อือมมม...โดนนนน...
ทำไมรู้สึกตรงกันหว่า ...
นังยกฯ สอบตก ...หญิง ที่ ทำ สตรี ไทย เสีย หาย
12 มีนาคม 2557
.....ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งนายกฯ คนที่ 28 และเป็นนายกฯ หญิงคนแรกของประเทศไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ถูกจับจ้องเรื่องการวางตัวมาโดยตลอด แม้ภาพที่ปรากฏออกมา จะเป็นภาพของผู้นำที่ประนีประนอม ทว่าระยะหลังๆ กลายเป็นถูกจับผิดจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงตัวนายกฯ ที่ "สวยแต่รูป จูบไม่หอม" ไม่แปลกที่ชาวเน็ตมักจะเอารูปของผู้นำหญิงท่านนี้ไปทำเป็นภาพการ์ตูนล้อเลียนที่เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้
ต่อไปนี้ คือการวิพากษ์ภาพลักษณ์ของผู้นำหญิงชื่อ "ยิ่งลักษณ์" ผ่านทัศนะของ "อลิสา โลหิตนาวี" ผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษาด้านภาพลักษณ์บริษัท อิมเมจ แมทเทอร์ส เอเชีย จำกัด ที่ผ่านการรับรองจากสถาบันภาพลักษณ์แห่งกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ผู้เขียนหนังสือภาพลักษณ์สู่ความสำเร็จ (ในเครืออมรินทร์ How-to) ซึ่งไม่ค่อยมีใครออกมาวิเคราะห์อย่างตรงไปตรงมา และมีหลักการได้เท่านี้มาก่อน หวังสะกิดนายกฯ หญิงหันกลับมามองตัวเอง และเป็นกรณีศึกษาให้แก่นายกฯ หญิงท่านต่อไป (ถ้ามี) ได้นำไปพิจารณา
สวยแต่สอบตก 'ภาษากาย'
"ก่อนอื่นต้องชื่นชมคนที่เข้ามาดูแลเรื่องการแต่งตัวให้เธอกันก่อน ซึ่งถือว่าเก่งมากๆ ที่สามารถแต่งตัวออกมาได้ดีขนาดนี้ ส่วนตัวยังอยากรู้เลยค่ะว่า เขาคนนั้นเป็นใคร แต่คนที่เข้ามาดูแลด้านการแต่งตัว จริงๆ ถ้าเรียน Image consultant (ที่ปรึกษาด้านภาพลักษณ์) ต้องสอนภาษากาย หรือ Body Language ให้นายกฯ หญิงด้วย เพราะสิ่งที่ผู้นำท่านนี้ไม่เป็นเลยก็คือ การใช้ภาษากาย และการแสดงออกทางสีหน้า เพราะถ้าดูจากการให้สัมภาษณ์ เราจะเห็นอาการลิงโลด หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่างๆ พูดเลยว่า สอบตกหมดค่ะ" อลิสา ผู้เชี่ยวชาญด้านภาพลักษณ์ให้ความเห็นในภาพรวม ก่อนจะตั้งข้อสังเกตต่อไปว่า
"จริงๆ คนที่อยู่ในตำแหน่งนี้ ไม่ได้ทำงานคนเดียวนะ แต่ห้อมล้อมไปด้วยคนที่คอยให้คำปรึกษามากมาย นั่นแสดงว่าที่พลาดนี่พลาดหมด ไม่มีใครมีความสามารถที่จะเอาเธออยู่ อาจจะด้วยตัวผู้นำหญิงเองที่ค่อนข้างมั่นใจ ไม่ฟังใคร เพราะฉันมีเงิน มีอำนาจ ถ้าเจอแบบนี้ ก็ลาออกสิ เป็นเมืองนอก เขาลาออกกันยกทีมเลยนะ เพราะถ้าถูกจ้างให้มาเป็นที่ปรึกษา แต่ให้คำแนะนำนายกฯ ไม่ได้ งานของพวกเขาก็ไร้ประโยชน์"
ไม่เคยใช้ประสบการณ์สอนตัวเอง
นอกจากนั้น อลิสา ยังให้ความเห็นต่อไปว่า นายกฯ ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้นำที่ไม่เคยใช้ประสบการณ์มาสอน หรือปรับปรุงแก้ไขตัวเองเลย
"เธอเป็นคนที่ไม่ใช้ประสบการณ์มาสอนตัวเอง เพราะต้องยอมรับว่าอยู่ในตำแหน่งนี้มานานมากแล้วนะ แต่ก็ยังทำตัวเลิ่กลั่ก เพราะฉะนั้นคนที่สอนด้านภาษากาย ควรจะสอบตกไปเลย แต่คนที่ดูแลในเรื่องการแต่งตัว ต้องบอกว่าทำได้ดีมากๆ ตั้งแต่ทรงผม ไล่ลงมาถึงเสื้อผ้า เครื่องประดับ และรองเท้า แต่ทั้งหมดนี้จะดูหายไปทันที ถ้าผู้นำหญิงท่านนี้ พูด ตอนพูดนี่ดูขัดกับเสื้อผ้าหน้าผมมากๆ บางทีเห็นพูดอยู่ในโทรทัศน์ พูดตรงๆ นะคะ หงุดหงิดจนต้องหยิบรีโมตขึ้นปิดในทันที เพราะรู้สึกอายแทน" ผู้เชี่ยวชาญด้านภาพลักษณ์ขยายความ ก่อนจะเสริมต่อไปว่า
"เพื่อนๆ ชอบเอามาโพสต์ในเฟซบุ๊ก เวลาเปิดเข้าไปดูจะหงุดหงิดมาก และทุกคนก็วิพากษ์วิจารณ์กันเยอะมาก เพื่อนก็ถามว่าเห็นอะไรบ้าง เราก็จะบอกไปเลยว่า วินาทีตอนที่พูดเรื่องนี้ นายกฯ หญิงไม่ควรทำหน้าอย่างนี้ เพราะส่วนตัวเรียนเรื่องกล้ามเนื้อบนใบหน้ามา จึงรู้ว่า ควรจะทำหน้าแบบไหนถึงจะถูก ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยเข้าใจกัน
แต่สำหรับคนที่เรียนภาษากาย หรือภาษาท่าทางมา เขาจะบอกได้ว่า เฮ้ย! คุณ ช่วงนี้มีคนเสียชีวิตนะ ใส่สีให้มันหมองๆ หน่อย หน้าตาต้องเศร้าหน่อย อย่าเริงร่านัก พูดใช้มือให้มันน้อยหน่อย ก้มหน้าให้มันเยอะหน่อย ซึ่งเรื่องพวกนี้มันต้องสอนค่ะ ขนาดบารัค โอบามา ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ก็ถูกสอนมา แต่ผู้นำหญิงของเรา ไม่รู้เรื่องอะไรเลย"
ดังนั้น เธอในฐานะที่จัดคอร์สอบรมร่วมกับ ไมก์ คาร์เตอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านภาษากายระดับท็อปของประเทศอังกฤษ และทำงานร่วมกับ ริก ฟิงก์ หนึ่งในผู้ฝึกสอนบัตเลอร์รุ่นเดอะที่สุดของอังกฤษในการเปิดคอร์สอบรมมารยาทสังคมชั้นสูงในประเทศไทย อังกฤษ อยากจะสะกิดไปถึงนายกฯ ยิ่งลักษณ์ว่า
"ถ้าไม่มีคนแนะนำ คุณนั่นแหละที่จะต้องเป็นคนไปค้นคว้าหาความรู้เอง เพราะตอนที่ดิฉันได้ขึ้นเป็นผู้อำนวยการ (ทางธุรกิจ) ดิฉันยังต้องคิดเลยว่า เราเหมาะกับตำแหน่งนี้หรือเปล่า แล้วต้องรู้อะไรบ้าง จึงจะไม่อายเด็ก และไม่อายลูกน้อง แต่นี่เป็นถึงนายกรัฐมนตรี เรียกว่าเป็นภาระใหญ่ระดับชาติ ทุกสายตาจับจ้องมาที่คุณ จะไม่คิดเลยหรือว่าควรจะต้องรู้อะไร และไม่ควรรู้อะไร ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดพลาดอย่างมาก
ส่วนตัวรู้สึกว่า ไม่มีใครสอนให้สำรวมเลยเหรอ น่าจะมีคนสอนเรื่องการวางตัวพื้นฐาน ทำตัวธรรมดาๆ มีเงินอ่ะเข้าใจนะคะ แต่คุณมารับใช้คน รับใช้ประเทศ คุณต้องเข้าใจเรื่องนี้ อยู่นิ่งๆ บ้างก็ได้ค่ะ เพราะที่ผ่านมา เห็นอยู่เฉยไม่ค่อยเป็น ยุกยิกๆ ตลอดเวลาจนมีสักรูปไหมที่อยู่นิ่งๆ ซึ่งมันดูเยอะเกินไป แล้วอีกอย่าง การที่มารับตำแหน่งนี้ แต่ก่อนคุณจะเป็นอย่างไร มันไม่เป็นไร มันผ่านมาแล้ว พวกเราพลาดไปแล้วที่เลือกคุณมา แต่ช่วยแสดงออกหน่อยได้ไหมว่าคุณปกติ ตรงนี้แหละค่ะที่เธอแพ้ และซื้อใจคนที่มีการศึกษาไม่ได้"
ทั้งนี้ อลิสา ได้ยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่ไม่ปลื้มสุดๆ ตอนที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ เช็กแฮนด์กับประธานาธิบดีจีนเมื่อปีแล้ว โดยเธอเล่าว่า "เป็นภาพที่ลงหน้าหนึ่งของนสพ.บางกอกโพสต์ เวลาสอน ก็จะเอาภาพนี้ขึ้นฉายให้ผู้เรียนในห้องช่วยกันวิเคราะห์ ทุกคนที่เห็นภาพต่างก็บอกตรงกันว่า เห็นเขาเช็กแฮนด์กันและยิ้มให้กัน แต่ถ้าวิเคราะห์กันตามหลักแล้ว นายกฯ หญิงของเราเชิดหน้าในขณะที่เช็คแฮนกับประธานาธิบดีจีน ส่วนตามองลงมา แสดงให้เห็นการดูถูกดูหมิ่น ฟากประธานาธิบดีจีนก็มีเส้นที่คอแล้วหันไปอีกด้าน ซึ่งเวลาเช็กแฮนด์กัน ตามองกัน แต่นั่นบ่งบอกได้ว่า ทั้งสองคนเกลียดกัน ไม่ถูกกัน ไม่ชอบกัน ดังนั้น การเช็กแฮนด์ที่ถูกสอนมาให้เป็นนักการเมือง เป็นประธานาธิบดี เขาต้องรู้ว่าต้องมองคนที่เช็คแฮนด้วย"
"สวย..แต่โง่" ในสายตาคนเอเชีย
เวลานี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า ภาพลักษณ์ของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ทั้งบุคลิกภาพ มารยาททางสังคม และการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นภาษาพูด ภาษากาย และแสดงอารมณ์ทางสีหน้า ดังกระฉ่อนข้ามน้ำข้ามทะเลไปทั่วโลก อย่างประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่ อลิสา ได้เป็นคนไทยคนแรกที่เป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนด้านภาพลักษณ์และมารยาทการเข้าสังคมในประเทศจีนร่วมกับ Rick Fink Butler-Valet School ก็ยังพูดถึงผู้นำหญิงของไทยว่า "สวย..แต่โง่"
"จากที่ได้ไปสอนที่เมืองจีน พูดได้เลยว่า คนจีนส่วนใหญ่ชอบเขามากนะคะ ซึ่งพวกเขาจะพูดถึงว่า ทำไมนายกรัฐมนตรีประเทศคุณสวย แต่โง่ (ออกเสียงเบาๆ) หรืออย่างที่ประเทศสิงคโปร์ก็พูดค่ะ บอกว่าผู้นำหญิงของประเทศไทย สวยมาก แต่ She is Stupid หรือสวยแต่โง่นั่นเอง" อลิสาเล่าถึงสิ่งที่ได้รับฟังมา
ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญท่านนี้ อยากฝากให้เป็นกรณีศึกษา เพราะการเป็นผู้นำหญิงในประเทศที่ไม่เคยมีมาก่อน ย่อมมีเกียรติ และมีศักดิ์ศรี แต่สิ่งที่ผู้นำหญิงท่านนี้ทำ กลับตรงกันข้าม
"มีคนหลายคนมากที่พูดว่า พฤติกรรมต่างๆ ของนายกฯ หญิงคนแรก ทำให้คนยิ่งดูถูกผู้หญิงเข้าไปอีก ใครก็แล้วแต่ที่จะมารับตำแหน่งนี้ ควรดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งมีทั้งด้านดี และไม่ดี ด้านดีคือการแต่งกายที่แต่งได้ดูดีมาก แต่ที่เหลือ สอบตกหมด ดังนั้น ผู้หญิงคนต่อไป ถ้าจะขึ้นมารับตำแหน่งนี้ คุณไม่ใช่แค่ทำงานให้แก่ประเทศชาติ แต่คุณเหมือนเป็นผู้แทนของประเทศไทย คุณใส่แบรนด์ไทยแลนด์เวลาคุณออกไปติดต่อ เชื่อมสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ ถ้าลองไปดูรูปตอนที่ถ่ายกับนักการเมือง หรือผู้นำประเทศอื่นๆ ที่เป็นผู้ชาย จะเห็นเลยว่า ของเราจะถูกมองในเรื่องการวางตัวไม่เหมาะสมอย่างมาก
ในขณะที่นายกรัฐมนตรีของเยอรมนีอย่าง แองเกลา แมร์เคิล เธอก็นิ่งๆ เฉยๆ อ้วนก็ไม่เป็นไร แต่ทำงานเก่งซะอย่าง ส่วนของเรา เป็นลิงเป็นค่าง หรืออะไรก็ไม่รู้ ส่วนตัวเวลาเห็นรูปทั้งภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหว จะพูดเสมอเลยว่า นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ขาดที่ปรึกษาด้านภาษากาย เธอขาดคนที่จะสอนในเรื่องนี้
ส่วนอีกเรื่องคือ คนสอนเรื่องการพูด ซึ่งจำเป็นต้องเรียน อย่างบารัค โอบามา หรือใครต่อใครเขาก็เรียนกันหมด การพูดให้รู้เรื่องเป็นทักษะสำคัญของผู้นำประเทศ ภาษาอังกฤษถ้าพูดไม่ถนัด ก็ใช่ล่าม ญี่ปุ่นเขาก็ใช้ ชาติอื่นเขาก็ใช้ อย่ามั่นใจจนเกินเหตุ สุดท้ายคนก็ตำหนิ อย่างประเทศฟิลิปปินส์ เขาก็มีผู้นำที่เป็นผู้หญิงมาแล้วหลายคน และก็เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์เหมือนกัน แต่ไม่ใช่แบบประเทศไทย"
ผู้นำหญิงภาพลักษณ์ดีที่ควรเอาอย่าง
เมื่อถามถึงผู้นำหญิงที่รู้สึกว่าประทับใจในด้านภาพลักษณ์ นี่คือรายชื่อที่ "อลิสา" เลือกมานำเสนอ
"ถ้าให้มองประเทศอื่นๆ อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงของประเทศออสเตรเลียอย่าง จูเลีย กิลลาร์ด เธอคนนี้เก่ง และดูดีมาก เป็นช่างทำผมมาก่อน พูดจารู้เรื่อง มีสมอง ไม่กลัวใคร และก็ไม่ให้ใครมาชักจูงง่ายๆ หรือ แองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี เธอดูเป็นคนนิ่งๆ เฉยๆ ถึงอ้วนแต่ก็ไม่เป็นไร ทำงานเก่งซะอย่าง
ฉะนั้น ถ้าให้เอาผู้นำหญิง 3 ท่านมายืนเรียงกัน ของประเทศไทยดูดีที่สุดนะ แต่อย่าให้เธอพูด นั่งเฉยๆ ยืนนิ่ง หรือเอาปูนปลาสเตอร์หล่อเอาไว้เลย ในขณะที่อีก 2 ท่าน แสดงให้เห็นถึงนักการพูด และนักการทูตที่สามารถเล่นการเมืองกับชาติอื่นๆ ได้อย่างมีมันสมอง ถ้ามัวอ่านโพยไป จบโพยแล้วกลับนั่งสนทนากับชาติอื่นๆ เขาก็รู้แล้วว่า คุณรู้มีความรู้แค่นั้น อย่างที่สอง ถ้าไม่หนักแน่น เหลาะแหละๆ เขาก็มาบี้คุณ และจะเอาโน่นนี่นั่นจากคุณ แทนที่คุณจะได้ผลประโยชน์กลับมา
ส่วนที่เคารพมากๆ เห็นจะเป็น มาร์กาเรต แทตเชอร์ นายกรัฐมนตรีหญิง สตรีเหล็กของอังกฤษ แม้จะถึงแก่อนิจกรรมไปแล้ว แต่เธอก็เคยเป็นผู้นำหญิงที่แข็งแกร่งมาก และมีคนจดจำในเรื่องภาพลักษณ์ที่ดี และคนสุดท้ายคือ ออง ซาน ซูจี ของพม่า เธอเป็นผู้นำที่เข้มแข็งมากคนหนึ่ง ส่วนของเรา เป็นลิงเป็นค่าง หรืออะไรก็ไม่รู้" อลิสาทิ้งท้าย
ข่าวโดย ASTV ผู้จัดการ Live
เพื่อนๆล่ะ รู้สึกโดนด้วยมั๊ย...
Edited by Suraphan07, 12 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 14:53.