พูดถึงเรื่องงานเขียน
ผมเคยมีความฝันอยากเป็นนักดนตรีอาชีพ ไม่ได้อยากรวยหรือมีชื่อเสียง แต่อยากฝากผลงานไว้ให้ผู้ฟัง ตอนผมอายุสามสิบนิดๆ ผมรวบรวมเพลงที่แต่งไว้ได้สี่เพลง หลังจากลองเล่นให้เพื่อนๆฟังแล้ว เพื่อนๆบอกว่าดีน่าจะเอาไปเสนอค่ายเพลง ผมรวบรวมความกล้าอยู่หลายวัน จึงตัดสินใจจะไปเสนอค่ายเพลง คิดว่าอย่างน้อยขายเพลงได้ก็ยังดี ตื่นมาตอนเช้าบอกกับภรรยาว่า"ตัวเองเขาจะลองเอาเพลงไปเสนอค่ายเพลงนะ" แค่นั้นแหละ ภรรยาผมเล่นกลับมาเป็นชุดเลย "แก่แล้วไม่เจียมดูสารูปตัวเองสิแหมแก่จะตายอยู่แล้วอยากเป็นนักร้อง" "ถ้าว่างนักก็ไปหาอะไรทำไป" ผมยืนงงๆอยู่สักพัก ยืนมองกีตาร์ไฟฟ้าที่เธอเป็นคนซื้อให้ตอนแต่งงานใหม่ๆแล้วเดินออกจากบ้านไป
ผมเดินไปที่ร้านค้าซื้อแฟ๊บกลับมาสองห่อ แล้วก้มหน้าก้มตาซักผ้าเหมือนที่ทำทุกๆวัน คิดอยู่ในใจ "เราคงเหมาะกับสิ่งนี้" แต่ซักไปซักมาก็แต่งเพลงได้อีกเพลงหนึ่ง
นี่เป็นบางส่วนที่คิดได้ตอนซักผ้า
"ผ่านแล้วสิบห้าฝน จากคนเคยอยู่ลำพัง เดี๋ยวนี้ต้องมาทนฟัง เสียงดังเธอเรียกใช้งาน เอาผ้ากองนี้ไปซัก อย่ายึกยักส่งเงินเดือนมา โอ้แม่คุณกานดา เธอมาเป็นแม่ฉันทำไม"
ขอหัวเราะอีกครั้งที่ได้อ่าน มิใช่หัวเราะเยาะนะครับ แต่ขำเรื่องราวในสิ่งที่คนเราทุกคนเจอะเจอในแต่ละวัน
เมื่อเวลาผ่านไปหากเราได้ย้อนดูเรื่องราวที่ผ่านมาจะเห็นว่า มีทั้งสุขทุกข์คละเคล้ากันไป เราอาจเคยวาดฝันในสิ่งที่เรา
อยากได้อยากเป็น แต่สุดท้ายเราๆก็ต้องกลับสู่โลกแห่งความจริงทุกคน