Jump to content


Photo
- - - - -

Make me a German จาก Face คุณ กรณ์


  • Please log in to reply
161 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 a.mtvv

a.mtvv

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,190 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 00:54

*
POPULAR

1017159_730507113656599_1497416600_n.jpg

» BBC ไขความลับ อุปนิสัยพื้นฐานของ...ชนชาติเยอรมัน

ด้วยความที่อุปนิสัยใจคอของคนไทย มีความแตกต่างหรือแทบจะตรงกันข้ามกับคนเยอรมันในทุก ๆ เรื่อง

วันนี้...จึงขอนำเสน อสารคดีจาก BBC ของอังกฤษชุด “Make me a German” ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวของครอบครัวนักข่าวชาวอังกฤษ ที่ประกอบด้วยสามี ภรรยา และลูกน้อย ที่ยินดีจะไปใช้ชีวิตในเยอรมนี

เพื่อค้นหาความลับว่า...อะไรที่ทำให้ประเทศนี้ประสบความสำเร็จทางด้านเศรษฐกิจได้ดีขนาดนี้

(เยอรมนีเป็นพี่เบิ้มของยุโรป ปัญหา Euro Zone ที่ยังประคับประคองกันได้อยู่ ก็อาศัยประเทศหลักอย่างเยอรมนี และยังเป็นผู้นำการส่งออกอันดับสามของโลกอย่างเครื่องไฟฟ้า เครื่องซักผ้า เบียร์ Mercedes Benz รถไฟฟ้าความเร็วสูง)

======

สองสามีภรรยาชาวอังกฤษได้ค้นพบว่า ระดับหนี้สินต่อครัวเรือนของคนเยอรมันอยู่ในระดับต่ำมากที่สุดในยุโรป ชาวบ้านทั่วไปนิยมใช้จ่ายด้วยเงินสดมากกว่าบัตรเครดิต

ธนาคารไม่อนุมัติบัตรเครดิตให้กันง่าย ๆ ในขณะที่ชาวเยอรมันก็ไม่ต้องการได้บัตรเครดิตง่าย ๆ เช่นกัน

ทั้งยังสามารถออมเงินได้ 10% ของเงินเดือนแทบทุกคน

ผู้คนส่วนใหญ่มีเงินฝากในธนาคารเป็นกอบเป็นกำทำให้ระบบการหมุนเวียนของเงินกู้กับเงินฝากสมดุลกันได้ดี

คนเยอรมันไม่นิยมเอาบ้านหรือรถยนต์ไปจำนองเพื่อนำเงินมาทำธุรกิจ เพราะถือว่าเป็นความเสี่ยงที่อาจจะสูญเสียทรัพย์สินที่มีอยู่

คนเยอรมันใช้เวลาทำงานต่อสัปดาห์น้อยกว่าคนในชาติอื่น ๆ ทั่วโลก แต่ได้ประสิทธิภาพมากกว่า การทำงานล่วงเวลาถูกมองว่าเป็นสิ่งไม่เหมาะสม เนื่องจากการให้เวลากับครอบครัวหลังเลิกงานถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก

เวลาแปดชั่วโมงต่อวัน คนเยอรมันทำงานอย่างจริงจังในเวลางาน ไม่เสียเวลาไปกับการพูดคุยเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับงาน อีเมลล์ส่วนตัว Facebook และโทรศัพท์มือถือ ...เป็นที่รู้กันว่าไม่ควรใช้ในชั่วโมงทำงาน

======

นักข่าวชาวอังกฤษที่ไปทำงานในโรงงาน Faber & Castel ที่เยอรมนี ยังถูกต่อว่าจากเพื่อนร่วมงานทันทีที่หยิบโทรศัพท์เพื่อต้องการส่ง SMS แค่ครั้งเดียว

หญิงสาวชาวอังกฤษผู้หนึ่งยังให้สัมภาษณ์ว่า ชีวิตในที่ทำงานที่นี่เขาจริงจังกันมาก ไม่มีการพูดคุย นินทา ไม่อยากรู้อยากเห็นว่าใครเป็นแฟนใคร ใครเลิกกับใคร ใครจะไปออกเดทกับใคร

ไม่แม้แต่จะเล่าเรื่องละครทีวีที่ดูเมื่อคืน เลิกงานแล้วจะไปไหน จะไปทานดินเนอร์กับใคร ก็ไม่มีการพูดคุยกัน

การมาทำงานสายจะถูกมองว่าเป็นคนไม่รักษาสัญญา จะมาสายสามนาทีหรือสามสิบนาที ก็ถือว่าเป็นคนไม่มีคุณภาพเพราะขาดความเคารพต่อตัวเองและองค์กร

สองในสามของคุณแม่มือใหม่จะไม่ทำงานนอกบ้าน การบอกว่าเป็น Housewife ในประเทศอื่น ๆ อาจจะรู้สึกเขินอายเหมือนว่าตนเองไม่มีงานทำ แต่ที่นี่มีแต่ความภาคภูมิใจหากจะได้เป็น Housewife

รัฐบาลให้สวัสดิการดีกับคุณแม่ที่ต้องออกจากงาน ทั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้แม่ได้เลี้ยงดูลูกด้วยตนเอง การให้เวลากับลูกถือเป็นสิ่งสำคัญ

ในวันอาทิตย์ ร้านรวงทั่วไปตามแหล่ง Shopping จะปิดเงียบ เพื่อให้ผู้คนส่วนใหญ่มีเวลาอยู่กับครอบครัว เมื่อสถาบันครอบครัวแข็งแรงประเทศชาติก็จะแข็งแรง

======

ระดับองค์กร ในยามยากของเศรษฐกิจ บริษัทส่วนใหญ่ไม่ใช้วิธีการ Lay off พนักงาน ไม่นิยมการปลดคนงานออกแบบกระทันหัน เพื่อความอยู่รอดของบริษัท

อาจจะเรียกว่าเป็นวัฒนธรรมองค์กรไปเสียแล้วที่บริษัทจะเป็นห่วงความอยู่รอด ของพนักงานก่อน เพื่อที่จะได้ช่วยกันประคองให้บริษัทอยู่รอด

พนักงานยินดีที่จะถูกลดรายได้อย่างพร้อมเพียงกันเพื่อให้ทุกคนอยู่ได้และบริษัทอยู่รอด

สิ่งนี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงการรักพวกพ้อง รักองค์กร และรักชาติในที่สุด

สังเกตได้จากทีมชาติฟุตบอลของเยอรมนี จะไม่ค่อยมีดาวเด่นที่โด่งดังระดับโลก แต่ก็สามารถคว้าแชมป์โลกได้ถึง 3 สมัย ด้วยทักษะการเล่นอย่างเป็นทีมเวิร์คมากกว่าความสำเร็จจากความสามารถเฉพาะ บุคคล

ใช่เลยครับ การใช้ชีวิตแบบพอเพียง ประหยัด จริงจังในหน้าที่ มีระเบียบวินัย ตรงต่อเวลา มีความรับผิดชอบสูง รักครอบครัว รักพวกพ้อง รักชาติ

เหล่านี้ล้วนเป็นอุปนิสัยขั้นพื้นฐานที่คนส่วนใหญ่ในเยอรมนีได้ปฏิบัติสืบ ต่อกันมา โดยไม่จำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ใหม่ ๆ อะไรที่แปลกแหวกแนวมากระตุ้นเศรษฐกิจให้เฟื่องฟูอย่างที่ประเทศอื่น ๆ ชอบทำกัน

(เข้าชมสารคดีนี้ได้ที่ http://youtu.be/9bTKSin4JN4 Make me a German)

======

Credit : บุญชัย ปัณฑุรอัมพร - CEO Blogs กรุงเทพธุรกิจ

 



#2 a.mtvv

a.mtvv

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,190 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 00:58

ผมเองก็ชอบและทึ่งในของและคนเยอรมันหลายอย่างครับ

 

ขณะเดียวกัน คนเราเลือกเกิดไม่ได้

สิ่งที่น่าจะดี คือ เอาชนะตัวเราเองครับ



#3 ONETHAI

ONETHAI

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 962 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 01:10

*
POPULAR

เคยทำงานร่วมกับคนเยอรมัน ดูเขาภูมิใจที่ได้เป็นคนเยอรมันครับ

แต่มีคนไทยบางพวกกลับรู้สึกพะอึดพะอมที่จะร้องเพลงชาติ........

ไม่ได้เทิดทูนคนต่างชาติอะไรมากมาย แต่เกลียดพวกไม่รักชาติฉิบ...



#4 ไทยไม่ทน

ไทยไม่ทน

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,381 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 01:13

*
POPULAR

รถไฟถ้าจำไม่ผิดน่าจะรถเมล์ด้วยคือซื้อตั๋วครั้งเดียวต่อวัน ไปได้ตลอดเลย เค้าไม่มีคนตรวจตั๋วนะครับ
มีแต่เครื่องจำหน่ายตั๋ว ไม่มี เครื่องทาบบัตร เครื่องสอดบัตรด้วย
เอาง่ายๆคือไม่มีการตรวจเลยว่า คนจะขึ้นฟรี หรือซื้อตั๋วแล้วขึ้น

ถามว่าทำไมไม่มีคนตรวจ?
ไม่มีเพราะไม่จำเป็น ไม่มีเพราะไม่คุ้ม

อธิบายง่ายๆ คือ คนที่นั่นเค้าไม่เอาเปรียบกันครับ(ระบบเกิรยติยศรึไงเนี่ยแหละ)
เริ่มใกล้ยูโธเปียเข้าไปทุกที

llllllllllllllllllllllllllllll

llllllllllllllllllllllllllllll

llllllllllllllllllllllllllllll

 


#5 butadad

butadad

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,119 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 01:23

ผมไป ออสเตรเลีย  เวลานั่งรถไฟไปไกลๆ  บางสถานีก็ไม่ได้ตรวจอะไรนะ  ยังคุยกับแฟนเลยว่า เป็นบ้านเราโกงกันตาย



#6 a.mtvv

a.mtvv

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,190 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 01:32

ผมชอบมองข้อดีเสียของคนหลายเชื้อชาติครับ

และยอมรับว่าการเกิดใน เชื้อชาตหรือในภุมิประเทศใด

ก็ต้องมีผลกระทบต่อการพัฒนาของคนนั้น แน่นอน

 

แต่ผมไม่ค่อยชอบ ว่าจะเหมารวมกันไป

คนจีนโกง คนไทยสาย คนลาวขี้เกียจ อะไรอย่างนั้น

มันค่อนข้างไม่แฟร์ คนก็คือคน

 

มีเพื่อนเป็นเยอรมันครับ

มันก็แบบนี้เลยหล่ะ แต่ขณะเดียวกันก็ค่อนข้างไร้เสน่์ห์เเลยทีเดียว



#7 ลาดพร้าว 101

ลาดพร้าว 101

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 487 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 01:39

ขอบคุณครับที่เอาบทความดีๆ มาลงให้อ่าน จะได้กระตุ้นเตือนตัวผมเองด้วยว่ากุทำไรอยู่เนี่ย วันๆ หาสาระไม่ค่อยจะได้เลย  :)



#8 stormtrooper

stormtrooper

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 356 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 01:44

ทำไมการปกครองของสารธารณรัฐประชาธิปไตยเยอรมันถึงล่มสลายล่ะ  คนที่นั่นเขาไม่มีความสุขกับขีวิตรึไง



#9 เรื่อยๆเอื่อยๆ

เรื่อยๆเอื่อยๆ

    There is a face beneath this mask, but it isn't me.

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,223 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 02:50

ผมคนนึงล่ะครับ ที่ไม่ชอบทำงานกับคนเยอรมัน เพราะผมขี้เกียจมากครับ  :D

อีกอย่าง ผมยังห้ามใจไม่เข้าเสรีไทยตอนทำงานไม่ได้เลย


Edited by เรื่อยๆเอื่อยๆ, 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 02:51.


#10 bonnerr

bonnerr

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,158 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 04:04

www.Germany.info

www.Facts-about-Germany.de

www.Deutschland.de

www.bahn.com

www.study-in.de



#11 ธีรเดชน้อย

ธีรเดชน้อย

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,659 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 09:05

ผมสนใจและอยากรู้ว่า จุดเริ่่มต้นของความเป็นระบบ ระเบียบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และเกิดขึ้นเมื่อไหร่โดยใครครับ 

 

สังเกตุดูหลายๆประเทศที่แพ้สงคราม เกิดสงครามกลางเมืองมักจะมีแรงกระตุ้นในการพัฒนาประเทศ แต่คงไม่ทุกประเทศ

 

เพียงแต่การพัฒนาประเทศจะแตกต่างกันไป 


" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ   "

 

 


#12 ทรงธรรม

ทรงธรรม

    ต่อให้ต้องเรียนจนแก่ ก็จะเรียนต่อไป คนเราพัฒนาได้ทุกคน

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,157 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 09:16

จริง ๆ เรื่อง ค่ารถอะ

 

มันก็น่า จะไม่ต้องมีคนตรวจนะ

 

เพราะคนเยอรมัน ถ้าตกงาน รัฐบาล ก็เลี้ยงอยู่แล้ว

 

ไม่น่าจะต้องโกง ค่ารถ กันอีก

 

 

แต่โดยรวม คนเยอรมัน ก็เก่งจริง

 

เทคโนโลยี เค้าสูงทุกอย่างเลย

 

พวกซอฟแวร์ ดี ๆ ก็เยอะนะ

 

แต่ที่ผมจำได้ ก็ web rapidshare อะ

 

 

แต่นิดหนึ่งนะ ผมไม่ชอบ บอลเยอรมัน เลย

 

จริง ๆ นะ ผมหมั่นไส้มาก

 

มันมีอยู่วันหนึ่ง ผมเห็น สเตฟาน เอฟเฟ่นแบร์ก

 

ถ้าผมจำไม่ผิด ตอนนั้น กำลังเล่นให้

 

โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค

 

 

หนอย หมอนี่ มันเทพ ไม่เทพเปล่า

 

มันทำชิ่ง กับคู่แข่ง เฉยเลย

 

แล้วได้บอล กลับมาอีก

 

 

ไม่ชอบมันตรงนี้แหละ แล้วยิ่งไม่ชอบกว่า

 

ก็ บาเยิร์น มิวนิค ไอ้ทีมต่างดาว

 

ตรงที่มันทำให้ ทีม แมนยู ผม หาบอลไม่เจอ

 

นี่แหละ (บาร์ซา อีกทีม)


ขอให้พวกเรา ชาวหลากสี และพันธมิตร จงมีชีวิตรอด จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ฝีมือปูนา ไปตลอดรอดฝั่งด้วยครับ

 

PEMDAS ย่อมาจาก ลำดับการคำนวณ Parentheses , Exponentials , Multiply , Divide , Add , Subtract

 

FWGHSO ย่อมาจาก ลำดับการประเมินผลของ query  FROM, WHERE, GROUP BY, HAVING, SELECT, ORDER BY


#13 Shariff

Shariff

    สมาชิกหน้าตาดี

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,802 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 09:24

รถไฟถ้าจำไม่ผิดน่าจะรถเมล์ด้วยคือซื้อตั๋วครั้งเดียวต่อวัน ไปได้ตลอดเลย เค้าไม่มีคนตรวจตั๋วนะครับ
มีแต่เครื่องจำหน่ายตั๋ว ไม่มี เครื่องทาบบัตร เครื่องสอดบัตรด้วย
เอาง่ายๆคือไม่มีการตรวจเลยว่า คนจะขึ้นฟรี หรือซื้อตั๋วแล้วขึ้น

ถามว่าทำไมไม่มีคนตรวจ?
ไม่มีเพราะไม่จำเป็น ไม่มีเพราะไม่คุ้ม

อธิบายง่ายๆ คือ คนที่นั่นเค้าไม่เอาเปรียบกันครับ(ระบบเกิรยติยศรึไงเนี่ยแหละ)
เริ่มใกล้ยูโธเปียเข้าไปทุกที

 

 

เคยมีคนเยอรมันตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้แบบแสบๆว่า

 

มีคนเอเชียที่(แอบ)ขึ้นรถไฟ(ฟรี)น้อย ไม่คุ้มกับค่าจ้างนายตรวจ

 

ส่วนคนเยอรมันเค้ามีเกียรติ เค้าไม่ขึ้นฟรีเด็ดขาด


"การปลดปล่อยตัวเองออกจากความเป็นทาสทางความคิดมิใช่ใครอื่น, มีแต่เราเท่านั้นที่จะต้องกระทำ "จากเพลง Redemption song.

#14 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 09:41

ผมไป ออสเตรเลีย  เวลานั่งรถไฟไปไกลๆ  บางสถานีก็ไม่ได้ตรวจอะไรนะ  ยังคุยกับแฟนเลยว่า เป็นบ้านเราโกงกันตาย

บางสถานีไม่มีที่กั้นและที่สอดตั๋วด้วยซ้ำไปครับ แต่สถานีนั้นจะมีกล้องวงจรปิด และถ้าคุณขึ้นโดยไม่ซื้อตั๋ว และขึ้นในเวลาเดียวกันทุกวัน ไม่เกิน 3-4 วัน คุณโดนเจ้าหน้าที่ตามประกบขอตรวจตั๋วเลยครับ ผมโดนมาแล้ว แต่ผมซื้อตั๋วเป็นอาทิตย์ ก็เลยรอด อย่าคิดว่าจะโกงได้ง่ายๆ ครับ 



#15 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 09:43

คนเยอรมันจะภูมิใจในความเป็นเยอรมันของเค้ามากครับ คนเยอรมันที่ผมรู้จัก จะบอกเลยว่าประเทศเค้า จะไม่คุยเรื่องงานในเวลาทานอาหาร ถือว่าเสียมารยาท 



#16 ประชาราบ

ประชาราบ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 621 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 09:44

ผมว่าคนเยอรมันมีเค้านิสัยอย่างนี้มาอยู่บ้างแล้วแต่ยังไม่ชัดขนาดนี้

 

พอผ่านยุค 1934-45 มันมีแนวความคิด  มีความพยายามจัดสรรหน้าที่ผลเมืองอยางชัดเจน ลดความเป็นส่วนบุคคลลง

มีองค์กรภาคประชาชนสารพัด ตั้งแต่ชาวนา กรรมกร แม่บ้าน จนถึงเด็กเล็ก (NSBO TODT DRL DSVB DAF DJ HJ)

ตั้งโดยรัฐมีทั้งชุดฟอร์ม เครื่องหมายชั้นยศ เหรียญตรา วารสาร การประชุมกลุ่มใหญ่-ย่อย สาบานตน มีกฎร่วมกันชัดเจน 

คนหนึ่งคนในยุคนั้นอยู่ในองค์กรพวกนี้บางคนมีถึงสี่ห้าองค์กรเลย 

 

ถึงคนเยอรมันจะรังเกียจยุคนี้ แต่ยุคนี้ละฝังความคิดทางการจัดระเบียบสังคมและประชาชนไว้เยอะเลยครับ

 

 

 

 

หมายเหตุ: แก้คำผิด


Edited by ประชาราบ, 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 09:48.


#17 butadad

butadad

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,119 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 09:44

 

ผมไป ออสเตรเลีย  เวลานั่งรถไฟไปไกลๆ  บางสถานีก็ไม่ได้ตรวจอะไรนะ  ยังคุยกับแฟนเลยว่า เป็นบ้านเราโกงกันตาย

บางสถานีไม่มีที่กั้นและที่สอดตั๋วด้วยซ้ำไปครับ แต่สถานีนั้นจะมีกล้องวงจรปิด และถ้าคุณขึ้นโดยไม่ซื้อตั๋ว และขึ้นในเวลาเดียวกันทุกวัน ไม่เกิน 3-4 วัน คุณโดนเจ้าหน้าที่ตามประกบขอตรวจตั๋วเลยครับ ผมโดนมาแล้ว แต่ผมซื้อตั๋วเป็นอาทิตย์ ก็เลยรอด อย่าคิดว่าจะโกงได้ง่ายๆ ครับ 

 

 

ผมก็คิดว่า  เมิงโกงเขาไม่กี่เหรียญได้  แต่ถ้าจับได้เมิงโดนปรับจุกแน่นอน 
คนเราถ้าโทษมันแรง  มันไม่คุ้มที่จะทำกันหรอกครับ  บ้านเราเมาแล้วขับปรับกี่ตังกันที่ ญี่ปุ่นปรับเป็น แสน นะ
 



#18 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 09:53

 

 

ผมไป ออสเตรเลีย  เวลานั่งรถไฟไปไกลๆ  บางสถานีก็ไม่ได้ตรวจอะไรนะ  ยังคุยกับแฟนเลยว่า เป็นบ้านเราโกงกันตาย

บางสถานีไม่มีที่กั้นและที่สอดตั๋วด้วยซ้ำไปครับ แต่สถานีนั้นจะมีกล้องวงจรปิด และถ้าคุณขึ้นโดยไม่ซื้อตั๋ว และขึ้นในเวลาเดียวกันทุกวัน ไม่เกิน 3-4 วัน คุณโดนเจ้าหน้าที่ตามประกบขอตรวจตั๋วเลยครับ ผมโดนมาแล้ว แต่ผมซื้อตั๋วเป็นอาทิตย์ ก็เลยรอด อย่าคิดว่าจะโกงได้ง่ายๆ ครับ 

 

 

ผมก็คิดว่า  เมิงโกงเขาไม่กี่เหรียญได้  แต่ถ้าจับได้เมิงโดนปรับจุกแน่นอน 
คนเราถ้าโทษมันแรง  มันไม่คุ้มที่จะทำกันหรอกครับ  บ้านเราเมาแล้วขับปรับกี่ตังกันที่ ญี่ปุ่นปรับเป็น แสน นะ
 

 

จริงครับ โดนปรับเนี่ยหน้ามืดเลยครับ เพื่อนผมนี่แหละโดนมาแล้ว ขึ้นรถเมล์เค้าจะเก็บราคาตามระยะทาง เสียดายเงินไปบอกระยะทางใกล้ๆ คนขับจำได้ว่าบอกว่าลงที่ไหน เลยโดนเลยครับ จดหมายมาที่บ้าน โดนปรับหน้ามืดเลย  


Edited by Bookmarks, 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 09:58.


#19 butadad

butadad

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,119 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 10:15

*
POPULAR

 

 

 

ผมไป ออสเตรเลีย  เวลานั่งรถไฟไปไกลๆ  บางสถานีก็ไม่ได้ตรวจอะไรนะ  ยังคุยกับแฟนเลยว่า เป็นบ้านเราโกงกันตาย

บางสถานีไม่มีที่กั้นและที่สอดตั๋วด้วยซ้ำไปครับ แต่สถานีนั้นจะมีกล้องวงจรปิด และถ้าคุณขึ้นโดยไม่ซื้อตั๋ว และขึ้นในเวลาเดียวกันทุกวัน ไม่เกิน 3-4 วัน คุณโดนเจ้าหน้าที่ตามประกบขอตรวจตั๋วเลยครับ ผมโดนมาแล้ว แต่ผมซื้อตั๋วเป็นอาทิตย์ ก็เลยรอด อย่าคิดว่าจะโกงได้ง่ายๆ ครับ 

 

 

ผมก็คิดว่า  เมิงโกงเขาไม่กี่เหรียญได้  แต่ถ้าจับได้เมิงโดนปรับจุกแน่นอน 
คนเราถ้าโทษมันแรง  มันไม่คุ้มที่จะทำกันหรอกครับ  บ้านเราเมาแล้วขับปรับกี่ตังกันที่ ญี่ปุ่นปรับเป็น แสน นะ
 

 

จริงครับ โดนปรับเนี่ยหน้ามืดเลยครับ เพื่อนผมนี่แหละโดนมาแล้ว ขึ้นรถเมล์เค้าจะเก็บราคาตามระยะทาง เสียดายเงินไปบอกระยะทางใกล้ๆ คนขับจำได้ว่าบอกว่าลงที่ไหน เลยโดนเลยครับ จดหมายมาที่บ้าน โดนปรับหน้ามืดเลย  

 

คือ ที่เราเห็นฝรั่งมันเป็นระเบียบ ญี่ปุ่นเป็นระเบียบ ประเทศที่เจริญเป็นระเบียบ  ไม่ใช่ไรหรอก

คือ มันไม่คุ้มที่จะทำผิดไง  กฎหมายเขาแรงมีไว้ ดูแลคนดีๆ  คนไม่ดีโดนหนัก

ถ้ากฎหมายมันเบา คนเรามันพร้อมที่จะแหกทั้งนั้นแหละ    คุณเมาแล้วขับพอชนคนติดคุกพอๆกับฆ่าคนตายอยากเมาไหมละ
ไม่จ่ายภาษีโดนย้อนหลังปรับยึดทรัพย์    จอดรถที่ห้ามจอดโดนไปเป็นหมื่น     แต่ทุกอย่างที่กล่าวมาถ้าตำรวจhere นี่จบเลยมันจะทำไม่ได้ซักอย่าง


Edited by butadad, 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 10:40.


#20 a.mtvv

a.mtvv

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,190 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 10:25

*
POPULAR

ผมสนใจและอยากรู้ว่า จุดเริ่่มต้นของความเป็นระบบ ระเบียบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และเกิดขึ้นเมื่อไหร่โดยใครครับ 

 

สังเกตุดูหลายๆประเทศที่แพ้สงคราม เกิดสงครามกลางเมืองมักจะมีแรงกระตุ้นในการพัฒนาประเทศ แต่คงไม่ทุกประเทศ

 

เพียงแต่การพัฒนาประเทศจะแตกต่างกันไป 

 

ผมว่าอยู่ที่ผู้นำและการบังคับใช้กฎหมายครับ

 

ในความคิดเห็นส่วนตัว สำหรับผม คนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไทย

ชอบ popular ทำอะไรกลัวคนไม่ชอบ การบังคับใช้กฏจึงผิดใจ คนไม่รัก

 

มันต้องเริ่มอย่างการเข้าคิวครับ ทฤษฎีเช่นเดิมของผม คือ critical mass

เมื่อมีคนเข้าคิวร่วมกันจนถึงจุดนึง (อาจไม่ถึง 10%) คนที่เหลือก็ยอมรับการเข้าคิวกันหมด

 

วันนี้ กปปส เป็น critical mass

เราอาจกำลังอยู่ในจุดเริ่ม ของไทยอารยะ เช่นกัน

ดังนั้นอย่าได้ถอยครับ



#21 ธีรเดชน้อย

ธีรเดชน้อย

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,659 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 10:35

 

 

ผมว่าอยู่ที่ผู้นำและการบังคับใช้กฎหมายครับ

 

ในความคิดเห็นส่วนตัว สำหรับผม คนทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไทย

ชอบ popular ทำอะไรกลัวคนไม่ชอบ การบังคับใช้กฏจึงผิดใจ คนไม่รัก

 

มันต้องเริ่มอย่างการเข้าคิวครับ ทฤษฎีเช่นเดิมของผม คือ critical mass

เมื่อมีคนเข้าคิวร่วมกันจนถึงจุดนึง (อาจไม่ถึง 10%) คนที่เหลือก็ยอมรับการเข้าคิวกันหมด

 

วันนี้ กปปส เป็น critical mass

เราอาจกำลังอยู่ในจุดเริ่ม ของไทยอารยะ เช่นกัน

ดังนั้นอย่าได้ถอยครับ

 

 

ช่วงเปลี่ยนผ่านเป็นอะไรที่ทรมานนะครับ อาจเป็นเพราะเราไม่เคย ไม่คุ้นกับมัน แต่หากมองมุมกลับหากการเปลี่ยนผ่านแบบ

 

ที่เราเคยเห็นเคยดู คือรูปแบบสงคราม การสูญเสีย เทียบกับสิ่งที่เป็นตอนนี้ย่อมดีกว่าเยอะ หวังว่าเราคงจะผ่านไปได้ครับ 


" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ   "

 

 


#22 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 10:42

 

 

 

 

ผมไป ออสเตรเลีย  เวลานั่งรถไฟไปไกลๆ  บางสถานีก็ไม่ได้ตรวจอะไรนะ  ยังคุยกับแฟนเลยว่า เป็นบ้านเราโกงกันตาย

บางสถานีไม่มีที่กั้นและที่สอดตั๋วด้วยซ้ำไปครับ แต่สถานีนั้นจะมีกล้องวงจรปิด และถ้าคุณขึ้นโดยไม่ซื้อตั๋ว และขึ้นในเวลาเดียวกันทุกวัน ไม่เกิน 3-4 วัน คุณโดนเจ้าหน้าที่ตามประกบขอตรวจตั๋วเลยครับ ผมโดนมาแล้ว แต่ผมซื้อตั๋วเป็นอาทิตย์ ก็เลยรอด อย่าคิดว่าจะโกงได้ง่ายๆ ครับ 

 

 

ผมก็คิดว่า  เมิงโกงเขาไม่กี่เหรียญได้  แต่ถ้าจับได้เมิงโดนปรับจุกแน่นอน 
คนเราถ้าโทษมันแรง  มันไม่คุ้มที่จะทำกันหรอกครับ  บ้านเราเมาแล้วขับปรับกี่ตังกันที่ ญี่ปุ่นปรับเป็น แสน นะ
 

 

จริงครับ โดนปรับเนี่ยหน้ามืดเลยครับ เพื่อนผมนี่แหละโดนมาแล้ว ขึ้นรถเมล์เค้าจะเก็บราคาตามระยะทาง เสียดายเงินไปบอกระยะทางใกล้ๆ คนขับจำได้ว่าบอกว่าลงที่ไหน เลยโดนเลยครับ จดหมายมาที่บ้าน โดนปรับหน้ามืดเลย  

 

คือ ที่เราเห็นฝรั่งมันเป็นระเบียบ ญี่ปุ่นเป็นระเบียบ ประเทศที่เจริญเป็นระเบียบ  ไม่ใช่ไรหรอก

คือ มันไม่คุ้มที่จะทำผิดไง  กฎหมายเขาแรงมีไว้ ดูแลคนดีๆ  คนไม่ดีโดนหนัก

ถ้ากฎหมายมันเบา คนเรามันพร้อมที่จะแหกทั้งนั้นแหละ    คุณเมาแล้วขับติดคุกพอๆกับฆ่าคนตายอยากเมาไหมละ
ไม่จ่ายภาษีโดนย้อนหลังปรับยึดทรัพย์    จอดรถที่ห้ามจอดโดนไปเป็นหมื่น     แต่ทุกอย่างที่กล่าวมาถ้าตำรวจhere นี่จบเลยมันจะทำไม่ได้ซักอย่าง

 

ที่่ออสเตรเลียเค้าจะกลัวโดนจับคดีเมาแล้วขับมากครับ กลัวจะไม่ได้ขับรถอีก มันลำบากมากในการเดินทาง เพราะรอรถเมล์มันจะเป็นเวลา เพื่อนผมที่เป็นคนออสเตรเลีย ดันโดนจับเพราะเมาแล้วขับ โดนห้ามขับ 2 ปี แล้วเมื่อครบ 2 ปีแล้ว จะต้องมีคนที่ขับรถเป็นนั่งอยู่ข้างๆ อีก 2 ปี ลำบากครับ พวกนี้เลยกลัวมาก แล้วที่ออสเตรเลีย คุณทำผิดกฎหมายเรื่องขับรถ แล้วไม่ยอมไปจ่ายค่าปรับ ถ้าตำรวจตามตัวเจอ คุณโดนจับครับ 



#23 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 10:46

*
POPULAR

จะพัฒนาให้ได้อย่างประเทศที่เจริญแล้ว ผมว่าคนไทยปรับเปลี่ยนยากครับ ขนาดอิสระเสรีขนาดนี้ ยังมีพวกบ้าๆ อย่างอีอั๊ม เนโก๊ะ กับไอ่เด็กเนติวิทย์ ปัญญาอ่อนพวกนี้อยู่เลย พวกนี้คิดว่า เสรีภาพในการแสดงออกคือความเจริญ แต่จริงๆ แล้วมันคือพวกคนเถื่อนที่ไม่รู้จักระเบียบวินัยทางสังคม ประเทศจะไม่เจริญก็เพราะคนพวกนี้แหละครับ 



#24 แม้ว ม.7

แม้ว ม.7

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,237 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 11:15

ผมว่าคนเยอรมันมีเค้านิสัยอย่างนี้มาอยู่บ้างแล้วแต่ยังไม่ชัดขนาดนี้
 
พอผ่านยุค 1934-45 มันมีแนวความคิด  มีความพยายามจัดสรรหน้าที่ผลเมืองอยางชัดเจน ลดความเป็นส่วนบุคคลลง
มีองค์กรภาคประชาชนสารพัด ตั้งแต่ชาวนา กรรมกร แม่บ้าน จนถึงเด็กเล็ก (NSBO TODT DRL DSVB DAF DJ HJ)
ตั้งโดยรัฐมีทั้งชุดฟอร์ม เครื่องหมายชั้นยศ เหรียญตรา วารสาร การประชุมกลุ่มใหญ่-ย่อย สาบานตน มีกฎร่วมกันชัดเจน 
คนหนึ่งคนในยุคนั้นอยู่ในองค์กรพวกนี้บางคนมีถึงสี่ห้าองค์กรเลย 
 
ถึงคนเยอรมันจะรังเกียจยุคนี้ แต่ยุคนี้ละฝังความคิดทางการจัดระเบียบสังคมและประชาชนไว้เยอะเลยครับ

ฮิตเลอรฺก็ทำคุณสินะ
 
 
 
 
หมายเหตุ: แก้คำผิด


พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้พูดตัดพ้อกับคนที่เดินทางไปพบว่า “พรรคเพื่อไทยมีคนเก่งๆ เยอะ ทั้งนักวิชาการ ด็อกเตอร์ ทูต แต่ไม่กล้าออกมาสู้ คนหน้าตาดีไม่ออกมา พวกที่ออกมาหน้าตาไม่ค่อยดี ไม่เหมือนกับพรรคประชาธิปัตย์ ฝ่ายตรงข้าม คนมีความรู้ นักวิชาการออกมาเยอะแยะเลย คนจริงใจกับผมมันน้อย วางยาผม เพราะตัวเองอยากอยู่นานๆ เห็นว่านายกฯ ไม่แข็ง แต่ท่านนายกฯ ก็ดี แต่คนรอบข้างไม่เป็นการเมือง ผมส่งคนเป็นการเมืองไปนายกฯ ก็ไม่เอา ผมก็สงสารนายกฯ จึงไม่อยากจู้จี้ แต่คนที่เมืองไทยมันไม่ได้ดั่งใจ” 

http://astv.mobi/AlgEYM7

แปลสั้นๆ เขาด่าไอ้เสร่อแกนนำแดงว่า"โง่แต่ขยัน"


#25 butadad

butadad

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,119 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 11:19

จะพัฒนาให้ได้อย่างประเทศที่เจริญแล้ว ผมว่าคนไทยปรับเปลี่ยนยากครับ ขนาดอิสระเสรีขนาดนี้ ยังมีพวกบ้าๆ อย่างอีอั๊ม เนโก๊ะ กับไอ่เด็กเนติวิทย์ ปัญญาอ่อนพวกนี้อยู่เลย พวกนี้คิดว่า เสรีภาพในการแสดงออกคือความเจริญ แต่จริงๆ แล้วมันคือพวกคนเถื่อนที่ไม่รู้จักระเบียบวินัยทางสังคม ประเทศจะไม่เจริญก็เพราะคนพวกนี้แหละครับ 

 

สิ่งที่จะทำให้ทำได้ คือ ตำรวจแค่ทำตามหน้าที่ครับ  แต่แบบไปฝังเข็มนักโทษก็จบข่าวแว้ว
 


Edited by butadad, 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 11:20.


#26 พ่อไอ้ตอม

พ่อไอ้ตอม

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,823 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 11:19

เหมือนเป็นหุ่นยนต์กันมากกว่านะ


*** ช่วยกันไม่ตอบกระทู้ป่วน เพราะมันไม่ได้ต้องการคำตอบ หรือเหตุผล แค่มายั่ว

ปล่อยให้ตกๆไป...การที่ไม่มีใครสนใจ  เป็นการทำลายจิตใจพวกมันมากที่สุด เดี๋ยวกระทู้ก็หล่นแล้ว


#27 Tom PR

Tom PR

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 131 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 11:34

West Germany Background

Germany ended the European Theatre of World War II with its unconditional surrender on the 8th of May, 1945. It faced war damage to its economy and the problems of mass migration due to the expulsion of ethnic Germans from areas east of the Oder-Neisse Line.

April 1945 to July 1947 saw the Allied occupation of Germany implement Joint Chiefs of Staff directive 1067 (JCS 1067). The aim of this directive was to transfer Germany's economy from one centred on heavy industry to a pastoral one, in order to prevent Germany from having the capacity to wage war. Civilian industries which might have a military potential, which in the modern era of "total war" included virtually all, were to be severely restricted. The restriction of the latter was set to Germany's "approved peacetime needs", which were defined to be set on the average European standard. In order to achieve this, each type of industry was subsequently reviewed to see how many factories Germany required under these minimum level of industry requirements. In May 1946, the first plan stated that German heavy industry was to be lowered to 50% of its 1938 levels by the destruction of 1,500 listed manufacturing plants. Restrictions on steel followed.

It soon became obvious that this policy was not sustainable. Germany could not grow enough food for itself and malnutrition was becoming increasingly common. The European post-war economic recovery did not materialise and it became increasingly obvious that the European economy had depended on German industry.[2]

In July 1947, President Harry S. Truman rescinded on "national security grounds" the punitive JCS 1067, which had directed the U.S. forces of occupation in Germany to "take no steps looking toward the economic rehabilitation of Germany." It was replaced by JCS 1779, which instead stressed that "[a]n orderly, prosperous Europe requires the economic contributions of a stable and productive Germany."[3]

By 1948, Germany suffered from rampant hyperinflation. The currency of the time (the Reichsmark) had no public confidence, and thanks to that and price controls, black market trading boomed and bartering proliferated. Banks were over their heads in debt and surplus currency abounded.[4]

However, thanks to the introduction of JCS 1779 and the first Allied attempts to set up German governance, something could be done about this. Ludwig Erhard, an economist, who had spent much time working on the problem of post war recovery, had worked his way up the administration created by the occupying American forces until he became the Director of Economics in the Bizonal Economic Council in the joint British and American occupied zones (which would later, with the addition of the French occupied territory become the basis for West Germany). He was placed in charge of currency reform and became a central figure in events that were to follow.

Economic reforms

In spring of 1948, the Allies decided to reform the currency. In preparation for this, a new central bank system was established in West Germany with independent Land Central Banks and the Bank deutscher Lander with headquarters in Frankfurt am Main.

Currency reform took effect on June 20, 1948, through the introduction of the Deutsche Mark to replace the Reichsmark and by transferring to the Bank deutscher Lander the sole right to print money. Each person received a per capita allowance of 60 DM, payable in two instalments (40 DM and 20 DM) and business quota of 60 DM per employee.

Under the German Currency Conversion Law on 27 June, private non-bank credit balances were converted at a rate of 10 RM to 1 DM, with half remaining in a frozen bank account. Although the money stock was very small in terms of national product, the adjustment in the price structure immediately led to sharp price increases, fuelled by the high velocity of money through the system. As a result, on the 4th of October, the military governments wiped out 70% of the remaining frozen balances, resulting in an effective exchange of 10:0.65. Holders of financial assets (including many small-time savers) were dispossessed and the banks' debt in Reichsmarks was eliminated, transferred instead into claims on the Lander and later the Federal Government. Wages, rents, pensions and other recurring liabilities were transferred at 1:1.

On the day of the currency reform, Ludwig Erhard announced, despite the reservations of the Allies, that rationing would be considerably relaxed and price controls abolished.[4]

Results

In the short term, the currency reforms and abolition of price controls helped end hyperinflation. The new currency enjoyed considerable confidence and was accepted by the public as a medium of payment. The currency reforms had ensured that money was once more scarce, and the relaxation of price controls created incentives for production, sales and earning this money. The removal of price controls also meant shops filled up with goods again, which was a huge psychological factor in the adoption of the new currency.[4]

In the long term, these reforms helped set the stage for the Wirtschaftswunder (German for economic miracle) in the 1950s.

 

สรุปการยุติการควบคุมราคาสินค้า (Abolish of price control) ทำให้เยอรมันนีตะวันตกเจริญ และเป็นที่มาของ Wirtschaftswunder (ความมหัศจรรย์ทางเศรษฐกิจของคนเยอรมัน)

 

ที่สารคดีเกล่ามาเกี่ยวกับความรุ่งเรื่องทางเศรษฐกิจของประเทศเยอรมันคือมั่วและไม่ได้ถูกจารึกไว้ในประวติศาสตร์

 

ที่มา http://en.wikipedia....ra#West_Germany

 

reference ดูได้ใน wikipedia

 

ใครว่าราคาหมูแพง แนะนำให้ไปขายเองครับ


Edited by Tom PR, 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 11:45.


#28 เช never die

เช never die

    มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,845 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 12:16

รถไฟถ้าจำไม่ผิดน่าจะรถเมล์ด้วยคือซื้อตั๋วครั้งเดียวต่อวัน ไปได้ตลอดเลย เค้าไม่มีคนตรวจตั๋วนะครับ
มีแต่เครื่องจำหน่ายตั๋ว ไม่มี เครื่องทาบบัตร เครื่องสอดบัตรด้วย
เอาง่ายๆคือไม่มีการตรวจเลยว่า คนจะขึ้นฟรี หรือซื้อตั๋วแล้วขึ้น

ถามว่าทำไมไม่มีคนตรวจ?
ไม่มีเพราะไม่จำเป็น ไม่มีเพราะไม่คุ้ม

อธิบายง่ายๆ คือ คนที่นั่นเค้าไม่เอาเปรียบกันครับ(ระบบเกิรยติยศรึไงเนี่ยแหละ)
เริ่มใกล้ยูโธเปียเข้าไปทุกที


มีคนตรวจตั๋วนะครับ รู้สึกว่าทั้งเมืองไม่รู้ว่ามีรถเมล์กี่สาย แต่มีคนตรวจตั๋วคนนึง เห็นแกยักแย่ยักยันขึ้นมาตรวจ ประมาณว่าสุ่มตรวจนะครับ

มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล


#29 mee-sua-man

mee-sua-man

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,218 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 13:42

พวกเยอรมัน,เยอรเผือก ไร้ซึ่งจินตนาการ เล่นบอลก็เทื่่อๆ  ขอให้ได้ประตูก็พอ   เยอรมันก็มีประชานิยมสุดยอดคือ ฮิตเลอร์ แต่อย่างน้อยเขาสืบทอดพรรคไม่ใช่สืบทอดคนแบบบ้านเรา .. หวังเป็นใหญ่เจ้ายุโรป โดนทุบซะจนแบ่งประเทศ  ปัจจุบันมันก็เจ้ายุโรปจริงๆ  เคยอ่านตลกเกี่ยวกับเยอรมันกับรัสเซีย  ตอนทำสงครามชนะเยอรมัน  ชายรัสเซียบอกอ้ายฮิตเลอร์บอกพวกคนเยอรมันจะขี่รถฟอร์คสวาเก้น  แต่แม่งแพ้สงครามปัจจุบันยังนั่งเบ๊นส์



#30 นายตัวเกร็ง

นายตัวเกร็ง

    Monkey Godfather Lv.3

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,901 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 13:54

สิ่งที่ทำให้เยอรมันแข็งแกร่งก็คือสถาบันครอบครัวครับ ไม่ใช่การเมืองอย่างเดียว
คนเยอรมันให้ความสำคัญกับครอบครัวอย่างมากถ้าครอบครัวเข้มแข็งชาติก็เข้มแข็งครับ

หาอ่านกันดีๆการใช้เงินของเยอรมันนี่เข้าหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างมาก
ใช้เท่าที่จำเป็น เก็บเงิน ไม่เอาเครดิต ไม่เอาหนี้

 


เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<


#31 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 14:01


ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#32 ก๊องส์ไข่กวน

ก๊องส์ไข่กวน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,012 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 14:13

อีกนิด ..

 

เยอรมัน นอกจาก ประชากรมีคุณภาพ

 

สุนัข ก็ยังมีคุณภาพ..อีกด้วย



#33 เช never die

เช never die

    มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,845 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 15:40

อีกนิด ..

เยอรมัน นอกจาก ประชากรมีคุณภาพ

สุนัข ก็ยังมีคุณภาพ..อีกด้วย


น้องหมา น้องแมว ใครจะเลี้ยงต้องไปขออนุญาตที่สำนักงานเขตก่อนครับ การขับถ่ายเจ้าของต้องดูแลให้เรียบร้อย มาถ่ายข้างถนนแบบบ้านเรา จะซวยเอาไม่ใช่น้อย

มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล


#34 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 15:42

ผมคลุกคลีกับคนเยอรมันบ่อย

เพราะครูที่ผมสนิทมากเป็นคนเยอรมัน  แฟนเก่าผมก็เยอรมัน(แต่ไปโตที่สก๊อตแลนด์ เลยเจือจางหน่อย) และมีเพื่อนเป็นเยอรมันหลายคน

แน่นอน ผมชอบดูบุนเดสลีก้ามากกว่าพรีเมียร์ลีกมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว

และทีมบอลสุดโปรดผม..ทีมชาติเยอรมัน  (ตอนแพ้สเปนครั้งล่าสุด ผมแทบร้องไห้  งือๆๆ)

 

 

คนเยอรมันมีระเบียบวินัย ดูเป็นคนแข็งกร้าวก็จริง แต่...พึ่งพาได้ครับ  ใจคอมั่นคง

และจริงๆแล้วคนเยอรมัน ลึกๆในใจเป็นคนจิตใจดีมาก อบอุ่นนะครับ ถ้ารู้จักกันดีๆ  ผมไม่รู้สึกว่าคนเยอรมันแข็งกร้าวนะ เท่าที่รู้จักมา

เทียบกับชาติยุโรปด้วยกัน  ถ้ารู้จักชอบพอกันจริงๆแล้ว ผมชอบคนเยอรมันมากกว่า อังกฤษ ฝรั่งเศส หรืออิตาลีอีก

(อิตาลีนี่...พึ่งพาไม่ล่ายเลยทีเดียว  พูดคำไหนไม่ค่อยเป็นคำนั้น  แต่มันน่ารักง่า โกรธมันไม่ลง

เคยเป็นกันมั้ยครับ....ได้แต่โมโหแต่โกรธไม่ลง)


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#35 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 15:43

น้องหมา น้องแมว ใครจะเลี้ยงต้องไปขออนุญาตที่สำนักงานเขตก่อนครับ การขับถ่ายเจ้าของต้องดูแลให้เรียบร้อย มาถ่ายข้างถนนแบบบ้านเรา จะซวยเอาไม่ใช่น้อย

 

 

 

น้าเชแอบน่ารักนิ   "น้องหมาน้องแมว"

มุ้งมิ้งมากมาย  :wub:


Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 15:43.

gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#36 ไทยไม่ทน

ไทยไม่ทน

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,381 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 15:57

ผมว่าเราต้องวิพาย์กกันหน่อยล่ะครับ
ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในเยอรมัน
มันมี"ต้นตอ"มาจากอะไร?

มันถึงหมุนไปในวงจร อารยะ?

ตั้งกระทู้วิพากย์ใหม่ก็ดีครับ

คือในแต่ละประเทศจะมี"ปัญหาสังคม" อยู่แล้ว
ซึ่งจะมีมากกว่า1เรื่องเป็นปกติ

แต่ที่ผมสงสัยคือ ประเทศที่ภาพรวมเป็นระเบียบ อย่างเยอรมัน
ญี่ปุ่น มันมีต้นตอมาจากอะไร? รัฐบาล? ประชาชน? สวัสดิการประชาชน?
สาธารณูปโภค? การศึกษา? การบังคับใช้กฏหมาย?ตำแหน่งงาน?

หรืออะไร?

ใครพอรู้บอกทีครับ ว่ามันเริ่มจากอะไร

llllllllllllllllllllllllllllll

llllllllllllllllllllllllllllll

llllllllllllllllllllllllllllll

 


#37 Tom PR

Tom PR

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 131 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 16:05

ผมว่าเราต้องวิพาย์กกันหน่อยล่ะครับ
ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในเยอรมัน
มันมี"ต้นตอ"มาจากอะไร?

มันถึงหมุนไปในวงจร อารยะ?

ตั้งกระทู้วิพากย์ใหม่ก็ดีครับ

คือในแต่ละประเทศจะมี"ปัญหาสังคม" อยู่แล้ว
ซึ่งจะมีมากกว่า1เรื่องเป็นปกติ

แต่ที่ผมสงสัยคือ ประเทศที่ภาพรวมเป็นระเบียบ อย่างเยอรมัน
ญี่ปุ่น มันมีต้นตอมาจากอะไร? รัฐบาล? ประชาชน? สวัสดิการประชาชน?
สาธารณูปโภค? การศึกษา? การบังคับใช้กฏหมาย?ตำแหน่งงาน?

หรืออะไร?

ใครพอรู้บอกทีครับ ว่ามันเริ่มจากอะไร

ได้ตอบไปแล้ว article ก็มีไว้ให้อ่าน ต้นตอมาจากการพัฒนาระเบียบทางเศรษฐกิจโดยปล่อยให้เป็นไปตามตลาดเสรี นั่นรวมไปถึงการล้มเลิกการควบคุมราคาสินค้า และการลดการเก็บภาษี ไปอ่านหนังสือ textbook กี่เล่มก็พูดเหมือนกัน

 

สาเหตุของ ความมหัศจรรย์ทางเศรษฐกิจของคนเยอรมันนั้นคุณสามารถอ่านได้ที่ Wirtschaftswunder

โดย wirtshaftswunder มีพื้นฐานจากการรับแนวคิดแบบ Ordoliberalism มาใช้ (Ordoliberalism is the German variant between social liberalism and neoliberalism that emphasizes the need for the state to ensure that the free market produces results close to its theoretical potential)

 

และบุคคลผู้อยู่เบื้องหลังคือ Ludwig Erhard German chancellor

 

ในขณะที่ปัญหาที่เยอรมันประสพอยู่มากตอนนี้มากจากนโยบาย ประชานิยมทั้งสิ้น ของแพง ต้องห้ามแพง ทุกอย่างต้องฟรี


Edited by Tom PR, 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 16:49.


#38 a.mtvv

a.mtvv

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,190 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 18:24

ผมว่าเราต้องวิพาย์กกันหน่อยล่ะครับ
ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในเยอรมัน
มันมี"ต้นตอ"มาจากอะไร?

มันถึงหมุนไปในวงจร อารยะ?

ตั้งกระทู้วิพากย์ใหม่ก็ดีครับ

คือในแต่ละประเทศจะมี"ปัญหาสังคม" อยู่แล้ว
ซึ่งจะมีมากกว่า1เรื่องเป็นปกติ

แต่ที่ผมสงสัยคือ ประเทศที่ภาพรวมเป็นระเบียบ อย่างเยอรมัน
ญี่ปุ่น มันมีต้นตอมาจากอะไร? รัฐบาล? ประชาชน? สวัสดิการประชาชน?
สาธารณูปโภค? การศึกษา? การบังคับใช้กฏหมาย?ตำแหน่งงาน?

หรืออะไร?

ใครพอรู้บอกทีครับ ว่ามันเริ่มจากอะไร

 

ผมเชื่อเรื่องภูมิประเทศ และอากาศด้วยนะ

ภูเขา ทะเล ความเย็น ความร้อน ความเป็นเกาะ

ล้วนแต่มีผลผูกพันกับพฤติกรรมคน

 

เติมด้วย ศาสนา ความเชื่อ วัฒนธรรม

ความเก่าแก่ของรากเหง้านั้น

 

เราอยู่ในที่อุดมสมบูรณ์ เลยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่

จนปัจจุบัน ความอุดมก็น้อยลงแล้ว แต่ ความเอื้อเฟื้อยังจางลงไม่มาก

เพราะมันฝังรากลึกนั่นเอง

 

เปรียบเทียบ ไทยกับเยอรมัน คงไม่ใช่ apple to apple



#39 kokkai

kokkai

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,237 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 19:57

ชอบเสรีไทยก็ตรงนี้แหละครับ

 

มีผู้รู้มากมาย ที่ยินดีถ่ายทอด ให้สมาชิกได้รู้ :wub:



#40 โคนัน

โคนัน

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,836 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 21:04

รถไฟถ้าจำไม่ผิดน่าจะรถเมล์ด้วยคือซื้อตั๋วครั้งเดียวต่อวัน ไปได้ตลอดเลย เค้าไม่มีคนตรวจตั๋วนะครับ
มีแต่เครื่องจำหน่ายตั๋ว ไม่มี เครื่องทาบบัตร เครื่องสอดบัตรด้วย
เอาง่ายๆคือไม่มีการตรวจเลยว่า คนจะขึ้นฟรี หรือซื้อตั๋วแล้วขึ้น

ถามว่าทำไมไม่มีคนตรวจ?
ไม่มีเพราะไม่จำเป็น ไม่มีเพราะไม่คุ้ม

อธิบายง่ายๆ คือ คนที่นั่นเค้าไม่เอาเปรียบกันครับ(ระบบเกิรยติยศรึไงเนี่ยแหละ)
เริ่มใกล้ยูโธเปียเข้าไปทุกที

 

 

มีคนตรวจตั๋วครับ แค่เวลาขึ้นรถไฟ รถเมลล์ ไม่ต้องทาบบัตรเพื่อเข้าใช้บริการแบบ พี่ไทย หรือ ออสเตเรียบ้างสถานี  ตั๋วซื้อได้ทั้งที่ตู้ขายตั๋ว หรือคนขายตั๋ว

 

และ จะมีคนมาค่อยตรวจครับ ว่าใครไม่มีตั๋ว ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ อย่างเช่น รถไฟ พอประตูปิด ก็จะประกาศขอตรวจตั๋วโดยสารทันที

 

ใครไม่มี ป้ายหน้าเชิญลง พร้อมเสียค่าปรับ   คนส่วนใหญ่ รู้หน้าที่ซื้อตั๋ว แต่ก็มีเหมือนกันส่วนน้อยที่ชอบลักไก่ ไม่ซื้อตั๋ว

 

 

คนตรวจตั๋วเท่าที่เคยเห็น จะมาเป็นคู่ครับ 

 

 

นอกจากคนตรวจตั๋วแล้ว ยังมีทีมงานวิจัย ค่อยมาเก็บสถิติ จำนวนคนขึ้นลง แต่ละสถานี มากน้อยแค่ไหน เพื่อใช้ไปปรับเปลี่ยนเวลาเดินทาง ในแต่ฤดูกาล


Edited by โคนัน, 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 21:08.


#41 whiskypeak

whiskypeak

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,392 posts

ตอบ 16 เมษายน พ.ศ. 2557 - 22:14

ไทย กับ เยอรมันก็มีอะไรที่ใกล้ๆกันอยู่นะครับ..มีเผด็จการที่มาจากการเลือกตั้งเหมือนกัน.. :D  :D


ถูกใจเสื้อแดง ของแพงไม่ว่า โดนโกงไม่ด่า ขอแค่ตระกูลชินนรกเป็น นายก พอ..

 


#42 เสือยิ้มยาก

เสือยิ้มยาก

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,695 posts

ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2557 - 01:15

ญี่ปุ่นกับเยอรมันมีอะไรคล้ายกันนะ

สงสัยประเทศไทยมันต้องโดนบอมก่อนล่ะมั้ง ถึงจะปลุกจิตสำนึกได้ ความมีวินัยถึงจะเกิด ความสามัคคีถึงจะก่อตัว

ตอนนี้ถ้าไม่ทะเลาะกันไม่ใช่คนไทย ขนาดยูทูบ เฟซบุ๊คไม่ใช่ของตัวเอง มันยังเข้าไปด่ากันเองไม่จบไม่สิ้น เรื่องไม่เป็นเรื่องทั้งนั้น

 

เรื่องมีสาระวิชาการ ไทยไม่ชอบ แต่ถ้าไร้สาระไม่มีประโยชน์คนไทยแย่งกันเล่น

บอกจะเป็นประเทศอุตสาหกรรม มีอะไรบ้างที่เป็นแบรนด์ของคนไทย...นอกจากครก อ่างศิลา กับโอ่งราชบุรี

ยางพารามีมากที่สุดก็ส่งไปทำยางรถยนต์ที่ต่างประเทศ มันสำปะหลังก็ส่งไปทำอาหารสัตว์ที่ต่างประเทศ ฯลฯ เสร็จแล้วพี่ไทยซื้อนำเข้ามาใช้อย่างมหาศาล :lol:


        shotgun.gif       d444.gif        cheesy.gif

 


#43 เช never die

เช never die

    มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,845 posts

ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2557 - 10:33

อีกเรื่องที่เยอรมันกับไทยต่างกันก็คือแนวความคิดเรื่องพลังงาน

ของเยอรมัน ค่าไฟฟ้าตามบ้านเรือนจะแพงมาก นัยว่าเน้นให้คนประหยัดการใช้พลังงาน แต่ค่าไฟฟ่าตามโรงงานสถานประกอบการจะถูกมากๆ ถ้าจำไม่ผิดเรียกได้ว่าครึ่งต่อครึ่งเลยก็ว่าได้ อันนี้ก็เหมือนกัน ประมาณว่าสถานประกอบการเป็นที่ประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ที่ก่อให้เกิดกระบวนการที่ต่อเนื่องในระบบเศรษฐกิจ เน้นให้คนเข้าไปใช้เวลาทำงานอยู่ในสถานประกอบการ ไม่อยากให้ใครนอนอยู่บ้าน ว่างั้น...

มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล


#44 applejaa

applejaa

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 460 posts

ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2557 - 10:45

คนเยอรมัน หึหึ  จากประสบการณ์ที่ร่วมงานด้วย 2-3 คน ขอบอกเลยว่า กาก ๆ ก็มี  คงจะเป็นดวงซวยของเราที่เจอ 555 <_< <_<



#45 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2557 - 12:31

เท่าที่อ่านเรื่องการจับปรับอย่างเข้มข้นที่เพื่อนๆเล่ามา

 

พวกลิเบอรัลในไทยเราดีแต่ป่าวประกาศเรียกร้องเสรีภาพตามแบบฝรั่ง

แต่กลับไม่ยอมรับบทลงโทษที่เข้มข้นเลยนะครับ

 

เป็นคนประเภททำตามอำเภอใจโดยไม่ยอมรับผลที่ตามมา ไม่ยอมถูกตรวจสอบ ไม่ยอมรับบทลงโทษ

แต่ห่อหุ้มสิ่งที่ตนเรียกร้องด้วยคำพูดสวยหรูว่า "สิทธิเสรีภาพ"


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#46 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2557 - 12:56

ผมไปเจอคห.ที่น่าสนใจมากๆจาก OK nation ครับ

เลยเอามาแบ่งปันกัน

 

http://www.oknation....4/04/16/entry-1

 

ความคิดเห็นที่ 2     แม่มดเดือนMarch วันที่ : 16/04/2014 เวลา : 11.09 น. 
http://www.oknation.net/blog/March 
   

จากการใช้ชีวิตอยู่ในประเทศเยอรมนีนานถึง ๒๐ ปี แม่มดคอนเฟิร์มว่ากว่า ๘๐ % ของความเห็นในบทความนี้เป็นเรื่องจริงค่ะ 

ชีวิตของชาวเยอรมันอาจจะดูน่าเบื่อมากสำหรับคนที่ชอบความฉาบฉวยแต่เป็นชีวิตที่เรียบง่าย สงบ สะอาด มั่นคงและปลอดภัย
ชาวเยอรมันส่วนใหญ่่เป็นคนสุภาพ สมถะ ขยัน มีวินัยสูง ซื่อสัตย์ จริงจังและจริงใจ ยึดมั่นในหลักการ มีความกล้าหาญทางจริยธรรมสูงประเภทยอมหัก ไม่ยอมงอ 
ขอย้ำว่าส่วนใหญ่ ไม่ใช่ทุกคนนะคะ

 

ภาคประชาชนของประเทศเยอรมนีเข้มแข็งและเข้มงวดกับนักการเมือง สื่อและการทำงานของข้าราชการมาก

 

แต่เรื่องบัตรเครดิต แม่มดมีประสบการณ์ว่าเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆและได้ง่ายด้วย แทบทุกสถาบันการเงินออกบัตรเครดิตของตนเองและส่วนใหญ่ ไม่เก็บค่าธรรมเนียมด้วยนะคะ

การใช้บริการของธนาคารก็เช่นกัน ง่ายดายและมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าที่เมืองไทยมาก อยู่ที่นั่น แม่มดมี standing order กว่า ๑๐ รายการที่สั่งจ่ายบริการต่างๆผ่านธนาคารทุกเดือนโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมแต่ประการใด 

 

การคุ้มครองผู้บริโภคในประเทศเยอรมนีเข้มแข็งมาก เครื่องใช้ต่างๆต้องมีประกันให้ลูกค้าไม่น้อยกว่า ๒ ปี เรื่องที่ร้านจะติดป้ายว่าสินค้าชิ้นนี้ ไม่รับเปลี่ยนและไม่รับคืนเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้

 

เยอรมนีมีองค์กรอิสระที่ทำการทดสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ต่างๆตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบอย่างเข้มงวดและรายงานผลการทดสอบต่อสังคมอย่างไม่เห็นแก่หน้าอินทร์หน้าพรหม ฯลฯ ฯลฯ

 

ชาวเยอรมันมีคุณภาพชีวิตที่สูงมากแต่เขาก็จ่ายภาษีสูงและยอมรับกฎระเบียบต่างๆ รวมทั้งการมีวินัย ไม่เป็นผู้ที่ละเมิดหรือหลีกเลี่ยงกฎหมายเสียเองในขณะที่เรียกร้องความซื่อสัตย์จากรัฐบาลแบบที่พวกเราจำนวนไม่น้อยเป็นกัน

 

เรื่องเหล่านี้มีรายละเอียดในทางปฏิบัติมากมายค่ะ

 


Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 17 เมษายน พ.ศ. 2557 - 12:57.

gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#47 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2557 - 13:06

ผมว่าคนเยอรมันมีเค้านิสัยอย่างนี้มาอยู่บ้างแล้วแต่ยังไม่ชัดขนาดนี้

 

พอผ่านยุค 1934-45 มันมีแนวความคิด  มีความพยายามจัดสรรหน้าที่ผลเมืองอยางชัดเจน ลดความเป็นส่วนบุคคลลง

มีองค์กรภาคประชาชนสารพัด ตั้งแต่ชาวนา กรรมกร แม่บ้าน จนถึงเด็กเล็ก (NSBO TODT DRL DSVB DAF DJ HJ)

ตั้งโดยรัฐมีทั้งชุดฟอร์ม เครื่องหมายชั้นยศ เหรียญตรา วารสาร การประชุมกลุ่มใหญ่-ย่อย สาบานตน มีกฎร่วมกันชัดเจน 

คนหนึ่งคนในยุคนั้นอยู่ในองค์กรพวกนี้บางคนมีถึงสี่ห้าองค์กรเลย 

 

ถึงคนเยอรมันจะรังเกียจยุคนี้ แต่ยุคนี้ละฝังความคิดทางการจัดระเบียบสังคมและประชาชนไว้เยอะเลยครับ

 

 

 

 

หมายเหตุ: แก้คำผิด

 

 

ยุคฮิตเลอร์ ยุคนาซีใช่ไหม ?


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#48 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2557 - 13:11

 

ผมไปเจอคห.ที่น่าสนใจมากๆจาก OK nation ครับ

เลยเอามาแบ่งปันกัน

 

http://www.oknation....4/04/16/entry-1

 

ความคิดเห็นที่ 2     แม่มดเดือนMarch วันที่ : 16/04/2014 เวลา : 11.09 น. 
http://www.oknation.net/blog/March 
   

จากการใช้ชีวิตอยู่ในประเทศเยอรมนีนานถึง ๒๐ ปี แม่มดคอนเฟิร์มว่ากว่า ๘๐ % ของความเห็นในบทความนี้เป็นเรื่องจริงค่ะ 

ชีวิตของชาวเยอรมันอาจจะดูน่าเบื่อมากสำหรับคนที่ชอบความฉาบฉวยแต่เป็นชีวิตที่เรียบง่าย สงบ สะอาด มั่นคงและปลอดภัย
ชาวเยอรมันส่วนใหญ่่เป็นคนสุภาพ สมถะ ขยัน มีวินัยสูง ซื่อสัตย์ จริงจังและจริงใจ ยึดมั่นในหลักการ มีความกล้าหาญทางจริยธรรมสูงประเภทยอมหัก ไม่ยอมงอ 
ขอย้ำว่าส่วนใหญ่ ไม่ใช่ทุกคนนะคะ

 

ภาคประชาชนของประเทศเยอรมนีเข้มแข็งและเข้มงวดกับนักการเมือง สื่อและการทำงานของข้าราชการมาก

 

แต่เรื่องบัตรเครดิต แม่มดมีประสบการณ์ว่าเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆและได้ง่ายด้วย แทบทุกสถาบันการเงินออกบัตรเครดิตของตนเองและส่วนใหญ่ ไม่เก็บค่าธรรมเนียมด้วยนะคะ

การใช้บริการของธนาคารก็เช่นกัน ง่ายดายและมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าที่เมืองไทยมาก อยู่ที่นั่น แม่มดมี standing order กว่า ๑๐ รายการที่สั่งจ่ายบริการต่างๆผ่านธนาคารทุกเดือนโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมแต่ประการใด 

 

การคุ้มครองผู้บริโภคในประเทศเยอรมนีเข้มแข็งมาก เครื่องใช้ต่างๆต้องมีประกันให้ลูกค้าไม่น้อยกว่า ๒ ปี เรื่องที่ร้านจะติดป้ายว่าสินค้าชิ้นนี้ ไม่รับเปลี่ยนและไม่รับคืนเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้

 

เยอรมนีมีองค์กรอิสระที่ทำการทดสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ต่างๆตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบอย่างเข้มงวดและรายงานผลการทดสอบต่อสังคมอย่างไม่เห็นแก่หน้าอินทร์หน้าพรหม ฯลฯ ฯลฯ

 

ชาวเยอรมันมีคุณภาพชีวิตที่สูงมากแต่เขาก็จ่ายภาษีสูงและยอมรับกฎระเบียบต่างๆ รวมทั้งการมีวินัย ไม่เป็นผู้ที่ละเมิดหรือหลีกเลี่ยงกฎหมายเสียเองในขณะที่เรียกร้องความซื่อสัตย์จากรัฐบาลแบบที่พวกเราจำนวนไม่น้อยเป็นกัน

 

เรื่องเหล่านี้มีรายละเอียดในทางปฏิบัติมากมายค่ะ

 

 

 

 

 

 

ายทาสเงินของไพร่เสื้อแดงและขี้ข้าไม่ยอมรับวิถีชีวิตนี้อย่างแน่นอน......

เพราะ'นายทาสเงิน'และครอบครัวมีชีวิต ความเป็นอยู่สูงกว่า คอยกดขี่ให้เป็นไพร่เสื้อแดง รับบัตรเติมเงิน ใบประทวน ไว้แลกเงินสด เมื่อต้องใช้จ่าย.....!


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#49 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2557 - 13:22

ญี่ปุ่นกับเยอรมันมีอะไรคล้ายกันนะ

สงสัยประเทศไทยมันต้องโดนบอมก่อนล่ะมั้ง ถึงจะปลุกจิตสำนึกได้ ความมีวินัยถึงจะเกิด ความสามัคคีถึงจะก่อตัว

ตอนนี้ถ้าไม่ทะเลาะกันไม่ใช่คนไทย ขนาดยูทูบ เฟซบุ๊คไม่ใช่ของตัวเอง มันยังเข้าไปด่ากันเองไม่จบไม่สิ้น เรื่องไม่เป็นเรื่องทั้งนั้น

 

เรื่องมีสาระวิชาการ ไทยไม่ชอบ แต่ถ้าไร้สาระไม่มีประโยชน์คนไทยแย่งกันเล่น

บอกจะเป็นประเทศอุตสาหกรรม มีอะไรบ้างที่เป็นแบรนด์ของคนไทย...นอกจากครก อ่างศิลา กับโอ่งราชบุรี

ยางพารามีมากที่สุดก็ส่งไปทำยางรถยนต์ที่ต่างประเทศ มันสำปะหลังก็ส่งไปทำอาหารสัตว์ที่ต่างประเทศ ฯลฯ เสร็จแล้วพี่ไทยซื้อนำเข้ามาใช้อย่างมหาศาล :lol:

 

 

1.ชาวญี่ปุ่นยอมรับชาวเยอรมันมากกว่าชาวยุโรปอื่นๆ รวมทั้งอเมริกันด้วย

2.ภาษา ไวยากรณ์ภาษาญี่ปุ่นมีส่วนคล้ายภาษาเยอรมัน ชาวญี่ปุ่นเรียนภาษาเยอรมันง่ายกว่าภาษาอังกฤษ...

3.มีความตั้งใจทำงาน ความซื่อสัตย์ การเหยียดหยามชาติอื่น คล้ายคลึงกัน...

4.องค์กรจ้างพนักงานตลอดชีวิต รักองค์กร คล้ายกัน แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใข่แล้ว....

5.หลังสงครามโลก ชาวญี่ปุ่นมีเงินออมสูง แม้ไม่มีดอกเบี้ยก็ตาม ถือสุภาษิตว่ามีเงินออมไม่มีดอกเบี้ย ดีกว่าไม่มีเงินออม...

6.สมัยก่อนบนรถไฟฟ้าบนดิน ใต้ดิน ก็ไม่ค่อยมีการ์ดตรวจสอบบัตร คนขี้โกงซื้อตั้วเดือนต้นทางระยะสั้นๆ และ ปลายทางระยะสั่นๆ ประหยัดเงินได้เดือนละมากๆ...

7.สมัยก่อนนี้ไม่มีของปลอมเพราะพ่อค้าบอกว่าต้นทุนทำ'ของปลอม'แพงกว่าผลิต'ของแท้'.....

8......ฯลฯ


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#50 gears

gears

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,450 posts

ตอบ 17 เมษายน พ.ศ. 2557 - 14:26

ทำไงได้ครับ แผงขาย dvd เถื่อนตำรวจยืนเฝ้าอ่ะ 555+
ผมโคดขายหน้าเลยย




ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน