด สรรพสัตว์ในโลกนี้ล้วนสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าได้
นอ มอ พอ สะ ตอ - พุทธธรรมเป็นความเสมอภาค มิได้แบ่งแยกเป็นสูงหรือต่ำ
นะ มอ พอ เค - พุทธธรรมมีความไพศาล ผู้ปฏิบัติตามจะสามารถระงับภยันตรายทุกสิ่ง
ไม่ว่านักปราชญ์หรือผู้โง่เขลา เบาปัญญา คนหรือสัตว์ ล้วนสามารถหลุดพ้นได้ ถ้าเขาเหล่านั้นปฏิบัติธรรมด้วยความสัจ

๑๗. มอ ฮัว เตอ เตา
ผู้ปฏิบัติต้องถือพระสัทธรรมเป็นสูญ ไม่ข้องแวะ ไม่ติดในรูป ไม่ยึดในจิต
ถือเอาสัจธรรมเป็นใหญ่ และต้องละความวิตกกังวล กำจัดความโกรธ ความโลภ ความหลง
โดยใช้หลักแห่งปัญญาดับกิเลสให้จิตสงบ เป็นอยู่ในโลกนี้โดยสันติสุข

๑๘. ตัน จิต ทอ
ความศรัทธาจริงอันต่อเนื่องกัน จิตต้องตรงกับพระธรรม ห้ามมิให้มีความคิดทางโลกเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด
ทั้งนี้ เนื่องจากว่าหากปล่อยให้ความคิดทางโลก เกิดขึ้นในจิต กาย ใจ ก็จะไม่บริสุทธิ์
ทำให้เกิดการขัดแย้งกับพระธรรม ไม่อาจจะพบความสันติสุขได้

๑๙. งัน ออ พอ ลู ซี
งัน - นอบน้อม เป็นบทนำ
ออ พอ ลู ซี - เป็นพระโพธิสัตว์ หมายถึงพระธรรมคือความสะอาดจิตสะอาดสดใสไร้ราคะ
ผู้ปฏิบัติธรรมต้องมีจิตใจที่เด็ดเดี่ยว ไม่หวั่นไหวต่อการก่อกวนของเหล่ามาร(กามกิเลส)
หากสามารถตั้งจิตข่มจิตสำรวมกาย วาจา และจิต ละทิ้งโลกาวิสัยทั้งหมดก็จะเข้าถึงพุทธสภาวะที่มีอยู่เดิม
ถ้าทำให้จิตมีความสงบนิ่งอยู่ทุกขณะ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน ก็จะมีความสำเร็จในธรรมโดยมิรู้ตัว
พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ รวมทั้งพระโพธิสัตว์เจ้าได้หลุดพ้นในขณะที่อยู่ในโลกอันมากล้นไปด้วยกิเลสนี้

๒๐. ลู เกีย ตี
เป็นโลกนาถ มีความเป็นอิสระ
มีกุศลจิตสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มัวหมอง มีรัศมีสว่างรอบกาย และสามารถร่วมกับดินฟ้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
รักษาความมีกุศลจิต อย่าทำลายตนเอง อย่าหลงผิดเป็นชอบ
สิ่งสำคัญ...ต้องรักษาจิตให้บริสุทธิ์

๒๑. เกีย ลอ ตี
ผู้มีความกรุณา ผู้ปลดปล่อยทุกข์ เป็นผู้มีจิตในทางธรรม ดำรงมรรคมั่นคง มีสติปัญญาเฉียบแหลมยิ่งใหญ่
เมื่อจิตมีความสงบก็สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งชั่วร้ายให้กลับกลายเป็นดี

๒๒. อี ซี ลี
กระทำตามโอวาท อย่ามีจิตหลงผิด

๒๓. หม่อ ฮอ ผู่ ที สัต ตอ
หม่อ ฮอ - ความไพศาลของพุทธธรรม ทุกคนน้อมนำไปปฏิบัติได้
ผู่ที - เห็นโลกนี้เป็นสูญ
สัต ตอ - การเน้นปฏิบัติอนัตตธรรม มองเห็นสรรพธรรมเป็นสูญ
มองความรุ่งเรืองแห่งลาภยศ สรรเสริญเป็นสูญ มองให้เห็นเป็นเงาลวง ทำจิตใจร่างกายให้หมดจด

๒๔. สัต พอ สัต พอ
พุทธธรรมมีความเสมอภาค อีกทั้งยังอำนวยประโยชน์สุขแก่สัตว์โลก ผู้ที่มีปัจจัยแห่งบุญย่อมได้รับความสุข

๒๕. มอ ลา มอ ลา
ผู้ปฏิบัติจะได้มีมโนรถแก้วมณี แก้วมณีนี้แจ่มใสไม่มีอะไรขัดข้อง
ความคิดคำนึงเกิดมาแต่จิต จิตเป็นใหญ่ จิตเป็นประธานแห่งบุญและบาป
ผู้ปฏิบัติต้องกำจัดความคิดอันเป็นอกุศล ความคิดฟุ้งซ่าน ระงับความวิตกกังวล
เพียรพยายามเสาะหาสัจธรรม ชำระล้างอายตนะภายในให้สะอาดพิสุทธิ์ ละความห่วงใยใดๆให้สิ้นเชิง

๒๖. มอ ซี มอ ซี ลี ทอ ยิน
มอ ซี - ความมีอิสระทันที ผู้ปฏิบัติไม่มีเวลาใดที่ไม่เป็นอิสระคือมีอิสระทุกเมื่อ
ลี ทอ ยิน - การปฏิบัติกระทั่งสำเร็จวิชชาธรรมกาย มีอาสน์ดอกบัวรองรับ
โดยปกติแล้วผู้ที่มีจิตว่างก็จะมีความสะอาดทั้งกายและจิต เมื่อลงมือปฏิบัติแล้วก็สามารถบรรลุมรรคผลได้
และก็จะตั้งอยู่เช่นนั้น ไม่มีวันเสื่อมถอย

๒๗. กี ลู กี ลู กิด มง
กี ลู - การเกิดความคิดปฎิบัติธรรมสามารถบันดาลให้เทพเจ้ามาปกปักรักษา
กิด มง - ผู้ปฏิบัติจะต้องสร้างสมบุญบารมีเพื่อเป็นพื้นฐานในการบรรลุสู่มหามรรค (มรรคผล-นิพพาน)

๒๘. ตู ลู ตู ลู ฟา เซ เย ตี
ตู ลู - ผู้ปฏิบัติจะต้องยืนให้มั่นตั้งใจปฏิบัติ ไม่หลุ่มหลงด้วยพวกเดียรถี มีความแน่วแน่ มีสมาธิ มีความสงบ
ฟา เซ เย ตี - มีความบริสุทธิ์อันยิ่งใหญ่สามารถข้ามพ้นสังสารวัฏได้

๒๙. หม่อ ฮอ ฮัว เซ เย ตี
พระสัทธรรมอันไพศาล สามารถระงับความเกิดดับแห่งกิเลสได้
ภัยพิบัติต่างๆไม่แผ้วพาน ทุกคนสามารถสำเร็จเป็นพุทธะได้เหมือนหัน
กำจัดความหลงผิด ความเห็นแก่ตัว ปล่อยวางปัจจัยทางโลก

๓๐. ทอ ลา ทอ ลา
เมื่อปฏิบัติจิตให้มีสภาพเหมือนอากาศอันโปร่งใส ไร้ละอองธุลีแม้แต่น้อย ก็จะได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นพรหมได้

๓๑. ตี ลี นี
ตี - โลก
ลี - สัตว์ทั้งหลายล้วนสามารถรับการโปรดได้
นี - พรหมจาริณีที่ปฏิบัติธรรมอยู่

๓๒. สิด ฮู ลา เย
เมื่อปฏิบัติธรรมเข้าถึงความสมบูรณ์แห่งสภาวะเดิมแล้ว จะมีความสว่างปรากฏในกายของตน

๓๓. เจ ลา เจ ลา
ความโกรธ ดุ สุรเสียงที่เปล่งออกมาดุจเสียงคำรามของฟ้า
กระหึ่มไปทั่วสารทิศธรรมเหมือนดังฟ้าร้องคำรามไปทุกสารทิศ
เป็นเสียงแห่งพรหมเมื่อเหล่ามารได้ยินศัพท์สำเนียงนี้ ก็จะเกิดความสะดุ้งกลัว

๓๔. มอ มอ ฮัว มอ ลา
มอ มอ - การกระทำดี สามารถทำลายความกังวลแห่งภยันตรายได้
ฮัว มอ ลา - ธรรมะเป็นสิ่งลึกซึ้ง เข้าใขยาก และมีความศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถประมาณ
หรือคาดคิดได้ เป็นประโยชน์ที่ไม่มีสิ่งใดทัดเทียม

๓๕. หมก ตี ลี
หลุดพ้น
ผู้ปฏิบัติได้เช่นนี้ ย่อมบรรลุสู่ภูมิแห่งพุทธ

๓๖. อี ซี อี ซี
การชักชวนตามพระศาสนา ทุกสรรพสิ่งให้ดำเนินไปตามธรรมชาติ
ทุกสิ่งปล่อยให้ดำเนินไปตามเหตุปัจจัยปรุงแต่ง อย่าฝืนกระทำตามใจชอบ

๓๗. สิด นอ สิด นอ

เป็นมหาสติ มีจิตใจมั่นคงสามารถเข้าสู่มหาปัญญา
ผู้ปฏิบัติธรรม มีความสว่างแห่งสติปัญญาอยู่ ถ้าใช้จิตนี้เป็นฐานใช้ธรรมให้เป็นประโยชน์ ก็จะได้รับฐานธาตุที่สดชื่น
แต่หากไม่มีจิตใจมั่นคงกำจัดกิเลสในตนไม่หมด ก็ไม่มีทางที่จะให้ความว่างแห่งสติปัญญาที่มีอยู่ดั้งเดิมปรากฏออกมาได้เลย.

๓๘. ออ ลา ซัน ฮู ลา เซ ลี
ออ ลา ซัน - ความผ่านธรรมไปถึงธรรมราชา มีความอิสระในธรรม
ฮู ลา เซ ลี - การได้พระธรรมกายอันบริสุทธิ์ ได้ดวงแก้วแห่งพระรัตนะ

๓๙. ฮัว ซอ ฮัว ซัน
ฮัว ซอ - ผู้ที่มีธรรม ตั้งอยู่ในขันติธรรม
ฮัว ซัน - ผู้บรรลุธรรม มีความสุขอันแท้จริงยากจะบรรยาย
เป็นการอนุโมทนาตามเหตุตามปัจจัย
ความสุขที่แท้จริง จะต้องได้จากการปฏิบัติที่ยากลำบาก
ถ้าสามารถอดทนต่อความยากลำบากก็จะเข้าถึงความสุขอันยิ่งได้

๔๐. ฮู ลา เซ เย
จะต้องมีความรู้ด้วยตนเอง ผู้จะบรรลุธรรมหากสามารถละการยึดเกี่ยวเข้าถึงสภาวะดั้งเดิม ก็จะพบพระพุทธเจ้าได้ทุกพระองค์

๔๑. ฮู ลู ฮู ลู มอ ลา
การประกอบพิธีตามปรารถนา ประกอบพิธีกรรมไม่ละจากตัวตน

๔๒. ฮู ลู ฮู ลู ซี ลี
การประกอบธรรม โดยปราศจากความคิดคำนึงมีความเป็นอิสระสูง

๔๓. ซอ ลา ซอ ลา
ผู้ปฏิบัติเพียงแต่มีความมุ่งมั่น มีความเพียรพยายามอย่างต่อเนื่อง มีจิตอันเป็นหนึ่งเดียว ก็จะได้เห็นองค์พระโพธิสัตว์

๔๔. สิด ลี สิด ลี
ความเป็นมหามงคลอันสูงสุด สามารถอำนวยประโยชน์ และคุ้มครองสรรพสัตว์โดยไม่ละทิ้ง

๔๕. ซู ลู ซู ลู
น้ำอมฤตทานสามารถอำนวยประโยชน์แก่สัตว์โลกทั้งปวง

๔๖. ผู่ ถี่ เย ผู่ ถี่ เย
การตรัสรู้ธรรม ตรัสรู้ถึงภูมิจิต ผู้ที่ปฏิบัติจะต้องมีความวิริยะพากเพียรอย่างแรงกล้า
ปฏิบัติทุกวันทุกคืนเสมอต้นเสมอปลายไม่ท้อถอย

๔๗. ผู่ ถ่อ เย ผู่ ถ่อ เย
เป็นการรู้ในธรรม รู้ในจิต ผู้ปฏิบัติจะต้องถือ “ตัวเขา-ตัวเรา” เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ไม่เพียงแต่ไม่เห็นลักษณะตัวเขาตัวเรา แม้สรรพสัตว์ในทุคติ ก็ต้องถือว่าเท่าเทียมกับเรา

๔๘. มี ตี ลี เย
มหากรุณา ให้ผู้ปฏิบัติต้องเจริญเมตตากรุณาจิต เพื่อให้สรรพสัตว์เข้าถึงโพธิมรรค
รักในตนเองเท่าใด ก็ให้รักผู้อื่นเท่านั้น

๔๙. นอ ลา กิน ซี
นักปราชญ์ผู้รักษาตนเองได้ มีมหากรุณาจิต
ผู้ปฏิบัติจะต้องเคารพนักปราชญ์ เห็นผู้ทำดีจะต้องช่วยกันรักษา ผู้ที่เกิดความท้อถอยก็ต้องส่งเสริมให้กำลังใจ

๕๐. ตี ลี สิด นี นอ
ความคมของวัชระ ให้คนเรามีความมั่นคงในการปฏิบัติธรรม

๕๑. ผ่อ เย มอ นอ
สุรเสียงก้องไปสิบทิศ เป็นสุรเสียงแห่งความปิติยินดี

๕๒. ซอ ผ่อ ฮอ
ความสำเร็จผล มงคล นิพพาน ระงับภัยเพิ่มพูลประโยชน์ พระสัทธรรมไม่เกิดไม่ดับ เป็นสภาวะอันสงบมาแต่เดิม

๕๓. สิด ถ่อ เย
ความสำเร็จในธรรมทั้งหลาย เข้าถึงพระวิสุทธิมรรคปราศจากขอบเขตอันจำกัด
สรรพสัตว์เพียงแต่ละวางจากลาภยศชื่อเสียง ก็จะเข้าถึงความหลุดพ้นได้

๕๔. ซอ ผ่อ ฮอ
ผู้ปฏิบัติถ้าเห็นแจ้งในพระสัจธรรมและความหลอกลวง(ไม่แท้) ก็จะสำเร็จได้ง่าย

๕๕. หม่อ ฮอ สิด ถ่อ เย
ความไพศาลของพระพุทธธรรม ผู้ใดน้อมนำไปปฏิบัติจะสำเร็จในพระพุทธผล

๕๖. ซอ ผ่อ ฮอ
เน้นย้ำประโยชน์ในการปฏิบัติธรรม

๕๗. สิด ทอ ยี อี
สิด ทอ - ความสำเร็จ
ยี อี - ความว่างเปล่า
ทวยเทพเจ้าต่างได้รับความสำเร็จอันเป็นความว่างเปล่า (สุญญตาธรรม)

๕๘. สิด พัน ลา เย
เป็นความอิสระสมบูรณ์ เป็นการกล่าวถึงบรรดาเทพีที่ต่างสำเร็จในอิสระธรรม

๕๙. ซอ ผ่อ ฮอ
อสังสกฤตธรรมนั้น เป็นสภาวธรรมที่สมบูรณ์โดยอิสระ เป็นการประกาศมหามรรคที่ยิ่งใหญ่มีผลที่ลึกซึ้ง

๖๐. นอ ลา กิน ซี
ความสำเร็จด้วยความรัก ความเมตตากรุณา การปกปักษ์รักษา

๖๑. ซอ ผ่อ ฮอ
แสดงถึงความเมตตากรุณาของพระโพธิสัตว์

๖๒. มอ ลา นอ ลา
มอ ลา - มโนรถ ความหวัง ความประสงค์
นอ ลา - อนุตตรธรรม
การปฏิบัติอนุตตรธรรมสมดังประสงค์

๖๓. ซอ ผ่อ ฮอ
พระโพธิสัตว์มุ่งเน้นให้คนปฏิบัติธรรม อีกทั้งยังเปิดเผยหัวใจอันลึกซึ้งของมหามรรคนี้

๖๔. สิด ลา เซง ออ หมก เค เย
เป็นการแสดงความรักของพระโพธิสัตว์ต่อหมู่ชน

๖๕. ซอ ผ่อ ฮอ
คนเรานั้นมีโรคทางจิตเป็นภัยคุกคาม พระธรรมโอสถเท่านั้นที่สามารถรักษาให้หายได้

๖๖. ซอ ผ่อ หม่อ ฮอ ออ สิด ถ่อ เย
ซอ ผ่อ หม่อ ฮอ - สัตว์ทุกประเภทมีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน สามารถบรรลุพระสัมมาสัมโพธิได้เหมือนกัน
ออ สิด ถ่อ เย - สรรพสัตว์มีโอกาสร่วมรับความสุขสบายทั่วถึงกัน
บุคคลมีขันติธรรมก็จะเข้าถึงธรรมได้ด้วยดี สามารถสำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณได้ไม่จำกัด

๖๗. ซอ ผ่อ ฮอ
ความเมตตาอันสูงสุด

๖๘. เจ กิด ลา ออ สิด ถ่อ เย
เจ กิด ลา - การใช้วชิรจักรปราบเหล่ามาร
ออ สิด ถ่อ เย - ความสำเร็จอันไม่มีสิ่งใดเทียบได้
การใช้วชิรธรรมจักร ปราบเหล่ามารศัตรูได้รับความสำเร็จ

๖๙. ซอ ผ่อ ฮอ
สรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนสำเร็จในความบริสุทธิ์ได้ จึงไม่ควรประกอบอกุศลกรรมทั้งหลาย

๗๐. ปอ ทอ มอ กิด สิด ถ่อ เย
ปอ ทอ มอ กิด - พุทธธรรมเป็นธรรมที่ไม่มีขอบเขต จะต้องปฏิบัติเพื่อได้รับความสุขร่วมกัน
สิด ถ่อ เย - ย้ำเตือนให้ผู้ปฏิบัติจะต้องประกอบด้วยสติปัญญาเพื่อการหลุดพ้น ละจากกิเลส

๗๑. ซอ ผ่อ ฮอ
ผู้ปฏิบัติไม่ยึดในทางใดทางหนึ่ง ปฏิบัติโดยการพิจารณา พร้อมทั้งมีหิริโอตตัปปะ
มรรคผลนั้นสำเร็จได้ด้วยตนเอง สำเร็จได้ด้วยการพิจารณา
ในทุกขณะจะต้องพิจารณาจิตของตน รักษาไว้ในทุกเหตุปัจจัยไม่ให้วิตกจิตเกิดขึ้นได้

๗๒. นอ ลา กิน ซี พัน เค ลา เย
นอ ลา กิน ซี - รักษาไว้ด้วยความเป็นภัทร
พัน เค ลา เย - เถระเพ่งโดยอิสระ
เป็นที่รักของผู้เจริญ เป็นที่รักของพระอริยะ

๗๓. ซอ ผ่อ ฮอ
การปฏิบัติให้ถือเอาสัมมาจิต และความมีสัจเป็นหลัก

๗๔. มอ พอ ลี เซง กิด ลา เย
มอ พอ ลี เซง - ผู้กล้า
กิด ลา เย - สภาวะเดิม
คุณธรรมจะสำเร็จได้ ด้วยสภาวะแห่งเมตตาธรรม
หากจิตตั้งอยู่ในอกุศลก็ย่อมเป็นการยากที่จะสำเร็จพระอนุตตรธรรม

๗๕. ซอ ผ่อ ฮอ
เป็นการรวมเอาพระคาถาทั้งหมดแห่งมหากรุณาธารณีสูตรมาไว้ในประโยคนี้
มีนัยบ่งบอกถึงความเมตตากรุณาของพระโพธิสัตว์
เพื่อโปรดเหล่าสรรพสัตว์ทั้งปวงให้ได้รับหิตานุหิตประโยขน์ มีพระสัมมาสัมโพธิเป็นหลักชัย

๗๖. นำ มอ ห่อ ลา ตัน นอ ตอ ลา เย เย
เน้นย้ำให้พยายามควบคุมกายใจไม่ให้ลื่นไหลไปตามอารมณ์ที่มากระทบ
โน้มนำเอาฌานสมาธิเพ่งการเกิดการดับ

๗๗. นำ มอ ออ ลี เย
เป็นการสาธยายมนต์สรรเสริญพระอริยะ และกล่าวย้ำถึงการปฏิบัติธรรม
ต้องละความเป็นตัวตน, บุคคล, เรา-เขา
จึงสามารถไม่ให้เกิดความคิดนึกอันเป็นบ่อเกิดแห่งทุกข์ได้ความนึกคิดติดยึดไม่เกิด
ความเข้าใจถึงธรรมก็จะเป็นที่หวังได้

๗๘. ผ่อ ลู กิต ตี
พระสัทธรรมไม่มีความสิ้นสุด บรรดาผู้ปฏิบัติธรรมย่อมมีความบริสุทธิ์เป็นเครื่องอยู่ นำทางสู่แดนสุขาวดี
มีการเกิดย่อมต้องมีการตาย มีความชนะย่อมต้องมีความพ่ายแพ้...
แต่ชาวโลกผู้ตกอยู่ภายใต้อวิชชากลับยินดีต่อการเกิดเกลียดชังความตาย ท้ายที่สุดก็ต้องตายอยู่นั่นเอง
ฉะนั้นหากต้องการรอดพ้นจากความตาย จะต้องค้นหาความเป็นในความตายให้ได้เสียก่อน

๗๙. ชอ พัน ลา เย
ผู้ปฏิบัติต้องสำรวมตาเห็นรูป ไม่ปรุงแต่งไปตามรูปที่มองเห็น

๘๐. ซอ ผ่อ ฮอ
สำรวมหูฟังเสียง ไม่ปรุงแต่งไปตามเสียงที่ได้ยิน

๘๑. งัน สิด ติน ตู
สำรวมจมูกดมกลิ่น ไม่ปรุงแต่งไปตามกลิ่นที่จมูกดม

๘๒. มัน ตอ ลา
สำรวมลิ้นรับรส ไม่ปรุงแต่งไปตามรสที่ลิ้นรับ

๘๓. ปัด ถ่อ เย
สำรวมกายถูกต้องสัมผัส ไม่ปรุงแต่งไปตามที่ร่างกายถูกต้องสัมผัส

๘๔. ซอ ผ่อ ฮอ
สุดท้ายสำรวมใจรับรู้อารมณ์ ไม่ปรุงแต่งให้เกิดอารมณ์ใดๆที่ใจรับรู้
รวมเรียกว่าสำรวมอินทรีย์ ๖ อันมี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ บรรลุเป็นโพธิสัตว์อันบริสุทธิ์



#9 ทองดี

ทองดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 618 posts

ตอบ 15 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 09:35

ของขวัญวันพระครับ :)

Usnisa Vijana Dharani (Sanskrit chanting)

อุษณีษวิชยธารณี

 

อุษณีษวิชยธารณี

 

นะโม ภะคะวะเต ไตฺรโลกะยะ ปฺระติวิศิษฏายะ พุทธายะ ภะคะวะเต ตัทยะถา
โอม วิศุทธะยะ วิศุทธะยะ อสมะ-สมะ สมันตาวะภาสะ-สฺผรณะ คติ คหนะ
สฺวะภาวะ วิศุทเธ อภิษิญจะตุ มาม สุคตะ วระ วจนะ อมฺฤตะ อภิเษไก
มหา มันตฺรา-ปะไท อาหระ อาหระ อายุห์ สัง(สัม)-ธารณี โศธะยะ โศธะยะ
คคนะ วิศุทเธ อุษณีษะ วิชะยะ วิศุทเธ สหัสฺระ-รัษฺมิ สัง(สัม)-โจทิเต
สรฺวะ ตถาคตะ อวโลกะนิ ษัฏ-ปารมิตา-ปะริปูระณิ
สรฺวะ ตถาคตะ มติ ทศะ-ภูมิ ปฺระติษฺฐิเต
สรฺวะ ตถาคตะ หฺฤทยะ อธิษฐานาธิษฐิตา มหา-มุทฺเร
วัชฺระ กายะ สัง(สัม)-หตนะ วิศุทเธ
สรฺวาวรณะ อปายะ-ทุรฺคติ ปะริ วิศุทเธ ปฺระติ นิวัรตยะ อายุห์ ศุทเธ
สมยะ อธิษฐิเต มณิ มณิ มหา มณิ ตถาตา ภูตะ-โกฏิ ปะริศุทเธ
วิสผุฏา พุทธิ ศุทเธ ชยะ ชยะ วิชะยะ วิชะยะ สมระ สมระ
สรฺวะ พุทธะ อธิษฐิตะ ศุทเธ วัชฺริ วัชฺระคารเภ วัชฺรัม ภาวะตุ มะมะ ศะรีรัง(รัม)
สรฺวะ สัตตฺวานาม จะ กายะ ปะริ วิศุทเธ สรฺวะ คติ ปะริศุทเธ
สรฺวะ ตถาคตะ สิญจะ เม สมาศฺวาสะยันตุ สรฺวะ ตถาคตะ สมาศฺวาสะ อธิษฐิเต
พุทธฺยะ พุทธฺยะ วิพุทธฺยะ วิพุทธฺยะ โพธะยะ โพธะยะ วิโพธะยะ วิโพธะยะ
สมันตะ ปะริศุทเธ สรฺวะ ตถาคตะ หฺฤทยะ อธิษฐานาธิษฐิตะ มหา-มุทฺเร สฺวาหา
 

ด้วยเดชแห่งอุษณีย์วิชัยธารณี
ที่พระพุทธเจ้าตรัสแก่ท้าวสักกะเทวราช ว่า
เป็นพระคาถาชำระสรรพอกุศลมรรค
อุษณีย์วิชัยธารณีสามารถชำระโทษกรรมทั้งปวง
สามารถทำลายความทุกข์จากอกุศลกรรมทั้งหลาย
ปวงพระพุทธเจ้าเป็นจำนวนร้อยพันโกฏิ
ดังเม็ดทรายใน มหาคงคา นที
ได้ทรงประกาศพร้อมกัน ว่า……….
มุทราปัญญาแห่งพระมหาตถาคตเจ้า
แม้เพียงได้ยินก็สามารถกำจัดกรรมาวรณะ
ที่สะสมในเวลาพันกัปป์กัลป์
ซึ่งทำให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดในนรกภูมิ
ภูตผี เปรต อสูรกาย ******
แม้นิสัยที่สั่งสมมาเป็นกำพืดเดิมก็ถูกชำระให้สิ้นมลทิน
สามารถชำระบาปกรรมในร้อยกัปป์กัลป์
สามารถชำระโรคร้าย ทำให้สงบสุข
ต่ออายุให้ยาว แก้ดวงชะตาทั้งปวง
และได้สุคติภพยังพุทธเกษตร (พระนิพพาน)



#10 lazylemon

lazylemon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,344 posts

ตอบ 18 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 15:22

เพิ่งจะได้มาฟังบทสวดเจ้าแม่กวนอิม ปกติแม่มะนาวเคยสวดอีกบท ที่ขึ้นต้นด้วย นโม ไต่ซือ ไต่ปุย กิว โค้ว กิวหลั่ง..........

อ่านความหมายมาเรื่อยจนถึงข้อ ๗๙ ถึง ๘๔ อันนี้คุ้นมากเลยค่ะ มีอยู่ในหนังธรรมะสักเล่มที่แม่มะนาวอ่าน  ทุกศาสนาก็สอนเหมือนกัน ให้เราเป็นคนดี

แม่มะนาวฟังเสียงสวดได้ อาจเป็นเพราะแม่มะนาวเองชอบฟังเพลงในแบบนี้ ที่ตัวเองเรียกว่าเพลงแบบหลอนๆ ที่ในกระทู้แม่มะนาวเองเขียนอยู่ อยากเปิดให้ฟังคงไม่ว่ากันนะคะ ถ้าไม่ใช่เป็นเพลงสวด

แต่ทำนองของเพลง ฟังแล้วคล้ายกัน

 

 

แม่มะนาวชอบทั้งทำนอง และความหมายค่ะ

 

ส่วนอีกเพลงสุดท้ายต้องขอเวลาฟังตอนค่ำๆ เพราะยาวมาก  :P



#11 ทองดี

ทองดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 618 posts

ตอบ 18 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 16:06

The heart-mantra of medicine master Buddha

 

 

Meaning of the Medicine Buddha Mantra    http://www.worldwide...net/meaning.htm

 

1. OM:  we begin with Om, the under-current tone of the universe

 

2. NAMO:  means yielding or full of trust; can also mean to bend or bow, and might mean to melt into

 

3. Bhagawate: means in intimate relation to the Divine and often means the entire cosmos

 

4. Bhaishjaye:  a name for the Medicine Buddha

 

5. Guru: Spiritual Master; also means the “that” which transmutes ignorance into wisdom

 

6. Vaidurya prabha:  Divine deep blue light, like that of Lapis Lazuli

 

7. Rajaya:  means Great King

 

8. Tathagataya:  means once came or once gone

 

9. Arhate:  one who has conquered the cycle of birth death

 

10. Samyaksam buddhaya:  perfectly enlightened

 

11. Teyatha:  do it like this

 

12. OM:  again we begin with Om, the under-current tone of the universe

 

13. Bekhajye bekhajye:  do away with the pain of illness

 

14. Maha bekhajye: do away with the pain of illness (of the darkness of Spiritual Ignorance)

 

15. Bekhajye:  do away with the pain of illness

 

16. Samudgate:  means the supreme heights. Like this, go go go

 

      (my prayer shall go to the highest and the widest and the deepest)

 

17. Svaha:  I offer this prayer and now relinquish it …  (to you Medicine Buddha)

 

 

Explanation of the meaning of the Mantra

 

TAYATA / OM BEKANDZE BEKANDZE / MAHA BEKANDZE RADZA / SAMUDGATE SOHA

 

Bekandze means eliminating pain, maha bekandze means great eliminating of pain. One explanation of the meaning of the first bekandze is that it refers to eliminating the pain of true suffering, not just of disease but of all problems. It eliminates the pain of death and rebirth that are caused by karma and disturbing thoughts. The first bekandze eliminates all the problems of body and mind, including old age and sickness.

 

The second bekandze eliminates all the true cause of suffering, which is not external but within the mind. This refers to karma and disturbing thoughts. It is the inner cause that enables external factors such as food and exposure to sunlight to become conditions for disease.

 

Scientists claim that intense exposure to the sun causes skin cancer. However, without the cause in the mind, there is nothing to make external factors become conditions for disease. Exposure to sunlight is a condition for skin cancer, but it is not the main cause. For those who have created the cause to get skin cancer, the external phenomenon of sunlight can become a condition for skin cancer.

 

For example, not everyone who sunbathes on the beach gets skin cancer. Also human beings have been exposing themselves to the sun for many thousands of years, but skin cancer is a comparatively recent phenomenon. The important question is: Why doesn’t everyone who is exposed to the sun get skin cancer? The proof that sunlight is not the main cause of skin cancer is that not everyone who is exposed to the sun gets skin cancer.

 

If someone has created the cause, as long as they do not do anything to purify it, the cause will definitely bring its own result; just as a seed that is planted will definitely result in a sprout as long as it is not eaten by birds, and so forth. Once there is a cause, as long as there is no obstacle to the cause, it is natural to experience its result.

 

So, the second bekandze refers to eliminating the cause of problems, karma motivated by disturbing thoughts.

 

The third phrase, maha bekandze, or “great eliminating,” refers to eliminating even the subtle imprints left on the consciousness by disturbing thoughts.

 

The Medicine Buddha mantra actually contains the remedy of the whole graduated path to enlightenment. The first bekandze contains the graduated path of the lower capable being in general; the second bekandze, the graduated path of the middle capable being in general; and maha bekandze, the graduated path of the higher capable being. The whole graduated path from the beginning up to the peerless happiness of full enlightenment is contained in the Medicine Buddha Mantra.

 

Reciting the mantra leaves imprints on our mind, so that we are also able to actualize the path contained in the mantra. It establishes the blessing of the whole path within our heart; we can then generate the whole graduated path to enlightenment, which is signified by bekandze bekandze maha bekandze.

 

The OM is composed of three sounds, ah, o, and ma, which signify the Medicine Buddha’s completely pure holy body, holy speech, and holy mind. Actualizing the whole path to enlightenment purifies our impure body, speech, and mind and transforms them into the Medicine Buddha’s pure holy body, holy speech, and holy mind. We then become a perfect guide for living beings.

 

With our omniscient mind we are able to effortlessly, directly, see, without mistake, the level of mind of every living being and all the methods that fit them in order to bring them from happiness to happiness, to the peerless happiness of full enlightenment.

 

We also have the perfect power to manifest in various forms to suit every living being and reveal the necessary methods to guide them, such as giving material help, education, or Dharma teachings. Whenever the positive imprint left by their past positive actions ripens, without delay of even a second, we can reveal various means to guide the living being to enlightenment.

 

หาไม่เจอที่แปลความหมายเป็นภาษาไทยนะครับ



#12 แสงธูป

แสงธูป

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 753 posts

ตอบ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 23:56

สวัสดีครับ คุณ ทองดี เข้ามาฟังเพื่อ คลายจิตใจอันเศร้าหมอง ครับ

ลูกสาวผมจะชอบฟัง บทมหากรุณาธารณียสูตร(แต่เป็นผู้ใหญ่สวด)

 

 

ปล ผมขอฝากไว้สักบท เพื่อคลายจิตใจอันเศร้าหมอง 


Edited by แสงธูป, 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 23:56.


#13 แม้ว ม.7

แม้ว ม.7

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,237 posts

ตอบ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:24

:mellow:


Edited by แม้ว ม.7, 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 - 21:24.

พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้พูดตัดพ้อกับคนที่เดินทางไปพบว่า “พรรคเพื่อไทยมีคนเก่งๆ เยอะ ทั้งนักวิชาการ ด็อกเตอร์ ทูต แต่ไม่กล้าออกมาสู้ คนหน้าตาดีไม่ออกมา พวกที่ออกมาหน้าตาไม่ค่อยดี ไม่เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ ฝ่ายตรงข้าม คนมีความรู้ นักวิชาการออกมาเยอะแยะเลย คนจริงใจกับผมมันน้อย วางยาผม เพราะตัวเองอยากอยู่นานๆ เห็นว่านายกฯ ไม่แข็ง แต่ท่านนายกฯ ก็ดี แต่คนรอบข้างไม่เป็นการเมือง ผมส่งคนเป็นการเมืองไปนายกฯ ก็ไม่เอา ผมก็สงสารนายกฯ จึงไม่อยากจู้จี้ แต่คนที่เมืองไทยมันไม่ได้ดั่งใจ” 

http://astv.mobi/AlgEYM7

แปลสั้นๆ เขาด่าไอ้เสร่อแกนนำแดงว่า"โง่แต่ขยัน"





ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน