Jump to content


Photo
- - - - -

ล้างภัย 'มนุษย์วิบัติ' 'ตุลาการภิวัตน์' คือ 'หน้าที่ตุลาการ'

สมจิตต์ นวเครือสุนทร

  • Please log in to reply
8 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 -3-

-3-

    ตัวละครลับ

  • Moderators
  • 8,707 posts

ตอบ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 21:35

*
POPULAR

http://www.ryt9.com/s/tpd/1862619

 

 

ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- อาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2557 00:00:15 น.สมจิตต์ นวเครือสุนทร

 

ไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมายที่คำว่า "ตุลาการภิวัตน์" จะถูกนำมาปั่นกระแสสร้างชุดความคิดเท็จเพื่อประโยชน์ทางการเมือง ในการรักษาระบอบทรราชให้ตัวเองและพรรคพวกอยู่เหนือระบบกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของประเทศ  หลังจากที่หายไประยะหนึ่งเมื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สืบสันดานทรราชจากพี่ชายนักโทษหนีคดีเข้ามาเป็นใหญ่ในบ้านเมือง

มีคดีสำคัญที่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหลายกรณี ภายใต้การบริหารของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่ยึดเสียงข้างมากเป็นที่ตั้ง พังระบบตรวจสอบ  ลอบทำร้ายประชาธิปไตยเพราะหัวใจคือเผด็จการ แต่ยิ่งลักษณ์และพรรคพวกไม่เคยโวยวาย ตราบเท่าที่พวกเขาพึงพอใจต่อคำตัดสินที่เป็นคุณกับพวกตัวเอง

 

มาทบทวนกันหน่อยว่า มีคดีอะไรบ้างที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเป็นคุณกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และพวกเขาก็ออกมาสรรเสริญเยินยอว่า "ศาลเป็นธรรม"

 

1.) 22 ก.พ.55 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ร.ก.เงินกู้  3.5 แสนล้านบาท หรือ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบการบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 (1) (2)

 

2.) 22 ก.พ.55 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พ.ร.ก.ปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนฟื้นฟูและสถาบันการเงิน พ.ศ.2555 หรือ พ.ร.ก.โอนหนี้กองทุนฟื้นฟู 1.14 ล้านล้านบาทให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 (1) (2)

 

3.) 20 เม.ย.55 ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องกรณีพรรคประชาธิปัตย์ขอให้วินิจฉัยสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ของ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม (ในขณะนั้น) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. และ ส.ส.พรรคเพื่อไทยอีก 6 คน ได้แก่ นายการุณ โหสกุล, นายสุรชาติ เทียนทอง, นายวรชัย เหมะ, นายทนุศักดิ์  เล็กอุทัย, นายวิชาญ มีนชัยนันท์ และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์  สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ จากการแต่งตั้ง ส.ส.เข้าไปร่วมบริหารใน ศปภ. เนื่องจากไม่ปรากฏว่ามีการกระทำที่ส่อไปในทางทุจริต หรือใช้อำนาจหน้าที่แทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ

 

4.) 13 ก.ค.55 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ไม่เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่เห็นว่าการแก้รัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชนทั้งฉบับควรผ่านการทำประชามติก่อนว่าต้องการให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่

 

5.) 4 ต.ค.56 ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องกรณี ส.ส.และ ส.ว.รวม 112 คนส่งให้วินิจฉัยร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 มาตรา 27 และมาตรา 28 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 168 วรรค 8 และวรรค 9

 

6.) 10 ต.ค.56 ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง 40 ส.ว.-ปชป.  ประเด็นแก้รัฐธรรมนูญปมที่มาของ ส.ว. ไม่เข้าหลักเกณฑ์ให้ระงับกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 154 เนื่องจากเห็นว่า รัฐธรรมนูญหมวด 15 มาตรา 291 บัญญัติหลักเกณฑ์วิธีการตาม (1) ถึง (7) ว่าต้องทำเป็นญัตติขอให้แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ และเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม มิใช่ทำเป็นร่างพระราชบัญญัติ ทั้งมาตรา 291 (7) ได้บัญญัติให้นำบทบัญญัติที่เกี่ยวกับการตราพระราชบัญญัติ เฉพาะมาตรา 150  และมาตรา 151 มาใช้บังคับโดยอนุโลม ไม่ได้บัญญัติให้นำมาตรา 154 ซึ่งเป็นบทบัญญัติว่าด้วยการควบคุมการตราพระราชบัญญัติมิให้ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ จึงไม่รับวินิจฉัย

 

7.) 12 มี.ค.57 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยกคำร้องกรณีถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส.ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ว่า คณะรัฐมนตรีกระทำการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ เนื่องจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2  ก.พ.57 ไม่อาจนำมาซึ่งการประชุมสภาฯ ครั้งแรก และทำให้สภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถให้ความเห็นชอบบุคคลมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ภายใน 30 วัน ซึ่งการอยู่ในตำแหน่งของรักษาการนายกรัฐมนตรีเป็นการดำรงอยู่โดยขัดต่อเจตนารมณ์ของศาลรัฐธรรมนูญ โดยศาลเห็นว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวยังไม่มีมูล จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะรับไว้พิจารณาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68

 

จะเห็นได้ว่ามีคดีจำนวนมากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า  รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ได้ทำผิดรัฐธรรมนูญ ซึ่งยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยก็กระดี๊กระด๊าชื่นชมศาลรัฐธรรมนูญว่าปฏิบัติหน้าที่อย่างเที่ยงธรรม แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญชุดเดียวกันนี้วินิจฉัยว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์มีพฤติกรรมกระทำผิดรัฐธรรมนูญ ก็จะมีการป้ายสีศาลรัฐธรรมนูญตามมาด้วยวาทะเดิมๆ ว่า "ศาลรัฐธรรมนูญสองมาตรฐาน เป็นเครื่องมืออำมาตย์ล้มรัฐบาล"

 

ตามมาด้วยการปั่นกระแส "ตุลาการภิวัตน์" ให้ประชาชนเกิดความสับสนและเข้าใจผิดว่า "ตุลาการภิวัตน์"  คือการใช้กฎหมายกลั่นแกล้งทักษิณและพวก ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่เลย เพราะความหมายของตุลาการภิวัตน์ คือ แนวคิดที่เกิดจากการมองว่า สถาบันตุลาการคือสถาบันเดียวที่มีความชอบธรรมภายใต้ระบอบประชาธิปไตยในการตัดสินคดีที่เกี่ยวข้องกับความเป็นธรรม โดยหลายประเทศก็ใช้หลักการนี้บนหลักคิดที่ว่า "อำนาจอธิปไตยของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย ต้องคู่ขนานไปกับหลักการปกครองด้วยความยุติธรรม ซึ่งจะเป็นการคลี่คลายข้อขัดแย้ง หรือเพื่อถ่วงดุลอำนาจกับฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ โดยพิจารณาถึงความยุติธรรมในสังคมเป็นหลัก"

 

ดังนั้น การกล่าวหาว่า "ตุลาการภิวัตน์" คือกระบวนการล้มรัฐบาลทักษิณ ยิ่งลักษณ์ จึงเท่ากับว่ามนุษย์วิบัติเหล่านี้ยอมรับว่า "แม้ตัวเองจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้เป็นรัฐบาลผ่านการเลือกตั้ง แต่ได้ปกครองบ้านเมืองโดยไม่ยึดหลักการความยุติธรรม จึงทำให้ถูกดำเนินคดีในหลายกรณีเพราะมีการละเมิดกฎหมาย ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ"

 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำรัส ไว้เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2549 แก่คณะศาลปกครองสูงสุดและประธานศาลฎีกา พร้อมด้วยผู้พิพากษาประจำศาลยุติธรรม มีความตอนหนึ่งว่า

...หน้าที่ของผู้พิพากษา หน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการปกครอง มีหน้าที่กว้างขวางมาก ซึ่งเกรงว่าท่านอาจจะนึกว่าหน้าที่ของผู้ที่เป็นศาลปกครองมีขอบข่ายที่ไม่กว้างขวาง ที่จริงกว้างขวางมาก ในเวลานี้อาจจะไม่ควรพูด แต่อย่างเมื่อเช้านี้เองได้ยินเขาพูดเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง และโดยเฉพาะเรื่องเลือกตั้งของผู้ที่ได้คะแนน ได้แต้มไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์

 

แล้วก็เขาเลือกตั้งอยู่คนเดียว ซึ่งมีความสำคัญ เพราะว่าถ้าไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ แล้วก็เขาคนเดียว ในที่สุดการเลือกตั้งไม่ครบสมบูรณ์ ไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับท่านหรือเปล่า แต่ความจริงน่าจะเกี่ยวข้องเหมือนกัน เพราะว่าถ้าไม่มีจำนวนผู้ที่ได้รับเลือกตั้งพอ ก็กลายเป็นว่า การปกครองแบบประชาธิปไตยดำเนินการไม่ได้

แล้วถ้าดำเนินการไม่ได้ ที่ท่านได้ปฏิญาณเมื่อตะกี้นี้ก็เป็นหมัน ถึงบอกว่าจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้การปกครองแบบประชาธิปไตยต้องดำเนินการไปได้ ท่านก็เลยทำงานไม่ได้ และถ้าท่านทำงานไม่ได้ ก็มีทางหนึ่ง ท่านอาจจะต้องลาออก เพราะไม่ได้มีการแก้ไขปัญหา ไม่ได้แก้ปัญหาที่มีอยู่ ต้องหาทางแก้ไขได้ เขาอาจจะบอกว่าต้องไปถามศาลรัฐธรรมนูญ แต่ศาลรัฐธรรมนูญก็บอกไม่ใช่เรื่องของตัว ศาลรัฐธรรมนูญว่าเป็นการร่างรัฐธรรมนูญ ร่างเสร็จแล้วก็ไม่เกี่ยวข้อง

เลยขอร้องว่า ท่านอย่าไปทอดทิ้งความปกครองแบบประชาธิปไตย การปกครองแบบที่จะทำให้บ้านเมืองดำเนินการผ่านออกไปได้ แล้วก็อีกข้อหนึ่ง การที่จะบอกว่ามีการยุบสภา และต้องเลือกตั้งภายใน 30 วัน ถูกต้องหรือไม่ ไม่พูดเลย ไม่พูดกันเลย ถ้าไม่ถูกก็จะต้องแก้ไข แต่ก็อาจจะให้การเลือกตั้งนี้เป็นโมฆะหรือเป็นอะไร ซึ่งท่านจะมีสิทธิ์ที่จะบอกว่า อะไรที่ควร ที่ไม่ควร

ไม่ได้บอกว่ารัฐบาลไม่ดี แต่ว่าเท่าที่ฟังดูมันเป็นไปไม่ได้  คือการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย เลือกตั้งพรรคเดียว คนเดียว ไม่ใช่ทั่วไป แต่ในแห่งหนึ่งมีคนที่สมัครเลือกตั้งคนเดียว  มันเป็นไปไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องของประชาธิปไตย เมื่อไม่เป็นประชาธิปไตย ท่านก็พูดกันเองว่า ท่านต้องดูเกี่ยวข้องกับเรื่องของการปกครองให้ดี ตรงนี้ขอฝาก

อย่างดีที่สุด ถ้าเกิดท่านจะทำได้ ท่านลาออก ท่านเอง ไม่ใช่รัฐบาลลาออก ท่านเองต้องลาออก ถ้าทำไม่ได้ รับหน้าที่ไม่ได้ ตะกี้ที่ปฏิญาณไป ดูดีๆ จะเป็นการไม่ได้ทำตามที่ปฏิญาณ ฉะนั้น ก็ตั้งแต่ฟังวิทยุเมื่อเช้านี้ กรณีเกิดที่นบพิตำ  กรณีที่อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช อันนั้นไม่ใช่แห่งเดียว ที่อื่นมีอีกหลายแห่ง ที่จะทำให้บ้านเมืองล่มจม  บ้านเมืองไม่สามารถที่จะรอดพ้นจากสถานการณ์ที่ไม่ถูกต้อง

ฉะนั้น ก็ขอให้ท่านไปศึกษาว่าเกี่ยวข้องอย่างไร ท่านเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่ถ้าท่านไม่เกี่ยวข้อง ท่านก็ลาออกดีกว่า  ท่านผู้ที่เป็นผู้ที่ได้รับหน้าที่ ท่านเป็นผู้ที่มีความรู้ เป็นผู้ที่ต้องทำให้บ้านเมืองดำเนินได้ หรือมิฉะนั้นก็ต้องไปปรึกษากับท่านผู้พิพากษาที่จะเข้ามาต่อมา ท่านผู้พิพากษาศาลฎีกา ท่านผู้นี้ก็คงเกี่ยวข้องเหมือนกัน ก็ปรึกษากันสี่คน

ท่านปรึกษากับผู้พิพากษาศาลฎีกาที่จะเข้ามาใหม่ ปรึกษากับท่าน ก็เป็นจำนวนหลายคนที่มีความรู้ ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต ที่มีความและมีหน้าที่ที่จะทำให้บ้านเมืองมีขื่อมีแป  ฉะนั้นก็ขอฝากคุณอักขราทร ก็ต้องไปพูดกับสมาชิกอื่นๆ  ด้วย ก็จะขอบใจมาก เดี๋ยวนี้ยุ่ง เพราะถ้าไม่มีสภาผู้แทนราษฎรก็ไม่ทางจะปกครองแบบประชาธิปไตย ของเรามีศาลหลายชนิดมากมาย แล้วมีสภาหลายแบบ และก็ทุกแบบนี่จะต้องเข้ากัน ปรองดองกัน และคิดทางที่จะแก้ไขได้...

จากพระราชดำรัสดังกล่าว ทำให้มีความพยายามที่จะ  "ดึงฟ้าต่ำ" อย่างเป็นระบบต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งที่ความจริงแล้ว พ่อหลวงมิได้ทรงเข้ามายุ่งเกี่ยวหรือแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายใด นอกจากการให้สติคนที่มีหน้าที่ในบ้านเมือง ให้ทำงานของตนอย่างเต็มกำลังเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชนเท่านั้น ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่สุดของประเทศไทยที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำให้ชาติของเรารอดพ้นจากวิกฤติมาได้หลายครั้งหลายคราว กระทั่งต่างชาติเองก็ยังยอมรับในเรื่องนี้

คาร์ล ไฮนซ์เฮคฮาวเซน ประธานหอการค้ายุโรป และประธานหอการค้าไทย-เยอรมัน กล่าวไว้เมื่อวันที่ 24 เม.ย.49 หรือ 1 วันก่อนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะมีพระราชดำรัสให้ 3 ศาลหารือกันเพื่อหาทางออกจากวิกฤติการเมือง ภายใต้ระบบกฎหมายและการปกครองในระบอบประชาธิปไตย โดยคาร์ลให้ความเห็นไว้ว่า

"การชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้น ไม่ถือว่าเป็นเรื่องซีเรียสสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ตราบใดที่ไม่มีการปฏิวัติรัฐประหาร ขอยืนยันว่านักลงทุนต่างชาติโดยเฉพาะยุโรป มองว่าการเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงนี้ ถือเป็นเรื่องปกติของระบอบประชาธิปไตย และยังทำให้เกิดการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย และยังอดทึ่งไม่ได้ว่าทำไมการชุมนุมที่ยาวนาน จึงสงบเรียบร้อยโดยไม่เกิดจลาจล ไม่เหมือนฝรั่งเศสที่เกิดความรุนแรง...จุดหนึ่งที่ประเทศไทยได้เปรียบคือ ความเข้มแข็งของสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดวิกฤติก็เชื่อว่า พระบารมีของในหลวงจะช่วยคลี่คลายวิกฤตินั้น"

แต่เมื่อฝ่ายตุลาการพิจารณาอรรถคดีตามหลักการ ตุลาการภิวัตน์กลับถูกบิดเบือนโดยฝ่ายที่เสียประโยชน์ว่า เป็นการใช้ตุลาการมาสนองเป้าหมายทางการเมืองของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และกล่าวหาว่ามีธงล่วงหน้าในคดีการเมือง ลากตุลาการลงมาเป็นคู่ขัดแย้งทางการเมือง พร้อมกับการทำลายความน่าเชื่อถือตุลาการในทุกรูปแบบ และผลักให้ตุลาการซึ่งทำหน้าที่พิทักษ์ความถูกต้อง ยุติธรรมในสังคมไทยกลายเป็นหนึ่งในขบวนการล้มรัฐบาล ทั้งที่ความจริง "ตุลาการภิวัตน์" คือ การให้อำนาจตุลาการตรวจสอบการออกกฎหมาย ตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจของฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อให้ใช้อำนาจในการพิพากษาคดีให้เกิดความเป็นธรรมแก่สังคม

สิ่งที่คนไทยต้องพึงตระหนักให้มั่นคือ ศาลไม่มีอำนาจที่จะพิจารณาคดีใดได้หากไม่มีการนำเรื่องขึ้นร้องต่อศาล และที่สำคัญคือ การพิจารณาคดีเป็นไปตามข้อเท็จจริงและหลักกฎหมาย ดังนั้น "ตุลาการภิวัตน์" จึงมิใช่เครื่องมือของอำมาตย์ที่จ้องล้มทักษิณ ยิ่งลักษณ์ ตามที่มีความพยายามสร้างชุดความคิดเท็จกันอยู่ในขณะนี้ แต่ "ตุลาการ" มีหน้าที่จัดการกับคนที่ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย เพื่อรักษาความเป็นธรรมให้กับสังคม

รัฐบาลใดก็ตามที่อ้างว่าตัวเองถูกเล่นงานโดย "ตุลาการภิวัตน์" ก็เท่ากับยอมรับโดยปริยายว่าตัวเองทำ "ผิดกฎหมาย" เพราะถ้ามิได้ทำผิดย่อมไม่มีคดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาล

คำสารภาพล่าสุดของยิ่งลักษณ์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12  มี.ค.57 หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยด้วยมติเอกฉันท์ว่า เนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทขัดรัฐธรรมนูญ  โดยเธอระบุไว้ว่า "อยากให้มองดูที่เจตนา อย่ามองการใช้ข้อกฎหมายเป็นเพื่อที่จะลิดรอน หรือเป็นข้อที่จะตัดสิทธิ์ของทุกคนเลย แล้วอย่างนี้เราจะไปกันลำบาก พัฒนาประเทศต่างๆ ก็ลำบาก"

คำพูดของยิ่งลักษณ์ยิ่งชัดเจนว่า เธอยอมรับว่ารัฐบาลภายใต้การนำของเธอ มิได้บริหารประเทศภายใต้หลักนิติรัฐ  นิติธรรม แต่ยึดตามหลักนิติกู คือยกเจตนารมณ์ของฝ่ายบริหารอยู่เหนือกฎหมายบ้านเมือง

ถ้าไม่มี "มนุษย์วิบัติ" ที่เป็นมหันตภัยต่อชาติบ้านเมือง  "ตุลาการภิวัตน์" ก็คงไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยเช่นนี้ การดำรงอยู่อย่างเข้มแข็งของสังคมไทยคือ การรักษาอำนาจอธิปไตยสามฝ่ายให้สมดุลเพื่อให้การปกครองระบอบประชาธิปไตยเกิดประโยชน์สูงสุดต่อส่วนรวม ไม่ใช่หน้าด้านคิดแต่ว่า "ได้กูเอา เสียไม่จ่าย แถมทรัพยากรที่ใช้ยังเป็นของชาติ ไม่ใช่ของส่วนตัวพวกเมริงด้วย".

 

เผื่อเสื้อแดงหลายๆ คนจะไม่เคยรับรู้ว่ามีคดีเหล่านี้ด้วยน่ะครับ  -_-


"I want you to form a contract with me and become magical girls!" - kyubey
 
/人 ‿‿ ◕人\

#2 ธีรเดชน้อย

ธีรเดชน้อย

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,659 posts

ตอบ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 21:46

อะไรที่พวกเขา ไม่ได้ประโยชน์ เขาจะไม่สนใจครับ 

 

อะไรที่พวกเขาทำผิด เขาจะบอกว่า ฝ่ายตรงข้ามกับพวกเขาก็ทำผิดเหมือนกัน 


" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ   "

 

 


#3 gaiser

gaiser

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 837 posts

ตอบ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 22:56

เกิน3บรรทัด=สีซอให้ควายฟังครับ



#4 ไทยไม่ทน

ไทยไม่ทน

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,381 posts

ตอบ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 22:58

บิดเบือนป่าว สลิ่ม

 

พวกตรูตาสว่างแล้วโว้ย 

 

อย่ามาบิดเบือนให้ยาก 


  • -3- likes this

llllllllllllllllllllllllllllll

llllllllllllllllllllllllllllll

llllllllllllllllllllllllllllll

 


#5 แสงดาวแห่งศรัทธา

แสงดาวแห่งศรัทธา

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 951 posts

ตอบ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 23:29

ยาวและเป็นสาระ กระบือแดงไม่อ่านฮ่ะ ขนาดสั้นๆยังอนุมานผิดๆเลย บอกแล้วอย่าไปฟังไอ้แม้วมัน ไม่เชื่อนิ

#6 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 25 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 01:53

จริตของมัน ชอบแต่ศาลเตี้ยกับศาลของทางการที่ตัดสินเป็นคุณกับมันเท่านั้นแหละ 


ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#7 GuoJia

GuoJia

    Siam

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,463 posts

ตอบ 25 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 03:17

พวกเอี้ย "มนุษย์วิบัติ" นี่ต้องเจอ "ศาลทหาร" เท่านั้น


“ ...คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา ,

ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ “


#8 พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,450 posts

ตอบ 25 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 20:23

กระทู้ล่องหนสำหรับเหล่ากาสร  :lol:


อยากรู้ว่าประชาธิปไตยไทยเป็นแบบไหน ให้ดูการใช้รถใช้ถนนรู้จักกันแต่สิทธิ แต่ไม่เคยรู้จักหน้าที่ ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่วางไว้

#9 คนไทย916

คนไทย916

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,396 posts

ตอบ 25 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 20:49

ควายหายหมด ตอนนี้เรี่ยกได้เต็มปาก เพราะ นายฮ้อย ตระกูลชิน ยังคิดเลย


เราตระกูลชินจัง ขอยก ฐานะ เสื้อแดง จาก ไพร่ เป็น ควายแดง ณ.บัดนี้  

    ถึงแม้ พ่อแม่ เองจะให้ฐานะความเป็น คน มาแต่กำเนิดก็ตาม 





ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน