นายสำรวย สุพรรณเมือง อาศัยอยู่ในบ้านเก่าทรุดโทรมหลังเล็กๆกับแม่สองคน...วันหนึ่งเขาถึงวัยที่ต้องคัดเลือกทหาร...
"แม่ครับ ผมได้เป็นพลทหารแล้ว ผมจะมีเงินเดือนมาทำบ้านทำห้องน้ำให้แม่แล้วนะครับ"
ตลอดเวลาที่ประจำการอยู่นั้น พลฯสำรวย เก็บหอมรอมริบเงินได้ทุกบาททุกสตางค์เพื่อทยอยทำตามปณิธานของตนทีละเล็กทีละน้อยตามกำลังทรัพย์
บ้านยังไม่ได้ทำ..... ห้องน้ำเพิ่งก่อปูนได้ส่วนหนึ่ง หลังคาไม่มี...เงินไม่พอ
"แม่ครับผมจะได้ไปราชการสนามที่ภาคใต้ ต่อไปมีค่าเสี่ยงภัย ผมจะได้มีเงินมาทำต่อให้เสร็จแล้วนะครับ"
"ตายจริง! ลูกเอ๋ย....มันอันตรายไหมลูก"
"แม่ไม่ต้องห่วงหรอก ใครๆเขาก็ไป ผมไม่เป็นอะไรหรอก ผมจะระวังตัว"
"ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ลูกเอ๋ยแม่มีเจ้าเป็นความหวังเดียว ยังไงแม่ก็อดห่วงไม่ได้"
"ไม่ต้องห่วงหรอกครับแม่ผมไม่เป็นอะไรหรอก...แต่ถ้าเป็น.. แม่ก็ไม่ลำบากหรอกครับ กองทัพจะดูแลแม่ คนไทยจะไม่ทอดทิ้งแม่ และแม่จะมีเกียรติที่มีลูกชายตายเพื่อชาติ"
"อย่าพูดอย่างนั้นลูก มันไม่ดี"
"ฮ่าๆ ครับแม่ แม่อย่าห่วงเลย ผมไปไม่นานผมก็ได้กลับมาอยู่กับแม่แล้ว ผมใกล้จะปลดแล้ว"
ก่อนกำหนดเพียงแค่เดือนเดียวสำรวยก็ได้กลับมา เขากลับมาอย่างสมเกียรติ กลับมาอยู่กับแม่ของเค้า.........นิรันดร์..
..... บ้านที่ยังไม่ได้ทำ ห้องน้ำที่ยังไม่มีหลังคา... วันนี้เพื่อนๆของเธอกำลังมาสานต่อให้เธอแล้ว วันนี้เราจะทำหลังคาชั่วคราวกันแดดกันฝน แม่จะได้ไม่ลำบาก ส่วนบ้านของแม่รออีกไม่นานนะสำรวย ไม่ต้องห่วงแล้ว แม่ของเธอคือแม่ของเรา นับจากวันนี้และตลอดไป..
คนร้ายกราดยิงจุดตรวจชรบ.ล่อจนท.เข้าที่เกิดเหตุก่อนดักบึ้ม ทำให้ปลัดโคกโพธิ์และเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 5 ราย
วันที่ 2 ก.พ.57 เมื่อเวลา 02.30 น. ร.ต.ท.ถิราวุฒิ ปานมา ร้อยเวร สภ.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายยิงใส่จุดตรวจ ชรบ.บ้านปลักใหญ่ ม.9 ต.ปากล่อ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นำโดยปลัด อ.โคกโพธิ์ ได้นำกำลังอส.เข้าพิสูจน์ทราบที่เกิดเหตุเพื่อเข้าไปช่วยเหลือพร้อมกับเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาสมทบ แต่ระหว่างการเดินทางถูกคนร้าย ลอบวางระเบิดคาดว่าเป็นระเบิดแสวงครื่องบรรจุถังแก๊สปิกนิก น้ำหนักประมาณ 30 กก.ทำให้รถของปลัดอำเภอโคกโพธิ์และรถเกราะทหารได้รับความเสียหาย
................................................................................................................
มากกว่ารักจากวีรบุรุษยะลา ขออนุญาตชี้แจงครับ
ขอบคุณทุกๆท่านที่เป็นห่วงและเห็นใจคุณแม่ของวีระบุรุษครับ
เกี่ยวกับสำรวยคือ
ครอบครัวยากจนมาก มีพี่สาวและน้องชายอย่างละหนึ่งคน คุณพ่อได้ทอดทิ้งไปตั้งแต่ยังเล็ก คุณแม่ซึ่งเป็นเพียงหญิงตัวเล็กๆไม่มีเงินเดือนต้องรับจ้างทั่วไปเลี้ยงลูกสามคนเพียงลำพังในบ้านหลังเก่าๆโทรมๆหลังป่าอ้อยจนเติบใหญ่ เมื่อลูกสามคนเริ่มโตขึ้น บ้านหลังน้อยจึงไม่พอที่จะอยู่ได้ทั้งหมด พี่สาวต้องไปหางานทำที่ กทม.เพื่อส่งเสียแม่และน้องสองคน ต่อมาน้องชายก็จำเป็นต้องออกเรือนไปเพื่อไม่ให้บ้านแออัด สำรวยขออยู่ดูแลแม่และก็ทำได้ดีมาตลอด
ในวันที่เขาจากไปตลอดกาล กองทัพก็มิได้ทอดทิ้ง ผู้บังคับบัญชาและหน่วยยกเรื่องสำรวยเป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วนอันดับหนึ่ง....
ทางหน่วยดูแลและให้ความสำคัญกับคุณแม่ขั้นสูงสุดในทุกเรื่อง...
สิทธิทุกอย่างที่คุณแม่ควรใด้ทางหน่วยดูแลและเร่งรัดอีกทั้งให้ความปลอดภัยต่อสิทธิของคุณแม่อย่างละเอียดและใส่ใจ ส่วนรายละเอียดลึกๆเราจะไม่เปิดเผยครับเพื่อความเป็นส่วนตัวของคุณแม่ เช่น คอยกันคนที่เข้ามาก่อกวน ยืมเงิน หรือเสนอขายของ ตลอดจนขอรับบริจาคเอาดื้อๆจากคุณแม่ ฯลฯ
ในส่วนกองทัพก็อนุมัตบรรจุน้องชายของสำรวยเข้าเป็นนายสิบในปี58 โดยทางหน่วยจะดูแลเรื่องส่งเรียน กศน.ให้ได้วุฒิ ม.6 ก่อนครับ
ในส่วนของคำสั่งเสียของสำรวยเรื่องบ้านนั้นทาง ผบ.ต้นสังกัดได้ดำเนินการติดตามไถ่ถอนที่ดินของแม่ที่จำเป็นต้องขายไปเมื่อสิบกว่าปีก่อนคืนมาให้คุณแม่ได้แล้ว ตอนนี้ถมที่ให้สูงกว่าถนนเรียบร้อย รอเพียงให้ดินแน่นดีก่อนและรอฤกษ์ยามในการลงเสาเอกครับ
ในระหว่างรอนี้ผู้บังคับบัญชาและเพื่อนๆและน้องๆทหารของสำรวยจึงลงขันกันช่วยปรับปรุงบ้านหลังเก่าของแม่ ให้แม่สะดวกในระหว่างรอบ้านใหม่เสร็จครับ ....
เหตุผลที่เรานำเสนอเรื่องราวของสำรวยนี้ มีสิ่งเดียวที่เราต้องการด้วยสัตย์จริงครับ....... เราไม่อยากให้ทุกคนลืมเค้า ร.ต.สำรวย วีรบุรุษของเรา
...........................................................................................
อีกหนึ่งเรื่องราวหนึ่งชีวิตในอีกหลายร้อยพันที่ทำงานเพื่อให้เราได้อยู่อย่างสุขสบาย