8 ความเห็นในกระทู้นี้

[ปุถุชน]

ศาลรัฐธรรมนูญ  พิจารณาคดี พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ขัดรัฐธรรมนูญ

12 มี.ค. 57 10.15 น.| เปิดอ่าน 60,296 | ความคิดเห็น 181

เพิ่มขนาด fontลดขนาด fontพิมพ์หน้านี้

S! News

สนับสนุนเนื้อหา

6.4K SHARES

องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาคดี พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ตามที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ศาลวินิจฉัย

นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com

 

องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาคดี พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ มีผลให้ร่างนี้ตกไป

 

โดยคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้เริ่มแถลงด้วยวาจาในการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องว่า ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ตั้งแต่เวลา 09.30 น. ที่ผ่านมา และได้มีมติออกมาเมื่อเวลา 12.30 น. โดยพบว่า ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ขัดกฎหมายรัฐธรรมนูญ มีผลให้ร่างนี้ตกไป

 

โดยนายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาล รัฐธรรมนูญเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนน 8 ต่อ 0 วินิจฉัยว่า ร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทขัดต่อรัฐธรรมนูญในส่วนของเนื้อหา ตาม มาตรา 169 วรรคหนึ่ง และมาตรา 170 ส่วนในเรื่องของกระบวนการร่างกฎหมายดังกล่าวนั้น คณะตุลาการมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 2 ให้กระบวนการในการร่าง ขัดต่อบทบัญญัติขอรัฐธรรมนูญ

 

นอกจากนี้คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญยังมีมติรับคำร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ที่ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปัญหาการออกพระราชกฤษฎีกาการเลือก ตั้ง 28 เขตเลือกตั้ง ใน 8 จังหวัดภาคใต้ ที่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ และให้ออกพระราชกฤษฎีการเลือกตั้งใหม่หรือไม่

 

พร้อมกันนั้นยังมีมติรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ยื่นต่อศาลรัฐ ธรรมนูญ ขอให้ศาลวินิจฉัยให้มีการเพิกถอนการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.เป็นโมฆะ เพราะขัดกับรัฐธรรมนูญและให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ โดยในส่วนคำร้องของ กกต.และ ของผู้ตรวจการแผ่นดินนั้น ศาลรัฐธรรมนูญ ก็เตรียมจะเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงทันที

 

สำหรับคดีพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ส่งความเห็นของสมาชิกรัฐสภา ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 154 วรรคหนึ่ง (1) ว่า ร่าง พ.ร.บ. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ของประเทศ มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 วรรคหนึ่ง และมาตรา 170 หรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่

 

ทั้งนี้ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ที่เดินทางมาที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญด้วย แสดงความเห็นว่าหากศาลชี้ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ อาจจะมีการยื่นต่อ ป.ป.ช. เพื่อถอดถอน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่รับผิดชอบตามคำวินิจฉัยของศาลต่อไป

 

http://news.sanook.c...-2-ล้านล้านบาท/

 

 

 

รัฐบาล'ประชาธิปไตยแม้วๆ'ของ น.ร.ก. ยิ่งลักษณ์ กับ รัฐบาล'ประชาธิปไตยซิมบับเว'ของ ประธานาธิบดี มูกาเบ้ ใครเป็นรัฐบาลทรราชมากกว่ากัน.....?

 

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ โรเบิร์ต มูกาเบ้ เป็นรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งเหมือนกัน.....!

ประธานาธิบดี มูกาเบ้ชนะการเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 7 เมื่อสิงหาคม ปี 2556

 

 

เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอย่างนี้ หล่อนจะมี'สามัญสำนึก'อย่างนักการเมืองระดับผู้นำประเทศทั่วไป พึงมีหรือไม่.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 

 

 

[UncleSam]

 มูกาเบ้ หน้าคิงคอง

 

 นางดอกทอ ง หน้าด้าน   

[ปุถุชน]

วสิษฐ เดชกุญชร

 

← ตะปูดอกสุดท้ายบนฝาโลงของทักษิณ

ต่อสู้กับระบอบโจราธิปไตย

11 มีนาคม 2014 โดย blogger   [อ่าน 253 คน , ยังไม่มีความเห็น , ID]

 

 

วสิษฐ เดชกุญชร

        ผมเอาใจช่วยคุณถวิล เปลี่ยนศรี มาตั้งแต่ท่านเริ่มต่อสู้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหุ่นกระบอกที่ (พ.ต.ท.)ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายของนางเป็นผู้เชิด 2 ปี 6 เดือนมาแล้ว

 

        ผมไม่รู้จักเป็นส่วนตัวกับคุณถวิล แต่ที่เอาใจช่วยก็เพราะการต่อสู้ของคุณถวิลเป็นสัญลักษณ์ เป็นตัวอย่างที่ผมอยากจะให้ข้าราชการประจำอื่น ๆ เห็นและเอาอย่าง

 

        คุณ ถวิลถูกย้ายจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ไปเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2554 เพื่อเปิดทางให้ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร คนของทักษิณ หลังจากถูก ย้ายแล้วคุณถวิลก็ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง และเมื่อ 31 พฤษภาคม 2556 ศาลมีคำสั่งให้เพิกถอน คำสั่งของนายกรัฐมนตรี และให้คืนตำแหน่งให้คุณถวิล แต่นายกรัฐมนตรีอุทธรณ์คำสั่งศาล จนที่สุดศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำสั่งเมื่อวันที่ 2 มีนาคมปีนี้ ให้คืนตำแหน่งเลขาธิการสภา ความมั่นคงแห่งชาติแก่คุณถวิล ภายใน 45 วัน

 

        เรื่องนักการเมืองรังแกข้าราชการประจำนั้นไม่ได้เป็นเรื่องเก่า แต่เกิดมานมนานกาเลแล้ว ทุกยุคทุกสมัย และสมัยก่อนมักจะจบลงด้วยชัยชนะของนักการเมือง ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะสมัยนั้นไม่มีอาวุธ ไม่มีเครื่องมือชนิดใดที่ข้าราชการประจำจะใช้ต่อสู้กับนักการเมืองได้ เวลาข้าราชการประจำถูกนักการเมืองรังแกก็มักไม่สู้เพราะกลัว หากจะคิดต่อสู้ก็ทำได้แต่ด้วยการร้องเรียนกล่าวหาขึ้นไปตามลำดับ ชั้น คำร้องเรียนกล่าวหานั้นส่วนมากก็มักถูกผู้บังคับบัญชาระงับ เพราะผู้บังคับบัญชาก็กลัวนักการเมืองเหมือนกัน แต่ถ้าตลอดรอดฝั่งจนเรื่องร้องเรียนขึ้นไปถึงผู้บังคับบัญชาสูงสุด ก็จะมีการตั้งกรรมการสอบสวน และการสอบสวนก็มักจะจบลงด้วยการระงับเรื่อง หรือลงทัณฑ์เบา ๆ พอเป็นพิธี

 

        ข้าราชการประจำจึงเหมือนลูกไก่อยู่ในกำมือของนักการเมือง จะบีบก็ตายคลายก็รอด

 

        มาสมัยนี้ แม้ต่อมาจะมีอาวุธหรือเครื่องมือที่ใช้ต่อสู้กับนักการเมืองได้ คือศาลปกครอง แต่ข้าราชการประจำเองก็มักไม่เต็มใจที่จะใช้ เพราะขี้เกียจไม่อยากมีเรื่อง หรือเพราะกลัวว่าหากตนเป็นฝ่ายชนะแล้วจะถูกเอาปูนหมายหัวและไม่ก้าวหน้า จึงจะเห็นว่ามีข้าราชการประจำน้อยรายที่พึ่งศาลปกครอง ทั้ง ๆ ที่เป็นสิทธิของตนเอง

 

        สมัย ที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ผมได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ที่ไม่เป็นธรรม ในการสอบสวนได้พบว่าการแต่งตั้งที่ไม่เป็นธรรมนั้น มีมากเกือบทุกระดับชั้น แต่แทบไม่มีตำรวจคนใดที่ใช้สิทธิฟ้องร้องต่อศาลปกครอง กรรมการท่านหนึ่งคือ ท่านอาจารย์ ดร.เดชอุดม ไกรฤทธิ์ (ปัจจุบันเป็นนายกสภาทนายความแห่งประเทศไทย) อุตส่าห์เขียนหนังสือคู่มือขึ้นเล่มหนึ่ง สำหรับให้ตำรวจที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ใช้ในการฟ้องร้อง กล่าวหาผู้บังคับบัญชา (รวมทั้งนักการเมืองที่เป็นผู้บังคับบัญชาด้วย) รัฐบาลอภิสิทธิ์พิมพ์หนังสือคู่มือนี้แจกไปทั่วทั้งประเทศ แต่ก็ไม่ปรากฏว่ามีตำรวจสักกี่คนที่ได้นำไปใช้ ลงท้ายก็ไม่สู้และปล่อยให้ผู้บัง คับบัญชาที่รับใช้นักการเมืองรังแกมาเรื่อย ๆ

 

        ยิ่งมีผู้บังคับบัญชาจำพวกที่ “มีวันนี้เพราะพี่ให้” เป็นตัวอย่างด้วยแล้ว ตำรวจก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต่อสู้

 

        ข้าราชการกระทรวงทบวงกรมต่าง ๆ จึงประสบเคราะห์กรรมทำนองเดียวกัน และรัฐบาลจึงเข้ายึดครองราชการประจำได้เกือบสิ้นเชิง ใคร ๆ เรียกระบอบนี้ว่าระบอบทักษิณ แต่ผมขอเรียกว่า “โจราธิปไตย” เพราะมันขโมยและปล้นทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งตำแหน่งข้าราชการประจำด้วย

 

        คุณถวิล เปลี่ยนศรี เป็นตัวอย่างของข้่าราชการที่ไม่ยอมแพ้ระบอบโจราธิปไตย แต่ได้ตัดสินใจ ที่จะต่อสู้  และในที่สุดคุณถวิลก็เป็นฝ่ายชนะ

 

        แต่ ชัยชนะของคุณถวิลนั้นยังไม่ถึงที่สุด จนกว่ารัฐบาลจะย้าย พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติคนปัจจุบันไปดำรงตำแหน่งอื่น และแต่งตั้งคุณถวิลให้เป็นเลขาธิการแทนตามเดิม รัฐบาลจะต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 45 วัน ถ้านายกรัฐมนตรีรักษาการณ์ไม่บิดตะกูด คุณถวิลก็คงจะได้เป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติอยู่ราว 5 เดือน ก่อนจะถึงเกษียณอายุราชการ

        สำหรับคนอย่างคุณถวิล เวลา 5 เดือนก็มากพอที่คุณถวิลจะทำอะไรให้เป็นประโยชน์แก่บ้าน เมืองได้ไม่น้อย

        ต่อสู้ กับรัฐบาลในระบอบโจราธิปไตยต้องใช้เวลาและทุ่มเททั้งใจและกายอย่างนี้แหละ ครับ แต่ถ้างอมืองอเท้าไม่ยอมสู้กับมัน ในที่สุดโจรมันก็จะครองเมือง และบ้านเมืองก็จะถึงมิคสัญญี

 

http://chaoprayanews...บระบอบโจราธิปไ/

 

 

 

 

 

       ข้าราชการกระทรวงทบวงกรมต่าง ๆ จึงประสบเคราะห์กรรมทำนองเดียวกัน และรัฐบาลจึงเข้ายึดครองราชการประจำได้เกือบสิ้นเชิง ใคร ๆ เรียกระบอบนี้ว่าระบอบทักษิณ แต่ผมขอเรียกว่า “โจราธิปไตย” เพราะมันขโมยและปล้นทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งตำแหน่งข้าราชการประจำด้วย

 

        คุณถวิล เปลี่ยนศรี เป็นตัวอย่างของข้่าราชการที่ไม่ยอมแพ้ระบอบโจราธิปไตย แต่ได้ตัดสินใจ ที่จะต่อสู้  และในที่สุดคุณถวิลก็เป็นฝ่ายชนะ

[Suleesav]

_{เออครืออยากถามว่า....."สามัญสำนึก"  มันสะกดอย่างไรเคอะ แล้วมันแปลว่าอะไร. หนูไม่รู้ฮ่ะเพราะโพยไม่ได้บอกไว้...}

[wat]

 ถ้าเกิดมามียางตอนนี้ก็แปลกแล้วล่ะขอรับ มันผิดธรรมชาติ เฉกเช่นดังหญิงหมดระดูเข้าสู่วัยทอง จะกลับมามีระดูได้ฉันใด... เห รี้ยมาขนาดนี้แล้ว ก็คงกลายร่างเป็นพุดเดิ้ลคงเปงปายม่ายล่ายฉันนั้นแลขอรับ... อาเมนด้วยประการล่ะฉะนี้...

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

คุณถวิล เปลี่ยนศรี เป็นตัวอย่างของข้่าราชการที่ไม่ยอมแพ้ระบอบโจราธิปไตย แต่ได้ตัดสินใจ ที่จะต่อสู้  และในที่สุดคุณถวิลก็เป็นฝ่ายชนะ

^

^

ประโยคนี้ผมโคตรซึ้งเลยครับ รู้สึกตื้นตันและฮึกเหิมในเวลาเดียวกัน

[idecon]

นางไม่มียางหรอกครับ
มีแต่ซิลิโคน
ปากเบี้ยวอีกต่างหาก

[18Bottle]

อย่าไปถามหา "สามัญสำนึก" จากคนอย่างมัน ไม่มีทางที่จะมี

 

ยังหลอกตัวเองและหลอกชาวบ้านต่อไป

[ธีรเดชน้อย]

ไปเจอมาอันหนึ่ง น่าจะใกล้เคียงกับลุงปุฯ  สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้ 

 

 

Time Chuastapanasiri

วันนี้ เวลา 18:30 · แก้ไขแล้ว · 

 · 

"วาทกรรมไม่รับศาลรัฐธรรมนูญ จากคนเสื้อแดง!"

หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ว่าร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ หมวด 8 ว่าด้วยการเงิน การคลัง และงบประมาณ และมีคำวินิจฉัยว่าร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้ และมีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งข้อความดังกล่าวเป็นสาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ จึงมีผลให้ร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน เป็นอันตกไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 154 วรรคสาม

น่าจะนำไปสู่การสร้าง "วาทกรรมบิดเบือนทางการเมือง" ที่ฝ่ายตนเองถนัด ดังนี้

(1) แกนนำแดง จะเปิดแถลงข่าว (ซึ่งก็เปิดไปแล้ว) ว่าศาลรัฐธรรมนูญนั้นลำเอียง และไม่ยอมรับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ

(2) นักวิชาการนิติราษฏ์ จะจัดแถลงข่าวไม่ยอมรับ และชำแหละคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ และบิดเบือน / ตีความ หาช่องว่าง และเข้าสูตรเดิมๆ ว่า "ตุลาการภิวัฒน์นี้ ขัดขวางความเจริญประเทศ และเข้าข้างอำมาตย์ ต้องการล้มรัฐบาล"

สูตรสำเร็จของนิติราษฏ์คือ "หาช่องโหว่ เสียงวินิจฉัยข้างน้อย และเอามาขยายความ ขยายผล"

รอบนี้ศาลรัฐธรรมนูญออกเสียงวินิจฉัย 9-0 ว่าผิด, จะคอยดูว่านิติราษฏฺ์จะตะแบงอย่างไร?

(3) แกนนำพรรคเพื่อไทย (เช่น จาตุรนต์) ก็แถลงออกมาแล้วว่า คำพิพากษาศาลรัฐบธรรมนูญไม่เป้นธรรม ลำเอียง

(4) คุณยิ่งลักษณ์ก็ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย บอกน่าเสียดายโอกาสสำหรับการพัฒนาประเทศ

(5) คนเสื้อแดง ก็จะออกมารับลูก "วาทกรรม" ศาลรัฐธรรมนูญขัดขวางฝ่ายรัฐบาล บริหารประเทศด้วย "เจตนาดี ที่ กฎหมายไม่ควรมาขัด"

ภาพศาลรัฐธรรมนูญ จะถูกโจมตีด้วยวาทกรรมทางการเมือง
"ตุลาการภิวัฒน์ ลำเอียง อคติ ขัดขวางการพัฒนาประเทศ ทำให้ประเทศล้าหลัง ฯลฯ" และมีคนเสื้อแดงหลายส่วน ออกมาโดดดิ้นโวยววายว่า "เอะอะอะไรก็ขัดรัฐธรรมนูญ ขัดรัฐธรรมนูญ ประเทศเดินหน้าไม่ได้"

เหล่านี้คือกระบวนการที่แสดงออกถึง "การไม่เคารพศาล", "ไม่เคารพกฎกติกาบ้านเมือง" ซึ่งกลายเป็นสิ่งะรรมดาสำหรับคนเสื้อแดง ที่ไม่พอใจ ไม่ตรงใจ ไม่ได้ดั่งใจตนเอง ก็เรียกร้องโวยวายและกล่าวโจมตีว่าร้ายศาล

เป็นการสะท้อนว่า "พร้อมคดโกง พร้อมบิดเบือน พร้อมแถถาง เพื่อผลประโยชน์ตน" 
ไม่สนหลักการ ไม่สนกฎหมาย ไม่สนความถูกผิด!

เล่นเกมการเมืองจนผิดเพี้ยนหลักขื่อแปแบบนี้, ต้องชั่วเท่านั้นจึงจะทำได้!

.....................................................................

พรุ่งนี้ไป ไคลแมกซ์ คงไม่ได้อยู่ที่ยิ่งลักษณ์ครับ เพราะ เธอ ไร้ซึ่งความรับผิดชอบอยู่แล้ว

คงต้องดูบรรดาลูกสมุนทั้งหลายว่าจะออกมาดิ้นอย่างไร 

ปล. เพิ่มเติมเล็กน้อยครับ ลืม สื่อฯ ไปเลย จับตา สรุยุทธ ว๊อยซ์ทีวี เอเซียอัพเดท และ มติชิน 

Edited by ธีรเดชน้อย, 12 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 22:04.