Jump to content


Photo
- - - - -

คำชี้แจงต่อกรณีพรรคเพื่อไทยไม่ยอมรับคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ

ศาลรธน

  • Please log in to reply
21 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 ธีรเดชน้อย

ธีรเดชน้อย

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,659 posts

ตอบ 22 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 22:53

*
POPULAR

 

.....เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2557 พรรคเพื่อไทยได้ออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 วรรคสอง 
.....คำแถลงการณ๋มี 6 ข้อ แต่จะขอพูดเฉพาะข้อ 4 ที่มีข้อความว่า พรรคเห็นว่าที่มาและทัศนคติของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญส่วนใหญ่ มีปัญหาตั้งแต่แรกจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากมีกำเนิดมาจากการแต่งตั้งตามคำสั่งของคณะรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ตุลาการหลายท่านไปเป็นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 2550 หลังจากนั้นได้สร้างผลงานที่ส่งผลกระทบต่อพรรคการเมืองและนักการเมืองฝ่ายพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่การยุบพรรคไทยรักไทย เมื่อไปตั้งพรรคพลังประชาชนก็ถูกยุบพรรคอีกพร้อมเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด การตัดสินคดีนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างน่ากังขา ฯลฯ นั้น

.....ที่อ้างว่า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญส่วนใหญ่ชุดกำเนิดมาจากการแต่งตั้งตามคำสั่งของคณะรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 เป็นการเอาความเท็จมาอ้าง เพราะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมดได้รับการคัดเลือกมาจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด คณะกรรมการสรรหา ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา และได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มาตรา 204 ไม่ใช่มาจากการแต่งตั้งของคณะรัฐประหารดังที่พรรคเพื่อไทยอ้าง รวมทั้งกลุ่มคนที่ยอมตัวเป็นขี้ข้่าทักษิณมักชอบเอามาอ้างหลอกประชาชนที่ยังขาดความรู้เข้าใจผิดตลอดมา
.....ที่อ้างว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้มีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคไทยรักไทย ก็เป็นเอาความเท็จมาอ้างเช่นเดียวกัน เพราะความจริงคือพรรคไทยรักไทยมีคำวินิจฉัยให้ยุบโดยคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ (ไม่ใช่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ) ที่ประกอบประธานศาลฎีกาเป็นประธาน ประธานศาลปกครองสูงสุดเป็นรองประธาน และคณะตุลาการที่เลือกโดยที่ประชุมใหญ่ศาลฏีกาและที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด
.....พรรคพลังประชานถูกยุบ เพราะนายยงยุทธ ติยะไพรัช ถูกศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง พิพากษาว่ากระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งโดยการซื้อเสียง จึงให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง และนายยงยุทธเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน จึงเข้าข่ายที่่พรรคจะต้องถูกยุบตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา 237 เรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญต้องฟังตามคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งที่พิพากษาว่า นายยงยุทธทุจจริตในการเลือกตั้ง จึงเป็นการวินิจฉัยไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญทุกประการ
.....เรื่องนายสมัคร สุนทรเวช นั้น เนื่องจากที่หล้งเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วยังคงเป็นพิธีกรในรายการ“ชิมไป บ่นไป” และ “ยกโขยง 6 โมงเช้า" ให้แก่บริษัท เฟซ มีเดีย จำกัด ที่สถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง โดยได้รับค่าตอบแทน จึงเป็นการกระทำท่ีต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 267 ความเป็นรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช จึงสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตาม รัฐธรรมนูญ มาตรา 182 วรรคหน่ึง (7) ซึ่งก็เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กรณีนี้ผู้ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ก็คือนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตวุฒิสมาชิกที่ปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้สมัคร ส.ส. แบบส่วนสัดของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557

.....จึงเห็นได้ว่า พรรคเพื่อไทยพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจผิด โดยเฉพาะกลุ่มคนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยเชื่อและนำมาพูดกันตลอดมา
.....อย่าได้สงสัยเลยว่าทำไม เมื่อพรรคเพื่อไทยหรือคนของพรรคเพื่อไทยถูกดำเนินคดีไม่ว่าในชั้นศาลหรือในองค์กรอิสระ จึงถูกวินิจฉัยให้เป็นฝ่ายพ่ายแพ้บ่อย ๆ 
.....นอกจากมีการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายแล้ว ฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทยยังไม่สนใจที่จะใฝ่รู้ว่า รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายบัญญัติว่าอย่างไร ทั้งข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องที่จะนำมาต่อสู้คดีก็ยังไม่สนใจอีกด้วย 
....สงสัยอาจติดนิสัยของทักษิณ ชินวัตร ที่คิดว่าใช้เงินซื้อได้หรือนำเงินใส่ถุงไปวางไว้แล้วจะทำให้ชนะคดี ครับ

...........................................................................................

 

เห็นมีความพยายามบิดเบือน ใส่ร้ายป้ายสี ศาลรธน.กันมากขึ้น โดยไม่สนใจข้อเท็จจริงจึงขอนำความเห็็นของท่านชูชาติ ศรีแสง

 

อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา มาลงให้อ่านครับ https://www.facebook...468417729951125

 

 


" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ   "

 

 


#2 แสงดาวแห่งศรัทธา

แสงดาวแห่งศรัทธา

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 951 posts

ตอบ 22 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 23:25

มันน่าเกลียดที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยจริงเชียว เอาแต่ได้พอไม่ถูกใจก็ทําทุกวิถีทาง อยากจะถอนรากถอนโคนแม่มให้หมด

#3 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 22 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 23:28

เมื่อคำว่า อยุติธรรม เอนเอียง กลายเป็นตรรกะของคนที่ทำผิดแล้วไม่รับผิด


ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#4 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 22 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 23:29

พรรคเผาไทย มันรู้ว่ากลุ่มคนที่สนับสนุนมัน เป็นกลุ่มคนแบบไหน 1. โง่ 2. เห็นแก่เงิน เมื่อ 2 กลุ่มนี้สนับสนุน ต่อให้มันโกหกยังไง พวกนี้ก็พร้อมจะเชื่อทุกอย่างอยู่แล้ว



#5 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 22 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 23:34

*
POPULAR

1924757_10201545274583867_1712197199_n.j



#6 คลำปม

คลำปม

    สลิ่มเต็มขั้นจ้า

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,657 posts

ตอบ 22 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 23:49

ถ้าฝ่ายสนับสนุนทักษิณ  ผิดหวังกับการตัดสินขององค์กรตรวจสอบในหลายกรณี

 

ผมว่าควรจะสำเหนียกกันบ้างนะครับว่าฝ่ายตน มีความผิดตามที่กล่าวหาบ้างไหม?

 

ไม่ใช่เอะอะก็อ้างกรรมการไม่ยุติธรรมตลอด

 

ทั้งที่ติดสินบนถุงขนมให้กรรมการ  จับได้คาหนังคาเขาเป็นฝ่ายไหนก็รู้อยู่

 

 

พวกคุณไม่เคยยึดกฎระเบียบใดๆที่จำกัดความต้องการของตัวเอง

 

ทักษิณอยากได้อะไร  ติดขัดข้อกฎหมายก็แก้กฏหมาย

 

สภาก็มีเอาไว้ใช้งาน  ตัวเองหนีสภาตลอด

 

น้องสาวก็พอกัน  หนีเที่ยวต่างประเทศตลอด  ลอกแบบกันเป๊ะๆ

 

 

กติกาเดียวที่ทักษิณชูเป็นธงชัยก็คือคะแนนเสียงของประชาชน

 

ซึ่งเขามีมากก็เพราะเขากล้าประกาศนโยบายที่ผิดวินัยการเงินการคลัง

 

ประหนึ่งว่าแทบจะขนเงินงบประมาณมาแจกประชาชนกันเลย  ประเทศเป็นยังไงก็ช่างมัน

 

ผมขอถามคนที่ยืนฝั่งทักษิณว่า

 

ประเทศเราจะไปต่อกันอย่างนี้ได้จริงๆหรือครับ?


วิธีการยุติระบอบทักษิณ

ก็แค่เพียงทำให้คนไทยส่วนใหญ่ "ฉลาด"


#7 ธีรเดชน้อย

ธีรเดชน้อย

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,659 posts

ตอบ 22 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 23:53

ขออนุญาตลงข่าวและบทวิเคราะห์เพื่อความต่อเนื่องครับ 

 

"ปปช."ชงวุฒิฯถอด"นิคม"วันจันทร์"ค้อน"ส่อโดนหลายกระทง

 

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เปิดเผยว่าวันในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ป.ป.ช.จะลงนามรับรองสำนวนการชี้มูลความผิดการถอดถอนนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาส.ว.โดยมิชอบ จากนั้นจะส่งเรื่องไปให้วุฒิสภาเพื่อดำเนินการถอดถอนในขั้นตอนต่อไปทันที  

นายสรรเสริญ ยืนยันว่าการลงมติของป.ป.ช.ในเรื่องดังกล่าวเป็นการทำตามอำนาจหน้าที่ ทำทุกอย่างตามกฎหมายและพยานหลักฐาน อย่าไปผูกโยงว่า เป็นหนึ่งในกระบวนการโค่นล้มรัฐบาล ส่วนการไต่สวนถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มาส.ว.โดยมิชอบ ขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนพยานเพิ่มเติมอีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คาดว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์จะส่งเรื่องให้ที่ประชุมป.ป.ช.ชุดใหญ่ลงมติตัดสินได้ว่ามีความผิดหรือไม่ 

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับข้อกล่าวหาของนายสมศักดิ์ ที่ถูกป.ป.ช.ไต่สวนถอดถอนกรณีวางตัวไม่เป็นกลางในการทำหน้าที่ประธานที่ประชุมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญประกอบด้วย 1.กรณีเป็นผู้ตรวจร่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มาส.ว. ที่ถูกส่งเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งถูกกล่าวหาว่า เป็นร่างปลอม ไม่ตรงกับร่างที่สมาชิกรัฐสภาเข้าชื่อขอแก้ไข 

2.กรณีปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ซึ่งได้จัดให้ลงมติเพื่อวินิจฉัยตัดสิทธิสมาชิกผู้แปรญัตติ ผู้สงวนคำแปรญัตติ และผู้สงวนความเห็น จำนวน 57 คน โดยอ้างว่า คำแปรญัตติของสมาชิกรัฐสภาขัดต่อหลักการ กรณีดังกล่าวนายนิคมชี้แจงต่อป.ป.ช.ว่า การตัดสิทธิสมาชิก 57 คน ไม่ให้อภิปราย อยู่ในช่วงที่นายสมศักดิ์ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม 

3.กรณีการรวบรัดให้มีการลงมติอภิปรายทั้งที่มีผู้แปรญัตติ ผู้สงวนคำแปรญัตติ และผู้สงวนความเห็นที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิอภิปรายจำนวนมาก โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของสมาชิก ซึ่งเป็นกรณีเดียวกับที่ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนายนิคม เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา.

http://www.thaipost.net/node/87884


" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ   "

 

 


#8 ธีรเดชน้อย

ธีรเดชน้อย

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,659 posts

ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 00:08

ลองอ่านข่าวย้อนหลังไปดู เพื่อไทยก็รู้อยู่แล้วว่า ต้องโมฆะ แต่ดันออกแถลงไม่ยอมรับ 

 

การเมือง
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2557 18:28
พท.จี้กกต.จัดเลือกตั้งให้ทันเปิดสภา4มี.ค.

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

พท.ออกแถลงการณ์ 3 ข้อ จี้กกต.เร่งจัดเลือกตั้งให้ทันเปิดสภาฯ 4 มี.ค. ย้อนกกต.ตอบคำถาม 7 ข้อของตัวเองก่อนดีกว่า

 

"พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้กกต. ดำเนินการดังต่อไปนี้ 1.กกต.ต้องจัดการเลือกตั้ง เพื่อให้เปิดสภาฯ ได้ภายใน 30 วัน นับจากวันเลือกตั้ง 2 ก.พ.คือ ต้องเปิดประชุมสภาฯได้ไม่เกินวันที่ 4 มี.ค. 2.สำหรับเขตเลือกตั้ง 28 เขตที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่สามารถลงสมัครเลือกตั้งได้เพราะกปปส.ไปขัดขวาง กกต.มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 235 และมาตรา 236 และตามกฎหมายเลือกตั้งที่จะจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จได้โดยไม่ต้องออกพ.ร.ฎ.เลือกตั้งใหม่ตามที่กกต.เสนอ เพราะการทำเช่นนั้นจะฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญมาตรา 108 ที่กำหนดให้วันเลือกตั้งเป็นวันเดียวกันทั้งประเทศ ซึ่งจะทำให้การเลือกตั้ง 2 ก.พ.ที่ผ่านมาเป็นโมฆะทั้งหมด และ 3.พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้กกต.จัดการเลือกตั้งที่ค้างอยู่ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วเพื่อเปิดประชุมสภาฯ และจัดตั้งรัฐบาลเพื่อบริหารประเทศต่อไป" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว

 

http://www.bangkokbi...ดสภา4มี.ค..html

 


" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ   "

 

 


#9 a.mtvv

a.mtvv

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,190 posts

ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 00:26

BjWOo6bCEAArE3k.png

 

นังนี่มันไปไกลเสียแล้ว!!!



#10 a.mtvv

a.mtvv

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,190 posts

ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 00:26

BjWOalOCAAAy43c.png

 

A Man From Sky @amanfromsky 14m

รวมพลคนรักชาติ 29 มีนาคม



#11 เรื่อยๆเอื่อยๆ

เรื่อยๆเอื่อยๆ

    There is a face beneath this mask, but it isn't me.

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,223 posts

ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 00:28

BjWOo6bCEAArE3k.png

 

นังนี่มันไปไกลเสียแล้ว!!!

 

เรื่องนี้มันเรื่องแต่งใส่ร้ายกันครับ 



#12 IFai

IFai

    รักในหลวง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,782 posts

ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 05:56

BjWOo6bCEAArE3k.png

 

นังนี่มันไปไกลเสียแล้ว!!!

    โดนชินวัตร คนไหนครอบ? จึงต้องเปลียนนามสกุล


ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ


#13 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 10:00

...... กูผิด กูไม่รับ... กูรับแต่ ถูก เท่านั้น...

..... มีอะไร รึเปล่า...????

 



#14 nhum

nhum

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,056 posts

ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 10:04

พรรคเพื่อไทยก็ดีแต่ด่าคนอื่นว่ารับแต่ชอบ
แต่ไม่ดูการกระทำของพรรคตัวเองที่ผ่านๆมาเล้ย

#15 ท่าษายติณหัก

ท่าษายติณหัก

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 859 posts

ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 12:08

ถ้ายอมรับผิดง่ายๆก็ไม่ใช่โจรสิครับ :lol: 


ท่าษายติณหัก= ท่า สาย ติน หักมาเล่นผวนคำกันไหม

#16 DarkSwan

DarkSwan

    Reporter Activated

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,689 posts

ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 13:59

ถ้ายอมรับผิดง่ายๆก็ไม่ใช่โจรสิครับ :lol: 

 

โจรธรรมดายังไม่ด้านหนาขนาดนี้ นี่มัน มหำโจรเลยทีเดียว

:lol:


ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม

ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า

อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน


#17 หนูอ้อย

หนูอ้อย

    นักเขียนหน่อมแน้ม

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,215 posts

ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 15:22

ขออนุญาตลงข่าวและบทวิเคราะห์เพื่อความต่อเนื่องครับ 

 

"ปปช."ชงวุฒิฯถอด"นิคม"วันจันทร์"ค้อน"ส่อโดนหลายกระทง

 

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เปิดเผยว่าวันในวันที่ 24 มีนาคมนี้ ป.ป.ช.จะลงนามรับรองสำนวนการชี้มูลความผิดการถอดถอนนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาส.ว.โดยมิชอบ จากนั้นจะส่งเรื่องไปให้วุฒิสภาเพื่อดำเนินการถอดถอนในขั้นตอนต่อไปทันที  

 

นายสรรเสริญ ยืนยันว่าการลงมติของป.ป.ช.ในเรื่องดังกล่าวเป็นการทำตามอำนาจหน้าที่ ทำทุกอย่างตามกฎหมายและพยานหลักฐาน อย่าไปผูกโยงว่า เป็นหนึ่งในกระบวนการโค่นล้มรัฐบาล ส่วนการไต่สวนถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มาส.ว.โดยมิชอบ ขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนพยานเพิ่มเติมอีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น คาดว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์จะส่งเรื่องให้ที่ประชุมป.ป.ช.ชุดใหญ่ลงมติตัดสินได้ว่ามีความผิดหรือไม่ 

 

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับข้อกล่าวหาของนายสมศักดิ์ ที่ถูกป.ป.ช.ไต่สวนถอดถอนกรณีวางตัวไม่เป็นกลางในการทำหน้าที่ประธานที่ประชุมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญประกอบด้วย

 

1.กรณีเป็นผู้ตรวจร่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มาส.ว. ที่ถูกส่งเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งถูกกล่าวหาว่า เป็นร่างปลอม ไม่ตรงกับร่างที่สมาชิกรัฐสภาเข้าชื่อขอแก้ไข 

 

2.กรณีปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ซึ่งได้จัดให้ลงมติเพื่อวินิจฉัยตัดสิทธิสมาชิกผู้แปรญัตติ ผู้สงวนคำแปรญัตติ และผู้สงวนความเห็น จำนวน 57 คน โดยอ้างว่า คำแปรญัตติของสมาชิกรัฐสภาขัดต่อหลักการ กรณีดังกล่าวนายนิคมชี้แจงต่อป.ป.ช.ว่า การตัดสิทธิสมาชิก 57 คน ไม่ให้อภิปราย อยู่ในช่วงที่นายสมศักดิ์ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม 

 

3.กรณีการรวบรัดให้มีการลงมติอภิปรายทั้งที่มีผู้แปรญัตติ ผู้สงวนคำแปรญัตติ และผู้สงวนความเห็นที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิอภิปรายจำนวนมาก โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของสมาชิก ซึ่งเป็นกรณีเดียวกับที่ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนายนิคม เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา.

 

http://www.thaipost.net/node/87884

 

 

วิเคราะห์ต่อได้ว่า

 

1) ไวรัสนิคมไม่ปล่อยโอกาสในการทิ้งบอมบ์ทิ้งเพื่อน รีบกล่าวโทษว่าการตัดสิทธิ 57 คน  "เป็นฝีมือสมศักดิ์แต่เพียงผู้เดียว"  วิสัยไวรัส ..ย่อมไม่ยอมกลืนเลือดตายเดี่ยวแน่  55

 

2) ข้อเท็จจริงเรื่องยื่นร่างปลอมขึ้นทูลเกล้าฯ เป็นข้อเท็จจริงที่สมศักดิ์ต้องตายเดี่ยวเพราะเป็นหน้าที่โดยตรงของประธานสภาผู้แทนฯแต่เพียงผู้เดียว

 

3) ไวรัสนิคมและค้อนปลอมโดนข้อหาเดียวกันคือ "รวบรัด และไม่ฟังเสียงสมาชิก"  แต่เป็นความชาญฉลาดของศาลรัฐธรรมนูญที่ปล่อยการตัดสินของทีละคนออกมา

เพื่อเป็นการลดความกดดันของผู้ต้องหา  หากโดนแพ็คคู่พร้อมกัน แรงต้านจะมีแต่จากกองเชียร์พวกริเบอร่าน

เพราะแฟนคลับของไวรัสนิคมจากสภาสูงจะมีไม่มากเท่าขุนค้อน(ปลอม) หรือสองคนบวกกัน

 

และเป็นการชิมลางว่าหากศาลปล่อยคำตัดสินออกมา 1 คนแล้ว  แรงสะท้อนจะเป็นเช่นไร

 

เป็นงานยากของศาลที่ว่าแม้คำตัดสินจะอิงข้อเท็จจริงและหลักกฎหมาย แต่โจรรัฐธรรมนูญที่คอยจับผิดย่อมหาช่องโจมตี(แบบเดิมๆ)จนได้

จากการติดตามคำวินิจฉัยมาหลายต่อหลายนัดมา  ทักษิณและขี้ข้าไม่อาจบ่อนเซาะกระบวนการยุติธรรมไทยได้

ตราบเท่าที่ศาลพิจารณาจากข้อเท็จจริงและหลักกฎหมายเช่นทุกวันนี้


 AMAZING  coup d'etat  , THAILAND ONLY ..  :ph34r:  


#18 สัตยวาที

สัตยวาที

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 870 posts

ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 16:59

BjWOo6bCEAArE3k.png

 

นังนี่มันไปไกลเสียแล้ว!!!

 

เรื่องแต่ง  อย่าเป็นเครื่องมือพวกดัก  

 

 

พรรคเพื่อไทย  ไม่เคยมองว่าพวกตนทำผิดกฏหมาย  

เพียงแต่พรรค  ทำสิ่งที่กฏหมายห้ามเท่านั้นสินะ  


  ขอสาบแช่งคนเลวร้ายทำลายชาติ ให้ไร้สุข มีแต่ทุกข์ ไร้คนรักดูแล อุดมด้วยคนเกลียดชังรังแก

เจ็บป่วย ทรมาน งานการไม่ก้าวหน้า ทำสิ่งใดให้ฉิบหาย วอดวาย อย่าได้พบความสุขใดในทุกชาติภพ


#19 ธีรเดชน้อย

ธีรเดชน้อย

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,659 posts

ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 21:48

ขออนุญาต นำเรื่องราวของผู้พิพากษามาลงต่อครับ 

 

.....คณะกรรมการสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการตุลาการในตําแหน่งผู้ช่วยผู้พิพากษา ประจําปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ได้ประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการสอบข้อเขียน ลงวันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
.....ปรากฎว่า ในจำนวนผู้สมัครเข้าสอบเกือบ ๗,๐๐๐ คน มีผู้สอบผ่านข้อเขียนเพื่อเข้าสอบปากเปล่า จำนวน ๔๔ คน เป็นผู้ชาย ๒๗ คน และผู้หญิง ๑๗ คน
.....ดูจำนวนผู้ที่สอบผ่านข้อเขียนแล้วมีไม่ถึงร้อยละหนึ่งของจำนวนผู้ที่เข้าสอบ ทั้ง ๆ มีตำแหน่งว่างที่จะบรรจุผู้ที่สอบได้โดยไม่จำกัดจำนวน
.....นี่คือเหตุที่ทำให้จำ
นวนผู้พิพากษามีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณคดีที่เพิ่มขึ้นทุกปี
.....นี่แหละคือเหตุผลที่ทำให้การพิจารณาคดีในศาลยุติธรรมมีความล่าช้า ทำให้ผู้ที่มีอรรถคดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาลต้องเสียเวลารอคอยความยุติธรรมจากการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลเป็นเวลานานเกินสมควร
.....ถ้ายังเป็นอยู่ในลักษณะนี้ ในอนาคตอีก 10 ปี หรือ 20 ปี ประชาชนผู้มีอรรถคดีจะต้องเดือดร้อนมากกว่าปัจจุบันเพราะศาลยุติธรรมมีผู้พิพากษาไม่เพียงพอที่จะทำหน้าที่พิจารณาพิพากษาคดี

.....คุณสมบัติของผู้พิพากษาที่ดีต้องเป็นผู้ที่มีจิตใจมีความยุติธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความขยันหมั่นเพียรในการปฏิบัติหน้าที่และศึกษาหาความรู้ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี และมีความเมตตากรุณาด้วย
.....การสอบคัดเลือกผู้ช่วยผู้พิพากษาที่เน้นเอาเฉพาะการสอบข้อกฎหมายที่ออกข้อสอบยากมากเกินไปเพียงประการเดียว โดยไม่ได้พิจารณาทดสอบในเรื่องอื่น ๆ นั้น
.....น่าจะไม่ใช่เป็นวิธีการที่ถูกต้องในการที่ศาลยุติธรรมจะได้บุคคลเข้ามาทำหน้าที่อำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนผู้มีอรรถคดี ให้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมและเป็นไปด้วยความรวดเร็ว
.....โดยความเป็นจริงในการพิจารณาพิพากษาทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งนั้น ปัญหาสำคัญคือปัญหาข้อเท็จจริง จะมีปัญหาข้อกฎหมายน้อยมาก คดีอาญาจะมีไม่เกินร้อยละ 15 และคดีแพ่งไม่เกินร้อยละ 30 และหากมีปัญหาข้อกฎหมายก็สามารถค้นคว้าหาความรู้จากตำราต่าง ๆ หรือปรึกษาหารือผู้อื่นได้

.....ขอเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการตุลาการในตําแหน่งผู้ช่วยผู้พิพากษาว่า น่าจะต้องพิจารณาทบทวนการออกข้อสอบผู้ช่วยผู้พิพากษา 
.....โดยข้อสอบวิชากฎหมายไม่ต้องให้ยากจนเกินไปอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และที่สำคัญควรจะต้องสอบความรู้สึกนึกคิดหรือทัศนคติของผู้เข้าสอบด้วย 
.....เพื่อจะได้บุุคคลที่มีความพร้อมและเหมาะสมกับการเป็นผู้พิพากษาที่จะมาอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน ครับ


" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ   "

 

 


#20 temp

temp

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,682 posts

ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 22:34

 

ขออนุญาต นำเรื่องราวของผู้พิพากษามาลงต่อครับ 

 

.....คณะกรรมการสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการตุลาการในตําแหน่งผู้ช่วยผู้พิพากษา ประจําปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ได้ประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการสอบข้อเขียน ลงวันที่ ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
.....ปรากฎว่า ในจำนวนผู้สมัครเข้าสอบเกือบ ๗,๐๐๐ คน มีผู้สอบผ่านข้อเขียนเพื่อเข้าสอบปากเปล่า จำนวน ๔๔ คน เป็นผู้ชาย ๒๗ คน และผู้หญิง ๑๗ คน
.....ดูจำนวนผู้ที่สอบผ่านข้อเขียนแล้วมีไม่ถึงร้อยละหนึ่งของจำนวนผู้ที่เข้าสอบ ทั้ง ๆ มีตำแหน่งว่างที่จะบรรจุผู้ที่สอบได้โดยไม่จำกัดจำนวน
.....นี่คือเหตุที่ทำให้จำ
นวนผู้พิพากษามีจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณคดีที่เพิ่มขึ้นทุกปี
.....นี่แหละคือเหตุผลที่ทำให้การพิจารณาคดีในศาลยุติธรรมมีความล่าช้า ทำให้ผู้ที่มีอรรถคดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาลต้องเสียเวลารอคอยความยุติธรรมจากการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลเป็นเวลานานเกินสมควร
.....ถ้ายังเป็นอยู่ในลักษณะนี้ ในอนาคตอีก 10 ปี หรือ 20 ปี ประชาชนผู้มีอรรถคดีจะต้องเดือดร้อนมากกว่าปัจจุบันเพราะศาลยุติธรรมมีผู้พิพากษาไม่เพียงพอที่จะทำหน้าที่พิจารณาพิพากษาคดี

.....คุณสมบัติของผู้พิพากษาที่ดีต้องเป็นผู้ที่มีจิตใจมีความยุติธรรม มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความขยันหมั่นเพียรในการปฏิบัติหน้าที่และศึกษาหาความรู้ มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี และมีความเมตตากรุณาด้วย
.....การสอบคัดเลือกผู้ช่วยผู้พิพากษาที่เน้นเอาเฉพาะการสอบข้อกฎหมายที่ออกข้อสอบยากมากเกินไปเพียงประการเดียว โดยไม่ได้พิจารณาทดสอบในเรื่องอื่น ๆ นั้น
.....น่าจะไม่ใช่เป็นวิธีการที่ถูกต้องในการที่ศาลยุติธรรมจะได้บุคคลเข้ามาทำหน้าที่อำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนผู้มีอรรถคดี ให้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมและเป็นไปด้วยความรวดเร็ว
.....โดยความเป็นจริงในการพิจารณาพิพากษาทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งนั้น ปัญหาสำคัญคือปัญหาข้อเท็จจริง จะมีปัญหาข้อกฎหมายน้อยมาก คดีอาญาจะมีไม่เกินร้อยละ 15 และคดีแพ่งไม่เกินร้อยละ 30 และหากมีปัญหาข้อกฎหมายก็สามารถค้นคว้าหาความรู้จากตำราต่าง ๆ หรือปรึกษาหารือผู้อื่นได้

.....ขอเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการตุลาการในตําแหน่งผู้ช่วยผู้พิพากษาว่า น่าจะต้องพิจารณาทบทวนการออกข้อสอบผู้ช่วยผู้พิพากษา 
.....โดยข้อสอบวิชากฎหมายไม่ต้องให้ยากจนเกินไปอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และที่สำคัญควรจะต้องสอบความรู้สึกนึกคิดหรือทัศนคติของผู้เข้าสอบด้วย 
.....เพื่อจะได้บุุคคลที่มีความพร้อมและเหมาะสมกับการเป็นผู้พิพากษาที่จะมาอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน ครับ

 

คัดกรองกันขนาดนี้ ยังมีรั่วเข้ามาได้"บางคน"เลยครับ

เช่น ppp sss ฯลฯ ที่ออกจากวงการ แล้วไปสิงสู่อยู่ที่"บางพรรค"

 

ส่วนตัว ผมเคยมีประสบการณ์ตรงอยู่บ้าง ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องมาเจอกับ"ส่วนน้อย" เจ็บหนักทีเดียวแหละครับ แต่ก็ผ่านมาได้แล้ว ตามกระบวนการในชั้นที่สูงขึ้น

 

ถ้าลดมาตรฐานลง จะเดินไปหาปัญหาเรื่องคุณภาพ เช่นเดียวกับที่เกิดจากการล็อคสเปค"วิชาชีพ" ในวงการครู หรือเปล่า?

โดยเฉพาะ นักการศึกษาชอบยกวิชาชีพเหล่านี้มาเทียบกันอยู่บ่อยๆ(ในเรื่องค่าตอบแทน) คือ หมอ-กฎหมาย-ครู

แต่โอกาสเกิดปัญหาถึงระดับเดียวกับเรื่องของครู (เช่น หลายๆคนสอบตกในวิชาตัวเอง ไม่ขยัน ไม่มีคุณธรรม ฯลฯ) นั้นยากครับ เพราะบุคคลากรทั้งระบบ ศาลมีแค่หลักพัน อัยการน่าจะซักหลักหมื่น ไม่สามารถทำให้เกิด"ที่นั่งว่าง""จำนวนมาก" เป็นช่องให้ปล่อยผี รั่วเข้าระบบครั้งละมากๆ 

แต่ก็ยังเห็นได้ชัดใช่ไหม ว่า อัยการเทียบกับผู้พิพากษา ปชช.ไว้ใจใคร? นั่นแหละครับ ช่องว่างที่เกิดจาก"จำนวน"

ถ้าเทียบกับหมอ มีการกรองมาอย่างหนักแล้ว ในสมัยเรียน ก็ยังไม่ใช่ว่าได้ผล100%

 

แต่เทียบกับครูไม่ได้ เพราะธรรมชาติต่างกันมากตรงที่มีจำนวนใช้งานเป็นหลักแสนๆ จำนวนผลิตยิ่งแล้วใหญ่ (ตัวอย่าง http://www.manager.c...D=9570000031442 นี่แค่ม.เดียวนะครับ จังหวัดละกี่ม. ทั่วประเทศอีกเป็นเท่าไหร่?)

 

ลองเทียบกับตำรวจครับ ระบบที่"ต้อง"ใช้คนจำนวนมาก ก็ปัญหาคล้ายกัน คือ

ถ้าตั้งมาตรฐานต่ำ จะคัดบุคคลากรได้คุณภาพไม่ดีพอ

ถ้าตั้งมาตรฐานสูง จะมีที่นั่งว่างเหลือมากไป (มีคนไม่พอใช้ ก็ต้องรับเพิ่ม โดยช่องทางพิเศษอื่น หรือลดมาตรฐาน)

สรุปคือ มันเป็นเรื่องของ "จำนวน vs ภาระงาน" ครับ

 

เฉพาะเรื่องศาล&อัยการนี้ ยังไม่นับประเด็น สนามเล็ก-สนามจิ๋ว อีกนะครับ ว่าล็อคสเปค/เอื้อ รึเปล่า?

แต่ที่เป็นห่วงจริงๆ คือ "ผู้สอน"ในสถาบัน"บางแห่ง"ครับ ไม่รู้ว่าจะสร้างนศ./บัณฑิตออกมาบิดเบี้ยวหรือไม่? อีกกี่มากน้อย? จะสร้างบรรทัดฐานแบบไหนในgenerationต่อไป?

 

 

ปล. ไม่ได้เหมารวมถึง"คุณครูที่สมเป็นครู" "คุณหมอที่สมเป็นหมอ" "ท่านผู้พิพากษาที่สมเป็นผู้ตัดสิน"นะครับ พวกท่านนั้น ผมสรรเสริญ อย่าด่วนน้อยใจ


Edited by temp, 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 23:13.

ควายตัวนี้สีขาว


#21 temp

temp

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,682 posts

ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 23:27

อ้อ แต่เข้าใจว่า ท่านชูชาติไม่ได้จะให้ลดมาตรฐานลงหรอก

แต่ให้ทดสอบ/คัดเลือก ในสิ่งที่ใช้ได้&จะได้ใช้ ในการทำงาน

ให้มากกว่าเน้นทฤษฎี ระเบียบพิธีรีตอง ท่องฎีกา หรือทำตามๆกันไปแบบตัวLemmings

 

ผมเห็นด้วย ว่า ปัญหาสำคัญคือปัญหาข้อเท็จจริง

และของพวกนี้ มันพิจารณาด้วย logic&commonsense ครับ อิงทฤษฎีศาสตร์&ศิลป์จากสหสาขา

ไม่ใช่แค่ตัวบทกฎหมาย หรือทฤษฎีนิติศาสตร์ (ไม่ได้แปลว่าไม่ใช้นะ เพราะยังไงๆ มันต้องมี"ระเีบียบวิธี"ในขอบเขตที่กฎหมายกำหนด)


Edited by temp, 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 23:28.

ควายตัวนี้สีขาว


#22 ธีรเดชน้อย

ธีรเดชน้อย

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,659 posts

ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 23:47

เห็นด้วยกับ คุณtemp นะครับ ประเด็นจริงๆของเรื่องนี้คือเรื่องของคุณภาพ ซึ่งในส่วนของ

 

ผู้พิพากษา คือ ได้ คุณภาพ แล้ว แต่ยังขาดซึ่ง ปริมาณ ซึ่งในมุมมองของท่านที่อยู่ในวงการนี้คือ ตั้งเกณฑ์กันสูงไปหรือเปล่า

 

ส่วน ตำรวจ ครูหรือข้าราชการส่วนอื่นๆ ได้ ปริมาณ แล้ว แต่ยังขาด คุณภาพ 

 

หากจะปฎิรูประบบราชการในเมืองไทย คงต้องโจทย์ก่อนว่า หน่วยงานไหนควรปรับ อะไร  ปรับแบบไหน ฯลฯ

 

เมื่อหลายเดือนก่อน อ่านข่าวจีนว่า ประชุมกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อเตรียมรับมือเศรษฐกิจจีนที่ร้อนแรงในอีก 10 ปีข้างหน้า

 

โดยการปิดห้องประชุม ในสถานที่ปิดเป็นเวลา 1 เดือน บ่งบอกถึงวิสัยทัศน์ในการบริหารบ้านเมืองได้ครับ 

 

ส่วนของเมืองไทย ต้องเริ่มลงมือเสียที ตัดเสียงนกเสียงกาออกไปบ้าง ประชาธิปไตยก็ไม่ได้ดีไปทุกๆอย่างครับ 


" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ   "

 

 





ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน