"สตง." ไล่บี้ "สลน." ทวงเงินจ้าง “มติชน-สยามสปอร์ต” จัดอีเวนต์ 240 ล้าน
สตง.เตรียมร่อนหนังสือถึง สลน. ให้ยืนยันข้อเท็จจริงเป็นทางการจ่ายเงินจ้าง"มติชน-สยามสปอร์ต” จัดอีเวนต์โรดโชว์สร้างอนาคตประเทศ 240 ล้าน หรือยัง หลังศาลรัฐธรรมนูญ"ตีตก"กม.กู้เงิน 2 ล้านล้าน ส่งผลให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดินส่วนนี้ไม่คุ้มค่าเกิดประโยชน์ตามที่เคยท้วงติงไว้ ระบุชัด หากจ่ายเงินไปแล้ว ต้องมีผู้รับผิดชอบ ติดตามเงินหลวงคืน!
แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ขณะนี้ สตง. อยู่ระหว่างการจัดทำหนังสือแจ้งไปถึงสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) เพื่อให้ยืนยันข้อเท็จจริงเป็นทางการว่า มีการจ่ายเงินค่าจ้างจัดงานประชาสัมพันธ์โครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 ทุกภาคทั่วประเทศ จำนวน 10 จังหวัด วงเงิน 240 ล้าน ซึ่งปรากฏรายชื่อ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้าง ไปแล้วหรือไม่ ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของประเทศ พ.ศ.... หรือ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทตกไป เนื่องจากไม่ชอบทั้งกระบวนการออกกฎหมาย และเนื้อหาขัดต่อรัฐธรรมนูญ ส่งผลทำให้การใช้จ่ายเงินประชาชนงานส่วนนี้ ส่อว่าจะไม่คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ตามที่ สตง.ได้ทำหนังสือทักท้วงการดำเนินการเรื่องนี้มาแล้ว
“ขณะนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยให้กม.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทตกไปแล้ว การใช้จ่ายเงินประมาณแผ่นดิน เพื่อพีอาร์โครงการโครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 ดังกล่าว ซึ่งอยู่ภายใต้การดำเนินงานโครงการเงินกู้ 2 ล้านล้าน จึงส่อว่าจะสูญเปล่า ไม่เกิดประโยชน์ ตามที่ สตง.ทำหนังสือทักท้วงมาก่อนหน้านี้ สตง.จึงต้องการคำยืนยันจาก สลน. ว่าได้ดำเนินการจ้างเงินให้กับบริษัทเอกชนสองรายไปแล้วหรือยัง เพราะถ้าหากมีการจ่ายเงินไปแล้วก็เท่ากับมีความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว และจะต้องมีบุคคลที่รับผิดชอบกับเรื่องนี้ ในการติดตามเอาเงินหลวงกลับคืนมา”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกี่ยวกับกรณีการว่าจ้างบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) จัดงานพีอาร์โครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 วงเงิน 240 ล้านบาท ดังกล่าว สตง. เคยทำหนังสือถึง สลน. เพื่อขอให้ทบทวนการจ่ายเงินว่าจ้างจัดงานประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าวให้กับบริษัทเอกชนทั้งสองรายดังกล่าวมาแล้ว โดยให้เหตุผลว่า กฎหมายเงินกู้ 2 ล้านล้าน ที่รัฐบาลนำมาใช้เป็นวัตถุประสงค์หลักในการจัดงานประชาสัมพันธ์ดังกล่าว อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งยังไม่ปรากฏผลชัดเจนว่ากฎหมายฉบับนี้จะผ่านการพิจารณาหรือไม่ ขณะที่กระบวนการว่าจ้างบริษัทเอกชนเข้ามารับงานนี้ ก็ถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้น โดยเฉพาะการสืบราคางานจากบริษัทเอกชนเพียงรายเดียว แต่ทาง สลน. โดยนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในหนังสือตอบ สตง.เป็นทางการว่า ไม่สามารถทบทวนได้ เนื่องจากเป็นงานที่ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
"รัฐบาลมีหน้าที่ในการดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภาตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ การจัดงานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการปฎิบัติงานตามนโยบายที่แถลงไว้"
ในส่วนร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของประเทศ พ.ศ.....จะชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ก็จะพิจารณาทบทวนเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับร่างกฎหมายดังกล่าว แต่ขั้นตอนของงานและกระบวนการส่วนอื่นที่ดำเนินการตามนโยบายก็ล้วนแต่ให้เกิดประสิทธิภาพและสอดคล้องตามวัตถุประสงค์และจำเป็นต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ" นายสุรนันท์ ระบุ...
http://www.isranews....JScmVmA.twitter
ไม่น่าเชื่อขอรับ... องค์กรสื่อที่โคตรคุณภาพในอดีต ที่ยุคหนึ่งนักเขียนไทยบิ๊กเนมของวงการหนังสือไทยไปเข้าสังกัดแทบทั้งสิ้น วันนี้กลายเป็นแค่กลุ่มมิจฉาชีพที่หากินกับคำว่า "สื่อสารมวลชน" เมื่อมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ย่อมดับไปเป็นธรรมดา... ก็ไม่น่า "เสื่อม" ในผู้สืบทอดรุ่นหลังได้ถึงเพียงนี้...