เลือกตั้งโมฆะ ไม่มีสมคบคิด
Edited by อู๋ ฮานามิ, 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 10:51.
ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 10:35
เลือกตั้งโมฆะ ไม่มีสมคบคิด
Edited by อู๋ ฮานามิ, 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 10:51.
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:01
ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:23
ยอมรับว่าไม่ค่อยได้เห็นบทบาทขององค์กรอิสระเท่าไหร่ โดยเฉพาะผู้ตรวจการแผ่นดิน
แต่ผมสนับสนุนองค์กรอิสระให้สามารถ คานอำนาจ ถ่วงดุล ตรวจสอบรัฐบาลอีกแรงหนึ่ง
อยากเห็นองค์กรอิสระมีอำนาจ กำลังคนและงบประมาณที่มากกว่านี้
" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ "
ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:31
ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:39
ยอมรับว่าไม่ค่อยได้เห็นบทบาทขององค์กรอิสระเท่าไหร่ โดยเฉพาะผู้ตรวจการแผ่นดิน
แต่ผมสนับสนุนองค์กรอิสระให้สามารถ คานอำนาจ ถ่วงดุล ตรวจสอบรัฐบาลอีกแรงหนึ่ง
อยากเห็นองค์กรอิสระมีอำนาจ กำลังคนและงบประมาณที่มากกว่านี้
ผู้ตรวจการแผ่นดิน ไม่ค่อยมีข่าวครับ
แต่ส่วนใหญ่เราจะคุ้นเคยองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญที่เป็น กกต., ป.ป.ช. อย่างนั้นมากกว่า
จากข่าวการเลือกตั้ง และการดำเนินคดีของนักการเมืองในคดีทุจริต
เลยต้องกลับไปดูในรัฐธรรมนูญ พบว่ามีองค์กรอิสระต่างๆ ที่ประกอบด้วย
1. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (สมัยก่อน การเลือกตั้ง ส.ส. ก่อนบังคับใช้รัฐธรรมนูญ ปี 40 มีกรมการปกครองเป็นผู้รับผิดชอบ)
2. ผู้ตรวจการแผ่นดิน
3. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
4. คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
Edited by อู๋ ฮานามิ, 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:40.
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 17:19
นักกฎหมายที่อ่านกฎหมายต้องได้ความหมายเหมือนกัน >ตวยเหอะ ภาษาคน จะยังไงก็ต้องตีความ ถ้าจะเถือกให้ตัวเองได้ฝ่ายเีดียว งั้นอ้างดูที่เจตนาอย่างเดียวเลยละกัน ว่าแต่ ถ้าพวกนักวิชาการหรืออาจารย์ที่เจตนาไม่สุจริตเนี่ย ก็ยิ่ง"จานลาย"นะ เพราะนักศึกษาจะโดนสอนผิดๆ เพื่อไปตอบข้อสอบใ้ห้ได้คะแนน นานๆเข้าก็ชินชา เผลอโดนล้างสมองไม่รู้ผิดชอบชั่วดี
เมื่อถามว่าหมายถึงมองว่ามีการ ร่วมมือกันเพื่อไม่ให้พรรคเพื่อไทยมีอำนาจ “พนัส” ตอบทันทีว่าก็อย่างนั้น องค์กรอิสระไม่ได้พูด แต่ กปปส.โดยเฉพาะสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.พูดชัดเจน บอกจะไม่ให้ผุดให้เกิด ขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณ พรรคเพื่อไทยก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น >สลัด ของพวกมรึง ทั้งนิติเรด สปป พท นปช สปช กพอ สลน แม่มพูดพร้อมกันหมดเลย แต่บอกไม่ได้ร่วมมือ กรูแค่รักปชต- มีการพูดกันว่าอำมาตย์อยู่เบื้องหลังองค์กรอิสระเหล่านี้?อันนั้นเป็นการสมมุติ เป็นวาทกรรมที่เรียกกัน เหมือนฝ่ายนั้นเรียกฝ่ายนี้ระบอบทักษิณ เช่นเดียวกับฝ่ายนี้เรียกฝ่ายโน้นเป็นระบอบอำมาตย์ แต่ไม่มีหลักฐานชัดเจน เป็นการคาดเดาว่ามีขบวนการเหล่านั้นอยู่ >มีแม้วตัวเป็นๆบินไปบินมา มีขี้ข้าวิ่งไปหากันอยู่เห็นๆ โทรกันไปมาเพื่อสั่งการ/ปลุกระดมส่วนเรื่องอำมาตย์ ชี้เป้ามาชัดๆเลยเป็นมั๊ย อย่าคาดเดา
Edited by temp, 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 17:54.
ควายตัวนี้สีขาว
ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 18:47
- ดูแนวโน้มแล้วนายกฯ ยิ่งลักษณ์ไม่น่ารอดในชั้นถอดถอน?ถ้าทำอย่างนี้ ป.ป.ช.ต้องออกแรงหนักพอสมควร คงโดนหนักเลยล่ะ ถ้า ส.ว.ลุยไปอย่างที่ว่า ลงมติถอดถอนมีแต่ ส.ว.สรรหา ไม่มี ส.ว.เลือกตั้ง คิดว่าคงโดนเหมือนกัน คงมีคนหยิบยกมาเหมือนกันว่ามีส่วนได้เสียโดยตรง ไปตัดสินได้อย่างไร เป็นประเด็นจริยธรรม แม้กฎหมายไม่มีข้อห้าม แต่ทำไปแล้วการทำเป็นอย่างไร ในแง่ความรู้สึกไม่เป็นธรรมมันชัดเจนมาก
กฎหมายไม่มีข้อห้าม แง่ความรู้สึกไม่เป็นธรรมมันชัดเจนมาก
ช่างกล้าพูดเนอะ เหมือนอีนายกเลย
วันนึงบอกทำไม่ได้ ไม่มีกฎหมายรองรับ อีกวันบอกให้ดูเจตนา อย่าใช้กฎหมายมาห้ำหั่นกัน
พรรคมึงมันชาชินแล้วสิ ทำสิ่งที่กฎหมายห้ามกันเป็นว่าเล่น ทำสิ่งผิดจริยธรรมกันเป็นสันดาน
อยู่เหนือกฎหมายมานาน พอคนทั้งประเทศเค้าทนไม่ได้ รวมตัวกันไล่ เอาไส้ออกมาตีแผ่ ว่าขดไหนเน่า ขดไหนมันทุจริต มันก็ดิ้นทุรนทุราย
อำนาจเสื้อแดงที่เคยใช้ต่อรอง ตอนนี้ก็ไม่เหลือ ตะกวดก็เริ่มเกียร์ว่าง
ที่เหลืออย่างเดียวคือหัวโขนของตำแหน่ง ที่สั่งการอะไรก็ไม่ได้ รอวันเน่าตาย ถูกชี้มูลความผิด ถูกถอดถอน
สละชีพเพื่อหลักธรรมคือคำขวัญ
ฆ่าคนเพื่อชิงอำนาจคือวิธีการ
ส่วนลิ่วล้อที่ส่งไปตายก็คือตัวหมากแห่งคุณธรรม
ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 18:53
ทบทวนข่าวเก่า ที่อาจารย์ธรรมศาสตร์คนหนึ่งยื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องการเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 เป็นโมฆะ
ยื่นผู้ตรวจฯส่งศาลรธน.วินิจฉัยเลือกตั้ง2ก.พ.เป็นโมฆะ
อ.ธรรมศาสตร์ ลุยเอง ขอร้องให้พิจารณาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 244 ( 1) (ค) ประกอบมาตรา 245 เนื่องจากดำเนินการไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญวันพุธ 19 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 15:52 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่าวันที่ 19 ก.พ. นายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่18ก.พ.ที่ผ่านมา นายกิตติพงศ์ กมลธรรมวงศ์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้พิจารณาตามรัฐธรรมนูญมาตรา244(1) (ค) ประกอบมาตรา245เสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ การจัดการเลือกตั้ง2 ก.พ. ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นโมฆะ เนื่องจากเห็นว่ามีการดำเนินการไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ โดยเนื้อหาคำร้องจะมีความแตกต่างจากคำร้องของนายวิรัตน์ กัลยาศิริ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ยื่นให้ผู้ตรวจการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การเลือกตั้งส.ส. 2 ก.พ. เป็นโมฆะและผู้ตรวจวินิจฉัยไม่รับคำร้อง โดยคำร้องของนายกิตติศักดิ์ จะเป็นการร้องเมื่อการเลือกตั้ง 2 ก.พ. ผ่านไปแล้ว แต่ของนายวิรัตน์ เป็นการร้องก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ดังนั้นข้อเท็จจริงตามคำร้องจึงมีความแตกต่างกัน ซึ่งที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินก็คงต้องนำความแตกต่างนี้มาพิจาณาว่าจะสามารถมีความเห็นและเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอย่างที่ผู้ร้องเสนอได้หรือไม่ ขณะนี้จึงให้ทางสำนักงานเร่งศึกษาคำร้อง เพื่อเสนอให้ที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณา ซึ่งโดยปกติแล้วผู้ตรวจการแผ่นดินจะมีการประชุมทุกวันอังคารของสัปดาห์ แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะมีการเสนอต่อที่ประชุมผู้ตรวจได้ทันการประชุมในวันอังคารหน้าหรือไม่
ผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติส่งคำร้องให้ศาล รธน.ชี้ขาดเลือกตั้ง2ก.พ.โมฆะหรือไม่เขียนวันที่ วันพฤหัสบดี ที่ 06 มีนาคม 2557 เวลา 11:00 นผู้ตรวจการแผ่นดิน มีมติเอกฉันท์ ให้ส่งคำร้องศาลรัฐธรรมชี้ขาดเลือกตั้ง2ก.พ. โมฆะหรือไม่ รองเลขาธิการฯ ยันประชุมสรุปผลไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา เตรียมแถลงเป็นทางการ 7 มี.ค.นี้จากกรณีนายกิตติพงศ์ กมลธรรมวงศ์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้เสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การจัดการเลือกตั้งทั่วไป ในวันที่ 2 ก.พ.2557 ที่ผ่านมา ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และให้มีการจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นใหม่โดยเร็ว ทั้งนี้ อาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 244 (1) (ค) ประกอบมาตรา 245 ไปเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมานั้นผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ล่าสุดคณะผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน 3 คน ประกอบด้วย นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ศาสตราจารย์ศรีราชา เจริญพานิช และศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาคำร้องของ นายกิตติพงศ์ และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ส่งคำร้องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ขาดว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. 2557 ที่ผ่านมา เป็นโมฆะหรือไม่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำร้องของนายกิตติพงศ์ ได้ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้เสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การจัดการเลือกตั้งทั่วไป ในวันที่ 2 ก.พ.2557 เป็นโมฆะ มีเหตุผลหลัก 5 ประการ มีใจความโดยสรุป ดังนี้1.การเลือกตั้งทั่วไปมิได้กระทำขึ้นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร เนื่องจาก 28 เขตเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ไม่มีผู้สมัครทำให้การเลือกตั้งทั่วไปมี 2 วัน วันแรกมี 347 เขตเลือกตั้ง อีกวันมี 28 เขตเลือกตั้งซึ่งกรณีดังกล่าว นอกจากขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 108 ยังขัดกับหลักการของประชาธิปไตยแบบผู้แทน และย่อมส่งผลให้ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งต่างวาระกัน มีฐานทางกฎหมายและความชอบธรรมของการเป็นผู้แทนที่แตกต่างกัน2.การดำเนินการรับสมัครเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไป มิได้เป็นไปโดยเที่ยงธรรม จากกรณีรับสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่พรรคการเมืองซึ่งไม่สามารถเข้าไปยังสถานที่รับสมัครได้ ได้ไปแจ้งความไว้ที่กองปราบหรือ สน.ดินแดง ซึ่งไม่ใช่สถานที่รับสมัครเลือกตั้งตามที่ กกต.ได้ประกาศให้ทราบล่วงหน้าไว้ กรณีดังกล่าวเป็นการเลือกปฏิบัติให้ตัวแทนพรรคการเมืองได้สิทธิในการจัดสลากหมายเลข ทั้งที่มิได้ดำเนินการตามประกาศของ กกต. นอกจากนี้ ในการรับสมัคร ส.ส.เขต บางจังหวัดยังมีการเปลี่ยนแปลงสถานที่รับสมัครโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ทำให้มีจำนวนถึง 16 เขตเลือกตั้งที่มีผู้สมัครเพียงคนเดียว3.การนับคะแนนเสียงเลือกตั้งในทุกเขตเลือกตั้งหลังสิ้นสุดระยะเวลาลงคะแนนในวันที่ 2 ก.พ.2557 ทำให้ผู้ที่จะมาเลือกตั้งหลังวันดังกล่าวทราบผลการเลือกตั้งก่อนการลงคะแนน ทำให้เกิดผลกระทบต่อการตัดสินใจลงคะแนนเสียงและเกิดความไม่เที่ยงธรรมในการเลือกตั้ง ขัดต่อหลักความเสมอภาคและโอกาสที่ทัดเทียมกันของผู้สมัครรับเลือกตั้ง4.การให้นับคะแนนเสียงเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.2557 ทำให้การลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าและการเลือกตั้งทั่วไปที่เลื่อนออกไปเป็นวันที่ 20 และ 27 เม.ย.2557 เป็นอันไร้ผลเพราะบัตรลงคะแนนเสียงเลือกตั้งจะกลายเป็นบัตรเสียตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งและ 5.กกต.ปล่อยปละละเลยให้มีการใช้อำนาจรัฐที่ก่อให้เกิดความได้เปรียบของผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลและที่มีสมาชิกดำรงตำแหน่งอยู่ในคณะรัฐมนตรี จากกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ของพรรคเพื่อไทย ได้ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ 4 จังหวัด โดยมีการออกประกาศหลายฉบับที่มีผลโดยตรงต่อการทำให้เกิดความไม่เสมอภาคและความได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้งต่อมาเวลา 16.40 น. นายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า คณะผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้มีการประชุมและพิจารณาเรื่องนี้ ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2557 แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดผลการประชุม เพราะจะมีการเปิดแถลงข่าวเป็นทางการในวันที่ 7 มีนาคม นี้ เวลา 10.00 น.
Edited by อู๋ ฮานามิ, 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 18:53.
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
ตอบ 23 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 19:22
ตอนนี้ นักวิชาการหางแดง ออกมาคัดค้าน การตัดสินขององค์กรอิสระที่ให้โทษกับฝ่ายตัวเองเป็นแถว
เหล่าแกนนำขี้ข้า ก้เตรียมปลุกกระแสระดมพล รอท่อน้ำเลี้ยง ต้นเดือนนี้เอาแน่
ระหว่างนี้สื่อฯขี้ข้าจะช่วยประโคมข่าวความขัดแย้ง นำเสนอข้อผิดพลาดของมวลมหาประชาชน
ตำรวจก็จะแถลงข่าวการจับกุมฝ่ายต่อต้านทรราชย์
แบบนี้เรียกทฤษฎี สมคบคิด(กันทำชั่ว) ได้ไหม ??
" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ "
ตอบ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 01:22
ตอนนี้ นักวิชาการหางแดง ออกมาคัดค้าน การตัดสินขององค์กรอิสระที่ให้โทษกับฝ่ายตัวเองเป็นแถว
เหล่าแกนนำขี้ข้า ก้เตรียมปลุกกระแสระดมพล รอท่อน้ำเลี้ยง ต้นเดือนนี้เอาแน่
ระหว่างนี้สื่อฯขี้ข้าจะช่วยประโคมข่าวความขัดแย้ง นำเสนอข้อผิดพลาดของมวลมหาประชาชน
ตำรวจก็จะแถลงข่าวการจับกุมฝ่ายต่อต้านทรราชย์
แบบนี้เรียกทฤษฎี สมคบคิด(กันทำชั่ว) ได้ไหม ??
แล้วก็จะประโคมข่าวกิจกรรมที่โจมตีศาล องค์กรอิสระ อ้างประชาธิปไตยกันอีกเพียบเลย
ก่อนเลือกตั้งนี่ เสื้อขาว จุดเทียน
เที่ยวนี้ เสื้อดำ
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
ตอบ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 02:50
ที่จริงทางแก้ปัญหานี้ง่ายมาก
แค่พรรคไอ้แม้วเลิกดิ้นทุรนทุรายโทษคนนั้นคนนี้รวมหัวกลั่นแกล้ง แล้วหยุดทำผิดกฎหมายซะ
แค่นี้ก็จบแล้ว
ตอบ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 02:58
อันนี้เป็นความเห็นของอ.กิตติศักดิ์ ปรกติ ที่ได้ตอบคำถามของอ.ท่านหนึ่ง
ผมเห็นว่ามีประโยชน์จึงนำมาลงให้ได้พิจารณากันครับ
https://www.facebook...38?stream_ref=1
สวัสดีครับอาจารย์ วันนี้มีประเด็นมาขอความรู้อาจารย์เกี่ยวกับคำวิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. อีกแล้วครับ
ตามที่เราทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยกรณีเลือกตั้ง 2 ก.พ. และบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้เป็นนักกฏหมายก็สรุปตามความเข้าใจได้ว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.เป็นโมฆะ ผมอ่านคำวินิฉัยกลางที่ตัดมาจากข่าวในหนังสือพิมพ์ มีข้อความวินิจฉัยที่อ่านแล้วยังไม่เข้าใจหลักการอยู่ข้อความหนึ่ง ซึ่งได้คัดข้อความมาลงตามนี้คือ (ข้อความเต็มอ้างอิงได้จากลิงค์แนบจากหน้าหนังสือพิมพ์)
"..เพราะจะมีผลทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักรเช่นเดียวกัน เป็นผลให้พระราชกฤษฏีกายุบสภาผู้แทนราษฏร พ.ศ. 2556 เฉพาะในส่วนที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรเป็นการทั่วไปในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 108 วรรคสอง"
ตามความเข้าใจของผู้ที่ไม่ได้เป็นนักฏหมายอย่างผมคือ คือการเลือกตั้งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญเพราะมีการเลือกตั้งที่ไม่เป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร แต่ข้อความในคำวิจฉัยที่โยงกลับไปถึง "พระราชกฤษฏีกายุบสภาผู้แทนราษฏร พ.ศ. 2556 เฉพาะในส่วนที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรเป็นการทั่วไป" นั้นทำให้มีข้อสงสัยว่าตัวพระราชกฤษฎีกาซึ่งเป็นเรื่องต้นทางของการเลือกตั้งไม่น่าจะเป็นเหตุที่ทำให้การเลือกตั้งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพราะไม่มีใครทราบได้ก่อนว่าจะเกิดเหตุเลือกตั้งที่ไม่เป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร (หมายถึงว่าเหตุที่ไม่ได้เลือกตั้งวันเดียวกันก็น่าจะเพียงพอ โดยไม่ต้องอ้างกลับไปถึงพระราชกฤษฎีกา)
จึงมาขอความรู้ว่าข้อความลักษณะนี้เป็นวิธีหรือหลักการเขียนในเชิงกฎหมายเฉพาะหรือไม่อย่างไรบ้าง ทราบว่าอาจารย์งานยุ่ง แต่ก็ขออนุญาตรบกวนเป็นครั้งคราว และขอขอบพระคุณล่วงหน้านะครับ
ความเห็นของอ.กิตติศักดิ์ ปรกติ
Kittisak Prokati : สวัสดีครับ อาจารย์Surasak Sanguanpong ผมยังไม่เห็นคำวินิจฉัยกลางของศาลนะครับ ที่ส่งมานั้นเป็นเพียงในแถลงข่าวเท่านั้น แต่ก็เข้าใจว่ากรณีนี้เป็นเรื่องศาลรัฐธรรมนูญตีความความหมายของมาตรา ๒๔๕ (๑) ในความหมายอย่างกว้าง และเป็นการเปิดช่องทางร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้กว้างขึ้นครับ และคงต้องตอบยาว เป็นตอน ๆ ไปนะครับ
ก่อนอื่นต้องแยกเสียก่อนว่าช่องทางการเสนอเรื่องเข้าสู่การวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผ่านทางผู้ตรวจการแผ่นดินและกรรมการสิทธิมนุษยชนนั้น แตกต่างจากการเสนอเรื่องราวให้ศาลพิจารณาเกี่ยวปัญหากฎหมายขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญในแง่อื่น ๆ คือไปใช้คำว่า บทกฎหมายมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ซึ่งตรงนี้ผมเข้าใจเอาเอง (เพราะยังไม่เห็นคำพิพากษา) ว่าศาลเห็นว่ากรณีมีปัญหากฎหมายขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญเป็นเพียง subset ของกรณีมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ คือแม้กฎหมายไม่ได้ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ หากการปฏิบัติตามกฎหมายนั้นจะเกิดผลไปในทางขัดรัฐธรรมนูญก็เรียกว่ามีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญได้
ยกตัวอย่างเช่น แนวคำพิพากษาบรรทัดฐานของศาลฎีกาซึ่งเป็นแนวการตีความบทกฎหมายบทใดบทหนึ่งขัดต่อหลักความเสมอภาค หรือหลักความสมควรแก่เหตุ หรือไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม โดยตัวกฎหมายนั้นไม่ได้ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญเลย
เราอาจเห็นได้จากตัวอย่างปัญหาว่า เอกชนจะฟ้องผู้อื่นเป็นจำเลยในคดีอาญาเพื่อประโยชน์สาธารณะโดยไม่ได้เป็นผู้เสียหายโดยตรงได้หรือไม่ เช่นกรณีผู้ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งฟ้อง กกต. เป็นจำเลยฐานทุจริตต่อหน้าที่ ซึ่งศาลฎีกาตัดสินไปเมื่อไม่นานมานี้ว่าในคดีนี้โจทก์ซึ่งเป็นเอกชนไม่ใช่ผู้เสียหาย (ทั้ง ๆ ที่สมมติว่ามีสถานการณ์เชื่อได้ว่า ถ้าตำรวจ และอัยการดำเนินคดีในฐานะเป็นผู้แทนของรัฐ ก็คงทำสำนวนอ่อน หรือสั่งไม่ฟ้องทำให้คดีระงับไปเลย)
จะเห็นได้ว่ากรณีนี้กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งกำหนดว่า ผู้ฟ้องคดีต้องเป็นผู้เสียหายนั้น ไม่มีวี่แววว่าจะขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญตรงไหนเลย เพียงแต่การตีความและการปรับใช้กฎหมายได้คำนึงถึงสิทธิของผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งที่จะได้รับหลักประกันว่าการเลือกตั้งจะดำเนินไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมตามรัฐธรรมนูญไม่เพียงพอ
กรณีแบบนี้ ถ้าไปร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน และผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นด้วย ก็อาจอ้างได้ว่า บทกฎหมายว่าด้วยผู้เสียหายมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพราะศาลตีความหรือปรับใช้แคบไป ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวางหลักเพิ่มเติม ซึ่งถ้าศาลรัฐธรรมนูญเห็นด้วย และวินิจฉัยว่าการปรับใช้บทกฎหมายนี้จะต้องคำนึงถึงอะไรเพิ่มเติมบ้างจึงจะสอดคล้องกับหลักนิติธรรม ก็จะมีผลผูกพันศาลต่อไปในอนาคตได้ โดยไม่ต้องยื่นเรื่องแก้กฎหมาย หรือรอให้ศาลฎีกาวางแนวบรรทัดฐานใหม่
ทำนองเดียวกัน กรณีตามมาตรา ๑๑๒ นั้น ที่ผ่านมามีแต่ร้องกันว่ามาตรานี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญตามมาตรา ๒๑๑ ศาลรัฐธรรมนูญก็ได้วินิจฉัยไปแล้วว่าบทกฎหมายมันไม่ขัด แต่หากจะหันมาใช้ช่องทางคณะกรรมการสิทธิตามมาตรา ๒๕๗ (๒) ซึ่งบัญญัติไว้ทำนองเดียวกับกรณีผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยร้องว่าบทกฎหมายนี้มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ (ไม่ใช่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ) เพราะการปรับใช้กฎหมายคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนไม่เพียงพอ ก็คงจะพอไปได้โดยอาศัยแนวคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญฉบับนี้
Kittisak Prokati :ทีนี้มีปัญหาต่อไปว่า แล้วพระราชกฤษฎีกานี่มันเป็นบทกฎหมายหรือ ในเมื่อศาลรัฐธรรมนูญเคยวางแนวมาตลอดว่า พระราชกฤษฎีกาเป็นเพียงกฏ ไม่ใช่กฎหมายซึ่งตามรัฐธรรมนูญมุ่งหมายถึงกฎหมายชั้นพระราชบัญญัติเท่านั้น
ตรงนี้ผมก็เดาเอาโดยไม่ได้เห็นคำพิพากษาอีกเช่นกันว่า ศาลวางแนวว่า พระราชกฤษฎีกาที่อาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญประกาศออกไปนั้นมีฐานะเป็นกฎหมาย ชั้นเดียวกันกับพระราชบัญญัติ และเท่ากับเป็นการอ้างอำนาจตรวจสอบพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามรัฐธรรมนูญ เช่นพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรซึ่งปกติย่อมเป็นเรื่องดุลพินิจของรัฐบาลว่าศาลอาจตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของพระราชกฤษฎีกานี้ได้ไปในตัว
กรณีทำนองนี้เคยเกิดขึ้นแล้วในเยอรมัน เมื่อนายกรัฐมนตรีจูงใจให้ประธานาธิบดีใช้อำนาจยุบสภา โดยไม่มีความขัดแย้งทางการเมืองใด ๆ ในสภา เพียงแต่เห็นว่ากำลังได้เปรียบทางการเมือง อยากให้มีการเลือกตั้งใหม่จะได้คะแนนมากขึ้น ศาลรัฐธรรมนูญก็เคยอ้างอำนาจตรวจสอบมาแล้ว
เป็นอันว่าบทกฎหมายก็มีความหมายกว้าง และมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญก็มีความหมายกว้างทั้งคู่ครับ
Kittisak Prokati :ต่อมาก็เป็นเรื่องการเลือกตั้งซึ่งเป็นการดำเนินการตามพระราชกฤษฎีกายุบสภาที่ให้เลือกตั้งในวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ซึ่งอันที่จริงก็เป็นการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญที่ให้กำหนดวันเลือกตั้งภายในหกสิบวันนับแต่ยุบสภา และต้องเป็นวันเดียวกันทั่วประเทศตามมาตรา ๑๐๘ วรรคสอง โดยมีปัญหาว่า เมื่อเลือกตั้งในวันดังกล่าวไม่สำเร็จ มันจะทำให้พระราชกฤษฎีกาส่วนที่เกี่ยวกับการกำหนดวันเลือกตั้งนั้นกลายเป็นกรณีมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญได้อย่างไร
เรื่องนี้เป็นปัญหาในหลักกฎหมายทั่วไปเกี่ยวกับนิติกรรมที่มีเงื่อนไข นั่นคือนิติกรรมที่มีเงื่อนไขบังคับก่อน เช่นมีการแสดงเจตนาทำนิติกรรมกันโดยกำหนดไว้ว่าจะเป็นผลก็ต่อเมื่อเงื่อนไขอันเป็นเหตุการณ์ในอนาคตเกิดขึ้น แล้วต่อมาปรากฏว่าเหตุการณ์ในอนาคตที่ไม่แน่นอนนั้นไม่มีทางจะเกิดขึ้นแน่ ดังนี้การแสดงเจตนาที่ได้ทำกันไว้เป็นนิติกรรมนั้นย่อมตกเป็นโมฆะไป
ตัวอย่างเช่น ทำพินัยกรรมให้แหวนวงหนึ่งตกเป็นของลูกสาว หากในอนาคตลูกสาวมีบุตรคนแรกเป็นชาย ต่อมาปรากฏว่าบุตรคนแรกของเธอเป็นหญิง กรณีนี้เงื่อนไขที่กำหนดว่าหากมีบุตรคนแรกเป็นชายกลายเป็นอันไม่มีทางเกิดขึ้น เรียกว่าเงื่อนไขตกไป กรณีเช่นนี้ตามหลักกฎหมายทั่วไปถือว่าพินัยกรรมนั้นตกเป็นโมฆะไป
เปรียบกับเรื่องพระราชกฤษฎีกากำหนดการเลือกตั้งที่ว่า ให้ทำการเลือกตั้งในวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ นั้นแท้จริงแล้ว พระราชกฤษฎีกานี้ก็เป็นการทำนิติกรรมของรัฐ คือการประกาศเจตนาของราชอาณาจักรไทยให้มีการจัดตั้งสภาผู้แทนราษฎรเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่โดยมีเงื่อนไขว่าให้ทำการเลือกตั้งในวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ทีนี้มีปัญหาว่า ถ้าการเลือกตั้งที่กำหนดให้ทำกันในวันที่ ๒ กุมภาพันธ์มันเกิดทำไม่ได้ ไม่มีทางเป็นไปได้โดยแน่แท้ ผลจะเป็นอย่างไร ถ้านำหลักเรื่องนิติกรรมใดมีเงื่อนไขบังคับก่อน หากเงื่อนไขตกไปนิติกรรมตกเป็นโมฆะ ผลก็คือถ้าการเลือกตั้งเป็นไปไม่ได้ เงื่อนไขก็ตกไป นิติกรรมคือพระราชกฤษฎีกาก็ตกเป็นโมฆะ และเป็นกรณีมีปัญหาเกี่ยวด้วยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งเฉพาะสำหรับกรณีนี้ก็คือพระราชกฤษฎีกาเฉพาะในส่วนที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ ๒ กุมภา นั้นไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
ปัญหาเบื้องต้นที่ต้องตอบเสียก่อนคือ แล้วการเลือกตั้งนั้นมันเป็นอันว่าเสียไป ไม่มีทางเป็นไปได้ อันจะทำให้เงื่อนไข (ให้ทำการเลือกตั้งในวันที่ ๒ กุมภา) ตกไปหรือไม่ ก็ต้องพิจารณาว่า ที่เลือกตั้งไม่ได้นั้นถึงขนาดทำให้การเลือกตั้งตกไปเลยหรือไม่ หรือยังมีทางเยียวยาให้สำเร็จลงได้ ซึ่งถ้าเป็นกรณีปกติที่ กกต. ประกาศวันลงคะแนนเป็นวันอื่นได้ และทำให้ถือได้ว่าการเลือกตั้งวันที่ ๒ กุมภา ยังสำเร็จลงได้ กรณีนี้การเลือกตั้งย่อมไม่ตกไป เช่นสมมติว่าได้ดำเนินการตามขั้นตอนมาโดยตลอด แล้วมีเหตุให้ต้องเลื่อนวันลงคะแนนในบางเขตไป เช่นมีเหตุน้ำท่วม ภัยพิบัติ ดังนี้เพียงแต่เลื่อนวันลงคะแนนในเขตที่มีปัญหาได้โดยการเลือกตั้งไม่ตกไป แต่ถ้าการเลือกตั้งเป็นอันไม่สำเร็จลงได้แล้วโดยแน่แท้ ชนิดไม่มีทางเยียวยาได้แล้ว ก็จะเป็นกรณีที่เรียกได้ว่าเงื่อนไขตกไป
Kittisak Prokati :แต่ปรากฏว่ากรณีที่เกิดขึ้นในบ้านเรา เป็นกรณีที่การเลือกตั้งไม่อาจสำเร็จลงได้โดยแน่แท้ หรือเป็นอันไร้ประโยชน์ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ เราจึงถือว่าเงื่อนไขคือการเลือกตั้งนั้นตกไป ทำไมถึงกล่าวว่าการเลือกตั้งไม่อาจสำเร็จลงได้โดยแน่แท้ ก็เพราะมีการดำเนินการข้ามขั้นตอน เพราะการเลือกตั้งเป็นกระบวนการ การจะดำเนินกระบวนการต่อไปต้องดำเนินกระบวนการก่อนนั้นให้เสร็จเสียก่อน คือต้องมีการประกาศกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง ประกาศเขตเลือกตั้ง แล้วจึงรับสมัคร จากนั้นประกาศชื่อผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง แล้วเปิดให้มีการหาเสียงผ่านสือสาธารณะ มีการลงคะแนนล่วงหน้า และมีการลงคะแนน กับนับคะแนนโดยชอบ จึงจะประกาศผลได้ โดยผลนั้นต้องมี สส. อย่างน้อยร้อยละ ๙๕ อีกด้วย แต่กรณีของเรามีปัญหาตรงที่รับสมัครยังไม่เสร็จ ก็ไปดำเนินการขั้นอื่น ๆ จนมีการนับคะแนนกันแล้ว จึงให้มีการไปลงคะแนนอีกในภายหลัง กับมีการสมัครใหม่ในเขตที่ยังไม่ได้รับสมัคร การดำเนินกระบวนการทั้งหมดนี้มันทำให้การเลือกตั้งเสียไป เมื่อการเลือกตั้งเสียไป ก็เลยส่งผลทำให้ประกาศกฤษฎีกาส่วนที่กำหนดให้จัดเลือกตั้งเป็นอันไร้ผล หรือมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญตามมา
เปรียบอีกอย่างก็คือทำนิติกรรมว่า จะให้เงินเมื่อหุงข้าวสุกก่อนเที่ยง ปรากฏว่าคนหุงข้าวใส่น้ำน้อยไปมาก ข้าวเลยไหม้ พอไหม้ไปแล้ว จะเติมน้ำลงไปเพิ่ม ก็ไม่ทำให้ข้าวสุกขึ้นมาได้ เมื่อเวลาผ่านเที่ยงไปแล้ว เป็นอันว่าเงื่อนไขไม่อาจสำเร็จได้ เงื่อนไขตกไป เมื่อเงื่อนไขตกไปก็เลยทำให้นิติกรรม (ซึ่งขณะกระทำไม่โมฆะ) ตกเป็นโมฆะไป
พระราชกฤษฎีกานั้นเป็นนิติกรรมที่รัฐประกาศว่า ให้ตั้งสภาผู้แทนราษฎรขึ้น โดยมีเงื่อนไขว่าให้ทำการเลือกตั้งในวันที่ ๒ กุมภา แม้ก่อนนั้น กกต. จะได้เล็งเห็นแล้วว่าจะไม่สำเร็จ จนต้องเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และศาลรัฐธรรมนูญก็ได้วินิจฉัยให้เลื่อนได้แล้ว ก็ไม่มีการเลื่อน จนปรากฏว่าเมื่อถึงวันที่ ๒ กุมภา แล้ว การเลือกตั้งที่ได้ทำแล้ว มันบกพร่องจนไม่อาจจะเรียกว่าการเลือกตั้งได้ เพราะชิงสุกก่อนห่ามอย่างที่กล่าวแล้ว กรณีก็ทำให้การเลือกตั้งที่ให้ทำวันที่ ๒ กุมภา ไม่สำเร็จลงได้ และเป็นอันตกไป เมื่อเงื่อนไขตกไป นิติกรรมก็ตกเป็นโมฆะ พระราชกฤษฎีกานั้นก็เลยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญที่กำหนดว่าให้กำหนดการเลือกตั้งภายใน ๖๐ วัน
ที่ตอบอาจารย์มาทั้งหมดนี้ เป็นความเห็นส่วนตัวที่ยังไม่ได้อ่านคำพิพากษาฉบับเต็ม แต่พยายามเดาเอาว่าศาลคิดอย่างไร และน่าจะมีเหตุผลอย่างไร โดยตั้งข้อสมมติฐานไว้ก่อนว่า ถ้าศาลคิดอย่างมีเหตุผลรองรับศาลจะให้เหตุผลอย่างไร เป็นการคาดเดาเอาสำหรับอธิบายมิตรสหาย ยังไม่เหมาะสำหรับการเผยแพร่อ้างอิงนะครับ
===================================================================
ขอย้ำอีกครั้งครับว่าผมนำมาเพื่อพิจารณา และตามตัวสีแดงด้านบน "ยังไม่เหมาะสำหรับการเผยแพร่อ้างอิงนะครับ"
" "
ตอบ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 03:42
นักกฎหมายที่อ่านกฎหมายต้องได้ความหมายเหมือนกัน
ต่อไปสบายแล้วครับ เวลามีเรื่องขัดแย้งอะไรไม่ต้องไปศาลแล้ว ไปหา "นักกฏหมายที่อ่านกฏหมาย" เขาให้ความเห็นอย่างไรก็จบ เพราะ ความเห็น ....."จะต้องได้ความหมายเหมือนกัน"
** แต่เราจะรู้ได้อย่างไร ...ว่าคนไหนเป็นนักกฏหมายที่อ่าน หรือไม่อ่านกฏหมาย
ทำเป็น ขี้ข้าตักขี้ไปได้ พอตักขี้ว่าอย่างไร ขี้ข้าจะว่าเหมือนกันหมด
เปรียบได้? ...ตักขี้ คือกฏหมาย ขี้ข้าคือ "นักกฎหมายที่อ่านกฎหมายต้องได้ความหมายเหมือนกัน"
ห้ามขัดแย้งกฏหมาย ....คือตัวตักขี้
จึงเรียกขี้ข้าเหล่านั้นว่าควาย
ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ
ตอบ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 08:40
เทียบการให้ความเห็นของอ.กิตติศักดิ์กับ นักวิชาการหางแดง แล้วเห็นความแตกต่างชัดเจนครับ
อ.กิตติศักดิ์ มักเน้นคำว่า ยังไม่ได้อ่านคำวินิจฉัยของศาล ในการอธิบายข้อกฎหมายที่ยุ่งยากต่อความเข้าใจนี้
ขณะที่นักวิชาการหางแดง สรุป ชี้นำและฟันธงทันทีที่การวินิจฉัย ไม่ถูกใจ
" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ "
ตอบ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 08:55
ตอนนี้ นักวิชาการหางแดง ออกมาคัดค้าน การตัดสินขององค์กรอิสระที่ให้โทษกับฝ่ายตัวเองเป็นแถว
เหล่าแกนนำขี้ข้า ก้เตรียมปลุกกระแสระดมพล รอท่อน้ำเลี้ยง ต้นเดือนนี้เอาแน่
ระหว่างนี้สื่อฯขี้ข้าจะช่วยประโคมข่าวความขัดแย้ง นำเสนอข้อผิดพลาดของมวลมหาประชาชน
ตำรวจก็จะแถลงข่าวการจับกุมฝ่ายต่อต้านทรราชย์
แบบนี้เรียกทฤษฎี สมคบคิด(กันทำชั่ว) ได้ไหม ??
แล้วก็จะประโคมข่าวกิจกรรมที่โจมตีศาล องค์กรอิสระ อ้างประชาธิปไตยกันอีกเพียบเลย
ก่อนเลือกตั้งนี่ เสื้อขาว จุดเทียน
เที่ยวนี้ เสื้อดำ
กิจกรรมดีๆ? มีเสมอๆ ครับ
==========
Jessada Denduangboripant
21 hours ago · Edited
บ่ายๆ เย็นๆ วันนี้มีกิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตยหลายอย่างแถว ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และสนามหลวง .... ใครสนใจแนวไหนก็ขอเชิญนะครับ ถ้าแนวธรรมะ ก็ขอเชิญไปจุดเทียนทำบุญที่สนามหลวง ตอน 4โมงเย็น พันช์ หลุยส์ ถ้าแนววิชาการ ก็ขอเชิญฟังเสวนาที่ ม.ธ. ถ้าแนวรณรงค์ ก็เชิญร่วมกิจกรรมของคุณ สมบัติ บุญงามอนงค์ ได้เลยครับ
------------
(ด่วน 23 มี.ค.57 ) วันนี้ 2 กิจกรรมที่ ห้องประกอบ หุตะสิงห์ ตึกอเนกประสงค์ 1 ม. ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ภาคบ่าย เริ่ม 13.30 น. 1) "สมัชชาปกป้องประชาธิปไตยแถลงข่าวกรณีศาล รธน.ตัดสินเลือกตั้ง 2 ก.พ.เป็นโมฆะ" ตั้งแต่ 13.30น. กิจกรรมที่ 2 เชิญอาสาร่วมกับ บก.ลายจุด สมบัติ บุญงามอนงค์ ทำกิจกรรม ที่ สนามฟุตบอลธรรมศาสตร์ ประมาณ5 โมงเย็น หลังงานแถลงข่าวของ สปป.ขอเชิญชวนมาร่วมแปรอักษรเป็นรูป X กากบาท ใช้คนประมาณ 100 คน
Edited by temp, 24 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 09:03.
ควายตัวนี้สีขาว
ตอบ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 12:56
เทียบการให้ความเห็นของอ.กิตติศักดิ์กับ นักวิชาการหางแดง แล้วเห็นความแตกต่างชัดเจนครับ
อ.กิตติศักดิ์ มักเน้นคำว่า ยังไม่ได้อ่านคำวินิจฉัยของศาล ในการอธิบายข้อกฎหมายที่ยุ่งยากต่อความเข้าใจนี้
ขณะที่นักวิชาการหางแดง สรุป ชี้นำและฟันธงทันทีที่การวินิจฉัย ไม่ถูกใจ
เป็นการออกตัวที่ควรทำ ที่บอกว่า "ยังไม่ได้อ่านคำวินิจฉัยของศาล"
ไม่ใช่อ่านข่าวแล้วด่วนสรุป โดยเฉพาะนักกฎหมายนี่ต้องระวังในการให้ความเห็นมากๆ
Edited by อู๋ ฮานามิ, 24 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 12:56.
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
ตอบ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 16:01
Piyabutr Saengkanokkul
Yesterday
ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้วินิจฉัยเพิกถอนการเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 ไม่มีตรงไหนเลยที่ลบล้างการเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 คะแนนเสียงเกือบ 20 ล้านยังสมบูรณ์อยู่ ไม่มีตรงไหนบอกว่าโมฆะ ศาลรัฐธรรมนูญบอกเพียงว่า พรฎ ในส่วนกำหนดวันเลือกตั้งไม่ชอบด้วย รธน มาตรา 108 (ซึ่งประหลาดมาก เพราะ พรฎ กำหนดวันเลือกตั้งวันเดียวตาม รธน มาตรา 108 ทุกประการ)
ดังนั้น อยากให้ช่วยกันพูดว่า การเลือกตั้งยังไม่โมฆะ คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญมีปัญหาบกพร่องผิดพลาดร้ายแรง คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญต่างหากที่เป็นโมฆะ
ประเด็นเหล่านี้ รอฟังอาจารย์วรเจตน์ อาจารย์ธีระ 13.30 น.
ควายตัวนี้สีขาว
ตอบ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 16:45
ถ้าทุกภาคส่วน เขาร่วมกัน ตรวจสอบชี้มูลความผิดของ รัฐบาล พท. อย่างบูรณาการ ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ มันก็ควรจะคิดอย่างน้อยที่สุดก็ที่ติ่งของติ่งของติ่งของกลีบก้านสมอง หน่อยว่า
"เออ เว้ย แล้วพรรค เพื่อทุยของกุมันผิดจริงหรือเปล่าวะ"
กันบ้างนะครับ
ฟายแดง
ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม
ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า
อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน
ตอบ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 18:41
Piyabutr Saengkanokkul
Yesterday
ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้วินิจฉัยเพิกถอนการเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 ไม่มีตรงไหนเลยที่ลบล้างการเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 คะแนนเสียงเกือบ 20 ล้านยังสมบูรณ์อยู่ ไม่มีตรงไหนบอกว่าโมฆะ ศาลรัฐธรรมนูญบอกเพียงว่า พรฎ ในส่วนกำหนดวันเลือกตั้งไม่ชอบด้วย รธน มาตรา 108 (ซึ่งประหลาดมาก เพราะ พรฎ กำหนดวันเลือกตั้งวันเดียวตาม รธน มาตรา 108 ทุกประการ)
ดังนั้น อยากให้ช่วยกันพูดว่า การเลือกตั้งยังไม่โมฆะ คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญมีปัญหาบกพร่องผิดพลาดร้ายแรง คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญต่างหากที่เป็นโมฆะ
ประเด็นเหล่านี้ รอฟังอาจารย์วรเจตน์ อาจารย์ธีระ 13.30 น.
แหม โชคดีนะฮะที่จานวอระเจด ไม่ได้เป็นผู้พิพากษาที่ไหน ไม่งั้นผมว่าจานวอระเจดต้องโดนจำเลยโวยวายว่าคำพิพากษาของจานเป็นโมฆะมันทุกคดีแน่เลย
แล้วอยากบอกว่ายิ่งจานออกมากวน teen สังคมมากเท่าไหร่ โอกาสที่จานจะจบแบบไอ้ไม่เต็มบาทมันก็มีมากเท่านั้นแหละฮะ ผมว่าถ้าไอ้แม้วโดนจัดการแล้วเนี่ย จานน่าจะลาออกจากมหาลัยไปทำงานแถว ๆ มอนเตเนโกรดีกว่านะฮะ เพราะผมว่าไอ้พวกลูกหาบจานในกลุ่มมันคงไม่มีเวลาว่างมาช่วยกันกระสุนให้จานหรอกฮะ
Edited by Novice, 24 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 18:48.
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน