12 ความเห็นในกระทู้นี้

[ไทยไม่ทน]

 

 

 

 

วันที่ 10 เม.ย. 57 เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะพยานเพิ่มเติม ฝ่ายผู้ถูกร้องคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง ในการชี้แจง

ต่อมาเวลา 17.00 น. นายนิวัฒน์ธำรง ได้กล่าวภายหลังการเข้าชี้แจงต่อ ป.ป.ช. ว่า โครงการรับจำนำเป็นโครงการที่มีอยู่เดิมมา ตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เมื่อปี 2536 และได้ปฏิบัติกันมาหลายรัฐบาล เพียงแต่รัฐบาลชุดปัจจุบัน ได้ปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ให้ความสำคัญที่ตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบโครงการถึง 12 ชุด เพื่อให้โครงการมีประสิทธิภาพและป้องกันทุจริต อีกทั้งเคยมอบหมายให้ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตตั้งแต่ต้นปี 2555 รวมแล้วขณะนี้มีคดีอยู่ในการสืบสวน 104 คดี จึงเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้ปล่อยปละละเลย ให้มีการทุจริตตามที่กล่าวหา

ขณะที่ในส่วนการขาดทุนและความเสียหาย กว่า 2 แสนล้านบาท ตามที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ได้เปิดเผยก่อนหน้านี้ ไม่ตรงกับข้อมูลของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่มูลค่าการขาดทุนน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง ตามที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีอ้างไว้

พร้อมยืนยันว่า โครงการแม้จะขาดทุน แต่หากเทียบประโยชน์ด้านต่างๆ ที่ได้ ทั้งความเป็นอยู่เกษตรกร และการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ถือว่ามีความคุ้มค่า ซึ่งโครงการในลักษณะนี้ เป็นโครงการทางสังคมที่ย่อมมีการขาดทุน ไม่ใช่โครงการเชิงธุรกิจ อีกทั้งไม่ได้มีผลกระทบร้ายแรงต่อวินัยทางการเงินการคลัง เพราะระดับหนี้สาธารณะยังอยู่ที่ร้อยละ 45 – 46 จากที่ตั้งกรอบไว้ ถึงร้อยละ 60 และยืนยันว่าไม่มีเหตุผลความจำเป็นที่ต้องยุติโครงการ ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 11(1) จากเหตุผลทั้งหมด จึงถือว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้กระทำผิดเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

ทั้งนี้ นายนิวัฒน์ธำรง ยังแสดงความมั่นใจว่า เหตุผลที่ชี้แจงไปได้ทำดีที่สุดแล้ว จากนี้ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ขอให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมภายในวันที่ 25 เม.ย. นี้อีกครั้ง โดยอาจส่งมา

 

http://www.naewna.com/politic/98886

 

 

ท่านลืมเหรอครับ?

ไม่เห็นเหรอครับ?

 

 

 

 

 

[papa05]

ไม่ลืม   ไม่ลืม ไม่ลืม ม่ายลืม

 

 

เพียงเขาไม่จำเท่านั้นเอง

 

 

คริ  คริ  คริ

[เสือยิ้มยาก]

[papa05]

 

 เขาคงลืมอะไรไปอย่างเน๊อ

[SeraphUriel]

อ่านแล้วเพลียค่ะ
ไม่น่าเชื่อว่าในยุคข่าวสารออนไลน์อย่างนี้ ท่านยังคิดว่าประชาชนยังจะโง่เชื่อคำตอแหลของท่านอีก อย่าลืมสิคะว่าครึ่งหนึ่งของประเทศไม่ใช่ควาย จริงๆ เกินครึ่งด้วยค่ะ เพราะประชากรไทยมี 68 ล้านคน มีควายแค่ 20 ล้านตัว

แต่ปัญหาคือ ปปช จะเชื่อมั้ย ถ้า ปปช ก็เชื่อมัน กูจะขอไปเป็นประชาชนลาวแทนแล้วล่ะค่ะ อย่างน้อยตอนไปเที่ยวลาว คนบ้านเขาก็ยังรักในหลวงไทย

[SNTNBN]

[เรื่อยๆเอื่อยๆ]

แก่จนหัวหงอกเต็มหัว ต้องมาโกหกแบบหน้าด้านๆ หมดสิ้นลายนักธุรกิจพันล้านหมื่นล้าน เศษเงินตระกูลชินนี่มันรสชาติหอมหวานจริงๆ 

[Bookmarks]

ที่มันตรวจสอบน่ะ มันแค่ปลาซิว ปลาสร้อย แต่ที่โกงจริงๆ น่ะ คือจีทูจีเก๊ ต่างหาก 

[น้องใหม่]

 

 

 

 

 

วันที่ 10 เม.ย. 57 เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะพยานเพิ่มเติม ฝ่ายผู้ถูกร้องคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง ในการชี้แจง

ต่อมาเวลา 17.00 น. นายนิวัฒน์ธำรง ได้กล่าวภายหลังการเข้าชี้แจงต่อ ป.ป.ช. ว่า โครงการรับจำนำเป็นโครงการที่มีอยู่เดิมมา ตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เมื่อปี 2536 และได้ปฏิบัติกันมาหลายรัฐบาล เพียงแต่รัฐบาลชุดปัจจุบัน ได้ปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ให้ความสำคัญที่ตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบโครงการถึง 12 ชุด เพื่อให้โครงการมีประสิทธิภาพและป้องกันทุจริต อีกทั้งเคยมอบหมายให้ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตตั้งแต่ต้นปี 2555 รวมแล้วขณะนี้มีคดีอยู่ในการสืบสวน 104 คดี จึงเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้ปล่อยปละละเลย ให้มีการทุจริตตามที่กล่าวหา

ขณะที่ในส่วนการขาดทุนและความเสียหาย กว่า 2 แสนล้านบาท ตามที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ได้เปิดเผยก่อนหน้านี้ ไม่ตรงกับข้อมูลของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่มูลค่าการขาดทุนน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง ตามที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีอ้างไว้

พร้อมยืนยันว่า โครงการแม้จะขาดทุน แต่หากเทียบประโยชน์ด้านต่างๆ ที่ได้ ทั้งความเป็นอยู่เกษตรกร และการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ถือว่ามีความคุ้มค่า ซึ่งโครงการในลักษณะนี้ เป็นโครงการทางสังคมที่ย่อมมีการขาดทุน ไม่ใช่โครงการเชิงธุรกิจ อีกทั้งไม่ได้มีผลกระทบร้ายแรงต่อวินัยทางการเงินการคลัง เพราะระดับหนี้สาธารณะยังอยู่ที่ร้อยละ 45 – 46 จากที่ตั้งกรอบไว้ ถึงร้อยละ 60 และยืนยันว่าไม่มีเหตุผลความจำเป็นที่ต้องยุติโครงการ ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 11(1) จากเหตุผลทั้งหมด จึงถือว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้กระทำผิดเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

ทั้งนี้ นายนิวัฒน์ธำรง ยังแสดงความมั่นใจว่า เหตุผลที่ชี้แจงไปได้ทำดีที่สุดแล้ว จากนี้ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ขอให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมภายในวันที่ 25 เม.ย. นี้อีกครั้ง โดยอาจส่งมา

 

http://www.naewna.com/politic/98886

 

 

ท่านลืมเหรอครับ?

ไม่เห็นเหรอครับ?

 

คิดได้งัยวะ ลืมลงบัญชี 

[แสงดาวแห่งศรัทธา]

แถได้อุบาทว์มากหยั่งกะเด็กเถียง ไม่เห็นแก่หน้าลูกหลานเลย

[เสือยิ้มยาก]

iamICEx iCEZ 5h

เราอยู่ในยุค ที่การกินข้าวต้องผ่อนกันแล้วว55 pic.twitter.com/w6R9epOckN

 

 

ยุคกระชากค่าครองชีพก็แบบนี้แหละ เดือดร้อนทุกย่อมหญ้า ข้าวปลาก็ต้องกินแล้วค่อยผ่อนเป็นงวดๆ

[SeraphUriel]

iamICEx iCEZ 5h

เราอยู่ในยุค ที่การกินข้าวต้องผ่อนกันแล้วว55 pic.twitter.com/w6R9epOckN
 
 
ยุคกระชากค่าครองชีพก็แบบนี้แหละ เดือดร้อนทุกย่อมหญ้า ข้าวปลาก็ต้องกินแล้วค่อยผ่อนเป็นงวดๆ

ถามว่า บัตรผ่อนสินค้าของพวกควายสามารถใช้ผ่อนได้มั้ยคะ
หรือเค้าจำกัดเฉพาะบัตรเครดิต

[คนอีสาน]

นายนิวัดหำดม บุญทรงไข่

 

 

 

 

 

 

วันที่ 10 เม.ย. 57 เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะพยานเพิ่มเติม ฝ่ายผู้ถูกร้องคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมง ในการชี้แจง

ต่อมาเวลา 17.00 น. นายนิวัฒน์ธำรง ได้กล่าวภายหลังการเข้าชี้แจงต่อ ป.ป.ช. ว่า โครงการรับจำนำเป็นโครงการที่มีอยู่เดิมมา ตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เมื่อปี 2536 และได้ปฏิบัติกันมาหลายรัฐบาล เพียงแต่รัฐบาลชุดปัจจุบัน ได้ปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ให้ความสำคัญที่ตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบโครงการถึง 12 ชุด เพื่อให้โครงการมีประสิทธิภาพและป้องกันทุจริต อีกทั้งเคยมอบหมายให้ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตตั้งแต่ต้นปี 2555 รวมแล้วขณะนี้มีคดีอยู่ในการสืบสวน 104 คดี จึงเป็นสิ่งที่ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีไม่ได้ปล่อยปละละเลย ให้มีการทุจริตตามที่กล่าวหา

ขณะที่ในส่วนการขาดทุนและความเสียหาย กว่า 2 แสนล้านบาท ตามที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ได้เปิดเผยก่อนหน้านี้ ไม่ตรงกับข้อมูลของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่มูลค่าการขาดทุนน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง ตามที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีอ้างไว้

พร้อมยืนยันว่า โครงการแม้จะขาดทุน แต่หากเทียบประโยชน์ด้านต่างๆ ที่ได้ ทั้งความเป็นอยู่เกษตรกร และการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ถือว่ามีความคุ้มค่า ซึ่งโครงการในลักษณะนี้ เป็นโครงการทางสังคมที่ย่อมมีการขาดทุน ไม่ใช่โครงการเชิงธุรกิจ อีกทั้งไม่ได้มีผลกระทบร้ายแรงต่อวินัยทางการเงินการคลัง เพราะระดับหนี้สาธารณะยังอยู่ที่ร้อยละ 45 – 46 จากที่ตั้งกรอบไว้ ถึงร้อยละ 60 และยืนยันว่าไม่มีเหตุผลความจำเป็นที่ต้องยุติโครงการ ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 มาตรา 11(1) จากเหตุผลทั้งหมด จึงถือว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้กระทำผิดเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

ทั้งนี้ นายนิวัฒน์ธำรง ยังแสดงความมั่นใจว่า เหตุผลที่ชี้แจงไปได้ทำดีที่สุดแล้ว จากนี้ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ขอให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมภายในวันที่ 25 เม.ย. นี้อีกครั้ง โดยอาจส่งมา

 

http://www.naewna.com/politic/98886

 

 

ท่านลืมเหรอครับ?

ไม่เห็นเหรอครับ?

 

 

ท่านรัฐมนตรีสีข้างถอก จะพูดอะไรก็ให้อายหัวใจตัวเองหน่อย หรอกตัวเองไม่ได้หรอกนะ