Jump to content


Photo
- - - - -

กรุงศรีอยุธยาถูกพม่าตีแตก เพราะคนไทยคิดคิดทุรยศต่อแผ่นดิน


  • Please log in to reply
3 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 tonythebest

tonythebest

    สมาชิกขั้นสูง 178 เซนติเมตร

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,595 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 - 00:32

*
POPULAR

ลำดับเหตุการณ์เสียกรุงศรีอยุธยา (ครั้งที่ 1)
 
พระเจ้าบุเรงนองทรงนำทัพเข้ารุกรานกรุงศรีอยุธยาในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2111 ยกเข้ามาทางด่านแม่ละเมา เมืองตาก รวมทั้งหมด 7 ทัพ ประกอบด้วย พระมหาอุปราชา เจ้าเมืองแปร เจ้าเมืองตองอู เจ้าเมืองอังวะ เจ้าเมืองเชียงใหม่ และเชียงตุง เข้ามาทางเมืองกำแพงเพช โดยได้เกณฑ์หัวเมืองทางเหนือรวมทั้งเมืองพิษณุโลกมาร่วมสงครามด้วย รวมจำนวนได้กว่า 500,000 นาย ยกทัพลงมาถึงพระนครในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน โดยให้พระมหาธรรมราชาเป็นกองหลังดูแลคลังเสบียง ทัพพระเจ้าบุเรงนองก็ตั้งค่ายรายล้อมพระนครอยู่ไม่ห่าง การตั้งรับภายในพระนครส่งผลให้มีการระดมยิงปืนใหญ่ของข้าศึกทำลายอาคารบ้านเรือนอยู่ตลอด ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างมาก
 
ฝ่ายกรุงศรีอยุธยาเมื่อทราบว่าหัวเมืองทางเหนือเป็นของพม่าแล้ว จึงเตรียมรบ อยู่ที่พระนคร นำปืนนารายณ์สังหารยิงไปยังกองทัพพระเจ้าหงสาวดีที่ตั้งอยู่บริเวณทุ่งลุมพลี ถูกทหาร ช้าง ม้าล้มตายจำนวนมาก พม่าจึงถอยทัพมาตั้งที่บ้านพราหมณ์ให้พ้นทางปืน แล้วพระเจ้าหงสาวดีจึงเรียกประชุมการศึก พระมหา อุปราชเห็นสมควรให้ยกทัพเข้าตีไทยทุกด้านเพราะมีกำลังมากกว่า แต่พระเจ้าหงสาวดีไม่เห็นด้วยเพราะกรุงศรีอยุธยามีทำเลดีมีน้ำล้อมรอบ จึงสั่งให้ตีเฉพาะด้านตะวันออกเพราะคูเมืองแคบที่สุด พม่าพยายามจะทำสะพานข้ามคูเมืองโดยนำดินมาถมเป็นสะพาน พระมหาเทพนายกองรักษาด่านอย่างเต็มสามารถ โดยให้ทหารไทยใช้ปืนยิงทหารพม่าที่ขนดินถมเป็นสะพานเข้ามา ทำให้พม่าล้มตายจำนวนมากจึงถอยข้ามคูกลับไป
 
พระเจ้าบุเรงนองทรงพยายยามโจมตีอยู่นานจนถึงเดือนเมษายน พ.ศ. 2112 ก็ยังไม่ได้กรุงศรีอยุธยา อีกทั้งยังสูญเสียกำลังพลเป็นจำนวนมาก พระองค์ทรงพยายามเปลี่ยนที่ตั้งค่ายอยู่หลายระยะ โดยในภายหลังทรงย้ายค่ายเข้าไปใกล้กำแพงเมืองจนทำให้สูญเสียพลอย่างมาก ระหว่างการสงครามสมเด็จพระมหาจักรพรรดิประชวรและสวรรคตในเวลาต่อมา สมเด็จพระมหินทร์ขึ้นครองราชและทรงบัญชาการรบแทน
 
พระเจ้าบุเรงนองจึงถามพระมหาธรรมราชาว่าจะ ทำอย่างไรให้ชนะศึกโดยเร็ว พระมหาธรรมราชาทรงแนะว่าพระยารามเป็นแม่ทัพสำคัญหากได้ตัวมาการยึดพระนครจักสำเร็จ จึงมีสาสน์มาถึงพระอัครชายาว่า "...การศึกเกิดจากพระยารามที่ยุยงให้พี่น้องต้องทะเลาะกัน ถ้าส่งตัวพระยารามมา ให้พระเจ้าหงสาวดีจะยอมเป็นไมตรี..." สมเด็จพระมหินทร์ฯทรงอ่านสาสน์แล้ว ปรึกษากับข้าราชการต่างๆจึงเห็นสมควรสงบศึกเพราะผู้คนล้มตายกันมากแล้ว สมเด็จพระมหินทร์ฯมีรับสั่งให้ส่งพระสังฆราชออกไปเจรจาและส่งตัวพระยารามให้พระเจ้าบุเรงนองเพื่อเป็นไมตรี แต่พระเจ้าบุเรงนองตบัตสัตย์ไม่ยอมเป็นไมตรี ทำให้สมเด็จพระมหินทร์ฯทรงพิโรธโกรธแค้นในการกลับกลอกของพระเจ้าบุเรงนองอย่างมาก มีรับสั่งให้ขุนศึกทหารทั้งปวงรักษาพระนครอย่างเข้มแข็ง พระเจ้าบุเรงนองเห็นว่ายังไม่สามารถตีกรุงศรีอยุธยาไม่ได้ จึงส่งพระมหาธรรมราชามาเกลี้ยกล่อมให้ยอมแพ้แต่ถูก ทหารไทยเอาปืนไล่ยิงจนต้องหนีกลับไป
 
พระเจ้าหงสาวดีจึงคิดอุบายจะใช้พระยาจักรีที่จับตัวได้เป็นประกันเมื่อครั้งสงครามช้างเผือกเป็นใส้ศึก จึงให้พระมหาธรรมราชาทรงเกลี้ยกล่อมพระยาจักรีให้เป็นไส้ศึกในกรุงศรีอยุธยา แล้วแกล้งปล่อยตัวออกมา รุ่งเช้าพม่าทำทีเป็นตามหาแต่ไม่พบเลยจับตัวผู้คุมมาตัดหัวเสียบไว้ริมแม่น้ำเพื่อให้ไทยหลงกล
 
สมเด็จพระมหินทร์ฯทรงดีพระทัยที่พระยาจักรีหนีมาได้จึงทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้บังคับบัญชาการรบแทนที่พระยาราม ครั้นพระยาจักรีได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรักษาพระนครแล้วจึงดำเนินการสับเปลี่ยนหน้าที่ของฝ่ายต่าง ๆ จนกระทั่งการป้องกันพระนครอ่อนแอลง พระยาจักรีได้ใส่ ร้ายให้พระศรีสาวราชว่าเป็นกบฏจึงถูกสำเร็จโทษ เมื่อเห็นว่าได้เวลาอันควรพระยาจักรีจึงให้สัญญาณแก่พม่าเข้าตีกรุงศรีอยุธยาทุกด้าน และทำให้กองทัพพม่าเข้าสู่พระนครสำเร็จโดยใช้เวลาเพียง 1 เดือน
 
ในวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2112 (เดือน ๙ ไทย) พระยาจักรีจึงให้สัญญาณแก่พม่าเข้าตีกรุงศรีอยุธยาและเปิดประตูเมือง ทำให้ทัพพม่าเข้ายึดพระนครสำเร็จ กรุงศรีอยุธยาจึงตกเป็นเมืองขึ้นของพม่า
 
 
 
 
 
 
 
 
สาเหตุที่นำไปสู่การเสียกรุงศรีอยุธยา (ครั้งที่ 2)
 
กองทัพอยุธยาได้เว้นจากการทำศึกสงครามมาเป็นเวลานาน ประกอบกับผู้นำอยุธยา ได้แก่ สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ คาดคะเนสถานการณ์และยุทธวิธีผิดไป ไม่ว่าจะเป็น การสร้างแนวปะทะกันกองทัพพม่าเข้ามาถึงคูพระนคร หรือระบบการส่งกำลังบำรุงให้การสนับสนุน ก็ดูจะล่าช้ากว่าฝ่ายพม่ามาก และที่สำคัญที่สุดก็คือ ฝ่ายพม่าเองสามารถเอาชนะยุทธวิธีน้ำหลากที่ฝ่ายอยุธยามักใช้ได้ผลมาแล้วได้เป็นผลสำเร็จ
 
พม่าได้ปรับยุทธศาสตร์การตีพระนครใหม่ โดยไม่ยอมให้สภาพธรรมชาติมาเป็นอุปสรรคต่อปฏิบัติการทางทหาร เมื่อน้ำหลากมาแล้วพม่ายังไม่ยอมถอย ทั้งยังล้อมกรุงอยู่อย่างเหนียวแน่น ทำให้ฝ่ายอยุธยาต้องเผชิญกับภาวะอดอยาก และมีอันต้องพ่ายแพ้ไปในที่สุด
 
สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เสียกรุงมาจาก "คนทรยศ" ตามคำให้การของชาวกรุงเก่า หน้า 174 บอกว่า "...มีคนไทยชื่อ พระยาพลเทพ ข้าราชการในกรุงศรีอยุธยาเอาใจออกห่าง ลอบส่งศาสตราวุธเสบียงอาหารให้แก่พม่า สัญญาว่าจะเปิดประตูคอยรับเมื่อพม่าเข้าโจมตี และประตูที่พระยาพลเทพ เปิดให้ก็เป็นประตูเมืองทางทิศตะวันออกเข้าใจว่าคงเป็นบริเวณหัวรอ หรือจะห่างจากบริเวณนี้ก็ไม่เท่าใด ซึ่งพม่าก็ได้ระดมเข้าตีปล้นกรุงศรีอยุธยามาทางนี้ ตามที่พระยาพลเทพนัดหมายไว้ โดยเข้าไปได้ในเวลากลางคืน ส่วนวันตามคำบอกของชาวกรุงเก่านั้น ตรงกับวันที่กรุงแตกดังกล่าวมาแล้วข้างต้นเหล่านี้ เป็นเรื่องที่เชลยไทยได้เห็นในขณะนั้น..."
 
พงศาวดารหลายฉบับได้กล่าวไว้ว่า
 
"...เมื่อกรุงใกล้จะแตก ไทยได้เกิดมุมานะต่อสู้อย่างเข้มแข็ง รบจนพม่าแตกกลับไปทุกครั้ง จนพม่าต้องตั้งล้อมนิ่งอยู่คราวหนึ่ง และเมื่อเวลากรุงแตกนั้น คนไทยที่สู้รบตายคาแผ่นดินอยู่บนกำแพงเมือง และตามที่ต่างๆ คงจะเห็นการกระทำของพระยาพลเทพได้เป็นอย่างดี น่าเสียดายที่ภายหลังต่อมา เราไม่ทราบชะตากรรมของพระยาผู้ทรยศต่อชาติคนนี้..."

 

http://board.yimwhan...topic=17&Cate=6

 

 

 

 

 

อยุธยา ถูกตีแตกทั้ง 2 ครั้ง ส่วนหนึ่งก็มาจากคนไทยด้วยกันเอง

คิดคด ทุรยศต่อชาติต่อแผ่นดิน

เหตุการณ์ที่ผมยกมา ลองสังเกตุชัด จากเหตุการณ์เสียกรุงครั้งที่ 1

ดูเหตุการณ์ ดูจำนวน ดูเวลา ดูกรรมวิธี ดูความเชื่อมโยงกัน

 

จะด้วยเหตุบังเอิญหรืออย่างไรผมไม่ทราบได้

 


ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ

 

 

 

เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน

จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน


#2 idecon

idecon

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,580 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 - 00:35

งานนี้ถ้าไม่ล้างบางกันบ้าง
ประเทศคงไม่ก้าวหน้าไปไหน
ดักดานมาหลายปีแระ

#3 tonythebest

tonythebest

    สมาชิกขั้นสูง 178 เซนติเมตร

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,595 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 - 11:08

บุเรงนองและพระยาละแวกคงมีความสุข
สมัยอยุธยา มาทำศึกกันเกือบตาย
ยังจะทำอะไรไม่ได้ง่ายๆ

สมัยนี้ คนไทยด้วยกันกลับอุ้มพม่ารามัญและชาวละแวกมาถึงในกำแพงเมือง
ให้มาตีคนไทยด้วยกันเสียเอง

ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ

 

 

 

เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน

จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน


#4 อาบังคนเหนือ

อาบังคนเหนือ

    สมาชิกระดับรากหญ้า

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,535 posts

ตอบ 5 เมษายน พ.ศ. 2557 - 11:14

เคยอ่านตลกฝรั่ง เค้าบอกว่าประเทศไทยมีดีทุกอย่างทั้งทรัพยากรและธรรมชาติ เสียอย่างเดียวที่มีคนไทยอยู่ในประเทศ


"ดาบวิเศษแสนคมอยู่ในมือลิงย่อมไร้ประโยชน์_กลับกัน_ยอดฝีมือที่บรรลุแล้ว ใช้กิ่งไม้ไผ่ก็ฆ่าคนได้ "





ผู้ใช้ 2 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 2 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน