62 ความเห็นในกระทู้นี้

[vee]

น่าโดนถล่มจังนะฮะร้านนี้

[Critical]

น่าโดนถล่มจังนะฮะร้านนี้

ชักชวน ประธาน กปปส. ไปเยี่ยมร้านซัก 100-200 คนสิครับ 

[เสือน้อย]

สันติบาล/ทหารที่ทำงานปกป้องสถาบัน น่าจะไปเยี่ยมดูนะครับ

[ห่วยแมน]

นีก็เป็นอีกเรื่องที่น่าห่วง

ขบวนการล้มเจ้าขยายวงกว้าง เดิมอยู่นอกประเทศ คอยหลอกล่อพวกเด็กที่ไปเรียนเมืองนอก อ้างว่าพวกอยู่ในประเทศโดนปิดหูปิดตา แล้วใส่ร้ายสถาบันต่างๆนานา พอโดนล้างสมอง เด็กนอกพวกนี้ก็จะกลับมาเป็นนักวิชาการ เป็นอาจารย์ ปลูกฝังความคิดแบบผิดๆต่อไป

 

ขบวนการล้มเจ้า ยังทำหนังสือ ทำเวบ ทำซีดีแจก แล้วใครล่ะที่จะรู้ว่าความเป็นจริงคืออะไร อย่างสถานการณ์ในปัจจุบัน เรื่องเดียวกันยังสามารถมองเห็นได้คนละมุมกันสุดขั้ว หลักฐานปลอมหลักฐานจริงถ้าไม่มานั่งคุยแลกเปลี่ยนก็แทบจะแยกไม่ได้ บางที เราอาจต้องไปศึกษาว่าเขาให้ข้อมูลผิดๆกันมาอย่างไรบ้าง แล้วมาแลกเปลี่ยนกัน ให้เขาได้รับข้อมูลที่ถูกต้องบ้าง ไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นมะเร็งลุกลามไปจนแก้ไขได้ยาก

 

ขอย้ำอีกครั้งนะครับว่ากระทู้นี้เพียงแค่ต้องการให้เห็นว่านี่เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างของ"สาขา"กลุ่มคนที่มีความคิดต่อต้านกษัตริย์อย่างชัดเจน ความจริงแล้วยังมีร้านหนังสือที่เน้นขายเฉพาะหนังสือแนวนี้อีกหลายร้าน ที่แม้แต่งานหนังสือต่างๆก็ขายกันเปิดเผย นี่ยังไม่รวมกิจกรรมเสวนาอื่นๆที่กลุ่มพวกนี้ชอบหาเรื่องจัดกันจริงๆจังๆ ค่อยๆแยกปลาออกจากน้ำ ค่อยๆนวดให้เกิดความเกลียดชังโดยวาทกรรมสวยหรูต่างๆมากมาย ไม่หยาบคาย ไม่พูดถึงบุคคลใดโดยตรง แต่จะพูดเลี่ยงให้ผู้ฟังคิดและคล้อยตามเพื่อเลี่ยงความผิดทางกฎหมาย และบางครั้งก็ทำเป็นเรื่องตลกโปกฮา ทำให้สถาบันด้อยค่าลงไปง่ายๆ 

 

เพื่อนสมช.ต้องยอมรับข้อเท็จจริงก่อนว่านอกจากเสื้อแดงล้มเจ้าที่มีอยู่เป็นจำนวนมากแล้ว ยังมีกลุ่มคนที่ไม่อิงเสื้อแดงแต่มุ่งเป้าหมายล้มล้างสถาบันเพียงอย่างเดียวอีกกลุ่มหนึ่งด้วย เพื่อนสมช.บางท่านบอกว่าพวกนี้ก็พวกเสื้อแดงนั่นแหละ แต่ขอยืนยันและอยากให้ยอมรับข้อเท็จจริงว่า "ไม่ใช่" เพราะกลุ่มนี้มีมานานก่อนที่จะมีกลุ่มนปก.เสียอีก เพียงแต่เมื่อก่อนนั้น หน่วยงานของรัฐจะเข้มแข็ง มีการปราบปรามอย่างจริงจัง พวกนี้ก็เลยเป็นได้แค่อีแอบ หลบอยู่ตามหลืบมุม หนังสือปกขาวก็แอบๆขาย พอเริ่มมีชุมนุมนปก.ที่สนามหลวงขึ้นมา พวกนี้ก็เกาะกระแส สวมรอย สร้างแนวร่วมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 

พวกล้มเจ้ามันไม่ใช่เพิ่งมีครับ มันมีมานานหลายสิบปีแล้ว ตอนนี้ถ้าจะเปรียบ ก็น่าจะเป็นมะเร็งระยะที่สี่แล้ว โอกาสที่จะแก้ไขโดยการให้ข้อมูลที่ถูกต้องนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะพวกนี้ถูกฝังหัวให้เป็นความเชื่อไปแล้ว จากเฉยๆกลายเป็นชินชา และกลายมาเป็นต่อต้าน กลุ่มที่ปล่อยชุดความคิดก็เป็นนักเขียนอาวุโส เป็นอาจารย์ เป็นด๊อกเตอร์ เป็นนักประวัติศาสตร์นักวิชาการต่างๆ... อยู่ดีๆท่านจะเรียกให้มานั่งคุยแล้วบอกว่าข้อมูลที่ท่านกำลังแสดงให้ดูนั้นถูกต้อง คงจะไม่มีใครเชื่อถือ

 

ถ้าจะหวังให้ประชาชนชาวไทยรุ่นใหม่หันกลับมารู้รักสามัคคี รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์เหมือนเดิม คงต้องปลูกฝังกันในโรงเรียนตั้งแต่เล็กๆไปยันมหาวิทยาลัย แต่ถามว่าใครคุมกระทรวงศึกษาครับ?

[Yasuhiro]

เรื่องบางเรื่องหลายคนที่คิดว่าเข้าใจอะไรต่ออะไรได้ดี หรือพวก wanna be จะเอามุมมองแคบๆ หรือตัดสินเรื่องในอดีตโดยใช้มาตรฐานตนเองไปตัดสิน โดยลืมคิดถึงสภาพแวดล้อม แนวคิด หรือความรู้ที่มีอยู่ในยุคสมัยก่อน

คิดและวิเคราะห์แบบพวก wanna be มันก็เหมือนกับพวกหมอดู หรือพวกวิเคราะห์หุ้น ที่มาวิเคราะห์เมือหวยออกแล้ว (พูดง่ายๆคือ เลือกข้อมูลที่สนับสนุนความเชื่อตนเอง แต่ไม่ได้พิจารณาถึงข้อมูลที่มีอยู่ทั้งหมด อย่างขยะทางตัวอักษร (หนังสือ) ที่ชื่อว่า "นายใน" เป็นต้น)

 

แต่อีกพวกนึงก็น่าด่าเหมือนกันครับ ที่ไปบิดประวัติศาสตร์แบบผิดๆ เพื่อหาความชอบธรรมให้กับพวกตัว ทำให้คนเข้าใจรัฐบุรุษ และเจตนารมณ์ของคณะราษฎร์หลายคนผิดๆไป (ผมหมายถึงพวกแม้ว ที่เอาข้อเท็จจริงไปบิดซะจนคนเข้าใจคลาดเคลื่อนและเกลียดคณะราษฎร์ไปเลย ทั้งๆ ข้อดีก็มี)

 

การศึกษาประวัติศาสตร์ควรจะศึกษาจากข้อเท็จจริง เพื่อเรียนรู้บทเรียนในอดีตและป้องกันไม่ให้ทำผิดพลาดซ้ำอีกในอนาคต แต่ขณะเดียวกันการมองอดีตโดยมีอคติจากมุมมองของตนเอง แล้วพยายามเผยแพร่แนวคิดวิเคราะห์ประวัติศาสตร์แบบผิดๆ ก็สมควรโดนประนามเหมือนกัน

[ธีรเดชน้อย]

หากเป็นเจตนาอย่างที่ จขกท.ว่าไว้ การมุ่งเป้าไปที่ต้นทางความคิดน่าจะถูกต้องที่สุด

 

งั้นคงลุ้นให้ ศาลรธน.ตัดสินคดีพันสภาพนายกฯและครม.ออกให้ได้ เพื่อกำจัดส่วนหัวแล้วหลังจากนั้น

 

ก็ใช้การปฎิรูปในการแก้ปัญหา โดยเริ่มต้นจากตำราและบทเรียนที่ถูกต้องแก่เด็กและเยาวชน 

[Huligan]

 

ถ้าจะหวังให้ประชาชนชาวไทยรุ่นใหม่หันกลับมารู้รักสามัคคี รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์เหมือนเดิม คงต้องปลูกฝังกันในโรงเรียนตั้งแต่เล็กๆไปยันมหาวิทยาลัย แต่ถามว่าใครคุมกระทรวงศึกษาครับ?

 

 

แต่บอกตรงๆเลยว่า ถ้าจะใช้วิธีปลูกฝังสไตล์ไดโนเสาร์สมัยผมยังเด็กล่ะก็ ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง มันต้องให้ซักถามได้ เข้าใจได้ ตั้งข้อสงสัยได้

ไอ้ประวัติศาสตร์ Racism เขียนให้เพื่อนบ้านเป็นอสูรกายนี่ก็เหมือนกัน ใครอยากเรียกร้องให้เอากลับมาบ้าง? >> ผมไม่เห็นว่ามันจะเข้าท่าตรงไหน? อยากจะให้รักชาติมันก็ต้องทำให้ประชาชนเห็นประโยชน์ร่วมกันที่จะเกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นสาระสำคัญ ส่วนประวัติศาสตร์หรือวัฒนธรรมเก่าๆก็ปลูกฝังได้แต่ต้องอิงกับประโยชน์ที่จะเกิดได้จริง ไม่ใช่อ้างแต่เขาทำสืบๆกันมาเลยต้องทำต่อไป...แนวทางแบบนี้ไม่มีทางสู้กับกระแสโลกาภิวัฒน์ได้เลย

[Maratiraj_]

 

 

ถ้าจะหวังให้ประชาชนชาวไทยรุ่นใหม่หันกลับมารู้รักสามัคคี รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์เหมือนเดิม คงต้องปลูกฝังกันในโรงเรียนตั้งแต่เล็กๆไปยันมหาวิทยาลัย แต่ถามว่าใครคุมกระทรวงศึกษาครับ?

 

 

แต่บอกตรงๆเลยว่า ถ้าจะใช้วิธีปลูกฝังสไตล์ไดโนเสาร์สมัยผมยังเด็กล่ะก็ ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง มันต้องให้ซักถามได้ เข้าใจได้ ตั้งข้อสงสัยได้

ไอ้ประวัติศาสตร์ Racism เขียนให้เพื่อนบ้านเป็นอสูรกายนี่ก็เหมือนกัน ใครอยากเรียกร้องให้เอากลับมาบ้าง? >> ผมไม่เห็นว่ามันจะเข้าท่าตรงไหน? อยากจะให้รักชาติมันก็ต้องทำให้ประชาชนเห็นประโยชน์ร่วมกันที่จะเกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นสาระสำคัญ ส่วนประวัติศาสตร์หรือวัฒนธรรมเก่าๆก็ปลูกฝังได้แต่ต้องอิงกับประโยชน์ที่จะเกิดได้จริง ไม่ใช่อ้างแต่เขาทำสืบๆกันมาเลยต้องทำต่อไป...แนวทางแบบนี้ไม่มีทางสู้กับกระแสโลกาภิวัฒน์ได้เลย

 

จริงเท่าที่เห็นครูสอนสังคมสมัยนี้เวลาสอนประวัติศาสตร์
เขาไม่พูดเข้าข้างประเทศตนเองแล้ว

เขาจะบอกประมาณว่าว่า เหตุและปัจจัยแผนการณ์กลยุทธใด ที่ทำให้แคว้นนั้น สามารถช่วงชิงความได้เปรียบ หรือ ได้ชัยชนะมาครอง หรือ นำพาแคว้นนั้นไปสู่ความเสื่อม

โดยมองข้ามเรื่องความดีความชั่วอิทธิปาติหารย์ความศักดิ์สิทธิ์เทพเจ้าไปเลย

Edited by Maratiraj_, 24 เมษายน พ.ศ. 2557 - 13:19.

[เกลียดคุณแม้วจังครับ]

สามวันที่แล้วไปนั่งคุย  กับคนที่เขาเรียกตัวเองว่ากลางมา   (แค่กลางกรูก็สงสัยแล้ว)  เขาก็ว่าทักกี้โลภนะ  ด่ากำนันด้วยว่าเป็นกลุ่มเขาทำนะสามวันจบ

เขาเล่าต่อว่า ตอนเทเลือดเขาไปกับพี่กี้ร์ (โอ้ว กลางมากมาย)  เด๋วนี้เขาสรุปได้แล้วว่า  ปัญหาเกิดจากทั้งเหลืองทั้งแดง

มีพวกเขานี่แหละที่จะแก้ปัญหาได้  แล้วอีกปัญหาใหญ่คือ ไทยมีองคมนตรี  ผมเลยบอกเขาว่า ปัญหาที่ไทยมีตอนนี้  คือนักการเมืองมันhere แค่นั้นแหละ

ถามไปว่าทุกวันนี้ทำมาหากิน  องคมนตรีมาก้าวก่ายอะไรเหรอ   เงียบบบบบบ  ขี้เกียจคุยกับพวกกลางแบบนี้จังเลย 

ไม่งั้นเป็น กลางหว่างขาให้แม้ว ได้ไง

[MIRO]

ก๊องดิด เอาตู้ไก่ย่างมาวางในร้านด้วยได้เปล่า..?

มี่แต่หนังสือพวกเราควายแดงไม่กล้าเข้าไปหรอก..

[Bayonet]

 

 

ถ้าจะหวังให้ประชาชนชาวไทยรุ่นใหม่หันกลับมารู้รักสามัคคี รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์เหมือนเดิม คงต้องปลูกฝังกันในโรงเรียนตั้งแต่เล็กๆไปยันมหาวิทยาลัย แต่ถามว่าใครคุมกระทรวงศึกษาครับ?

 

 

แต่บอกตรงๆเลยว่า ถ้าจะใช้วิธีปลูกฝังสไตล์ไดโนเสาร์สมัยผมยังเด็กล่ะก็ ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง มันต้องให้ซักถามได้ เข้าใจได้ ตั้งข้อสงสัยได้

ไอ้ประวัติศาสตร์ Racism เขียนให้เพื่อนบ้านเป็นอสูรกายนี่ก็เหมือนกัน ใครอยากเรียกร้องให้เอากลับมาบ้าง? >> ผมไม่เห็นว่ามันจะเข้าท่าตรงไหน? อยากจะให้รักชาติมันก็ต้องทำให้ประชาชนเห็นประโยชน์ร่วมกันที่จะเกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นสาระสำคัญ ส่วนประวัติศาสตร์หรือวัฒนธรรมเก่าๆก็ปลูกฝังได้แต่ต้องอิงกับประโยชน์ที่จะเกิดได้จริง ไม่ใช่อ้างแต่เขาทำสืบๆกันมาเลยต้องทำต่อไป...แนวทางแบบนี้ไม่มีทางสู้กับกระแสโลกาภิวัฒน์ได้เลย

 

 

เห็นด้วยครับ  เราจำเป็นต้องสอนให้เด็ก เยาวชน คนไทย  เรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย

 

แต่การเรียนการสอนประวัติศาสตร์ ต้องปรับปรุงแก้ไขแบบเรียนให้สอดคล้องกับ  ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์

 

ไม่ใช่ให้เรียนประวัติบิดเบือน จินตนาการ เสริมแต่ง  เพื่อให้รักชาติตามแนวทางสมัย จอมพล ป.  และหลวงวิจิตรวาทการ 

 

เพราะถ้าเริ่มต้นด้วยการรักชาติด้วยประวัติศาสตร์บิดเบือนซะแล้ว  อาจจะหลงทางไป

 

 

อเมริกาก็สอนประวัติสร้างชาติ ทำไมถึงต้องทำสงครามกับแยกตัวจากการเป็นอาณานิคมของอังกฤษ  ทำไมทำสงครามกับฝรั่งเศส

 

ทำไมมีการแบ่งเป็นฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้  ทำสงครามล้างเผ่าพันธ์กันเอง ........ แล้วทำไมสงครามถึงยุติ 

 

การเรียนรู้ประวัติศาสตร์  คือการเรียนรู้ถึงข้อผิดพลาดในอดีต.....เพื่อที่จะแก้ไข

 

 

การเรียนรู้ข้อเท็จจริง  จะป้องกันพวกจินตนาการน้ำแตก  ลิเบอร์รั่ว  วิชาเกินไร้สาระได้

 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ประวัติศาสตร์ทุกประเทศ แม้กระทั่งประวัติศาสตร์ของศาสนา มันจะมีประเภทแฟ้ม The X-File 

 

เราต้องยอมรับว่าไม่จำเป็นต้องไปสอดรู้ สู่รู้ซะทุกเรื่อง หรือประกาศความจริงออกมาสู่สาธารณะทั้งหมด

 

ในห้องสมุดของวาติกัน ก็มีหนังสือหรือบันทึกที่อยู่ในเขตหวงห้าม ที่ไม่อนุญาตให้คนทั่วไปเข้าถึง

 

การเข้าถึงประวัติศาสตร์บางเรื่องต้องกระทำโดยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการพิจารณาแล้ว เพื่อใช้วิเคราะห์ด้านวิชาการเท่านั้น

 

หลายเรื่องมันไม่ใช่เรืองที่จะเอามานั่งเพ้อเจ้อตามร้านกาแฟปากซอย หรืออินเตอร์เน็ตคาเฟ่ห์

 

มันไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาสำเร็จความใคร่ทางความคิดหรือเอามาปลุกปั่นสาวกควาย ๆ เลยยยยยย

Edited by Bayonet, 25 เมษายน พ.ศ. 2557 - 08:21.

[nameless]

ผมไปมา 2 ครั้งครับช่วงเปิดร้านใหม่ๆ ครั้งแรกไปวันธรรมดา บรรยากาศดีกว่าในรูปมาก ครั้งที่ 2 ไปวันหยุด บรรยากาศแย่กว่าในรูปมาก

 

หนังสือที่ขายก็มีทั้ง 2 ขั้วการเมืองครับ เห็นวางเหลืองแดงติดกัน

 

หลังจากมองมาพักหนึ่ง ผมว่ารายได้หลักมาจากการขายเครื่องดื่มจำพวกกาแฟ อัพราคาพอควร ใครมาก็ต้องหาโอกาศนั่ง นั่งก็ต้องสั่งกาแฟ ส่วนหนังสือการเมืองปรัชญา ไม่น่าจะขายดีเท่าเครื่องดื่ม

 

บริเวณนั้นเป็นที่ดินที่ http://www.prachacha...wsid=1392202819 กะจะพัฒนาเป็นร้านอาหาร ร้านหนังสือ ร้ายขายของ มีร้านอาหาร Never Ending Summer ในบริเวณเดียวกัน อ่านในรีวิวในเน็ตเห็นบอกว่าอาหารสวย แต่บริกรช้า ราคาอัพสเกล ผมเกือบเข้าไปกินแล้วเห็นคนเยอะแต่แฟนดึงตัวไม่ให้เข้า(เงินไม่พอ ) 

 

กลับมาที่ร้านหนังสือ สรุปว่าเขาคงพยายามสร้างจุดเด่นของร้านหนังสือให้คนเข้ามาแม้ว่าหนังสือเป็นพวกขายไม่ค่อยได้ โดยทำเป็นชุมชนคนปรัชญาบนสถานที่น่านั่ง   โดยรายได้หลักของร้านคือกาแฟ ชา และเครื่องดื่มอื่นๆครับ 

 

เพิ่มเติมครับ ขายชา-กาแฟราคาที่ไม่ถูก 4-5 ชั่วโมงได้ 100 แก้ว กำไรทั้งวันก็น่าจะทำอยู่ไม่น้อยน้า  

Edited by nameless, 24 เมษายน พ.ศ. 2557 - 15:34.

[Maratiraj_]

ไปเข้าเว็บพันทิบมา
ทัศนคติแต่ละคน
เหมือนเป้นศุนยืรวมของอะไรสักอย่าง

เกี่ยวกับเรื่องยินตรง เคารพเพลงสรรเสริญฯ ประมาณว่า ไม่ลุกไม่ผิดกฏหมาย ถ้าใครทำอะไรคนที่ไม่ลุก พวกนั้นจะใช้กฏหมายเล่นงานกลับด้วย
 

http://pantip.com/topic/31951936
 

Edited by Maratiraj_, 27 เมษายน พ.ศ. 2557 - 01:58.