จากกรณีฆ่ายกครัวของลูกชายคนโต แถวนนทบุรี มาสู่การฆ่ายกครัวของลูกชายคนเล็ก แถวบางแค
มันกำลังสื่อให้สังคมห็นว่า ปัญหาการทุจริต คอรัปชั่น มันรุนแรงขมากอยู่ในปัจจุบัน
ลูกต้องการเงินจะไม่คิดหาเงิน คิดอย่างเดียวมีหทางไหนที่ตัวเองได้เงินเร็วที่สุด แม้ว่าหนทางนั้นจะต้องแลกด้วยการฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าพี่น้องทุกคนที่ขวางทาง
สังคมไทยเรียนรู้อะไรกับระบบทักษิณ ที่สื่อให้คนรู้ว่า การทุจริต คอรัปชั่น เป็นเรื่องธรรมดาที่ใครมีโอกาสต้องทำ เพื่อได้เงินมาใช้จ่ายแบบง่าย ถ้าใครไม่มีโอกาสก็ให้แบบมือขอรัฐบาลที่จะทุจริตมาจ่ายให้ มีข้อแม้ต้องมาเป็นพวกพ้องตัวเอง ไม่มีการส่งเสริมให้คนรู้จักทำมาหากิน หรือใช้ชีวิตแบบพอเพียง ทักษิณพยายามย้ำเสมอว่า เขาที่รวยมาถึงทุกวันนี้ เพราะเวิธีที่เได้เงินมาแบบง่ายๆ แม้วิธีนั้นจะต้องเป็นเรื่องผิดศีลธรรม ผิดจริยธรรม หรือผิดต่อสังคมก็ตาม
ทักษิณรวยมาจาก การเอาเปรียบคนไทยมาตั้งแต่เริ่มธุรกิจ ด้วยการวิ่งเต้นขายคอมฯเก่าในราคาใหม่ให้กับกรมตำรวจ การบังคับให้โทรศัพท์มือถือ (สมัยก่อน) ทุกเครื่องล็อกอีมี่ เพื่อไม่ให้นำมาจากต่างประเทศ และขายมือถือให้กับคนไทยในราคาที่แพงมหาศาล แล้วทักษิณก็ยังทำทุกวิธีทางที่จะทำให้บริษัทตัวเองรวยขึ้นทุกวัน แม้แต่ขายชาติ ขายแผ่นดิน ทักษิณไม่เคยคิดว่ามันผิด
ตลอดระยะเวลาที่ทักษิณเข้ามามีบทบาทในสังคม ทักษิณได้ปลูกฝั่งให้คนรุ่นใหม่ มุ่งแต่วิธีการหาเงินแบบง่ายๆ มันจึงไม่แปลกที่คนรุ่นใหม่จะเรียนรู้วิธีการแบบนี้โดยไม่รู้ตัว
สมัยก่อน นักการเมืองทุจริตแต่ละครั้งต้องหลบๆ ซ่อนๆ ทำได้แค่เพียง ขอเปอร์เซ็นต์จากผู้รับเหมา เอากันใหญ่โตแค่ 3% ก็รวยมหาศาล แต่หลังจากทักษิณเป็นนายกฯ ได้เปลี่ยนระบบใหม่มาเป็นผู้รับเหมาแข่งกันประมูลว่าใครจะให้เปอร์เซ็นต์กับทักษิณมากกว่ากัน บ้านเมืองมันถึงได้วิบัติจนถึงทุกวันนี้
วันนี้จึงไม่ต้องแปลกใจที่ เห็นข่าว รถตกเหวเพราะตัวกั้นถนนไม่ได้มาตรฐาน มอไซค์เสียหลักเสียชีวิตเพราะถนนที่พึ่งทำเป็นหลุมขนาดใหญ่ พื้นสนามบินชำรุดเพราะทรายคนละเกรด ฯลฯ มันก็พูดกันรวมๆ ก็คือ คนไทยเริ่มมีชีวิตไม่ปลอดภัยนับตั้งแต่เริ่มก้าวขาออกจากบ้าน
บางคนอ่านแล้วอาจหาว่าคิดไปเอง มันจะเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร
ก็อยากให้มองปัญหาฆ่ายกครัว จากน้ำมือลูกชาย ทั้งสองกรณีนี้ แล้วเอามาเปรียบเคียงกันว่า เกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย ที่ทั้งสองกรณี คนที่ฆ่ายกครัว มีอายุไล่เรียกัน
มันเป็นเรื่องปกติหรือ ที่ลูกจะฆ่าพ่อแม่ พี่น้อง แบบมีเวลาวางแผนกันเป็นอย่างดี ไม่ใช่เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ แต่มันผ่านกระบวนการทางความคิด การวางแผนและการตรึกตรอง เหล่านี้มันไม่มีอะไรที่ทำให้เขาคิดว่าทำไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ทำไปแล้วจะเป็นอย่างไร เขาคิดแต่เพียงว่าฆ่าแล้วเขาได้เงิน แล้วเขาก็จะสบาย ได้เงินมาใช้แบบง่ายๆ โดยไม่ต้องทำมาหากิน แล้วมันต่างอะไรกับการทุจริต คอรัปชั่น
นี่ยังไม่นับกรณี รร.สตรีวิทยา 2 ที่ต้องการเงินค่าตั๋วเครื่องบิน แต่ไม่คิดทำอะไรนอกจากใช้เด็กไปหลอกชาวบ้าน ซึ่งก็ถือเป็นการหาเงินแบบง่ายๆ ที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมากนัก
นั่นเป็นเพราะคนรุ่นใหม่บางคนเริ่มเชื่อในสิ่งที่ทักษิณพยายามยกตัวเองมาเป็นตัวอย่างให้กับเยาวชน ว่าต้องทำอย่างไรให้ได้เงินและทรัพย์สินที่มาแบบง่ายๆ แม้จะต้องฆ่าใครหรือต้องหลอกใครสักกี่คน ก็ตาม
ก็อยากฝากเตือนทุกคนที่เห็นว่าการทุจริต คอรัปชั่น มันไกลตัว เพราะตอนนี้มันคืบคลานเข้ามาหาเราแล้วถึงในบ้าน
เมื่อเป็นแบบนี้คงไม่ถามแล้วละมั่งว่า วันนี้สังคมควรปฏิรูปการเมืองกันหรือยัง ถ้าว่ายังลองอ่านข่าวด้านล่างแล้วจะเข้าใจเอง
สังคมวิปริต คดี 3 ศพรับสารภาพแล้วน้องชายเป็นเกย์วางแผนให้เพื่อนมายิง หวังมรดก รักลูกไม่เท่ากัน ที่สน.หลักสอง
เหตุยิง 3 ศพ ท้องที่ สน.หลักสอง
ผู้ตายเป็นพ่อ แม่ ลูก กัน
1.คนเป็นพ่อชื่อ พ.อ.วิชัย หอมชง (นอกราชการ)
2.แม่ ชื่อ นางวนิดา หอมชง 3.ลูกชาย ชื่อ ร.ต.ท.ธรรมณัฐ หอมชง...
สภาพบ้านเป็นบ้านสวนกว้าง 2-3 ไร่ ลักษณะบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ โดยพบศพนางวนิดาฯ ในลักษณะนอนหงาย เลือดไหลออกมา อยู่ในห้องที่ชั้นล่าง
พบศพที่2 คือ ศพของ ร.ต.ท.ธรรมณัฐฯ สภาพนอนคว่ำ มีเลือดไหลออกมา อยู่ที่ห้องนอนชั้นล่าง
และพบศพที่3 คือ พ.อ.วิชัยฯ สภาพศพนอนอยู่ปลายเตียง ในห้องนอนชั้น 2