Jump to content


Photo
* - - - - 1 votes

การปฏิรูปประเทศไทย (ตอนที่ 1)


  • Please log in to reply
28 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 honglaksi

honglaksi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 238 posts

ตอบ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:37

พี่ที่นับถือกัน แกให้ช่วยนำเสนอให้ เนื่องจาก แกอายุเยอะแล้ว ไม่สามารถทางด้าน ไอทีเท่าใหร่ แต่ความรู้ ทางด้านกฎหมาย การเมือง พร้อมประสบการณ์ ทางการเมืองที่แกสัมผัสมา (ไม่ได้เป็นนักการเมือง) มองเห็นปัญหารากฐานของการเมืองไทย จึงขอนำเสนอ เพื่อเป็นทางเลือก หรือ เสริมแนวคิด ให้กับสังคม เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็ว่ากันไปนะครับ

การปฏิรูปประเทศไทย     (ตอนที่ 1)

  1. เดิม ก่อน รัชกาลที่ 5 ปฏิรูประบบบริหารราชการ ประเทศไทยมีโครงสร้างอำนาจแบบการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น คือ ท้องถิ่นปกครองตนเองในรูปของมณฑล เช่น มณฑลถลาง มณฑลโคราช มณฑลนครศรีธรรมราช มณฑลเชียงใหม่ ฯลฯ เป็นต้น
  2. ต่อมา เนื่องจากสถานการณ์โลกในขณะนั้นประเทศมีภัยจากการล่าอาณานิคมจากชาติตะวันตก ร.5 จึงจำเป็นต้องปรับโครงสร้างการปกครองมาเป็นการรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลาง ซึ่งก็เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ในขณะนั้น  ทำให้ประเทศมีการจัดตั้ง กระทรวง ทบวง กรม  มีการพัฒนาระบบ ไฟฟ้า โทรศัพท์ โรงเรียน มหาวิทยาลัย ไปรษณีย์ รถไฟ ประปา ฯลฯ ได้อย่างรวดเร็ว  เพราะเป็นการรวม ศูนย์อำนาจ และสั่งการมาจากศูนย์อำนาจ ประกอบกับในขณะนั้นเราได้พระมหากษัตริย์ที่ดี  ทำเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประเทศจึงมีความเจริญก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด
  3. จากนั้นไม่นาน อำนาจรวมศูนย์ที่อยู่ในมือของกษัตริย์  ถูกเปลี่ยนมาอยู่ในมือของคณะราษฎร์ à ทหาร à และนักการเมือง นายทุนสามานย์ ตามลำดับ  ซึ่งโครงสร้างของประเทศนับจาก ร.5 จนถึงปัจจุบันโดยเนื้อหาแล้วยังคงไม่เปลี่ยน  คือเมื่อมีการรวมศูนย์กลางอำนาจไว้ที่ส่วนกลาง  ภาษีถูกเก็บรวบรวมไว้ที่ส่วนกลาง  จึงเป็นเค็กก้อนใหญ่ที่ทุกฝ่ายจ้องจะหาผลประโยชน์ อำนาจเดิมของกษัตริย์จึงตกอยู่ในกลุ่มนักการเมือง หรือ ทหาร สับเปลี่ยนกันไป  มิได้ตกอยู่ในมือของประชาชนอย่างแท้จริง  หากทหารจะแย่งอำนาจ ก็ทำการรัฐประหารยึดอำนาจได้ง่าย โดยยึดศูนย์อำนาจก็ครอบครองประเทศได้ นักการเมืองนายทุนสามานย์ อยากครอบครองประเทศนี้ ก็ซื้อ ส.ส. และ ซื้อเสียง ด้วยเงินไม่กี่หมื่นล้านบาท ก็ได้อำนาจยึดครองประเทศได้โดยง่าย  เพราะอำนาจไม่ได้ถูกกระจายอยู่ในมือประชาชน
  4. โครงสร้างอำนาจนับจาก ร.5 จนถึงปัจจุบันมีอายุ 150 ปีแล้ว ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง  บัดนี้ถือว่าล้าสมัยอย่างมาก ก่อให้เกิดปัญหามากมายดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน  ซึ่งจะได้กล่าวต่อไป
  5. ถ้าเราลองพิจารณาประเทศที่เขาเจริญ และมีความสงบ มีเสถียรภาพทางการเมืองในโลกนี้แล้ว  เราจะเห็นว่าโครงสร้างอำนาจในประเทศนั้น ๆ มีการกระจายอำนาจ ให้ท้องถิ่นปกครองตนเองอย่างแท้จริง เช่น อังกฤษ  แม้จะมีกษัตริย์ ก็มีการกระจายอำนาจเป็นแค้วน เป็นมณฑล  อเมริกาปกครองเป็นรัฐ  มาเลเซียเป็นรัฐ มีกษัตริย์หมุนเวียนกันครองราชย์ตามวาระ  อินเดียเป็นรัฐ  จีนเป็นมณฑล  ฟิลิปปินส์  ออสเตรเลีย ฯลฯ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นทั้งสิ้น  มิใช่เป็นการรวมอำนาจไว้ที่ส่วนกลาง และประเทศดังกล่าวก็จะไม่เกิดปัญหาที่ทหารออกมาปฏิวัติรัฐประหาร  เพราะไม่สามารถยึดอำนาจได้ เนื่องจากอำนาจได้ถูกกระจายไปสู่ส่วนย่อย  ตกอยู่ในมือของประชาชนและท้องถิ่น  ไม่สามารถแย่งอำนาจมาได้โดยง่าย
  6. เมื่อโครงสร้างอำนาจของไทยเป็นการรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลางอย่างปัจจุบันจึงก่อให้เกิดวิกฤติปัญหาทางการเมืองมาตลอด  กล่าวคือ
    1. ค่านิยมการเลือกตั้ง ส.ส. ของประชาชนไทยได้พัฒนามาจากรากเหง้าค่านิยมดั้งเดิมของไทย คือระบบ “ไอ้เสือ”  ในสมัยก่อนคนที่เป็น “ไอ้เสือ” จะเป็นที่รักเคารพของชุมชนในหมู่บ้าน  เพราะ“ไอ้เสือ”จะไม่ปล้นหมู่บ้านของตนเอง  แต่จะไปปล้นหมู่บ้านอื่นเมื่อได้ทรัพย์มาก็เก็บไว้เองส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งนำมาแจกชาวบ้าน  เวลาชาวบ้านมีข้อพิพาทกัน“ไอ้เสือ”ก็จะช่วยเคลียร์ปัญหาให้  การเลือก ส.ส. ของชาวบ้านในปัจจุบันก็ไม่ต่างอะไรกับระบบ“ไอ้เสือ” คือต้องเลือกคนโกง ยิ่งโกงมากเท่าไรยิ่งดี  ถือว่ามีฝีมือ  เพราะ ส.ส.“ไอ้เสือ”พวกนี้จะต้องไปปล้นงบประมาณจากที่อื่นให้มาลงบ้านตัวเองและ ส.ส. พวกนี้ก็จะโกงงบประมาณที่ได้มาไว้เป็นของตนเองส่วนหนึ่ง  ชาวบ้านหมู่บ้านนั้นไม่สนใจหรอกว่านักการเมือง ส.ส. จะโกงกันอย่างไร  ขอให้ได้งบประมาณมาลงบ้านตัวเองและตัวเองได้ประโยชน์จากการโกงนั้นด้วยก็ไม่เป็นไร  จึงเกิดค่านิยมว่า“โกงไม่เป็นไร ขอให้มีผลงาน” ดังนั้น ถ้าผมเป็นชาวสุพรรณบุรี ผมก็ต้องเลือก นายบรรหาร ตลอดไป เพราะ นายบรรหาร สามารถแย่งงบประมาณจากที่อื่นมาลงจังหวัดตนได้มากเกินความจำเป็น  แม้งบประมาณที่ได้มา นายบรรหาร จะเอาบริษัทญาติพี่น้องของตนเข้ามากอบโกย ผมซึ่งเป็นชาวสุพรรณก็พอใจ และชื่นชมว่า ส.ส. ของผมเก่งที่ไปปล้นงบจากที่อื่นมาได้  และคิดว่าเงินงบประมาณที่ถูกโกงไปนั้น ไม่ใช่เงินของตน แต่เป็นเงินจากที่อื่นๆ

ดังนั้น ต่อไปทุกเขตการเลือกตั้ง ถ้าชาวบ้านอยากได้งบประมาณมาพัฒนาท้องถิ่นอย่างสุพรรณบุรี ก็จะค่อยๆพากันไปเลือก ส.ส. แบบ“ไอ้เสือ”ส.ส.ที่ปล้นไม่เป็น หรือไม่ใช่ ส.ส. โจร ชาวบ้านจะไม่เลือก และค่อยๆหมดไปจากประเทศไทย

ส่วนชาวบ้านเขตอื่นๆที่ถูกปล้นก็ร้องบอกว่า “ เฮ้ย...ไอ้เสือ บ้านอื่นมาปล้นบ้านเรา ทำไมปล่อยให้มันปล้นเราฝ่ายเดียว ไอ้เสือ บ้านเราต้องไปปล้นเอาทรัพย์เราคืนบ้าง ” ในที่สุดมีการปล้นกันไป ปล้นกันมา เกิดขึ้นระหว่างหมู่บ้านทั่วประเทศตอนแรกไอ้***็ต่อสู้กันเองระหว่างไอ้เสือคนไหนมีวิชาโจรอยู่ยงคงกระพันก็ชนะ ไอ้เสือที่แพ้เขาสู้ไม่ได้ก็ไปปลุกระดมชาวบ้านให้มาช่วยสู้ ไอ้เสืออีกฝ่ายหนึ่งก็ไปปลุกระดมชาวบ้านของตนให้มาช่วยเช่นกันเกิดรบราฆ่าฟันกันระหว่างหมู่บ้าน ในที่สุดขยายวงใหญ่ขึ้นเป็นไอ้เสือฝ่ายค้าน กับไอ้เสือฝ่ายรัฐบาลปลุกมวลชนเข้ามาสู้กัน กลายเป็นสงครามกลางเมือง สิ่งนี้เป็นปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับประเทศไทยในขณะนี้ซึ่งต้นตอมาจาก “ส.ส.ไอ้เสือ ”

  1. การแก้ปัญหาวิกฤติทางการเมืองในปัจจุบันจะต้องมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจด้วยการกระจายอำนาจกลับไปสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริง  ให้ชาวบ้านได้ปกครองตนเอง เก็บภาษี และบริหารงบประมาณของตนเอง  โดยการยกเลิกระบบการรวมศูนย์อำนาจที่มีการเก็บภาษีทั่วประเทศ แล้วมารวมกันที่ส่วนกลาง กลายเป็นเค็กก้อนใหญ่ที่ไอ้เสือทั้งหลายจ้องจะปล้นจากกองกลาง  และการบริหารปกครองต้องใช้หลักที่ว่า “ใครได้รับเลือกตั้งมาจากที่ใด ให้ปกครองที่นั่น”  เช่น ชาวอีสานเลือกทักษิณ  ชาวใต้เลือกชวน  หากทักษิณเป็นนายกฯ คนใต้ก็ไม่ยอมรับ เพราะเขาไม่ได้เลือก ในทางกลับกัน หากชวนเป็นนายกฯ ชาวอีสานก็ไม่ยอมรับเช่นกัน เพราะเขาชอบทักษิณ

ดังนั้นเมื่อมีการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่นอย่างแท้จริงแล้วท้องถิ่นใดอยากเลือกผู้นำ หรือนักการเมืองส.ส.ที่เป็นไอ้เสือ ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องของคนในท้องถิ่นนั้นโดยตรง เป็นเอกสิทธิของเขา เพราะไอ้เสือที่เขาเลือกมาไม่สามารถไปปล้นทรัพย์จากที่อื่นได้อีกต่อไปแล้ว นอกจากปล้นบ้านหรือท้องถิ่นของตนเองเช่น ชาวสุพรรณบุรีอยากเลือกบรรหารให้มาภาษี แล้วโกงภาษีของชาวสุพรรณ ก็เป็นเรื่องของชาวสุพรรณเป็นเรื่องของชุมชนในท้องถิ่นนั้น ๆ เขาจะตัดสินใจเองว่าเงินภาษีของเขาจะยอมให้ไอ้เสือปล้นหรือไม่ซึ่งเชื่อว่าความรู้สึกของชุมชนจะเกิดความหวงแหนเงินภาษีของเขาเองมากกว่าที่เป็นอยู่ในระบบโครงสร้างปัจจุบันเพราะปัจจุบันเขารู้สึกว่าเงินนั้นมาจากส่วนกลาง และเป็นเงินจากที่อื่น มิใช่เงินของเขาโดยตรงจะเห็นว่าเมื่อมีการกระจายอำนาจออกไปดังกล่าวแล้ว เส้นทางของเงินภาษีจะสั้นชาวบ้านผู้เสียภาษีจะเกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของเงินนั้นต่างกับโครงสร้างแบบรวมศูนย์อำนาจในปัจจุบันเส้นทางของเงินภาษีจะยาวทั้งขาเก็บและขากลับมาในรูปงบประมาณเกิดการรั่วไหลได้ตลอดทาง

  1. เมื่อมีการกระจายอำนาจบริหารและอำนาจจัดเก็บภาษีไปสู่ท้องถิ่นแล้ว  รัฐบาลกลางก็จะเหลือหน่วยงานหลักคือ  กลาโหม  ต่างประเทศ การคลัง  และ ศาลสูง เท่านั้น  ส่วนงานอื่นๆ ให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลท้องถิ่นทั้งสิ้น ไม่ว่า การศึกษา  ตำรวจ  อัยการ  ศาลท้องถิ่น  สาธารณสุข  เกษตร  คมนาคม  แรงงาน  มหาดไทย  วัฒนธรรม  ฯลฯ  บุคลากรทั้งหลายเหล่านั้นก็ต้องไปสังกัดภายใต้รัฐบาลท้องถิ่น
  2. การปรับโครงสร้างอำนาจด้วยการกระจายอำนาจไปสู่รัฐบาลท้องถิ่นนั้นเหมาะสม และสอดคล้องกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ  สังคม  วัฒนธรรม  สิ่งแวดล้อม  ฯลฯ  ซึ่งนับวันจะทวีความรุนแรง และซับซ้อนมากยิ่งขึ้น  ประชาชนในท้องถิ่นนั้นๆ จะได้เข้ามามีส่วนร่วมโดยตรง และรู้ปัญหา ความต้องการของชุมชนนั้นได้ดีกว่ารัฐบาลกลาง  ตัวอย่างเช่น
    1. ปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน ปัจจุบันได้รวมศูนย์อำนาจในการออกโฉนดที่ดินไว้ที่ส่วนกลาง ได้แก่ กรมที่ดิน  กรมป่าไม้  ฯลฯ  ผลก็คือชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนนั้นไม่มีที่ทำกิน ไม่มีเอกสารสิทธิในที่ดิน  แต่คนในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ซึ่งไม่ได้ทำกินหรือเป็นเกษตรกร กลับมีโฉนดที่ดินทั่วประเทศไทย  ดังนั้น ปัญหานี้ต้องกระจายอำนาจให้รัฐบาลท้องถิ่นเป็นผู้กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะได้สิทธิทำกินในที่ดิน  เพราะเขาจะรู้จักคนในพื้นที่ดี  ส่วนคนนอกชุมชนถ้าจะมีการครอบครองที่ดิน ต้องพิจารณาในอันดับหลังจากชาวบ้านในชุมชนนั้น  หรือต้องถือครองโดยมีเงื่อนไขของการส่งเสริมการลงทุน  มิใช่การเก็งกำไรที่ดิน และให้ชาวชุมชนเข้ามาตรวจสอบอย่างเข้มข้น


#2 honglaksi

honglaksi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 238 posts

ตอบ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:39

8.2 ปัญหาเรื่องพืชผลเกษตรตกต่ำจะเป็นหน้าที่โดยตรงของรัฐบาลท้องถิ่นนั้นๆ ที่จะกำหนดนโยบาย เงื่อนไข มาตรการในการช่วยเหลือ หรือส่งเสริมเกษตรกร เช่น กำหนดนโยบายให้ถนนที่สร้างในท้องถิ่น ต้องใช้ยางพาราที่เป็นผลผลิตของท้องถิ่นเป็นส่วนผสม หรือ กำหนดให้ปั๊มน้ำมันในท้องถิ่นต้องมีส่วนผสมของแอลกอร์ฮอล หรือไบโอดีเซล เพื่อช่วยเหลือผลผลิตอ้อย หรือปาล์ม ในท้องถิ่นนั้น ซึ่งปัจจุบันปัญหาเหล่านี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลกลาง เพราะมีการรวมศูนย์อำนาจ และรัฐบาลกลางก็มิได้ให้ความสนใจในเรื่องของท้องถิ่นย่อยๆ นั้นมากเท่าที่ควร การสร้างถนนก็กำหนด Spec. มาจากส่วนกลาง คือกรมทางหลวง และเป็นผู้กำหนดการนำเข้ายางมะตอยในการสร้างและซ่อมถนนทุกปีโดยมิได้ใส่ใจใช้ผลผลิตของเกษตรกรเลย เป็นต้น หรือการเข้ามาตั้งห้างสรรพสินค้าในท้องถิ่นก็ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาลท้องถิ่นนั้นๆ เป็นผู้กำหนดเงื่อนไขให้เหมาะสมกับสภาวะของชุมชนนั้นๆ และต้องฟังความเห็นของคนในท้องถิ่น สินค้า OTOP ต้องได้รับการผลักดัน พัฒนา กำหนดเป็นเงื่อนไขต้องนำมาวางขายในห้างสรรพสินค้าทุกแห่ง
8.3 ปัญหาอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ ควรเป็นเรื่องของรัฐบาลท้องถิ่นนั้นๆ ที่จะเป็นผู้กำหนดให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ ของท้องถิ่นนั้นๆ ปัจจุบันการกำหนดอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำเท่ากันหมดแบบเหมาเข่ง ก่อให้เกิดปัญหาความไม่เท่าเทียมกัน เช่น ค่าจ้างครูปริญญาตรี 15,000 บาท ต่อ เดือน ที่อยู่ในกรุงเทพฯ กับครูที่อยู่ดอยแม่สลอง เท่ากันก็จริง แต่ความเป็นจริงแล้ว 2 คนมีความไม่เท่าเทียมกัน เพราะเงิน 15,000 บาท ต่อ เดือน ในกรุงเทพฯ ไม่พอกิน และ 15,000 บาท ในดอยแม่สลองสูงมาก ดังนั้นอัตราเงินเดือนบรรจุแรกเข้าของข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) ก็จะถูกแก้ไขยกเลิกได้โดยรัฐบาลท้องถิ่นนั้นกำหนดเอง
8.4 ปัญหาเรื่องควรทำแท้งหรือไม่ ควรมีบ่อนคาสิโนหรือไม่ เป็นปัญหาระดับท้องถิ่น ภูเก็ต สระแก้ว อาจพิจารณาเปิดคาสิโน ทำแท้งเสรี ในขณะที่ กาญจนบุรีเป็นเมืองเคร่งศาสนา อาจห้ามอบายมุขทุกชนิด ก็เป็นเรื่องท้องถิ่นนั้นที่จะพิจารณาตัดสินใจได้เอง ใครที่อยู่ในชุมชนนั้นและไม่เห็นด้วยกับเสียงส่วนใหญ่ ก็ไม่ต้องประท้วง หรือ ล้มรัฐบาลท้องถิ่น ด้วยการเผาบ้านเผาเมือง ก็มีทางเลือกโดยย้ายไปอยู่ในท้องถิ่นที่ตนเองชอบ เรียกว่ามีทางเลือกไปสู่ที่ชอบๆ ได้ แต่ถ้าเป็นโครงสร้างอำนาจในปัจจุบันที่รวมศูนย์อำนาจ การจะออกกฎหมายทำแท้งเสรีหรือให้มีบ่อนคาสิโน ก็ต้องมาจากส่วนกลาง บางท้องถิ่นไม่เหมาะสม แต่ต้องถูกบังคับใช้ตามกฎหมายไปด้วย ก็จะมีคนที่ไม่เห็นด้วยรวมตัวกัน ชุมชนนั้นนิด ชุมชนนั้นหน่อย เกิดเป็นจำนวนผู้คัดค้านจำนวนมากกลายเป็นปัญหาระดับชาติ
8.5 เรื่องประชานิยม ไม่ว่าจะเป็น 30 บาท รักษาทุกโรค จำนำข้าว รถยนต์คันแรก การศึกษาฟรี ประกันราคายางพารา ฯลฯ ควรเป็นเรื่องของรัฐบาลท้องถิ่นนั้นๆ ท้องถิ่นใด เก็บภาษีได้มากต้องการให้สวัสดิการกับคนที่เสียภาษีให้ท้องถิ่นนั้น ด้วยการรักษาพยาบาลฟรี หรืออื่นๆ ก็สามารถทำได้เอง ขึนอยู่กับความสามารถ กำลัง ฐานะ ในการจัดเก็บภาษีของรัฐบาลท้องถิ่นนั้นๆ รัฐบาลกลางไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยว ท้องถิ่นใดมีเกษตรกรมาก รัฐบาลท้องถิ่นนั้นก็ต้องทำหน้าที่ดูแลประชาชนให้มาก เช่น รับประกันความเสียหายของเกษตรกรจากภัยแล้ง น้ำท่วม หรือ ประกันราคาพืชผล จัดทำสำมะโนเกษตรกร และควบคุมปริมาณการผลิต หรือจัดตั้งกองทุนประกันราคาพืชผล คล้ายกับกองทุนน้ำมัน โดยอาจจัดตั้งในรูปของบริษัทประกันภัย ให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมบริหารจัดการด้วย
8.6 ปัญหาความรุนแรงใน 3-4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถดับไฟใต้ลงได้โดยการกระจายอำนาจ ให้ท้องถิ่นนั้นปกครองกันเอง พี่น้องชาวมุสลิมจะกำหนดวิถีชีวิตอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขาเองที่จะตัดสินใจ ตราบใดที่เขายังอยู่ภายใต้ร่มธงไตรรงค์และไม่มีการแบ่งแยกดินแดน ก็ OK
8.7 ปัญหาเรื่องความระยำของสื่อสารมวลชน หากมีการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ก็จะเกิดสื่อสารมวลชนที่รับใช้คนในท้องถิ่น และผลประโยชน์ของท้องถิ่นนั้นขึ้นมาแทน โดยชุมชนในท้องถิ่นนั้นก็จะช่วยดูแลตรวจสอบเอง และชุมชนนั้นก็จะเลือก อ่าน ฟัง ข่าวสารที่เกี่ยวกับท้องถิ่นก่อนเป็นทางเลือกแรก และเนื่องจากเป็นสังคมเล็กๆ ชุมชนจะรู้ข้อเท็จจริงได้เองว่า ข่าวนั้นจริงหรือไม่จริง จึงต่างกับโครงสร้างปัจจุบันที่สื่อสารมวลชนรับใช้นักการเมืองฝ่ายที่มีอำนาจ เพราะนักข่าวก็ต้องกินต้องใช้ จึงช่วยไม่ได้ที่จะต้องหาเงินด้วยการขายตัว และสื่อท้องถิ่นไม่มีทางได้เกิดในระบบโครสร้างปัจจุบัน เพราะข่าวท้องถิ่นไม่ได้มีความสำคัญกับวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่นเท่ากับข่าวที่มาจากศูนย์กลาง สื่อยักษ์ใหญ่จึงกลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลครอบงำความคิดและชี้นำประเทศได้
8.8 โครงสร้างรวมศูนย์อำนาจได้กลายเป็นแหล่งศูนย์รวมของความชั่วร้ายไว้ที่ส่วนกลางด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรมตำรวจ กรมอัยการ ดังนั้น หากมีการปรับโครงสร้างอำนาจด้วยการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่นแล้ว เท่ากับเป็นการขจัดแหล่งศูนย์รวมของความชั่วร้ายในสังคมได้โดยปริยายด้วย จะทำให้ตำรวจ อัยการ เป็นหน่วยงานที่มีศักดิ์ศรี รับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง
8.9 โครงสร้างรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลางในปัจจุบันมีโครงสร้างที่ค่อนข้างใกล้ชิดกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหากับสถาบัพระมหากษัตริย์ได้โดยง่าย ด้วยการถูกใส่ร้ายป้ายสีของผู้ที่ไม่หวังดีต่อชาติ เพราะปัญหาของชาติทุกปัญหาจะมุ่งมาสู่ส่วนกลาง ดังนั้น หากมีการกระจายอำนาจลงสู่ท้องถิ่น ปัญหาต่างๆ จะอยู่ในระดับท้องถิ่น และการกล่าวใส่ร้ายป้ายสีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นยากที่ใครจะเชื่ออีกต่อไป นโยบายเศรษฐกิจพอเพียง และโครงการหลวงต่างๆ ก็จะเข้าถึงรัฐบาลท้องถิ่นได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านรัฐบาลกลาง ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ก็จะได้ใกล้ชิดกับวิถีชุมชนมากยิ่งขึ้น สถาบันจะมั่นคงและอยู่เป็นที่รักเคารพของประชาชนชาวไทยตลอดไปชั่วกาลนาน
8.10 โครงสร้างรวมศูนย์อำนาจปัจจุบันของไทยมีผลโดยตรงต่อระบบเศรษฐกิจของชาติ โดยก่อให้เกิดการรวมศูนย์ของระบบเศรษฐกิจไว้ที่ส่วนกลาง เกิดการผูกขาดทางเศรษฐกิจไว้เฉพาะกับกลุ่มที่กุมอำนาจทางการเมือง ก่อให้เกิดการผูกขาดของรัฐในรูปแบบรัฐวิสาหกิจ ต่อมามีเอกชนเข้ามาผูกขาดแทนโดยการเข้ารับสัมปทาน เช่น กิจการโทรศัพท์ เปลี่ยนการผูกขาดโดยรัฐมาเป็นการผูกขาดโดยกลุ่มทุนการเมือง ดังนั้น หากมีการกระจายอำนาจการปกครองไปสู่ท้องถิ่น จะส่งผลให้การกระจายอำนาจการผูกขาดในระบบเศรษฐกิจไปสู่ท้องถิ่นด้วย โดยการให้รัฐบาลท้องถิ่นสนับสนุนธุรกิจ SME ในท้องถิ่นนั้นกิจการโทรศัพท์ ไฟฟ้า ประปา ฯลฯ การให้ท้องถิ่นนั้นเป็นผู้ให้บริการในลักษณะ Service Provider มิใช่ผูกขาดรวมศูนย์ไว้ที่ส่วนกลาง

#3 honglaksi

honglaksi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 238 posts

ตอบ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:42

  1. การกระจายอำนาจให้แต่ละท้องถิ่นปกครองและจัดเก็บภาษีเอง  ส่งผลดีให้เกิดการแข่งขันกันเองในระหว่างท้องถิ่น  ประชาชนในแต่ละท้องถิ่นจะเป็นผู้ตัดสินว่ารัฐบาลท้องถิ่นของตนดีมีฝีมือหรือไม่  โดยการเปรียบเทียบกับท้องถิ่นอื่น  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริยธรรม  ความซื่อสัตย์  ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ  ที่สำคัญชาวบ้านจะเข้ามามีส่วนร่วมในการปกครองทางตรงได้มากขึ้นกว่าเดิม  เพราะเป็นสังคมที่มีขนาดเล็ก

 

ดังนั้นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างอำนาจด้วยการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นให้ท้องถิ่นปกครองกันเองโดยใครได้รับเลือกตั้งจากที่ใด ให้ปกครองที่นั่นและภาษีเก็บได้ที่ใดให้นำมาพัฒนาที่นั่นจึงเป็นการปฏิรูปประเทศไทยที่ตรง และถูกต้องในการแก้ปัญหาของชาติ เท่ากับเป็นการคืนพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ให้ตกถึงมือประชาชนอย่างแท้จริงระบบประชาธิปไตยจะเกิดเป็นจริงขึ้นได้จะต้องสร้างมาจากฐานข้างล่าง มิใช่จากข้างบน

หน้าที่ของรัฐบาลกลางควรเป็นเรื่องระดับนานาชาติเช่นการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เจรจาสนธิสัญญาการเปิดตลาดการค้าการรักษาอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนการรักษาและส่งเสริมสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศส่วนเรื่องราคาสับปะรดตกต่ำราคายางพาราตกต่ำมีคาสิโนหรือไม่ควรทำแท้งเสรีหรือไม่ต้องให้รัฐบาลท้องถิ่นทำ

  •  

                                                                                                                          จบตอนที่ 1

   โปรดติดตามตอนต่อไป  จะเสนอโครงสร้างและที่มาของรัฐบาลกลาง  ระบบกองทุนรวมแห่งชาติ  และ การบริหารจัดการทรัพยากรรวมแห่งชาติ



#4 honglaksi

honglaksi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 238 posts

ตอบ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:51

ลองดูนะครับ ถูกใจไม่ถูกใจ ก็ว่ากันไป ช่วยกันคิดช่วยกันทำ เท่าที่บอก แกก็ไปส่งให้หลวงปู่ กับ อ.แก้วสรรด้วย ตอนที่1 มี 9 ข้อ แต่การเรียงเลข อาจผิดพลาด เนื่องการPost หัวข้อที่ผิดพลาด ดังนี้ครับ

ข้อ 7. เมื่อมีการกระจายอำนาจบบริหารและจัดเก็บภาษีสู่ท้องถิ่น.........

ข้อ 8. เมื่อปรับโครงสร้างอำนาจด้วยการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น......

ข้อ 9. การกระจายอำนาจให้แต่ละท้องถิ่นปกครองและจัดเก็บภาษีเอง.....



#5 สมชัย พิชัย

สมชัย พิชัย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 256 posts

ตอบ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 12:06

สนับสนุนกระจายอำนาจเต็มที่

 

ผมเบื่อกับพวก รักประชาธิปไตยแดงๆที่บอกว่า ท้องถิ่นไม่พร้อม

 

พร้อมอะไร พร้อมยังไง แล้วพร้อมเมื่อไหร่

 

ผมจะถามกลับไปว่า ตอนที่เปลี่ยนแปลง 2475 ประเทศพร้อมแล้วเหรอ ประชาชนรู้จักประชาธิปไตยแล้วเหรอ

 

ของแบบนี้ถ้าไม่เริ่ม เมื่อไหร่ก็ไม่พร้อมครับ



#6 honglaksi

honglaksi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 238 posts

ตอบ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 19:22

เพิ่มเติมครับ พอดีฟัง อาจารย์ ดร.ไตรรงค์ ปาฐกถาที่ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ เรื่อง ทางรอดประเทศไทย 2557 ได้พูดเรื่องกระจายอำนาจไว้น่าสนใจและสอดคล้องกัน ติดตามได้ทางนี้ครับ https://www.youtube....h?v=_OijtyQ3Vyc



#7 ล่ากบฎ

ล่ากบฎ

    น้องเก่า

  • Banned
  • PipPip
  • 142 posts

ตอบ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 19:28

เลือกตั้งผู้ว่า ให้ตำรวจไปอยู่กับผู้ว่า แบบนี้มาเฟียติดปีก 555


รัฏฐาธิปัตย์ = รัฐของพรรคประชาธิปัตย์ 


#8 honglaksi

honglaksi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 238 posts

ตอบ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 19:34

เลือกตั้งผู้ว่า ให้ตำรวจไปอยู่กับผู้ว่า แบบนี้มาเฟียติดปีก 555

มันก็เป็นไปได้ ถ้าคนในจังหวัดนั้นเลือกมาเฟียมาปกครองโดยเฉพาะที่เสื้อแดงเยอะ  แต่ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ทุกอย่างมีการเรียนรู้ คนในจังหวัดนั้นก็จะได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ว่าเลือกโจรเป็นผู้ว่า ก็ได้โจรมาเป็นตำรวจ ถ้ายังโง่เลือกอีกก็ช่วยไม่ได้ เออประทานโทษ แล้วที่เป็นอยู่ตำรวจ ไม่ได้เป็นมาเฟียเหรอครับ 



#9 honglaksi

honglaksi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 238 posts

ตอบ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 19:38

แนวคิดอ.ไตรรงค์ เรื่องการอบรมธรรมะ ให้นักการเมืองและต้องเรียนรู้ปรัชญาประชาธิปไตย พร้อมสอบก่อน ถึงจะมีสิทธิ์ สมัคร สส หรือทำงานการเมืองได้ ก็น่าสนใจ ครับ ลองตาม ทางรอดประเทศไทย 2557 โดย อ.ไตรรงค์



#10 กีรเต้

กีรเต้

    เราเป็นอย่างไร เรารู้ตัวเอง

  • Validating
  • PipPipPipPipPip
  • 6,208 posts

ตอบ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 19:38

 

เลือกตั้งผู้ว่า ให้ตำรวจไปอยู่กับผู้ว่า แบบนี้มาเฟียติดปีก 555

มันก็เป็นไปได้ ถ้าคนในจังหวัดนั้นเลือกมาเฟียมาปกครองโดยเฉพาะที่เสื้อแดงเยอะ  แต่ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ทุกอย่างมีการเรียนรู้ คนในจังหวัดนั้นก็จะได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ว่าเลือกโจรเป็นผู้ว่า ก็ได้โจรมาเป็นตำรวจ ถ้ายังโง่เลือกอีกก็ช่วยไม่ได้ เออประทานโทษ แล้วที่เป็นอยู่ตำรวจ ไม่ได้เป็นมาเฟียเหรอครับ 

 

 

จุก

 

:lol: :lol: :lol:


Edited by กีรเต้, 27 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 19:39.

ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน.ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี..ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี..ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน.... พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้า รัชกาลที่ ๕ "   https://www.facebook...akwarakfromyala   https://www.facebook.com/NARAPEACE

 

 


#11 honglaksi

honglaksi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 238 posts

ตอบ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 19:42

เพิ่มเติม ทางรอดประเทศไทย 2557 มี 2ตอน ครับ ตอนที่ 2 https://www.youtube....h?v=bQvxuVqwQwg ฟังแล้ว ทั้ง สนุก ได้ความรู้ เพลิน การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดครับ



#12 ล่ากบฎ

ล่ากบฎ

    น้องเก่า

  • Banned
  • PipPip
  • 142 posts

ตอบ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 19:48

 

 

เลือกตั้งผู้ว่า ให้ตำรวจไปอยู่กับผู้ว่า แบบนี้มาเฟียติดปีก 555

มันก็เป็นไปได้ ถ้าคนในจังหวัดนั้นเลือกมาเฟียมาปกครองโดยเฉพาะที่เสื้อแดงเยอะ  แต่ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ทุกอย่างมีการเรียนรู้ คนในจังหวัดนั้นก็จะได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ว่าเลือกโจรเป็นผู้ว่า ก็ได้โจรมาเป็นตำรวจ ถ้ายังโง่เลือกอีกก็ช่วยไม่ได้ เออประทานโทษ แล้วที่เป็นอยู่ตำรวจ ไม่ได้เป็นมาเฟียเหรอครับ 

 

 

จุก

 

:lol: :lol: :lol:

 

ของเถื่อนเต็มภาคใต้ เอาแค่น้ำมันเถื่อนแบ่งขวดขายตั้งกันหรา ไม่เห็นมีใครจุก 555


รัฏฐาธิปัตย์ = รัฐของพรรคประชาธิปัตย์ 


#13 กีรเต้

กีรเต้

    เราเป็นอย่างไร เรารู้ตัวเอง

  • Validating
  • PipPipPipPipPip
  • 6,208 posts

ตอบ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 19:50

 

 

 

เลือกตั้งผู้ว่า ให้ตำรวจไปอยู่กับผู้ว่า แบบนี้มาเฟียติดปีก 555

มันก็เป็นไปได้ ถ้าคนในจังหวัดนั้นเลือกมาเฟียมาปกครองโดยเฉพาะที่เสื้อแดงเยอะ  แต่ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ทุกอย่างมีการเรียนรู้ คนในจังหวัดนั้นก็จะได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ว่าเลือกโจรเป็นผู้ว่า ก็ได้โจรมาเป็นตำรวจ ถ้ายังโง่เลือกอีกก็ช่วยไม่ได้ เออประทานโทษ แล้วที่เป็นอยู่ตำรวจ ไม่ได้เป็นมาเฟียเหรอครับ 

 

 

จุก

 

:lol: :lol: :lol:

 

ของเถื่อนเต็มภาคใต้ เอาแค่น้ำมันเถื่อนแบ่งขวดขายตั้งกันหรา ไม่เห็นมีใครจุก 555

 

 

แล้วไง  แล้วรู้หรือเปล่าว่ากลุ่มใครที่ทำเรื่องนี้

อย่ามโน


ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน.ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี..ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี..ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน.... พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้า รัชกาลที่ ๕ "   https://www.facebook...akwarakfromyala   https://www.facebook.com/NARAPEACE

 

 


#14 ปลายสีรุ้ง

ปลายสีรุ้ง

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 13 posts

ตอบ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 22:34

ขอบคุณครับ เป็นบทความที่ดีมาก



#15 พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,450 posts

ตอบ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 22:47

 

 

 

 

เลือกตั้งผู้ว่า ให้ตำรวจไปอยู่กับผู้ว่า แบบนี้มาเฟียติดปีก 555

มันก็เป็นไปได้ ถ้าคนในจังหวัดนั้นเลือกมาเฟียมาปกครองโดยเฉพาะที่เสื้อแดงเยอะ  แต่ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ทุกอย่างมีการเรียนรู้ คนในจังหวัดนั้นก็จะได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ว่าเลือกโจรเป็นผู้ว่า ก็ได้โจรมาเป็นตำรวจ ถ้ายังโง่เลือกอีกก็ช่วยไม่ได้ เออประทานโทษ แล้วที่เป็นอยู่ตำรวจ ไม่ได้เป็นมาเฟียเหรอครับ 

 

 

จุก

 

:lol: :lol: :lol:

 

ของเถื่อนเต็มภาคใต้ เอาแค่น้ำมันเถื่อนแบ่งขวดขายตั้งกันหรา ไม่เห็นมีใครจุก 555

 

 

แล้วไง  แล้วรู้หรือเปล่าว่ากลุ่มใครที่ทำเรื่องนี้

อย่ามโน

 

 

จุก ภาค 2

:lol:  :lol:  :lol: 


อยากรู้ว่าประชาธิปไตยไทยเป็นแบบไหน ให้ดูการใช้รถใช้ถนนรู้จักกันแต่สิทธิ แต่ไม่เคยรู้จักหน้าที่ ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่วางไว้

#16 สมชัย พิชัย

สมชัย พิชัย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 256 posts

ตอบ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 09:28

 

 

 

เลือกตั้งผู้ว่า ให้ตำรวจไปอยู่กับผู้ว่า แบบนี้มาเฟียติดปีก 555

มันก็เป็นไปได้ ถ้าคนในจังหวัดนั้นเลือกมาเฟียมาปกครองโดยเฉพาะที่เสื้อแดงเยอะ  แต่ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ทุกอย่างมีการเรียนรู้ คนในจังหวัดนั้นก็จะได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ว่าเลือกโจรเป็นผู้ว่า ก็ได้โจรมาเป็นตำรวจ ถ้ายังโง่เลือกอีกก็ช่วยไม่ได้ เออประทานโทษ แล้วที่เป็นอยู่ตำรวจ ไม่ได้เป็นมาเฟียเหรอครับ 

 

 

จุก

 

:lol: :lol: :lol:

 

ของเถื่อนเต็มภาคใต้ เอาแค่น้ำมันเถื่อนแบ่งขวดขายตั้งกันหรา ไม่เห็นมีใครจุก 555

 

 

เพราะจ่ายภาษีส่วนกลางไป ก็ไม่ได้ประโยชน์ 

 

ถ้าแบ่งการกระจายอำนาจไปให้คนพื้นที่จัดการ ผลประโยชน์เป็นของคนในพื้นที่ ของพวกนี้รับรองอยู่ยาก

 

เพราะคนใต้ไม่ชอบให้ใครมาเอาเปรียบอยู่แล้ว 



#17 คลำปม

คลำปม

    สลิ่มเต็มขั้นจ้า

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,657 posts

ตอบ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 09:56

ผมเห็นด้วยบางส่วนแต่ไม่ทั้งหมดนะครับ

 

เรื่องการกระจายอำนาจทางตรงผมไม่เห็นด้วย

 

เพราะผมเห็น อบต.แล้วหนาวครับ    งบแค่นี้ยังซื้อเสียงโกงกินกันซะขนาดนี้ 

 

ถ้างบประมาณมากกว่านี้ผมว่าได้เห็นการฆ่าล้างตระกูลกันในหลายจังหวัด

 

 

 

ที่สำคัญในบางภาคเก็บภาษีได้ต่ำมากครับ   ถ้าให้ดูแลตัวเองตายแน่นอน

 

แค่อุดหนุนภาคเกษตรก็เจ๊งแล้ว 

 

เพราะภาคเกษตรไม่ได้เสียภาษี  ต้องเอาเงินภาษีตรงอื่นมาช่วย

 

 

ดังนั้นการกระจายอำนาจโดยให้ดูแลตัวเองมันพูดง่ายแต่ทำไม่ได้ครับ 

 

ถ้าทำ  ช่องว่างคนรวยคนจนยิ่งเพิ่ม  ภาคที่ไม่เจริญเพราะขาดงบประมาณจะยิ่งแย่

 

แถมได้ผู้บริหารเลวอีกเพราะคนยากจนยิ่งด้อยโอกาสยิ่งต้องยอมขายเสียง

 

ไปๆมาๆยิ่งมืดมนครับ

 

 

 

ผมจึงอยากเสนอให้กระจายงบประมาณมากกว่ากระจายอำนาจ

 

แต่สิ่งที่ต้องปฏิรูปคือกลไกการใช้งบประมาณ

 

จะมาเอาเงินงบไปบิดเบือนกลไกตลาดเพื่อหวังคะแนนเสียงไม่ควรทำได้อีกแล้ว

 

ถ้าภาคเกษตรต้องการความสนับสนุน  ก็ต้องเป็นในลักษณะลดต้นทุน  เพิ่มมูลค่า

 

เพื่อการแข่งขันที่พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน 

 

 

ส่วนเรื่องการปกครองตัวเองก็ต้องทดลองกับบางจังหวัดนำร่องไปที่ละส่วนครับ

 

ประสิทธิภาพดี (โดยเปรียบเทียบกับจังหวัดที่ส่วนกลางส่งคนไปดูแล) ค่อยทำเพิ่ม

 

อย่างสมมุติ มหาสารคาม กับ กาฬสินธุิ์ จังหวัดใกล้เคียงกัน 

 

ก็ลองให้มีผู้ว่าจากการเลือกตั้งดูสัก 1 จังหวัด

 

เปรียบเทียบกันดูด้วยงบประมาณที่ส่วนกลางจัดสรรให้ใกล้เคียงกัน

 

ลองดูสัก 4 ปีครับว่าผลออกมาเป็นอย่างไร  ค่อยอุดรอยรั่วแล้วขยายเพิ่ม

 

 

แต่เรื่องตำรวจท้องที่ขึ้นอยู่กับผู้ว่าแต่ละจังหวัดผมเห็นด้วยครับ

 

ผมว่าตำรวจให้ระบบรวมศูนย์แล้วมีแต่จะวิ่งเต้น  หาส่วย  หาเงินซื้อตำแหน่งกัน

 

สุดท้ายได้แต่นักกรีฑา (นักวิ่ง) มาเป็นใหญ่เป็นโต   แต่ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ

 

เลิกระบบเดิมรื้อกันใหม่เสียที  แผ่นดินนี้จะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะครับ


Edited by คลำปม, 28 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 10:00.

วิธีการยุติระบอบทักษิณ

ก็แค่เพียงทำให้คนไทยส่วนใหญ่ "ฉลาด"


#18 สมชัย พิชัย

สมชัย พิชัย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 256 posts

ตอบ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 10:10

ผมเห็นด้วยบางส่วนแต่ไม่ทั้งหมดนะครับ

 

เรื่องการกระจายอำนาจทางตรงผมไม่เห็นด้วย

 

เพราะผมเห็น อบต.แล้วหนาวครับ    งบแค่นี้ยังซื้อเสียงโกงกินกันซะขนาดนี้ 

 

ถ้างบประมาณมากกว่านี้ผมว่าได้เห็นการฆ่าล้างตระกูลกันในหลายจังหวัด

 

 

 

ที่สำคัญในบางภาคเก็บภาษีได้ต่ำมากครับ   ถ้าให้ดูแลตัวเองตายแน่นอน

 

แค่อุดหนุนภาคเกษตรก็เจ๊งแล้ว 

 

เพราะภาคเกษตรไม่ได้เสียภาษี  ต้องเอาเงินภาษีตรงอื่นมาช่วย

 

 

ดังนั้นการกระจายอำนาจโดยให้ดูแลตัวเองมันพูดง่ายแต่ทำไม่ได้ครับ 

 

ถ้าทำ  ช่องว่างคนรวยคนจนยิ่งเพิ่ม  ภาคที่ไม่เจริญเพราะขาดงบประมาณจะยิ่งแย่

 

แถมได้ผู้บริหารเลวอีกเพราะคนยากจนยิ่งด้อยโอกาสยิ่งต้องยอมขายเสียง

 

ไปๆมาๆยิ่งมืดมนครับ

 

 

 

ผมจึงอยากเสนอให้กระจายงบประมาณมากกว่ากระจายอำนาจ

 

แต่สิ่งที่ต้องปฏิรูปคือกลไกการใช้งบประมาณ

 

จะมาเอาเงินงบไปบิดเบือนกลไกตลาดเพื่อหวังคะแนนเสียงไม่ควรทำได้อีกแล้ว

 

ถ้าภาคเกษตรต้องการความสนับสนุน  ก็ต้องเป็นในลักษณะลดต้นทุน  เพิ่มมูลค่า

 

เพื่อการแข่งขันที่พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน 

 

 

ส่วนเรื่องการปกครองตัวเองก็ต้องทดลองกับบางจังหวัดนำร่องไปที่ละส่วนครับ

 

ประสิทธิภาพดี (โดยเปรียบเทียบกับจังหวัดที่ส่วนกลางส่งคนไปดูแล) ค่อยทำเพิ่ม

 

อย่างสมมุติ มหาสารคาม กับ กาฬสินธุิ์ จังหวัดใกล้เคียงกัน 

 

ก็ลองให้มีผู้ว่าจากการเลือกตั้งดูสัก 1 จังหวัด

 

เปรียบเทียบกันดูด้วยงบประมาณที่ส่วนกลางจัดสรรให้ใกล้เคียงกัน

 

ลองดูสัก 4 ปีครับว่าผลออกมาเป็นอย่างไร  ค่อยอุดรอยรั่วแล้วขยายเพิ่ม

 

 

แต่เรื่องตำรวจท้องที่ขึ้นอยู่กับผู้ว่าแต่ละจังหวัดผมเห็นด้วยครับ

 

ผมว่าตำรวจให้ระบบรวมศูนย์แล้วมีแต่จะวิ่งเต้น  หาส่วย  หาเงินซื้อตำแหน่งกัน

 

สุดท้ายได้แต่นักกรีฑา (นักวิ่ง) มาเป็นใหญ่เป็นโต   แต่ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ

 

เลิกระบบเดิมรื้อกันใหม่เสียที  แผ่นดินนี้จะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะครับ

 

มัวแต่เฉลี่ย มันจะไม่เห็นปัญหา

 

"เพราะผมเห็น อบต.แล้วหนาวครับ    งบแค่นี้ยังซื้อเสียงโกงกินกันซะขนาดนี้ "

- กรรมใครกรรมมัน จะให้คนอื่นมารับกรรมด้วย คงไม่ยุติธรรม

 

"ภาคที่ไม่เจริญเพราะขาดงบประมาณจะยิ่งแย่"

 

-เลือกคนบริหารระดับประเทศดี จะสามารถกระจายงบส่วนกลางที่จะสามารถอุดหนุนในภาคที่มีรายได้น้อยได้ดี

 

"แถมได้ผู้บริหารเลวอีกเพราะคนยากจนยิ่งด้อยโอกาสยิ่งต้องยอมขายเสียง ไปๆมาๆยิ่งมืดมนครับ"

- มืดมนบางพื้นที่ ดีกว่ามืนมนทั้งประเทศที่เป้นอยู่ในปัจจุบัน อย่างน้อยก็รู้ว่าพื้นที่ไหนมืดมน ค่อยจัดการทีหลัง หรือใช้เปรียบเทียบเป็นอุทาหรณ์ให้พื้นที่อื่นได้ยิ่งดี

 

"ถ้าภาคเกษตรต้องการความสนับสนุน  ก็ต้องเป็นในลักษณะลดต้นทุน  เพิ่มมูลค่าเพื่อการแข่งขันที่พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน "

-เกษตรยั่งยืน ท้องถิ่นสามารถดูแลกันเองได้อย่างดี มีปราชญ์ชาวบ้านอยู่ทุกพื้นที่อยู่แล้ว เพียงแต่ให้โอกาศ และสามารถจัดสรรทรัพยากรท้องถิ่น ได้โดยคนท้องถิ่น เพื่อประโยชน์ของคนในท้องถิ่น สร้างเอกลักษณ์ชุมชน เหมือนประเทศญี่ปุ่นได้ ก็ยั่งยืนแล้ว

 

"ส่วนเรื่องการปกครองตัวเองก็ต้องทดลองกับบางจังหวัดนำร่องไปที่ละส่วนครับ"

-ถ้าไม่พร้อมลองทำในจังหวัดที่พร้อมเรียกร้องมานานแล้ว ผมสนับสนุนด้วยครับ

 

"แต่เรื่องตำรวจท้องที่ขึ้นอยู่กับผู้ว่าแต่ละจังหวัดผมเห็นด้วยครับ ผมว่าตำรวจให้ระบบรวมศูนย์แล้วมีแต่จะวิ่งเต้น  หาส่วย  หาเงินซื้อตำแหน่งกัน

สุดท้ายได้แต่นักกรีฑา (นักวิ่ง) มาเป็นใหญ่เป็นโต   แต่ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ

เลิกระบบเดิมรื้อกันใหม่เสียที  แผ่นดินนี้จะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะครับ"

- กระทืบไลท์สิบๆรอบ  ถ้าให้ดียุบไปเลย เอาระบบอเมริกามาใช้จะดีมาก เปลี่ยนตำรวจเป็นเหมือนพนักงานบริษัท



#19 คลำปม

คลำปม

    สลิ่มเต็มขั้นจ้า

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,657 posts

ตอบ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 10:32

มัวแต่เฉลี่ย มันจะไม่เห็นปัญหา

 

"เพราะผมเห็น อบต.แล้วหนาวครับ    งบแค่นี้ยังซื้อเสียงโกงกินกันซะขนาดนี้ "

- กรรมใครกรรมมัน จะให้คนอื่นมารับกรรมด้วย คงไม่ยุติธรรม

 

"ภาคที่ไม่เจริญเพราะขาดงบประมาณจะยิ่งแย่"

 

-เลือกคนบริหารระดับประเทศดี จะสามารถกระจายงบส่วนกลางที่จะสามารถอุดหนุนในภาคที่มีรายได้น้อยได้ดี

 

อันนี้เห็นตรงกันใช่ไหมครับว่าต้องกระจายงบประมาณ

 

อาจไม่ต้องกระจายแบบต่อหัวเป๊ะๆนะครับ  ใกล้เคียงที่เป็นอยู่ปัจจุบันก็ได้

 

แต่ต้องมีหลักเกณฑ์ที่จับต้องได้  ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับกำลังภายในของ สส.หรือนักการเมือง

 

"แถมได้ผู้บริหารเลวอีกเพราะคนยากจนยิ่งด้อยโอกาสยิ่งต้องยอมขายเสียง ไปๆมาๆยิ่งมืดมนครับ"

- มืดมนบางพื้นที่ ดีกว่ามืนมนทั้งประเทศที่เป้นอยู่ในปัจจุบัน อย่างน้อยก็รู้ว่าพื้นที่ไหนมืดมน ค่อยจัดการทีหลัง หรือใช้เปรียบเทียบเป็นอุทาหรณ์ให้พื้นที่อื่นได้ยิ่งดี

 

อันนี้ผมไม่เห็นด้วยครับ  ถ้ารู้ว่าว่าต้องมีปัญหายังไงก็ไม่ควรให้เกิด

 

มันเป็นเรื่องระดับชาติครับ  รัฐจะเสี่ยงดวงหรือยอมให้คนบางส่วนรับกรรมไม่ได้

 

หากมีความเสี่ยงที่จะได้คนแบบทักษิณขึ้นมายึดบางจังหวัดของประเทศนี้  ผมว่ามันอันตราย

 

วุฒิภาวะของคนไทยเพียงพอที่จะดูแลตัวเองหรือยัง? 

 

พวกเราบางคนเลือกนักการเมืองชั่วๆมา  แล้วพอทำผิดกฎหมายก็ไม่ยอมรับการตรวจสอบ

 

แถมปลุกระดมให้คนออกมาต่อต้านก็ดันออกมากันอีก

 

กระจายอำนาจผิดพลาดนี่ได้แยกประเทศกันจริงๆแน่ครับ 

 

"แต่เรื่องตำรวจท้องที่ขึ้นอยู่กับผู้ว่าแต่ละจังหวัดผมเห็นด้วยครับ ผมว่าตำรวจให้ระบบรวมศูนย์แล้วมีแต่จะวิ่งเต้น  หาส่วย  หาเงินซื้อตำแหน่งกัน

สุดท้ายได้แต่นักกรีฑา (นักวิ่ง) มาเป็นใหญ่เป็นโต   แต่ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ

เลิกระบบเดิมรื้อกันใหม่เสียที  แผ่นดินนี้จะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะครับ"

- กระทืบไลท์สิบๆรอบ  ถ้าให้ดียุบไปเลย เอาระบบอเมริกามาใช้จะดีมาก เปลี่ยนตำรวจเป็นเหมือนพนักงานบริษัท

 

ผมก็เห็นด้วย 100% ครับ

 

ตำรวจประจำจังหวัดใครจังหวัดมันไปเลย  ทำชั่วไล่ออกครับไม่ต้องย้ายไปทำชั่วที่ไหน

 

เริ่มสมัครสอบและเรียนจากส่วนกลางไป  เพื่อให้มีมาตรฐาน

 

กลับไปทำงานในท้องถิ่นตัวเองรับรองว่ามีประสิทธิภาพเพราะมีความรู้ความเข้าใจในขนบธรรมเนียม และพื้นที่เป็นอย่างดี

 

ส่วนที่เก่งมากๆเป็นหัวกระทิก็เป็น FBI ไปครับ  (จะเรียก DSI มันก็เสียความรู้สึกไปเยอะแล้วนะ)

 

สำนักงานตำรวจส่วนกลางมีกำลังพล 1,000 คน  นายพลสัก 10 คนก็พอครับประหยัดงบ

 

 


Edited by คลำปม, 28 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 10:35.

วิธีการยุติระบอบทักษิณ

ก็แค่เพียงทำให้คนไทยส่วนใหญ่ "ฉลาด"


#20 สมชัย พิชัย

สมชัย พิชัย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 256 posts

ตอบ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 10:51

 

"แถมได้ผู้บริหารเลวอีกเพราะคนยากจนยิ่งด้อยโอกาสยิ่งต้องยอมขายเสียง ไปๆมาๆยิ่งมืดมนครับ"

- มืดมนบางพื้นที่ ดีกว่ามืนมนทั้งประเทศที่เป้นอยู่ในปัจจุบัน อย่างน้อยก็รู้ว่าพื้นที่ไหนมืดมน ค่อยจัดการทีหลัง หรือใช้เปรียบเทียบเป็นอุทาหรณ์ให้พื้นที่อื่นได้ยิ่งดี

 

อันนี้ผมไม่เห็นด้วยครับ  ถ้ารู้ว่าว่าต้องมีปัญหายังไงก็ไม่ควรให้เกิด

 

มันเป็นเรื่องระดับชาติครับ  รัฐจะเสี่ยงดวงหรือยอมให้คนบางส่วนรับกรรมไม่ได้

 

หากมีความเสี่ยงที่จะได้คนแบบทักษิณขึ้นมายึดบางจังหวัดของประเทศนี้  ผมว่ามันอันตราย

 

วุฒิภาวะของคนไทยเพียงพอที่จะดูแลตัวเองหรือยัง? 

 

พวกเราบางคนเลือกนักการเมืองชั่วๆมา  แล้วพอทำผิดกฎหมายก็ไม่ยอมรับการตรวจสอบ

 

แถมปลุกระดมให้คนออกมาต่อต้านก็ดันออกมากันอีก

 

กระจายอำนาจผิดพลาดนี่ได้แยกประเทศกันจริงๆแน่ครับ 

 

 

 

 

หัวใจหลักของเรื่องเลยครับ

 

วุฒิภาวะของคนไทยเพียงพอที่จะดูแลตัวเองหรือยัง? 

 

ถาม-เมื่อไหร่พอ เมื่อไหร่ยืนได้ด้วยตัวเอง เมื่อไหร่จะมีวุฒิภาวะพอ

 

บางคนมองปัจจุบันเห็นอนาคต บางคนมองปัจจุบันเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง

 

เคยคิดแบบนี้ก่อนปฏิวัติ 49 แบบว่า ประชาชนไม่รู้เพราะว่าถูกให้ข้อมูลบิดเบือนหรือปิดบัง ให้ข้อมูลแล้วจะคิดได้

 

ตอนนี้ถึงได้รู้ว่า ไม่ใช่ เค้าเลือกเพราะเค้าชอบ เพราะบางคนไม่เห็นโลงศพไม่หลังน้ำตาจริงๆ



#21 Bayonet

Bayonet

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,235 posts

ตอบ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:02

 

 

 

เลือกตั้งผู้ว่า ให้ตำรวจไปอยู่กับผู้ว่า แบบนี้มาเฟียติดปีก 555

มันก็เป็นไปได้ ถ้าคนในจังหวัดนั้นเลือกมาเฟียมาปกครองโดยเฉพาะที่เสื้อแดงเยอะ  แต่ผมเชื่อว่าไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ทุกอย่างมีการเรียนรู้ คนในจังหวัดนั้นก็จะได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ว่าเลือกโจรเป็นผู้ว่า ก็ได้โจรมาเป็นตำรวจ ถ้ายังโง่เลือกอีกก็ช่วยไม่ได้ เออประทานโทษ แล้วที่เป็นอยู่ตำรวจ ไม่ได้เป็นมาเฟียเหรอครับ 

 

 

จุก

 

:lol: :lol: :lol:

 

ของเถื่อนเต็มภาคใต้ เอาแค่น้ำมันเถื่อนแบ่งขวดขายตั้งกันหรา ไม่เห็นมีใครจุก 555

 

 

ถ้าไม่จุก แล้วเอ็งจะเสือกเดือดร้อนกับเรื่อง มาเฟียติดปีกไปทำไม ? -_-

 

ปล. จะกดปุ่มอ้างอิง ดันกดผิด ไปกด like มัน....เสียดาย like โคด ๆ  อยากเอาคืน   สงสัยทำไมบางคนพอ like ไปแล้วก็มีปุ่ม Unlike ให้กดคืน แต่ทำไมบางคนไม่มีปุ่มนี้ครับ -_-


Edited by Bayonet, 28 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:07.


#22 honglaksi

honglaksi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 238 posts

ตอบ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 11:11

เท่าที่ติดตามความคิดเห็นในหลายๆมุมมอง ทุกคนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือห่วงใยประเทศชาติ อยากให้ประเทศก้าวหน้าไปในทางที่ดี แต่วิธีการรายละเอียดก็อาจแตกต่างกันไป ตามประสบการณ์ของแต่ละท่าน เช่น
1. การกระจายอำนาจ กระจายภาษี กับการ เฉลี่ยงบประมาณ เช่นความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ของแต่ละท้องถิ่น ในความเห็นของผมทั้ง การกระจายอำนาจ และภาษี ก็ควรผสมผสานควบคู่ไปกับการเฉลี่ยงบประมาณ เช่น ท้องถิ่นเก็บภาษีแล้วแบ่งไว้บริหารท้องถิ่นตัวเอง 60% ที่เหลือ 40 % ส่งเข้ารัฐบาลกลางเพื่อจัดสรรเฉลี่ยงบประมาณให้กับท้องถิ่นอื่นที่รายได้ไม่พอ แต่ก็ไม่ควรได้ฟรีๆ เพราะจะไม่ใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ควรเป็นรูปแบบเงินกู้ช่วยเหลือดอกเบี้ยต่ำมากๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นจิตสำนึก ไม่มีอะไรฟรีในโลกนี้ อย่างได้ต้องขยันทำกิน ถ้าทำเช่นนี้ได้ ประชานิยมทำลายชาติเกิดยาก
2. การเป็นห่วงเรื่องการโกงในท้องถิ่นต่างๆ เช่น อบต. อบจ. ในความเห็นของผม ที่ผ่านมาการใช้งบประมาณจากส่วนกลางทำให้เกิดการโกงคอร์รัปชั่น ได้ง่ายกว่าเพราะ เป็นเงินกองกลางเงินส่วนกลาง ความรู้สึกและจิตสำนึกในการเป็นเจ้าของเงินของท้องถิ่นมีน้อย การบริหารจัดการไม่มีประสิทธิภาพ แต่ถ้าเป็นเงินที่ท้องถิ่นเก็บได้เอง แล้วผู้บริหารในท้องถิ่นนั้นยังไม่มีจิตสำนึกอีก ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว บ้านเองตัวเองยังไม่รัก แล้วใครจะมารักและเป็นห่วง
3. การตรวจสอบของประชาชนในท้องถิ่นจะทำได้ง่ายกว่า เพราะ มันเฉพาะเจาะจงในท้องถิ่น การตรวจสอบจะเข้มข้นจากภาคประชาชนในท้องถิ่นเองดีกว่าไปรอการตรวจสอบจากส่วนกลาง เช่น สตง ปปช.
4. การสนองความต้องการในแต่ละท้องถิ่นจะทำได้ตรงจุดมากขึ้น เช่นปัญหาการเกษตร ราคาข้าว ยาง ปาล์ม ปัญหาหาแรงงาน เพราะแต่ละท้องถิ่นย่อมรู้ถึงความต้องการและปัญหา ของท้องถิ่นเองดีกว่าคนจากที่อื่น
อย่างไรก็ตาม ศาลยุติธรรม และองค์กรอิสระ ยังควรเป็นอิสระแบบเดิม ส่วนการดูแลโครงสร้างพื้นฐานประเทศ การเงินการคลัง การต่างประเทศ กองทัพแห่งชาติควรขึ้นกับรัฐบาลกลางรวมถึงหน่วยงานยุติธรรมกลางไว้คานอำนาจกับ ท้องถิ่น ด้วย

#23 คลำปม

คลำปม

    สลิ่มเต็มขั้นจ้า

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,657 posts

ตอบ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 12:23

 

หัวใจหลักของเรื่องเลยครับ

 

วุฒิภาวะของคนไทยเพียงพอที่จะดูแลตัวเองหรือยัง? 

 

ถาม-เมื่อไหร่พอ เมื่อไหร่ยืนได้ด้วยตัวเอง เมื่อไหร่จะมีวุฒิภาวะพอ

 

บางคนมองปัจจุบันเห็นอนาคต บางคนมองปัจจุบันเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง

 

เคยคิดแบบนี้ก่อนปฏิวัติ 49 แบบว่า ประชาชนไม่รู้เพราะว่าถูกให้ข้อมูลบิดเบือนหรือปิดบัง ให้ข้อมูลแล้วจะคิดได้

 

ตอนนี้ถึงได้รู้ว่า ไม่ใช่ เค้าเลือกเพราะเค้าชอบ เพราะบางคนไม่เห็นโลงศพไม่หลังน้ำตาจริงๆ

 

 

ผมก็คิดว่าหัวใจหลักคือเรื่องวุฒิภาวะของคนไทยเช่นกันครับ

 

ผมว่าเราไม่มีวุฒิภาวะพอในการปกครองระบอบประชาธิปไตย

 

คือพอเราได้เลือกตั้งแล้วเรากลับยิ่งเลือกยิ่งชั่ว

 

นักการเมืองยุคนี้แย่เสียยิ่งกว่าที่เคยเลวสมัยก่อนอีกครับ

 

สมัยก่อน สส.ก็แค่ขายตัว  แต่ปัจจุบันนี้ สส.ขายชาติกันอย่างไม่รู้สำนึก

 

 

มีกระทู้ถามว่าประเทศไทยเหมาะกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยหรือไม่?  ผมไม่เคยตอบว่าเหมาะเลยครับ

 

กรุงเทพพอใช้ได้  ตะวันออกก็ไม่ค่อยดี  ภาคใต้ผมก็ยังไม่แน่ใจ (ไม่แน่ว่าการเลือก ปชป.อาจเป็นแค่ลัทธิภาคนิยม)

 

ส่วนเหนือกับอิสานนี่ผมหมดหวังเลย

 

เขาเลือกโดยไม่สนใจว่าพรรคนั้นๆละเมิดกฎหมายข้อไหน  หรือเจ้าของพรรคจะหนีคุกหนีตะรางอยู่

 

อย่าตอบนะครับว่าการเลือกแบบนี้มีวุฒิภาวะ

 

เลือกอย่างนี้ถ้าให้ปกครองตัวเองก็เหมือนยื่นดาบให้โจร

 

 

เราลองมองย้อนกลับไปดูนะครับ  สมัย ร.5-6 เราเป็นประเทศลำดับต้นๆในเอเซีย 

 

มีรถไฟ  รถราง ระบบประปาเป็นชาติแรกๆในเอเซีย 

 

ที่เจริญกว่าเราก็มีแค่ จีน ญี่ปุ่น

 

แต่เดี๋ยวนี้เราเป็นไงครับ  ปกครองโดยประชาชน  ประชาชนก็ไม่ใส่ใจไปอยู่ในมือเผด็จการทหารไม่รู้กี่สิบปี

 

พอพ้นจากระบบเผด็จการทหารไม่เท่าไหร่  ก็ไปตกอยู่กับระบบทุนสามาณย์อย่างทักษิณเสียอีก

 

แทนที่จะเลือกพรรคลักษณะอย่าง ปชป.ให้มากๆ   ให้มันแข่งขันกันจะได้มีคุณภาพที่ดีขึ้น

 

ก็เลือกอะไรกันก็ไม่รู้  ปชป.มันก็เลยเละ  ไม่รู้จะทำยังไงให้คนเลือก

 

พรรคมันก็เลยพัฒนาผิดทิศทาง  เหมือนคนเมาหมัด   นี่พูดถึงพรรคที่ดีสุดในระบบการเมืองไทยแล้วนะครับ

 

 

ดังนั้นใครจะสนับสนุนการเลือกตั้งท้องถิ่นก็ตามสะดวก

 

แต่ผมไม่เคยเห็นด้วย  ผมเห็นมามากพอแล้วว่ามันไม่ใช่คำตอบในทุกพื้นที่

 

คนที่จะเลือกคนได้มันต้องมีจิตใจเที่ยงธรรม  มีสามัญสำนึก

 

แต่ถ้าคนมันยังโหยหาผลประโยชน์  ยังโลภ  ยังบนบาลศาลกล่าว  หวังลาภสักการะ

 

มันก็เลือกได้แต่คนแบบที่ชำนาญในเกมเท่านั้นเอง

 

นักวิชาการดีๆ  ครูดีๆ  ลงก็ไม่มีใครเลือกครับตกกระป๋องหมด

 

แสดงความเห็นแบบนี้ก็เหมือนตบหน้าตัวเรานะครับว่าเราห่วย  เราโง่  แต่คุณลองมองดูพรรคใหญ่ของไทยแล้วคุณก็จะเห็นคำตอบ

 

 

เราจะมาเร่งให้ท้องถิ่นปกครองตัวเองไปเพื่ออะไร?  ถ้าเลือกกันแล้วออกมาแบบนี้

 

จะบอกว่าไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา  ผมก็อยากบอกว่าบางคนถึงเห็นโลงศพก็ไม่หลั่งน้ำตา

 

กลายเป็นว่าคนที่หลั่งก็หลั่งน้ำตาจนตายไปเลย  แต่ไอ้คนที่ไม่มีสำนึกมันก็ไม่คิดจะมี

 

 

วิธีแก้มันมีครับ  แต่มันยาวแล้วก็เวิ่นเว้อ

 

ส่วนตัวผมเชื่อเสมอว่าต้องเอาระบบแข่งขันมาใช้

 

ให้ อบต.แข่งกัน  ใครทำดีต่อเนื่องได้บริหารตัวเอง  ทำไม่ดี ทุจริต ฆ่าแกงกัน  ต้องให้ส่วนกลางดูแล

 

จังหวัดไหน อบต.มีคุณภาพมากเกิน 6-70% ถึงได้สิทธิ์ในการมีผู้ว่าจากการเลือกตั้ง

 

ต้องค่อยเป็นค่อยไป  ดูวุฒิภาวะของประชาชนอย่างน้อย 10 ปีครับ

 

 

อย่างเลือกพรรคเพื่อไทยกันมาให้ทุจริตจำนำข้าวประเทศเสียหายกันหลายแสนล้าน

 

ประชาชนในเขตที่เลือกพรรคเพื่อไทยมาก็ต้องถูกริบสิทธิ์เลือกตั้ง 1 สมัย

 

เพราะเลือกมาทำเจ๊งก็ต้องรับผิดชอบด้วย  ไม่งั้นก็เลือกกันโดยไม่สนกฎหมาย  ไม่เข็ดกัน

 

ถ้ายอมรับกติกาแบบนี้ได้  ผมก็ยินดีสนับสนุนการเลือกตั้งท้องถิ่นในทุกระดับชั้นครับ


วิธีการยุติระบอบทักษิณ

ก็แค่เพียงทำให้คนไทยส่วนใหญ่ "ฉลาด"


#24 honglaksi

honglaksi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 238 posts

ตอบ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 12:47

 

หัวใจหลักของเรื่องเลยครับ

 
วุฒิภาวะของคนไทยเพียงพอที่จะดูแลตัวเองหรือยัง? 

 
ถาม-เมื่อไหร่พอ เมื่อไหร่ยืนได้ด้วยตัวเอง เมื่อไหร่จะมีวุฒิภาวะพอ

 
บางคนมองปัจจุบันเห็นอนาคต บางคนมองปัจจุบันเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
 
เคยคิดแบบนี้ก่อนปฏิวัติ 49 แบบว่า ประชาชนไม่รู้เพราะว่าถูกให้ข้อมูลบิดเบือนหรือปิดบัง ให้ข้อมูลแล้วจะคิดได้
 
ตอนนี้ถึงได้รู้ว่า ไม่ใช่ เค้าเลือกเพราะเค้าชอบ เพราะบางคนไม่เห็นโลงศพไม่หลังน้ำตาจริงๆ
 
ผมก็คิดว่าหัวใจหลักคือเรื่องวุฒิภาวะของคนไทยเช่นกันครับ
 
ผมว่าเราไม่มีวุฒิภาวะพอในการปกครองระบอบประชาธิปไตย
 
คือพอเราได้เลือกตั้งแล้วเรากลับยิ่งเลือกยิ่งชั่ว
 
นักการเมืองยุคนี้แย่เสียยิ่งกว่าที่เคยเลวสมัยก่อนอีกครับ
 
สมัยก่อน สส.ก็แค่ขายตัว  แต่ปัจจุบันนี้ สส.ขายชาติกันอย่างไม่รู้สำนึก
 
 
มีกระทู้ถามว่าประเทศไทยเหมาะกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยหรือไม่?  ผมไม่เคยตอบว่าเหมาะเลยครับ
 
กรุงเทพพอใช้ได้  ตะวันออกก็ไม่ค่อยดี  ภาคใต้ผมก็ยังไม่แน่ใจ (ไม่แน่ว่าการเลือก ปชป.อาจเป็นแค่ลัทธิภาคนิยม)
 
ส่วนเหนือกับอิสานนี่ผมหมดหวังเลย
 
เขาเลือกโดยไม่สนใจว่าพรรคนั้นๆละเมิดกฎหมายข้อไหน  หรือเจ้าของพรรคจะหนีคุกหนีตะรางอยู่
 
อย่าตอบนะครับว่าการเลือกแบบนี้มีวุฒิภาวะ
 
เลือกอย่างนี้ถ้าให้ปกครองตัวเองก็เหมือนยื่นดาบให้โจร
 
 
เราลองมองย้อนกลับไปดูนะครับ  สมัย ร.5-6 เราเป็นประเทศลำดับต้นๆในเอเซีย 
 
มีรถไฟ  รถราง ระบบประปาเป็นชาติแรกๆในเอเซีย 
 
ที่เจริญกว่าเราก็มีแค่ จีน ญี่ปุ่น
 
แต่เดี๋ยวนี้เราเป็นไงครับ  ปกครองโดยประชาชน  ประชาชนก็ไม่ใส่ใจไปอยู่ในมือเผด็จการทหารไม่รู้กี่สิบปี
 
พอพ้นจากระบบเผด็จการทหารไม่เท่าไหร่  ก็ไปตกอยู่กับระบบทุนสามาณย์อย่างทักษิณเสียอีก
 
แทนที่จะเลือกพรรคลักษณะอย่าง ปชป.ให้มากๆ   ให้มันแข่งขันกันจะได้มีคุณภาพที่ดีขึ้น
 
ก็เลือกอะไรกันก็ไม่รู้  ปชป.มันก็เลยเละ  ไม่รู้จะทำยังไงให้คนเลือก
 
พรรคมันก็เลยพัฒนาผิดทิศทาง  เหมือนคนเมาหมัด   นี่พูดถึงพรรคที่ดีสุดในระบบการเมืองไทยแล้วนะครับ
 
 
ดังนั้นใครจะสนับสนุนการเลือกตั้งท้องถิ่นก็ตามสะดวก
 
แต่ผมไม่เคยเห็นด้วย  ผมเห็นมามากพอแล้วว่ามันไม่ใช่คำตอบในทุกพื้นที่
 
คนที่จะเลือกคนได้มันต้องมีจิตใจเที่ยงธรรม  มีสามัญสำนึก
 
แต่ถ้าคนมันยังโหยหาผลประโยชน์  ยังโลภ  ยังบนบาลศาลกล่าว  หวังลาภสักการะ
 
มันก็เลือกได้แต่คนแบบที่ชำนาญในเกมเท่านั้นเอง
 
นักวิชาการดีๆ  ครูดีๆ  ลงก็ไม่มีใครเลือกครับตกกระป๋องหมด
 
แสดงความเห็นแบบนี้ก็เหมือนตบหน้าตัวเรานะครับว่าเราห่วย  เราโง่  แต่คุณลองมองดูพรรคใหญ่ของไทยแล้วคุณก็จะเห็นคำตอบ
 
 
เราจะมาเร่งให้ท้องถิ่นปกครองตัวเองไปเพื่ออะไร?  ถ้าเลือกกันแล้วออกมาแบบนี้
 
จะบอกว่าไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา  ผมก็อยากบอกว่าบางคนถึงเห็นโลงศพก็ไม่หลั่งน้ำตา
 
กลายเป็นว่าคนที่หลั่งก็หลั่งน้ำตาจนตายไปเลย  แต่ไอ้คนที่ไม่มีสำนึกมันก็ไม่คิดจะมี
 
 
วิธีแก้มันมีครับ  แต่มันยาวแล้วก็เวิ่นเว้อ
 
ส่วนตัวผมเชื่อเสมอว่าต้องเอาระบบแข่งขันมาใช้
 
ให้ อบต.แข่งกัน  ใครทำดีต่อเนื่องได้บริหารตัวเอง  ทำไม่ดี ทุจริต ฆ่าแกงกัน  ต้องให้ส่วนกลางดูแล
 
จังหวัดไหน อบต.มีคุณภาพมากเกิน 6-70% ถึงได้สิทธิ์ในการมีผู้ว่าจากการเลือกตั้ง
 
ต้องค่อยเป็นค่อยไป  ดูวุฒิภาวะของประชาชนอย่างน้อย 10 ปีครับ
 
 
อย่างเลือกพรรคเพื่อไทยกันมาให้ทุจริตจำนำข้าวประเทศเสียหายกันหลายแสนล้าน
 
ประชาชนในเขตที่เลือกพรรคเพื่อไทยมาก็ต้องถูกริบสิทธิ์เลือกตั้ง 1 สมัย
 
เพราะเลือกมาทำเจ๊งก็ต้องรับผิดชอบด้วย  ไม่งั้นก็เลือกกันโดยไม่สนกฎหมาย  ไม่เข็ดกัน
 
ถ้ายอมรับกติกาแบบนี้ได้  ผมก็ยินดีสนับสนุนการเลือกตั้งท้องถิ่นในทุกระดับชั้นครับ
 เคารพในความเห็นนะครับ มีหลายอย่างที่น่าสนใจ เช่น การแข่งขันของอบต. การริบสิทธิ์เลือกตั้ง ถ้าให้ดีเพิ่มโทษนักการเมืองให้ต้องรับผิดในทางแพ่ง เมื่อบริหารผิดพลาด ต้องชดใช้คืน ก็นำมาประยุกต์ใช้กัน และทุกคนต้องเรียนรู้ จดจำ นำมาเป็นบทเรียน เพื่อให้ได้สิ่งที่เหมาะสมที่สุดกับสังคมเรา

#25 สมชัย พิชัย

สมชัย พิชัย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 256 posts

ตอบ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 14:14


 

อย่างเลือกพรรคเพื่อไทยกันมาให้ทุจริตจำนำข้าวประเทศเสียหายกันหลายแสนล้าน

 

ประชาชนในเขตที่เลือกพรรคเพื่อไทยมาก็ต้องถูกริบสิทธิ์เลือกตั้ง 1 สมัย

 

เพราะเลือกมาทำเจ๊งก็ต้องรับผิดชอบด้วย  ไม่งั้นก็เลือกกันโดยไม่สนกฎหมาย  ไม่เข็ดกัน

 

 

ใครเป็นคนตัดสินว่านโยบายไหนเจ๊ง ดีไม่ดี ศาลเหรอครับ

 

ตอนนี้คนเชียร์มันก็ว่าดี ก้มหน้าก้มตาเชียร์จัง บอกให้ดูที่เจตนา ศาลตัดสินอะไรมันก็ว่าศาลเอียง บ้านเมืองวุ่นวายตีกันอยู่ดี

 

สุดท้ายเลือกตั้งชนะ ก็เอาเงินคนทั้งประเทศไปลงใหม่

 

ที่ผมเสนอคือ ใครเลือกนโยบายไหน พื้นที่ไหนก็รับผิดชอบกันเอง ทุกคนมีพื้นที่ยืนของตัวเอง คนใต้ คนอิสาน คนเหนือ คนกรุงเทพ

 

ใครไม่ชอบก็ย้ายจังหวัดไป ไม่ต้องมาตีกันให้วุ่นวาย ใครรักบ้านเกิดก็ตรวจสอบกันไป ระดับเล็กๆยังตรวจสอบทำง่ายกว่าระดับประเทศเหมือนในปัจจุบันนี้

 

แต่ที่สำคัญคือ ทุกคนเคารพสิทธิกัน ไม่โทษกันว่าใครโง่ใครฉลาด เพราะผลงานออกมาเห็นๆกันเปรียบเทียบกันได้ในแต่ละท้องถิ่น



#26 คลำปม

คลำปม

    สลิ่มเต็มขั้นจ้า

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,657 posts

ตอบ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 14:40

 


 

อย่างเลือกพรรคเพื่อไทยกันมาให้ทุจริตจำนำข้าวประเทศเสียหายกันหลายแสนล้าน

 

ประชาชนในเขตที่เลือกพรรคเพื่อไทยมาก็ต้องถูกริบสิทธิ์เลือกตั้ง 1 สมัย

 

เพราะเลือกมาทำเจ๊งก็ต้องรับผิดชอบด้วย  ไม่งั้นก็เลือกกันโดยไม่สนกฎหมาย  ไม่เข็ดกัน

 

 

ใครเป็นคนตัดสินว่านโยบายไหนเจ๊ง ดีไม่ดี ศาลเหรอครับ

 

ก็ต้องศาลหรือ ปปช.ครับ  หน้าที่เขาอยู่แล้ว

 

ตอนนี้คนเชียร์มันก็ว่าดี ก้มหน้าก้มตาเชียร์จัง บอกให้ดูที่เจตนา ศาลตัดสินอะไรมันก็ว่าศาลเอียง บ้านเมืองวุ่นวายตีกันอยู่ดี

 

ถึงจะไม่ยอมรับอย่างไร  แต่สุดท้าย  มันก็ต้องยุติใช่ไหมล่ะครับ 

ถ้าไม่ยุติก็คงไม่ต้องพูดต่อไปถึงเรื่องปฏิรูปกันหรอกครับเพราะมันไปไม่ถึงขั้นตอนนั้น

 

สุดท้ายเลือกตั้งชนะ ก็เอาเงินคนทั้งประเทศไปลงใหม่

 

ก็เลือกตั้งมาแล้วเลวแบบนี้  คุณยังจะมาเชียร์ให้ท้องถิ่นเลือกตั้งปกครองตัวเอง

 

ที่ผมเสนอคือ ใครเลือกนโยบายไหน พื้นที่ไหนก็รับผิดชอบกันเอง ทุกคนมีพื้นที่ยืนของตัวเอง คนใต้ คนอิสาน คนเหนือ คนกรุงเทพ

 

ผมเข้าใจที่คุณเสนอครับ  ผมคนกรุงเทพได้เลือกผู้ว่าอยู่แล้ว

 

แต่พี่ผมไปรับราชการที่อิสาน  เขาตายเลยครับเจอแบบนี้

 

ใครไม่ชอบก็ย้ายจังหวัดไป ไม่ต้องมาตีกันให้วุ่นวาย ใครรักบ้านเกิดก็ตรวจสอบกันไป ระดับเล็กๆยังตรวจสอบทำง่ายกว่าระดับประเทศเหมือนในปัจจุบันนี้

 

อย่าพูดง่ายๆว่าไม่ชอบก็ย้ายจังหวัดเลยครับ  ในโลกของความเป็นจริงมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น

 

บางคนมีลูกมีภรรยาที่ทำงานเป็นหลักแหล่งแล้ว 

 

เดี๋ยวนี้เวลาคนเราคิดอะไรแล้ว  บางทีเรามองข้ามความยากลำบากของคนอื่นไปเลย  อันนี้น่ากลัวนะครับ

 

แต่ที่สำคัญคือ ทุกคนเคารพสิทธิกัน ไม่โทษกันว่าใครโง่ใครฉลาด เพราะผลงานออกมาเห็นๆกันเปรียบเทียบกันได้ในแต่ละท้องถิ่น

 

แต่ละท้องถิ่นมันเปรียบเทียบกันยากนะครับ  แน่นอนกรุงเทพสบายหน่อยเพราะรายได้เยอะ  คนมาก  หากินง่าย

 

สังคมเกษตรที่เขาต้องลำบากขอความช่วยเหลือจากรัฐกันแทบทุกฤดูกาล   เราจะให้เขารับผลแห่งความลำบากนั้นต่อไปอย่างไม่มีวันจบสิ้นงั้นหรือ?

(เช่นผู้ว่าที่เลือกตั้งมาบอกรัฐบาลพวกฉัน  เลือกฉันเถอะแล้วจะจำนำข้าวต่อ  ของบพิเศษได้  หรือกู้รัฐบาลมาให้ได้)

 

อย่างที่ผมบอกถ้าเขาได้ผู้ว่าแดง  สนับสนุนรัฐบาลแดง  เพราะเขาฐานเสียงใหญ่กว่ามันจะยิ่งมิไปกันใหญ่หรือ?

 

มันจะมิกลายเป็นเราแบ่งประเทศให้เขาปกครองหรือครับ?

 

ประเด็นนี้ผมจบแล้วนะครับ คงไม่ต่อล้อต่อเถียงอะไรอีก  เพียงแต่อยากชี้ให้เห็นว่าการทำอะไรในตอนที่เรายังไม่พร้อมมันอันตรายเหลือเกิน

 

ถ้าทุกจังหวัดทั่วไทยปกครองตนเองตอนนี้ผมว่าเละแน่  มีโอกาสที่ความแตกแยกลุกลามผู้ว่าดีกันข้ามจังหวัดเพราะอยู่คนละพรรค

 

ส่วนที่ผมคิดว่าเป็นความคิดเห็นก็แสดงไปแล้ว  พูดไปอีกก็วน 

 

ท่านใดจะคิดอย่างไรย่อมเป็นสิทธิ์ครับ


วิธีการยุติระบอบทักษิณ

ก็แค่เพียงทำให้คนไทยส่วนใหญ่ "ฉลาด"


#27 สมชัย พิชัย

สมชัย พิชัย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 256 posts

ตอบ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 15:14

สมัยนี้ทุกๆครั้งที่คนดีๆคนฉลาดๆพยายามจะโอบอุ้ม บอกว่าเค้าไม่พร้อม ไม่โอเค ไม่มีวฺุฒิภาวะพอ โดนตอกหน้าหงายกลับมาหมด

 

เสื้อแดงเค้าก็บอกว่าเค้าเลือกดีแล้ว มีแต่พวกคนดีนั่นแหละที่ไม่เคารพสิทธิของเค้า โดยการบอกว่าเค้าไม่พร้อม เลือกไม่ถูก

 

ถ้าเลือกที่จะแก้ปัญหาแบบเดิม ก็จะประสบปัญหาเดิม พยายามจะเป็นพี่เลี้ยงทั้งๆที่เค้าไม่ต้องการ

 

"อย่างที่ผมบอกถ้าเขาได้ผู้ว่าแดง  สนับสนุนรัฐบาลแดง  เพราะเขาฐานเสียงใหญ่กว่ามันจะยิ่งมิไปกันใหญ่หรือ?

มันจะมิกลายเป็นเราแบ่งประเทศให้เขาปกครองหรือครับ?"

- ตอนนี้เสียงข้างมาก 60% ได้ปกครองทั้งประเทศอยู่ครับและคนที่เลือก 40% ไม่มีที่ยืนตลอดไปเพราะเสียงข้างมากเอาไป และไม่เปลี่ยนด้วยเนื่องจากประชานิยมจูงใจ คิดว่ายังไง จะพยายามเปลี่ยนใจคน 60% ให้มีวุฒิภาวะหรือครับ

 

"ประเด็นนี้ผมจบแล้วนะครับ คงไม่ต่อล้อต่อเถียงอะไรอีก  เพียงแต่อยากชี้ให้เห็นว่าการทำอะไรในตอนที่เรายังไม่พร้อมมันอันตรายเหลือเกิน"

- ผมก็จบครับ คุณอยากแก้ปัญหาแบบพระเอก แต่จะคาราคาซังทั้งประเทศ แต่ผมอยากให้จบ เสียงส่วนมาก ส่วนน้อยมีที่ยืน ประเทศพัฒนาต่อไป 



#28 honglaksi

honglaksi

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 238 posts

ตอบ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 19:40

สมัยนี้ทุกๆครั้งที่คนดีๆคนฉลาดๆพยายามจะโอบอุ้ม บอกว่าเค้าไม่พร้อม ไม่โอเค ไม่มีวฺุฒิภาวะพอ โดนตอกหน้าหงายกลับมาหมด

 

เสื้อแดงเค้าก็บอกว่าเค้าเลือกดีแล้ว มีแต่พวกคนดีนั่นแหละที่ไม่เคารพสิทธิของเค้า โดยการบอกว่าเค้าไม่พร้อม เลือกไม่ถูก

 

ถ้าเลือกที่จะแก้ปัญหาแบบเดิม ก็จะประสบปัญหาเดิม พยายามจะเป็นพี่เลี้ยงทั้งๆที่เค้าไม่ต้องการ

 

"อย่างที่ผมบอกถ้าเขาได้ผู้ว่าแดง  สนับสนุนรัฐบาลแดง  เพราะเขาฐานเสียงใหญ่กว่ามันจะยิ่งมิไปกันใหญ่หรือ?

มันจะมิกลายเป็นเราแบ่งประเทศให้เขาปกครองหรือครับ?"

- ตอนนี้เสียงข้างมาก 60% ได้ปกครองทั้งประเทศอยู่ครับและคนที่เลือก 40% ไม่มีที่ยืนตลอดไปเพราะเสียงข้างมากเอาไป และไม่เปลี่ยนด้วยเนื่องจากประชานิยมจูงใจ คิดว่ายังไง จะพยายามเปลี่ยนใจคน 60% ให้มีวุฒิภาวะหรือครับ

 

"ประเด็นนี้ผมจบแล้วนะครับ คงไม่ต่อล้อต่อเถียงอะไรอีก  เพียงแต่อยากชี้ให้เห็นว่าการทำอะไรในตอนที่เรายังไม่พร้อมมันอันตรายเหลือเกิน"

- ผมก็จบครับ คุณอยากแก้ปัญหาแบบพระเอก แต่จะคาราคาซังทั้งประเทศ แต่ผมอยากให้จบ เสียงส่วนมาก ส่วนน้อยมีที่ยืน ประเทศพัฒนาต่อไป 

ติดตามความคิดความเห็น ของท่านสมชัย พิชัย กับท่านคลำปม แล้วสนุกดีครับ นี่แหละความสวยงามของประชาธิปไตย ไม่ทราบว่าทั้งสองท่าน ชม ทางรอดประเทศไทย 2557 โดย ดร.ไตรรงค์ แล้วยังครับ แนวคิดเรื่องการกระจายอำนาจของท่าน คล้ายกับบทความนี้มาก แต่ขอยืนยันว่า พี่ที่เขียนบทความนี้ไม่ได้ลอกท่านมาแน่นอน เพราะแกใช้ computer ไม่เป็น ไม่สามารถเปิด youtube ได้ แต่อาจมีฐานข้อมูลคล้ายท่านไตรรงค์ เช่นเรื่องการกระจายอำนาจของอังกฤษ ประวัติศาสตร์ไทยสมัยก่อนยุคล่าอาณานิคม และประสบการณ์การทำงานในรัฐวิสาหกิจมากว่า 30ปี รู้ใส้รู้พุงการคอร์รัปชั่นในวงการ เลยวิเคราะห์ว่ารากฐานปัญหาประเทศมาจากโครงสร้างอำนาจระบบรวมศูนย์

อีกนิดครับ  พอดีวันนี้มีโอกาสสนทนากับ อาจารย์มหาวิทยาลัยระดับ รองคณบดี ก็เลยเถิดกันไปเรื่อง พรุ่งนี้ 29 มี.ค. 57 จะเป็นอย่างไร เลยกันไปเรื่องปัญหาที่เป็นอยู่ ทางเดียวที่จะแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืนต้องแก้การรวมศูนย์อำนาจ การกระจายอำนาจ กระจายภาษี จะทำให้แต่ละฝ่ายมีที่ยืน ส่วนความถูกผิดก็ว่ากันไปตามกฏหมาย แกยังกลัวว่า พวกหัวเก่าอนุรักษ์นิยมไม่ว่าฝ่ายใด ทั้งนักการเมือง ข้าราชการ จะไม่ยอมเพราะกลัวตัวเองเสียอำนาจ ผมเลยตอบติดตลกไปว่า คงต้องให้พวกนี้ได้ดู Forrest Gump ที่บอกว่า เราไม่รู้หรอกว่ามีอะไรในกล่องช๊อคโกแลต จนกว่าเราจะเปิดมันออก แล้วก็ให้ฟังเพลง เจ้าสาวที่กลัวฝน ของพี่เต๋อ ซะบ้าง



#29 เรื่อยๆเอื่อยๆ

เรื่อยๆเอื่อยๆ

    There is a face beneath this mask, but it isn't me.

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,223 posts

ตอบ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557 - 20:36

การกระจายอำนาจเป็นเรื่องที่ดีครับ โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา สาธารณสุข และตำรวจ แต่จะทำอย่างนั้นได้ ยังไงก็ต้องพึ่งงบจากส่วนกลางอยู่ดี แต่รูปแบบการให้ต้องเปลี่ยนไป  ให้แล้วต้องมีผลงานที่ชัดเจนกลับคืนมา ไม่ใช่รูปแบบเดิมของการตั้งโครงการแบบไร้เป้าหมาย ระบบการตั้งงบประมาณควรจะเปลี่ยนจากการขอเป็นรายกระทรวงเป็นการขอรายจังหวัดแทน ผมหวังอย่างนั้นนะ  






ผู้ใช้ 3 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 3 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน