Jump to content


Photo
- - - - -

(เอาอีกแล้ว!!) อั้ม เนโกะ ส่งสารถึงชาวพุทธหลายล้านคน


  • Please log in to reply
47 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 Moo3storey

Moo3storey

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,284 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 06:47

*
POPULAR

edd1b444aa.jpg

Aum Neko

อย่าทำให้ผู้หญิงและ LGBT ต้องแปลกแยกไปจากศาสนา แยกศาสนาออกจากรัฐ ! //สงน้ำพระสงกรานต์ ทำนุบำรุงศาสนาให้อยู่ในสังคมที่หลากหลาย


https://www.facebook...&type=1

d81700c2c7.jpg

d13526524e.jpg


82dde04e42.jpg


----------------------------------------------------------

จริงๆแล้วตุ๊ดอั้ม กับสมุนลิเบอร่านวอนนาบีเข้าใจผิดนะ

1. ศาสนาพุทธสอนไม่ให้เคารพบูชาวัตถุ แต่ไม่ได้ห้าม

คำสอน = ไม่บังคับ ,ข้อห้าม = บังคับ

2. ศาสนาพุทธ มีเสรีภาพ มีหลายนิกาย หลายวิธีให้เลือกปฏิบัติ

จะเชื่ออย่างไรก็ได้ จะเชื่อว่าพระพุทธเจ้าเป็นคนธรรมดา หรือเป็นเทพเจ้า หรือจะเชื่อว่าพระพุทธเจ้าไม่มีตัวตนอยู่จริงก็ได้ อย่างนิกายมหายานก็เลือกใช้ความเชื่อแบบเทพเพื่อให้เข้าถึงคนหมู่มาก (มหายาน=เรือลำใหญ่ที่จะขนสัตว์โลกข้ามฝั่ง) เซ็นเลือกใช้วิธีเพ่งให้จิตเข้าสู่ธรรมชาติตามธรรมชาติ เป็นวิถีของธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ทำแล้วแทรกตัวไปในธรรมชาติที่แท้ ทำแล้วไม่โง่ ไม่ฉลาด ไม่ได้ปัญญาวิมุตติ ไม่ได้เห็นตามจริง ไม่ได้อะไรเลย ไม่นรก ไม่สวรรค์ ว่างอยู่อย่างนั้น เป็นอมิตายุในแบบเซ็น (เซ็น=ทางลัด ไม่ว่าใครก็ตรัสรู้ได้)

จะเห็นได้ว่าไม่ว่าแบบไหนก็ไปนิพพานเหมือนกัน ให้หลลุดพ้นเหมือนกัน เหมือนจะไปกรุงเทพ จากเชียงใหม่ จะไปทางไหนก็ได้ แล้วแต่สะดวก ไม่ว่าจะเลือกไปทางงไหนก็ถึงที่หมายเดียวกัน เพราะฉะนั้นไม่มีใครเขามาหมกมุ่นไร้สาระกับเรื่องจะกราบวัตถุหรือไมกราบ เพราะมันเป็นแค่เปลือก ไม่ใช่แก่น การที่ใครจะเลือกทางสายไหนจะเชื่ออย่างไรเขาถือว่าเป็นสิทธิ์ ศาสนาพุทธเขาไม่ได้บังคับ

พุทธแท้ไม่ใช่กราบ หรือ ไม่กราบวัตถุ แต่พุทธแท้ที่พระพุทธเจ้าพูดถึงคือ "สุญญตา" เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ก่อนมีศาสนาพุทธ ก่อนจะมีเถรวาท ก่อนจะมีมหายาน พุทธแท้จึงไม่ใช่เรื่องของนิกายหรือความเชื่อ แต่พุทธแท้คือ "วิธีทำให้คนเข้าถึงสุญญตา เข้าถึงความว่าง"

Edited by Moo3storey, 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 08:48.


#2 ลอยทวนลม

ลอยทวนลม

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 122 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 07:14

*
POPULAR

พระพุทธเจ้าไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง?

ศาสนาพุทธไม่เป็นประชาธิปไตย?

บัวใต้ตม ยังไงก็คือ บัวใต้ตมอยู่วันยังค่ำสินะ อาา...สัพเพสัตตา....


ข้อมูลต่างๆ ตอนนี้ จริง 20% ที่เหลือเป็นข้อมูลที่เชื่อถือไม่ได้ อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่คุณได้อ่าน


#3 Moo3storey

Moo3storey

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,284 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 07:16

*
POPULAR

อั้มคงไม่ได้ซาบซึ้งแก่นพระพุทธศาสนาอะไรหรอก การที่อั้มไม่เคารพพระพุทธรูป ไม่ได้หมายถึงไม่ยึดติดด้านวัตถุ แต่จริงๆแล้วจิตใจของอั้มจงใจหมิ่นเหยียดหยามพระพุทธรูป เพื่อแกล้ง เยาะเย้ย ผู้คนในสังคมศาสนาพุทธ

จริงๆที่อั้มทำมันผิดกม.นะ มีกม.คุ้มครองเรื่องนี้อยู่

มาตรา 206 แห่งประมวลกฎหมายอาญา “ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ แก่วัตถุหรือสถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยามศาสนานั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือ ปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ


#4 san man

san man

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 60 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 07:24

อยากจะด่ามันคับแค่ไม่รู้จะหาคำไหนมาด่ามัน งานช่วยคิดคำด่าทีละกันคับ ไอผ้าอนามัย ไอชักโครก ไอผู้ชาย...

#5 Super@2

Super@2

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,781 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 07:26

มันก็แค่กะเทยกวนตีนตัวนึงเท่านั้น มันอยากดัง ไปสนใจมันมาก มันยิ่งชอบ


พาโล อปริณายโก แปลว่า คนโง่ไม่ควรเป็นผู้นำ

#6 Manners

Manners

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 623 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 07:27

จริงๆ ผมว่าก็แค่เด็กมีปัญหา อยากดัง แต่ไม่เลือกที่จะดังเพราะทำความดี



#7 เรื่อยๆเอื่อยๆ

เรื่อยๆเอื่อยๆ

    There is a face beneath this mask, but it isn't me.

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,223 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 07:29

วันดีๆ แบบนี้ก็ไม่อยากด่าใคร ขอใช้คำแบบดร.ไตรรงค์แล้วกันครับ อีฉิบหาย



#8 Moo3storey

Moo3storey

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,284 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 07:35

ยูเอ็นประณามข้ออ้างเสรีภาพหมิ่นศาสนาอื่น-OICร้องฟื้นใช้กม.หมิ่นศาสนาผิดอาญาระหว่างประเทศ


นายบัน กี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ประณามข้ออ้างหมิ่นศาสนาอื่น ชี้สิทธิเสรีภาพสื่อไม่ใช่ความพยายามแบ่งแยกศาสนา ทุกคนต้องเคารพปกป้องเกียรติยศของเพื่อนมนุษย์ ขณะที่โอไอซีเรียกร้องรื้อฟื้นบังคับใช้กฎหมายหมิ่นศาสนา คือความผิดคดีอาญาระหว่างประเทศ

Spoiler



--------------------------------------------------------------

ประเด็นหมิ่นศาสนานี้ไม่ใช่เรื่องที่จะอ้างเสรีภาพได้ มันเป็นเรื่องของการเคารพสิทธิ์ผู้อื่น

Edited by Moo3storey, 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 07:54.


#9 jaturong

jaturong

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 456 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 07:54

ชอบ ไม่ชอบ เชื่อ ไม่เชื่อ ถ้าไม่ต้องแสดงออกมามันจะตายหรือเปล่า การแสดงออกในทุกอย่างที่ตนเองคิด มันไม่ใช่บ่งบอกว่าเป็นคนเก่ง แต่มันกลับบ่งบอกว่าเป็นคนบ้า เพราะไม่รู้จักหักห้ามใจตัวเอง และโดยเฉพาะประเด็นที่ละเอียดอ่อนแบบนี้ 



#10 mee-sua-man

mee-sua-man

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,218 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 07:57

ศาสนาทุกศาสนาสอนทุกคนเป็นคนดี ไม่ใช่พวกนิกายหรือลัทธิที่แสดงออกด้วยวิธีแปลกๆ เช่น การฆ่า เกือบทุกประเทศจึงมีบทห้ามเรื่องการแสดงออกต่อศาสนา ไม่ว่าศาสนาไหนก็ตาม การกระทำต้องไม่ทำลายจิตใจผู้อื่น แม้นจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ตาม เช่น พวกสอนศาสนาขี่คอองค์พระพุทธรูป และโดนลงโทษแม้นจะสถานเบาในฐานไม่เข้าใจธรรมเนียม กรณ๊ที่ไปทัศนาจรต่างประเทศ เจอรูปปั้น, รูปภาพ แปลกๆ แต่ก็ไม่แสดงอาการมากนักเพราะหากผิดใจชาวท้องถิ่นลำบากเอาง่ายๆ แสดงออกอะไรก็อย่างมีสติ โดยข้อเขียนก็ได้แต่ต้องเป็นความเห็นไม่ใช่โจมตี

#11 DarkSwan

DarkSwan

    Reporter Activated

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,689 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 08:07

ทำไปแล้วมันได้อะไร?


ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม

ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า

อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน


#12 mrmax45

mrmax45

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 58 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 08:23

เหอๆ สงสัย กระเทยอั้ม อยากจะบวชแต่บวชไม่ได้



#13 soco

soco

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,401 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 08:25

ไอ้เปรต คนไร้ศาสนา

ถึงว่า เกิดมามันต้อง สังวาสทางปาก หรือทางทวาร
รักใครชอบใครก็เรื่องของเราแต่เราก็ไม่เป็นขี้ข้าโจร

#14 Moo3storey

Moo3storey

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,284 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 09:02

จริงๆ พุทธศาสนาเรียกกระเทย เกย์ ทอม ดี้ ว่า "บัณเฑาะว์"

มีอยู่ 5 ประเภท มีบัณเฑาะว์อยู่ 2 ประเภทที่ไม่ห้ามให้บวช ส่วนอีก 3 ประเภทห้าม



ในบัณเฑาะก์  ๕  ชนิดนั้น   อาสิตตบัณ-
เฑาะก์    และอุสุยยบัณเฑาะก์   ไม่ห้ามบรรพชา,  ๓ ชนิดนอกนี้ห้าม    แม้ใน
บัณเฑาะก์ ๓ ชนิดนั้น  สำหรับปักขบัณเฑาะก์  ห้ามบรรพชาแก่เขาเฉพาะปักข์
ที่เป็นบัณเฑาะก์เท่านั้น.    ก็ในบัณเฑาะก์ ๓ ชนิดนี้    บัณเฑาะก์ใดทรงห้าม
บรรพชา  พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงหลายเอาบัณเฑาะก์นั้น  ตรัสคำนี้ ว่า  อนุป-
สมฺปนฺโน  นาเสตพฺโพ.  บัณเฑาะก์แม้นั้น  ภิกษุพึงให้ฉิบหายด้วยลิงคนา-
สนาทีเดียว.     เบื้องหน้าแต่นี้    แม้ในคำที่กล่าวว่า    พึงให้ฉิบหาย    ก็มีนัยนี้
เหมือนกัน.

http://www.thepalica...k06/301_350.htm

#15 ธีรเดชน้อย

ธีรเดชน้อย

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,659 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 09:03

อ่านความเห็นที่เอามาให้อ่านแล้วน่าเป็นห่วงครับ  :(


" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ   "

 

 


#16 ทองดี

ทองดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 618 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 09:09

ธรรมะของพระพุทธเจ้า ใช้ได้ตลอด นะครับ

 

อันคนพาล  คนพาลในที่นี้หมายถึง ผู้มีปัญญาทราม กระทำตนให้เดือดร้อน แก่ตนเองและผู้อื่น

 

อเสวนา จ พาลานํ พึงไม่คบ เสวนากับคนพาล

 

เมื่อได้ยิน เห็น คบหา กับคนพาล จะทำให้บัณฑิต เดือดร้อน หม่นหมองไปด้วย



#17 แสงธูป

แสงธูป

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 753 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 09:30

เกิดเป็นคนนั้นแสนอยากได้เกิดในพระพุทธศาสนายิ่งถือว่ามีบุญ กาลเวลาไม่สามารถทำให้พระธรรมคำสอนเสื่อมได้ แต่คนกลับเสื่อมลงตามกาลเวลา



#18 นายตัวเกร็ง

นายตัวเกร็ง

    Monkey Godfather Lv.3

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,901 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 09:37

อ้างตัวเองเป็นลิเบอรัล...แต่ละเมิดเสรีภาพผู้อื่น
อ้างตัวเอง atheism แต่ดันไม่รู้ว่าเขาเรียกว่าอเทวนิยมไม่ใช่ อศาสนา 
irreligion
แค่นี้ยังไม่รู้เขาเรียกว่า"ริเบอร่าน"ว่ะ


เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<


#19 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 09:43

อีนี้ ไม่ได้รู้จักศาสนาพุทธ สักกะผีจริง ๆ

 

กราบกราบไหว้ พระพุทธรูป เพื่อให้เรานึกถึงพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ให้เรายึดถือ

 

เหมือน ๆ ที่ศาสนาคริสต์ ที่มีไม้กางเขน เป็นตัวแทน พระเยซู


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#20 Octavarium

Octavarium

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,095 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 09:51

วิจารณ์ศาสนาทั้งที่เข้าไม่ถึงแม้แต่เปลือกของศาสนา

 

พิธีกรรมต่างๆไร้สาระ เวรกรรมไม่มีจริง ฯลฯ

 

คนไร้ศาสนาบางคนคุยเรื่องนี้ได้ทั้งวัน โดยที่ไม่รู้จัก มัคนายก กับ ไวยาวัจกร

 

พวกนี้จ้องแต่จะด่าคนอื่นว่า คลั่งศาสนา

 

ไม่มีประโยชน์ที่จะไปสนทนาด้วย


       Invoke ExitWindowsEx, EWX_SHUTDOWN | EWX_POWEROFF | EWX_FORCEIFHUNG, SHTDN_REASON_MAJOR_SYSTEM


#21 SKIDATO

SKIDATO

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 503 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 10:07

การเป็นเกย์ ตุ๊ด กะเทย ทอม ดี้

หรือเพศที่ 3 ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ผิดหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม

อิสลามยอมรับเฉพาะเพศชายกับหญืงเท่านั้น เพศอื่นๆถือว่าบาป

ใครฝ่าฝืนมีบทลงโทษ ประเทศที่ปกครองด้วยกฏหมายอิสลามเคร่งครัดบางประเทศติดคุกหรือประหารชีวิตก็มี

 

แรง! ผู้นำแกมเบียเปรียบพวกรักร่วมเพศไม่ต่างจาก “พยาธิ” ชี้ ต้องกำจัดทิ้งให้สิ้นซากเหมือนการฆ่า “ยุง”

 

อีตุ๊ดระยำ มิงโชคดีเท่าไหร่แล้วที่เกิดมาบนแผ่นดินพุทธ

จะมีที่ไหนในโลกนี้ที่จะให้เสรีพวกตุ๊ดอย่างพวกมิงเท่ากับประเทศไทยที่เป็นเมืองพุทธ

ถึงมิงไม่เคารพ ก็ไม่ควรลบหลู่ศาสนาเขา อีฟาย

 

เห็นอีตุ๊ดมันทำอย่างนี้ละกูอยากให้ประเทศไทยปกครองด้วยกฏหมายอิสลามจริงๆ

พวกตุ๊ดจะได้หมดไปจากประเทศนี้

รับรองว่าพวกมิงจะไม่มีที่ยืนในแผ่นดินนี้ละกัน

 



#22 น้ำหวาน

น้ำหวาน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,425 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 11:04

ทำใจเถอะครับ ธรรมศาสตร์ไม่มีชมรมพุทธฯ


นักการเมืองต้องกราบกรูซิ ไม่ใช่ให้กรูไปกราบนักการเมือง

#23 oneclick999

oneclick999

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,783 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 11:09

เกิดเป็นตุ๊ดก็เพราะกรรมเก่ายังไม่สำนึกอีก

เมื่อสร้างเหตุมาอย่างนี้ ผลจึงได้อย่างนั้น

ชาติหน้าถ้ามีจริง อีนี่คงไม่ได้เกิดเป็นคนอีกหลายชาติ



#24 templar

templar

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,180 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 11:14

vzNkIN7.jpg

 

รูปนี้หล่อดี   :lol:


Edited by templar, 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 11:14.

อย่ามาเห่าว่ากรูมาจากการเลือกตั้ง  เพราะการเลือกตั้งไม่ใช่ทุกอย่างของประชาธิปไตย

การตรวจสอบบ้านเมืองอย่างเข้มข้น  ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและตุลาการ  จำเป็นสำหรับประเทศไทย

 

สิ่งที่บ่งบอกว่าประเทศไหนพัฒนาแล้วไม่ได้ดูที่  มีตึกสูงมากเท่าไร  มีห้างเยอะไหม  มีจีดีพีสูงแค่ไหน

แต่ดูที่การศึกษา  และ คุณภาพของบุคลากรภายในประเทศ


#25 Moo3storey

Moo3storey

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,284 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 11:23

เกิดเป็นตุ๊ดก็เพราะกรรมเก่ายังไม่สำนึกอีก
เมื่อสร้างเหตุมาอย่างนี้ ผลจึงได้อย่างนั้น
ชาติหน้าถ้ามีจริง อีนี่คงไม่ได้เกิดเป็นคนอีกหลายชาติ


ถ้านรกมีจริงตุ๊ดอั้ม(รวมถึงสมหงอก กับพวกลิเบอร่าน)จะทำไงนะ ประท้วงยมบาล เรียกร้องให้ตรวจสอบยมบาลได้ ให้ผีนรกทุกตัวมีความเท่าเทียมกัน ??

แล้วมันจะหาว่าการลงโทษของนรก เป็นการละเมิดสิทธิ์รึเปล่า ??

#26 oneclick999

oneclick999

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,783 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 11:26

 

เกิดเป็นตุ๊ดก็เพราะกรรมเก่ายังไม่สำนึกอีก
เมื่อสร้างเหตุมาอย่างนี้ ผลจึงได้อย่างนั้น
ชาติหน้าถ้ามีจริง อีนี่คงไม่ได้เกิดเป็นคนอีกหลายชาติ


ถ้านรกมีจริงตุ๊ดอั้ม(รวมถึงสมหงอก กับพวกลิเบอร่าน)จะทำไงนะ ประท้วงยมบาล เรียกร้องให้ตรวจสอบยมบาลได้ ให้ผีนรกทุกตัวมีความเท่าเทียมกัน ??

แล้วมันจะหาว่าการลงโทษของนรก เป็นการละเมิดสิทธิ์รึเปล่า ??

 

มันก็บอก ยมบาลไม่ได้มาจากการเลือกตั้งไงครับ ไม่ยอมรับอำนาจศาลยมบาล เพราะเป็นองค์กรณ์อิสระ


Edited by oneclick999, 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 11:27.


#27 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 11:42

1535392_506745096110463_1524760335_n.jpg



#28 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 12:16

จะว่าไป คนไม่มีศาสนาก็เป็นลัทธิความเชื่อรูปแบบหนึ่งนะ 

 

คนเกิดมาวิปริตผิดเพศ  หลายคนเชื่อว่าคนนั้นเกิดมามีกรรม ต้องชดใช้กรรมหนัก

แต่นี่ยังถลำลึกเข้าไปอีก 


ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#29 Raja22

Raja22

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 622 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 12:16

edd1b444aa.jpg

Aum Neko

อย่าทำให้ผู้หญิงและ LGBT ต้องแปลกแยกไปจากศาสนา แยกศาสนาออกจากรัฐ ! //สงน้ำพระสงกรานต์ ทำนุบำรุงศาสนาให้อยู่ในสังคมที่หลากหลาย


https://www.facebook...&type=1

d81700c2c7.jpg

d13526524e.jpg


82dde04e42.jpg


----------------------------------------------------------

จริงๆแล้วตุ๊ดอั้ม กับสมุนลิเบอร่านวอนนาบีเข้าใจผิดนะ

1. ศาสนาพุทธสอนไม่ให้เคารพบูชาวัตถุ แต่ไม่ได้ห้าม

คำสอน = ไม่บังคับ ,ข้อห้าม = บังคับ

2. ศาสนาพุทธ มีเสรีภาพ มีหลายนิกาย หลายวิธีให้เลือกปฏิบัติ

จะเชื่ออย่างไรก็ได้ จะเชื่อว่าพระพุทธเจ้าเป็นคนธรรมดา หรือเป็นเทพเจ้า หรือจะเชื่อว่าพระพุทธเจ้าไม่มีตัวตนอยู่จริงก็ได้ อย่างนิกายมหายานก็เลือกใช้ความเชื่อแบบเทพเพื่อให้เข้าถึงคนหมู่มาก (มหายาน=เรือลำใหญ่ที่จะขนสัตว์โลกข้ามฝั่ง) เซ็นเลือกใช้วิธีเพ่งให้จิตเข้าสู่ธรรมชาติตามธรรมชาติ เป็นวิถีของธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ทำแล้วแทรกตัวไปในธรรมชาติที่แท้ ทำแล้วไม่โง่ ไม่ฉลาด ไม่ได้ปัญญาวิมุตติ ไม่ได้เห็นตามจริง ไม่ได้อะไรเลย ไม่นรก ไม่สวรรค์ ว่างอยู่อย่างนั้น เป็นอมิตายุในแบบเซ็น (เซ็น=ทางลัด ไม่ว่าใครก็ตรัสรู้ได้)

จะเห็นได้ว่าไม่ว่าแบบไหนก็ไปนิพพานเหมือนกัน ให้หลลุดพ้นเหมือนกัน เหมือนจะไปกรุงเทพ จากเชียงใหม่ จะไปทางไหนก็ได้ แล้วแต่สะดวก ไม่ว่าจะเลือกไปทางงไหนก็ถึงที่หมายเดียวกัน เพราะฉะนั้นไม่มีใครเขามาหมกมุ่นไร้สาระกับเรื่องจะกราบวัตถุหรือไมกราบ เพราะมันเป็นแค่เปลือก ไม่ใช่แก่น การที่ใครจะเลือกทางสายไหนจะเชื่ออย่างไรเขาถือว่าเป็นสิทธิ์ ศาสนาพุทธเขาไม่ได้บังคับ

พุทธแท้ไม่ใช่กราบ หรือ ไม่กราบวัตถุ แต่พุทธแท้ที่พระพุทธเจ้าพูดถึงคือ "สุญญตา" เป็นเรื่องที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ก่อนมีศาสนาพุทธ ก่อนจะมีเถรวาท ก่อนจะมีมหายาน พุทธแท้จึงไม่ใช่เรื่องของนิกายหรือความเชื่อ แต่พุทธแท้คือ "วิธีทำให้คนเข้าถึงสุญญตา เข้าถึงความว่าง"

เสริมนิดครับ ธรรมกายใช้จานบิน ^ ^


เกลียดควาย มีอะไร ป่ะ !!!

#30 bird

bird

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,191 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 12:59

คำเดียวค่ะ..

 

สังเวช....



#31 nunoi

nunoi

    เด็กข้างถนน

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,745 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 13:03

แค่สิทธิ์ของผู้อื่น ก็ไปละเมิด ลักษณะ นี้แล้ว 

 

 

เสรีภาพ ที่พวกเขาพูด ก็คงแค่ เสรีภาพ ในรูหนู


กฎหมายมันก็แค่สิงที่สร้างมาอย่างมีเป้าหมาย แต่หาก เอาแต่บอกว่ากฎหมายเป็นแบบนี้ แบบนั้น โดยไม่สนใจว่าเป้าหมายจริงๆ นันคืออะไร ก็คงไม่ใช่ 

 

 


#32 Lektiger

Lektiger

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 153 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 13:06

แก่นของพุทธศาสนาคือ ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์
บูชาสิ่งที่ควรบูชา
หลีกหนีอบายต่างๆ
ยึดทางสายกลาง เราจะเคารพสิ่งใด พุทธองค์ไม่หวงไม่ห้าม ดังนั้น กระทยคนหนึ่งที่มีความคิดแปลกแยก เป็นเรื่องของเขา อย่าเอาอัตตามาเป็นตัวตั้ง เราไม่ใส่ใจ ไม่ให้ความสำคัญก๊เท่านั้น เขาก็ไม่สามารถสร้างกระแสได้ ไม่เผยแพร่ต่อก็จบ

#33 Moo3storey

Moo3storey

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,284 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 13:24

ตรงนี้แหละครับที่เค้าไม่ยอมรับว่าธรรมกายเป็นพุทธ เพราะธรรมกายไม่เอาความว่าง นิพพานของธรรมกายไม่ใช่อนัตตา แต่ธรรมกายสอนว่านิพพานเป็นอัตตา ผิดหลัก นิพพานํ ปรมํ สุญฺญํ (ธรรมกายเป็นพวกเดียรถีย์ เป็นอันตรายอย่างร้ายแรงต่อพุทธศาสนา) ธรรมกายไม่ยึดหลักไตรลักษณ์ "อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา" ที่เป็นหัวใจของพุทธ แต่ธรรมกายสอนว่าไตรลักษณ์คือ นิจจัง สุขขัง อัตตา ไปสอนให้คนยึดติด พอใจ(ในความสุข) (เมื่อพอใจก็จะมีความไม่พอใจ)

เรื่องการบริจาค การให้ทาน พุทธสอนว่าเพื่อให้"เอาออกไป" ให้หมดความยึดมั่นถือมั่นว่าเป็นตัวกู หรือของกู การบริจาคขั้นสูงสุดต้องไม่อธิษฐาน ต้องไม่หวังผล (ถ้าหวังผลคือการค้าไม่ใช่บริจาค) การบริจาคทาน ต้องสลัดให้พ้นจากสิ่งที่ยึดมั่นถือมั่น ในขณะนั้นต้องมีจิตที่ว่างจากความรู้สึกว่าตัวเรา-ของเรา จึงจะเป็นการบริจาคทานขั้นสูงสุด
....แต่ธรรมกาย ปฏิบัติตรงข้ามทุกอย่างกับการให้ทาน


#34 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 13:26

อ่านความเห็นที่เอามาให้อ่านแล้วน่าเป็นห่วงครับ  :(

 

เป็นความเห็นของพวก "ตกจากสังคม ไม่มีใครคบ ถึงมากองอยู่รวมกันในที่ๆน่าสังเวช"

ไม่ใช่เสียงของคนมีสติหรอกครับท่าน  ไม่ต้องกลุ้มใจไป

 

 

ปล. อยากถามเพื่อนๆว่า เราเอารูปจากในเว็บนี้ไปแจ้งความได้ไหมครับ

ถ้าได้ ผมจะทำครับ


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#35 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 13:32

จริงๆที่อั้มทำมันผิดกม.นะ มีกม.คุ้มครองเรื่องนี้อยู่

มาตรา 206 แห่งประมวลกฎหมายอาญา “ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ แก่วัตถุหรือสถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยามศาสนานั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือ ปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

 

 

คดีตัวอย่างครับ

 

http://hijack-007.bl...-post_7852.html

อาญา มาตรา ๒๐๖ - ๒๑๖

 

 

ลักษณะ 4 ความผิดเกี่ยวกับศาสนา

 

มาตรา 206 ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ แก่วัตถุหรือสถาน อันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยามศาสนานั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

คำพิพากษาฎีกาที่ 736/2505 จำเลยขณะเป็นพระภิกษุได้ร่วมประเวณีกับหญิง ในกุฏิของจำเลย บนเขาวัง จังหวัดเพชรบุรี ไม่สมควรอย่างยิ่ง แต่จะถือว่าเป็นการเหยียดหยามศาสนา ตาม มาตรา 206 ยังไม่ถนัด

 

คำพิพากษาฎีกาที่ 5199/2533 ความผิดที่กระทำต่อเนื่องอาจเป็นความผิดหลายกระทงได้ หากได้ความว่าผู้กระทำผิดมีเจตนาหลายอย่างแต่ละอย่างเป็นความผิดที่สมบูรณ์แยกจากกันได้ /จำเลยฉีกธงชาติไทยอันมีความหมายถึงรัฐเพื่อเหยียดหยามประเทศชาติ และยังใช้ไม้ตีทุบเกศเศียรพระพุทธรูปอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของพุทธศาสนิกชนอันเป็นการเหยียดหยามศาสนา อันเป็นคนละเจตนา แต่ละเจตนาเป็นความผิดในตัวเองแยกจากกันเป็นความผิดคนละกระทง แม้กระทำต่อเนื่องกัน และแต่ละกระทงดังกล่าวคือเจตนา ในการทำให้เสียทรัพย์เช่นเดียวกัน จึงเป็นความผิดหลายบทในแต่ละกระทง กล่าวคือ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 118, 360, 90 กระทงหนึ่ง และมาตรา 206, 360 ทวิ, 90 อีกกระทงหนึ่ง

 

 

 

https://www.facebook...576044395769773

ข. จำเลยแต่งกายเป็นภิกษุแล้วใช้เท้าข้างหนึ่งยืนอยู่บนฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติ โดยเท้านายแดงอยู่บนส่วนหนึ่งของพระบาทพระพุทธรูปยกมือขวาขึ้นเลียนแบบพระพุทธรูป ส่วนใบหน้าของนายแดงแสดงท่าทางล้อเลียนถลึงตาอ้าปาก 

 

คำพิพากษาฎีกาที่ 1807/2550 


พระพุทธรูปเป็นที่เคารพสักการะในทางศาสนาของประชาชนผู้นับถือศาสนาพุทธทั่วไป การกระทำของจำเลยตามที่ปรากฏในภาพถ่าย จำเลยแต่งกายเป็นภิกษุแล้วใช้เท้าข้างหนึ่งยืนอยู่บนฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติ โดยเท้าจำเลยอยู่บนส่วนหนึ่งของพระบาทพระพุทธรูปยกมือขวาขึ้นเลียนแบบพระพุทธรูป ส่วนใบหน้าของจำเลยแสดงท่าทางล้อเลียนถลึงตาอ้าปากเช่นนี้ นอกจากจะเป็นการไม่เคารพต่อพระพุทธรูปแล้ว จำเลยยังได้แสดงตนเสมอกับพระพุทธรูป จึงเป็นการกระทำอันไม่สมควรและเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามพุทธศาสนา จำเลยจึงมีความผิดตามฟ้องที่จำเลยอ้างว่า จำเลยทำพิธีรักษาโรคโดยนั่งเพ่งกระแสจิตเกิดตัวลอยขึ้นไปยืนอยู่บนฐานพระพุทธรูปไม่มีเจตนาล้อเลียนนั้น เป็นข้ออ้างที่ไม่สมเหตุสมผลและไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุน ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้

 

 

http://natjar2001law...011/08/206.html

 

ความผิดฐานเหยียดหยามศาสนา ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 206 

ความผิดฐานเหยียดหยามศาสนา ไม่ค่อยมีคำพิพากษาฎีกาให้เราได้ศึกษากันมากนัก ด้วยประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ คนไทยส่วนใหญ่เป็นพุทธศาสนิกชน จึงไม่ค่อยเห็นการกระทำอันเป็นการเหยียดหยามศาสนาเท่าไรนัก 
ความผิดฐานนี้ ไม่ได้มีเจตนารมณ์เพื่อปกป้อง วัตถุหรือสถานของแต่ละศาสนา หากแต่มีเจตนารมณ์ของกฎหมายเพื่อปกป้องความรู้สึกของประชาชนในการนับถือศาสนา การพิจารณาความผิดตามมาตรานี้ จึงต้องนำความรู้สึกของวิญญูชนในแต่ละศาสนาเข้าคำนึงประกอบหากวิญญูชนเห็นว่า เป็นการเหยียดหยามศาสนา ก็ต้องถือว่าเป็นการเหยียดหยามศาสนา แม้ผู้กระทำจะอ้างว่าตนไม่ได้มีเจตนาเหยียดหยามศาสนา แต่กระทำไปด้วยเจตนาอื่นก็ตาม

 

มาตรา ๒๐๖ ผู้ใด กระทำด้วยประการใดๆ แก่ วัตถุ หรือ สถาน อันเป็นที่เคารพ ในทางศาสนา ของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยาม ศาสนานั้น ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ หนึ่งปี ถึง เจ็ดปี หรือ ปรับตั้งแต่ สองพันบาท ถึง หนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1807/2550 พิพากษาว่าพระพุทธรูปเป็นที่เคารพสักการะในทางศาสนาของประชาชนผู้นับถือศาสนาพุทธทั่วไป การกระทำของจำเลยตามที่ปรากฏในภาพถ่าย จำเลยแต่งกายเป็นภิกขุแล้วใช้เท้าข้างหนึ่งยืนอยู่บนฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติ โดยเท้าจำเลยอยู่บนส่วนหนึ่งของพระบาทพระพุทธรูปยกมือขวาขึ้นเลียนแบบพระพุทธรูป ส่วนใบหน้าของจำเลยแสดงท่าทางล้อเลียนถลึงตาอ้าปากเช่นนี้ นอกจากจะเป็นการไม่เคารพต่อพระพุทธรูปแล้ว จำเลยยังได้แสดงตนเสมอกับพระพุทธรูป จึงเป็นการกระทำอันไม่สมควรและเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามพุทธศาสนา จำเลยจึงมีความผิดตามฟ้องที่จำเลยอ้างว่า จำเลยทำพิธีรักษาโรคโดยนั่งเพ่งกระแสจิตเกิดตัวลอยขึ้นไปยืนอยู่บนฐานพระพุทธรูปไม่มีเจตนาล้อเลียนนั้น เป็นข้ออ้างที่ไม่สมเหตุสมผลและไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุน ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ คงจำคุก 8 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 

จากคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าว จะเห็นว่า แม้จำเลยจะอ้างว่าตนไม่ได้มีเจตนาเหยียดหยามพระพุทธรูป หากแต่ตนมีเจตนาทำพิธีรักษาโรคก็ตาม 

ความรู้สึกของพุทธศาสนิกชนเกี่ยวกับพระพุทธรูปนี้ เปราะบาง เพราะพุทธศาสนิกชนอาศัยพระพุทธรูปเพื่อระลึกถึงพระพุทธเจ้าเหมือน อาศัยรูปถ่ายบิดามารดาที่เสียชีวิตไปแล้ว เพื่อนึกถึงบิดามารดา เพื่อให้พระพุทธเจ้าทรงมีรูปธรรมปรากฏมากกว่าเป็นเพียงแค่นามธรรมจึงได้มีการสร้างพระพุทธรูป เหมือนกับการสร้างอนุสรณ์สถาน หรืออนุสาวรีย์วีรชน ก็เพื่อให้วีรชนเหล่านั้น(เช่นบางระจัน) มีรูปธรรมมากกว่าเป็นเพียงแค่นามธรรมที่นับวันจะถูกลืม 

 

หากไม่มีบทกฎหมายมาตรานี้ปกป้องความรู้สึกของพุทธศาสนิกชน ไม่แน่..ลางที ต่อไปในอนาคต พุทธศาสนิกชนอาจเจ็บปวดใจจากการที่มีผู้คนบางกลุ่มบางพวก นำพระพุทธรูปมาเหยียบ มาเผา มาทำลาย กันอย่างไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องใส่ใจความรู้สึกของใคร 


Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 13:37.

gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#36 Maratiraj_

Maratiraj_

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 826 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 13:39

 

จริงๆที่อั้มทำมันผิดกม.นะ มีกม.คุ้มครองเรื่องนี้อยู่

มาตรา 206 แห่งประมวลกฎหมายอาญา “ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดๆ แก่วัตถุหรือสถานอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยามศาสนานั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงเจ็ดปี หรือ ปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

 

 

คดีตัวอย่างครับ

 

http://hijack-007.bl...-post_7852.html

อาญา มาตรา ๒๐๖ - ๒๑๖

 

 

ลักษณะ 4 ความผิดเกี่ยวกับศาสนา

 

มาตรา 206 ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ แก่วัตถุหรือสถาน อันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยามศาสนานั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งถึงเจ็ดปี หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

คำพิพากษาฎีกาที่ 736/2505 จำเลยขณะเป็นพระภิกษุได้ร่วมประเวณีกับหญิง ในกุฏิของจำเลย บนเขาวัง จังหวัดเพชรบุรี ไม่สมควรอย่างยิ่ง แต่จะถือว่าเป็นการเหยียดหยามศาสนา ตาม มาตรา 206 ยังไม่ถนัด

 

คำพิพากษาฎีกาที่ 5199/2533 ความผิดที่กระทำต่อเนื่องอาจเป็นความผิดหลายกระทงได้ หากได้ความว่าผู้กระทำผิดมีเจตนาหลายอย่างแต่ละอย่างเป็นความผิดที่สมบูรณ์แยกจากกันได้ /จำเลยฉีกธงชาติไทยอันมีความหมายถึงรัฐเพื่อเหยียดหยามประเทศชาติ และยังใช้ไม้ตีทุบเกศเศียรพระพุทธรูปอันเป็นที่เคารพในทางศาสนาของพุทธศาสนิกชนอันเป็นการเหยียดหยามศาสนา อันเป็นคนละเจตนา แต่ละเจตนาเป็นความผิดในตัวเองแยกจากกันเป็นความผิดคนละกระทง แม้กระทำต่อเนื่องกัน และแต่ละกระทงดังกล่าวคือเจตนา ในการทำให้เสียทรัพย์เช่นเดียวกัน จึงเป็นความผิดหลายบทในแต่ละกระทง กล่าวคือ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 118, 360, 90 กระทงหนึ่ง และมาตรา 206, 360 ทวิ, 90 อีกกระทงหนึ่ง

 

 

 

https://www.facebook...576044395769773

ข. จำเลยแต่งกายเป็นภิกษุแล้วใช้เท้าข้างหนึ่งยืนอยู่บนฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติ โดยเท้านายแดงอยู่บนส่วนหนึ่งของพระบาทพระพุทธรูปยกมือขวาขึ้นเลียนแบบพระพุทธรูป ส่วนใบหน้าของนายแดงแสดงท่าทางล้อเลียนถลึงตาอ้าปาก 

 

คำพิพากษาฎีกาที่ 1807/2550 


พระพุทธรูปเป็นที่เคารพสักการะในทางศาสนาของประชาชนผู้นับถือศาสนาพุทธทั่วไป การกระทำของจำเลยตามที่ปรากฏในภาพถ่าย จำเลยแต่งกายเป็นภิกษุแล้วใช้เท้าข้างหนึ่งยืนอยู่บนฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติ โดยเท้าจำเลยอยู่บนส่วนหนึ่งของพระบาทพระพุทธรูปยกมือขวาขึ้นเลียนแบบพระพุทธรูป ส่วนใบหน้าของจำเลยแสดงท่าทางล้อเลียนถลึงตาอ้าปากเช่นนี้ นอกจากจะเป็นการไม่เคารพต่อพระพุทธรูปแล้ว จำเลยยังได้แสดงตนเสมอกับพระพุทธรูป จึงเป็นการกระทำอันไม่สมควรและเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามพุทธศาสนา จำเลยจึงมีความผิดตามฟ้องที่จำเลยอ้างว่า จำเลยทำพิธีรักษาโรคโดยนั่งเพ่งกระแสจิตเกิดตัวลอยขึ้นไปยืนอยู่บนฐานพระพุทธรูปไม่มีเจตนาล้อเลียนนั้น เป็นข้ออ้างที่ไม่สมเหตุสมผลและไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุน ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้

 

 

http://natjar2001law...011/08/206.html

 

ความผิดฐานเหยียดหยามศาสนา ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 206 

ความผิดฐานเหยียดหยามศาสนา ไม่ค่อยมีคำพิพากษาฎีกาให้เราได้ศึกษากันมากนัก ด้วยประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ คนไทยส่วนใหญ่เป็นพุทธศาสนิกชน จึงไม่ค่อยเห็นการกระทำอันเป็นการเหยียดหยามศาสนาเท่าไรนัก 
ความผิดฐานนี้ ไม่ได้มีเจตนารมณ์เพื่อปกป้อง วัตถุหรือสถานของแต่ละศาสนา หากแต่มีเจตนารมณ์ของกฎหมายเพื่อปกป้องความรู้สึกของประชาชนในการนับถือศาสนา การพิจารณาความผิดตามมาตรานี้ จึงต้องนำความรู้สึกของวิญญูชนในแต่ละศาสนาเข้าคำนึงประกอบหากวิญญูชนเห็นว่า เป็นการเหยียดหยามศาสนา ก็ต้องถือว่าเป็นการเหยียดหยามศาสนา แม้ผู้กระทำจะอ้างว่าตนไม่ได้มีเจตนาเหยียดหยามศาสนา แต่กระทำไปด้วยเจตนาอื่นก็ตาม

 

มาตรา ๒๐๖ ผู้ใด กระทำด้วยประการใดๆ แก่ วัตถุ หรือ สถาน อันเป็นที่เคารพ ในทางศาสนา ของหมู่ชนใด อันเป็นการเหยียดหยาม ศาสนานั้น ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ หนึ่งปี ถึง เจ็ดปี หรือ ปรับตั้งแต่ สองพันบาท ถึง หนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1807/2550 พิพากษาว่าพระพุทธรูปเป็นที่เคารพสักการะในทางศาสนาของประชาชนผู้นับถือศาสนาพุทธทั่วไป การกระทำของจำเลยตามที่ปรากฏในภาพถ่าย จำเลยแต่งกายเป็นภิกขุแล้วใช้เท้าข้างหนึ่งยืนอยู่บนฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติ โดยเท้าจำเลยอยู่บนส่วนหนึ่งของพระบาทพระพุทธรูปยกมือขวาขึ้นเลียนแบบพระพุทธรูป ส่วนใบหน้าของจำเลยแสดงท่าทางล้อเลียนถลึงตาอ้าปากเช่นนี้ นอกจากจะเป็นการไม่เคารพต่อพระพุทธรูปแล้ว จำเลยยังได้แสดงตนเสมอกับพระพุทธรูป จึงเป็นการกระทำอันไม่สมควรและเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามพุทธศาสนา จำเลยจึงมีความผิดตามฟ้องที่จำเลยอ้างว่า จำเลยทำพิธีรักษาโรคโดยนั่งเพ่งกระแสจิตเกิดตัวลอยขึ้นไปยืนอยู่บนฐานพระพุทธรูปไม่มีเจตนาล้อเลียนนั้น เป็นข้ออ้างที่ไม่สมเหตุสมผลและไม่มีพยานหลักฐานสนับสนุน ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ คงจำคุก 8 เดือน และปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 

จากคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าว จะเห็นว่า แม้จำเลยจะอ้างว่าตนไม่ได้มีเจตนาเหยียดหยามพระพุทธรูป หากแต่ตนมีเจตนาทำพิธีรักษาโรคก็ตาม 

ความรู้สึกของพุทธศาสนิกชนเกี่ยวกับพระพุทธรูปนี้ เปราะบาง เพราะพุทธศาสนิกชนอาศัยพระพุทธรูปเพื่อระลึกถึงพระพุทธเจ้าเหมือน อาศัยรูปถ่ายบิดามารดาที่เสียชีวิตไปแล้ว เพื่อนึกถึงบิดามารดา เพื่อให้พระพุทธเจ้าทรงมีรูปธรรมปรากฏมากกว่าเป็นเพียงแค่นามธรรมจึงได้มีการสร้างพระพุทธรูป เหมือนกับการสร้างอนุสรณ์สถาน หรืออนุสาวรีย์วีรชน ก็เพื่อให้วีรชนเหล่านั้น(เช่นบางระจัน) มีรูปธรรมมากกว่าเป็นเพียงแค่นามธรรมที่นับวันจะถูกลืม 

 

หากไม่มีบทกฎหมายมาตรานี้ปกป้องความรู้สึกของพุทธศาสนิกชน ไม่แน่..ลางที ต่อไปในอนาคต พุทธศาสนิกชนอาจเจ็บปวดใจจากการที่มีผู้คนบางกลุ่มบางพวก นำพระพุทธรูปมาเหยียบ มาเผา มาทำลาย กันอย่างไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องใส่ใจความรู้สึกของใคร 

 

พวกนี้จะสร้างประเด็น เพื่อทำลายกฏหมายคุ้มครองศาสนาไปพร้อมๆกันเลยหรือเปล่า



#37 dek-harte

dek-harte

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 162 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 15:10

กรณีนี้ต้องทำใจครับ ทางพุทธศาสนามีคำที่ใช้ทำใจว่า "ปลงสังเวช" ซึ่งไม่ใช่การสงสาร

แต่เป็นการมองเห็นและยอมรับว่า สิ่งต่างๆทั้งหลายทั้งปวงย่อมที่จะต้องดำเนินไปตามกรรมที่ทำมา

 

ทั้งตัว อั้ม เนโกะ และพรรคพวกที่แสดงความเห็นเอออวยกัน เป็นชาวพุทธแต่ในทะเบียนบ้านเท่านั้น

ไม่ได้มีการศึกษา ไม่ได้มีการปฏิบัติ หยิบจับคำต่างๆ เบลอๆ เลือนๆ มาอ้างมาอิง แถเอาในสิ่งที่ตัวเองชอบใจ ฝักใฝ่...เท่านั้นเอง

 

https://www.facebook...&type=1

 

อั้มคิดว่าการทำเช่นนี้ แสดงออกถึงเสรีภาพ ไม่ยึดติดความเชื่อ

แต่หลักของการไม่ยึดติดความเชื่อนั้น อนุญาตให้ทำร้ายเฉพาะความเชื่อตนเอง ไม่ใช่ทำร้ายความเชื่อผู้อื่น

ข้อนี้รับรองว่าเขาไม่เข้าใจ

 

อั้มคิดว่า เขาเป็นคนแบบนี้เพราะเขาเลือก สุดท้ายแล้วอั้มก็ยังหลงประเด็นอยู่ดี เพราะแท้จริงแล้ว

อั้มเป็นแบบนี้ ส่วนหนึ่งเพราะการเรียนรู้ระหว่างที่โตมา และการอบรมสังสอนด้วย

 

อั้มคิดว่าศาสนาแบ่งแยกชายหญิงทางด้านสิทธิ แต่แท้จริงแล้วศาสนาแบ่งแยกชายหญิงตามเพศสภาพต่างหาก

ซึ่งผมว่าข้อนี้อั้มก็ไม่เข้าใจ

 

ศาสนทุกศาสนาเป็นเรื่องละเอียด เป็นเรื่องที่ต้องใช้วิจารณญาณ ความรอบคอบในการศึกษา ในการปฏิบัติทั้งนั้น

ทุกศาสนามีคำสอนที่แบ่งขั้นตอนกันของระดับจิตใจ มีตั้งแต่คำสอนเบื้องต้นที่ใช้ได้กับทุกคน จนถึงคำสอนขั้นสูงที่ใช้อบรมจิตที่อบรมแล้ว

ทุกศาสนามีความเชื่อปะปน และผู้ที่จะแยกแยะความเชื่อออกจากศาสนาไม่ใช่ตัวศาสนาแต่เป็นตัวผู้ปฏิบัติ

 

อยากให้พุทธศาสนิกชนมองเรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาครับ เป็นเสมือนบันไดที่จะช่วยยกใจเราขึ้นอีก

หากเราเป็นผู้ที่เคารพนับถือศาสนา ก็เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องศึกษาเพิ่มเติม ต้องมองเรื่องนี้โดยความเข้าใจ

ประเด็นไหนในเรื่องนี้ที่ทำให้เราเอง คับเคืองใจ ก็ลองหาข้อมูลเรื่องประเด็นนั้นๆเพื่อทำความเข้าใจ หาวิธีปฏิบัติเพื่อลดความคับเคืองใจ

เพื่อให้เรา ละในส่วนคับเคืองใจนั้นๆเสีย เพื่อความเติบโตขึ้นทางจิตใจของเราเองครับ

 

ส่วนบันไดที่เราเหยียบขึ้นไปสำหรับการเจริญจิตใจของเราเอง

ก็จะคงอยู่ที่เดิมตรงนั้น เราเองก็ต้องมองกลับมาที่บันไดด้วยใจเป็นธรรม และปลงสังเวช เท่านั้นครับ

 

ขอบคุณครับ



#38 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 15:52

^

^

ก็จริงของท่านครับ

 

 

แต่ผมอยากแจ้งความนะครับ

 

กรณีพระเกษม ศาลชั้นต้นเคยยกฟ้องไปแล้วด้วยเหตุผลคือคนที่ฟ้องไม่ใช่ผู้เสียหาย

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้พระเกษมมีความผิด

 

ผมกลัวตรงที่ถ้าผมไปแจ้งความแล้วจะทำไม่ได้ เพราะไม่ใช่ผู้เสียหายน่ะสิครับ

 

แต่ที่ผมอยากทำ ตั้งใจจะสละเวลาไปทำ  เพื่อปกป้องพระศาสนา

และเพื่อสอนบทเรียนให้พวกเขารู้ว่า "การเคารพผู้อื่น คือหลักสรีภาพขั้นพื้นฐาน" ครับ


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#39 RTASF91

RTASF91

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 257 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 19:19

สงสัยต้องจัดโปรฯ  แจกถั่ว แข่งกับ อิชิตัน บ้างซะแล้วมั้ง  


พิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล  

 

ทหารทุกนายผ่านพิธีนั้นแล้ว  พึงเพียรปฏิบัติให้ครบตามคำสัตย์ปฏิญาณทุกข้อนั้น


#40 dek-harte

dek-harte

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 162 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 19:52

^

^

ก็จริงของท่านครับ

 

 

แต่ผมอยากแจ้งความนะครับ

 

กรณีพระเกษม ศาลชั้นต้นเคยยกฟ้องไปแล้วด้วยเหตุผลคือคนที่ฟ้องไม่ใช่ผู้เสียหาย

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้พระเกษมมีความผิด

 

ผมกลัวตรงที่ถ้าผมไปแจ้งความแล้วจะทำไม่ได้ เพราะไม่ใช่ผู้เสียหายน่ะสิครับ

 

แต่ที่ผมอยากทำ ตั้งใจจะสละเวลาไปทำ  เพื่อปกป้องพระศาสนา

และเพื่อสอนบทเรียนให้พวกเขารู้ว่า "การเคารพผู้อื่น คือหลักสรีภาพขั้นพื้นฐาน" ครับ

 

ขอโทษทีครับ ข้อความผมอาจทำให้เข้าใจผิด

ที่หมายความเรื่อง ปลงสังเวช ไม่ได้หมายความว่า ชวนให้ทำเฉย กับกรณีนี้ครับ

ถ้าท่านผึ้งอยากแจ้งความก็ทำได้ครับ ผมต้องอนุโมทนาเสียด้วยซ้ำ เพราะว่าการดำเนินการใดๆในกรณีแบบนี้

ย่อมต้องเสียสละเวลา ฯลฯ ผมได้แต่ขอบคุณแทนตัวผมเองและหลายๆคนเสียด้วยซ้ำ

 

ขอบคุณครับ



#41 -เจ๊ม้าม-

-เจ๊ม้าม-

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 980 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 20:02

พวกอยากที่จะเป็น somebody ในสังคม แต่ไม่รู้จะทำยังไงก็ค้านประเพณีของสังคมนั้นเลย และเผอิญว่าโลกสมัยนี้มันทำให้พล่ามได้ง่ายขึ้น เลยเลือกที่จะแสดงออกทางนี้ 



#42 เส้นใหญ่ไม่งอก

เส้นใหญ่ไม่งอก

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,033 posts

ตอบ 13 เมษายน พ.ศ. 2557 - 20:42

คนแบบอั้ม เนโกะเป็นคนประเภทที่เรียกว่า ต่อต้านสังคม

 

ถ้าเราบอกถูก มันจะบอกว่าผิด

 

ถ้าเราบอกซ้าย มันจะบอกว่าขวา

 

สิ่งที่คนอื่นไม่ทำ ไอ้พวกนี้จะทำ แต่ถ้าคนส่วนใหญ่ทำ มันก็จะไม่ทำ

 

คนแบบนี้ขาดความรัก เลยไม่รู้จักโต อยากให้มีคนสนใจ อยากให้คนรู้ว่ามันมีตัวตนอยู่ในสังคม

 

เหมือนเด็กดื้อ ที่แหกปากเพื่อเรียกร้องความสนใจ

 

เพียงแต่ว่ามันโตแล้ว น่าจะมีวุฒิภาวะที่รู้ว่าอะไรเหมาะไม่เหมาะ แต่ก็ไม่

 

น่าสงสารพ่อแม่คนพวกนี้ เพราะแม้แต่พ่อแม่แท้ๆ ของมัน ผมเชื่อว่ามันก็ไม่ให้ความเคารพ

 

เพื่อให้พ่อแม่ของมันรู้ว่ามันอยู่เหนือการควบคุม มันไม่เหมือนคนอื่นๆ

 

วิธีแก้ไม่มีอะไรมาก เพียงแต่ว่าทำยาก

 

คือทุกคนต้องไม่ให้ความสำคัญ ต้องไม่สนใจมัน



#43 Deadbird

Deadbird

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 75 posts

ตอบ 14 เมษายน พ.ศ. 2557 - 12:00

อีนี่ อยู่ใกล้ผม โดนตืบไปนานแล้ว



#44 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2557 - 12:23

พระพุทธรูป  เป็นสิ่งที่ผู้มีศรัทธาได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องเตือนให้น้อมระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งพระปัญญาคุณ  พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาคุณ โดยไม่มีใครเสมอเหมือน  พระพุทธศาสนา ไม่ได้อยู่ที่รูปวัตถุ   แต่อยู่ที่พระธรรมคำสอนของพระองค์ที่ทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา   ถ้าไม่ฟัง ไม่ศึกษา ย่อมไม่มีทางที่จะเข้าใจ เมื่อไม่เข้าใจไม่น้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมคำสอน   วัตถุรูปต่าง ๆ ก็ไม่มีความหมาย เพราะถ้าไม่ศึกษาพระธรรม ไม่น้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรม    พระพุทธศาสนาก็ย่อมจะอันตรธานจากใจของผู้นั้น ไม่สามารถรักษาพระพุทธศาสนาไว้ได้

พระพุทธรูป   ควรแก่การเคารพสักการะบูชา เพื่อเป็นเครื่องเตือนให้น้อมระลึกถึงพระคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เท่านั้น     ไม่ใช่เพื่ออย่างอื่น

ยกตัวอย่าง พระปัญญาคุณ  พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาคุณ ของพระพุทธเจ้าว่าเหตุใดเราจึงเคารพสักการะพระพุทธรูป เพื่อเป็นเครื่องเตือนให้น้อมระลึกถึงพระองค์ท่าน

 [๗๘๐]   เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว    พราหมณ์นั้นได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์ไพเราะยิ่งนักเปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ  เปิดของที่ปิด บอกทางแก่บุคคลผู้หลงทางหรือตามประทีปในที่มืด ด้วยหวังว่าผู้มีจักษุจักแลเห็นได้  ฉะนั้น  ขอท่านพระโคดมโปรดทรงจำข้าพระองค์ ว่าเป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะจนตลอดชีวิตตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป.

พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม กับ บุคคลต่างๆ แม้พวกนอกศาสนา เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังพระธรรม เกิดความเข้าใจ คือ เกิดปัญญาเห็นแจ้งด้วยตนเอง จึงเปล่งอุทาน ดังข้อความที่ยกมา

ภาษิตของพระองค์ไพเราะยิ่งนัก คือ

ไพเราะ ด้วยน้ำเสียงของพระองค์ และพระธรรม เพราะเป็นคำจริง เป็นสัจจะ   ไพเราะทั้ง  อรรถ และ พยัญชนะ เป็นถ้อยคำที่ทำให้ละอกุศลเกิดปัญญา เมื่อปัญญาเกิด ความเข้าใจพระธรรมจึงไพเราะจับใจด้วยกุศลธรรมทีเกิดขึ้น ไพเราะทั้งพระธรรมของพระพุทธเจ้า ไพเราะเพราะทำให้ผู้ฟังเกิดกุศล และ ปัญญา

เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ  คือ

ผู้ที่ตกอยู่ใน อวิชชา และกิเลส พระธรรมของพระองค์ทำให้ออกจากกิเลส พ้นจากกิเลส ดังเช่น บุคคลหงายของที่คว่ำ ถูกปิดคว่ำ ปิดกั้นด้วยกิเลส  ของที่คว่ำอยู่ ย่อมไม่เปิดเผย ย่อมไม่เห็นตามความเป็นจริง เมื่อหงายของนั้นออก พระธรรมของพระองค์ ก็เหมือนการทำให้ผุ้ฟังเกิดปัญญา เห็นสภาพธรรมตามความเป็นจริงว่าเป็นธรรมที่ถูกอวิชชาคว่ำไว้ไม่เห็นตามความเป็นจริง พระธรรมทำให้เกิดปัญญาจึงหงายของนั้นออก เห็นสภาพธรรมตามความเป็นจริงในที่สุด

เปิดของที่ปิด คือ

พระพุทธเจ้า ทรงเปิด ความเห็นถูก จากที่ถูกปิดไว้ ด้วยกิเลส คือมิจฉาทิฏฐิ ความเห็นผิด เมื่อพระองค์ ทรงแสดงธรรม เปิดให้สัตว์โลกได้มีความเห็นถูก ทรงแสดงถึงเหตุแห่งทุกข์ คือ อวิชชา และ ตัณหา ซึ่งถูกปกปิด ไม่มีใครรู้ เมื่อพระองค์แสดงธรรม จึงทำให้สัตว์โลกรู้เหตุแห่งทุกข์ เช่นเดียวกับการเปิดของที่ปิด เปิดให้รู้ความจริง ว่าเหตุแห่งทุกข์ คือ อะไร ทำให้สัตว์โลกเกิดปัญญาของตนเอง

บอกทางแก่บุคคลผู้หลงทาง  คือ

พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ทำให้ผู้ฟัง รู้ทางสวรรค์และทางถึงพระนิพพาน เพราะอำนาจกิเลส ทำให้ไม่รู้จักทางที่ถูกต้องหลงไปในทางที่ต่ำ แต่พระธรรมทำให้รู้ว่า   กุศลคืออะไร และถึงความสุขได้อย่างไรด้วยการเจริญกุศลทุกประการ และบอกทางที่จะทำให้พ้นจากกทุกข์คือ อริยมรรค

ตามประทีปในที่มืดด้วยหวังว่าผู้มีจักษุจักแลเห็นได้ คือ

พระธรรม และปัญญา เปรียบเหมือน ประทีป แสงสว่าง ที่ช่วยกำจัดความมืดของเหล่าสัตว์ คือ โมหะ ความไม่รู้ ให้หมดสิ้นไป เห็นตามความเป็นจริง ด้วยแสงสว่าง คือ ปัญญา

พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และแสดงพระธรรม เพื่ออนุเคราะห์สัตว์โลกให้ได้เข้าใจความจริงถึง ๔๕ พรรษาเมื่อใดก็ตามที่มีโอกาสได้ฟัง ได้เข้าใจ  เป็นผู้เห็นคุณค่าของพระธรรม  จึงเกิดความซาบซึ้ง จึงกล่าวสรรเสริญพระภาษิตของพระองค์  ที่ทำให้ได้เข้าใจในสิ่งที่กำลังฟังตามความเป็นจริง

เพราะเหตุนี้เราจึงเคารพสักการะพระพุทธรูปเพื่อเป็นเครื่องเตือนให้น้อมระลึกถึงพระองค์ท่าน ดังนั้น การวิพากษ์วิจารณ์ สิ่งที่ไม่รู้จริง ด้วยความหยาบทั้ง กาย วาจา ใจ ในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยพิจราณาอย่างถ่องแท้ ไม่เคยมีความเข้าใจแม้สักกระผีก เป็นเพียงเรื่องที่ นึกเอง คาดเอง-เดาเอง ให้เป็นไปตามอกุศลจิตของใจตัวเองเท่านั้น ย่อมไม่ใช่ คำสอนทางพระพุทธศาสนาอย่างแน่นอน เป็นการนับถือศาสนาพุทธตามบัตรประชาชนเท่านั้น    เพราะผู้มีปัญญาแล้ว ไม่…..แม้แต่จะคิด

 

ฟ้ากับดินไกลกัน ฝั่งสมุทรก็ไกลกัน

พระอาทิตย์ส่องแสงยามอุทัย กับยามอัสดงไกลกัน

ธรรมของสัตบุรุษ กับธรรมของอสัตบุรุษไกลกันยิ่งกว่านั้น

 

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย


Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy


#45 Maratiraj_

Maratiraj_

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 826 posts

ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2557 - 13:01

พระพุทธรูป  เป็นสิ่งที่ผู้มีศรัทธาได้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเครื่องเตือนให้น้อมระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งพระปัญญาคุณ  พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาคุณ โดยไม่มีใครเสมอเหมือน  พระพุทธศาสนา ไม่ได้อยู่ที่รูปวัตถุ   แต่อยู่ที่พระธรรมคำสอนของพระองค์ที่ทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา   ถ้าไม่ฟัง ไม่ศึกษา ย่อมไม่มีทางที่จะเข้าใจ เมื่อไม่เข้าใจไม่น้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมคำสอน   วัตถุรูปต่าง ๆ ก็ไม่มีความหมาย เพราะถ้าไม่ศึกษาพระธรรม ไม่น้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรม    พระพุทธศาสนาก็ย่อมจะอันตรธานจากใจของผู้นั้น ไม่สามารถรักษาพระพุทธศาสนาไว้ได้

พระพุทธรูป   ควรแก่การเคารพสักการะบูชา เพื่อเป็นเครื่องเตือนให้น้อมระลึกถึงพระคุณของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เท่านั้น     ไม่ใช่เพื่ออย่างอื่น

ยกตัวอย่าง พระปัญญาคุณ  พระบริสุทธิคุณ และพระมหากรุณาคุณ ของพระพุทธเจ้าว่าเหตุใดเราจึงเคารพสักการะพระพุทธรูป เพื่อเป็นเครื่องเตือนให้น้อมระลึกถึงพระองค์ท่าน

 [๗๘๐]   เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว    พราหมณ์นั้นได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ภาษิตของพระองค์ไพเราะยิ่งนักเปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ  เปิดของที่ปิด บอกทางแก่บุคคลผู้หลงทางหรือตามประทีปในที่มืด ด้วยหวังว่าผู้มีจักษุจักแลเห็นได้  ฉะนั้น  ขอท่านพระโคดมโปรดทรงจำข้าพระองค์ ว่าเป็นอุบาสกผู้ถึงสรณะจนตลอดชีวิตตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป.

พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม กับ บุคคลต่างๆ แม้พวกนอกศาสนา เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังพระธรรม เกิดความเข้าใจ คือ เกิดปัญญาเห็นแจ้งด้วยตนเอง จึงเปล่งอุทาน ดังข้อความที่ยกมา

ภาษิตของพระองค์ไพเราะยิ่งนัก คือ

ไพเราะ ด้วยน้ำเสียงของพระองค์ และพระธรรม เพราะเป็นคำจริง เป็นสัจจะ   ไพเราะทั้ง  อรรถ และ พยัญชนะ เป็นถ้อยคำที่ทำให้ละอกุศลเกิดปัญญา เมื่อปัญญาเกิด ความเข้าใจพระธรรมจึงไพเราะจับใจด้วยกุศลธรรมทีเกิดขึ้น ไพเราะทั้งพระธรรมของพระพุทธเจ้า ไพเราะเพราะทำให้ผู้ฟังเกิดกุศล และ ปัญญา

เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ  คือ

ผู้ที่ตกอยู่ใน อวิชชา และกิเลส พระธรรมของพระองค์ทำให้ออกจากกิเลส พ้นจากกิเลส ดังเช่น บุคคลหงายของที่คว่ำ ถูกปิดคว่ำ ปิดกั้นด้วยกิเลส  ของที่คว่ำอยู่ ย่อมไม่เปิดเผย ย่อมไม่เห็นตามความเป็นจริง เมื่อหงายของนั้นออก พระธรรมของพระองค์ ก็เหมือนการทำให้ผุ้ฟังเกิดปัญญา เห็นสภาพธรรมตามความเป็นจริงว่าเป็นธรรมที่ถูกอวิชชาคว่ำไว้ไม่เห็นตามความเป็นจริง พระธรรมทำให้เกิดปัญญาจึงหงายของนั้นออก เห็นสภาพธรรมตามความเป็นจริงในที่สุด

เปิดของที่ปิด คือ

พระพุทธเจ้า ทรงเปิด ความเห็นถูก จากที่ถูกปิดไว้ ด้วยกิเลส คือมิจฉาทิฏฐิ ความเห็นผิด เมื่อพระองค์ ทรงแสดงธรรม เปิดให้สัตว์โลกได้มีความเห็นถูก ทรงแสดงถึงเหตุแห่งทุกข์ คือ อวิชชา และ ตัณหา ซึ่งถูกปกปิด ไม่มีใครรู้ เมื่อพระองค์แสดงธรรม จึงทำให้สัตว์โลกรู้เหตุแห่งทุกข์ เช่นเดียวกับการเปิดของที่ปิด เปิดให้รู้ความจริง ว่าเหตุแห่งทุกข์ คือ อะไร ทำให้สัตว์โลกเกิดปัญญาของตนเอง

บอกทางแก่บุคคลผู้หลงทาง  คือ

พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดง ทำให้ผู้ฟัง รู้ทางสวรรค์และทางถึงพระนิพพาน เพราะอำนาจกิเลส ทำให้ไม่รู้จักทางที่ถูกต้องหลงไปในทางที่ต่ำ แต่พระธรรมทำให้รู้ว่า   กุศลคืออะไร และถึงความสุขได้อย่างไรด้วยการเจริญกุศลทุกประการ และบอกทางที่จะทำให้พ้นจากกทุกข์คือ อริยมรรค

ตามประทีปในที่มืดด้วยหวังว่าผู้มีจักษุจักแลเห็นได้ คือ

พระธรรม และปัญญา เปรียบเหมือน ประทีป แสงสว่าง ที่ช่วยกำจัดความมืดของเหล่าสัตว์ คือ โมหะ ความไม่รู้ ให้หมดสิ้นไป เห็นตามความเป็นจริง ด้วยแสงสว่าง คือ ปัญญา

พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และแสดงพระธรรม เพื่ออนุเคราะห์สัตว์โลกให้ได้เข้าใจความจริงถึง ๔๕ พรรษาเมื่อใดก็ตามที่มีโอกาสได้ฟัง ได้เข้าใจ  เป็นผู้เห็นคุณค่าของพระธรรม  จึงเกิดความซาบซึ้ง จึงกล่าวสรรเสริญพระภาษิตของพระองค์  ที่ทำให้ได้เข้าใจในสิ่งที่กำลังฟังตามความเป็นจริง

เพราะเหตุนี้เราจึงเคารพสักการะพระพุทธรูปเพื่อเป็นเครื่องเตือนให้น้อมระลึกถึงพระองค์ท่าน ดังนั้น การวิพากษ์วิจารณ์ สิ่งที่ไม่รู้จริง ด้วยความหยาบทั้ง กาย วาจา ใจ ในสิ่งที่ตัวเองไม่เคยพิจราณาอย่างถ่องแท้ ไม่เคยมีความเข้าใจแม้สักกระผีก เป็นเพียงเรื่องที่ นึกเอง คาดเอง-เดาเอง ให้เป็นไปตามอกุศลจิตของใจตัวเองเท่านั้น ย่อมไม่ใช่ คำสอนทางพระพุทธศาสนาอย่างแน่นอน เป็นการนับถือศาสนาพุทธตามบัตรประชาชนเท่านั้น    เพราะผู้มีปัญญาแล้ว ไม่…..แม้แต่จะคิด

 

ฟ้ากับดินไกลกัน ฝั่งสมุทรก็ไกลกัน

พระอาทิตย์ส่องแสงยามอุทัย กับยามอัสดงไกลกัน

ธรรมของสัตบุรุษ กับธรรมของอสัตบุรุษไกลกันยิ่งกว่านั้น

 

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

จริง ถ้าโจมตีศาสนาพุทธ วิธีดูหมิ่นรูปเคารพ ใช้ไม่ได้ผลหรอก
ต้องโจมตีที่คำสอนในพระธรรม ถึงจะได้ผลมากกว่า



#46 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2557 - 13:24

10253816_1493226197562846_44308783916002

 

เดบิด - เพจตบดิ้น 


ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#47 Moo3storey

Moo3storey

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,284 posts

ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2557 - 14:30

639f2af138.jpg

ดร.รัชดา ธนาดิเรก

แม้จะไม่ใช่ภาพใหม่และไม่ใช่เมืองไทย..
รู้สึกดีที่เห็นคนต่างศาสนาและวัฒนธรรมเคารพในประเพณีอันดีงามที่เรานับถือปฏิบัติ


#48 pooyong

pooyong

    สมาชิกขั้นไม่สูง แต่สูงอายุ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,292 posts

ตอบ 15 เมษายน พ.ศ. 2557 - 16:24

เหมือนแม่มัน

 

750.jpg


การรับใช้แผ่นดิน คือความเบิกบาน




ผู้ใช้ 2 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 2 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน