Jump to content


Photo
- - - - -

....ชำแหละศาสตราจารย์กำมะลอ อุกฤษ มงคลนาวิน และจดหมายเปิดผนึกให้ร้ายศาลรัฐธรรมนูญ....


  • Please log in to reply
28 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 ศรอรชุน

ศรอรชุน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,103 posts

ตอบ 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 16:14

*
POPULAR

19084d9.jpg

 

อุกฤษ มงคลนาวิน 

มีความสัมพันธ์ ใกล้ชิดกับ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร 
ช่วงรัฐบาลทักษิณ เคยขอคำแนะนำข้อกฎหมายและดึงมาร่วมงานการเมืองหลายครั้ง อาทิ ประธานคณะกรรมการอิสระอำนวยความยุติธรรมและส่งเสริมความยุติธรรม และส่งเสริมสิทธิเสรีภาพใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.ยส.)  ล่าสุด หวนคืนมาช่วยงานรัฐบาลอีกครา ในตำแหน่งประธานคอ.นธ.
http://www.khaosod.c...kUzTURrMU5BPT0=

อุกฤษ มงคลนาวิน
ผู้ผิดหวังไปไม่ถึงฝั่งฝันจากความพยายามอยากที่จะเป็น "ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ" เพราะตัวเองไม่มีคุณสมบัติ แต่ยังแกล้งมึนตาใสเสนอตัวเข้าสู่กระบวนการคัดสรรตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จนถูกศาล รธน. วินิจฉัยว่าคุณสมบัติไม่ถูกต้อง...
  
คำวินิจฉัยของศาล รธน ที่ 2/2541ระบุให้ การแต่งตั้ง อุกฤษ เป็น ตุลาการศาล รธน. ผู้ทรงคุณวุฒิสาขานิติศาสตร์ เป็นโมฆะ เพราะอุกฤษเป็น ศาสตราจารย์พิเศษ ของจุฬาไม่ใช่ ศาสตราจารย์ ที่เป็นข้าราชการพลเรือนมหาวิทยาลัยระดับ 10
http://dl.parliament....pdf?sequence=1

 

การเผยแพร่ในจุลสารภายในของจุฬาฯ ราวๆ ปี 2534 ว่าในการพิจารณาตำแหน่งทางวิชาการของอาจารย์กลุ่มหนึ่งนั้น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ผศ.) อุกฤษ ได้ขอเลื่อนเป็นศาสตราจารย์ (ศ.) เลย โดยไม่ขอเป็นรองศาสตราจารย์ (รศ.) ก่อน ซึ่งทำได้ถ้าผลงานวิชาการที่เสนอมานั้นมีคุณภาพสูงมาก แต่ปรากฏว่า "ไม่ผ่าน" มีผลทำให้ได้เลื่อนแค่เป็น รศ. รับเงินเดือนระดับ  9 (ซี 9) หลังจากนั้น รศ.ดร.อุกฤษก็ลาออกจากราชการไปเปิดสำนักงานกฎหมาย แต่ก็ยังมาสอนที่จุฬาฯ ในฐานะอาจารย์พิเศษ

ต่อมาลูกศิษย์ของท่านซึ่งเป็นเนติบริกร ได้ร่วมร่าง รธน. 2540 ได้ระบุตำแหน่งศาสตราจารย์ เป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่งของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  แล้วได้จัดการให้สภาจุฬาฯ แต่งตั้ง รศ.ดร.อุกฤษเป็น "ศาสตราจารย์พิเศษ"  (เป็นตำแหน่งที่ตั้งบุคคลภายนอกมหาวิทยาลัย ไม่ได้มีฐานะเป็นข้าราชการแล้ว) 
แต่เจ้าตัวมักไม่เขียนคำว่า "พิเศษ" คนทั่วไปจึงเข้าใจว่าเป็นศาสตราจารย์ธรรมดา (ซึ่งจริงๆ กว่าจะได้เป็นก็แทบกระอักเลือด เพราะต้องมีทั้งงานวิจัยและตำราที่มีคุณภาพชั้นเลิศ) 
http://www.oknation....t.php?id=750794

 

รูปภาพ1.jpg

 

http://www.nrlcthail...lc2013/main.php

 

เป็น "ศาสตราจารย์พิเศษ" แต่มักจะตัดคำว่า"พิเศษ" ออกไป
สร้างความสับสันให้ประชาชนโดยทั่วไป...

ตามบิดเบือนให้ร้ายศาลรัฐธรรมนูญ เพราะตัวเองเคยพลาดหวังจากการเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคงจะมีปมในใจ...

 

จนหลงลืมความถูกผิด ความชั่วดี ไปสิ้น...


Edited by ศรอรชุน, 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 16:28.

"ควาย" ในความหมายของผม คือ คนที่มีความคิด เล่นเน็ตเป็น แต่แยกแยะ ดี ชั่ว ถูก ผิด ไม่ได้  

              มิได้หมายถึง ชาวรากหญ้า ที่เป็นเหยื่อในสงครามทางความคิดครั้งนี้

 

"คนชั่ว" จะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา... อยากให้ถึงวรรคท้ายของคำทำนาย ไวๆ ว่ะ...


#2 ศรอรชุน

ศรอรชุน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,103 posts

ตอบ 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 16:16

*
POPULAR

นายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.)
เป็นนักกฎหมายระดับนี้ ไม่น่าทำตัวให้เสียคนตอนแก่แลย  รู้ดีทุกอย่างแต่ตั้งใจเปิดบางส่วน ปิดบางส่วน
เพื่อสร้างความเชื่อผิดๆให้กับเสื้อแดง แย่มาก...

รธน.50 รัฐธรรมนูญ มาตรา 216 วรรคหก ได้บัญญัติไว้ให้ วิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญต้องเป็นไป
ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบกับมาตรา 300
วรรคห้า และบทเฉพาะกาล มาตรา 300 วรรคห้า ได้บัญญัติว่าในระหว่างที่ยังมิได้มีการตราพระราช
บัญญัติ ให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจออกข้อกำหนดเกี่ยวกับวิธีพิจารณาและการทำคำวินิจฉัยได้ แต่ทั้งนี้
ต้องตราพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน1 ปี นับแต่วันประกาศใช้
รัฐธรรมนูญ

แต่พอครบปีไม่สามารถตรากฎหมายได้ ... รธน.ไม่ได้เขียนต่อว่าต้องทำอย่างไร...

(ความจริงศาลรัฐธรรมนูญส่งร่าง พ.ร.บ. ให้สภาภายในระยะเวลาที่กำหนดแล้ว ตั้งแต่ 25 มิ.ย. 51 แต่สภาแก้จนเละเทะและค้างเติ่ง ดองเรื่องมาจนถึงปัจจุบัน อันถือว่าเป็นความบกพร่องของนิติบัญญัติเอง ไม่เกี่ยวกะศาล รธน.  อันนี้ก็เป็นอีกคำเท็จบิดเบือนที่นายอุกฤษ จงใจโกหก โยนความผิดให้ศาลรัฐธรรมนูญ ว่าไม่จัดทำ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาให้แล้วเสร็จ)

จึงต้องนำเอาการอุดช่องว่างกฎหมายตาม ป.แพ่งและพาณิชย์มาตรา 4 วรรค 2 มาปรับใช้
“เมื่อไม่มีบทกฎหมายที่จะยกมาปรับคดีได้ ให้วินิจฉัยคดีนั้นตามจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่น ถ้าไม่มีจารีตประเพณีเช่นว่านั้นให้วินิจฉัยคดีอาศัยเทียบบทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งและถ้าบทกฎหมายเช่นนั้นก็ไม่มีด้วยให้วินิจฉัยตามหลักกฎหมายทั่วไป”
(อุดช่องว่างของกฎหมายโดยใช้ จารีตประเพณี, บทกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง, หลักกฎหมายทั่วไป)

ทีนี้มาดูว่าจะอุดช่องว่างของ รธน.อย่างไร...

"ศาลรัฐธรรมนูญ"มีมาตั้งแต่ รธน.40 ซึ่งกำหนดให้วิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นไปตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนด...(รธน.40 มาตรา 269)

และศาลรัฐธรรมนูญตาม รธน.50 ก็ดำเนินการออกข้อกำหนดเกี่ยวกับวิธีพิจารณาและการทำคำวินิจฉัยซึ่งก็มีของเดิมเป็นแม่แบบ 

เพราะฉะนั้นในกรณีนี้ เมื่อมองที่เจตนารมณ์ ของรัฐธรรมนูญ 50 ที่ต้องการให้คงศาลรัฐธรรมนูญไว้เหมือน รธน.40 เพียงแต่เพิ่มเติมให้วิธีการพิจารณาฯ ต้องผ่านสภาที่เป็นอำนาจนิติบัญญัติและทำเป็น พ.ร.บ. การที่สภาไม่สามารถผ่าน พ.ร.บ.ได้ภายใน 1 ปีก็เป็นความบกพร่องของนิติบัญญัติเอง ย่อมไม่กระทบต่อการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ  ที่เคยดำเนินการมาแล้วเป็นสิบปี(ตามรธน.40)  โดยไม่มี พ.ร.บ.วิธีพิจารณาฯ เช่นเดียวกัน...


"ควาย" ในความหมายของผม คือ คนที่มีความคิด เล่นเน็ตเป็น แต่แยกแยะ ดี ชั่ว ถูก ผิด ไม่ได้  

              มิได้หมายถึง ชาวรากหญ้า ที่เป็นเหยื่อในสงครามทางความคิดครั้งนี้

 

"คนชั่ว" จะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา... อยากให้ถึงวรรคท้ายของคำทำนาย ไวๆ ว่ะ...


#3 ศรอรชุน

ศรอรชุน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,103 posts

ตอบ 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 16:17

*
POPULAR

ปธ.ศาล รธน.โอด ถูกดองร่าง ก.ม.วิธีพิจารณาของศาล รธน.ชงตั้งแต่ปี 51 ยังไม่คืบ

ก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญก็เคยเสนอเมื่อปี 51 หลังจากที่รัฐธรรมนูญประกาศใช้ได้ดำเนินการเพื่อให้มี พ.ร.บ.วิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญแทนฉบับปัจจุบัน เท่าที่เสนอไปทั้ง 2 ครั้ง ก็ทราบว่ายังไม่มีฉบับของศาลรัฐธรรมนูญ ที่เสนอเข้านำไปบรรจุวาระร่วมพิจารณาด้วย แต่กลับมีร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ…ที่ ส.ส. นำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภา และได้บรรจุไว้ในระเบียบวาระแล้ว แม้ยังไม่มีฉบับของศาลรัฐธรรมนูญเข้าไปร่วมด้วยก็ไม่เป็นไร เพราะสุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญก็ต้องเป็นผู้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ก่อนที่ประกาศใช้ต้องส่งมาให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตรวจสอบความถูกต้อง และความชอบด้วยรัฐธรรมนูญก่อน
http://www.thairath..../content/333015

แล้วศาสตราจารย์พิเศษ อุกฤษ มงคลนาวิน พูดได้อย่างไรว่า

"ศาลรัฐธรรมนูญก็ยังละเลยที่จะดำเนินการเพื่อให้มีกฎหมายดังกล่าว"  

 

จงใจบิดเบือนแหกตาประชาชนชาวไทย ใช่หรือไม่...


"ควาย" ในความหมายของผม คือ คนที่มีความคิด เล่นเน็ตเป็น แต่แยกแยะ ดี ชั่ว ถูก ผิด ไม่ได้  

              มิได้หมายถึง ชาวรากหญ้า ที่เป็นเหยื่อในสงครามทางความคิดครั้งนี้

 

"คนชั่ว" จะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา... อยากให้ถึงวรรคท้ายของคำทำนาย ไวๆ ว่ะ...


#4 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 16:18

*
POPULAR

อับอายเพราะโดนจับได้ว่าเป็นแค่ศาสตราจารย์กำมะลอ จนหนีหายไป 10 ปี กลับมาอีกที ทำชั่วเหมือนเดิม



#5 ศรอรชุน

ศรอรชุน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,103 posts

ตอบ 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 16:20

*
POPULAR

เพจคุณสมจิตร สรุปไว้ค่อนข้างละเอียดครับ

 

21 เม.ย. 57 อุกฤษ มงคลนาวิน ประธานกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ (คอ.นธ.) ทำจดหมายเปิดผนึก ฉบับที่ 2 เรื่อง“เมื่อศาลรัฐธรรมนูญเป็นฝ่ายที่ฝ่าฝืนหลักนิติธรรมเสียเอง ศาลรัฐธรรมนูญก็ควรที่จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่” โดยมีเนื้อหาที่จงใจให้เกิดความเข้าใจผิดต่อกระบวนการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนี้

1.) ศาลรัฐธรรมนูญ ละเลยในการออก พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 216 วรรค 6 โดยใช้ข้อกำหนดเกี่ยวกับวิธีพิจารณาและการทำคำวินิจฉัย พ.ศ.2550 แต่ไม่ตรากฎหมายวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญภายใน 1 ปี หลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในมาตรา 300 วรรค 5

ความจริง
ศาลรัฐธรรมนูญ ได้เสนอ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญต่อสภามาแล้วสองครั้ง คือ
25 มิ.ย. 51 เสนอเข้าสภามีการรับหลักการวาระ 1 ตั้งกรรมาธิการฯพิจารณาวาระ 2 ส่งเรื่องกลับสภามีข้อโต้แย้ง ประธานกรรมาธิการฯจึงถอนร่างกลับไปทบทวน ต่อมามีการยุบสภา 10 พ.ค. 54 และรัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ยืนยันกฎหมายทำให้ตกไป ทำให้กฎหมายดังกล่าวค้างการพิจารณาอยู่ในสภานานกว่า 3 ปี
22 มี.ค.55 เสนอเข้าสภาเพื่อให้บรรจุในการพิจารณาวาระ 1 แต่กว่าสองปีที่ผ่านมาสภาที่พรรคเพื่อไทยมีเสียงข้างมากไม่มีการนำเรื่องดังกล่าวมาพิจารณา กฎหมายวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ จึงถูกดองในสภาเป็นครั้งที่สองนานกว่าสองปี รวมเวลาที่กฎหมายฉบับนี้ถูกสภาผู้แทนราษฎรเตะถ่วงไม่เร่งพิจารณาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดนานถึง 6 ปี
 

2.) นับแต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญจนถึงปัจจุบันเป็นเวลาเกือบ 7 ปี แล้ว ศาลรัฐธรรมนูญก็ยังละเลยที่จะดำเนินการเพื่อให้มีกฎหมายดังกล่าว

ความจริง
ศาลรัฐธรรมนูญเสนอร่างกฎหมายตามกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนด คนที่ละเลยไม่ดำเนินการให้กฎหมายดังกล่าวออกมามีผลบังคับใช้คือ สภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่ยุคพรรคพลังประชาชนครองเสียงข้างมามาจนถึงยุคพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในปัจจุบัน
ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจหน้าที่ในการควบคุมไม่ให้มีการละเมิดรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้มีอำนาจในการตรากฎหมาย เพราะเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้นปัญหาที่ไม่มีการตรากฎหมายภายใน 1 ปี จึงเป็นความรับผิดชอบของสภา ไม่ใช่ความผิดของศาลรัฐธรรมนูญ
 

3.) นำเอาข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาและการทำคำวินิจฉัย พ.ศ.2550ที่ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้กำหนดขึ้นเองแต่เพียงฝ่ายเดียวมาใช้ในการพิจารณาและการทำคำวินิจฉัย

ความจริง
ข้อกำหนดของศาลรัฐธรรมนูญฯมิได้กำหนดขึ้นเองแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่ยึดโยงกับกรอบการพิจารณาคดีของศาลแพ่ง โดยในข้อ 6 กำหนดให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับ
 

4.) การพิจารณาคดีจะต้องมีกฎเกณฑ์หรือกติกาว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาล เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้กับประชาชน กฎเกณฑ์หรือกติกาว่าด้วยวิธีพิจารณาดังกล่าวจะต้องถูกกำหนดขึ้นโดยองค์กรที่มีความชอบธรรมตามหลักประชาธิปไตยนั่นก็คือจะต้องมีการตราขึ้นเป็นกฎหมายโดยองค์กรฝ่ายนิติบัญญัติซึ่งมีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนไม่ใช่ศาลเป็นผู้กำหนดเอง

ความจริง
ศาลรัฐธรรมนูญได้เสนอกฎหมายให้สภาพิจารณาแล้ว แต่สภาซึ่งมีหน้าที่ตรากฎหมายดึงเรื่องไม่ยอมพิจารณากฎหมายดังกล่าว ทำให้ค้างการพิจารณาอยู่ในสภาที่พรรคเพื่อไทยมีเสียงข้างมาก จนกระทั่งมีการยุบสภาเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 กฎหมายนี้จึงไม่ได้รับการพิจารณาเป็นครั้งที่สอง หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญเสนอมาตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลานานถึง 6 ปี
 

5.) การพิจารณาวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ บิดเบี้ยว ขาดความชัดเจนในกระบวนการพิจารณา เพราะไม่มีกรอบแห่งการใช้อำนาจ

ความจริง
ศาลรัฐธรรมนูญมีกรอบการใช้อำนาจตามข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญฯ ที่ให้อำนาจนำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับ
ประเทศชาติวุ่นวายเพราะนักกฎหมายเลวไปเป็นขี้ข้า “โจร” บิดเบือนความจริงให้ "สื่อชั่ว" ขยายผลคำโกหกให้ยาพิษกับสังคมไทย
https://www.facebook...ubstory_index=0


Edited by ศรอรชุน, 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 16:22.

"ควาย" ในความหมายของผม คือ คนที่มีความคิด เล่นเน็ตเป็น แต่แยกแยะ ดี ชั่ว ถูก ผิด ไม่ได้  

              มิได้หมายถึง ชาวรากหญ้า ที่เป็นเหยื่อในสงครามทางความคิดครั้งนี้

 

"คนชั่ว" จะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา... อยากให้ถึงวรรคท้ายของคำทำนาย ไวๆ ว่ะ...


#6 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 16:34

*
POPULAR

คนขาดคุณสมบัติที่จะเป็นตุลาการศาล รธน

ดันสะแหล๋น แค่นจะวิพากษ์วิจารณ์ ดิสเครดิตคนที่มีคุณสมบัติครบและได้เป็น

กิ๊ว กิ๊ว น่าไม่อาย



#7 เช never die

เช never die

    มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,845 posts

ตอบ 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 16:38

*
POPULAR

ท่าทางไอ้***หมาเช็ดแม่อุกฤษใกล้จะโดนผมถอนหงอกเร็วๆนี้

มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล


#8 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 16:49

หลังเสนอร่างไปแล้ว...การออก พรบ. เป็นหน้าที่ของสภาไม่ใช่ ศาลรัฐธรรมนูญ

 

อุกฤษ นักกฏหมายแก่หงำเหงือก พอแก่แล้วเลยแกล้งโง่สมองกลวง จะไปโทษศาลรัฐธรรมนูญ

 

คงแสกนทุกซอกทุกมุมแล้ว ไม่มีรู ไม่มีแผลให้เปิด ต้องหาวิธีเปิดแผลเอง

 

:lol:



#9 คนกินข้าว

คนกินข้าว

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,422 posts

ตอบ 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 18:07

อ่านกฎหมายรู้ ดูกฎหมายเป็น.... "เงิบ"

 

คำว่า "ศาสตราจารย์ (พิเศษ)" เขียนแบบนี่้ครับ


"การเมือง เป็นเรื่องผลประโยชน์ส่วนตน ผลประโยชน์ประชาชน เป็นข้ออ้าง"

#10 phoebus

phoebus

    คณะรักษาความสงบแห่งชาติ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,636 posts

ตอบ 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 18:17

*
POPULAR

พ่อนายอุกฤษ ชื่อ พล.ร.ต.พระมงคลนาวาวุธ (มงคล มงคลนาวิน) เป็นอดีตเจ้ากรมพัสดุ ทร.

 

เป็นผู้ได้รับพระราชทานนามสกุลนี้มาจากรัชกาลที่ ๖

 

พระมงคลฯเป็น ทร. ได้รับฉายาว่า "กัปตันเหล็ก" เพราะเป็นนายทหารที่เฮี้ยบ และจงรักภักดีเป็นที่สุด

 

เป็นที่ครั้นครามของคณะราษฎรสาย ทร.เป็นอย่างยิ่ง จึงต้องวางแผนกันไม่ให้พระมงคลฯรับรู้ รับทราบ เพราะไม่เช่นนั้นแผนแตก และโดนซิวกันหมดแน่

 

ไม่นึกว่าลูกชายจะเป็นแบบนี้

 

 

-_-  -_-

 

 


ข้าจักล้มล้าง ระบอบทักษิณ ให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย 


#11 ลาดพร้าว 101

ลาดพร้าว 101

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 487 posts

ตอบ 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 18:30

รอบนี้ศาสตราจารย์กำมะลอจะหายไปอีกกี่ปี ?

#12 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 19:35

ช่วงที่หายไป แทนที่จะไปทบทวนความเลวของตัวเองในอดีต แต่กลับมาสร้างความเลวมากขึ้นไปอีก คนแบบนี้ต่อมสำนึกความดีคงไม่มี 


Edited by Bookmarks, 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 19:35.


#13 funnysun

funnysun

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 96 posts

ตอบ 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 19:37

แค่ขี้ข้าอีกตัวนึงของตัวHere



#14 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

ตอบ 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 19:45

อุ๊เด๊ะ โดนเค้าแฉเป็น ศาสตราจารย์กำมะลอ ไปแล้ว

 

มันยังมีหน้า มาเสนออีกเหรอเนีย

 

ถึงว่า คนเป็นขี้ข้าแม้วตอแหลไม่พอ โคตรจะหน้าด้านจริง ๆ

 

ปล. เป็นผมนะ ถ้าผมโดนแฉขนาดนี้ ผมเอาปิ๊ปคลุมหัว หนีไปอยู่ต่างประเทศเงียบ ๆ ดีกว่า


ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#15 อาวุโสโอเค

อาวุโสโอเค

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,790 posts

ตอบ 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 19:48

 

 

ศอ.รส.เดินตามแนวทางอุกฤษ มงคลนาวิน
 
 

เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2557 ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. มีผลการประชุมสมควรแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบ ดังนี้ 1.ศอ.รส. ได้พิจารณาจดหมายเปิดผนึก 2 ฉบับของศาสตราจารย์ ดร. อุกฤษ มงคลนาวิน ประธานกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ หรือ คอ.นธ. ซึ่งในจดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 1 กล่าวถึงการที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยกรณีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำการอันต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 268(2) และ (3) กรณีโอนย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ซึ่งเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามมาตรา 182 (7) โดยศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษฯ เห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจในการรับคำร้องให้พิจารณากรณีดังกล่าว เนื่องจากนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทั้งคณะได้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรีไปแล้ว เมื่อมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 และการโอนย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ก็เป็นการใช้อำนาจบริหารตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการแผ่นดิน จึงไม่เป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 268 ประกอบมาตรา 266 แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ศาลรัฐธรรมนูญจะรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาวินิจฉัยและมีคำวินิจฉัยว่านายกรัฐมนตรีกระทำการอันต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 268 ก็ไม่มีผลทำให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามมาตรา 182 (7) และไม่มีผลทำให้รัฐมนตรีทั้งคณะพ้นจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 180 วรรคหนึ่ง (1) เนื่องจากการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอื่นๆ นั้น พระมหากษัตริย์ทรงได้มีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง ดังนั้นความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรจะสิ้นสุดลง หรือรัฐมนตรีทั้งคณะจะพ้นจากตำแหน่ง ก็ต่อเมื่อมีพระบรมราชโองการให้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรีแล้วเท่านั้น

ส่วนในจดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 2 ศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษ ได้ให้ความเห็นว่า กระบวนพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม เนื่องจากการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญในปัจจุบันเป็นการใช้ข้อกำหนดที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดขึ้นเองฝ่ายเดียว โดยมิได้ตราขึ้นเป็นกฎหมาย โดยองค์กรฝ่ายนิติบัญญัติซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชนดังเช่นกระบวนพิจารณาของศาลอื่นๆ เช่น ศาลแพ่ง ศาลอาญา และศาลปกครอง ดังนั้น ในเมื่อการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ดำเนินการไปโดยความยุติธรรมตามรัฐธรรมนูญ และตามกฎหมายแล้ว คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญย่อมไม่ถือว่าเป็นเด็ดขาด ไม่มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล และองค์กรอื่นของรัฐ ด้วยเหตุนี้ศาลรัฐธรรมนูญจึงควรที่จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ของตนไว้ก่อนจนกว่าจะได้ดำเนินการให้เป็นไปโดยถูกต้องตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กฎหมาย หรือหลักนิติธรรม

อนึ่ง ศอ.รส. ขอเรียนว่า ความเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับแถลงการณ์ ศอ.รส. ฉบับที่ 1 และแสดงให้เห็นว่าความกังวลของ ศอ.รส. ว่าศาลรัฐธรรมนูญอาจวินิจฉัยเกินกว่ารัฐธรรมนูญนั้น มิได้เป็นการคาดการณ์ที่ไร้มูลความจริง และศอ.รส. มิได้มุ่งหวังที่จะก้าวก่าย ทำลายชื่อเสียงหรือความเชื่อถือศรัทธาของศาลรัฐธรรมนูญตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ในทางกลับกัน หากศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยกรณีนี้อย่างตรงไปตรงมาตามข้อกฎหมายก็จะเป็นการพิสูจน์เองว่าศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์กรที่ธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม และจะได้รับความเชื่อถือศรัทธาจากประชาชน

ที่มา 

http://breakingnews....p?newsid=719182

 

คนอ่านกฏหมายรู้ ดูกฏหมายเป็นยืนยันฮะ ว่าความเห็นคนอยากเสียตัวยามแก่ใช้ได้  -_-


การเมืองไม่ใช่เพื่อกลุ่มใด แต่เพื่อทุกคนในประเทศ

#16 Super@2

Super@2

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,781 posts

ตอบ 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 20:22

วันที่ อังคาร กันยายน 2554

 

 

ถ้าได้รู้จัก ดร. อุกฤษ มงคลนาวิน แล้วจะไม่สงสัย

 

 

จากที่มีการแต่งตั้ง ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน เป็นประธานคณะกรรมการอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่งชาติ  เพื่อให้ทำหน้าที่ในการรื้อ จัดระเบียบใหม่ใน 3 อำนาจอธิปไตยหลักคือรัฐสภา ครม.และศาล รวมทั้งองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ  ซึ่งมีวาระซ่อนเร้นหลักก็คือทำให้ทักษิณกลับบ้านให้ได้อย่างถูกกฎหมาย  เท่านั้นจริง ๆ 
ยิ่งดูจากคนนำเสนอให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้  ก็รู้แล้ว (พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยการกำกับของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี)
แต่สำหรับตัวประธานคณะกรรมการฯ คือ ดร.อุกฤษ มงคลนาวิน นั้น หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก วันนี้ได้อ่านคอลัมภ์สามวา สองศอก พบจดหมายของผู้อ่านท่านหนึ่งที่เขียนมาถึง จึงได้ถึงบางอ้อ ว่าทำไมหลายคนถึงออกมาส่ายหน้า จึงขอนำเสนอให้แก่ชาวโอเคได้รับทราบด้วยค่ะ
 
 เรียน คุณสามวา สองศอก ที่นับถือ

 นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีเหตุการณ์ที่ทำให้ผมต้องเขียนจดหมายฉบับนี้ นั่นคือข่าวนายกฯ แต่งตั้งศาสตราจารย์อุกฤษ มงคลนาวิน (เขียนตามประกาศฉบับจริง) เป็นประธานกรรมการอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่งชาติ เมื่อ 14 ปีที่แล้ว  (ไม่ทราบ คุณสามวา สองศอก มาทำงานที่นี่หรือยัง) ผมได้ร่วมกับ คุณเปลว สีเงิน จัดการ กำจัด ดร.อุกฤษ ออกไปจากวงการเมืองไทยสำเร็จ 
 ที่จริง ดร.อุกฤษ ท่านไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ท่านเป็นประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประธานวุฒิสภา ประธานรัฐสภา แต่ท่านหมายปองตำแหน่งสูงกว่านั้น แต่เผอิญรัฐธรรมนูญ 2540 เป็นอุปสรรค ท่านจึงคิดเข้ามาเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และคาดว่าจะได้เป็นประธานด้วย
 ใน รธน. 2540 กำหนดคุณสมบัติของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไว้หลายข้อ  ในกรณีเป็นข้าราชการต้องเป็นซี 10 ถ้าเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยต้องเป็นศาสตราจารย์ บรรดาลูกศิษย์จึงส่งชื่อท่านเข้าประกวด ในฐานะศาสตราจารย์ทางกฎหมาย
 ทีนี้เผอิญผมไปรู้ข้อมูลซึ่งไม่ใช่ความลับ เพราะพิมพ์เผยแพร่ในจุลสารภายในของจุฬาฯ ราวๆ ปี 2534 ว่าในการพิจารณาตำแหน่งทางวิชาการของอาจารย์กลุ่มหนึ่งนั้น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ผศ.) อุกฤษ ได้ขอเลื่อนเป็นศาสตราจารย์ (ศ.) เลย โดยไม่ขอเป็นรองศาสตราจารย์ (รศ.) ก่อน ซึ่งทำได้ถ้าผลงานวิชาการที่เสนอมานั้นมีคุณภาพสูงมาก 
 แต่ปรากฏว่า "ไม่ผ่าน" มีผลทำให้ได้เลื่อนแค่เป็น รศ. รับเงินเดือนระดับ  9 (ซี 9) หลังจากนั้น รศ.ดร.อุกฤษก็ลาออกจากราชการไปเปิดสำนักงานกฎหมาย แต่ก็ยังมาสอนที่จุฬาฯ ในฐานะอาจารย์พิเศษ
 ต่อมาลูกศิษย์ของท่านซึ่งเป็นเนติบริกร ได้ร่วมร่าง รธน. 2540 ได้ระบุตำแหน่งศาสตราจารย์ เป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่งของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  แล้วได้จัดการให้สภาจุฬาฯ แต่งตั้ง รศ.ดร.อุกฤษเป็น "ศาสตราจารย์พิเศษ"  (เป็นตำแหน่งที่ตั้งบุคคลภายนอกมหาวิทยาลัย ไม่ได้มีฐานะเป็นข้าราชการแล้ว) 
 แต่เจ้าตัวมักไม่เขียนคำว่า "พิเศษ" คนทั่วไปจึงเข้าใจว่าเป็นศาสตราจารย์ธรรมดา (ซึ่งจริงๆ กว่าจะได้เป็นก็แทบกระอักเลือด เพราะต้องมีทั้งงานวิจัยและตำราที่มีคุณภาพชั้นเลิศ) เมื่อ รธน. 2540 มีผลบังคับใช้ ดร.อุกฤษจึงถูกเสนอชื่อเข้าไปเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยอาศัยคุณสมบัติว่าเป็น  "ศาสตราจารย์" 
 ผมจึงเขียนมาบอกคุณเปลวว่า ดร.อุกฤษไม่ได้เป็นศาสตราจารย์ตามนัยแห่ง รธน. 2540 ไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ คุณเปลวก็รับลูกโดยพิมพ์จดหมายของผม เรื่องก็ฮือฮามากมีการตั้งกรรมการพิจารณากันเอิกเกริก  
 ในที่สุดก็เป็นอย่างที่ผมต้องการ คือตีความว่า ดร.อุกฤษนั้นเป็นเพียงอดีตข้าราชการซี 9 ขาดคุณสมบัติ และตำแหน่งศาสตราจารย์พิเศษนั้นก็เป็นการยกย่องในเชิงเกียรติคุณ ไม่ใช่ตำแหน่งทางราชการ (ซึ่งผูกพันกับการขึ้นเงินเดือน)
 หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ดร.อุกฤษก็เงียบหายไปจากแวดวงการเมือง  ผมก็คิดว่าเป็นการจบไปด้วยดี เพราะท่านก็เคยเป็นถึงประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติแล้ว น่าจะพอแล้วกับชีวิตนี้
 14 ปีผ่านไป ศาสตราจารย์พิเศษอุกฤษ มงคลนาวิน ในวัย 76 ปี ได้กลับมารับใช้ระบอบทักษิณอย่างไม่น่าเชื่อ และไม่น่าจะมาเสียคนเอาในบั้นปลายของชีวิตเลยจริงๆ
 แอบกระซิบเบาๆ ว่าจะมีการออกกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษให้ผู้ที่มีโทษเหลือไม่เกิน 2 ปี และอายุตัวเกิน 60 ปี ซึ่งอานิสงส์จะตกไปถึงทักษิณด้วย  ถึงวันนั้น คุณสามวา สองศอก จะไปร่วมตั้งแถวต้อนรับมหาราษฎร์ทักษิณด้วยกันไหมครับ
       ขอแสดงความนับถือ
             ผู้อ่านประจำ
ตอบ คุณผู้อ่านประจำ
 ขอบคุณที่ช่วยฟื้นความหลัง ให้แฟนไทยโพสต์รุ่นใหม่ได้รู้จัก ดร.อุกฤษ  มงคลนาวิน 
   ดิบ เถื่อน ถ่อย

 

โดย แก้วตาดวงใจ

 
 
.................................................................................................................
เมื่อก่อนเคยคิดว่าแกเลิกเล่นการเมืองไปแล้ว ไม่รู้จะกลับมาให้เสียคนตอนแก่ทำไม

พาโล อปริณายโก แปลว่า คนโง่ไม่ควรเป็นผู้นำ

#17 อาวุโสโอเค

อาวุโสโอเค

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,790 posts

ตอบ 22 เมษายน พ.ศ. 2557 - 20:38

อ.คมสันต์ กำลังชำแหละ กรณี ศอรส เอาความเห็น อุกฤษ มาอ้าง  :D


การเมืองไม่ใช่เพื่อกลุ่มใด แต่เพื่อทุกคนในประเทศ

#18 ศรอรชุน

ศรอรชุน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,103 posts

ตอบ 23 เมษายน พ.ศ. 2557 - 09:34

 
 

ศอ.รส.เดินตามแนวทางอุกฤษ มงคลนาวิน
 

 

เมื่อวันที่ 22 เม.ย.2557 ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. มีผลการประชุมสมควรแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบ ดังนี้ 1.ศอ.รส. ได้พิจารณาจดหมายเปิดผนึก 2 ฉบับของศาสตราจารย์ ดร. อุกฤษ มงคลนาวิน ประธานกรรมการอิสระว่าด้วยการส่งเสริมหลักนิติธรรมแห่งชาติ หรือ คอ.นธ. ซึ่งในจดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 1 กล่าวถึงการที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยกรณีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำการอันต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 268(2) และ (3) กรณีโอนย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ซึ่งเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงตามมาตรา 182 (7) โดยศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษฯ เห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจในการรับคำร้องให้พิจารณากรณีดังกล่าว เนื่องจากนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทั้งคณะได้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรีไปแล้ว เมื่อมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2556 และการโอนย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ก็เป็นการใช้อำนาจบริหารตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการแผ่นดิน จึงไม่เป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 268 ประกอบมาตรา 266 แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ศาลรัฐธรรมนูญจะรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณาวินิจฉัยและมีคำวินิจฉัยว่านายกรัฐมนตรีกระทำการอันต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 268 ก็ไม่มีผลทำให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามมาตรา 182 (7) และไม่มีผลทำให้รัฐมนตรีทั้งคณะพ้นจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 180 วรรคหนึ่ง (1) เนื่องจากการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอื่นๆ นั้น พระมหากษัตริย์ทรงได้มีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง ดังนั้นความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรจะสิ้นสุดลง หรือรัฐมนตรีทั้งคณะจะพ้นจากตำแหน่ง ก็ต่อเมื่อมีพระบรมราชโองการให้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรีแล้วเท่านั้น
ส่วนในจดหมายเปิดผนึกฉบับที่ 2 ศาสตราจารย์ ดร.อุกฤษ ได้ให้ความเห็นว่า กระบวนพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม เนื่องจากการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญในปัจจุบันเป็นการใช้ข้อกำหนดที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดขึ้นเองฝ่ายเดียว โดยมิได้ตราขึ้นเป็นกฎหมาย โดยองค์กรฝ่ายนิติบัญญัติซึ่งมาจากการเลือกตั้งของประชาชนดังเช่นกระบวนพิจารณาของศาลอื่นๆ เช่น ศาลแพ่ง ศาลอาญา และศาลปกครอง ดังนั้น ในเมื่อการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ดำเนินการไปโดยความยุติธรรมตามรัฐธรรมนูญ และตามกฎหมายแล้ว คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญย่อมไม่ถือว่าเป็นเด็ดขาด ไม่มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล และองค์กรอื่นของรัฐ ด้วยเหตุนี้ศาลรัฐธรรมนูญจึงควรที่จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ของตนไว้ก่อนจนกว่าจะได้ดำเนินการให้เป็นไปโดยถูกต้องตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กฎหมาย หรือหลักนิติธรรม
อนึ่ง ศอ.รส. ขอเรียนว่า ความเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับแถลงการณ์ ศอ.รส. ฉบับที่ 1 และแสดงให้เห็นว่าความกังวลของ ศอ.รส. ว่าศาลรัฐธรรมนูญอาจวินิจฉัยเกินกว่ารัฐธรรมนูญนั้น มิได้เป็นการคาดการณ์ที่ไร้มูลความจริง และศอ.รส. มิได้มุ่งหวังที่จะก้าวก่าย ทำลายชื่อเสียงหรือความเชื่อถือศรัทธาของศาลรัฐธรรมนูญตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ในทางกลับกัน หากศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยกรณีนี้อย่างตรงไปตรงมาตามข้อกฎหมายก็จะเป็นการพิสูจน์เองว่าศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์กรที่ธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม และจะได้รับความเชื่อถือศรัทธาจากประชาชน
ที่มา 
http://breakingnews....p?newsid=719182
 
คนอ่านกฏหมายรู้ ดูกฏหมายเป็นยืนยันฮะ ว่าความเห็นคนอยากเสียตัวยามแก่ใช้ได้  -_-

รัฐบาลใกล้จมน้ำตายอยู่ ฟางแก่เน่าๆลอยมาเส้นนึง ก็ต้องเกาะไว้ก่อนครับ

ha ha ขรรมส์ ^_^

"ควาย" ในความหมายของผม คือ คนที่มีความคิด เล่นเน็ตเป็น แต่แยกแยะ ดี ชั่ว ถูก ผิด ไม่ได้  

              มิได้หมายถึง ชาวรากหญ้า ที่เป็นเหยื่อในสงครามทางความคิดครั้งนี้

 

"คนชั่ว" จะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา... อยากให้ถึงวรรคท้ายของคำทำนาย ไวๆ ว่ะ...


#19 สมชายสายชม

สมชายสายชม

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,564 posts

ตอบ 23 เมษายน พ.ศ. 2557 - 10:41

ทักษิณมันรักประชาธิปไตยยิ่งชีวิต เกลียดการปฎิวัติรัฐประหาร

แต่มันกลับชอบใช้คนที่เคยก่อการปฏิวัติหรือรับใช้คณะปฏิวัติอย่างนายเฉลิม นายสมัคร และนายอุกฤษ ฯลฯ

 

ภาพจากอินเตอร์เน็ท

meawjod2sq6.jpg


ชาวนา เกษตรกร กรรมกร และประชาชน เป็นเจ้าของประเทศ
แต่ หลงจู๊ ผู้รับเหมา นายทุน และนักการเมือง เป็นเจ้าของโฉนด

 

คนชั่วที่ชอบใช้ประชาธิปไตยเป็นข้ออ้างว่า "มาจากการเลือกตั้ง"

ก็ไม่ต่างกับพระปลอมที่นำ "จีวร" มาห่มเพื่อหลอกชาวบ้าน


#20 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 23 เมษายน พ.ศ. 2557 - 12:13

..... อวชาตบุตร.....

 

 

----------------------------------------------------------------------

เสียแก่ เสียเฒ่า เพราะเข้าซ่อง-----โจรจ้อง จัดจ้าง ล้างสมอง.....



#21 สีนวล...สีนิล

สีนวล...สีนิล

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 387 posts

ตอบ 23 เมษายน พ.ศ. 2557 - 16:24

ผมว่าเวลาสั่งอะไรไร เขาชอบแบบธรรมดาก็ได้นะ เลยตัดคำพิเศษออก

 

เพราะเวลาสั่งแบบพิเศษที่ไร มันแพงกว่าปกติ แต่ของที่ได้มันมันช่างธรรมดา



#22 ลุงเชย

ลุงเชย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 249 posts

ตอบ 23 เมษายน พ.ศ. 2557 - 19:17

ผมเชื่อ นายเหลี่ยมคงโทรมาขอให้นายอุกฤตออกมาพูดช่วยเขาหน่อย  เหมือนที่เขาสลับเอาโภคิน ชัยเกษม ออกมาแทนพวก สส ขี้ข้าไร้ราคาทั้งหลาย (เห็นมะ เขาสั่งได้)    เขาเชื่อ คนหน้าตาดี (ในความคิดเขา) จะชักนำความคิดให้ผิดกลายเป็นถูกจนสังคมเขวได้เหมือนที่เคยใช้ได้ผลตลอดมา  แต่สภาพการณ์ที่ปรากฏตั้งแต่ปลายปีที่แล้วชี้ชัดเลยว่า..คำหลอกลวงทั้งหลายมันคลายมันเสื่อมไปแล้ว...ใครยังขืนรับใช้ต่อไป เตรียมกลายเป็นศพคนเป็นได้เลย



#23 ธีรเดชน้อย

ธีรเดชน้อย

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,659 posts

ตอบ 23 เมษายน พ.ศ. 2557 - 21:00

ผมว่าเวลาสั่งอะไรไร เขาชอบแบบธรรมดาก็ได้นะ เลยตัดคำพิเศษออก

 

เพราะเวลาสั่งแบบพิเศษที่ไร มันแพงกว่าปกติ แต่ของที่ได้มันมันช่างธรรมดา

 

ที่เขาเรียกกันว่า คิดบวก ใช่ไหมครับ  :P  :D


" จุดเริ่มของการรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 หลังจากรัฐบาลเพื่อไทยได้บริหารประเทศล้มเหลวมาตลอด 2 ปีเศษ มีการทุจริตคอรัปชั่นมากมาย มีการนำพรบ.นิรโทษกรรมมาอนุมัติผ่านสภาฯเพื่อช่วยเหลือ น.ช. ทักษิณ ทำให้มวลมหาประชาชนลุกขึ้นประท้วงต่อต้าน แม้จนกระทั่ง ศาลรัฐธรรมนูญและปปช. ได้ตัดสินและชี้มูลความผิดจนต้องพ้นออกจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้ประเทศชาติต้องหยุดนิ่ง สุดท้ายเมื่อ พลเอก ประยุทธ ผบ.ทบ.ได้เรียกทุกฝ่ายเข้ามาคุยเพื่อหาทางออกแล้ว โดยขอให้ ครม.ที่ยังคงเหลือลาออกเพื่อตั้งนายกฯเพื่อการปฎิรูปประเทศ แต่ไร้ซึ่งการตอบสนองและการเสียสละ ทำให้พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา จำเป็นต้องประกาศยึดอำนาจ   "

 

 


#24 lagrangian

lagrangian

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 229 posts

ตอบ 23 เมษายน พ.ศ. 2557 - 21:17

หลักการประชาธิปไตย อำนาจทั้ง 3 ต้องถ่วงดุลกัน

รธน. 50

มาตรา  102   บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

.

.

.

(3) เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามมาตรา 100(1) (2) หรือ (3)

 

 

มาตรา 100  บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ในวันเลือกตั้ง เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง

.

.

.

(3) ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย

 

 

จะเห็นได้ว่า การห้ามบุคคลไม่ให้มีสิทธิเป็นสมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติ ต้องถูกห้ามโดยฝ่ายบริหาร(ยื่นเรื่องให้มีการคุมขัง) และฝ่ายตุลาการ(สั่งให้มีการคุมขัง) ถึงจะเป็นการถ่วงดุลกัน 

 

แต่แนวคิดของดร.อุกฤษกลับขัดแย้งอย่างรุนแรงกับหลักการถ่วงดุล  "เพราะสภาไม่ออกกฎหมาย ศาลรัฐธรรมนูญจึงต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่" นิติบัญญัติสามารถกลั่นแกล้งตุลาการได้เต็มที่เลย



#25 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 23 เมษายน พ.ศ. 2557 - 21:37

อ่านกฎหมายรู้ ดูกฎหมายเป็น.... "เงิบ"

 

คำว่า "ศาสตราจารย์ (พิเศษ)" เขียนแบบนี่้ครับ

 

 

ดร.เฉลิม ดร.อุกฤษ ดร.โภคิน นพดล....

ใครเก่งกฏหมายมากกว่ากัน.......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#26 Rxxxx

Rxxxx

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,486 posts

ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2557 - 12:56

   คุณศรอรชุนไปตั้งกระทู้ในห้องราชดำเนินด้วย :lol: (ไม่เขียนว่าห้องราดดำนา กูเกิ้ลจะได้บันทึกไว้แสดงไว้หน้าต้นๆครับ)

 

      ....ชำแหละศาสตราจารย์กำมะลอ อุกฤษ มงคลนาวิน และจดหมายเปิดผนึกให้ร้ายศาลรัฐธรรมนูญ....

 

     เรื่องภูมิหลังเลอะๆของนายอุกฤษนี้คุณศิริโชค โสภา อธิบายได้ชัดๆ เข้าใจง่ายในรายการสายล่อฟ้า 24 เม.ย.2557 นาทีที่ 16:34 ครับ B)

  

              



#27 storm

storm

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 965 posts

ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2557 - 13:52

ท่านอุกฤษ มงคลนาวิน  ข้อหานี้น่าจะมาฟ้องร้องนะครับ

ทำให้เสื่อมเสียเกียรติยศอันสูงส่งอย่างยิ่งยวด 

เอาเลยครับออกมาตอบโต้เลยผมสนับสนุนเต็มที่ จะได้รู้ความจริงเสียที

ทองแท้ไม่กลัวไฟครับ เอาเลยครับ สู้ๆ เอาให้ติดคุกหัวโตกันไปเลยครับ

:lol:  :lol:  :lol:


ทำไมไม่ขายข้าว?                              ข้าวไม่มีขาย              คำตอบจาก ศรเพขร ศรสุพรรณ  


#28 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2557 - 18:34

..... แนะนำให้  ชวน คำรรวิทย์ ไปฟ้องด้วยนะ..

 

...... ฟ้อง แม่ .....!!!!!!!!!!!!!!!! :D  :P 



#29 Bookmarks

Bookmarks

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 33,617 posts

ตอบ 27 เมษายน พ.ศ. 2557 - 23:20

หลักการประชาธิปไตย อำนาจทั้ง 3 ต้องถ่วงดุลกัน

รธน. 50

มาตรา  102   บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

.

.

.

(3) เป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามมาตรา 100(1) (2) หรือ (3)

 

 

มาตรา 100  บุคคลผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ในวันเลือกตั้ง เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้ง

.

.

.

(3) ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย

 

 

จะเห็นได้ว่า การห้ามบุคคลไม่ให้มีสิทธิเป็นสมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติ ต้องถูกห้ามโดยฝ่ายบริหาร(ยื่นเรื่องให้มีการคุมขัง) และฝ่ายตุลาการ(สั่งให้มีการคุมขัง) ถึงจะเป็นการถ่วงดุลกัน 

 

แต่แนวคิดของดร.อุกฤษกลับขัดแย้งอย่างรุนแรงกับหลักการถ่วงดุล  "เพราะสภาไม่ออกกฎหมาย ศาลรัฐธรรมนูญจึงต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่" นิติบัญญัติสามารถกลั่นแกล้งตุลาการได้เต็มที่เลย

ไอ่อุกฤษ มันเฒ่าเพราะอยู่นานครับ ลองเอาน้ำมูกให้อุกฤษ แล้วบอกว่า เต้าส่วน ผมว่ามันจะกินโดยไม่ลังเลยล่ะครับ






ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน