17 replies to this topic

[บ้านเสรีไทย]

รัฐบุคคลหวังรัฐบุรุษเป็น 'รัฏฐาธิปัตย์'

 

รายการ Wake Up Thailand ประจำวันที่ 15 เมษายน 2557 ตอนที่ 1

 

นำเสนอประเด็น

 

- คณะรัฐบุคลเสนอ "ป๋าเปรม" ชงชื่อนายกฯ ม.7

- "อภิสิทธิ์" ชี้นายกฯม.7เป็นไปได้ยาก

- ปธ.กกต. งง! ไม่ทราบเจตนาปชป.ตั้งเงื่อนไขหารือ70พรรค

- ถ้าพระยาพหลฯ ยังมีชีวิตอยู่ คงเสียใจ ปชต.บิดเบือน

- รวมผลงานของศาล รธน. อะไรคือลำเอียง...

Edited by banserithai, 16 April 2014 - 12:02.

[ไฮยีน่า]

ต้องไปเลือกตั้ง ท่องไว้นะ3เวลาหลังอาหาร

[HiddenMan]

ถ้าพ่อเอ็งได้เป็นมันจะ wake up ต่อมั้ยนะ...

[ctpk05]

มีถั่วมั้ย??

Edited by ctpk05, 16 April 2014 - 12:24.

[น้ำหวาน]

แล้วถ้าไม่เป็นไปตามนั้น ขี้ข้าแดงจะหามุขไหนแดร๊กอีก

[DeathRoseTH]

 

ท.ทหาร โหด มัน ฮา

15 นาที ·

จุดๆๆ
__________________
@min::เตอร์

[plunk]

เค้าว่า เค้าบอกมา

[RiDKuN_user]

เค้าว่า เค้าบอกมา

 

ใครๆ ก็รู้

[Mr.Best]

มาโพสเพื่อจะไปเบิกตังจากคนแดนไกลหรอ 55555555+ 

[Shariff]

เอาล็อคอินเดิมมาโพสต์มันน่าอายตรงไหน

[phoebus]

การพยากรณ์ที่คลาดเคลื่อน

 

เรามาดูกันถึงการพยากรณ์ หรือการทำนายที่คาดเคลื่อนกันระดับโลกดีก่า     

 

 

วิลเบอร์ ไรท์ หนึ่งในพี่น้องที่เป็นผู้บุกเบิกด้านการบิน กล่าวไว้ใน "US aviation pioneer" เมื่อปี 1908 ว่า "ผมต้องขอสารภาพว่าเมื่อปี 1901 ผมบอกกับเออร์วิล น้องชายผมว่า อีกห้าสิบปี คนเราก็ยังบินไม่ได้ ด้วยคำกล่าวนี้เองทำให้ผมไม่กบล้าพยากรณ์อะไรอีกเลย" (เออร์วิล ไรท์ เป็นบุคคลแรกที่ขับเครื่องบินที่สร้างขึ้นมาเองในวันที่ 17 ธันวาคม 1903)

 

เอสจี เวลส์ นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ ผู้สร้างเรือดำน้ำนอติลุส ใน "ใต้ทะเล 20,000 โยชน์" กล่าวว่า "ผมต้องขอสารภาพว่า ความคิดผมนี่แย่มาก ไอ้เรือดำน้ำของผมนี่เป็นไปไม่ได้ ลูกเรือคงหายใจลำบากตายแน่ แล้วจะไปไหนมาไหนก็คงต้องตะเกียกตะกายไปพิลึก"

 

จอมพลเฟอร์ดินันด์ ฟอช ผู้ที่เป็นผู้วางแผนการรบในสมัยสงครามโลกครั้งที่ I กล่าวไว้เมื่อปี 1911 ว่า "เครื่องบินเป็นของเล่นที่น่าสนุก แต่ไม่มีค่าทางการทหารแต่อย่างใด"

 

ประธานธนาคารแห่งหนึ่งที่มิชิแกนกล่าวกับ ทนายความของเฮนรี่ ฟอร์ด เมื่อปี 1903 ว่า "ม้าก็มีแล้ว รถยนต์ก็เป็นเรื่องฟุ่มเฟื่อยไปก็เท่านั้นเอง" และยังแนะนำไม่ให้เขาลงทึนในบริษัทฟอร์ดมอเตอร์ อีกด้วย แต่ทนายกลับไม่เชื่อ โดยซื้อหุ้นไว้ 5000 ดอลลาร์ และขายไปได้ถึง 12.5 ล้านดอลลาร์ในอีก 2-3 ปีต่อมา

 

เดวิด ลอยด์ จอร์จ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษกล่าวเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 1934 ว่า "เชื่อผมเถอะ เยอรมนีไม่มีน้ำยาที่จะก่อสงครามขึ้นมาได้หรอก" (สงครามโลกครั้งที่ II เกิดเมื่อปี 1939 โดยมีเยอรมนีเป็นผู้ก่อเหตุ)

 

ชาร์ลส์ เอช ดูเอล ผู้อำนวยการสำนักงานจดทะเบียนสิทธิบัตร กล่าวเมื่อปี 1899 ว่า "อะไร ๆ ที่ประดิษฐ์ได้ ก็มีผู้ประดิษฐ์ไว้หมดแล้วนะ"

 

เมื่อปี 1919 ลี เดอ ฟอเรส ได้พัฒนาและจดทะเบียนสิทธิบัตรภาพยนตร์เสียงขึ้นมา แต่แฮรี่ เอ็ม วอร์เนอร์ แห่งบริษัทวอร์เนอร์บราเธอร์ บอกเมื่อปี 1927 ว่า "มีไอ้บ้าที่ไหนนะ ที่อยากดูหนังที่มีคนพูดออกมา"

 

เคนเนธ ออลเสน ประธานและผู้ก่อตั้งบริษัทดิจิตัลอีควิปเมนต์คอร์ป กล่าวไว้เมื่อปี 1977 ว่า "ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ผู้คนจะมีคอมพิวเตอร์ไว้ใช้ในบ้าน"

 

โจเซฟัส เดเนียลส์ อดีต รมต.กระทรวงทหารเรือของสหรัฐ กล่าวเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 1922 ว่า "ไม่มีใครกลัวญี่ปุ่นจะบุกแปซิฟิก วิทยุนี่แหละที่จะป้องกันไว้ได้" (ญี่ปุ่นบุกเพิร์ลฮาเบอร์เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 1941 อันเป็นการเปิดฉากสงครามโลกครั้งที่ II ฝั่งเอเชียแปซิฟิก หรือสงครามมหาเอเชียบูรพา)

 

 

วิลเลียม ออร์ตัน ประธานบริษัทเวสเทิร์นยูเนียน ปฏิเสธข้อเสนอของอเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ ที่จะขายบริษัทโทรศัพท์ที่เขาตั้งขึ้นในราคา 100,000 ดอลลาร์ โดยบอกว่า "มีประโยชน์อะไรที่บริษัทเราจะสร้างของเล่นไฟฟ้าพรรณ์นี้"

 

 

   

 

 

 

 

[Critical]

สมัครใหม่ปุ๊บก็จัด 3 มู้ ใน 3 ชั่วโมง ขยันจริงๆ     

[พอล คุง]

ปวดขี้เจง ๆ

 

   

[Tom PR]

การพยากรณ์ที่คลาดเคลื่อน

 

 

ว่าน้ำมันจะหมดโลกเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 1918

 

1 A correspondent named W.D. Hornaday, quoting oil industry executive J.S. Cullinan, described the concerns in a 1918 article for Tractor and Gas Engine Review titled "Petroleum consumption enormous."^[3] The article said, "There has been considerable discussion of late as to the possible length of time that the petroleum supply of the United States and the world will hold out."^[3] The article quoted Cullinan as saying, "It is just possible, so far as the United States is concerned, that the development and the exhaustion of the supplies may occur within the course of one human life. It is certain that unless radical changes from present methods are applied promptly, all sources of supply within the range of known drilling methods will be exhausted during the life of your children and mine."^[3]

 

2 In 1956, M. King Hubbert created and first used the models behind peak oil to predict that United States oil production would peak between 1965 and 1971.^[4]

3 In 1956, Hubbert calculated that the world held an ultimate cumulative of 1.25 trillion barrels, of which 124 billion had already been produced. He projected that world oil production would peak at about 12.5 billion barrels per year, sometime around the year 2000.

4 In 1974, M. King Hubbert predicted that world peak oil would occur in 1995 "if current trends continue."^[7]

However, in the late 1970s and early 1980s, global oil consumption actually dropped (due to the shift to energy-efficient cars,^[8] the shift to electricity and natural gas for heating,^[9] and other factors), then rebounded with a lower rate of growth in the mid 1980s. Thus oil production did not peak in 1995, and has climbed to more than double the rate initially projected.

5 In 2001, Kenneth S. Deffeyes, professor emeritus of geology at Princeton University, used Hubbert’s theory to predict that world oil production would peak in 2005.^[10] As of late 2009, Deffeyes was still convinced that 2005 had been the peak, and wrote: “I think it unlikely that oil production will ever climb back to the 2005 levels.”^[11]

6 In October 2007, the Energy Watch Group, a German research group founded by MP Hans-Josef Fell, released a report claiming that oil production peaked in 2006 and would decline by several percent annually. The authors predicted negative economic effects and social unrest as a result.^[14][15] They stated that the IEA production plateau prediction uses purely economic models, which rely on an ability to raise production and discovery rates at will.^[14]

7 ASPO predicted in their January 2008 newsletter that the peak in all oil (including non-conventional sources), would occur in 2010. This is earlier than the July 2007 newsletter prediction of 2011.^[17] ASPO Ireland in its May 2008 newsletter, number 89, revised its depletion model and advanced the date of the peak of overall liquids from 2010 to 2007.^[18]

8 The UK Industry Taskforce on Peak Oil and Energy Security (ITPOES) reported in late October 2008 that peak oil is likely to occur by 2013. ITPOES consists of eight companies: Arup, FirstGroup, Foster + Partners, Scottish and Southern Energy, Solarcentury, Stagecoach Group, Virgin Group, and Yahoo. Their report includes a chapter written by Shell corporation.^[22]

9 In October 2009, a report published by the Government-supported UK Energy Research Centre, following 'a review of over 500 studies, analysis of industry databases and comparison of global supply forecasts', concluded that 'a peak in conventional oil production before 2030 appears likely and there is a significant risk of a peak before 2020'.^[23]

Edited by Tom PR, 16 April 2014 - 13:56.

[Critical]

ปวดขี้เจง ๆ

 

   

ขี้ใส่มู้ได้เลยฮะ จขกท. เค้าไม่ได้มาสนใจตอบอยู่แล้วครับ 

[แม้ว ม.7]

 
- คณะรัฐบุคลเสนอ "ป๋าเปรม" ชงชื่อนายกฯ ม.7
- "อภิสิทธิ์" ชี้นายกฯม.7เป็นไปได้ยาก
- ปธ.กกต. งง! ไม่ทราบเจตนาปชป.ตั้งเงื่อนไขหารือ70พรรค
- ถ้าพระยาพหลฯ ยังมีชีวิตอยู่ คงเสียใจ ปชต.บิดเบือน
- รวมผลงานของศาล รธน. อะไรคือลำเอียง...

พระยาพหลคงเสียใจไปตั้งแต่จอมพลปแล้ว

แต่ก็นะ ยึดอำนาจเสร็จคณะราษฏรก็ไม่เห็นจะจัดเลือกตั้ง รอตั้งเป็นสิบปี

[พอล คุง]

 

ปวดขี้เจง ๆ

 

   

ขี้ใส่มู้ได้เลยฮะ จขกท. เค้าไม่ได้มาสนใจตอบอยู่แล้วครับ 

 

 

ช่าย เพราะเจ้าของกระทู้มันเ-หี้ยไง

 

ไม่รับผิดชอบกระทู้ตัวเอง

[แสงดาวแห่งศรัทธา]

อีกหนึ่งกระทู้ปัญญาอ่อนเรียกราคา จะจ้างคนมาป่วนก็หาพวกที่มีไอคิวบ้างไม่ได้หรือไร อย่างว่าโง่ทั้งคนจ้างกับคนถูกจ้าง. พวกไร้ค่ายิ่งกว่าเศษขยะ. เพราะเศษขยะยังนํามาใช้ประโยชน์ต่อได้