วิกฤติการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน[แก้]
วิกฤตการเมืองในประเทศซีเรียเริ่มต้นเมื่อ เดือน มีนาคม พ.ศ. 2554 อันเป็นผลจากการปฏิวัติในประเทศอาหรับหรืออาหรับสปริง เหตุการณ์นี้ดำเนินมากว่าหนึ่งปีส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 9,113 รายแล้ว โดยในจำนวนดังกล่าวเป็นพลเรือน เสียชีวิตทั้งจากการเข้าร่วมประท้วง หรือโดนอาวุธลูกหลง 6,546 ราย กองกำลังความมั่นคงรัฐบาลซีเรีย 1,991 ราย และนักรบฝ่ายกบฏ 471 ราย[4]และอีกกว่า 1 หมื่นคนถูกจับ[5] ในวันที่ 15มีนาคม พ.ศ. 2555 เจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศซาอุดิอาระเบีย สั่งปิดสถานทูตซาอุดิอาระเบีย ประจำกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย พร้อมกับเร่งอพยพนักการทูตและเจ้าหน้าที่ ออกจากประเทศอย่างเร่งด่วน [6] ทั้งนี้นายอับดุลลาตีฟ อัล-ซายานี ประธานกลุ่มจีซีซี ออกแถลงการว่า สมาชิกคณะมนตรีความร่วมมือแห่งอ่าวอาหรับ (จีซีซี) ทั้ง 6 ประเทศนำโดยประเทศซาอุดีอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ , ประเทศบาห์เรน, ประเทศโอมาน, ประเทศกาตาร์ และ ประเทศคูเวต เตรียมปิดสถานทูตในซีเรีย เพื่อประท้วงรัฐบาลซีเรียที่สังหารประชาชนของประเทศดังกล่าว[7]
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า (21 ส.ค. 2556) ที่ประเทศซีเรียเกิดเหตุโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่อีกครั้ง จากเหตุสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อยาวนานมากว่า 29 เดือน ซึ่งเป็นความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลและกลุ่มผู้ต่อต้านประธานาธิบดีบาชาร์อัล อัสซาด ผู้นำซีเรีย เมื่อเครื่องบินของกองทัพซีเรียทิ้งระเบิดในเมืองกัวตาห์ ชานกรุงดามัสกัส โดยกลุ่มสัมพันธมิตรซีเรียแจ้งว่า ระเบิดดังกล่าวเป็นอาวุธเคมี ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 650 ราย พร้อมเผยภาพศพที่นอนเกลื่อนกลาดโดยเป็นเด็กจำนวนมาก ขณะที่นายจอร์จ ซาบรา กลุ่มแกนนำผู้นำฝ่ายค้านแถลงว่า ยอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 1,300 ราย
ด้านสำนักข่าวของทางการซีเรียปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง พร้อมระบุว่าการอ้างอาวุธเคมีดังกล่าว เพื่อกีดกันคณะเจ้าหน้าที่สหประชาชาติเข้าไปตรวจสอบ [8]
http://th.wikipedia....ki/ประเทศซีเรีย
...................................................................................................
ผมเดาว่า อเมริกาอยู่เบื้องหลังการก่อกบฎครั้งนี้